การเลือกวัสดุกันซึมให้เหมาะกับการใช้งานทำโครงสร้างต่างๆ

[Joe524]

การเลือกอุปกรณ์กันซึมให้เหมาะสมกับการใช้งาน
องค์ประกอบอาคารแต่ละหลังประกอบไปด้วยหลายหลากองค์ประกอบที่สำคัญ โดยหนึ่งในสิ่งจำเป็นที่ต้องมีให้ได้เลยก็คือระบบกันซึมของอาคาร ที่จะทำหน้าที่ป้องกันการรั่วซึมของน้ำอีกทั้งจากข้างนอกแล้วก็ด้านในตึก รวมไปถึงการช่วยปกป้องความร้อนแล้วก็กันซึมตามพื้นผิวด้านในด้วย ฉะนั้นการเลือกน้ำยากันซึมให้เหมาะกับงานกันซึมที่พวกเราต้องการก็สำคัญมากเช่นเดียวกัน วันนี้จะมาแนะนำคร่าวๆว่าวัสดุแบบใดเข้ากับงานแบบไหนมากกว่ากัน

1. กันซึมดาดฟ้า
ดาดฟ้าเป็นองค์ประกอบด้านนอกตึกที่สำคัญมากที่สุด เพราะอยู่สูงที่สุด ต้องรองรับอีกทั้งความร้อนจากแดด ลม และฝน มีการเสี่ยงที่จะมีน้ำขังและก่อให้เกิดการรั่วซึมได้ง่ายที่สุดถ้าเกิดไม่ได้รับการป้องกันอย่างดีตั้งแต่แรกเริ่มการก่อสร้าง หลายคนไม่รู้ว่าคอนกรีตอย่างเดียวไม่พอต่อการทำดาดฟ้า แต่ยังจะต้องเสริมเกราะปกป้องด้วยการทาน้ำยากันซึมบนดาดฟ้าอีกชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีน้ำรั่วซึมลงไปตามรอยแตกร้าวของตึกได้





โพลียูริเทน เป็นที่นิยมสูงที่สุดในการทำกันซึมดาดฟ้า ด้วยคอนกรีตมีการยืดหดตัวอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งเกิดรอยร้าวได้ง่าย โพลียูริเทนนี้ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงมากที่สุดเมื่อเทียบกับวัสดุชนิดอื่นๆจึงเหมาะกับการทำกันซึมดาดฟ้ามากที่สุด ป้องกันรอยแตกร้าวของคอนกรีตได้มากที่สุด แม้มีฝนตกต่อกันยาวนานหลายวันก็เชื่อมั่นได้ว่าน้ำจะไม่รั่วซึมไปในตัวตึก แอบกระซิบบอกว่า ด้วยความที่เป็นวัสดุที่แข็งแรงมากขนาดนี้ ทำให้สามารถใช้กับงานส่วนประกอบด้านในได้ด้วยเช่นกัน

2. กันซึมผนัง
ถ้ากล่าวถึงองค์ประกอบตึกที่ต้องทนแดด ทนฝน ทนต่อทุกอุณหภูมิรองจากดาดฟ้าก็คือผนังหรือกำแพงนั่นเอง ด้วยความที่จะต้องเจอกับสภาพภูมิอากาศที่มากมายทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกร้าวได้ถ้าเกิดไม่ได้ป้องกันด้วยน้ำยากันซึมเช่นเดียวกันกับบนดาดฟ้า





อะคริลิคกันซึม มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันกับโพลียูริเทน เพียงแต่ว่ามีความยืดหยุ่นน้อยกว่า มักใช้ในงานฉาบฝาผนังตึกเพื่อป้องกันการแตกร้าวและก็สร้างเสริมความแข็งแรงให้กับผนังตึก แต่ว่าด้วยความที่วัสดุทั้งสองไม่ได้แตกต่างกันมากมายเท่าใดนัก อะคริลิคกันซึมก็เลยมักถูกใช้สำหรับดาดฟ้าหรือหลังคาของตึกด้วยเช่นเดียวกัน

3. กันซึมพื้น/กระเบื้อง
บริเวณที่ถ้าเกิดพูดเรื่องน้ำรั่วซึม จะไม่กล่าวถึงไม่ได้คือพื้นนั่นเอง เนื่องจากบริเวณพื้นนี่แหละที่มีน้ำขังเยอะที่สุดแล้วก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดน้ำรั่วซึมไปยังองค์ประกอบส่วนอื่นๆของอาคารมากกว่าผนังเสียอีก ฉะนั้น น้ำยากันซึมสำหรับพื้นก็มีความจำเป็นสำหรับองค์ประกอบของอาคารเหมือนกัน





โพลิเมอร์กันซึมสามารถใช้ได้ทั้งภายในอาคารแล้วก็ด้านนอกอาคารที่มีวัสดุอื่นปิดทับ เนื่องจากว่ามีความยืดหยุ่นสูงรวมทั้งมีความสามารถในการคงทนแม้ว่าจะมีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ทำให้สามารถทาทับบนกระเบื้องเก่าได้เลยโดยไม่ต้องรื้อออกรวมทั้งสามารถทาสี หรือปูกระเบื้องทับได้

น้ำยากันซึมแต่ละประเภทมีคุณลักษณะต่างกันไป และมีความเหมาะสมกับแต่ละสภาพพื้นผิวไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกันกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้ เพราะว่าอย่างที่เกริ่นนำไว้ว่าระบบกันซึมของอาคารนับว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากของส่วนประกอบอาคารทุกหลัง