8 ขั้นตอนในการกู้คืนระบบเครือข่ายขององค์กร จากเหตุร้ายที่คุณไม่คาดฝัน!

[Cindy700]

การวางเป้าหมายรองรับเหตุไม่คาดฝัน รวมทั้งภาวการณ์หยุดชะงักในการให้บริการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อันเนื่องจากสายเคเบิลใต้น้ำ, โครงข่ายภาคพื้นดิน, หรือระบบดาวเทียมนั้น จำเป็นมากสำหรับผู้จัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร การปรับปรุงแผนจัดการอยู่เสมอก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อตัวเลือกสำหรับการแบ๊กอัพเพิ่มจากแต่ก่อนมาก

อย่างเหตุภูเขาไฟระเบิดใต้น้ำที่ตัดขาดลิงก์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหนึ่งเดียวไปยังประเทศโคนงก้า ที่เป็นเกาะกึ่งกลางสมุทรเมื่อเดือนก่อนนั้น ถือเป็นสัญญาณเตือนให้เหล่าผู้บริหารไอทีทั้งโลกจำต้องหันมาทวนแผนแบ๊กอัพและก็กู้คืนระบบกันใหม่ ทั้งยังด้านโครงสร้างพื้นฐานเน็ตเวิร์กและก็วัสดุอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ

ไม่ว่าสิ่งที่ทำให้เกิดเรื่องไม่ประสงค์จะมาจากรถแบ๊กโฮไปตัดโดยสาย, จากอาชญากรรม, หรือเรื่องบังเอิญอื่นที่คาดการณ์มิได้ องค์กรทั้งหลายก็จะต้องมีแผนในการสำรองสำหรับทุกพื้นที่ที่จำเป็นจะต้องไม่ว่าขนาดใหญ่หรือเล็ก อยู่ใกล้หรือกระจัดกระจายทั่วโลก เพื่อลดการสิ้นไปให้สูงที่สุดดังนี้

ขั้นที่ 1 กางแผนที่ลิงก์ของผู้ให้บริการมอง
ถ้าผู้ให้บริการโครงข่ายของคุณยังไม่เคยให้แผนที่การเชื่อมต่อ รวมถึงแผนสำรองสำหรับบริการที่คุณใช้อยู่ ก็ต้องกดดันเอามาให้ได้ เพื่อจะได้ใช้มองหาข้อเสียในแผนของคุณ ระวังว่าถึงจะใช้ผู้ให้บริการหลายเจ้าก็ไม่ได้ช่วยสำรองลิงก์ได้ เพราะเหตุว่าหลายรายใช้ลิงก์ผ่านประเทศเดียวกันก็มี

ขั้นที่ 2 ลดการเสี่ยงสายไฟเบอร์โดนตัดขาด
Jimmy Yu รองประธานของกลุ่มตลาดสื่อสารผ่านสายไฟเบอร์ของกรุ๊ป Dell'Oro.` ที่เป็นบริษัทวิเคราะห์และก็ศึกษาค้นคว้าได้พูดว่า "แนวทางที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อการลดผลกระทบจากสายไฟเบอร์ตัดขาดเป็น การเลือกผู้ให้บริการที่มีทางโยงลิงก์แยกกันสองทางในทุกๆที่"

"หรือหันมาใช้บริการจากผู้ให้บริการสองรายที่มีทางโยงสายไฟเบอร์ไม่เหมือนกันแทน" ซึ่งทั้งคู่กรณีดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ถ้าลิงก์เส้นใยหนึ่งขาด เน็ตเวิร์กก็จะหาทางใหม่ให้ทราฟิกของลูกค้าไปเส้นทางสำรองแทนด้านในไม่กี่นาที ทั้งยังเครือข่ายพื้นแผ่นดินรวมทั้งใต้น้ำ

ขั้นที่ 3 หาทางเลือกสื่อส่งสัญญาณหลายแบบ
ในเมื่อสายไฟเบอร์ขาดนั้นดูหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้จัดการด้านไอทีก็ควรจะพิเคราะห์หนทางการส่งสัญญาณข้อมูลต้นแบบอื่นอย่างโครงข่ายไร้สายหรือผ่านดาวเทียมเอาไว้ภายในแผนสำรองไว้ด้วย หากไซต์งานอยู่ห่างจากอณาเขตไม่เกิน 100 กิโลเมตร การใช้สัญญาณไมโครเวฟส่งแบบ Point-to-Point ก็เหมาะอย่างยิ่ง

ขั้นที่ 4 มองหาสายเคเบิลใหม่ จากผู้ให้บริการรายใหม่ ที่โยงทางใหม่ๆ
จากความต้องการที่จะขยายและป้องกันการเชื่อมต่อบริการบนคลาวด์ รวมทั้งทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์ของตนเองเสถียรสูงที่สุด ทำให้ทั้งยังกูเกิ้ล ไมโครซอฟท์ และเฟซบุ๊ก ต่างลากสายเคเบิลใต้น้ำเองมากยิ่งกว่า 20 เส้น ลากข้ามเมืองใหญ่หรือแม้กระทั้งข้ามประเทศไปมา โดยเฉพาะทางใหม่ๆทั้งโลก

ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดพบว่า แค่กูเกิ้ลเจ้าเดียวก็มีสายเคเบิลใต้น้ำสูงถึง 16 เส้นแล้ว ในช่วงเวลาที่ทางไมโครซอฟท์แล้วก็เฟซบุ๊กก็แข่งขันไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นข่าวดีของเราที่บริการเหล่านี้เชื่อมต่อไปถึงพื้นที่ใหม่ๆและมีการสำรองลิงก์ในตัวเองด้วย แม้ว่าจะยากที่เจ้าใหญ่เหล่านี้จะยอมแบ่งเช่าแบนด์วิธให้องค์กรอื่น

ขั้นที่ 5 กระจัดกระจายแบบอย่างลิงก์สายเคเบิลเพื่อหลบลี้ภัยอันตราย
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สายเคเบิลใต้น้ำถือเป็นของสมาพันธ์ผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่มาจากความร่วมแรงร่วมใจของกลุ่มธุรกิจนานาประเทศ ซึ่งเป็นผู้รอบริหารจัดการทั้งหมดทุกอย่าง แม้กระนั้นเมื่อกำเนิดเฮอร์ริเคนแซนดี้เข้ามากระหน่ำนิวพบร์ซีย์เมื่อต.ค. 2021 จนกระทั่งเกิดดาวน์ไทม์กระจัดกระจายวงกว้างมากมาย

โดย Frank Rey ผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์โครงข่ายทั่วโลกในส่วนของระบบคลาวด์ไมโครซอฟท์พูดว่า "ถือได้ว่าเป็นการหยุดชะงักครั้งยิ่งใหญ่ กระทบทั่วอเมริกาเหนือและยุโรปไปหลายชั่วโมง ทำให้พวกเราจำเป็นต้องตรึกตรองเพิ่มช่องทางในการใช้ทั้งยังสายพื้นแผ่นดิน แล้วก็สายเคเบิลใต้น้ำข้ามมหาสมุทรด้วยกัน"

ขั้นที่ 6 ดูการขยายลิงก์ขึ้นไปบนคลาวด์
หายนะต่างๆได้ผลักดันความเจริญรุ่งเรืองสำหรับการสร้างความมีประสิทธิภาพให้ระบบเครือข่าย อย่างพายุเฮอร์ริเคนที่กระตุ้นให้ทั้งยังไมโครซอฟท์ เฟซบุ๊ก รวมทั้งคู่สัญญาอย่าง Telexius สำหรับเพื่อการลากสายเคเบิลใต้น้ำข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ที่แบนด์วิธมากที่สุดที่เคยมีมาจนกระทั่งเสร็จพร้อมใช้งานเมื่อปี 2019

ขั้นที่ 7 พิจารณา SLA ต่างๆ
ผู้จัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กรจึงควรทบทวนกติการะดับการให้บริการหรือ SLA ที่ทำกับผู้ให้บริการโครงข่ายของตน อีกทั้งด้านความพร้อมเพรียงการให้บริการ รวมทั้งเวลาสำหรับการกู้คืนระบบ เพราะผู้ให้บริการบางรายไม่สามารถสัญญาเวลาการเข้าจัดแจงและแก้ไขปัญหาได้

ขั้นที่ 8 พินิจลงทุนกับวัสดุอุปกรณ์แบ็คอัพ
หากงบประมาณมีจำกัด และก็ราคาของที่เกี่ยวพุ่งสูง การจัดซื้ออุปกรณ์มาตั้งทิ้งไว้เฉยๆนานๆก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบจัดแจงมากแค่ไหน บางที่อาจเลือกใช้แผนสำรองตามปริมาณการใช้แรงงานหรือสิ่งที่จำเป็นแทน เราอาจมองการหาเราเตอร์รวมทั้งเกตเวย์ IoT เพิ่มเติมเพื่อสำรองระบบได้

MyMainer.com