• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chigaru

#3441


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือทางการค้าไทย-ไห่หนาน ระหว่างนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กับนายเฉิน ซี อธิบดีกรมพาณิชย์ไห่หนาน ผ่านระบบทางไกล ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็น Mini-FTA ฉบับแรกที่ไทยทำกับมณฑลในประเทศจีน ซึ่งเป็นนโยบายที่ให้ไว้กับกระทรวงพาณิชย์ว่าให้ทำความตกลงการค้าฉบับเล็ก หรือจะเรียกว่า Mini-FTA ก็ได้ โดยทำกับรัฐต่างๆ ที่บางรัฐมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าหรือมีจำนวนประชากรมากกว่าประเทศไทย โดยไห่หนานเป็นตัวอย่างแรกที่เกิดขึ้นกับประเทศจีน และยังมีแผนที่จะเดินหน้าทำกับมณฑลอื่นๆ ของจีนเพิ่มขึ้น เช่น มณฑลกานซู ที่มีชาวมุสลิมอยู่มาก เพื่อเป็นลู่ทางในการส่งเสริมการค้าสินค้าฮาลาลของไทย รวมถึงมณฑลอื่นๆ ที่เห็นว่าเป็นโอกาส

สำหรับเนื้อหาความร่วมมือประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้าระหว่างกัน 2. ด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการค้า ด้านสินค้า ด้านนวัตกรรม และการตลาด รวมทั้งการส่งเสริมการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระหว่างกันเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า 3. ด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน เช่น การเดินทางของนักธุรกิจ การจัดประชุมสัมมนาร่วมกันเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างกัน 4. ด้านการมุ่งขยายมูลค่าการค้าใน 3 สินค้าหลัก ประกอบด้วย สินค้าทางด้านการเกษตร สินค้าอาหาร และสินค้าอุตสาหกรรม 5. ความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซ เช่น การส่งเสริมการค้าผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ของจีนและไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มการค้าจากปี 2563 ที่มีมูลค่า 9,233 ล้านบาท เพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาทภายใน 2 ปี และความตกลงนี้จะมีผลเป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. 2564 ถึงวันที่ 20 ส.ค. 2566

โดยตัวอย่างกิจกรรมที่จะทำร่วมกันจากนี้ไป เช่น เดือน พ.ย.-ธ.ค. 2564 จะมีการจัดงานจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ระหว่างไทย-ไห่หนานเพื่อเพิ่มโอกาสในการค้า การจัดงานแสดงสินค้า THAIFEX ที่ไทยจะเชิญผู้ประกอบการจากไห่หนานมาร่วมด้วย การจัดงานบางกอก เจมส์ ที่ตั้งเป้าเชิญนักธุรกิจไห่หนานมาร่วมด้วยเช่นเดียวกัน รวมถึงการจัดงานไห่หนาน เอ็กซ์โป ซึ่งไทยจะเชิญชวนนักธุรกิจของไทยเข้าไปร่วมงานนี้ด้วย

นอกจากนี้ ไทยยังได้เตรียมการทำ Mini FTA กับรัฐเตลังคานา ของอินเดีย ซึ่งขณะนี้เจรจาครบถ้วนแล้ว เหลือแค่การแก้ไขเอกสารต่างๆ ตามขั้นตอน และกำลังดำเนินการกับจังหวัดคยองกี สาธารณรัฐเกาหลี ที่เป็นอีกเป้าหมายที่จะเร่งดำเนินการ รวมทั้งได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ทั่วโลกได้ประสานกับมณฑล เมืองสำคัญๆ ที่เห็นว่าจะเป็นโอกาสทางการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับไทยเพื่อทำ Mini FTA เพิ่มขึ้น

นายเฝิง เฟย ผู้ว่าการมณฑลไห่หนาน กล่าวผ่านระบบทางไกลว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการลงนามครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในการสร้างกลไกความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน ต่อจากนี้เป็นการขยายความร่วมมือระหว่างมณฑลไห่หนานกับประเทศไทย ทั้งทางด้านธุรกิจการค้า อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว วัฒนธรรมและสังคม เป็นต้น ทั้งสองฝ่ายจะร่วมแบ่งปันโอกาสใหม่ๆ แสวงหาการพัฒนาใหม่ในอนาคตร่วมกัน และขอบพระคุณนายจุรินทร์ ที่มีความใส่ใจและสนับสนุนการก่อสร้างท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน และขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยมาท่องเที่ยวและร่วมลงทุนพัฒนาธุรกิจที่มณฑลไห่หนาน

การลงนามในครั้งนี้มี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายหนี เฉียง รองผู้ว่าการมณฑลไห่หนานและเลขาธิการรัฐบาลมณฑลไห่หนาน นายซุน ซื่อเหวิน รองเลขาธิการรัฐบาลมณฑลไห่หนาน ประธานหอการค้าไทย-จีน นายกสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย นายกสมาคมการค้าไทย-ไหหลำ และมีทูตพาณิชย์ทั่วโลก และพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ร่วมงานผ่านระบบประชุมทางไกล
#3442


หญิงสาวญี่ปุ่นติดเชื้อโควิดระหว่างตั้งครรภ์ หาโรงพยาบาลรับรักษาไม่ได้ คลอดก่อนกำหนดที่บ้าน สุดท้ายต้องสูญเสียลูกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลก

ว่าที่คุณแม่ในวัย 30 ปีตั้งครรภ์ได้ 29 สัปดาห์ อาศัยในจังหวัดชิบะ ใกล้กรุงโตเกียว เธอถูกพบว่าติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม หน่วยงานสาธารณสุขประเมินอาการแล้วให้เธอพักรักษาตัวที่บ้าน

หลายวันต่อมา เธอพยายามร้องขอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะอายุครรภ์มากแล้ว และกังวลว่าอาการจะทรุดลงอย่างกะทันหัน ส่งผลต่อทารกในครรภ์ แต่ไม่มีโรงพยาบาลแห่งไหนยอมรับตัว

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เธอปวดท้องและตกเลือด จึงเรียกรถพยาบาลเพื่อร้องขอให้ผ่าคลอดโดยด่วน แต่ไม่สามารถหาสถานพยาบาลที่จะรับเธอเข้ารักษาได้ เธอคลอดที่บ้านในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทารกที่คลอดก่อนกำหนดเสียชีวิตหลังจากคลอดได้ไม่นาน



โรงพยาบาลปฏิเสธถึง 3 ครั้ง

ในวันที่มีอาการรู้สึกว่าจะคลอด หญิงสาวรายนี้พยายามติดต่อโรงพยาบาลหลายแห่ง แต่เธอถูกปฏิเสธถึง 3 ครั้ง แม้กระทั่งครั้งสุดท้ายที่เธอแจ้งว่าได้คลอดที่บ้านแล้ว ทารกยังหายใจอยู่ แต่โรงพยาบาลก็ยังปฏิเสธที่จะรับตัว

หน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดชิบะ ระบุว่า โรงพยาบาลที่รับผู้หญิงที่อยู่ใกล้คลอดและติดเชื้อไวรัสโควิด ต้องเตรียมการสำหรับการผ่าคลอด โดยต้องสามารถแยกตัวทารกได้โดยทันที ซึ่งหลายโรงพยาบาลไม่มีความพร้อมที่ทำเช่นนี้ได้ จึงต้องปฏิเสธที่จะรับตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล



ผู้หญิงท้องติดเชื้อเพิ่มเท่าตัว ส่วนใหญ่ยังไม่ได้วัคซีน

สมาคมสูตินรีแพทย์แห่งญี่ปุ่นระบุว่า เฉพาะในกรุงโตเกียว ในเดือนกรกฎาคม มีผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด 98 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึงเท่าตัว แพทย์ระบุว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงที่จะอาการทรุดหนักได้ง่าย และไม่สามารถใช้ยาบางชนิดเพื่อรักษาโควิดได้ จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ ผู้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ถึงคิวที่จะได้รับวัคซีน จึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น.
#3443


หลังจากมีการเผยแพร่คลิปชาวสวนลำไยลำพูน ใช้ไม้ฟาดลูกลำไยให้ร่วงลงพื้นที่ พร้อมระบายความอัดอั้นตันใจ ทำนองว่าประสบปัญหาราคาลำไยตกต่ำ จนเก็บขายไม่ได้เพราะไม่คุ้มทุน จึงนำไม้มาฟาดลูกลำไยให้ร่วงลงพื้นที่เป็นปุ๋ยแทน ซึ่งหลังจากที่มีการแชร์ภาพดังกล่าวโลกโซเชียลฯต่างมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เห็นใจชาวสวนที่ประสบปัญหาราคาลำไยตกต่ำ

ล่าสุดวันนี้(18 ส.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบนายพีรพัฒน์ อยู่ท้วม อายุ49 ปี ชาวส่วนลำไย ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ที่ปรากฏอยู่ในคลิปภาพ ซึ่งได้เปิดเผยว่า วันนั้นตนออกไปขายลำไยปรากฏราคาลำไยตกลงมามาก เกรด AA เหลือกิโลกรัมละ 12 บาท เกรด A กก.ละ 4 บาท เกรด B กก.ละ 2 บาท ส่วนเกรด C ไม่รับซื้อ และหลายล้งหลายโรงงานยังหยุดรับซื้ออีกด้วย

หลังจากนั้นตนจึงมาเจราจาขอลดค่าแรงกับคนเก็บลำไย(แบบรูดร่วง)จากกิโลกรัมละ 3 บาท เหลือ 2 บาท แต่ก็ไม่เป็นผลจึงต้องยอมทนไป สุดท้ายเมื่อนำลำไยไปขายหักค่าแรงคนเก็บลำไยแล้วเหลือเพียงไม่กี่ร้อยบาท หากหักค่าปุ๋ย-ค่าแรงที่ทำมาทั้งปี ถือว่าขาดทุนอย่างมากมาย

"ตอนนั้นไม่รู้จะระบายความอัดอั้นตันใจยังไง จึงใช้ไม้ฟาดลูกลำไยให้ร่วงเป็นปุ๋ยแทน และมีคนถ่ายคลิปแล้วนำไปแชร์บนโลกโซเชียลฯจนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง"

ด้านนายฉัตรนิพัฒน์ สิงห์คำโต อายุ 55 ปี ชาวสวนลำไยเปิดเผยว่าราคาลำไยปีนี้ถือว่าตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ชนิดที่ว่าไม่เคยตกต่ำแบบนี้มาก่อน เมื่อวาน(17 ส.ค.)เอาลำไยไปขายตันครึ่ง ได้เงินมา 6,000 กว่าบาทจ่ายค่าคนงาน-ค่ารถ หักแล้วเหลือพันกว่าบาท ทั้งที่ทำมาทั้งปี ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรง ยังไม่ได้ ถือว่าขาดทุนอย่างหนัก

"เคยมีรอบที่แย่ที่สุดคือ ขายลำไยได้เงินมา 720 บาท หักค่าคนงานค่ารถแล้วเหลือเงินถึงตนเองแค่ 20 บาท ตอนนี้ตอนนี้เป็นหนี้เกือบล้านบาทเพราะกู้เงินมาลงทุนทำสวนหลายแปลง และทำใจแล้วเก็บได้เท่าที่เก็บได้และต้องปล่อยให้ลำไยเน่าคาต้นหลายสิบไร่เพราะไม่มีทางเลือกอื่น"

ด้านนางทิวาพร ทรงประสิทธิ์พาณิชย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลปาไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นเจ้าของโรงร่อนลำไยและยังเป็นชาวสวนลำไยเองด้วย เปิดเผยว่าปัญหาลำไยราคาตกต่ำมีทุกปี แต่ปีนี้หนักสุด ล้งทั้งอ้างโควิด อ้างไม่ได้สเปกส่งออกและอีกสารพัด กดราคา เอาลำไยเกรดดีๆแต่ไม่เคยคุยเรื่องราคา

"ที่ผ่านมาเกษตรกรถูกกดหัวมาตลอด ซ้ำปีนี้ยังเจอโควิด-19 ระบาดในพื้นที่อีก ทำให้แรงงานขาดแคลน เกษตรกรต้องปล่อยลำไยเน่าคาต้นคาสวน จึงอยากขอวิงวอนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยที่อำเภอลี้ด้วย เพราะถือว่าเป็นแหล่งผลิตลำไยคุณภาพและมีชาวสวนลำไยมากเป็นอันดับต้นๆของจังหวัดลำพูน ระยะยาวอยากให้รัฐบาลประกันราคาลำไยและลงมาเจรจากับผู้ส่งออกลำไยเพราะในระดับล่างไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้"
#3444


ในยุคที่ผู้คนใช้เครื่องมือสื่อสารในชีวิตประจำวันจนคล้ายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้ว ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงเวลาเข้านอน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ในภาวะที่การเดินทางระหว่างประเทศก็เป็นไปได้ยาก บางรายอาจไม่ทราบวิธีการเข้าถึงข้อมูลด้านการค้า ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน การมีข้อมูลที่มากกว่าจะช่วยให้เราสามารถวางแผน ตัดสินใจ และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

DITP Overseas เป็นบริการของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) พร้อมจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการ โดยรวบรวมข้อมูลความรู้ด้านการค้า และเทรนด์สินค้าใหม่ๆ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 32 แห่ง ใน 6 ภูมิภาคซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ ภูมิภาคอเมริกา ลาตินอเมริกา ภูมิภาคยุโรป และCIS ภูมิภาคแอฟริกา และตะวันออกกลาง

โดยข้อมูลของ DITP Overseas เหล่านี้ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ ย่อย และนำเสนอให้เข้าถึงง่ายและสะดวกมากขึ้น ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเอกสารข้อมูล ภาพ เสียง และโมชั่นกราฟฟิก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้พิจารณาปัจจัยแวดล้อมของแต่ละตลาดสินค้าที่สนใจ สร้างโอกาสและต่อยอด เพื่อประโยชน์ด้านการค้าของตนเองต่อไป

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กำลังพัฒนาคู่มือการค้าของทั้ง 27 ประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจตลาดใน 6 ภูมิภาคนี้ ช่องทางในการค้นหาข้อมูลการค้าได้สะดวก โดยสามารถกรอกรายละเอียดเพื่อสมัครสมาชิก และรับข่าวสารกิจกรรมด้านการค้าและรับสิทธิในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทางการค้าจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 32 แห่งได้ง่ายๆ ในรูปแบบกิจกรรมสัมมนาออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญตลาดการค้าในแต่ละประเทศ หรือกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์

โดยระบบการจัดเก็บรายชื่อดังกล่าว ยังช่วยเอื้อประโยชน์ให้สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ สามารถเข้าถึงข้อมูลธุรกิจของผู้ประกอบการไทย และสามารถนำเสนอข้อมูลต่อไปยังผู้ซื้อในต่างประเทศที่สนใจได้โดยตรงอีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลสำคัญด้านการค้าเหล่านี้ได้ ผ่านช่องทางออนไลน์หลายแพลตฟอร์มได้ทาง

