รมว.พาณิชย์ นัดถกสมาคมไข่ไก่อีกรอบ หลังอั้นไม่อยู่ปรับขึ้นราคาหน้าฟาร์ม

[fairya]

รมว.พาณิชย์ นัดถกสมาคมไข่ไก่อีกรอบ หลังอั้นไม่อยู่ปรับขึ้นราคาหน้าฟาร์ม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จากข้อมูลของสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ที่ระบุว่าต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่ปรับตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากราคาวัถดุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นนั้น ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เชิญสมาคมฯ มาหารือร่วมอีกครั้ง เพื่อหาทางออกร่วมกันให้เกิดผลดีที่สุด ทั้งฝ่ายเกษตรกร ฟาร์มเลี้ยงไก่ ผู้รวบรวมไข่ รวมทั้งผู้บริโภค ว่าต้องทำอย่างไรให้เกิดความสมดุลที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทั้งนี้ ราคาไข่ไก่เริ่มลดลงมาโดยลำดับ ราคาไข่ไก่ที่ขายให้กับผู้บริโภคเฉลี่ยทั้งประเทศ ล่าสุด เมื่อวาน (28 ก.พ.65) ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคา 3.29 บาท/ฟอง และบางห้างเหลือ 3.20 บาท/ฟอง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำหนดราคาไว้ที่ 3.50 บาท/ฟอง

"มีการพูดคุยกันมาตลอด ไม่เช่นนั้นราคาไข่ไก่ไม่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา ตอนนี้ถือว่าราคาไม่ได้สูงเกินสมควร เพราะราคากำกับที่ 3.50 บาท/ฟอง ราคาเฉลี่ยยังอยู่ที่ 3.29 บาท/ฟอง" นายจุรินทร์ ระบุ
แต่ล่าสุดมีรายงานว่า สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้ส่งออกไข่ไก่ ประกาศขึ้นราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม อยู่ที่ฟองละ 3.20 บาท โดยมีผลวันที่ 1 มี.ค. 65 เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นอีกแผงละ 9 บาทในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นจากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาไว้ที่ 2.90 บาท/ฟอง

ส่วนสถานการณ์ราคาสินค้านั้น กระทรวงพาณิชย์ดูแลมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาสินค้าหลายหมวดปรับลดลง โดยมีการกำกับดูแลใกล้ชิดทั้งหมด 18 หมวด

"ราคาสินค้าหลายหมวดมีการลดราคา โดยเฉพาะในห้างสำคัญที่เป็นตัวชี้นำตลาด เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ลดสูงสุดถึง 70% สินค้าอื่นๆ อีกหลายรายการก็มีการลดราคาลงมา เช่น หมูเนื้อแดง ล่าสุดราคาเฉลี่ยทั่วประเทศต่ำกว่า 150 บาท/กก. และห้างสำคัญบางห้าง เหลือ 128 บาท/กก." นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนผลกระทบของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนนั้น รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ส่วนที่จะมีผลกระทบมาก คือ ราคาน้ำมัน ซึ่งมีผลกระทบทั่วโลก รวมทั้งไทย เนื่องจากราคาน้ำมันเป็นต้นทุนสำคัญสำหรับค่าขนส่งสินค้าถึง 40% แต่ในแง่ผลกระทบด้านการค้านั้น พบว่าสัดส่วนการค้าระหว่างไทย-รัสเซีย และไทย-ยูเครน มีไม่ถึง 1% แต่ทั้ง 2 ประเทศนี้ถือว่าเป็นตลาดใหม่ของไทยที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการไปบุกเบิกตลาดเพิ่มเติม

"เราไม่อยากเสียตลาดใดไป แต่ตอนนี้มีข้อจำกัด เพราะผู้ส่งออกต้องระมัดระวังค่าเงินรูเบิลที่ผันผวนมาก การคิดอัตราแลกเปลี่ยนจะมีผลต่อกำไรขาดทุนของผู้นำเข้ารัสเซียและผู้ส่งออกของไทย ช่วงหลังๆ ค่าเงินรูเบิลต่ำลงมาก มีผลให้ผู้นำเข้ารัสเซียรู้สึกว่าสินค้าจากทั่วโลกที่ส่งไปรัสเซียแพงขึ้น คิดว่าภาคเอกชนไวอยู่แล้ว แต่เราก็เตรียมการหาตลาดทดแทนเพิ่มเติม" นายจุรินทร์กล่าว