• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chigaru

#3421


ทวิตเตอร์ (Twitter) เผยสถิติคนไทยใช้ทวิตเตอร์สู้โควิด-19 ระบุหลายคนสร้างชุมชนแห่งการแบ่งปัน ช่วยเหลือ แชร์ข้อมูลและส่งกำลังใจซึ่งกันและกัน เบื้องต้นพบแฮชแท็กยอดนิยมเกี่ยวกับโควิด-19 ที่ถูกใช้ในประเทศไทยบนทวิตเตอร์ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2020 - 1 สิงหาคม 2021 มีจำนวนทวีตที่เกี่ยวกับโควิด-19 มากกว่า 73 ล้านทวีต

ทวิตเตอร์ออกแถลงการณ์อธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มว่า คนไทยพูดคุยเกี่ยวกับความท้าทายในแต่ละวันของการทำงานและการใช้ชีวิตในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมไปถึงแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ช่วยเหลือผู้อื่น และคอนเน็คกับผู้คนบนทวิตเตอร์ด้วยกันเองไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลกันก็ตาม

"ในช่วงที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม คนไทยหันมาใช้ทวิตเตอร์เพื่อความบันเทิงและไว้พูดคุยกับครอบครัว รวมไปถึงเพื่อนฝูง ตั้งแต่เรื่องของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไปจนถึงการร่วมมือร่วมใจระหว่างชุมชน ทำให้ทวิตเตอร์กลายเป็นสถานที่ที่คนไทยจำนวนมากเลือกที่จะเข้ามาหาข้อมูลที่มีความถูกต้องจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้อย่างทันท่วงที" ทวิตเตอร์ระบุ



ตัวอย่างของบทสนทนายอดนิยมในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีความโดดเด่นบนทวิตเตอร์ในประเทศไทย คือการช่วยเหลือผู้อื่นที่กำลังได้รับความเดือนร้อน โดยทวิตเตอร์อธิบายว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายคนมีความเครียดสูง ทำให้การหาข้อมูลที่ต้องการกลายเป็นเรื่องยาก ทวิตเตอร์ได้กลายเป็นคอมมูนิตี้ของผู้คนในการช่วยเหลือกัน คนไทยมีส่วนสำคัญในการให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่กันและกัน เช่น เบอร์ติดต่อสถานพยาบาล Hospitel รวมไปถึงจุดให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบไดรฟ์ทรู ผ่านการทวีตข้อความและการรีทวีตซึ่งช่วยกระจายข้อมูลข่าวสารและทำให้หลายคนเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นเหล่านี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น

"สถานการณ์ที่ยากลำบากของการแพร่ระบาดทำให้หลายคนต้องตกงาน หลายคนจึงหันมาใช้ทวิตเตอร์สร้างอาชีพเสริม ด้วยการขายอาหาร เบเกอรี่ รวมไปถึงงานคราฟต์และงานศิลปะแฮนด์เมดต่างๆ ด้วยความมีน้ำใจของคนไทยทำให้พวกเขาช่วยเหลือกันด้วยการตั้งแฮชแท็กและสร้างเป็นคอมมูนิตี้เพื่อให้การสนับสนุนสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของผู้คนบนทวิตเตอร์ เช่น #ฝากร้านกันไหมคนไทยช่วยกัน ที่ตั้งขึ้นโดยกลุ่มแฟนคลับ Mewlions ของหนุ่มมิว ศุภศิษฏ์, #ฝากร้านกับโพก้า ตั้งขึ้นโดยกลุ่มแฟนคลับโพก้า ของสองหนุ่มคู่จิ้นนิว ฐิติภูมิ และเต ตะวัน เป็นต้น ซึ่งหลายๆ คนก็ช่วยรีทวีตข้อความของคนที่ขายสินค้าและสำหรับคนที่มีผู้ติดตามจำนวนมากก็ให้ความช่วยเหลือและยังให้กำลังใจผู้ประกอบการรายย่อยหรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กด้วยการทวีตตอบ"



คนไทยยังแชร์ข้อมูลที่เชื่อถือได้บนทวิตเตอร์ ตั้งแต่รายละเอียดการรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) เบอร์ติดต่อของศูนย์ช่วยเหลือและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหลายๆ แห่งที่สามารถช่วยประชาชนหาเตียงว่างเพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ในช่วงที่จำนวนเตียงว่างมีอยู่อย่างจำกัด รวมไปถึงการแชร์ประสบการณ์การรักษาตัวเองอยู่บ้าน นอกจากนั้น "หมอริท" หรือ "ริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช" (@MhorRitz) ผู้สร้างแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือผู้ป่วย จนทำให้ #หมอริทช่วยโควิด กลายเป็นช่องทางที่ได้รับการสนับสนุนจากคนไทยเป็นจำนวนมาก ผ่านการบริจาคสิ่งของที่จำเป็นต่อการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19





จุดนี้ทวิตเตอร์ได้จัดทำช่องทางการให้ข้อมูลในการช่วยเหลือร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทย ได้แก่ #KnowTheFacts ฟีเจอร์บริการแจ้งเตือนเกี่ยวกับโควิด-19 โดยเป็นการพัฒนาภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข (@pr_moph) และศูนย์ข้อมูล Covid-19 (@Covid19Thailand) เพื่อช่วยคนไทยในการค้นหาข้อมูล หรือคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 และนำไปสู่แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือทันที และ Event Page สำหรับอัปเดตสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ที่อัปเดตข้อมูลเรียลไทม์จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่เชื่อถือได้

คนไทยยังใช้ทวิตเตอร์สนับสนุนคนทำงานด่านหน้า ด้วยข้อความขอบคุณคนทำงานด่านหน้าในฐานะฮีโร่ ซึ่งไม่เพียงแค่บุคลากรทางการแพทย์ แต่รวมไปถึงกลุ่มคนที่กำลังทำงานด่านหน้าด้านอื่นๆ ด้วย อย่าง คนเก็บขยะ คนขับรถสาธารณะ คนส่งอาหารเดลิเวอรี่ และอีกหลายสาขาอาชีพ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการเชิญชวนให้ช่วยกันนำบรรจุภัณฑ์เหลือทิ้งไปบริจาค เนื่องจากสามารถนำไปผลิตเป็นชุด PPE ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้.
#3422


นักเรียนชั้น Year 11 - 13 ของโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ (กรุงเทพฯ) สอบได้คะแนนยอดเยี่ยมอีกครั้งในปีนี้ จากผลการสอบ IGCSE พบว่า นักเรียนชั้น Year 11 ได้เกรด A* - A ถึง 56% เป็นอีกหนึ่งปีที่นักเรียนได้เกรด A* กันมากที่สุด และที่ต้องชื่นชมเป็นพิเศษคือนักเรียนที่ได้เกรด A*-A ตั้งแต่ 5 วิชาขึ้นไป มีมากถึง 57% นับเป็นการยืนยันได้ว่านักเรียนของโรงเรียนมีพื้นฐานที่มั่นคงก่อนขึ้นชั้นเรียนไปในระดับ Sixth Form ต่อไป

ความสำเร็จของนักเรียนสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทและการปรับตัวท่ามกลางสถานการณ์สองปีที่ท้าทายได้เป็นอย่างดี ประกอบกับได้รับความสนับสนุนจากคุณครูในช่วงที่เรียนออนไลน์และมีมาตรฐานการประเมินผลที่เข้มงวด จึงทำให้นักเรียนประสบความสำเร็จในผลสอบครั้งนี้และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเช่นกัน
เป้าหมายของโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์คือการส่งเสริมให้นักเรียนทุกคนได้ใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่เพื่อให้เรียนดีและมีผลสอบที่ดี ที่เซนต์สตีเฟ่นส์ ได้มีการเน้นการเรียนรู้แบบเฉพาะด้านของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดการพัฒนาได้อย่างเต็มที่ในความสามารถของเด็กแต่ละคนเพื่อวางแนวทางให้ประสบความสำเร็จทั้งชีวิตในมหาวิทยาลัยและการทำงานต่อไปในอนาคต

นอกเหนือจากผลสอบ IGCSE แล้ว นักเรียน Year 11 บางคนได้เข้าสอบ AS Level Mathematics (ก่อนหนึ่งปี) และในจำนวนนี้ 50% ได้เกรด A

ขอแสดงความยินดีเป็นพิเศษกับนักเรียนที่สร้างผลงานโดดเด่นนี้
Rainna ได้เกรด A* 9 วิชา และ ได้เกรด A ในการสอบ AS Mathematics
Beck ได้เกรด A* 8 วิชา และ ได้เกรด A ในการสอบ AS Mathematics
Jie Hua ได้เกรด A* 8 วิชา, เกรด B 1 วิชา และได้เกรด A ในการสอบ AS Mathematics
Mik ได้เกรด A* 6 วิชา และเกรด A 2 วิชา
Thunny ได้เกรด A* 4 วิชาและเกรด A 5 วิชา
Stephie ได้เกรด A* 3 วิชาและเกรด A 5 วิชา