FB: DitpOverseas https:// www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube: DITP Overseas
Website: https:// ditp-overseas.com/
#3445


โครงการนำสายไฟลงดินของกองทัพเรือโผล่อีก 400 กว่าล้านบาท หลังยอมถอดถอนงบเรือดำน้ำจากกระแสคัดค้านของประชาชน ขณะที่โครงการจัดจ้างหลายหน่วยงานของภาครัฐยังคงยื่นประมูลช่วงชิงงบกลางฝุ่นตลบ สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจในต่างประเทศ คาดปีนี้โตติดลบ และหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้เศรษฐกิจปีหน้าหมดหวังฟื้นตัว

หลังจากที่ก่อนหน้านี้กองทัพเรือได้ถูกคัดค้านจากสังคม ในการซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน วงเงิน 900 ล้านบาทที่ต้องจ่ายในปีงบประมาณ 2565 จนในที่สุดก็ต้องขอถอนออกไป

รายงานล่าข่าวระบุว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้กองทัพเรือได้จัดทำโครงการนำสายไฟลงดินเพื่อส่งเสริมสภาพพื้นที่สำหรับเมืองการบินภาคตะวันออก และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2564 มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพิ่มเติม งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 451.36 ล้านบาท ให้กองทัพเรือ (ทร.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการนำสายไฟลงใต้ดินเพื่อส่งเสริมสภาพพื้นที่สำหรับเมืองการบินภาคตะวันออก (โครงการฯ) ในส่วนของงานจ้างนำสายไฟลงใต้ดิน จำนวน 3 เส้นทาง ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ประกอบด้วย1. ปากทางเข้าสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา

2. แยกวงเวียนอู่ตะเภา

3. แยกอู่ราชนาวีมหิดล รวมระยะทางทั้งสิ้น 5.2 กิโลเมตร

โดยงบดังกล่าวอยู่ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรี ในปี 2564 ที่จัดสรรไว้ถึง 6 แสนล้าน มีวัตถุประสงค์เพื่อไว้ใช้ในกรณีที่วิกฤติฉุกเฉิน หรือจำเป็นเท่านั้น เช่นกรณีสถานการณ์โควิด- 19 ในขณะนี้

ก่อนหน้านี้รัฐบาลออกมาเปิดเผยว่า มีเงินหน้าตักใช้เพื่อแก้สถานการณ์โควิดไม่มาก และในทางการเมืองก็เรียกร้องให้มีการพิจารณาจัดสรรงบประมาณใหม่ โดยเฉพาะงบกลาง ซึ่งจากการตรวจสอบ ณ สิ้น ก.ค. งบกลางยังคงเหลืออยู่ราว 2 แสนล้านบาทเท่านั้น

แต่ปรากฎว่ามีโครงการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะงานก่อสร้างหลาย ๆ ของหน่วยงานภาครัฐยื่นขอประมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นก็คือ โครงการนำสายไฟลงดินของกองทัพเรือที่ครม.อนุมัติไป หลายฝ่ายจึงมองว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนมากน้อยเพียงใด ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองลำบากเช่นนี้

ขณะที่สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจในต่างประเทศ ได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2564 ของประเทศไทยน่าจะต่ำกว่า 0 % หรือติดลบ และหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็ไม่มีความหวังว่าปีหน้า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวโดยเร็ว

ข้อมูลอ้างอิง : http://www.phuketlocal.go.th/files/com_news_law/2019-10_ea4372f6817c38e.pdf

https://govspending.data.go.th/dashboard/3

:: ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อ จัดจ้าง สอบราคา ประกวดราคา :: (navy.mi.th)
#3446


บมจ.แพลน บี มีเดีย หรือ PLANB หนึ่งในบริษัทผู้ในห้บริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยควบคู่กับธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม และ บมจ.มาสเตอร์ แอด หรือ maco ผู้ประกอบการธุรกิจป้ายโฆษณากลางแจ้งนอกบ้านที่เป็นสื่อออฟไลน์ ทุ่มงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เข้าลงทุนร่วมใน Zipmex บริษัทผู้ประกอบการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

Zipmex แพลตฟอร์มด้านการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดเผยว่า การลงทุนครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือสำหรับการนำโทเค็นยูทิลิตี้สูงสุดในประเทศไทยอย่าง ZMT มาผนึกกำลังรวมเข้ากับระบบนิเวศการโฆษณาในหลายแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนครั้งใหญ่ของนักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากขึ้น ซึ่งจะประกาศรายชื่อในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยการลงทุนและการเป็นหุ้นส่วนในครั้งนี้จะช่วยให้ Zipmex เข้าถึงลูกค้าหลายล้านรายทั่วประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ Plan B และ MACO ได้ตัดสินใจร่วมมือกันลงทุนในแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่สอดคล้องกับกฎระเบียบมากที่สุดในภูมิภาค แพลน บี เป็นผู้ให้บริการโฆษณาสื่อโฆษณานอกบ้านด้วยแพลตฟอร์มนวัตกรรมที่หลากหลาย ประกอบกับธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมที่แข็งแกร่ง ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ธุรกิจด้านอาร์ทติส เมเนจเม้นท์ และธุรกิจเกมในประเทศไทย และ บริษัท มาสเตอร์แอด จำกัด (มหาชน) ("MACO") มีพื้นที่สำหรับการโฆษณากว่า 2,000 แห่งที่ครอบคลุมมากที่สุด การลงทุนจากบริษัทสื่อโฆษณาชั้นนำทั้งสองแสดงถึงความเชื่อมั่น ความไว้วางใจในสินทรัพย์ดิจิทัล และแนวโน้มการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะมีต่อสังคมในอนาคต

นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex ประเทศไทย กล่าวว่ามีความเชื่อมั่นว่าปี 2564 เป็นปีแห่งสินทรัพย์ดิจิทัล โดยในปีที่แล้ว Zipmex ประสบความสำเร็จในการระดมทุนมากกว่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำโดย Jump Capital บริษัทการลงทุนสัญชาติอเมริกันที่มีบริษัทพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งรวมถึง TradingView ซอฟต์แวร์สร้างแผนภูมิบนคลาวด์ และซอฟต์แวร์โซเชียลเน็ตเวิร์กสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และนักลงทุนระดับสูง

ขณะที่ปริมาณการซื้อขาย Zipmex ครึ่งปีแรกมีมูลค่ากว่า 62 พันล้านบาท โดยสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากธุรกิจของไทย และคาดว่าจะมีการเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งสัดส่วนนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตกว่า 2,540% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และได้มีการวางแผนขยายการเติบโตอีก 310% สำหรับการซื้อขายในช่วงที่เหลือของปี 2564

"Zipmex ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมผ่านคริปโทฯ เช่นเดียวกับการใช้คริปโทฯ ในชีวิตประจำวันของเรา นอกจากนี้เรายังคงมีการขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างการเงิน และไลฟ์สไตล์ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Plan B และ MACO ได้มอบความไว้วางใจที่สำคัญเช่นนี้ให้กับเรา"

ด้านนายพินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ("Plan B") กล่าวว่า "เราเชื่อมั่นว่า Zipmex เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีทีมงานที่มีความสามารถในอุตสาหกรรมนี้ พร้อมกับมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มเปิดตัว เราพร้อมที่จะสนับสนุนการเติบโตของ Zipmex ผ่านช่องทางสื่อโฆษณาของเรา การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดและสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศของเราในธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม ซึ่งรวมถึงธุรกิจสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ธุรกิจด้านอาร์ทติส เมเนจเม้นท์ และธุรกิจเกม เรามั่นใจว่าการลงทุนและการเป็นหุ้นส่วนครั้งนี้จะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Plan B "

