• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ลูกหนี้ผิดนัดผลเป็นเยี่ยงไร

Started by Cindy700, June 19, 2022, 01:12:02 PM

Previous topic - Next topic

Cindy700

การจะถือว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ต้องบังคับตามบทบัญญัติ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 204 หนี้ตามหนังสือสัญญาบัญชีเดินสะพัดระหว่างผู้ฟ้องกับผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ตามหนังสือสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไม่ปรากฏว่าได้กำหนดเวลาชำระหนี้กันไว้ตามวันแห่งปฏิทิน แม้สัญญาบัญชีเดินสะพัดเลิกกันตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2559 แต่การชำระหนี้ย่อมต้องปฏิบัติตามวิธีการของสัญญาบัญชีเดินสะพัด คือให้กระทำเมื่อมีการหักทอนบัญชีและเรียกร้องให้ชำระเงินคงเหลือโดยดุลยภาพตาม ป.พ.พ. มาตรา 856 ผลของการเลิกสัญญาจึงก่อให้เกิดสิทธิเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ส่วนที่เหลือหลังจากหักทอนบัญชีกันแล้ว และแม้เจ้าหนี้จะมีสิทธิเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้โดยพลันตาม มาตรา 203 แต่วันที่เลิกสัญญากันก็ไม่ใช่กำหนดเวลาชำระหนี้ที่ได้กำหนดกันไว้ตามวันแห่งปฏิทินอันจะถือว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยพลัน กรณีจะถือว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดจึงต้องได้ความว่ามีการหักทอนบัญชีและเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระเงินคงเหลือ กล่าวคือต้องมีการบอกกล่าวทวงถามแล้วผู้ฟ้องคดีมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามให้ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ชำระหนี้ภายใน 60 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้รับหนังสือดังกล่าวเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2560 เมื่อครบกำหนด จำเลยที่ 1 ไม่ชำระจึงตกเป็นผู้ผิดนัดตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2560 ที่ผู้ฟ้องมีหนังสือลงวันที่ 29 ธันวาคม 2560 เพื่อบอกกล่าวการผิดนัดของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ไปยังผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 และที่ 4 เป็นการบอกกล่าวก่อนจำเลยที่ 1 ผิดนัด แต่ต่อมาผู้ฟ้องมีหนังสือขอให้ชำระหนี้ฉบับลงวันที่ 8 มกราคม 2561 ไปยังผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 และที่ 4 อีก ซึ่งจำเลยที่ 3 และที่ 4 ได้รับหนังสือดังกล่าวเมื่อวันที่10 มกราคม 2561 หนังสือขอให้ชำระหนี้มีนัยเป็นการบอกกล่าวการผิดนัดไปยังผู้ค้ำประกันภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัดตาม ป.พ.พ. มาตรา 686 วรรคหนึ่ง แล้ว จำเลยที่ 3 และที่ 4 จึงต้องรับผิดในดอกเบี้ยผิดนัดนับแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าหนังสือสัญญาบัญชีเดินสะพัดเลิกกันในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ผู้ฟ้องคดีคงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยแบบไม่ทบต้นต่อไปตามอัตราที่ระบุในหนังสือสัญญาบัญชีเดินสะพัดจนถึงวันผิดนัด แต่ที่โจทก์ขอให้บังคับผู้ถูกฟ้องทั้งสี่รับผิดชำระดอกเบี้ยผิดนัดอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ตามประกาศกำหนดอัตราดอกเบี้ยของผู้ฟ้องนั้น เห็นว่า การกำหนดอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินมีการปรับเปลี่ยนไปตามสภาวะเศรษฐกิจและการเงินในแต่ละช่วงเวลา จึงเห็นสมควรให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่รับผิดตามอัตราดอกเบี้ยกรณีลูกหนี้ผิดนัดที่ปรับเปลี่ยนไปตามประกาศกำหนดอัตราดอกเบี้ยของโจทก์ภายหลังวันฟ้อง แต่ไม่ให้เกินกว่าอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ปัญหานี้แม้คู่ความจะไม่ได้ฎีกาแต่ปัญหาการกำหนดดอกเบี้ยให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 252 และกรณีเป็นการชำระหนี้ที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ แม้ผู้ฟ้องจะฎีกาเฉพาะในส่วนผู้ถูกฟ้องที่ 3 และที่ 4 ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 1 และที่ 2 ที่มิได้ฎีกาด้วยได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 245 (1)

ทนายเชียงใหม่

ทนายความเชียงใหม่