• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

หากการดำเนินการในต่างประเทศไม่ถูกต้องคำพิพากษาไม่มีผลในประเทศไทย หรือไม่ เป็นเช่นไร

Started by Joe524, June 17, 2022, 06:24:02 AM

Previous topic - Next topic

Joe524

ผู้ฟ้องเป็นคนสัญชาติอเมริกัน ผู้ถูกฟ้องคดีเป็นคนสัญชาติไทย จดทะเบียนสมรสกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โจทก์ฟ้องขอหย่า.กับผู้ถูกฟ้องคดีต่อศาลชั้นต้น ขณะคดีอยู่ในระหว่างพิจารณา ผู้ฟ้องฟ้องหย่า.ผู้ถูกฟ้องคดีต่อศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนียมีคำพิพากษาให้โจทก์และผู้ถูกฟ้องหย่าร้างขาดจากกัน โดยในคดีนี้ผู้ฟ้องคดีนำสืบเพียงว่า เมื่อผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องหย่าผู้ถูกฟ้องต่อศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทนายผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อติดตามผู้ถูกฟ้องคดีมาต่อสู้คดี โดยส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยด้วยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ ซึ่งตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกาบัญญัติให้คู่สามีภริยาหย่ากันได้ 2 กรณีคือ 1. กรณีหย่าไม่มีผู้คัดค้าน หมายถึง คู่สมรสยินยอมที่จะหย่า.กัน 2. กรณีหย่า.โดยมีผู้คัดค้าน ส่วนคำพิพากษาศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนียก็ไม่ได้ระบุถึงเหตุแห่งการหย่าร้างไว้ว่าเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายมาตราใด หรือเพราะเหตุใดระบุแต่เพียงว่าจำเลยขาดนัดแล้วพิพากษาให้ผู้ฟ้องคดีหย่า.ขาดจากผู้ถูกฟ้องเท่านั้น กรณีจึงเป็นเรื่องที่โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายกล่าวอ้างมิได้พิสูจน์กฎหมายนั้นให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่ากฎหมายบัญญัติเหตุหย่าร้างไว้ว่าอย่างไร นอกจากนี้พฤติการณ์ของโจทก์ที่ได้ยื่นฟ้องหย่าร้างจำเลยเป็นคดีนี้ต่อศาลชั้นต้นก่อน แต่ยังไม่ทันที่ศาลชั้นต้นจะพิพากษาคดี โจทก์กลับไปแต่งงานกับหญิงอื่นแล้วอาศัยคำพิพากษาของศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนียมาบังคับจำเลย จึงเป็นการใช้สิทธินำคดีไปฟ้องยังศาลต่างประเทศโดยไม่สุจริตและยังขัดกับหลักเกณฑ์การยอมรับและบังคับคำพิพากษาของศาลต่างประเทศด้วย กล่าวคือผู้ฟ้องฟ้องคดีต่อศาลชั้นต้น โจทก์ย่อมทราบดีว่าผู้ถูกฟ้องมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด แต่ผู้ฟ้องคดีกลับส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยด้วยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ เป็นเหตุให้ศาลสูงสุดแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคำพิพากษาให้ผู้ฟ้องคดีชนะคดีโดยขาดนัด การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมของโจทก์จึงไม่ได้เป็นไปโดยเที่ยงธรรมและผู้ฟ้องไม่ได้พิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าเหตุแห่งการฟ้องหย่า.ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของกฎหมายภายในของประเทศสยาม ศาลจึงต้องใช้กฎหมายภายในแห่งประเทศสยามมาใช้บังคับแก่คดี ศาลล่างทั้งสองจึงมีอำนาจวินิจฉัยว่ามีเหตุหย่าร้างตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 หรือไม่ อย่างไร เมื่อศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกฟ้องมิได้จงใจทิ้งร้างผู้ฟ้องเกินกว่าหนึ่งปี และฎีกาของโจทก์ไม่ได้โต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างดังกล่าว ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่ศาลล่างวินิจฉัยมา โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องหย่าผู้ถูกฟ้องคดีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (4) คำพิพากษาศาลล่างชอบแล้ว เมื่อผู้ฟ้องและจำเลยยังมิได้หย่าร้างขาดจากกัน จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสหรือไม่ เพราะการแบ่งสินสมรสจะกระทำได้ต่อเมื่อมีการหย่า.แล้วเท่านั้น ทั้งนี้เป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1532 และ 1533 ส่วนที่ผู้ถูกฟ้องคดีฟ้องแย้งเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากผู้ฟ้องคดีซึ่งต้องบังคับตามกฎหมายสัญชาติของโจทก์ แต่ผู้ฟ้องมิได้พิสูจน์กฎหมายนั้นจนเป็นที่พอใจแก่ศาล จึงต้องใช้กฎหมายภายในแห่งประเทศสยามบังคับ ที่ศาลล่างพิพากษาให้ผู้ฟ้องคดีชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่ผู้ถูกฟ้องโดยใช้ ป.พ.พ. มาตรา 1461 และ 1598/38 จึงชอบแล้ว(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8455/2559)ทนายเชียงใหม่ทนายความเชียงใหม่