เกี่ยวกับ Zipmex (ซิปเม็กซ์)

"ซิปเม็กซ์" เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานในประเทศไทย รวมถึงประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย โดยมุ่งเน้นมุ่งเน้นการให้บริการนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน
#3447


บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ AQUA แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส2ปี 2564 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 11.33 ล้านบาท ลดลง 10.94%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.26 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทมีรายได้รวม 206.57 ล้านบาท ลดลง10.44% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 230 ล้านบาท เพราะ รายได้อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนลดลง18%

ทั้งนี้เหตุผลหลักจากการบอกเลิกสัญญาเช่ากบั The Cabin และให้ส่งคืนพื้นที่โครงการทั้งหมด บริษัทย่อยหยุดรับรู้รายได้ตั้งแต่ พ.ย. 2563 เป็นต้นไป ส่วนคลังสินค้าให้เช่าและบริการของ TCDC รายไดเ้พิ่มขึ้นตามสัญญาเช่าระยะยาว


รวมถึรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป( EP)ลดลง 66.40% เพราะ ธุรกิจพลังงานมีรายได้ลดลงจากการจำหน่ายโครงการผลิตไฟฟ้าไปหลายโครงการในปี2563 และมีการบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามEP จะรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานจากการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมของSSUT ในไตรมาสที่3ปี 2564 และคาดว่าในไตรมาสที่4ปี 2564 โครงการพลังงานลมที่ประเทศเวียดนามจะเริ่มCOD เริ่มรับรู้รายได้แล้ว
#3448


เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟสาวขวัญใจชาวไทย พลาดเสีย 2 โบกีติดๆ ในหลุม 17 และ 18 ทำสกอร์อีเวนต์พาร์ รวมสามวันมี 9 อันเดอร์พาร์ ยังเป็นผู้นำ แต่มี 2 ก้านเหล็กทำสกอร์ขึ้นมาทาบ ด้าน อาฒยา ฐิติกุล รั้งที่ 4 ร่วม ตามแค่ 1 สโตรก ศึกสกอตติช โอเพ่น 

ศึกกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ "ทรัสต์ กอล์ฟ วีเมนส์ สกอตติช โอเพ่น" ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 50 ล้านบาท ที่สนามดุมบาร์นีย์ ลิงค์ส ประเทศสก็อตแลนด์ ระยะ 6,584 หลา พาร์ 72 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยในวันที่สาม

ปรากฎว่า "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล ก้านเหล็กสาวขวัญใจชาวไทย อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2018 ที่ขึ้นมาเป็นผู้นำเดี่ยวในวันที่สอง วันนี้มาพลาดเสีย 2 โบกีติดๆ ในหลุม 17 และ 18 จบที่อีเวนต์พาร์ รวมสกอร์สามวันมี 9 อันเดอร์พาร์ ยังคงเป็นผู้นำ แต่มีอีก 2 โปรกอล์ฟ ที่ขึ้นมาทาบนำร่วม ได้แก่ ไรอันน์ โอ ทูเล่ จากสหรัฐอเมริกา และชาร์ลีย์ ฮัลล์ จากอังกฤษ

ขณะที่ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล ดาวรุ่งสาววัย 18 ปี วันนี้ทำไป 2 อันเดอร์ รวมสกอร์สามวันมี 8 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 4 ร่วมกับ แอชเลจ์ บูไฮ ก้านเหล็กจากแอฟริกาใต้

ส่วนผลงานของโปรกอล์ฟสาวไทยคนอื่นๆ "โปรจูเนียร์" จัสมิน สุวัณณะปุระ เก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ รวมสามวัน 4 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 12 ร่วม, "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ วันนี้เก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ รวมสามวัน 3 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 15 ร่วม, "โปรพริม" พริมา ธรรมรักษ์ วันนี้จบอีเวนต์พาร์ รวมสามวัน 2 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 25 ร่วม ด้าน "โปรเหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ สกอร์รวมสามวันมีอีเวนต์พาร์ รั้งอันดับ 37 ร่วม
#3449


ริมถนนนักลงทุน เสิร์ฟความเคลื่อนไหวแวดวงตลาดหุ้น หนึ่งความเคลื่อนไหวน่าสนใจ ยกให้ 'หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล' ที่หลายตัวประกาศงบไตรมาส 2 ปี 64 ออกมา 'โดดเด่น' หลังได้รับผลกระทบเชิงบวกจากโควิด-19 ตัวเลขติดเชื้อพุ่ง

๐ หากดูงบไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ทยอยออกมา หนึ่งในธุรกิจที่มีผลดำเนินงานเติบโต 'โดดเด่น' ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 คงต้องยกให้ 'ธุรกิจโรงพยาบาล' สะท้อนผ่านกำไรสุทธิสองโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อย่าง บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS โชว์กำไรสุทธิ 1,452.16 ล้านบาท เติบโต 217% จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 457.82 ล้านบาท 

๐ ขณะที่ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือ BCH คาดมีโอกาสกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 จะออกมาดีกว่าคาด 180% จากไตรมาสก่อน และ 225% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังหลายโรงพยาบาลที่ประกาศออกมาแล้วดีกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญจากรายได้เกี่ยวเนื่องกับ COVID-19 ที่พุ่งขึ้น ฟาก 'กูรู' เชื่อว่ากลุ่มโรงพยาบาลยังคงได้รับผลกระทบเชิงบวกจากภาวะ COVID-19 ที่ยังคงรุนแรง และยังคงคำแนะนำ 'ซื้อ' ทุกบริษัท 

๐ หุ้น ไซแมท เทคโนโลยี หรือ SIMAT มีเสน่ห์อะไร ? ถึงดึงดูด 'นักธุรกิจ-นักลงทุน' อย่าง 'สุระ คณิตทวีกุล' ครอบครองหุ้น SIMAT จำนวน 15,466,000 หุ้น คิดเป็น 2.38% แต่ที่ชัวร์คือธุรกิจของ SIMAT กำลังเทิร์นอะราวด์อย่างสวยงาม สะท้อนผ่านผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 17.08 ล้านบาท !! ส่วนรายได้อยู่ที่ 257.40 ล้านบาท

๐ และล่าสุดคว้า 'ธีรวุฒิ กานต์นิภากุล' อดีตรองผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Equity Derivative บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เข้ามารับตำแหน่ง 'ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน' ของ SIMAT เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรแห่งนี้ใหม่และแสวงหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น New S-Curve เหมือนอย่างที่ 3 ปีก่อน ที่บริษัทซื้อกิจการ บริษัท ฮินซิซึ (ประเทศไทย) หรือ HST ถือหุ้น 70% ซึ่งในปัจจุบันกำลังสร้างกำไรให้เป็นกอบเป็นกำ !!




