หุ้นไทยพักฐาน ปิดตลาด -0.05 จุด ลุ้นฟื้นตัวสัปดาห์หน้า

[Chanapot]

ตลาดหุ้นไทยปิดลบบางเฉียบ -0.05 จุด ซื้อขายสุทธิบางเบาเพียง 67,470.40 ล้านบาท โบรก ฯ คาดตลาดพักฐานช่วงสั้นไร้ปัจจัยใหม่หนุน มองภาพรวมดัชนีไม่น่ากังวล เหตุผลสะท้อนเชิงบวกยังดีไม่หลุด 1,622 จุด มองแนวรับสัปดาห์หน้า 1,622-1,605 จุด และแนวต้านที่ 1,630-1,650 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ดัชนีปรับตัวลดลงเบาบางเพียง 0.05 จุด หรือ -0.00% โดยมีมูลค่าการซื้อขายเพียง 67,470.40 ล้านบาท โดยในระหว่างวันดัชนีปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปรับตัวสูงสุดที่ 1,628.60 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,619.62 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลในวันนี้โดยมีหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 517 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 580 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,086 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 2,245.53 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 232.19 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,969.80 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -507.93 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.ONEE มูลค่าการซื้อขาย 8,299.51 ล้านบาท ปิดที่ 9.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,351.79 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,336.31 ล้านบาท ปิดที่ 128.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,082.68 ล้านบาท ปิดที่ 452.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
5.IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,712.85 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท ลดลง 0.75 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 452.00 บาท เพิ่มขึ้น +6.00 บาทหรือ +1.35 %
2.JMT (XA) ปิดที่ 49.75 บาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาทหรือ+4.19 %
3.SCC ปิดที่ 398.00 บาท เพิ่มขึ้น+2.00บาทหรือ +0.51 %
4.JMART ปิดที่ 40.75 บาท เพิ่มขึ้น+1.75บาทหรือ +4.49%
5.SINGER ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น +1.00บาทหรือ +2.53%

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงติดลบมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง -2.50 บาทหรือ -1.65%
2.TOP ปิดที่ 53.25 บาท ลดลง-1.25 บาทหรือ -2.29%


X


3.PTTGC ปิดที่61.00 บาท ลดลง -1.00 บาทหรือ-1.61%
4.STGT ปิดที่27.75 บาท ลดลง -0.75 บาทหรือ-2.63%
5.IVL ปิดที่41.75 บาท ลดลง -0.75 บาทหรือ-1.76%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,229.26 จุด ลดลง -0.23 จุด หรือ -0.01% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 980.03 จุด ลดลง -0.08 จุด หรือ -0.01% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 547.20 จุด เพิ่มขึ้น 4.32 จุด หรือ 0.80%

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พักฐานบ้างหลังช่วงสั้นไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ซึ่งมองเป็นการลดความร้อนแรงแต่ไม่น่ากังวล เพราะดัชนีฯ ยังไม่หลุด 1,622 จุด ถือว่าทิศทางตลาด ฯ ยังอยู่ในภาพรวมที่ดีอยู่ และเป็นลักษณะของการเล่นเวียนกลุ่มหุ้น โดยย้ายจากหุ้น Global play มาที่ Domestic play จากการเล็งเห็นการบริโภคภายในประเทศที่จะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องรับอานิสงส์ดีไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มแบงก์, อสังหาริมทรัพย์, ค้าปลีก, หรือสื่อสาร ส่วนการท่องเที่ยวคาดว่าจะมาเป็นรอบ ๆ ตามพัฒนาการที่เกิดขึ้น ซึ่งวันนี้จะเห็นได้ว่ามีการพักเงินลงทุนมาที่หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงิน

ขณะที่ในส่วนของปัจจัยต่างประเทศต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และสัปดาห์หน้าให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะออกมาหลายบริษัทฯ, MSCI Rebalance ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ และจับตาการปรับเกณฑ์ที่จะใช้ใน SET50 และ SET100

ส่วนทิศทางการลงทุนในสัปดาห์หน้า มองว่าตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ โดยประเมินแนวรับที่ 1,622-1,605 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,630-1,650 จุด