ศบค.แจงแล้ว ด.ญ.12 ฉีดไฟเซอร์แน่นหน้าอก ไม่ใช่กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

[kaidee20]

ศบค. เผย โควิดวันนี้ ยังมีทิศทางลดต่อเนื่อง ตั้งเป้าฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสใน พ.ย. แจง ด.ญ.12 ปีฉีดไฟเซอร์แน่นหน้าอก ไม่ใช่กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

วันที่ 3 พ.ย.2564 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค เป็นตัวแทน ศบค. แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 7,679 ราย รักษาหาย 8,482 ราย กำลังรักษา 97,585 ราย เป็นผู้ป่วยหนัก 2,205 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 483 ราย

เสียชีวิต 56 ราย เป็นผู้ชายและหญิงเท่ากัน 28 คน เป็นผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง 95% มาจากภาคใต้สูงสุด 16 ราย ภาคกลางและตะวันออก 14 ราย ตะวันออกเฉียงเหนือ 10 ราย กทม. 7 ราย เหนือ 6 ราย และปริมณฑล 3 ราย แนวโน้มผู้ติดเชื้อของประเทศมีทิศทางลดลงต่อเนื่อง สัดส่วนในต่างจังหวัด 62% ชายแดนใต้ 20% กทม.และปริมณฑล 18%


ทั้งนี้ 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด ทุกจังหวัดไม่ถึงพันราย อันดับ 1 คือ กทม. 772 ราย ลดลงจากเมื่อวาน 789 ราย อันดับ 2 3 4 7 9 และ 10 มาจากภาคใต้ ทิศทางโดยรวมยังลดลง หากแยกเป็นจังหวัด ยะลา นราธิวาส และสงขลา ลดลงชัดเจน ส่วนปัตตานียังทรงๆ ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เร่งรัดฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุและและมีโรคประจำตัว



ส่วนอันดับ 5 ชลบุรี อันดับ 6 เชียงใหม่ อันดับ 7 ตรัง และอันดับ 8 สมุทรปราการ มีการรายงานติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน เช่น ชลบุรี เป็นคลัสเตอร์ทหารเกณฑ์กองทัพเรือ 30 ราย เชียงใหม่ พบแคมป์ก่อสร้าง 17 ราย ศูนย์พัฒนาการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ 8 ราย ตรวจเชิงรุกในชุมชน 35 ราย และพบการติดเชื้อคลัสเตอร์งานศพและหอพักนักเรียนจังหวัดแม่ฮ่องสอน

"วันนี้รายงานคลัสเตอร์เรือนจำ สุรินทร์ ขอนแก่น และ กทม. พบการติดเชื้อลักลอบข้ามแดนมาจันทบุรี 4 ราย การติดเชื้อคลัสเตอร์ต่าง ๆ ต้องให้ประชาชนทั่วไปเข้มงวดมาตรการาสส่วนบุคคล สวมหน้ากาก อยู่ห่าง ล้างมือ และไปรับการฉีดวัคซีน" พญ.สุมนี กล่าว

พญ.สุมนี กล่าวว่า วันที่ 2 พ.ย. รายงานฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 787,976 โดส สะสม 77,014,092 โดส เป็นเข็มที่ 1 ครอบคลุม 59.4% ของประชากร เข็มสอง 44% และเข็มสาม 3.4% โดยตั้งเป้าหมายฉีดครบ 100 ล้านโดสในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ส่วนแยกตามกลุ่มเป้าหมาย ผู้สูงอายุฉีดเพิ่มขึ้นเป็น 64.6% โรคเรื้อรังและโรคประจำตัว 69.3%

สำหรับกลุ่มเร่งรัดการฉีดคือ นักเรียน 12-17 ปี ขณะนี้ฉีด 2.5 ล้านคน จากเป้าหมาย 4.5 ล้านคน คิดเป็น 55.4% ขณะนี้หลายโรงเรียนเปิดเทอมแล้วและเรียนออนไซต์หรือสลับกันเรียนออนไลน์ จัดการเรียนการสอนภายใต้มาตรการสาธารณสุข ทำให้ได้เรียนหนังสือต่อไปได้ แต่ที่ประชุม สธ.และ ศบค.ยังเป็นห่วงกรณีเด็กกลับบ้านอาศัยกับผู้ปกครองหรือญาติผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ต้องปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด คือ กลับบ้านอาบน้ำก่อนทำกิจกรรมอื่นกับคนในครอบครัว อยู่ห่าง ล้างมือบ่อยๆ ผู้ปกครองสังเกตอาการทางเดินหายใจ หากพบไข้ ไอ น้ำมูก และสงสัยจะติดเชื้อให้รีบตรวจด้วย ATK

"จากข่าวมีเด็กหญิงอายุ 12 ปี รับการฉีดไฟเซอร์ มีอาการแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย รับการรักษาแล้วที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี พบว่าอาการดังกล่าวไม่ได้เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอย่างที่เป็นข่าว อาการดีขึ้นแล้ว ย้ำว่าวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยปลอดภัยทุกตัว รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก" พญ.สุมนี กล่าว