๐ ผลดำเนินงานเติบโตยังไม่แผ่ว 'ตัน ภาสกรนที' นายใหญ่ บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป หรือ ICHI หลังแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 กำไรสุทธิ 164.3 ล้านบาท และรายได้ 1,492.7ล้านบาท งานนี้ 'เฮียตัน' บอกว่า รายได้-กำไรสุทธิเติบโตจากการปรับกลยุทธ์สู้โควิด-19 ส่งผลิตภัณฑ์เจาะตลาดค้าปลีกรายย่อย และกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเจาะตลาดต่อเนื่อง มุ่งขยายฐานลูกค้า พร้อมจัดทัพสินค้าสุขภาพบุกตลาดในครึ่งปีหลัง เตรียมรับข่าวดีจาก 'ธุรกิจรับจ้างผลิต' (OEM) ที่จะปิดดีลเพิ่มภายในปีนี้

๐ ผลงานไตรมาส 2 ปี 2564 ยังสวยงามต่อเนื่อง ล่าสุด 'กลุ่มเจมาร์ท' โชว์กำไรสุทธิ 232.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,648.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% งานนี้ 'อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา' เจ้าของอาณาจักร บมจ. เจ มาร์ท หรือ JMART การันตีการเติบโตนั้นมาจากธุรกิจด้านการเงินที่เป็นหัวหอกในการส่ง "กำไร" เข้ามาต่อเนื่อง พร้อมมองผลงานครึ่งปีหลังยัง 'ร้อนแรง' ต่อเนื่องอีก 



๐ แม้สถานการณ์โควิด-19 รุนแรง แต่ 'อดิศักดิ์' ณ กลุ่มเจมาร์ท ไม่หวั่น !! หลังบริษัทปรับกลยุทธ์ใหม่ นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นขับเคลื่อนในธุรกิจยุคดิสรัปฯ หนุนโอกาสโตกระโดดจากความพร้อมในการ Synergy การพัฒนาเทคโนโลยีและฟินเทคที่เริ่มเห็นภาพชัดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ขณะที่แผนจับมือพันธมิตรจะเริ่มเห็นความคืบหน้าในเร็วๆ นี้แล้ว 

๐ ข่าวร้ายของคนรัก 'ทองคำ' หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุด 2 แนวรับสำคัญ 1,790 และ 1,751 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เหตุตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด ส่งผลดอลลาร์สหรัฐเริ่มแข็งค่าสวนทางทองคำ คาดอาจเป็นสัญญาณให้เฟดลดการทำ QE ภายในสิ้นปีนี้ และนี่อาจจะกำลังส่งสัญญาณราคาทองคำเข้าสู่ 'ขาลง' ชัดเจนหรือเปล่า... 'ฐิภา นววัฒนทรัพย์' หญิงเก่ง บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) แนะนำสำหรับคนที่ต้องการขายเพื่อลดความเสี่ยง มองว่าสามารถขายได้ที่แนวต้าน 1,751-1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 27,700 บาท จุดนี้ถือเป็นแนวต้านระยะสั้นสำคัญ
#3450


สุดรันทดคุณยายม่าวัย 87 ปี ตัวคนเดียวไร้ญาติ น้ำท่วมทุกครั้งที่ฝนตกหรือน้ำทะเลหนุน อาศัยอยู่บนเตียงหลบสัตว์มีพิษ ดร. ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา เจ้าของเพจ "นางฟ้าของผู้สูงวัย" ลุยช่วย เบื้องต้นเยียวยาข้าวสารอาหารแห้งพร้อมเงินจำนวนหนึ่ง อึ้งคุณยายเคยคิดสั้นฆ่าตัวตายแต่ได้รูป สคส เพชรา เชาวราฎร์ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

ด้าน ดร ม่านฟ้าเปิดเผยว่า
"พอดีม่านทราบข่าวจากทีมงานมีผู้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือเป็นคุณยายอายุ87ปี ไม่มีลูกหลาน เพราะมาจากเมืองจีนตั้งแต่เด็ก ญาติพี่น้องก็เสียชีวิตหมดแล้ว อาศัยอยู่ในชุมชนบ่อดิน ถ แพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ เวลาน้ำท่วมก็จะท่วมเข้าบ้าน คุณยายก็จะหลบพวกสัตว์มีพิษอยู่บนเตียง รอให้เพื่อนบ้านมาวิดน้ำออกให้ ที่แย่ไปกว่านั้นนะค่ะ คุณยายเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่ได้รูป สคส ของคุณเพชรา เชาวราษฎร์ เก่ามากรูปถ่ายนี้น่าจะ50-60ปีได้ เป็นรูปที่คุณยายรักมากและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคุณยายค่ะ

ทุกวันนี้คุณยายบอกว่า ทำชีวิตให้มีความสุข ไม่คิดฆ่าตัวตายแล้ว คุณยายพิการเคยถูกรถชนขาหักและล้มสะโพกหัก มีเงินเดือนคนชราและผู้พิการรวม1500บาท เบื้องต้น ม่านช่วยข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม โจ๊กซอง และอีกหลายๆอย่างน่าจะประทังชีวิตได้นานพอสมควร และได้เงินจำนวนหนึ่งให้ยายเก็บไว้ใช้จ่ายค่ะ หากใครมีจิตศรัทธาอยากจะช่วยยายเพิ่มเติม สามารถติดต่อมาที่ เพจ "นางฟ้าของผู้สูงวัย" หรือเฟสบุคส่วนตัวของม่าน "ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา" ได้เลย หรือจะเข้าไปช่วยคุณยายได้ที่ ชุมชนบ่อดิน ถ แพรกษา จ สมุทรปราการ อาศัยอยู่หลังคลีนิคทันตกรรม ถามชาวบ้านแถวนั่นได้ทุกคนรู้จัก คุณยายเป็นคนน่ารักอารมณ์ดีค่ะ" ม่านฟ้า กล่าว
#3451


บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด จัดกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านมาแอดไลน์เป็นเพื่อนกับบริษัทกลางฯ ผ่านไลน์ @iRVP ลุ้นรับหมวกนิรภัย มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฟรี จำนวน 50 ใบ ทุกสัปดาห์ กติกาง่ายๆ เพียงแค่มาเป็นเพื่อนกับบริษัทกลางฯ ที่ Line Official Account พิมพ์ @iRVP หรือคลิกเพิ่มเพื่อนผ่านลิงค์ http://rvp.co/LineiRVPหรือจะสแกนผ่าน QR Code ก็ได้ ร่วมสนุกได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2564 ประกาศรายชื่อผู้โชคดี ผ่าน Facebook page บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และที่ไลน์ @iRVP หลังจากนั้นบริษัทกลางฯ จะจัดส่งหมวกนิรภัยไปให้ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ หลังจากประกาศผลรางวัล

Line @iRVP จะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกคนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือต่อประกันภัย พ.ร.บ., ตรวจสอบสิทธิความคุ้มครอง หรือแจ้งอุบัติเหตุ

ไม่อยากพลาดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ อย่าลืมแอดมาเป็นเพื่อนกับเราที่ ไลน์ @iRVP ของบริษัทกลางฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะมาอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ในยุค New Normal ที่ต้องเลี่ยงการสัมผัส "สะดวก รวดเร็ว ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา" อยู่ที่ไหนก็ทำได้ และได้รับความคุ้มครองทันที สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call center บริษัทกลางฯ โทร. 1791 ตลอด 24 ชั่วโมง
#3452


วันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. นางวัลยา วัฒนรัตน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตสาทร โดยมี ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตสาทร ทีมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลเลิดสิน ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล ณ ศูนย์กีฬาเขตสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร

ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตสาทร ใช้พื้นที่อาคารศูนย์กีฬาเขตสาทร สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 166 เตียง แบ่งเป็น ผู้ป่วยชาย 60 เตียง ผู้ป่วยหญิง 106 เตียง โดยมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลเลิดสิน และศูนย์บริการสาธารณสุข 14 แก้วสีบุญเรือง เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย คาดว่า จะสามารถเปิดรับผู้ป่วยได้ในวันที่ 14 ส.ค. 64 นับเป็นศูนย์พักคอยฯ แห่งที่ 2 ในพื้นที่เขตสาทร โดยศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตสาทร แห่งที่ 1 ตั้งอยู่ที่อาคารศูนย์เรียนรู้พระพุทธศาสนาและการพัฒนาสังคม วัดสุทธิวราราม ซึ่งเป็นศูนย์พักคอย 1 ใน 7 แห่ง ที่กรุงเทพมหานครเตรียมขยายศักยภาพในการรองรับผู้ป่วย โดยได้ปรับเป็นศูนย์พักคอยกึ่งโรงพยาบาลสนาม (Community Isolation plus : CI plus) เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีอาการระดับสีเหลืองได้รับการรักษาเพิ่มขึ้น

กรุงเทพมหานครได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ หรือ Community Isolation เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่า ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต โดยมีเป้าหมายเปิดศูนย์พักคอยฯ ให้ได้มากที่สุด เพื่อแยกผู้ป่วยโควิด-19 ออกมาจากบ้าน นำมาพักคอยที่ศูนย์ฯ มีการคัดกรองอาการและดูแลเบื้องต้น เพื่อรอการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาล หากมีอาการแย่ลง ลดปัญหาการแพร่ระบาดและติดเชื้อของคนในครอบครัวและชุมชน ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อโควิด-19 สามารถโทร.ติดต่อสายด่วน 1330 หรือ สายด่วนโควิด 50 เขต เขตละ 20 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับการประเมินเข้าสู่ระบบการรักษาแบบแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) หรือเข้าพักที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) หรือโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
#3453


"สถาบันการเงิน" ภายใต้กฎหมาย "คุ้มครองเงินฝาก" จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝากลดลงมาอยู่ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน จากเดิมที่คุ้มครองในวงเงิน 5 ล้านบาท ตั้งแต่ 11 ส.ค. 64 เป็นต้นไป

มีการตั้งข้อสังเกตว่าการปรับลดการคุ้มครองเงินฝากหวยออนไลน์ในครั้งนี้ กำลังบ่งบอกว่าสถาบันการเงินกำลังสั่นคลอนหรือไม่ ทว่าตามหลักการและข้อมูลที่ปรากกฎในตอนนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

การลดการคุ้มครองเงินฝากเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง เมื่อเห็นควรว่าต้องมีการปรับลดการคุ้มครองเงินฝากลงตามสถานการณ์ทางการเงินของประเทศ ปัจจัยอื่นๆ ทำให้ก็มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ ตามยุคสมัย

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" พาไปดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการฝากเงิน ที่คนที่กำลังฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทั้งหลายต่อรู้ หลังจากที่มีการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาท ที่คนฝากเงินต้องรู้

 1. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เกี่ยวข้องกับผู้ฝากเงินอย่างไร ? 

"สถาบันคุ้มครองเงินฝาก" จะมีบทบาท เมื่อสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยจะทำการจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ฝากเงินตามวงเงินคุ้มครองไปก่อน โดยผู้ฝากไม่ต้องรอให้กระบวนการชำระบัญชีเสร็จสิ้น

หมายความว่า เมื่อธนาคารที่ฝากเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต ประชาชนจะได้รับวงเงินตามเกณฑ์คุ้มครอง คืนโดยเร็ว จากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก โดยปัจจุบันจะไ้ด้รับวงเงินคืนไม่เกิน 1 ล้านจาก สถาบันคุ้มครองเงินฝาก 

พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อธนาคารที่เราฝากเงินล้ม เนื่องจากเพิกถอนใบอนุญาต ประชาชนที่ฝากเงินจะได้รับเงินส่วนที่ฝากอยู่คืนครบทั้งหมด ตามวงเงินที่ "สถาบันคุ้มครองเงินฝาก" กำหนดนั่นเอง



 2. คุ้มครองเงินฝากสูงสุดเท่าไร ? 

ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นวงเงินที่กำหนดตามกฎหมาย 

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่มีกฎหมายการคุ้มครองเงินฝากในประเทศไทย ก็มีการลดความคุ้มครองลงเรื่อยๆ จากเดิมก่อน 10 ส.ค. 2554 มีการคุ้มครองเงินฝากในบัญชีเงินฝากของผู้ฝากเงินที่เป็นเงินสกุลบาทแบบ "เต็มจำนวน" 

นับตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2554 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 10 ส.ค. 2555 ลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากลงมาเหลือไม่เกิน 50 ล้านบาท

ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2558 เป็นต้นมา ลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากลงเหลือไม่เกิน 25 ล้านบาท และปรับลดลงมาเรื่อยๆ ดังนี้ 

11 ส.ค. 58 - 10 ส.ค. 59 วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 25 ล้านบาท

11 ส.ค. 59 - 10 ส.ค. 61 วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 15 ล้านบาท

11 ส.ค. 61 - 10 ส.ค. 62 วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 10 ล้านบาท

11 ส.ค. 62 - 10 ส.ค. 64  วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 5 ล้านบาท

11 ส.ค. 64 เป็นต้นไป วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 1 ล้านบาท


 3. การคุ้มครองเงินฝาก ครอบคลุมสถาบันการเงินใดบ้าง ? 

การคุ้มครองเงินฝากโดยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ครอบคลุม ธนาคารพาณิชย์ไทย 18 แห่ง สาขาธนาคารต่างประเทศ 12 แห่ง บริษัทเงินทุน 2 แห่ง และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 35 แห่ง

ตรวจสอบรายชื่อสถาบันการเงินที่มีการคุ้มครองเงินฝาก คลิกที่นี่ 

 

 4. สถาบันการเงินที่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก 

สถาบันการเงินที่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก เนื่องจากมีรัฐบาลเป็นผู้คุ้มครองเงินฝากให้ หากสถาบันการเงินดังกล่าวเกิดปัญหาขึ้นรัฐบาลจะเป็นผู้ดูแลเอง ประกอบด้วย 4 ธนาคาร ได้แก่ 

- ธนาคารออมสิน

- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

- ธนาคารอาคารสงเคราะห์

- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

 5. การคุ้มครองเงินฝาก ไม่ได้คุ้มครองทุกประเภทบัญชี 



 6. ผู้ได้รับผลกระทบจากการลดความคุ้มครองเงินฝากจาก 5 ล้านเหลือ 1 ล้านบาท 


การคุ้มครองเงินฝาก ณ ทีนี้จะคุ้มครอง บัญชีเงินฝาก 5 ประเภท ได้แก่ 

1) เงินฝากกระแสรายวัน
2) เงินฝากออมทรัพย์
3) เงินฝากประจำ
4) บัตรเงินฝาก 
5) ใบรับฝากเงิน

ไม่คุ้มครองบัญชีเงินฝากบางประเภท และบัญชีอื่นๆ เช่น

- เงินฝากประเภทที่เป็นเงินตราต่างประเทศ
- เงินลงทุนในตราสารต่าง ๆ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หน่วยลงทุน (SSF, RMF)
- เงินฝากในสหกรณ์
- แคชเชียร์เช็ค ตั๋วแลกเงิน
- เงินอิเล็กทรอนิกส์ 
- ผลิตภัณฑ์ประกันประเภทออมทรัพย์ ที่ออกโดยบริษัทประกัน


 7. ผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการลดความคุ้มครองเงินฝากจาก 5 ล้านเหลือ 1 ล้านบาท 


 8. วิธีปฏิบัติเมื่อสถาบันการเงินที่มีเงินฝากอยู่ ถูกเพิกถอนใบอนุญาต 

เมื่อกระทรวงการคลังประกาศเพิกถอนใบอนุญาตสถาบันการเงิน ผู้ฝากเงินไม่ต้องดำเนินการใด ๆ และไม่จำเป็นต้องมายื่นคำขอรับเงินแต่อย่างใด โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะทำหน้าที่จ่ายคืนเงินให้กับผู้ฝากภายใน 30 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด 


 9. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ผูกไว้กับบัญชีกองทุนหรือประกัน ได้รับความคุ้มครองหรือไม่ ? 

