• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chigaru

#10021


นายยุทธนา มหาวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายขายรถบรรทุกมือสอง บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยถึง การเข้ามาทำตลาดรถบรรทุกมือสองว่า การทำตลาดรถมือสองนับเป็นหนึ่งในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งสแกนเนียได้พยายามที่จะเข้าถึงในทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์ และงานบริการเพื่อความเหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจ และการใช้งานของลูกค้า ให้ลูกค้าสะดวกในการรับบริการครบวงจรในที่เดียว

โดยการเข้ามาในตลาดรถบรรทุกมือสองถือได้ว่าเป็นตลาดกลุ่มที่กำลังเติบโตในประเทศไทย สำหรับการเปิดตลาดรถบรรทุกมือสองในประเทศไทยได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2015 โดยบริษัทแม่ที่สวีเดนได้มองเห็นถึงศักยภาพของตลาดรถบรรทุกในประเทศไทยที่มีความแข็งแกร่ง และยังมีแนวโน้มในการขยายตัวที่ดี โดยในปีนี้มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 20 ถึง 30 คัน แต่ถือว่ามีการเติบโตต่อเนื่อง คิดเป็น 10%  มีมูลค่ายอดขายประมาณ 50 ล้านบาท จากราคารถมือสองของสแกนเนียโดยเฉลี่ย 2 -2.5 ล้านบาทต่อคัน


"จุดเด่นของแผนกรถมือสองสแกนเนียที่แตกต่างจากตลาดรถมือสองทั่วไป คือการตรวจสอบเช็คในทุกส่วนของรถด้วยอุปกรณ์และโปรแกรมเฉพาะของสแกนเนีย โดยช่างของสแกนเนียที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดีตามมาตรฐาน ซึ่งในการตรวจนี้เรามีเช็คลิสต์ตามมาตรฐานของเราอยู่ที่ 111 รายการ ที่จะต้องเช็คให้อยู่ในสภาพใช้การได้ตามมาตรฐาน และเมื่อมีอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนก็จะเป็นอะไหล่สแกนเนียแท้ 100%  

ดังนั้นลูกค้าจึงมั่นใจในตัวของช่างว่าเป็นช่างสแกนเนียที่ซ่อมรถสแกนเนียอยู่แล้ว มีประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ทำธุรกิจในประเทศไทย และในปีนี้ทางสแกนเนียจะมีการเช็คเปลี่ยนถ่ายโปรแกรมชุดใหญ่ (L)  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเกียร์เฟืองท้ายทั้งหมด และทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกครั้งที่เราส่งมอบรถมือสองให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าพร้อมนำรถไปใช้งานอย่างเต็มที่ได้ทันทีหลังรับรถ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเอาไปซ่อมเพิ่ม" 


จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจรถมือสองสแกนเนียเป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ และได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งในปีหน้าจะมีการนำเสนอให้นำเรื่อง "สัญญาการให้บริการ" เข้ามาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น ช่วยลูกค้ารถมือสองให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น 

สำหรับลูกค้าที่สนใจรถสแกนเนียมือสอง สามารถโทรศัพท์สอบถามสแกนเนียมือสองของแท้ได้ที่ คุณยุทธนา 092 223 7544

โดยสแกนเนีย ยังคงมุ่งมั่นเพื่อให้รถของลูกค้าพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพิ่มผลกำไรในธุรกิจขนส่งอย่างสูงสุด เพื่อขับเคลื่อนสู่ระบบขนส่งที่ยั่งยืน "เพราะธุรกิจคุณ สำคัญที่สุด"
#10022


บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ผลิตรถรวมทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ครบ 200,000 คัน หลังจากเปิดไลน์การผลิตมายาวนานกว่า 21 ปี นับเป็นยอดการผลิตที่ก้าวกระโดดขึ้นมาอย่างน่าประทับใจ หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการผลิตรถครบ 100,000 คัน ในปี 2561 หรือภายในเวลาเพียงสามปีที่ผ่านมาเท่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการอย่างต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นทั้งในและนอกประเทศ นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูในจังหวัดระยองยังยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อสูงสุดทั้งสำหรับพนักงานและการดำเนินการภายในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของพนักงาน และสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง

เอริค รูเก้ กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า "แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีความท้าทายหลายประการ แต่เราได้เรียนรู้ที่จะปรับวิธีการทำงานในช่วงเวลาที่ห่วงโซ่อุปทานได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างเช่นนี้ ด้วยการจัดการด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่น พร้อมมาตรการอันรัดกุมเพื่อปกป้องพนักงานและพาร์ทเนอร์ของเรา หมุดหมายการผลิตครบ 200,000 คันนี้ คือสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นของเรา ที่จะส่งมอบรถที่ดีที่สุดสู่ตลาดไทยและตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค"

จากจำนวนการผลิตรถยนต์รวมทั้งหมดของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กว่า 62.7% เป็นรถยนต์ที่ผลิตเพื่อรองรับตลาดในประเทศ ส่วนที่เหลือเป็นรถยนต์ที่ผลิตเพื่อส่งออกสู่ภูมิภาค สำหรับรุ่นรถยนต์ที่ถูกผลิตมากที่สุดเพื่อรองรับตลาดประเทศไทย ประกอบด้วย บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 และบีเอ็มดับเบิลยู X1



นับตั้งแต่เริ่มสายการประกอบ ณ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูที่ระยอง มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด คิดเป็น 15.4% ของจำนวนการประกอบรถสะสมทั้งหมด ในขณะที่อีก 84.6% ของการผลิตเป็นรถยนต์ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั้งนี้ กว่า 70.8% ของจำนวนมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดที่ผลิตโดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ ในขณะที่รุ่นมอเตอร์ไซค์ที่ถูกผลิตมากที่สุดเพื่อรองรับตลาดในประเทศคือ มอเตอร์ไซค์ในรุ่นแอดเวนเจอร์และสปอร์ต

แม้ว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จะยังคงเดินหน้าเติบโตขึ้นอีกขั้น สุขภาพของพนักงานในสายการผลิตก็เป็นสิ่งที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จังหวัดระยอง ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดสำหรับพนักงานและให้การผลิตดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ได้จัดทำมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับพนักงานในโรงงานระยองอย่างเคร่งครัดในทุก ๆ ด้าน ซึ่งรวมถึงการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวดที่ทางเข้าโรงงานก่อนเข้าพื้นที่ โดยสามารถตรวจหาเชื้อด้วยชุด Antigen Test Kit (ATK) ได้เมื่อถูกร้องขอ การจัดหาหน้ากากอนามัย และต้องสวมหน้ากากในทุกพื้นที่ตลอดเวลา โดยต้องเปลี่ยนหน้ากากใหม่ทุกเที่ยงวัน ส่วนบริเวณรับประทานอาหารมีการขยายพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อรองรับการเว้นระยะห่างทางสังคม ในขณะที่อุปกรณ์ในการรับประทานอาหารเป็นประเภทใช้ครั้งเดียวที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อ นอกจากนี้ ยังได้มีการเตรียมพร้อมด้านโรงพยาบาลพาร์ทเนอร์ ในกรณีที่ต้องมีการตรวจเชื้อแบบ RT-PCR หรือจำเป็นต้องมีการรักษาอาการในลำดับถัดไป ทั้งนี้ พนักงานและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่โรงงาน ยังได้รับการฉีดวัคซีนจำนวนสองเข็มตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อปกป้องสุขภาพของพวกเขา โดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มุ่งมั่นดูแลสวัสดิภาพของพนักงาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในที่ทำงานเป็นอย่างยิ่ง



บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้ แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก 

ในปี พ.ศ. 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.3 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 169,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2562 อยู่ที่ 7.118 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 104.210 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 126,016 คนทั่วโลก

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย 



บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล 

ในปี 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,426 คัน โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 11,242 ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มินิมียอดการส่งมอบ 1,184 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 1.7% ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดส่งมอบ 1,224 คัน แม้จะต้องประสบกับสถานการณ์โรคระบาดในปี 2563

ด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมา นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 17 รุ่น ได้แก่ บีเอ็ม ดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็ม ดับเบิลยู X5 และบีเอ็มดับเบิลยู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็ม ดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive 
#10024


วันนี้ (8 ก.ย. 64) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมอบให้ สปสช. เร่งกระจาย ATK (Antigen Test Kit) จำนวน 8.5 ล้านชุด ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อใช้ในการตรวจโควิด-19 โดย สปสช. ขณะนี้ได้เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร สภาเภสัชกรรมเพื่อแจกที่ร้านยา รวมถึงหน่วยงานและแกนนำในชุมชน เพื่อกระจายให้กับประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง 


ทั้งนี้ ในส่วนของการกระจาย ATK ผ่านหน่วยบริการ จากข้อมูลที่รายงานในที่ประชุม สปสช. เพื่อติดตาม ขณะนี้มีหน่วยบริการได้ทยอยส่งข้อมูลความต้องการ ATK มายัง สปสช. แล้ว ล่าสุดอยู่ที่ 1.6 ล้านชุด จากหน่วยบริการ 150 แห่ง และในวันนี้จะมีการส่งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในส่วนของการแจกในชุมชน อย่างไรก็ตามด้วยหลายจังหวัดที่เกิดคลัสเตอร์โควิด-19 ระบาดขึ้นอีก ทำให้มีการขอ ATK เพิ่มเติมเข้ามา ซึ่ง สปสช.จะมีการพิจารณาจัดสรรต่อไป

 

เป๋าตัง เปิดให้ ปชช.กลุ่มเสี่ยงรับ ATK ฟรี ตรวจโควิดด้วยตนเอง 16 ก.ย.นี้


ลงทะเบียนผ่าน 'เป๋าตัง'
 

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ส่วนความพร้อมของแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เพื่อให้ประชาชนลงทะเบียนรับ ชุดตรวจ ATK และคัดกรองประเมินความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 นั้น ต้องขอบคุณธนาคารกรุงไทยที่ร่วมพัฒนาระบบรองรับที่มีความคืบหน้าไปมาก รวมถึงระบบ "ถุงเงิน" ที่รองรับการให้บริการของหน่วยบริการ คลินิกและร้านยา รวมถึงการลงทะเบียนของอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในต่างจังหวัด ที่ลงพื้นที่เพื่อนำส่ง ATK ให้กับประชาชนในชุมชน

 

ทั้งนี้ ทีมพัฒนาระบบของธนาคารกรุงไทย ได้เริ่มวางระบบลงทะเบียนรับ ATK ในแอป "เป๋าตัง" แล้ว และแจ้งว่าจะมีการอัพเดทระบบและเปิดให้ประชาชนเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งประชาชนสามารถเข้าแอปเป๋าตังและคลิกที่ "รับชุดตรวจโควิด-19 ฟรี" เพื่อประเมินว่าเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงหรือไม่ก่อนรับชุดตรวจ ATK
#10025


บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และสถาบันเชนจ์ฟิวชั่น ภายใต้มูลนิธิบูรณชนบทแห่งประเทศไทย สานต่อโครงการ "ส่งเสริมนวัตกรรมช่างชุมชน" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่างชุมชน ให้มีโอกาสนำความคิดสร้างสรรค์ต่อยอดนวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนและสังคม โดยได้คัดเลือกสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมที่เข้ารอบกว่า 10 ผลงาน โดยผลงานที่เข้ารอบจะได้รับเงินทุนสนับสนุนสำหรับการพัฒนาผลงานในเบื้องต้น พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมอบรมแบบ 4 มิติ (ทักษะด้านเทคนิควิศวกรรม, การออกแบบผลิตภัณฑ์, การตลาดและการบริหารจัดการต้นทุนราคา) พร้อมโอกาสในการรับคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เพื่อยกระดับนวัตกรรมและขยายผลสู่ระดับประเทศ

ดร. สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) (ขวา)  และ ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (ซ้าย)
ดร. สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) (ขวา) และ ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (ซ้าย)

ดร. สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนช่างชุมชนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อต่อยอดทั้งในด้านการพัฒนาทักษะโดยเฉพาะในด้านวิศวกรรม รวมทั้งเงินทุนสำหรับพัฒนาผลงานเพื่อให้เกิดคุณค่าต่อชุมชนและสังคม ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้รูปแบบการดำเนินโครงการต้องปรับเป็นรูปแบบออนไลน์ ในปีนี้ ทุกผลงานที่ส่งเข้าประกวดยังคงสะท้อนถึงความสามารถและศักยภาพของคนไทยในการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างเหลือเชื่อ ช.การช่างและพันธมิตรยังคงมุ่งมั่นดำเนินโครงการในปีนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และพร้อมสานต่อโครงการดี ๆ แบบนี้อย่างต่อเนื่องในอนาคต"
ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า "ผลงานที่ส่งเข้าประกวดในปีนี้ล้วนสามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และเปลี่ยนแปลงสังคม ชุมชน ให้ดีขึ้นได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้สภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งทั้ง 10 ผลงานที่เข้ารอบถือเป็นตัวอย่างของการประยุกต์นวัตกรรมให้สอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตได้อย่างชาญฉลาด อีกทั้งยังมีศักยภาพในการพัฒนาเพื่อนำไปใช้งานในบริบทที่กว้างขึ้นได้ ทาง NIA ขอแสดงความยินดีกับผู้เข้ารอบ และชื่นชมช่างชุมชนทุกคนที่ได้ส่งสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมมาร่วมประกวด และหวังว่าการสนับสนุนทั้งเงินทุนและองค์ความรู้จากโครงการ จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้ทุก ๆ ผลงานเกิดการต่อยอดที่สามารถสร้างประโยชน์ให้ต่อเศรษฐกิจและสังคมในระดับประเทศได้"



สำหรับผลงานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกทั้ง 10 ทีม ประกอบด้วย 