ผลการสอบ AS Level ของชั้น Year 12
สำหรับผลการสอบ AS Level นักเรียนได้เกรด A (เกรดที่สูงที่สุด) ถึง 52% และนักเรียนชั้นนี้ก็ทำสำเร็จต่อเนื่องจากการสอบ IGCSE ที่โดดเด่นของพวกเขาในปี 2020
ขอแสดงความยินดีเป็นพิเศษกับนักเรียนกลุ่มนี้
Mok ได้เกรด A 4 วิชา
Mook S. ได้เกรด A 4 วิชา
Mickey ได้เกรด A 4 วิชา
Por ได้เกรด A 4 วิชา
Cartoon ได้เกรด A 4 วิชา

ผลการสอบ A Level ของชั้น Year 12
นอกเหนือจากผลสอบ AS Level ที่ดีมาก ๆ แล้ว นักเรียนบางคนในชั้น Year 12 ได้เข้าสอบ A Level Mathematics (ก่อนหนึ่งปี) และทำเกรดได้ A* ถึง 60% และมีผลสอบผ่านทั้งหมด 100% ที่เกรด A*-A ซึ่งเป็นเกรดขั้นสูงสุดของการสอบระดับนี้

ผลการสอบ A Level ของชั้น Year 13
สำหรับผลการสอบ A Level นักเรียนได้เกรด A* 31% และได้เกรด A*-A 56% ผลสอบที่ดีในระดับนี้มาจากการถูกปลูกฝังว่า "เราทุกคนต้องทำได้" และเป็นพื้นฐานของความสำเร็จเพื่อต่อยอดในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป

ขอแสดงความยินดีเป็นพิเศษกับนักเรียนที่สอบได้คะแนนดีนี้คือ
Boss ได้เกรด A* 5 วิชา
Nana ได้เกรด A* 3 วิชาและเกรด A 1 วิชา
Aim ได้เกรด A* 3 วิชา

นักเรียนชั้น Year 13 ทุกคนได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ตนเองเลือกเป็นอันดับแรก ผู้ที่เลือกเรียนต่อในประเทศไทยเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพฯ และสำหรับผู้ที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศ เลือกไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์

Mr. John Rolfe ครูใหญ่กล่าวว่า "ผลสอบนี้ทำให้เห็นว่าโรงเรียนฯ ประสบความสำเร็จทางวิชาการอย่างมากและนักเรียนของเราก็ได้ผลสอบที่ดีอย่างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนทุกคนสามารถบรรลุศักยภาพของตนเอง ไม่ว่าเค้าจะมีจุดเริ่มต้นอย่างไร เซนต์สตีเฟ่นส์ เป็นโรงเรียนที่ไม่ได้คัดเลือกเด็กเข้าเรียนจากการมีผลการเรียนที่โดดเด่น แต่เราให้โอกาสทุกคนแม้กระทั่งนักเรียนที่ต้องเรียนเสริมภาษาอังกฤษในช่วงเริ่มเข้าเรียนและพัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่อง จนส่วนใหญ่ผ่านการสอบ The First Language English ในชั้น Year 11 รวมถึงในวิชาอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน นักเรียนที่สอบ IGCSE AS และ A Level เป็นเด็กที่โตมากับโรงเรียนฯ และเรียนกับเรามาหลายปีแล้ว ส่วนใหญ่เข้ามาเรียนตั้งแต่ระดับ Early Years ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีในความสำเร็จที่พวกเขาทำได้ในปีนี้ นักเรียนที่มีความสามารถโดดเด่นของเซนต์สตีเฟ่นส์กลุ่มนี้ถือว่าถูกจัดอยู่ในกลุ่มนักเรียนที่เรียนดีที่สุดในประเทศและในโลก ส่วนเด็กกลุ่มอื่น ๆ ก็เป็นเด็กที่มีความสามารถที่จะเติบโตและสำเร็จไปกับโรงเรียนฯ ในอนาคตด้วยเช่นกัน"
#3423


นายสุรพงษ์ ปัตถนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด (EMAX) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะตัวแทนคู่สัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการติดตั้งโครงการมิเตอร์อัจฉริยะ หรือสมาร์ทมิเตอร์ในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จำนวน 1.1 แสนครัวเรือน ล่าสุดบริษัทได้ติดตั้งมิเตอร์ใหม่ หรือสมาร์ทมิเตอร์ (Smart Meter) ให้ครัวเรือนต่างๆ ครบตามสัญญาและส่งมอบงานให้ กฟภ.เรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

"โครงการนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.ค.2561 มีมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท "โครงการสมาร์ทมิเตอร์ จะเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์กระแสไฟฟ้าตกหรือไฟฟ้าดับ กฟภ. จะได้รับการแจ้งเตือนจากระบบทันที ไม่ต้องรอให้ผู้ใช้แจ้ง"

นอกจากนี้ สมาร์ทมิเตอร์จะรายงานข้อมูลการใช้ไฟฟ้าเกือบเรียลไทม์ ผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือของผู้ใช้ไฟฟ้า จะทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดขึ้น และยังมีจุดเด่นในเรื่องการรับ - ส่งข้อมูล 2 ทางระหว่าง กฟภ. กับผู้บริโภค ทำให้ได้รายละเอียดการใช้ไฟฟ้าแต่ละครัวเรือนมายังส่วนกลางของกฟภ. ทำให้ กฟภ. มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในการนำไปใช้ปรับปรุงการให้บริการต่อไป รวมถึง ยังช่วยลดปัญหาการลักลอบใช้ไฟฟ้าที่มีจำนวนมาก เพราะสมาร์ทมิเตอร์มีระบบป้องกัน และยังมีหลักฐานที่นำไปใช้ฟ้องร้องการลักลอบใช้ไฟฟ้าในศาลได้

ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นรายแรกที่ติดตั้งระบบ Smart Grid ในไทย โดยบริษัทฯ ร่วมมือกับ บริษัท ไอทรอน (ITRON) พันธมิตรจากประเทศสหรัฐ ซึ่งเบื้องต้นจะมีรายได้จากค่าสมาร์ทมิเตอร์ และซอฟท์แวร์ หลังจากนั้นจะมีค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 3 ปี

ด้านนางสาวชนินทร ธรรมาภรณ์พิลาศ ผู้จัดการโครงการ Smart Grid บริษัทเอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด กล่าวเสริมว่าหลังจากนี้ทางกฟภ.จะนำเสนอระบบ Customer Portal ซึ่งเป็นระบบงานที่สามารถใช้งานผ่านมือถือ

 
#3424


นักเรียนชั้นประถม 1 เดินทางมาถึงโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เมื่อวันจันทร์ (30 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันเริ่มภาคการศึกษาใหม่

ปักกิ่งประกาศในวันจันทร์ (30 ส.ค.) ห้ามการสอบข้อเขียนสำหรับเด็กที่มีอายุแค่ 6-7 ปี ถือเป็นการเดินหน้าแผนปฏิรูปการศึกษาเพื่อลดความกดดันต่อนักเรียนและพ่อแม่ในระบบโรงเรียนที่มีการแข่งขันดุเดือด

ระบบการศึกษาของจีนซึ่งมุ่งเน้นที่ผลสอบ กำหนดให้นักเรียนต้องเข้าสอบตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนปีแรกเป็นต้นไป และต่อยอดไปจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนอายุ 18 ปีที่เรียกกันในภาษาจีนว่า "เกาเข่า" ซึ่งคะแนนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเพียงคะแนนเดียว อาจสามารถกำหนดเส้นทางชีวิตของผู้สอบได้

กระทรวงศึกษาธิการจีนแถลงเมื่อวันจันทร์ (30) ว่า การสอบที่ชุกเกินไปส่งผลให้นักเรียนต้องรับภาระหนักและอยู่ภายใต้ความกดดันมหาศาล และความกดดันต่อเด็กตั้งแต่ยังเล็กเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายของเยาวชน

นอกจากห้ามจัดสอบข้อเขียนในเด็กเล็กวัย 6-7 ขวบแล้ว กฎระเบียบใหม่ยังจำกัดการสอบในชั้นปีอื่นๆ ของการศึกษาภาคบังคับ ไม่ให้เกินภาคการศึกษาละ1 ครั้ง และอนุญาตให้มีการสอบกลางเทอม ตลอดจนการจัดสอบแบบจำลองการสอบจริงสำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

มาตรการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปภาคการศึกษาอย่างครอบคลุมของรัฐบาลจีน ซึ่งรวมถึงการปราบปรามโรงเรียนกวดวิชาที่พ่อแม่มองว่า เป็นวิธีเพิ่มพูนโอกาสทางการศึกษาสำหรับลูก

ทั้งนี้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม จีนสั่งให้บริษัทกวดวิชาของเอกชนทั้งหมดแปลงเป็นองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร และห้ามสถาบันติวเตอร์สอนบทเรียนในวิชาหลักในช่วงสุดสัปดาห์หรือวันหยุด ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจนี้ที่มีมูลค่าถึง 100,000 ล้านดอลลาร์

เป้าหมายของปักกิ่งคือการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งพ่อแม่ชนชั้นกลางบางคนยินดีจ่ายเงินปีละอย่างน้อย 100,000 หยวนเป็นค่าเรียนพิเศษเพื่อให้ลูกสอบเข้าโรงเรียนดีๆ

พ่อแม่บางคนไล่หาที่อยู่ในเขตพื้นที่ของโรงเรียนซึ่งมีชื่อเสียง ส่งผลให้ราคาบ้านย่านนั้นพุ่งขึ้น

คลอเดีย หวัง หุ้นส่วนและผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาเอเชียของบริษัทที่ปรึกษาโอลิเวอร์ วายแมนในสิงคโปร์ ชี้ว่า ไม่มีประเทศไหนอีกแล้วที่มีวัฒนกรรมการติวแข็งแกร่งเท่าจีน

อัตราการขยายตัวของประชากรที่ลดต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษทำให้ทางการจีนยกเลิกนโยบายจำกัดการมีลูกไม่เกินครอบครัวละ 2 คนเมื่อต้นปี นอกจากนั้นรัฐบาลยังต้องการเพิ่มมาตรการจูงใจเพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนมีลูกเพิ่ม

สัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ในปักกิ่งประกาศว่า ครูต้องสลับสับเปลี่ยนไปรับตำแหน่งในโรงเรียนต่างๆ ทุก 6 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกอยู่ในโรงเรียนระดับหัวกะทิบางแห่งเท่านั้น

ในวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ศึกษาธิการยังย้ำเตือนไม่ให้โรงเรียนต่างๆ สร้างห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีพรสวรรค์

ต้นปีนี้กระทรวงศึกษาธิการสั่งห้ามการให้การบ้านแบบข้อเขียนสำหรับนักเรียนเกรด 1 และ 2 รวมทั้งจำกัดการให้การบ้านนักเรียนมัธยมต้น ไม่ให้เกินคืนละ 1.5 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่จำนวนมากยังมองว่า การศึกษาคือเส้นทางไต่เต้าทางสังคม เนื่องจากเกาเข่าเป็นหนึ่งในไม่กี่วิธีที่นักเรียนยากจนในชนบทจะสามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาที่ดีกว่าและโอกาสในการมีงานดีๆ ทำหากได้เข้ามหาวิทยาลัยแถวหน้า

(ที่มา: เอเอฟพี)
#3425
 
 ข้าวกล้องอินทรีย์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ 

 ข้าวอินทรีย์สำหรับแม่ให้นมลูก
'ข้าวอินทรีย์' ดีต่อสุขภาพ  เส้นทางผลิตข้าวอินทรีย์สุรินทร์   การปลูกข้าวอินทรีย์  รูปภาพสำหรับข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวออร์แกนิคแฟร์เทรด )
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ข้าวอินทรีย์สุรินทร์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ข้าวมะลินิลorganic, ปลูกข้าวมะลินิลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ข้าวหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  กลุ่มข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวสุขภาพปะกาอำปึล, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวผกาอำปึลปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ปลูกข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงorganic, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  ข้าวหอมมะลิออแกนิค
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิorganic
3.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิก   ข้าวกล้องผกาอำปึลอินทรีย์(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวหอมมะลิผสมหลายสายพันธุ์อินทรีย์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ 6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์
7.  ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิคสำหรับทารก  ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 
 
#3426


ศุภาลัย สบช่องตลาดอสังหาฯขอนแก่นโตสวนกระแสโควิด-19 เร่งเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว "ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ 2" รองรับดีมานด์มีความต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคา2.4 –5.5ล้านบาท

นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ผ่านมา แต่ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดขอนแก่น ยังคงเติบโต เป็นผลมาจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มเรียลดีมานด์ บริษัทจึงได้เปิดตัวโครงการ "ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ 2" ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวผสานกลิ่นอายรีสอร์ท ร่มรื่นด้วยธรรมชาติริมแม่น้ำชี ตอบโจทย์นิยามการพักผ่อน

โครงการ "ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ 2" ตั้งอยู่บนพื้นที่ 13 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น พร้อมเข้าอยู่ในบรรยากาศรีสอร์ท ล้อมด้วยธรรมชาติท่ามกลางแมกไม้ริมแม่น้ำชี ขนาดตั้งแต่ 50-93.7 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.4 – 5.5 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 117-233 ตารางเมตร จำนวน 61 ยูนิต มูลค่าโครงการ 205 ล้านบาท ล่าสุดได้จัดโปรโมชั่นรับหน้าฝน "ศุภาลัยให้เต็ม 10" จัดเต็มของแถม 10 รายการ ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า 6 รายการ ได้แก่ ตู้เย็น 2 ประตู Smart TV เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน 4 รายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ค่ามิเตอร์ไฟและค่ามิเตอร์น้ำ ไร้กังวล! ด้วยเงื่อนไขกู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ และจองตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย. 2564
#3427


โพล เอสปาร์กาโร่ นักบิดจอมฝีมือของ เรปโซล ฮอนด้า คัมแบ็กตำแหน่งกริดสตาร์ทแถวหน้าสุดครั้งแรกในรอบปี หลังทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในด่านควอลิฟายของศึก บริติช กรังด์ ปรีซ์ ที่อังกฤษ

ศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนามที่ 12 ของปี รายการ บริติช กรังด์ ปรีซ์ ณ สนาม ซิลเวอร์สโตน อังกฤษ โดยวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา เป็นรอบควอลิฟาย จัดกริดสตาร์ทให้นักแข่งก่อนชิงชนะเลิศวันถัดไป

ปรากฏว่า โพล เอสปาร์กาโร่ จอมบิดวัย 30 ปีของ เรปโซล ฮอนด้า ได้ออกสตาร์ทคันแรกสุดหลังทำความเร็วต่อรอบไว้ที่ 1 นาที 58.889 วินาที ส่งให้เจ้าตัวได้ครอง โพล โพซิชัน ครั้งแรกนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ทำได้คือศึกยูโรเปียน กรังด์ ปรีซ์ ที่สเปน เมื่อปีก่อน

ขณะที่กริดที่ 2 สตาร์ทโดย ฟรานเชสโก้ บานาญ่า นักบิดเลือดอิตาเลียนของทีมดูคาติ ด้านกริดที่ 3 คือ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ มือ 1 แห่ง มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ส่วน มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า ได้กริดที่ 5 มีลุ้นแซงขึ้นโพเดียมในวันชิง

สำหรับรอบชิงชนะเลิศ โมโตจีพี รายการ บริติช กรังด์ ปรีซ์ จะชิงชัยกันในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ แข่งเวลา 19.00น. ของเมืองไทย
#3428


ยาหมาป่าแดง ของแท้ เม็ดสีแดงเข้ม สุดยอดไวอากร้า ส่งฟรี เก็บเงินปลายทาง ผลิตมาจากยาตัวเดียวกันกับ viagra บวกกับส่วนผสมของสมุนไพรจีนซึ่งเป็นสูตรลับของชาวจีนมาอย่างยาวนาน ออกฤทธิ์ภายใน 15 นาที อึด ถึง ทน ชัวร์ ต่อรอบได้เร็ว เราจำหน่ายเฉพาะของแท้เท่านั้น การันตี คืนเงิน 100%

ยาหมาป่าแดง ราคา
1 แผงมี 6 เม็ด
1 แผง ราคา แผงละ 200 บาท
2 แผง ราคา 380 บาท (แผงละ 190 บาท)
4 แผง ราคา 720 บาท (แผงละ 180 บาท)
10 แผง ราคา  1500 บาท (แผงละ 150 บาท)
20 แผง ราคา  2800 บาท (แผงละ 140 บาท)
40 แผง ราคา  4800 บาท (แผงละ 120 บาท)
 

สมุนไพรหมาป่าแดง ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศชาย และ บำรุงไตชะลอการหลั่งดีมาก สามารถเพิ่มในการมีเพศสัมพันธุ์ 2-5 รอบ ด้วยการทำงานของยา 1 เม็ด เท่านั้น !!!