บัญชีเงินฝากที่ผูกไว้กับบัญชีกองทุนหรือประกัน จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะในส่วนของเงินฝากออมทรัพย์


 10. วิธีดูว่าสถาบันการเงินที่เราฝากเงินยังมีสุขภาพดีหรือไม่ 



ที่มา: dpa.or.th สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
#3454


เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชิคาโก สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี(12ส.ค.) รายงานพบเคสผู้ติดเชื้อ 203 รายเกี่ยวข้องกับเทศกาลดนตรีประจำปี "ลอลลาพาลูซา" แต่ระบุไม่เกินความคาดหมาย และยังไม่พบความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรพยาบาลหรือเสียชีวิต

"ไม่มีอะไรที่เกินความคาดหมาย" แพทย์หญิงแอลลิสัน อาร์วาดี คณะกรรมการกรมสุขภาพชิคาโกกล่าวระหว่างแถลงข่าว "ไม่มีสัญญาณว่ามันเป็นกิจกรรมซูเปอร์สเปรดเดอร์" เธอระบุ "แต่ชัดเจนว่าด้วยที่มีประชาชนหลายแสนคนเข้าร่วมลอลลาพาลูซา เราจึงคาดหมายว่าคงมีเคสติดเชื้อโควิด-19 อยู่บ้าง"

เทศกาลดนตรีประจำปี 4 วัน ซึ่งจัดขึ้นเมื่อราวๆ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ดึงดูดผู้คนราวๆ 385,000 คนมายังสวนสาธารณะริมทะเลสาบแห่งหนึ่ง กระตุ้นให้ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามว่าทำไมถึงจัดกิจกรรมในช่วงเวลาเกิดโรคระบาดใหญ่เช่นนี้ ทั้งที่ปีที่แล้วได้ยกเลิกไปสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ภาพวิดีโอที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์พบเห็นฝูงชนอัดแน่นตามเวทีคอนเสิร์ตและระบบคนขนส่งสาธารณะ ระหว่างนั้นพบเห็นผูุ้คนสวมหน้ากากป้องกันโควิด-19 แค่ประปราย

อย่างไรก็ตามลอรี ไลท์ฟูต นายกเทศมนตรีและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ปกป้องการตัดสินใจอนุญาตให้จัดกิจกรรม ระบุว่ามีการบังคับใช้กฎระเบียบด้านความปลอดภัยต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงผู้เข้าร่วมต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือมรผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และทางเจ้าหน้าที่เผยว่ามีราวๆ 90% ที่ฉีดวัคซีนแล้ว



อาร์วาดี ระบุว่าในบรรดาเคสผู้ติดเชื้อนั้น มีทั้งบุคคลที่มีผลตรวจเป็นบวกหลังหรือระหว่างร่วมเทศกาลลอลลาพาลูซา ซึ่งอาจสรุปได้ว่าหลายคนที่เดินทางมาร่วมเทศกาลดนตรีติดเชื้อตั้งแต่ก่อนมาถึง

เธอบอกว่าทางเมืองยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนเคสต่างๆ แต่คาดหมายว่ามันคงไม่ส่งผลกระทบสำคัญๆใดๆต่ออัตราการติดเชื้อโควิด-19

ในบรรดาผู้มีที่ผลตรวจเชื้อเป็นบวกนั้น เจ้าหน้าที่เมืองระบุว่ามี 138 คน มาจากเมืองอื่นๆในรัฐอิลลินอยส์ 58 คนเป็นพลเมืองของเมืองชิคาโก และ 7 คนมาจากรัฐอื่น ทั้งนี้เกือบ 80% ที่มีผลตรวจเป็นบวกมีอายุต่ำกว่า 30 ปี และราว 62% เป็นคนผิวขาว

(ที่มา:เอพี)
#3455


นางอาภัสรา ภาณุพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT เปิดเผยถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทั่วประเทศ ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาครัฐ ยังคงเข้มมาตรการลดความแออัดในที่สาธารณะและปูพรมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วประเทศ ลดโอกาสการแพร่ระบาดและติดเชื้อไวรัสโควิด-19

SVT ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ แบรนด์ SUN Vending พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันและร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อฟันฝ่าสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้ โดย SVT ได้นำ Vending Machine จำนวน 4 เครื่อง ที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องดื่ม, ขนมขบเคี้ยว, อุปกรณ์เสริมสำหรับมือถือ,หน้ากากอนามัย, น้ำยาฆ่าเชื้อ และเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น ไปติดตั้งบริการบริเวณประตูทางเข้าที่1 และ 3 สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้มีเครื่องดื่ม หรือขนมขบเคี้ยวรับประทาน เพิ่มความสดชื่นและมีพลังระหว่าที่รอคิดเข้ารับการฉีดวัคซีน 

โดยสินค้าทั้งหมดภายในตู้ SVT ได้ร่วมมือกับคู่ค้า นำสินค้าคุณภาพมาตรฐานมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ เพื่อลดภาระค่าครองชีพ แบ่งเบาภาระคนไทยช่วงวิกฤตโควิด-19 รวมถึงยังเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น



สำหรับ Vending Machine ทั้ง 4 เครื่อง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เหมาะสำหรับยุค New Normal ตัวเครื่องรองรับการชำระค่าสินค้าผ่าน Cashless Payment ต่างๆ อาทิ พร้อมเพย์, TrueMoney Wallet, Rabbit Line Pay รวมถึงเงินสดทั้งเหรียญและธนบัตร เพื่อความสะดวกรวดเร็วและง่ายสำหรับการใช้บริการของผู้บริโภค โดยเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติทุกเครื่อง ผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

"SVT ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้า รับมือสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และส่งเสริมให้คนไทยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 อย่างทั่วถึง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประเทศไทยก้าวผ่านสถานการณ์โควิด-19 กลับคืนสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด" นางอาภัสรา กล่าว

ขณะที่ นายพิศณุ โชควัฒนา รองผู้อำนวยการสายงานการผลิต บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT กล่าวว่า การนำ Vending Machine ทั้ง 4 เครื่อง มาติดตั้งให้บริการที่ศูนย์ฉีดวัคซีน สถานีกลางบางซื่อ ถือเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนได้เป็นอย่างดี ช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐในการจัดหาเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว มาให้บริการประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีน
#3456
 ข้าวออร์แกนิคแฟร์เทรด   ข้าวออแกนิคส่งทั่วไทยคือ#ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวมะลินิลorganic คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิคเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก   ข้าวหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์   เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6daqhyo0am1a6t.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิสุขภาพ
3.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลออแกนิค
4.  ข้าวหอมมะลิผสมหลายสายพันธุ์อินทรีย์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค7. ข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อสุขภาพ 


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 
 
#3457


นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM Drama-Addict เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.) ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 201 ล้านบาท ทั้งนี้กำไรของบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้นกว่าระลอกที่ผ่านมา โดยในไตรมาสนี้รายได้จากการดำเนินงานจำนวน2,403 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 86 ล้านบาท หรือ 3.5% แต่ด้วยการบริหารจัดการด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดทำให้กำไรสุทธิเพิ่มจากปีก่อน 49 ล้านบาท หรือ 32.2%