•Smart farm IOT นวัตกรรมที่เกษตรกรสร้างเองได้ โดยนายนิรันดร์ สมพงษ์ จ.นครราชสีมา - ระบบฟาร์มอัตโนมัติราคาถูกสำหรับเกษตรกรรายย่อย ด้วยชุดควบคุมการทำงานอัตโนมัติระบบ IOT ที่สามารถสั่งงานจากระยะไกลด้วยมือถือ ช่วยลดแรงงาน ลดต้นทุน พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์สู่เกษตรในชุมชนให้สามารถทำการเกษตรได้ง่ายขึ้น





•กับดักแมลงโซลาร์เซลล์ โดยนายชำนาญ ด้วงสโน จ.นครปฐม - อุปกรณ์ดักจับแมลงช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องฉีดพ่นยาฆ่าแมลงซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สามารถเคลื่อนย้ายไปปักไว้ตามจุดต่าง ๆ ภายในแปลงเกษตรได้ตามความต้องการ อุปกรณ์จะเก็บสะสมพลังงานไฟ้ฟ้าในเวลากลางวันเพื่อเปิดไฟล่อแมลงในเวลากลางคืน และยังเป็นการช่วยลดต้นทุนการกำจัดศัตรูพืชให้กับเกษตรกรอีกด้วย





•เตาเผาถ่านกัมมันต์ โดยนายสมชาย ประกลาง จ.นครราชสีมา - ตัวเตาได้รับการพัฒนาให้สามารถเผาถ่านหรือเผาขยะที่ความร้อนสูงถึงระดับ 1,000 องศาเซลเซียส สร้างขึ้นจากสแตนเลสเกรด 304 ปลอดสนิม ใช้การเผาไหม้สมบูรณ์เก็บกักความร้อนได้ดี ปล่อยควันน้อย ช่วยลดมลพิษในการกำจัดขยะในพื้นที่ห่างไกล และยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรรายย่อย





•ซาเล้งโซลาร์เซลล์ โดยนายวิชัย เข็มทอง จ.ราชบุรี - โซลาร์เซลล์แบบเคลื่อนที่สำหรับใช้ในพื้นที่ทางการเกษตร ไม่ต้องลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์แบบประจำที่หลายชุด ถือเป็นการช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร และยังสามารถแบ่งใช้งานร่วมกันในชุมชนได้





•เครื่องผลิตเทียนอัตโนมัติระดับชุมชน โดยนายสมศรี ภูพันนา จ.เลย - เครื่องจักรในการผลิตเทียนรูปแบบต่าง ๆ สร้างขึ้นจากเศษวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น นำมาดัดแปลงสำหรับการผลิตเทียนในเชิงพาณิชย์ โดยเป็นการสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชนโดยเฉพาะผู้หญิง คนชรา และผู้ด้อยโอกาส ในการผลิตเทียนเพื่อส่งไปจำหน่ายทั่วประเทศ





•เครื่องผลิตบล็อกปูถนนขนาดเล็ก โดยนายเวชสวรรค์ หล้ากาศ จ.เชียงใหม่ - เครื่องผลิตบล็อคปูถนนที่ใช้วิธีการเขย่าแม่พิมพ์เพื่อให้วัสดุอัดแน่นและมีความแข็งแรง โดยนำเศษขยะพลาสติกในชุมชนมาอัดเป็นส่วนผสมการผลิตบล็อค ถือเป็นการลดปริมาณขยะในชุมชน ช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้างทางเท้า ชุมชนสามารถผลิตบล็อกปูถนนเพื่อใช้ได้เอง





•รถเข็นดัดแปลงสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการยากไร้ โดยนายสถิตเทพ สังข์ทอง จ.นครปฐม - รถเข็นดัดแปลงโดยกลุ่มอาสาสมัคร ใช้รถเข็นเก่าจากห้างสรรพสินค้า นำมาซ่อมแซมดัดแปลงและมอบให้กับหน่วยงานต่าง ๆ นำไปแจกจ่ายให้กับผู้สูงอายุ และผู้พิการยากไร้ อีกทั้งลดภาระของผู้ดูแล





•กระเป๋าและเสื้อรีไซเคิลจากป้ายไวนิลเก่า โดยนายณัฐวุฒิ ศรีอาจ จ.ขอนแก่น - สินค้ากระเป๋า, ถุงหิ้ว และเสื้อ ผลิตจากป้ายไวนิลเก่า โดยนำมาตัดเย็บและสานให้มีลวดลายสวยงาม เป็นการลดขยะจากป้ายไวนิลที่ใช้ในการโฆษณาโดยนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านช่างเย็บผ้าในชนบท





•แท่นขุดเจาะบาดาลขนาดเล็ก โดยนายพัฒนพงษ์ ฟองจินา จ.เชียงราย - แท่นเจาะบาดาลขนาดเล็กติดล้อเข็นถอดประกอบขนขึ้นรถกระบะได้ สามารถเจาะบาดาลได้ลึกถึง 30 เมตร ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกรรายย่อยในการขนส่งสามารถนำไปใช้ในการเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่ทางการเกษตรของตนเอง หรือเพิ่มรายได้ด้วยการรับจ้างเจาะบ่อบาดาลขนาดเล็ก





•เครื่องหยอดข้าวขั้นตอนเดียว โดยนายอร่าม อายุวัฒน์ จ.กาฬสินธ์ – เครื่องหว่านข้าวแบบติดตั้งกลไกการตีดิน ซึ่งปกติแล้วทั้งสองกระบวนการนี้จะต้องทำแยกกัน ทำให้ลดเวลาการทำงานลงไปครึ่งหนึ่ง ลดต้นทุนในการจ้างรถไถ หรือน้ำมันเชื้อเพลิง และยังทำให้ได้ปริมาณเมล็ดข้าวเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรรายย่อย

โดยหลังจากนี้ช่างชุมชนทั้ง 10 จะได้ร่วมกระบวนการเรียนรู้ 4 มิติจากผู้เชี่ยวชาญแบบออนไลน์ในช่วงเดือนกันยายน 2564 และช่างชุมชนแต่ละคนจะได้กลับไปพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมของตนเอง ปรับปรุงให้ดีขึ้นทั้งในด้านประสิทธิภาพการทำงาน ความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงการขยายผลผ่านการจัดจำหน่ายในช่องทางต่าง ๆ ก่อนที่จะมีการคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุด และประกาศผลในการมอบรางวัล "สุดยอดนวัตกรรมช่างชุมชน" ต่อไป โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ ของโครงการได้ทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ ช่างชุมชน ช.การช่าง
URL
 29
 
#10026


ปัญหาที่ต้องเผชิญในระบบการเงินดั้งเดิม อาจทำให้ผู้ให้บริการคอนเทนต์วาบหวิวตระหนักว่า คริปโตคือทางออก และส่งผลสะท้อนกลับให้เงินตราดิจิตอลได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น

ดาราหนังโป๊ ผู้ขายบริการ และผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่กำลังจับจ้องการชำระเงินด้วยคริปโต ขณะที่เกิดปัญหามากมายในระบบการเงินดั้งเดิม และสถานการณ์นี้อาจยิ่งส่งเสริมให้การใช้เงินตราดิจิตอลแพร่หลายมากขึ้นและกลายเป็นเครื่องมือชำระเงินกระแสหลักในท้ายที่สุด เหมือนในอดีตที่ผ่านมาที่สื่อลามกเป็นปัจจัยนำไปสู่คอนเซ็ปต์ใหม่ๆ อาทิ ระบบวิดีโอวีเอชเอส การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทางออนไลน์ และแม้แต่อินเทอร์เน็ต

ปัญหาล่าสุดเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนสิงหาคม เมื่อโอนลี่แฟนส์ประกาศห้ามลงรูปหรือคลิปที่มีเนื้อหาอนาจารโจ่งแจ้งบนเว็บไซต์ แต่แค่ไม่กี่วันก็ต้องกลับคำหลังถูกทัวร์ลง

อย่างไรก็ตาม ดรามานี้อาจกระตุ้นการยอมรับคริปโตมากขึ้นเพื่ออนุญาตการจ่ายเงินโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนและไม่ต้องพึ่งระบบการธนาคาร

เอดรีนา วินเทอร์ส นักแสดงอังกฤษและแบรนด์แอมบาสเดอร์ตลาดคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นมิตรต่อคริปโตที่กำลังจะเผยโฉมเร็วๆ นี้ บอกว่า กฎเข้มงวดจากผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินและปัญหาเมื่อเร็วๆ นี้ของโอนลี่แฟนส์ชี้ชัดว่า คริปโตคือทางออก

วินเทอร์สยังบอกอีกว่า คอนเทนต์วาบหวิวมักเป็นปัจจัยนำไปสู่คอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบวิดีโอวีเอชเอส การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทางออนไลน์ และแม้แต่อินเทอร์เน็ต ดังนั้น เธอจึงไม่แปลกใจที่ธุรกิจนี้อาจผลักดันให้คริปโตกลายเป็นเครื่องมือชำระเงินกระแสหลักในท้ายที่สุด

เจฟฟ์ ดิลลอน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาของแนฟตี้ แพลตฟอร์มคริปโตสำหรับอุตสาหกรรมความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ เห็นด้วยว่า ดรามาโอนลีแฟนส์เป็นเครื่องมือการตลาดที่มีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่บริษัทเคยพบมา

เขาสำทับว่า อุตสาหกรรมทางเพศปูทางสำหรับนวัตกรรมออนไลน์มากมาย ซึ่งรวมถึงการยืนยันตัวตนแบบใหม่ที่เรียกว่า instant verification และถ้าผู้ให้บริการระบบประมวลผลการชำระเงินตั้งเงื่อนไขยุ่งยากวุ่นวาย อาจผลักดันให้มีการยอมรับคริปโตมากขึ้น รวมถึงโซลูชันการชำระเงินทางเลือกอื่นๆ

โดมินิก ฟอร์ด ผู้ก่อตั้ง JustFor.Fans คู่แข่งของโอนลี่แฟนส์ที่ยอมรับการชำระเงินด้วยบิตคอยน์ เผยว่า คริปโตเป็นส่วนประกอบเพียงน้อยนิดในธุรกรรมบนแพลตฟอร์มของบริษัทเนื่องจากยุ่งยากซับซ้อน แต่ในอนาคตหากเครื่องมือการโอนเงินรวดเร็วยิ่งขึ้น คริปโตอาจได้รับความนิยมมากขึ้น เขายังบอกว่า คริปโตที่ทำงานบนระบบออนไลน์และเอาชนะอุปสรรคต่างๆ อาจคล้ายกับที่อีเมลถือเป็นวิวัฒนาการของจดหมายแบบเดิม

คัมร็อกเก็ต สตาร์ทอัพที่สร้างเหรียญดิจิตอล "คัมมีส์" สำหรับคอนเทนต์ผู้ใหญ่ ประกาศเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า กำลังเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มคอนเทนต์ของตัวเอง เนื่องจากเล็งเห็นว่า ผู้ทำมาหาเลี้ยงชีพในอุตสาหกรรมทางเพศควรมีโอกาสเข้าร่วมแพลตฟอร์มที่จะไม่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดในการประมวลผลใดๆ

แม้บิตคอยน์และเงินดิจิตอลสกุลอื่นๆ มีความผันผวนสูง แต่ผู้ดำเนินการธุรกิจสื่อลามกบอกว่า สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นด้วยการใช้คริปโตที่ได้มาทันที แทนที่จะจัดเก็บไว้

โอนลี่แฟนส์ไม่ใช่บริการออนไลน์แห่งเดียวที่มีปัญหากับการยอมรับคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่

พอร์นฮับยอมรับการชำระเงินด้วยคริปโตสำหรับบริการระดับพรีเมียม เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้าและตัวเลือกการชำระเงินที่ลูกค้าต้องการ

ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมา วีซ่าและมาสเตอร์การ์ดแบนการชำระเงินของเว็บไซต์หลายแห่งของไมนด์กรีกที่เป็นเจ้าของพอร์นฮับ จากรายงานที่ว่า บริษัทแห่งนี้ยอมให้ผู้ใช้โพสต์ภาพหรือคลิปลับเพื่อประจานและแก้แค้นเป้าหมาย หรือที่เรียกว่า "revenge porn"

นอกจากนั้นเดือนที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า มีภาพลามกอนาจารเด็กบนโอนลี่แฟนส์

ดีออน โกลส์ ผู้สร้างคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ที่อยู่ในอเมริกา บอกว่า คริปโตอาจช่วยเลี่ยงข้อจำกัดในอุตสาหกรรมการธนาคารและดึงดูดลูกค้าที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนด้วยเหตุผลว่า สิ่งที่ตนจ่ายเงินให้นั้นเป็นเรื่องที่เข้าข่ายผิดศีลธรรม

อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมคอนเทนต์วาบหวิวบางรายบอกว่า แม้คริปโตมีข้อดีหลายอย่างแต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่อาจยังไม่พร้อมยอมรับ

โฆษกของ Unlockd แพลตฟอร์มสื่อโซเชียลที่เน้นคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ที่มีฐานอยู่ในอังกฤษ บอกว่า คริปโตและกลไกการชำระเงินทางเลือกอื่นๆ จะยังคงเป็นแค่เครื่องมือชำระเงินสำรอง

กระนั้น ลู เคอร์เนอร์ นักลงทุนในคริปโตและนักวิเคราะห์ของควอนตัม อิโคโนมิกส์ เชื่อว่า อุตสาหกรรมสื่อลามกอาจช่วยนำคริปโตเข้าถึงผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากการเปิดบัญชีธนาคารเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับคนที่ทำงานในวงการนี้ที่ถูกเลือกปฏิบัติมานานแล้ว

เขาทิ้งท้ายว่า การใช้งานที่ง่ายขึ้นจะทำให้คนในอุตสาหกรรมนี้ ตลอดจนถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เผชิญอุปสรรคในการเข้าถึงเงินทุนด้วยวิธีดั้งเดิมยอมรับเทคโนโลยีเงินดิจิตอลมากขึ้น และส่งให้คริปโตกลายเป็นเงินตรากระแสหลักในอีกไม่ช้าไม่นาน
#10027
สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด
#10029


การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยทีมจิตอาสา กฟผ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเทคโนโลยีอัฉริยะซอฟต์แวร์ ArcGIS โดยบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ชูการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันแบบฟอร์ม ArcGIS Survey123 เข้าบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 ที่กำลังรอเตียงในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เพิ่มประสิทธิภาพคัดกรองส่งต่ออย่างเป็นระบบ หนุนภารกิจการบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วย พร้อมส่งต่อรับการรักษาทันท่วงที เสริมทัพจัดการด้วย ArcGIS Dashboard ช่วยบริหารข้อมูลวางแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน เร่งประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานหนุนใช้เทคโนโลยีสู้วิกฤตโควิด-19 หวังเดินหน้าประเทศไทยผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน โดยล่าสุดรวบรวมและส่งต่อผู้ป่วยแล้วกว่า 975 คนทั่วนครนนท์

"กฟผ. พร้อมด้วย ESRI และบริษัท จีไอเอส จำกัด รวมถึงทีมจิตอาสาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังสนุบสนันสำคัญใช้เทคโนโลยีร่วมบริหารจัดการการระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ พร้อมทั้งขอส่งกำลังใจถึงผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ด้วยความร่วมมือร่วมใจที่เกิดขึ้นนี้ย่อมสามารถพาประเทศไทยข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน" แถลงการณ์ระบุ



แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ยังคงพบการติดเชื้อและการระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ และส่งผลให้มีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมากที่แจ้งข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือและรอการส่งต่อการรักษาที่เหมาะสม ทำให้หลายหน่วยงานเร่งประสานความร่วมมือนำเอาสรรพกำลังความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมทั้งดึงเทคโนโลยีด้านต่างๆ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยหนึ่งในพื้นที่สำคัญของการระบาดและเดินหน้ารับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ พื้นที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งทีมจิตอาสาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเอาซอฟต์แวร์ ArcGIS โดย บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือเป็นผู้นำด้าน Location Intelligence การวิเคราะห์ภูมิสารสนเทศในมุมมองใหม่ และมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ArcGIS ในประเทศไทยมากว่า 30 ปี จึงได้นำเอาศักยภาพสำคัญของซอฟแวร์มาใช้ในการจัดทำระบบเก็บข้อมูลและสรุปผลข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 ที่รอเตียงในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อจัดส่งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีในการวางแผนการจัดหาเตียงให้ผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

สำหรับภาพรวมภารกิจจิตอาสาในครั้งนี้ ทีมงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำเอาซอฟต์แวร์ ArcGIS ในฟังก์ชันแบบฟอร์มสำรวจสำเร็จรูป "ArcGIS Survey123" ที่เป็นแอปพลิเคชันพร้อมใช้งานสำหรับสร้างแบบฟอร์มเก็บข้อมูลโดยเฉพาะ มีความสามารถโดดเด่นในการวิเคราะห์ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว โดยทีมจิตอาสาจะทำการสร้างแบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลและระบุตำแหน่งพิกัดที่อยู่อาศัยของผู้ป่วยลงในแผนที่ด้วยระบบ Pinpoint (ผู้ให้บริการข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งใประเทศไทย โดยบริษัท บียอนด์ ซี จำกัด) จากนั้นทีมจิตอาสาจะตรวจสอบและค้นหาพิกัดที่อยู่ของผู้ป่วยเพื่อยืนยันข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำที่สุดในระบบอีกครั้ง ซึ่งแบบฟอร์มสำรวจนี้ยังสามารถแนบรูปภาพหรือเอกสารผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เพื่อใช้ในการรับผู้ป่วยได้รวดเร็วและถูกต้อง ข้อมูลที่ได้จะถูกรายงานเข้าฐานข้อมูลแบบ real-time พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อได้ทันที

นอกจากการบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 และเพื่อให้การติดตามภาพรวมของสถานการณ์มอนิเตอร์สถานะที่เป็นปัจจุบัน โดย ESRI ยังร่วมกับบริษัท จีไอเอส จำกัด นำแพลตฟอร์ม ArcGIS Dashboard สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ทีมงานจิตอาสา กฟผ. ในการรายงานสรุปผลข้อมูลผู้ป่วยที่กำลังรอเตียงในรูปแบบ Interactive dashboard สามารถแสดงรายละเอียดข้อมูลของผู้ป่วยตามประเภทต่างๆ ได้ เช่น ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังอาการเป็นพิเศษ พิกัดตำแหน่งบ้านของผู้ป่วยเพื่อดูการกระจายตัวการระบาดในพื้นที่ควรเฝ้าระวัง ประเภทของที่พัก ตลอดจนวิธีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 และสามารถเลือกกรองข้อมูลตามประเภทที่ต้องการให้แสดงบนแอปพลิเคชันได้ เช่น ต้องการทราบข้อมูลผู้ป่วยในบางพื้นที่ เพื่อให้เห็นสัดส่วนของผู้ป่วยในด้านต่างๆ หรือแสดงรายละเอียดทั้งหมดนี้ได้อย่างสะดวกในแอปพลิเคชันเดียว นอกจากนี้ ในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ป่วย (Data Privacy) เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ข้อมูลของผู้ป่วยที่ส่งเข้าระบบจะถูกเก็บเป็นความลับตามมาตรการที่กำหนด บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยได้

ปัจจุบัน ภารกิจภายใต้ทีมงานจิตอาสา กฟผ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนนทบุรี ได้รวบรวมฐานข้อมูลและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 แล้วจำนวน 975 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ก.ย.2564)
#10030


วันนี้ (8 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย. แฟนเพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ข้อมูลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์" โพสต์ข้อความประกาศ ระบุรายละเอียดว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดโครงการ VACC 2 School นำร่องฉีดวัคซีนบริจาค "ซิโนฟาร์ม" ให้เด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 10-18 ปี ผ่านการเปิดรับสมัครให้ สถานศึกษายื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มให้แก่กลุ่มนักเรียนในสังกัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จำนวน 50,000 ราย เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเตรียมความพร้อมให้นักเรียนก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ เริ่มนัดฉีดให้กับสถานศึกษาที่ได้รับการจัดสรร โดยจะเปิดรับการยื่นขอรับการจัดสรร ในวันที่ 8 กันยายน 64 เวลา 8.08 น. เป็นต้นไป