หมาป่าแดง แข็งไวอึดทน 6 เม็ด
หมาป่าแดง ไวอากร้า RED WOLF หนึ่งแผงบรรจุ 6 เม็ด สมุนไพร หมาป่าแดง ผลิตจากตัวยา SILDENAFIL CITRATE อย่างเข้มข้นเป็นยาเม็ดสีแดง ขนาด 800 mg. เป็นสูตรลับเฉพาะ ของชาวจีนมาอย่างยาวนาน และยังไม่รับความนิยม อย่างต่อเนื่อง หมาป่าแดง ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศให้กับท่านชาย เพิ่มความแข็งแกร่งถึงขีดสุดผลิตจากตัวยา SILDENAFIL CITRATE (ซิลเด็นนาฟิล ไซเตรจ) เป็นยาตัวเดียวกันกับของบริษัท Pfizer ที่ผลิตไวอากร้าอันโด่งดังช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศให้กับฝ่ายชายบำรุงไตชะลอการหลั่ง ดีเยี่ยม ในราคาประหยัดแต่คุณภาพคุ้มค่าเกินราคาลูกค้าสั่งต่อเนื่องเพราะหมาป่าแดง(หมาแดง) ฤทธิ์แรงดีจริงๆค่ะ

วิธีรับประทาน ไวอากร้าหมาป่าแดง
กินก่อนหรือหลังอาการก็ได้ 1 เม็ดตัวยาออกฤทธิ์ภายใน 15 นาที
แต่ถ้าอยากให้เห็นผลต้องเคี้ยวให้ละเอียดจากนั้นก็ดื่มน้ำตามเข้าไป
ตัวยาหากทำให้เป็นผงจะออกฤทธ์ได้ภายใน 10 นาที
สามารถเพิ่มในการมีเพศสัมพันธุ์ 2-5 รอบ ด้วยยา 1 เม็ด เท่านั้น!!!
ข้อควรรู้
ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ควรงดเว้น
ผู้ที่มีอัตราการเต้นหัวใจผิดปกติ ไม่สามารถควมคุมได้ ควรงดเว้น
ห้ามรับประทาน ร่วมกับยาอื่นที่มีส่วนประกอบ Nitrate เช่นยาขยายหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น
ไม่แนะนำในเด็กและสตรี ตลอดจนห้ามให้กับผู้ป่วยที่แพ้ยานี้
ห้ามใช้ยานี้ ร่วมกับ nitric oxide doners หรือยาไนเตรทรูปแบบอื่นๆ
หมาป่าแดงของแท้
สีของเม็ดยาต้องแดงเข้ม ไม่อ่อน ไม่จืด
เม็ดยาต้องสีเดียวกัน เท่ากันหมดทั้งเม็ด
ขนาดของเม็ดยา จะเล็กกว่าแผงที่บรรจุเล็กน้อย
ผิวของเม็ดยา จะต้องเรียบเนียน
ด้านหลัง พิมพ์ตรา หมาป่าแดง ลายเส้นในการพิมพ์ต้องเข้มชัดเจน เส้นไม่บาง ไม่ขาดตอน

Tags :: ยาหมาป่าแดง,ยาหมาป่าแดงเก็บเงินปลายทาง,หมาป่าแดง,หมาป่าแดงเก็บเงินปลายทาง
#3429


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาคเอกชน เดินหน้าช่วย เกษตรกรไทย ลดผลกระทบจากวิกฤต การแพร่ระบาดของ COVID-19 ภายใต้โครงการเกษตรกรแฮปปี้ ด้วยการรับขนส่งผลไม้ผ่านบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทย ในอัตราค่าบริการพิเศษ และเปิดพื้นที่ขายผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าขนส่งและเพิ่มช่องทางการขายให้เกษตรกร

โดยสามารถจำหน่ายได้ทั้งช่องทางออนไลน์เว็บไซต์ thailandpostmart.com และที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงให้สิทธิ์เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ฝากส่งผลไม้ 5 ประเภท ได้แก่ มังคุด เงาะ ลำไย ลองกอง และทุเรียน ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่มีการ แพร่ระบาดของ COVID-19 ไปรษณีย์ไทยได้เดินหน้าผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน ในการช่วยบรรเทาผลกระทบแก่เกษตรกรไทยด้วยการลกต้นทุนค่าขนส่งให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ต้องการระบายผลผลิตให้ทันตามฤดูกาลมาอย่างต่อเนื่อง


โดยได้จัดตั้งโครงการ เกษตรกรแฮปปี้ เปิดช่องทางให้เกษตรกรสามารถนำผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ มังคุด ลำไย และ เงาะโรงเรียน มาจำหน่ายผ่าน เว็บไซต์ thailandpostmart.com และที่ทำการไปรษณีย์ ในราคาพิเศษ รวมถึงลดค่าบริการส่งด่วนทั่วไทย (EMS) สูงถึง 20% ในช่วงเทศกาลผลไม้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 และปรับอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายในราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 3 กิโลกรัมแรก เพียง 50 บาท ส่งได้สูงสุดถึง 20 กิโลกรัม เพื่อช่วยเกษตรกรและประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง

นายดนันท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังได้เดินหน้าโครงการบริหารจัดการผลไม้ปี 2564 ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ฝากส่งผลไม้ 5 ประเภท ได้แก่ มังคุด เงาะ ลำไย ลองกอง และทุเรียน ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม ซึ่งในช่วงฤดูกาลจำหน่ายลำไยที่กำลังจะมาถึงนี้ ไปรษณีย์ไทยเปิดให้บริการรับฝากผลไม้ผ่านการหุ้มห่อและใส่บรรจุภัณฑ์ได้ตามปกติ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ได้ทั้งแบบกล่องและตะกร้าตามที่ไปรษณีย์ไทยวางจำหน่าย และจัดส่งได้ที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศจนถึงสิ้นปี 2564


ในการก้าวสู่ปีที่ 19 ขององค์กร ไปรษณีย์ไทยยังคงยึดมั่นและเป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรไทยได้ฝ่าวิกฤต COVID-19 อย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งจะเดินหน้าสนับสนุนภาครัฐและเอกชนในการเข้าถึงความช่วยเหลือในทุกภารกิจสำคัญ โดยเฉพาะภาคสังคมและสาธารณสุข อย่างเช่น โครงการ "ส่งความห่วยใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19" ที่ช่วยขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับบุคลากรด่านหน้าเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เพื่อส่งพลังความห่วงใยและเคียงข้างคนไทยให้ผ่านสถานการณ์วิกฤต COVID-19 นี้ ไปด้วยกัน นายดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย
#3430


ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของประชาชนในช่วงก่อนหน้านี้ มีการกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นที่ต้องประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ ป้องกันการแพร่ระบาด ส่งผลให้ประชาชนลำบากในการใช้ชีวิต บริษัท ห้างร้าน โรงงาน ต้องปิดกิจการ คนงานตกงานขาดรายได้

แต่ ณ เวลานี้ ตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดูจะมีแนวโน้มลดลง ซึ่งมาจากการที่ประชาชนมีโอกาสได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้กับภาคการลงทุนมากขึ้น

โดยในมุมมองตัวแทนภาคอุตสาหกรรม "นายสุพันธุ์ มงคลสุธี" ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การะบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ กำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤติและส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วนของประเทศ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมเกิดการติดเชื้อในโรงงานเป็นจำนวนมากเช่นกัน สภาอุตสาหกรรมฯ ในฐานะองค์กรหลักภาคเอกชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ ได้จัดทำ "มาตรการควบคุมโควิดในภาคอุตสาหกรรม" เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและอาการรุนแรง พร้อมรักษากำลังการผลิตให้มากที่สุด ซึ่งโรงงานที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง จะไม่ถูกปิด หากยังสามารถดำเนินการต่อได้โดยไม่แพร่กระจายเชื้อสู่ภายนอก ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ติดโควิดไม่ต้องปิดโรงงาน" แบ่งออกเป็น 4 ข้อดังนี้

1.มาตรการ Bubble and Seal สำหรับภาคอุตสาหกรรมต้องมีความชัดเจน สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและเป็นไปในแนวทางเดียวกันทุกพื้นที่ โดยให้สุ่มตรวจหาผู้ติดเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK สม่ำเสมอ 10% ของจำนวนพนักงานทุก 14 วัน โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย และให้พนักงานผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำสามารถกลับเข้ามาทำงานใน Bubble ในโรงงานตามปกติ

2.สถานประกอบการที่มีพนักงาน 300 คนขึ้นไป เสนอให้กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้ง Factory Quarantine และ Factory Accommodation Isolation โดยให้มีจำนวนเตียงๆไม่น้อยกว่า 5% ของจำนวนพนักงาน และเสนอให้กระทรวงแรงงานจัดตั้งโรงพยาบาลแม่ข่ายในแต่ละพื้นที่ประกันสังคม เพื่อให้บริการโรงงานในพื้นที่ ณ จุดเดียว ตั้งแต่การตรวจหาเชื้อไปจนถึงส่งต่อผู้ป่วยเข้าไปในระบบการรักษา เพื่อลดขั้นตอนในการหาโรงพยาบาล

