มายาคติรวมทั้งการตีตรา

[deam205]

สิ่งหนึ่งที่ "หลุดนักเรียน" จำเป็นต้องเผชิญหมายถึงการตีตราจากสังคม คนส่วนมากยังคงมั่นใจว่า วุฒิการศึกษาคือบันไดขั้นสำคัญของความสำเร็จในชีวิต และก็ผู้ที่ออกจากระบบการเรียนกลางคันมักถูกเห็นว่า "ขี้คร้าน" หรือ "ไม่ฉลาด"

ผลพวงจากมายาคตินี้ไม่ใช่แค่ในระดับบุคคล แต่ยังรวมถึงในโลกของการทำงาน หลายอาชีพยังต้องการใบเรียนจบเป็นข้อตกลงพื้นฐาน ซึ่งทำให้ "หลุดนักเรียน" เข้าถึงโอกาสยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม มุมมองนี้เริ่มเปลี่ยนแปลง เมื่อบุคคลโด่งดังเยอะมาก ดังเช่นว่า Elon Musk, Richard Branson และก็ Oprah Winfrey ออกมากล่าวมาว่าตัวเองก็เคย "หลุด" เช่นกัน แต่กลับแปลงเป็นบุคคลผู้บรรลุเป้าหมายระดับนานาชาติ

ในยุคดิจิทัลเดี๋ยวนี้ หลายองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับ "ความถนัดจริง" มากยิ่งกว่ากระดาษใบรับรอง ทำให้ "หลุดนักเรียน" มีพื้นที่ในการพิสูจน์ตัวเองได้มากขึ้น

การเรียนรู้นอกห้องเรียน: ทางใหม่สู่ความสำเร็จ
ข้อดีสำคัญของการออกจากระบบเป็นการได้เลือกเรียนรู้ในแบบของตน สำหรับนักเรียนหลายๆคน ระบบสถานที่เรียนแบบเดิมไม่สามารถที่จะตอบโจทย์ได้ การศึกษาแบบอิสระก็เลยแปลงเป็นหนทางที่น่าดึงดูด

อินเทอร์เน็ตได้เปิดโลกใหม่ให้กับการเล่าเรียน แพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ Coursera, Udemy และก็ Khan Academy ให้โอกาสให้ทุกคนสามารถเรียนอะไรก็ได้ ทุกๆที่ ทุกเวลา ผู้เรียนที่สนใจงานดีไซน์ เขียนโค้ด หรืออาชีพอิสระ สามารถฝึกหัดความชำนาญเหล่านี้ผ่านออนไลน์แล้วก็นำไปใช้งานจริงได้

นอกจากนั้น การฝึกงานหรือทำความเข้าใจจากประสบการณ์ตรงก็เป็นอีกทางที่ "หลุดนักเรียน" คนไม่ใช่น้อยเลือกใช้ ตัวอย่างเช่น อาชีพก่อสร้าง งานครัว หรือเทคโนโลยีที่ย้ำการกระทำ มากกว่าแนวคิด

สำหรับบางบุคคล การเป็นผู้ประกอบกิจการคือจุดหมายปลายทางสำคัญ การมีอิสระสำหรับในการทดสอบ ล้มเหลว และเริ่มต้นใหม่ คือจังหวะสำหรับในการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เหมือนกันกับ Steve Jobs หรือ Bill Gates ที่ออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อเริ่มธุรกิจของตนเอง