ข้อกำหนดและข้อมูลของสถานศึกษา
- เป็นสถานศึกษาระดับประถมและมัธยมศึกษาในระบบ พร้อมแนบสำเนาใบอนุญาตจัดตั้งสถานศึกษา
- ที่ตั้งสถานศึกษาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้น
- ข้อมูลผู้บริหารที่มีอำนาจลงนามสูงสุด สำเนาบัตรประชาชนพร้อมลงนามสำเนาถูกต้อง อีเมล และเบอร์โทรศัพท์มือถือ
- ข้อมูลผู้ประสานงาน สำเนาบัตรประชาชนพร้อมลงนามสำเนาถูกต้อง อีเมล และเบอร์โทรศัพท์มือถือ
- ระบุจำนวนนักเรียนที่ต้องการขอรับจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์ม
- จัดเตรียมรายชื่อนักเรียนที่ประสงค์จะเข้ารับวัคซีน (หากได้รับจัดสรรต้องนำรายชื่อเข้าระบบก่อนวันนัดหมายการรับวัคซีน) พร้อมทั้งประสานจัดส่งใบยินยอมการเข้ารับวัคซีนจากผู้ปกครองนักเรียนให้กับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
- กำหนดให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นสถานพยาบาลให้บริการฉีดเท่านั้น โดยนัดฉีดได้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป และเข้ารับวัคซีนได้ที่ ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ บมจ.โทรคมนาคม อาคาร 9 ถ.แจ้งวัฒนะ
- จัดส่งแผนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานศึกษา พร้อมภาพประกอบการดำเนินการ (ถ้ามี)
- จัดส่งประวัติการได้รับวัคซีนและการติดเชื้อโควิด-19 ของบุคลากรและนักเรียนในสถานศึกษา รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของนักเรียนก่อนได้รับวัคซีนแก่ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงาน เพื่อติดตามเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในกลุ่มนักเรียน และบุคลากรในสถานศึกษา ตามระยะเวลา 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน หรือทันทีเมื่อมีผู้ติดเชื้อและรายงานให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทราบ

คุณสมบัติของนักเรียน
- อายุระหว่าง 10-18 ปี
- ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน
- ไม่มีประวัติแพ้วัคซีน หรือส่วนประกอบของสารที่อยู่ในวัคซีน
- ไม่มีประวัติมีโรคประจำตัวก่อนเข้าร่วมโครงการ หากมีโรคประจำตัวต้องแจ้งและมีใบรับรองจากแพทย์ว่าสามารถรับการฉีดวัคซีนได้
- บุตรและผู้ปกครองตามกฎหมายสมัครใจลงนามเข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ
- ผู้ปกครองของเยาวชนเด็กนักเรียนและสถานศึกษาเข้าใจประโยชน์และความเสี่ยงในการรับวัคซีนและเข้าใจว่าวัคซีนนี้ได้รับอนุมัติให้ใช้ในประเทศไทยในภาวะฉุกเฉินเท่านั้น และการใช้ในผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
- ผู้ปกครองของนักเรียนยินดีร่วมมือกับทางสถานศึกษาในการให้ข้อมูลประวัติการได้รับวัคซีน และหรือการติดเชื้อโควิด-19 ของสมาชิกในครอบครัวที่อยู่อาศัยแก่ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อติดตามระมัดระวังการระบาดตามแนวทางเป็นระยะเวลาอย่างต่ำ 12 เดือน
#10032


วันนี้ (6 ก.ย.) ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด19 ในประเทศไทย ว่า ตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19 ในปี 2563 มีการตรวจโควิด19 ไปทั้งหมดกว่า 63 ล้านตัวอย่าง ซึ่งตรวจพบติดเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 13 ล้านตัวอย่าง และยังมีบางส่วนที่ยังไม่ได้รายงานการตรวจเข้าระบบอีกจึงเป็นไปได้ว่าขณะนี้มีการตรวจตัวอย่างไปแล้ว 15 ล้านตัวอย่าง โดยในภาพรวมที่ผ่านพบสายพันธุ์อู่ฮั่น สายพันธุ์ G จากพื้นที่สนามมวย และสายพันธุ์ G (B.1.3.16) ในจ.สมุทรสาคร สายพันธุ์อัลฟ่าที่แพร่กระจายในไทยเป็นหลัก ก่อนที่สายพันธุ์เดลตาจะเข้ามาแทนที่เป็นสายพันธุ์หลักในเดือนพ.ค. จากการพบเคสติดเชื้อที่แคมป์คนงาน ดังนั้นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายอยู่ในประเทศไทย ได้แก่ สายพันธุ์อัลฟ่า, สายพันธุ์เดลตา และสายพันธุ์เบตา

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการตรวจตัวอย่างประมาณ 1,500 คน พบว่าเป็นสายพันธุ์อัลฟ่า 75 คน สายพันธุ์เดลตา 1,417 คน เบตา 31 คน ในภาพรวมประเทศสายพันธุ์หลักที่แพร่กระจายอยู่ยังคงเป็นเดลตา 93% พบในทุกจังหวัดทั้งประเทศไทย ส่วนเบตายังจำกัดวงอยู่แค่ภาคใต้ในเขตสุขภาพที่ 12 ได้แก่ จ.นราธิวาส 28 คน ปัตตานี 2 คน ยะลา 1 คน ส่วนเคสที่พบการติดเชื้อสายพันธุ์นี้อยู่ในกรุงเทพฯและบึงกาฬ รักษาหายเรียบร้อยแล้ว ไม่มีการติดเชื้อเพิ่ม เมื่อแยกเป็นพื้นที่พบว่าในกรุงเทพฯ สายพันธุ์เดลตาแพร่กระจายเกือบ 98% เปรียบได้กับการติดเชื้อ 100 คน พบ 98 คนที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา และสายพันธุ์อัลฟ่าพบประมาณ 2.4% ในส่วนของภูมิภาค พบสายพันธุ์เดลตาประมาณ 85% สายพันธุ์เบต้าที่พบในภาคใต้ 5.7% ทั้งนี้องค์การอนามัยโลก(WHO) ยังมีการจัดชั้นของการกลายพันธุ์โควิด19ได้แก่ ชั้น VOI คือการกลายพันธุ์ที่อยู่ในความสนใจ ส่วนอีกชั้น VOC คือการกลายพันธุ์ที่มีความน่าเป็นห่วงและกังวล มีอยู่ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ อัลฟ่า เดลตา เพราะมีการแพร่กระจายเร็วมาก ไม่ค่อยดื้อวัคซีน ส่วนเบต้า แกรมมา แม้ว่าจะดื้อวัคซีน แต่การแพร่กระจายเชื้อไม่เร็ว

นพ.ศุภกิจกล่าวอีกว่า ในสายพันธุ์ C.1.2 ยังไม่มีการถูกจัดชั้น และยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่น่าจับตาดู เฝ้าระวังเนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ที่ตรวจตัวอย่างเชื้อพบว่าสายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่งที่เคยอยู่ในเดลตา แกรมมา เช่น E484K ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ไวรัสหลบหลีกภูมิคุ้มกันหรือดื้อวัคซีน หรือ N501Y เป็นตัวทำให้ไวรัสมีการแพร่กระจายเร็ว เป็นต้น โดยมีการตรวจพบสายพันธุ์นี้เป็นครั้งแรกและมากสุดในแอฟริกาใต้จำนวน 117 ตัวอย่าง แต่ไม่ต้องตระหนก เพราะยังไม่พบในประเทศไทย และมีเพียง 3% ที่ตรวจเจอในการระบาดที่แอฟริกาใต้

ส่วนสายพันธุ์มิว(Mu) ถูกจัดอยู่ในชั้น VOI ซึ่งในความน่าสนใจ เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง E484K จากแกรมมา เบต้า ทำให้หลีกภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าเดิม N501Y จากอัลฟ่า มีความต่อต้านวัคซีนที่ต่ำอยู่ ยังไม่มีข้อมูลว่าจะแพร่กระจายเชื้อได้เร็วหรือติดเชื้อง่ายหรือไม่ ซึ่งทั่วโลกยังพบน้อยมากเพียง 0.1% ปัจจุบันพบแล้วกว่า 39 ประเทศ พบมากในสหรัฐอเมริกาประมาณ 2,400 ตัวอย่าง เฉลี่ย 37% โคลัมเบีย 965 ตัวอย่าง ซึ่งเป็นประเทศแรกที่รายงานว่าพบสายพันธุ์นี้และพบมากในประเทศถึง 40% ของประชากรโคลัมเบีย โดยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 5 ล้านคน เสียชีวิต 1.2 แสนคน จึงต้องเฝ้าระวังติดตาม และในประเทศอื่นๆ ได้แก่ เม็กซิโก สเปน เอกวาดอร์" นพ.ศุภกิจ ระบุ

นพ.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด19 ที่มีการตรวจตัวอย่างเชื้อสัปดาห์ละ 1,000 คน ที่มีการตรวจเฉพาะด้วย RT-PCR ซึ่งมีการใช้น้ำยาเฉพาะสายพันธุ์ และการตรวจโฮจีโนม โดยสุ่มจากผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ บุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่มีอาการหนักมากขึ้น ในพื้นที่คลัสเตอร์ และกระจายไปส่วนภูมิภาคต่างๆ อาจจะมีการปรับกลุ่มเป้าหมายในการตรวจให้มากกว่าเดิม โดยนับตั้งแต่วันนี้-ธ.ค.64 จะมีการตรวจให้ได้ 10,000 ตัวอย่าง และจะมีการรายงานทุก 2 สัปดาห์ ไปที่ฐานข้อมูลโควิดโลก หรือ GISAID

"ส่วนที่มีการพบเดลตากลายพันธุ์ AY12 ในไทย กำลังมีการพิจารณาในเรื่องของการใส่รหัสสายพันธุ์ให้ถูกต้อง และจะเผยแพร่อีกครั้ง ขอย้ำในเรื่องการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ที่ฉีดไปกว่า 2 ล้านโดส เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน และยังไม่พบผลข้างเคียง นอกเหนือจากผลข้างเคียงของวัคซีนปกติ และหากหลังฉีดพบการเสียชีวิตจะต้องมีการตรวจพิสูจน์ เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน "นพ.ศุภกิจกล่าว
#10034



รวมสุดยอดแบรนด์ "ขนมไหว้พระจันทร์" เพื่อสืบสานประเพณีไหว้พระจันทร์ "วันที่ 21 กันยายน" 2564  หาร้านโปรดที่ใช่..แบรนด์ที่ชอบ มีอาทิ

คาเฟ่ แคนทารี สาขาอยุธยา, บางแสน, เชียงใหม่, โคราช, ภูเก็ต, ปราจีนบุรี, ศรีราชา และระยอง ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น ชวนแบ่งปันความอร่อยจาก ขนมไหว้พระจันทร์ สูตรต้นตำรับสไตล์ "คาเฟ่ แคนทารี" มีหลากหลายไส้ เช่น ทุเรียนหมอนทองไข่แดง, ลูกบัวถั่วแดง เนื้อแป้งบางเนียนนุ่ม ราคาชิ้นละ 110 บาทสุทธิ สอบถาม Call Centre: 1627 หรือเว็บไซต์ www.cafekantary.com

  163093535793

       ขนมไหว้พระจันทร์ คาเฟ่ แคนทารี

163093546467

     ขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับฮ่องกง เชฟแมน

เชฟใหญ่ มาน ไว ยิน แห่งห้องอาหารจีน เชฟแมน  โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ แนะนำ ขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับ จากฮ่องกง เนื้อแป้งบางนุ่มสอดไส้ไข่แดงลูกโต บรรจุในกล่องหรูหราสวยงาม เหมาะแก่การมอบให้ผู้ที่เคารพรัก มีไส้ต่าง ๆ อาทิ ไส้ทุเรียนก้านยาวไข่คู่, ไส้ทุเรียนไข่คู่, ไส้ลูกบัวไข่คู่, ไส้ถั่วแดงไข่คู่ และโหงวยิ้ง ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 230 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ถึงวันที่ 21 กันยายน 2564 สั่งจองโทร.0 2210 8100 ต่อ 7515 เว็บไซต์ www.eastingrandsathorn.com

  163093554242

     ขนมไหว้พระจันทร์ แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์

โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ ชวนช็อป ขนมไหว้พระจันทร์ ต้นตำรับ จับคู่กับชารสเลิศ แพ็คมาในบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนใน "เข่งไม้ไผ่" ดีไซน์เก๋เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งแบบชิ้นเดี่ยวในกล่องกระดาษ ขนาด 170 กรัม ราคาชิ้นละ 158 บาท หรือขนาดชิ้นเล็ก 50 กรัม อร่อยพอดีคำ ราคาชิ้นละ 88 บาท

163093558270

     ขนมไหว้พระจนทร์ในเข่งไม้ไผ่ พร้อมชาอู่หลงมะลิ

หรือเลือกแบบเซตใน เข่งไม้ไผ่ 3 ชั้น ขนมไหว้พระจันทร์ขนาด 170 กรัม 2 ชิ้น พร้อมชาอู่หลงมะลิ ราคา 599 บาทต่อเซต เหมาะสำหรับเป็นของฝากหรือจัดชุดอาฟเตอร์นูนทีที่บ้าน มีหลายไส้ ได้แก่ ไส้ทุเรียนไข่เดี่ยว, เม็ดบัวไข่เดี่ยว, พุทราจีนไข่เดี่ยว, เกาลัด แมคคาเดเมีย, งาดำไข่เดียว, ทุเรียนจันทบุรีเม็ดบัวไข่เดี่ยว, ช็อกโกแลตโรเช่ ฯลฯ พร้อมโปรโมชั่นซื้อ 5 แถม 1 วางจำหน่ายถึงวันที่ 21 กันยายน 2564 สั่งซื้อได้ที่ไลน์ @MarriottSurawongse, โทร.0 2088 5666