โดยบริษัท มีรายได้จากค่าผ่านทาง ลดลง 103 ล้านบาท รายได้จากค่าโดยสารและรับจ้างเดินรถ ลดลง 15 ล้านบาทขณะที่มีรายได้พัฒนาเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 32 ล้านบาท

สำหรับผลดำเนินงานรอบ 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.)2564 บริษัท มีกำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น จำนวน 506 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 154 ล้านบาท หรือ 23.3% จากผลกระทบการแพร่ระบาด ของโควิด-19 ทำให้ปริมาณจราจรและปริมาณผู้โดยสารลดลง

ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก BEM ยังคงดูแลผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทางพิเศษให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าปริมาณผู้โดยสารและปริมาณจราจรจะฟื้นตัวกลับมาเร็ว เมื่อแนวโน้มการระบาดลดลง และอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น
#3458


ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่เพียงแต่ได้สุดยอดนักเตะเบอร์ 1 ของโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี แบบไม่เสียค่าตัว แต่ชื่อเสียงของเจ้าตัวก็ส่งผลดีให้ยักษ์ใหญ่แห่ง ลีก เอิง ได้แฟนคลับเพิ่มขึ้นแบบอักโขทาง โซเชียล มีเดีย

เพียงแค่วันแรกที่ชูเสื้อเปิดตัว เสื้อหมายเลข 30 ของ เมสซี ในชุดของ เปแอสเช ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนขาดตลาดภายใน 30 นาที แม้จะไม่ใช่เบอร์ 10 อันเป็นเอกลักษณ์ แต่แฟนๆ ก็อยากครอบครองเสื้อซูเปอร์สตาร์คนนี้ล้นหลาม

ไม่เพียงแค่เสื้อแข่ง มีการเปิดเผยด้วยว่ายอดติดตามทางอินสตาแกรมของ เปแอสเช เดิมทีเคยมีผู้ติดตามอยู่ 19.8 ล้านยูเซอร์ แต่พอแข้งวัย 34 ปี ย้ายสู่ ปาร์ค เดอ แปรงส์ ตัวเลขก็พุ่งขึ้นอีก 20.2 ล้านยูเซอร์ ทำให้ตอนนี้ IG ของทีม มียอดติดตามเกิน 40 ล้านยูเซอร์ไปเรียบร้อย
#3459



ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 220.30 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 35,484.97 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 10.95 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 4,447.70 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 22.95 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 14,765.14 จุด


ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่ส่งสัญญาณชะลอตัวในวันนี้ ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี)

นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังสหรัฐเรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อสกัดราคาที่กำลังพุ่งขึ้น ก็ช่วยคลายกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในสหรัฐ

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยระบุว่า ดัชนีซีพีไอ ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.3% หลังจากทะยานขึ้น 5.4% เช่นกันในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

'12 สิงหาคม' เฉลิมพระเกียรติพระอัจฉริยภาพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' ทรงเป็นผู้นำการแต่งกายด้วยผ้าไทย
ไอเดีย'ของขวัญวันแม่'ในยุคโควิด-19 ระบุ 'นมแม่' วัคซีนที่ดีที่สุด
'ลุมพินีวิสดอม'ลุ้นรัฐคุมโควิดปลุกเศรษฐกิจ-ธุรกิจฟื้นปีหน้า
นอกจากนี้ หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนีซีพีไอพื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอพื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 4.5% ในเดือนมิ.ย.

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมดังกล่าว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 220.30 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 35,484.97 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 10.95 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 4,447.70 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 22.95 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 14,765.14 จุด


ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่ส่งสัญญาณชะลอตัวในวันนี้ ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี)

นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังสหรัฐเรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อสกัดราคาที่กำลังพุ่งขึ้น ก็ช่วยคลายกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในสหรัฐ

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยระบุว่า ดัชนีซีพีไอ ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.3% หลังจากทะยานขึ้น 5.4% เช่นกันในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

นอกจากนี้ หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนีซีพีไอพื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอพื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 4.5% ในเดือนมิ.ย.

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมดังกล่าว
#3460


เมื่อวันที่ 10 ส.ค.64 นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยัน การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ปรับลดลงและมีการจำแนกประเภทของการตรวจเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการตรวจด้วยเทคนิคอื่น ๆ เช่น Antigen test ยังมิได้กำหนดอัตราไว้ชัดเจน กรมบัญชีกลางจึงได้หารือร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานประกันสังคม เห็นสมควรกำหนดแนวปฏิบัติ ในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยง หรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ 

1. การตรวจยืนยันการติดเชื้อโควิด 19 

1.1 การตรวจยืนยันการติดเชื้อด้วยวิธี Real time RT- PCR - การทำป้ายหลังโพรงจมูกและลำคอ (nasopharyngeal and throat swab sample) ประเภท 2 ยีน ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาท โดยรวมค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ - การทำป้ายหลังโพรงจมูกและลำคอ (nasopharyngeal and throat swab sample) ประเภท 3 ยีน ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,700 บาท โดยรวมค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
1.2 การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธี Antigen test - ด้วยเทคนิค Chromatography ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 450 บาท โดยรวมค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ - ด้วยเทคนิค Fluorescent Immunoassay (FIA) ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 550 บาท โดยรวมค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
1.3 การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธีอื่น ๆ นอกเหนือจาก 1.1 และ 1.2 ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 550 บาท โดยรวมค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 

2. การเบิกค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล กรณีผู้มีสิทธิฯ ติดเชื้อแต่อาการเล็กน้อย ให้เบิกได้ในอัตรา เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท ต่อวัน 

3. การเบิกค่าห้องพักสำหรับควบคุมหรือดูแลรักษา กรณีผู้สิทธิฯ ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้ 3.1 มีอาการเล็กน้อย (สีเขียว) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาท ต่อวัน 3.2 มีอาการปานกลาง (สีเหลือง) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 3,000 บาท ต่อวัน 3.3 มีอาการรุนแรง (สีแดง) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 7,500 บาท ต่อวัน 

4. กรณีผู้มีสิทธิฯ ต้องเข้ารับการผ่าตัดในสถานพยาบาลของทางราชการและมีความจำเป็นต้องตรวจ คัดกรองการติดเชื้อโควิด 19 ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ค่าตรวจคัดกรองกรณีดังกล่าว สถานพยาบาลของทางราชการสามารถขอเบิกเงินจาก สปสช. ได้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณการตรวจคัดกรองการติดเชื้อโควิด 19 ให้ประชาชน คนไทยทุกกลุ่ม 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับสถานพยาบาลฯ ไม่ต้องแยกทำธุรกรรมในการส่งเบิก ค่าตรวจคัดกรองไปยัง สปสช. โดยอนุญาตให้สถานพยาบาลฯ สามารถส่งค่าตรวจคัดกรองมาพร้อมกับการเบิก ค่ารักษาพยาบาลรายการอื่น ๆ สำหรับวิธีการส่งข้อมูลให้เป็นไปตามหน่วยงานที่กรมบัญชีกลางมอบหมายให้ทำหน้าที่รับส่งข้อมูลเป็นผู้กำหนด โดยที่กรมบัญชีกลางจะจัดส่งข้อมูลค่าตรวจคัดกรองให้ สปสช. ใช้ประมวลผลการจ่ายเงินให้กับสถานพยาบาลของทางราชการโดยตรงต่อไป 

"แนวปฏิบัติในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (เพิ่มเติม) ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้การ เบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ" อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว