พูดอย่างไร ให้ได้ใจคนฟัง ให้เขารักพวกเรา

[deam205]

1. เริ่มประโยค ด้วยความคุ้นเคย

อาจจะเป็นการสอบถามส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความประสงค์ดีแล้วก็ตั้งใจในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำอ่อนโยน เหมาะสม และนุ่มนวลด้วยนะคะ "คืออะไรบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา

ไปเที่ยวไหนมาบ้ า งขา" การใช้ความเป็นกันเองจะก่อให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่ อ น คลายแล้วก็เป็นมิตรด้วยนะคะ อีกเรื่องคืออวัจนะภาษาค่ะ ลักษณะท่าทางการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก


กริ้วหว่างดวงตาพวกเราหรือการสัมผัสอะไรบางอย่างอย่างเช่น การสัมผัสไหล่เพื่อให้กำลังใจ การจับมือเพื่อปลอบประโลมปะโลม ปรบมือให้เพื่อให้แรงใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณและก็เค้าเข้าถึงกันได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม

2. ฝึกหัดพูด คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"

เนื่องจากคำว่า"ไม่" มันพูดให้ดูดีย า ก บอกให้คำจำกัดความเป็นบวกได้ย า กมากมาย คำบางคำเป็นคำที่มักประยุกต์ใช้ทำร้ า ย จิตใจคนอื่น แสดงถึงความไม่พึงพอใจในตัวเขาหรืองานของเขา คนจำนวนไม่น้อยใช้คำนี้จนถึงติดจนเป็นนิสัยซึ่ง

ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะค่ะ อย า กให้ลองแปลงวิธีการใช้มันมองนะคะ อาทิเช่น "ทดลองทำแบบนี้ดูดีไหม" "อย่างนี้ก็ดีแล้วนะ ถ้าเกิดเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณมีความรู้สึกว่าจะเป็นอย่างไรค่ะ" หมายความว่า พวกเรามิได้ปฏิเสธความคิดของอีกข้างแต่ทดลองเสนอแนะเพิ่มอีกเหมือนการแนะนำเขา

3. มองให้ได้ 3 มุม

การพูดเป็นดั่งดาบ 2 คม ไม่ทิ่มแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"สิ่งเดียวบางทีอาจน้อยเกินไป คุณจะต้องฝึกหัดกรรมวิธีการการคิดอย่างมีสติรวมทั้งพินิจพิจารณาไปพร้อมๆกันด้วยจ้ะ

มองว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนอย่างไร เรื่องไหนควรจะกล่าว เรื่องไหนไม่สมควรพูด แต่ที่สำคัญไปๆมาๆกกว่านั้น ทุกคราวถ้าจะมีการติเตียน ตัดเตือน ปรับแต่งข้อบกพร่องของงาน ให้ทดลองมองดูให้ได้ 3 มุม


1. มุมของเรา : พวกเราเห็นว่ายังไง ในตำแหน่ง หน้าที่พวกเรา เราควรมองดูแบบไหน จัดการกับปัญหาอย่างไร


2. มุมของเค้า : ถ้าพวกเราเป็นเค้าพวกเราจะทำยังไง หากพวกเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดนอย่างนี้เช่นกันเราจะรู้สึกยังไง แล้วเราจะขจัดปัญหานั้นแบบไหน

3. มุมของบุคคลที่3 หรือคนอื่นๆที่มอง 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน ปัญหาคืออะไร เล็ก ใหญ่ขนาดไหน ขนาดที่จำเป็นต้องทะเลาะกันเลยแบบนั้นหรือ ทะเลาะด้วยหัวข้อนี้เหตุผลมาจากอะไร เป็นต้น

ถ้าคุณมองดูให้ได้ครบทุกมุม คุณจะแลเห็นทุกด้านของความคิด รู้เรื่องเค้า รู้เรื่องเรา เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดมากขึ้นเรื่อยๆ

4. อย่าว่ากล่าวผู้ใด ต่อหน้าต่อตาบุคคลอื่น

ไม่มีใครถูกใจการเช็ดกตำหนิค่ะ พวกเราก็เช่นเดียวกันใช่ไหมล่ะขา ยิ่งโดนด่าทอต่อหน้าต่อตาผู้อื่นด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ โกรธแค้นแสนรุนแรงเสียเหลือเกินจริงๆการด่าคนไหนเฉพาะหน้าบุคคลอื่นมันเป็นการตั้งใจฉีกหน้าเค้าให้พังยับจำพวกที่เรียกว่า

ผู้ที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปกระทั่งวันต า ย อย่างยิ่งจริงๆ และก็ความข้องเกี่ยวระหว่างคุณแล้วก็เค้าจะเสียไปในทันทีทันใด ท้ายที่สุดแล้วไม่มีฝ่ายไหนชนะ ไม่มีผู้ใดได้ประโยชน์จากการทำอย่างนี้จ้ะ ด้วยเหตุนี้แล้วถ้าหากไม่ใช่เรื่องที่มีผลกระทบต่อสาธารณะแนะนำว่าไม่สมควรกระทำอย่างยิ่งจ้ะ

5. มีศิลปกรดู

ดูเมื่อเค้าทำดี ปฏิบัติงานได้ดิบได้ดี ช่วยเหลือคนอื่น ส่งผลงานที่ดี ประพฤติชอบ คุณก็ควรดูเค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจที่ปรารถนาดี คำพูด คำจา น้ำเสียงที่ดี ใบหน้าดีใจพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย เนื่องจากสิ่งกลุ่มนี้มีผลต่อความรู้สึกมากนะคะ คนที่ถูกชมเค้าจะเสมือนได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงผลักดัน มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดียอดๆขึ้นไป

การมีนายช่างชมที่ดีนั้น ไม่มีความจำเป็นจำเป็นต้องดูที่ผลงานของเค้าเท่านั้นจ้ะ อย า กให้ทดลองดูความน่ารักน่าเอ็นดูของเค้า ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความเอาใจใส่ที่เค้ามีต่อคุณ ดูอาภรณ์


ชมพาหนะ ชมกระเป๋าถือเค้า หรือสิ่งรอบๆตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสุขให้เค้าได้แล้ว แล้วก็เค้าจะเกิดภาคภูมิใจเกิดความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วเขาจะรักพวกเรา แม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธพวกเราค่ะ ทดลองดูนะคะ

6. อย่ารั ก ษ า น้ำใจด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง

บางบุคคลเข้าใจผิดว่าการบอก"รั ก ษ า ความมีน้ำใจ"เป็นการบอกในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อให้เค้ารู้สึกดี และก็บางโอกาสมนุษย์เรา ก็ชอบที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตน)มากกว่ารั ก ษ า น้ำใ

ก็เลยเลือกพูดไปในสิ่งที่มันไม่จริงเนื่องจากกลัวว่าถ้าเกิดเราพูดเรื่องจริงไป"พวกเราจะดูแย่ และบางคราวก็รั ก ษ า น้ำใจ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งทั้งการพูดอะไรที่มันไม่จริงรวมทั้งทั้งยังการไม่บอก

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำจ้ะ เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นราวกับการส่งเสริมความประพฤติของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงละเลิงว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกต้องดีแล้ว

"คิดทุกคำก่อนที่จะกล่าว แต่ไม่จำเป็นต้องบอก ทุกคำที่พวกเราคิด" น้อยเกินไปจ้ะ ต้องเลือกใช้คำที่จะกล่าวให้สมควรด้วย

7. เจอคำถามที่จะต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตกลงใจ" บางสิ่งแล้วเรายังคลุมเคลือ ตอบอย่างไรให้ดูดี

ถ้าหากควรจะมีการตอบปัญหาที่เป็นปริศนาปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรไหมควรจะ ดีหรือเปล่าดี คุณคิดยังไง จำเป็นต้องทำอย่างไร พบคำถามเหล่านี้แล้วเราไม่เคยรู้หรือไม่มั่นใจในคำตอบ

สิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือถ้าเกิดพวกเราไม่ตอบ พวกเราก็ดูแ ย่ ถ้าพวกเราตอบแล้วตอบผิด ก็มองแ ย่ ไม่แพ้กัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวช่องทางของเราให้พวกเราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่ที่ตรงนี้จ้ะ


⁃ คำตอบของคุณต้องไม่ไปพาดพิงผู้ใดกัน ไม่เป็นการติเตียนผู้ใดกันแน่


⁃ ใช้เหตุมีผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตอบช้าๆได้ค่ะ ไม่เป็นไร ค่อยๆใช้สมอง ตอบอย่างมีสติสัมปชัญญะ ระบุถึงเหตุผลที่ไปที่มาให้แจ่มกระจ่าง

⁃ คุณสามารถชี้แจงได้นะคะในบางเรื่อง ว่าหัวข้อนี้"ไม่เกี่ยวกับเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ดิฉันอย า กช่วยมากๆเลยจ๊ะ เลยอย า กแนะนำให้ลองปรึกษาทาง... จะได้คำตอบที่ชัวร์กว่านะคะ" นี่คือการปฏิเสธแบบรั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อ

⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ ไตร่ตรองมุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดยังไงบ้ า งขา" แต่ว่ากรณีนี้พวกเราจะต้องมีการเสริมความเห็นของพวกเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้ทราบสึกได้ว่าพวกเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่

⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ฉันรู้แต่เพียงว่า... ส่วนที่เสริมเติมจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"

"แนวทางกล่าวเช่นไรให้คนรักนี้" กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกท่านนะคะ แล้วก็ขอขอบคุณมากจากดวงใจที่อ่ า น มันจนถึงบรรทัดนี้ แต่ว่าสิ่งนี้คงจะเป็นได้เพียงข้อเสนอแนะสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณเพียงแค่นั้น ถ้าคุณไม่ทดลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/