163093572726

    ขนมไหว้พระจ้นทร์ เซ็นทาราแกรนด์ฯ ลาดพร้าว

โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ นำเสนอ ขนมไหว้พระจันทร์ 7 รสชาติ เช่น ไส้คัสตาร์ด, ทุเรียนไข่เค็ม, เม็ดบัวไข่เค็ม, โหงวยิ้งไข่เค็ม, ถั่วแดง, พุทราไข่เค็ม และไส้มันม่วงไข่เค็ม ราคาชิ้นละ 128 บาทสุทธิ และ ราคา 988 บาทสุทธิ สำหรับเซต 4 ชิ้น บรรจุในกล่องสีแดงมงคลลายดอกไม้ สามารถเลือกรสชาติได้ตามต้องการ โทร.0 2541 1234, อีเมล:  fb_office@chr.co.th ไลน์ @CentralGrandLadprao (click) และ FB: /CentaraGrandLadpraoBangkok

  163093579494

    ขนมไหว้พระจันทร์ แชงพาเลซ

ห้องอาหารจีน แชงพาเลซ แห่ง โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ออกแบบกล่อง ขนมไหว้พระจันทร์ เป็นรูป "นกฟีนิกซ์" สัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งและฟื้นตัวจากความยากลำบาก ในโทนสีเบอร์กันดี มีหลากหลายไส้ เช่น ไส้โหงวยิ้ง, ทุเรียน, เม็ดบัว, ถั่วแดงพร้อมไข่เค็มเดี่ยวขนาดปกติ อีกทั้งไส้ครีมล้วนขนาดเล็ก และไส้ครีมรังนกเปลือกหิมะขนาดเล็ก  ราคาเริ่มต้นกล่องละ 398 บาท – 2,198 บาทสุทธิ วางจำหน่ายที่โรงแรมฯ และตามห้างสรรพสินค้าชั้น สอบถามสายด่วนโทร.0 2206 8605 และ 0 2236 9952, อีเมล: mooncake.slbk@shangri-la.com  เว็บไซต์ http://shangbkkmooncake.com ตั้งแต่วันนี้ - 23 กันยายน 2564

  163093587353

    ขนมไหว้พระจันทร์ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ

โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ  ร่วมเฉลิมฉลอง เทศกาลไหว้พระจันทร์ ปีนี้ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์โฮมเมดหลากรส ได้แก่ ทุเรียน (ไส้ที่ขายดีที่สุด), เม็ดบัว, โหงวยิ้ง, พุทราผสมวอลนัท, คัสตาร์ด  ราคาชิ้นละ 208 บาท และแบบบรรจุในแพ็คเกจสวยงาม (แบบกล่อง 2 ชิ้น, 4 ชิ้น, 8 ชิ้น) และกล่องหนังดีไซน์พิเศษ จำนวน 8 ชิ้น ราคา 1,888 บาท วางจำหน่ายที่โรงแรมฯ และตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สามารถสั่ง่านแอพฯ Robinhood https://bit.ly/BTTHBK_RobinhoodApp

สามารถแจ้งล่วงหน้า สำหรับการสั่งซื้อแบบพิมพ์ชื่อเฉพาะของบริษัทที่กล่อง (ยกเว้นแบบกล่องบรรจุขนมไหว้พระจันทร์ ขนาดเล็กไส้คัสตาร์ด จำนวน 8 ชิ้น) สอบถามโทร. +66 (0) 2679-1200


    ขนมไหว้พระจันทร์ ซัมเมอร์ พาเลซ

ห้องอาหารจีน ซัมเมอร์ พาเลซ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นำเสนอ ขนมไหว้พระจันทร์ในกล่องของขวัญสวยงาม แบบ 4 ชิ้น และ 8 ชิ้น ราคากล่องละ 988 บาทสุทธิ และ 1,388 บาทสุทธิ แบบ 1 ชิ้น ราคา 180 บาทสุทธิ มี 4 รสชาติ ได้แก่ ทุเรียนไข่เดี่ยว, พุทราจีนไข่เดี่ยว, ลูกบัวไข่เดี่ยว และพิเศษไส้คัสตาร์ดไข่เดี่ยว วางจำหน่ายที่ร้านเดลี่ โซน ช็อปปิ้งอาเขต ตั้งแต่เวลา 8.00 – 19.00 น. โทร. (+66)0 2656 0444, อีเมล: dining.bkkhb@ihg.com, www.bangkok.intercontinental.com


     ขนมไหว้พระจันทร์ Starbucks มี 9 รสชาติ

สตาร์บัคส์ (Starbucks) ร่วมฉลองประเพณีไหว้พระจันทร์ ด้วย ขนมไหว้พระจันทร์ 9 รสชาติ ได้แก่ ไส้กาแฟสตาร์บัคส์, ชาเขียวสตาร์บัคส์และถั่วแดง, ทุเรียนหมอนทอง, ช็อกโกแลตมิ้นท์, โหงวยิ้ง, ชากุหลาบและเบอร์รี่, ไส้อาซาอิมิกซ์เบอร์รี่, บราวน์ชูการ์มิลค์ที และไส้ม็อคค่า บรรจุในกล่องสีน้ำเงินเข้มลายกระต่ายกับพระจันทร์ เลือกได้แบบบรรจุ 2 ชิ้น และ 4 ชิ้น  และเซตพรีเมี่ยม ในกล่องเบนโตะสีเขียวหรือสีขาว และกระเป๋าผ้าพร้อมสายสะพาย ใช้ใส่อาหาร ขนม หรือของว่าง สามารถซื้อผ่านบริการ Starbucks Delivers บนแอพฯ Starbucks Thailand
#10035


นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัท เน็กซเตอร์ เวนเจอร์สจากัด หรือ Nexter Ventures ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าซื้อหุ้น บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG จำนวน 67,328,800 หุ้น คิดเป็น 9.90% ของหุ้นที่ออกและจาหน่ายได้แล้วทั้งหมด ที่ราคา 2.54 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 171ล้านบาท

โดย TEAMG เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจหลักในการให้บริการการปรึกษาด้านวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และการจัดการครบวงจร ในขณะที่ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมุ่งเน้นพัฒนาและส่งมอบโซลูชันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า การลงทุนในครั้งนี้จึงจะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือที่จะสร้างนวัตกรรมโซลูชัน

รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Construction Lottovip  Solution)อาทิ การลดวัสดุเหลือใช้จากงานก่อสร้าง รวมไปถึงการควบคุมงบประมาณ และระยะเวลาการก่อสร้างโครงการลงทุนดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์

โดยมีขนาดของรายการน้อยกว่า 0.02% ของมูลค่าของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCC สิ้น สุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 และเมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการเข้าทำรายการนี้จะเท่ากับ 3.61%

ดังนั้น การรายงานสารสนเทศข้างต้นจึงไม่เข้าข่ายที่จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการได้มาหรือจาหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยมีรายละเอียดการซื้อหุ้นตามแบบ 246-2 ที่แจ้งแก่สานักงานคณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์