WPH บมือพันธมิตรรุก Health Care ใหม่

[Fern751]

WPH แผนปี 65 เป้ารายได้นิวไฮต่อเนื่อง-จับมือพันธมิตรรุก Health Care ใหม่
 

นายเชน เหล่าสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) เปิดเผยว่าแผนการดำเนินงานในธุรกิจปี 65 บริษัทตั้งเป้ารายได้กลุ่มลูกค้าทั่วไปโต 33% เนื่องจากผู้ใช้บริการทั้งคนไทยและต่างชาติ มีจำนวนมากขึ้นหากเทียบกับปีก่อน หลังจากนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันการให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และการรับรักษา โดยเฉพาะหลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้เพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ได้มากขึ้นอย่างชัดเจน รวมทั้งโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ มีความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้

"ปี 65 บริษัทฯคาดว่ารายได้ จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่องจากปี 2564 ที่ได้สร้างรายได้ออลไทม์ไฮไว้แล้ว เพราะมีปัจจัยสนับสนุนจากการมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเมื่อมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะที่คู่แข่งธุรกิจในแต่ละพื้นที่มีจำนวนไม่มาก รวมทั้งการได้ฐานลูกค้าใหม่ ทั้งจากจังหวัดตรัง และกระบี่ โดยเฉพาะจากการรับฉีดวัคซีนโควิด-19 ตลอดจน อาคาร Wellness Center ที่เป็น One Stop Service มีการแยกผู้ป่วยออกจากอาคาร และผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในความปลอดภัยว่าจะไม่มารับโรคเพิ่ม ทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการสูงกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นสนับสนุนให้รายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นอยางมีนัยสำคัญ" นายเชน กล่าว
ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 500 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะนำมาลงทุนในการสร้างโรงพยาบาลวัฒนแพทย์สมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงการก่อสร้างงานฐานราก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยคาดว่าจะพร้อมให้บริการภายในปี 66

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการเตรียมแผนรุกขยายการลงทุนในธุรกิจ Health Care รูปแบบใหม่เพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจากันพันธมิตร คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม การรุกขยายธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยสร้างรายได้และผลักดันการเติบโตในอนาคตได้อย่างก้าวกระโดด และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างมั่นคง

CIVIL เป้ารายได้ปี 65 โตกว่า 20% ตุน Backlog 1.6 หมื่นลบ.พร้อมลุยประมูลงานใหม่

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง (CIVIL) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 เติบโตไม่น้อยกว่า 20% พร้อมตุนงานในมือ (Backlog) แล้วราว 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้จากนี้ไปอีก 3 ปี โดยจะรับรู้ในปีนี้ราว 5 พันล้านบาท

ขณะที่บริษัทจะเดินหน้าเข้าประมูลงานโครงการก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบการเข้าประมูลโครงการภายใต้บริษัท หรือเข้าร่วมโครงการลงทุนระหว่างภาครัฐหรือภาคเอกชน (PPP) รวมถึงร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจเข้าบริหารโครงการขนาดใหญ่ และยังเตรียมเซ็นสัญญาโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สาย บางขุนเทียน ? บ้านแพ้ว มูลค่าโครงการราว 1.8 พันล้านบาท ภายในเดือนม.ค.นี้ สนับสนุนให้ในปี 65 คาดว่าจะประมูลงานใหม่เพิ่มเข้ามาได้อีกราว 5-6 พันล้านบาท

นอกจากนี้ CIVIL ยังวางแผนขยายงานไปยังกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนมากขึ้น คาดสัดส่วนรายได้จากงานภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้นไปแตะ 20% ภายใน 3-4 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5% รับโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย สร้างสมดุลแก่การดำเนินธุรกิจก่อสร้างและบริหารโครงการก่อสร้าง หนุนผลตอบแทนที่ดีทั้งการทำกำไรขั้นต้นและอัตราการทำกำไรสุทธิให้เติบโตได้อย่างโดดเด่น

ขณะเดียวกัน บริษัทได้วางงบลงทุนจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ในปี 65 ราว 500-600 ล้านบาท พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในภาคการผลิตโรงงานชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป คอนกรีตผสมเสร็จ แอสฟัลท์ติกคอนกรีต คอนกรีตอัดแรงและราวเหล็กลูกฟูกกันรถและท่อระบายน้ำ เพื่อสร้างการเติบโตที่ดีให้แก่กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างเพื่อและจำหน่ายให้แก่คู่ค้าและใช้บริหารโครงการก่อสร้าง รวมถึงการได้ต่ออายุสัมปทานเหมืองหินปูนที่เป็นวัตถุดิบหลักในงานก่อสร้างและผลิตปูนซีเมนต์ ยังทำให้บริษัทฯ คงความได้เปรียบเชิงบริหารต้นทุนโครงการก่อสร้างที่ดีต่อเนื่อง

"แม้ว่าเศรษฐกิจจะยังคงมีความผันผวน แต่โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ก็ยังคงต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่เรามีความพร้อมด้านบุคลากรที่เชี่ยวชาญวิศวกรรมโยธา เครื่องจักรอุปกรณ์และเป็นเจ้าของโรงงานผลิตชิ้นส่วนวัสดุก่อสร้าง ส่งเสริมการบริหารต้นทุนโครงการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ และเรายังทำสัญญาราคาซื้อขายวัสดุล่วงหน้า รวมถึงติดตามราคาวัสดุอย่างใกล้ชิด ทำให้เราสามารถส่งมอบผลงานที่มีคุณค่า ปลอดภัย และอยู่ภายใต้งบประมาณที่กำหนดได้" นายปิยะดิษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า CIVIL มีศักยภาพการเติบโตสูงกับโอกาสการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐที่อยู่ในช่วงขยายตัวที่ดี ทำให้บริษัท ใช้ความได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่โดดเด่นจากการนำเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโครงการ สร้างโอกาสการเข้าร่วมงานโครงการก่อสร้างภาครัฐและขยายงานลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มขึ้น พร้อมรักษาความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการดำเนินงาน จึงเชื่อมั่นว่า CIVIL เป็นหุ้นกิจการที่อยู่ในช่วงเติบโต หรือ Growth Stock ที่จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน