นิวซีแลนด์ ดำเนินแผนจัดการโควิด-19 แนวใหม่คู่ขนานแนวทางหลีกเลี่ยงล็อกดาวน์

[Shopd2]

รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศใช้แนวทางจัดการการระบาดโควิด-19 รูปแบบใหม่ เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไปพร้อมๆ กับการหลีกเลี่ยงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง

แผนจัดการการระบาดใหม่ของนิวซีแลนด์นี้มีชื่อเรียกว่า ระบบ "สัญญาณไฟจราจร" (traffic light system) ซึ่งแบ่งพื้นที่เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสีแดง สีเหลือง และสีเขียว รวมทั้งยังให้อิสระแก่ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมากกว่าผู้ที่ยังไม่ได้ฉีด หรือฉีดไม่ครบเข็ม

ภายใต้แผนงานนี้ นครโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสีแดง เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูง แต่ประชาชนในเมืองนี้ได้รับอนุญาตให้ออกมาใช้บริการตามร้านกาแฟ ยิม และร้านเสริมสวยได้ เพียงแค่มีเงื่อนไขการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการและต้องมีการแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนก่อนเท่านั้น

ขณะเดียวกัน พื้นที่ส่วนใหญ่ของนิวซีแลนด์ถูกจัดให้อยู่ในหมวดสีเหลือง ซึ่งหมายถึง การดำเนินมาตรการควบคุมที่มีระดับความเข้มข้นน้อยกว่า โดยทางการมีแผนจะทบทวนสถานะดังกล่าวในอีก 2 สัปดาห์

ไมเคิล เบเกอร์ ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขและระบาดวิทยา จากมหาวิทยาลัยโอทาโก ในกรุงเวลลิงตัน ให้ความเห็นว่า ระบบใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยกระตุ้นการฉีดวัคซีนของประชาชน โดยชี้ว่า ยังมีพื้นที่บางส่วนที่มีระดับการฉีดวัคซีนที่ต่ำและทำให้ถูกจัดอยู่ในโซนสีแดงไปโดยปริยาย

ทั้งนี้ กระทรวงสุขภาพของนิวซีแลนด์ประเมินว่า ในเวลานี้ มีประชากรสัดส่วน 86% ของผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีน ได้รับยาครบทั้งสองเข็มแล้ว

และขณะที่ นิวซีแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีมาตรการควบคุมการระบาดใหญ่ที่เข็มงวดที่สุดอยู่นี้ มีการคาดว่ารัฐบาลจะดำเนินนโยบายปิดพรมแดนสำหรับนักเดินทางส่วนใหญ่จากต่างชาติไปจนถึงปีหน้า

นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 มา นิวซีแลนด์ซึ่งมีประชากรราว 5 ล้านคนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมที่ราว 12,000 คน โดยมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 44 คน

นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น กล่าวว่า เชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ 'โอมิครอน' นี้ เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจว่า ทำไมนิวซีแลนด์จึงต้องรักษาแนวทางการรับมือการระบาดอย่างระมัดระวังไว้ต่อไป