3.สำหรับสถานประกอบการที่มีพนักงานต่ำกว่า 300 คน ขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมจัดตั้ง Community Quarantine (CQ), Community Isolation (CI) (ศูนย์พักคอยและแยกกักตัว) ให้เพียงพอกับแรงงาน โดยให้มีจำนวนเตียงไม่น้อยกว่า 5% ของจำนวนพนักงานในพื้นที่

4.จัดสรรวัคซีนตามเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต โดยจัดสรรตามลำดับความสำคัญทางสาธารณสุข การป้องกันโรค และเศรษฐกิจใน 3 กลุ่มคือ กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อายุ 40-59 ปี กลุ่มพนักงานในสถานประกอบการที่มีติดเชื้อมากกว่า 50% จนต้องปิดกิจการ และกลุ่มพนักงานในอุตสาหกรรมสำคัญยิ่งยวด

ขณะที่มุมมองของ "รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ" อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง นำเสนอแง่คิดที่น่าสนใจว่า รัฐบาลควรเดินหน้าคลายล็อกดาวน์ในทุกพื้นที่ในบางกิจกรรม หากตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่ำกว่าผู้ได้รับการรักษาหายป่วยมากพอ และสามารถทำให้ผู้ป่วยที่ต้องรักษาในระบบสาธารณสุขลดลงมาเหลือต่ำกว่า 100,000 ราย จากปัจจุบันอยู่ที่ 200,339 ราย

ระบบสาธารณสุข ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ควรต้องจัดการความเสี่ยงด้านอุปทานเพิ่มขึ้นโดยจัดสรรงบประมาณให้โรงพยาบาลของรัฐตามความเสี่ยงของประชากรที่ขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลต่างๆ นั่นคือ ผู้ให้บริการในพื้นที่เสี่ยงสูง และต้องดูแลประชากรที่มีความเสี่ยงสูงควรจะเหมาจ่ายต่อหัวสูงกว่าผู้ให้บริการ หรือโรงพยาบาลที่ดูแลประชากรที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า ,ไม่ควรกำหนดการเหมาจ่ายแบบคงที่ทั่วทั้งประเทศ โดยงบประมาณต้องจัดสรรไปตามภาระและแผนงานกิจกรรมที่ต้องทำ และไม่ควรรวมศูนย์การตัดสินใจเพราะจะทำให้แก้ปัญหาล่าช้า และไม่ทันการ

อย่างไรก็ตามหากมีความจำเป็นต้องขยายล็อกดาวน์ เพราะตัวเลขติดเชื้อไม่ลดลง และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจต้องล็อกดาวน์ไปอีกอย่างน้อยจนถึงปลายปี ในขณะที่ประชาชนยังรอฉีดวัคซีนกันอยู่ รัฐบาลต้องเตรียมงบประมาณจ่ายเยียวยาให้ภาคธุรกิจ และประชาชนเพิ่มเติม หากต้องขยายล็อกดาวน์ และควรประกาศล่วงหน้า และเยียวยาทันทีก่อนสั่งปิดพื้นที่ หรือกิจกรรมเพื่อไม่ให้ความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจรุนแรงไปกว่าระดับวิกฤติในขณะนี้ และควรเตรียมเงินงบประมาณไม่ต่ำกว่าอีก 300,000 ล้านบาท หากต้องล็อกดาวน์ถึงปลายปี

การรับฟังข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เป็นเรื่องที่ไม่เสียหายอะไร!!!
#3431
ขายที่ดินแปลงใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ต 219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล

ขายที่ดินแปลงใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ต  219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล เหมาะสำหรับสร้างบ้านพัก,หอพัก,โฮมเสตย์,
ขายที่ดินใกล้ทะเลภูเก็ต 219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล เหมาะสำหรับสร้างบ้านพัก,หอพัก,โฮมเสตย์, ร้านหอาหาร, คาเฟ่,อพาร์ทเม้นท์,ห้องพัก, ตึกแถว ขายถูกกว่าใกล้เคียง 3,590,000 บาท
 ขายที่ดินซอยท่าหลาป่าคลอกภูเก็ต   เนื้อที่ 219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล อ.ป่าคลอก จ.ภูเก็ต ที่ดินด้านหน้าติดถนน ด้านข้างมีทางสาธารณะ ห่างชายทะเล แค่ 400 เมตร ปากซอยมี7-11 ถนน 4เลนเตรียมตัดผ่านหน้าซอย เหมาะสำหรับสร้างบ้า
นพัก,คาเฟ่,ห้องพัก ตึกแถว

สนใจที่ดินใกล้ทะเลภูเก็ต
สอบถาม ได้ที่ คุณ ศุภโชค 085-8206618
Id line: suppachok18 เจ้าของขายเอง ราคาพิเศษ 3,590,000 บาท


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.banforum.com/?p=14676


คำค้น
ขายที่ดินแปลงใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ต, ขายที่ดินซอยท่าหลาป่าคลอกภูเก็ต, ขายที่ดินใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ตเหมาะสำหรับสร้างบ้านพักหอพัก, ขายที่ดินใกล้ทะเลภูเก็ต
#3432


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งเบาะแสและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า มีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ลงทุนกับ StorageCity Platform ใน StorageCity DotLive และ StorageCity DotFund ผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์บริษัท เฟซบุ๊ก ยูทูป และไลน์ โดยระบุว่า StorageCity DotLive ให้บริการให้เช่าพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล โดยใช้เทคโนโลยี Cloud และ StorageCity DotFund จะให้บริการตัวกลางด้านคราวด์ฟันดิง รวมทั้งอ้างว่าอยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อขอรับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. นอกจากนี้ ยังมีการจัดสัมมนาหลายครั้งเพื่อชักชวนประชาชน

ก.ล.ต. ขอแจ้งว่า StorageCity Platform ไม่ได้เป็นผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต จึงไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และไม่ได้อยู่ระหว่างยื่นขอความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ลงทุนระมัดระวัง หากถูกชักชวนให้ลงทุน

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลหรือผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ทางเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th ในหัวข้อ Investor Alert รวมทั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาต ได้ในหัวข้อ สินทรัพย์ดิจิทัล หรือทางแอปพลิเคชัน SEC Check First หากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดติดต่อได้ที่ "ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต." โทร. 1207 เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป

 ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลหรือผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ทางเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th ในหัวข้อ Investor Alert รวมทั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาต ได้ในหัวข้อ สินทรัพย์ดิจิทัล หรือทางแอปพลิเคชัน SEC Check First หากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดติดต่อได้ที่ "ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต." โทร. 1207 เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป 

ในกรณีที่ ก.ล.ต. ตรวจพบว่ามีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 หรือ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ผู้กระทำผิดอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต. มีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
#3433
ทราบหรือไม่ว่า รถพยาบาล นอกเหนือจากที่จะเป็นรถรับส่งผู้เจ็บป่วยกรณีฉุกเฉินเพื่อให้ผู้ป่วยไปถึงมือแพทย์อย่างเร็วที่สุด ตามที่คนจำนวนมากคุ้นเคยรวมทั้งรู้จักบริการนี้กันมากที่สุดแล้ว ยังมีบริการเคลื่อนย้ายผู้เจ็บป่วยติดเตียง ให้เดินทางไปเจอแพทย์ตามโรงพยาบาลต่างๆหรือจะโยกย้ายคนไข้เพื่อให้ไปทำธุรกรรม หรือร่วมกิจกรรมต่างๆกับครอบครัว อย่างเช่น ร่วมงานบุญ งานบวช งานมงคลสมรส รถพยาบาลเอกชนก็สามารถให้บริการได้ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายด้านการเดินทางให้กับทั้งตัวคนป่วยติดเตียงและก็ญาติของคนป่วยเหล่านั้น และก็นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆนอกเหนือจากการรับส่งคนไข้ ที่รถพยาบาลพร้อมให้บริการอีกมากมาย





ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวไปสามารถเรียกใช้บริการจาก รถพยาบาลเอกชน TG 2 Ambulance Service ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเรียกใช้งานได้จากทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ทั้งยังการเคลื่อนย้ายคนป่วยเร่งด่วน ผู้ป่วยตรวจตามหมอนัดหมาย รถรับส่งผู้ป่วยกลับบ้านพัก ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล หรือกลับภูมิลำเนาที่ต่างจังหวัด คนไข้ย้ายโรงพยาบาล ส่งรักษาต่อตามสิทธิ์ และก็คนป่วยไปทำธุรกรรมต่างๆอาทิเช่น ไปธนาคาร ติดต่องานราชการ รวมทั้งไปร่วมงานบุญต่างๆ โดยทีมพยาบาลของ TG 2 Ambulance Service นั้นสามารถเชื่อมั่นรวมทั้งวางใจได้ เพราะพร้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมเวชกิจฉุกเฉิน มีความเชี่ยวชาญสำหรับในการดูแลคนเจ็บ แล้วก็เปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์การทำงาน รวมถึงมีความพร้อมในเรื่องของออกซิเจน ชุดปฐมพยาบาล เครื่องมือยกเคลื่อนย้ายคนเจ็บที่ทันสมัย นอกเหนือจากอุปกรณ์จะทันสมัยแล้ว รถพยาบาลก็ทันสมัยเช่นกัน รถทุกคันของ TG 2 Ambulance Service มีการปรับระบบช่วงล่างของตัวรถยนต์เพื่อลดการกระแทก ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เจ็บป่วยที่เข้ารับบริการจะถูกเคลื่อนย้ายอย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ญาติคนที่อยู่รอบข้างจะต้องเป็นกังวลแน่นอน





ทาง TG 2 Ambulance Service ยังมีบริการรถพยาบาลอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นคือ บริการรถพยาบาล สแตนบาย บริการภาคสนามเต็มรูปแบบ ประกอบด้วยทีมงานรถพยาบาลครบทีม พร้อมพยาบาลวิชาชีพ แล้วก็เจ้าหน้าที่ผ่านการอบรมเวชกิจฉุกเฉิน ที่มากประสบการณ์ในการทำงานด้านสแตนบาย ถ้าเกิดจะจัดงานอีเวนท์ หรืองานที่รวมผู้คนไว้เป็นจำนวนมาก ก็ควรมีทีมปฐมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญคอยประกบดูแลเฝ้าระวังเพื่อให้มั่นใจว่า ถ้าผู้ร่วมงานบาดเจ็บหรือเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา ก็ยังมีทีมที่คอยดูแลให้ปลอดภัย ดังสำนวนภาษิตที่ว่า กันไว้ดีกว่าแก้ ตัวอย่างงานที่เคยให้บริการรถพยาบาลแสตนบายมีหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น งานแข่งกีฬาต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานวิ่งมาราธอน แข่งขันฟุต. เทนนิส ยิงปืน, งานอีเวนท์ ยกตัวอย่างเช่น งานคอนเสิร์ต งานที่จัดขึ้นสำหรับการแสดงสินค้า งานกินเลี้ยง สัมมนา งานลอยกระทง งานประจำปีใหม่ งานสงกรานต์, งานทัวร์ ให้ติดตามคณะทัวร์ ดูแลระหว่างที่ทำกิจกรรมในกลุ่มทัวร์, และยังให้เช่ารถพยาบาล สำหรับซ้อมแผนหนีไฟ เช่าไปถ่ายละคร โฆษณา ภาพยนตร์ แล้วก็สื่อบันเทิงอื่นๆ รวมถึงเช่าเพื่อไปประจำโรงงานหรือสถานประกอบการต่างๆก็ได้ ถ้าใครที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่สนใจหรือมีคนรอบข้างกำลังปรารถนารับบริการรถพยาบาลเอกชนทั้งยังการรับส่งคนป่วยและก็การแสตนบายภาคสนาม สามารถติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์: 083-816-8889, 092-269-3360 หรือทางไลน์ผ่าน ID: ambulancetg2 ได้เลย

#3434


นายวสุ กลมเกลี้ยง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และวางแผนการลงทุน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า  บริษัทเดินหน้าเจรจากับผู้ประกอบการกลุ่มลูกค้าเอกชนหลายรายที่มีความต้องการเปลี่ยนรถบัสที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเป็นรถบัสไฟฟ้า 

ทั้งนี้คาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะทยอยส่งมอบรถบัสไฟฟ้าได้รวมทั้งสิ้น 500 คัน  ซึ่งปัจจุบันราคาขายรถบัสไฟฟ้าต่อคันเฉลี่ยอยู่ที่ 7 ล้านกว่าบาท ซึ่งเตรียมที่จะส่งมอบในไตรมาส3ปีนี้ จำนวนกว่า100 คัน และจะทยอยส่งมอบอีก 400 คันภายในสิ้นปีนี้ 

ดังนั้น รายได้จากธุรกิจรถบัสไฟฟ้าจะเริ่มเข้ามาในไตรมาส 3 ปีนี้และคาดว่าจะสูงสุดในไตรมาส 4 ปีนี้ อีกทั้งเมื่อโรงงานผลิตรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์เสร็จเรียบร้อยจะมีกำลังก่ารผลิตรถโดยสารไฟฟ้า ปีละ 3,000 คัน

สำหรับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในไทย รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนอย่างชัดเจน ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับผู้ประกอบการ ซึ่งตามแผนในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า จะสร้างการเติบโตได้หลายสิบเท่า อีกทั้งตลาดยังมีความต้องการสูง จากกลุ่มรถระบบน้ำมันที่เปลี่ยนมาเป็นระบบไฟฟ้า  โดยเฉพาะรถบัส ด้วยจำนวนรถบัสจดทะเบียนใหม่สูงถึง 10,000 คันต่อปีหรือแม้แต่ในช่วงโควิดปี 2563 ยังมีรถบัสจดทะเบียนใหม่ถึง7,000 คัน ซึ่งเราต้องการขยายไปในตลาดที่เป็นคอมเมอร์เชียวมากขึ้น เชิงพาณิชย์มากขึ้น

ขณะเดียวกันแนวโน้มครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยหนุนรายได้ จาก จากโรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ ซึ่งใช้ เทคโนโลยีของ Amita Technology  โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตสำหรับระยะที่1 ได้ในไตรมาสที่3ปี64 โดยปัจจุบันได้นำเข้าเซลล์แบตเตอรี่ที่ผลิตจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของAmita Technologies Inc.ไต้หวัน เพื่อนำมาประกอบเป็นแพ็คและโมดูลในสายการผลิตภายในประเทศ เพื่อตอบสนองการใช้ในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ของบริษัทฯ ได้แก่ รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ในช่วงแรกระหว่างรอโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่เสร็จเรียบร้อย 

นายวสุ กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้โต 20-30% รายได้ส่วนเพิ่มมาจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก และมีการปรับแผงโซลาร์หนุนกำลังการผลิตไฟฟ้าดีขึ้น ซึ่งรายได้ส่วนนี้จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่งบลงทุนปีนี้ยังอยู่ที่  6,100 ล้านบาท ส่วนใหญ่ขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงาน ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจแบตเตอร์รี่ และธุรกิจสถานีชาร์จ ตามลำดับ
#3435


บิลด์ สื่อดังจากเยอรมนี เปิดเผยว่า เชลซี เกือบจะได้ตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงพระกาฬของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีม หากไม่เจอ มิโน่ ไรโอล่า ซูเปอร์เอเยนต์ เรียกร้องค่าจ้างแพงมหาศาลจนไม่สามารถจ่ายได้

พลพรรค 'สิงห์บลูส์' เพิ่งคว้าตัว โรเมลู ลูกากู อดีตหัวหอกของตัวเอง กลับสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยค่าตัว 98 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,420 ล้านบาท) แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นออฟชั่นสำรอง เพราะพวกเขาอยากได้ ฮาแลนด์ มากกว่า

เชลซี มีความมั่นใจว่าจะเอาตัว ฮาแลนด์ มาจากอ้อมอก 'เสือเหลือง' ทว่าโชคไม่ดีที่เอเยนต์ของเจ้าตัวคือ มิโน่ ไรโอล่า นายหน้าลูกหนังที่ขึ้นชื่อว่าโคตรเขี้ยว และสร้างชื่อจากการเรียกค่าเหนื่อยกับค่าตัวมหาศาล เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองกับนักเตะที่ดูแลอยู่

รายงานจาก บิลด์ บอกว่า ไรโอล่า เรียกร้องค่าเหนื่อยจาก เชลซี ให้กับ ฮาแลนด์ ที่สัปดาห์ละ 820,000 ปอนด์ (ประมาณ 36 ล้านบาท) และตัวของเอเยนต์ ก็เรียกค่าดำเนินการจัดการที่ 34 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,533 ล้านบาท)

เมื่อคำนวนทุกสิ่งอย่างรวมกันแล้ว เชลซี จำต้องจ่ายถึง 275 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,405 ล้านบาท) ตลอดสัญญา 5 ปีที่ทั้งสองฝ่ายเซ็นสัญญากัน ซึ่งทำให้ยักษ์แห่งลอนดอน สู้ไม่ไหวก่อนเปลี่ยนซื้อ ลูกากู กลับมาจาก อินเตอร์ มิลาน
#3436


วันนี้ (26 ส.ค.) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศโดยรวมดีขึ้น หลังจากจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น และเริ่มมีจำนวนมากกว่าผู้ติดเชื้อต่อวัน ส่วนการบริหารจัดการเตียงในขณะนี้ พบว่าจำนวนเตียงในพื้นที่ กทม. เริ่มเพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วย เนื่องจากการทำ Home Isolation (HI) และ Community Isolation (SI) เป็นไปอย่างมีระบบ ส่งผลให้การบริหารจัดสรรเตียงเป็นไปอย่างราบรื่น โดยจากข้อมูลการรอคอยเตียงในระบบ Call Center พบว่าจำนวนผู้รอเตียงสีแดงมีจำนวนลดลง และมีผู้ป่วยที่ต้องรอเตียงเกิน 24 ชม. ลดลงเรื่อยๆ
"เตียงสีเหลืองใน กทม. มีการบริหารจัดการได้ดี แต่เตียงสีแดงยังมีผู้ป่วยต้องรอเตียงอยู่ เนื่องจากในพื้นที่กทม. มีความสามารถในการรองรับผู้ป่วยได้เพียง 1,000 ราย/วันเท่านั้น ขณะที่ตอนนี้ยังมีผู้ป่วยใน กทม.สูงถึง 4,000 ราย/วัน ส่วนสถานการณ์เตียงในพื้นที่ต่างจังหวัด เริ่มตึง ๆ บ้าง แต่ยังบริหารจัดการได้ดีอยู่ เนื่องจากสามารถขยายเตียงไปยังชุมชนได้" นพ.สมศักดิ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ขณะนี้การทำ HI ในพื้นที่ กทม. เริ่มเป็นไปอย่างมีระบบ โดยมีจำนวนเคสการทำ HI สะสมอยู่ที่ 87,023 ราย และมีจำนวนผู้ป่วยที่ทำ HI เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,000 ราย ทั้งนี้ การทำ HI หรือการแยกกักตัวที่บ้านที่ได้มาตรฐานนั้น ผู้ป่วยจะต้องทำการแยกทั้งหมด 7 อย่าง คือ 1.แยกนอน 2.แยกกิน 3.แยกอยู่ 4.แยกใช้ 5.แยกทิ้ง 6.แยกห้องน้ำ และ 7.แยกอากาศ
ส่วนผู้ป่วยที่ไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ จะต้องทำ CI ที่ศูนย์พักคอย โดยในพื้นที่กทม. มีการเปิดศูนย์ CI ให้ใช้บริการแล้วทั้งหมด 64 แห่ง มีเตียงทั้งหมด 8,694 เตียง และมีอัตราการครองเตียงอยู่ที่ 3,410 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีเตียงเพียงพอในการรองรับผู้ป่วยต่อวันที่เฉลี่ยอยู่ที่ 200 ราย
อย่างไรก็ดี ประชาชนบางรายมีความกังวลต่อคุณภาพการทำ HI โดยมีการร้องเรียนว่าวิธีปฎิบัติไม่เป็นไปตามที่ทาง สธ. ระบุ เช่น ผู้ป่วยบางรายไม่ได้รับการโทรศัพท์เช็คอาการจากแพทย์ 2 ครั้ง/วัน หรือบางรายไม่ได้รับยา และอาหาร 3 มื้อ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อประสิทธิภาพการทำ HI ที่มีคุณภาพ จึงจะมีการประเมินคุณภาพการทำ HI โดยประเมินทั้ง 2 ด้าน คือ การประเมินโดยผู้ให้บริการ และการประเมินโดยผู้รับบริการ (Patient Reporting Outcome Measurement) ซึ่งจะมีการตรวจสอบคุณภาพทั้ง "Standard Set for HI" ที่จะต้องมีอุปกรณ์พื้นฐานครบทั้งหมด 4 อย่าง คือ เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้, หน้ากากอนามัย, เครื่องวัดระดับออกซิเจนในกระแสเลือด และถุงขยะสีแดงเพื่อใส่ขยะติดเชื้อ โดยการประเมินคุณภาพนี้ จะมีการนำร่องที่โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ทั้ง 3 แห่ง คือ รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน และ รพ.นพรัตนราชธานี

ในส่วนของการทำ HI และ CI สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้ที่มีความพิการทางร่างกาย มีความพิการทางจิตใจ รวมทั้งเด็ก ได้มีการเตรียมการรองรับผู้ป่วยตามสถานที่ต่าง ๆ ไว้ดังนี้ โรงพยาบาลตามสิทธิเพิ่มเติมส่วนพิการทางจิต (รพ.ศรีธัญญา และรพ.สมเด็จเจ้าพระยา), โรงพยาบาลสนามเพื่อคนพิการ (รพ.สนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ และสถาบันราชานุกูล), HI สถาบันสิรินธรเพื่อคนพิการ, CI โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ (รพ.รามาธิบดี และสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ) และ CI สำหรับเด็กอายุ 7-15 ปี ณ ศูนย์สร้างสุขทุกวัย ที่เกียกกาย โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ดำเนินการร่วมกับเขตดุสิต
#3437


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นสักขีพยานในพิธีประกาศความตกลงซื้อขายผลไม้ (MOP) ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า ผลไม้ไทยถือว่าเป็นสินค้าเป้าหมายสำคัญในการส่งออกเพื่อทำรายได้ให้กับประเทศ โดยในช่วง 7 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) ยอดการส่งออกเฉพาะผลไม้สดและผลไม้แปรรูป มีมูลค่า 131,166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.31% และได้ตั้งเป้าหมายปีนี้ทั้งปีว่าจะส่งออกเพื่อทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 180,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30%
         
การส่งออกผลไม้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการจัด กิจกรรมสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกผลไม้ไทยรวม 4 กิจกรรมใหญ่ ๆ ได้แก่ การจัดเจรจาจับคู่ทางการค้าออนไลน์ (Online Business Matching – OBM) เพื่อซื้อขายผลไม้ระหว่างผู้ส่งออกกับผู้นำเข้าต่างประเทศ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยในห้างสรรพสินค้าและในตลาดสำคัญในต่างประเทศ หรือที่เรียกว่า In Store Promotion การจัดกิจกรรม Thai Fruit Golden Month ในประเทศต่าง ๆ และการจัดกิจกรรมขายผลไม้ผ่านแพลตฟอร์มสำคัญ ๆ ระดับโลก เช่น bigbasket ของอินเดีย Tmall ของจีน เป็นต้น
         
ทั้งนี้กิจกรรมที่ทำเกิดความสำเร็จเป็นอย่างมาก อย่างในจีน ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา จัดกิจกรรม Thai Fruit Golden Month ไปแล้ว 8 เมือง หนานหนิง ไห่หนาน ฉงชิ่ง ชิงเต่า เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู ต่าเหลียง ฝอซาน สามารถทำรายได้ ถึง 15,000 ล้านบาท และยังมีแผนงานในช่วงที่เหลืออีก 5 เมือง เซี่ยะเหมิน หนานชาง คุนหมิง อู่อั่น และหนานหนิง คาดว่าจะทำรายได้อีกไม่ต่ำกว่า 5000 ล้าน รวมแล้วเฉพาะ Thai Fruit Golden Month รวม 13 เมือง จะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการต่อยอดจากการจัดกิจกรรมเจรจาซื้อขายผลไม้ไทยในช่วงที่ผ่านมา 2 ส่วน คือ 1.การเจรจาจับคู่ซื้อขายของภาคตะวันออกของประเทศ โดยได้จัดกิจกรรมเมื่อวันที่ 24-25 มี.ค.2564 มีผู้ส่งออกไทย 39 ราย ผู้นำเข้าจากต่างประเทศ 179 ราย จาก 37 ประเทศ เจรจาซื้อขายได้ 392 คู่ คิดเป็นเงิน 2,276 ล้านบาท ประเทศที่นำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฮังการี อินเดีย รัสเซีย และสหรัฐฯ โดยผลไม้ 5 ลำดับที่เจรจาสำเร็จ ได้แก่ ทุเรียน มะม่วง มะพร้าว สับประรด และมังคุด จากนั้นวันที่ 22-23 ก.ค.2564 จัดเจรจาซื้อขายผลไม้ในภาคใต้กับภาคเหนือมีผู้ส่งออกไทย 65 ราย ผู้นำเข้า 72 ราย จาก 20 ประเทศ ประสบความสำเร็จ 257 คู่ คิดเป็นยอดเงิน 1,865 ล้านบาท เป็นผู้นำเข้าจาก จีน เมียนมา อินเดีย ฮ่องกง และกัมพูชา ผลไม้สำคัญ ได้แก่ มะพร้าว สับปะรด มะม่วง และลำไย

โดยการเจรจาจับคู่ซื้อขายทั้ง 2 ครั้ง สามารถทำยอดได้ 4,141 ล้านบาท และกิจกรรมต่อเนื่องในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาทั้ง 2 ครั้ง โดยได้มีการประกาศจับคู่ที่กำหนดนัดหมายส่งมอบที่เป็นรูปธรรมแล้ว 21 คู่ เป็นเงินซื้อขายจริงที่จะชำระกัน 2,394 ล้าน จากยอดที่ตกลง 4,141 ล้านบาท หรือที่เรียกว่า MOP ตกลงซื้อขายจริง มี 21 คู่ เป็นผู้ส่งออกไทย 21 ราย ผู้นำเข้า 21 ราย จาก 16 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย ลาว เมียนมา สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สเปน เกาหลี ไต้หวัน อินโดนีเซีย อาร์เจนตินา กัมพูชา ยูเออี และมาเลเซีย ผลไม้สำคัญ ได้แก่ ทุเรียน มะม่วง ลำไย มังคุด และมะพร้าว
         
"ผมได้ให้นโยบายไปยังพาณิชย์จังหวัด ซึ่งเป็นเซลส์แมนจังหวัด ทำหน้าที่ช่วยเจรจาจับคู่ซื้อขาย เพื่อที่จะระบายผลไม้ที่เหลืออยู่ โดยเฉพาะลำไย ภาคเหนือ ลองกอง ภาคใต้ ที่กำลังจะออกตามมา โดยให้เชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างจังหวัดกับจังหวัด และขอให้ทูตพาณิชย์ ในฐานะเซลส์แมนประเทศ เร่งหาตลาดระบายผลไม้เพิ่มเติม และเตรียมแผนระบายในปีต่อไป เป็นการทำงานเชิงรุก อย่าให้มีปัญหาก่อนแล้วค่อยมาแก้  "นายจุรินทร์ กล่าว
#3438


การแข่งขันกีฬา "พาราลิมปิก โตเกียว 2020" ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ซึ่งเป็นการชิงชัยวันสองของมหกรรม ไฮไลต์ของทัพนักกีฬาไทยอยู่ที่การล่าเหรียญทองของ "แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบสาวไทยวัย 47 ปีชาว จ.เชียงใหม่ ลงแข่งขันประเภทที่สองของตัวเองในวีลแชร์ฟันดาบ ประเภทดาบเอเป้ บุคคลหญิง ซึ่งสายสุนีย์ มีดีกรีเคยคว้าเหรียญทองมาแล้ว 2 สมัย ในพาราลิมปิก 2004 และ 2012 ส่วนเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่ประเทศบราซิล สายสุนีย์ คว้าเหรียญเงิน ในประเภทนี้มาครอง

รอบแรก สายสุนีย์ ที่มีดีกรีเป็นถึงนักวีลแชร์ฟันดาบหญิงเบอร์ 1 ของโลกประเภทเอเป้ คลาสบี ลงแข่งแบบพบกันหมดในกลุ่ม 6 แมตช์ 

แมตช์แรก สายสุนีย์ เผชิญหน้ากับ กีออนกี ดานี่ จากฮังการี่ ปรากฏว่า นักดาบสาวไทยเอาชนะสบาย 5-0 คะแนน ต่อด้วยแมตช์ที่สอง สายสุนีย์ เอาชนะ เอลเลน เก็ตเดส จากสหรัฐฯ 5-0 คะแนน 

แมตช์ที่สาม นักฟันดาบเบอร์ 1 โลกชาวไทย เอาชนะ โอเลน่า เฟโดต้า วัย 35 ปีจากยูเครน ปรากฏว่า 5-2 คะแนน แมตช์ที่สี่ สายสุนีย์ เอาชนะ โรซาน่า พาสคิวโน่ วัย 38 ปีจากอิตาลี 5-3 คะแนน

แมตช์ที่ห้า สายสุนีย์ เจอกับ เทียน ซู เหม่ย จากจีน ที่เอาชนะสายสุนีย์ มาในประเภทเซเบอร์ รอบ 8 คนสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา และเป็นนักดาบสาวจีน ย้ำแค้นเอาชนะ สายสุนีย์ไป 5-1 คะแนน แมตช์สุดท้ายรอบแรกแบบพบกันหมด สายสุนีย์ พบกับ วาซิเลว่า ลูดมิล่า นักกีฬาทีมผู้อพยพชาวรัสเซีย ผลปรากฏว่า สายสุนีย์ พ่ายไป 4-5 คะแนน

สรุปการลงสนามรอบแรกแบบพบกันหมด ของสายสุนีย์ แข่ง 6 แมตช์ ชนะ 4 แมตช์ แพ้ 2 แมตช์ ผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายต่อไป ซึ่งสายสุนีย์ ทำผลงานดีในรอบแรกทำให้ได้บายในรอบ 16 คนสุดท้าย เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายทันที โดย สายสุนีย์ จะพบกับ อเลสเซีย มาคริซสกาย่า วัย 35 ปีจากเบลารุส ในเวลา 13.10 น. ตามเวลาเมืองไทย

ร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยสู้ศึก "พาราลิมปิกเกมส์ 2020" ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม- 5 กันยายน 2564 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผ่าน AIS PLAY และสถานีทีวีกีฬา ทีสปอร์ต (T-SPORTS CHANNEL) ช่องทีวีดิจิตอลหมายเลข7
#3439


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผย ว่า  เดือนก.ค. 2564 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 5,661 ราย ลดลง 0.11%  เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน  และลดลง 7% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิ.ย. 2564  ที่มีจำนวน 6,093 รายหรือ ลดลง 7% โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 13,543.18 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึง คนโดยสาร  

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,140 ราย เทียบกับมิ.ย.2564 เพิ่ม 9% และเทียบกับก.ค.2563 ลดลง 10% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 4,152.42 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
 

นายทศพล กล่าวว่า สำหรับยอดรวมธุรกิจตั้งใหม่ในช่วง 7 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ค.) มีจำนวน 46,683 ราย เพิ่มขึ้น 20% ทุนจดทะเบียน 146,751.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ส่วนธุรกิจเลิกกิจการ 6,070 ราย ลดลง 19% ทุนจดทะเบียน 34,611.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% 

สาเหตุที่ทำให้การจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ และจดทะเบียนเลิกธุรกิจเพิ่มขึ้นนั้น มาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลต้องมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น การหยุดการก่อสร้าง การงดรับประทานอาหารในร้านอาหาร และมาตรการล็อคดาวน์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2564  

โดยในส่วนของการการลดลงของจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือนก.ค.นั้น พบว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในแต่ละภาคธุรกิจนั้น ส่วนใหญ่มีแนวโน้ม ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป ลดลง 56 ราย คิดเป็น 9% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 61 ราย คิดเป็น 20% และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร ลดลง 9 ราย คิดเป็น 4%  ซึ่งแนวโน้มที่ลดลงดังกล่าว เป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย ในเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งอยู่ที่ 41.4 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าถึง 10% ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจที่มีการชะลอตัวเพื่อติดตามสถานการณ์อยู่ในขณะนี้  

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เริ่มลดลง และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในประเทศที่เพียงพอจะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นที่ดีในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งการฟื้นตัวของการส่งออก และมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่อยู่ระหว่างการพิจารณา จะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง 
#3440


ช่วงนี้ได้ยินข่าวนักท่องเที่ยวที่แอบหยิบหินและดินจากปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ กลับไปบ้าน แต่ต่อมาต้องส่งหินกลับคืนมาทางไปรษณีย์ให้เจ้าหน้าที่นำกลับไปไว้ที่เดิม ซึ่งก็น่าสงสัยไม่น้อยว่าเจอกับเหตุการณ์อะไรมาถึงต้องรีบส่งหินคืน

แต่ที่น่าสงสัยไม่แพ้กันก็คือทำไมจึงมีคนชอบหยิบดินหินเหล่านี้กลับไปบ้านด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งเองก็ได้ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่หยิบจับหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดออกไปจากโบราณสถาน และวอนขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาโบราณสถานของชาติกันไว้ให้ดี



คนที่ทราบข่าวการส่งหินกลับคืนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันถึงความเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพบูชาของคนในพื้นที่ของปราสาทหินพนมรุ้งแห่งนี้

สำหรับปราสาทหินพนมรุ้ง ตั้งอยู่ที่ "อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง" อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เป็นปราสาทหินขนาดใหญ่ที่องค์ประกอบโดยรวมได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทหินที่งดงามที่สุดในเมืองไทย สร้างอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว

ปราสาทพนมรุ้ง สร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ก่อสร้างขึ้นตามคติจักรวาลที่มีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลาง มีการบูรณะอย่างต่อเนื่องมาหลายสมัย ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 15-17 ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นพุทธศาสนสถานในช่วงนั้น