Influencer Marketing ทางเลือกใหม่ของการจัดทำการตลาดออนไลน์

[Jessicas]

ถ้าพูดถึงการตลาดที่ได้ผลยิ่งขึ้นไปวิธีหนึ่ง หลายคนย่อมนึกถึงการตลาดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth Marketing) เพราะเป็นการสื่อสารกับบอกต่อกันระหว่างผู้บริโภคที่ได้ใช้สินค้าจริงๆ ดังนั้นหลายๆ แบรนด์จึงเลือกที่จะใช้การตลาดแบบใช้คนที่มีชื่อวางวายงอย่าง Influencer Marketing เพราะเปรียบเสน้ำมือนหนึ่งในผู้บริโภคที่ได้ใช้สินค้า พร้อมทั้งมีอิทธิพลในการบอกต่อ และโน้มน้าวให้คนมาใช้สินค้าพร้อมด้วยบริการตาม

Influencer คือ

        Influencer คืออะไร ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล โดยเป็นผู้ที่ลงมือคอนเทนต์เผยแพร่ตามแพลตฟอร์มต่างๆ ประดุจดัง แล้วมีคนสนใจติดตาม ยิ่งมีผู้ติดตามไม่เบาก็ยิ่งมีอิทธิพลเหลือแหล่ ผู้ติดตามส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ตั้งเท่านั้นเด็กไปจนถึงวัยปฎิบัติงานงาน พร้อมด้วยมักคล้อยตามเนื้อหาหรือสิ่งที่ Influencer พูดโน้มน้าวใจได้ง่าย เพราะรู้สึกถึงความใกล้ชิดกับจริงใจกว่าสื่อโฆษณาของแบรนด์ต่างๆ



Influencer Marketing คือ

        Influencer Marketing หมายถึง ประเภทของการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้ Influencer ในการประชาสัมพันธ์ โฆษณา พร้อมกับสื่อสารตราสินค้า เพื่อเป้าประสงค์ทางการตลาด โดยเกิดจากการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ด้วยกันตัวอินฟลูเอนเซอร์


Influencer สามารถแบ่งได้หลายประเภท ส่วนใหญ่มักแบ่งตามจำนวนผู้ติดตาม ดังนี้


1. Nano Influencer: ผู้ติดตาม 1,000 - 10,000 คน
        เปรียบเสมือนบุคคลทั่วไปที่มีอิทธิพลในหมู่คนรู้จักหรือเพื่อนๆ อาทิเช่น ดาวโรงเรียน นักกีฬา ประธานนักเรียน หรือหากเท่านั้นคนที่มีลักษณะโดเด่นจนเป็นที่น่าจดจำในหมู่เพื่อนๆ ลงมือให้การว่าจ้างจึงไม่สูงเยอะแยะนัก ด้วยกันยังมีอิทธิพล มีความน่าเชื่อถือต่อบุคคลรอบข้างทั้งเพื่อน ครอบครัว คนรู้จัก ฯลฯ


2. Micro Influencer: ผู้ติดตาม 10,000 - 50,000 คน
        มีฐานแฟนคลับจากไส้ศึกทางหรือคอนเทนต์ที่นำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ ด้วยกันสร้างสรรค์อื้อซ่ายิ่งขึ้น ทำงานให้สามารถดึงดูดผู้คนได้โขนักขึ้น ด้วยกันจะมีทางทางการดำเนินการคอนเทนต์ที่ชัดเจน ดั่ง ช่องจัดทำอาหาร ช่องรีวิวร้านอาหาร ช่องท่องเที่ยว ฯลฯ ก่อให้แบรนด์สินค้าสามารถเลือกว่าจ้างไเส็งเคร็ง่างมีจุดประสงค์มากขึ้น


3. Mid-Tier Influencer: ผู้ติดตาม 50,000 - 100,000 คน
        มักจะมีชนิดทาง และตัวตนที่ชัดเจนอยู่แล้ว กับยังมีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับผู้คนได้ชัดเจนมากมายก่ายกองยิ่งขึ้น รู้ว่ากลุ่มผู้ติดตามโหยอะไร คอนเทนต์ลักษณะไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ติดตามได้ สร้างให้สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ได้ตรงกลุ่มมากมายก่ายกองยิ่งขึ้น ดั่ง ชอบคอนเทนต์จำพวกรีวิวอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ

4. Macro Influencer: ผู้ติดตาม 100,000 - 1,000,000 คน
        กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความเป็นอาชีพเหลือล้นยิ่งขึ้น กับมักจะโดดเด่นในช่องทางและเลยเวลาทางชัดเจน พร้อมกับส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่สร้างรายได้จากการดำเนินการคอนเทนต์ของตัวเอง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีการสร้างการรับรู้ได้ชัดเจน เพราะการสื่อสารมักจะถูกออกแบบมาโดยเปลี่ยนกระบวนการคิด และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคไเส็งเคร็ง่างตรงจุด รวมไปถึงการประกอบกิจคอนเทนต์ที่เป็นกรอาชีพ ตัวตนที่โดดเด่, กับล่าช้าทางของช่องทางที่ชัดเจน ส่วนใหญ่แล้วขั้นนี้มักจะหันมาเป็น Influencer เต็มตัว เพราะสามารถหารายได้ที่พอจากการกระทำคอนเทนต์ของตัวเองได้แล้ว เนรมิต ให้มักจะมีการกลั่นกรองแบรนด์สินค้า กับมีความละเอียดในการทำการคอนเทนต์


5. Mega Influencer: ผู้ติดตาม เหลือล้นกว่า 1,000,000 คนขึ้นไป
        บุคคลเหล่านี้จะมีชื่อหมดลมหายใจงบานเบอะในด้านด้านหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีชื่อได้เงินเสง ตัวอย่างเช่น ดารา นักกีฬา นักร้อง ที่ผู้คนให้การยอมรับ หรือเป็น Influencer ที่มีชื่อมรณางในวงกว้างซึ่งสามารถช่วยสร้างการรับรู้แบบไม่เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย มีแรงจูงใจที่แตกต่าง ราวกับ ซื้อสินค้าตามดาราคนนี้ เพราะเป็นแฟนคลับ เป็นต้น

ข้อดีของการก่อ Influencer Marketing

1. เข้าถึงพร้อมกับโน้มน้าวผู้บริโภคได้ดีกว่าการตลาดแบบอื่น

 ผู้บริโภคจะรู้สึกถึงความใกล้ชิดเหลือล้นกว่าการโฆษณาจากแบรนด์เอง ไม่ว่าจะทางโทรทัศน์ วิทยุ หรือแบรนด์เนอร์ในเว็บไซต์ต่างๆ เพราะรู้สึกว่ามีผู้ใช้สินค้าจริงกับเป็นบุคคลที่ตนรู้จัก ยิ่งเป็น Influencer ที่มีความสนใจตรงกับสินค้ากับบริการก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งโน้มน้าวใจผู้บริโภคได้ดีขึ้น

2. มีผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
        การเลือกใช้ Influencer ที่เหมาะสมจะประกอบกิจให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีขึ้น หรืออาจเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปเลยก็ได้ อาทิเช่น สบู่สมุนไพรที่เดิมมีลูกค้าเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ เพียงนั้นมีความประสงค์ขยายกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่น การเลือกใช้คนที่มีอิทธิพลในกลุ่มวัยรุ่นก็ส่งผลต่อความคิดที่มีต่อแบรนด์อื้อซ่าขึ้น ด้วยกันช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้

3. วัดและประเมินผลได้
        แบรนด์สามารถดูกระแสตอบรับได้จากยอดการเข้าถึง (Reach) คือ ยอดผู้เข้าชม พร้อมทั้งยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) คือ จำนวนยอดการกดไลค์ (Like) การแชร์ (Share) การคอมเมนต์ (Comment) ไปจนถึงการตรวจสอบพร้อมกับติดตามข่าวผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่คลิกผ่านลิงค์จาก Influencer แล้วเข้าไปซื้อสินค้าในเว็บไซต์ของแบรนด์ก็สามารถทำได้ เพื่อประเมินผลว่ากลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จหรือไม่ ด้วยกันจัดทำให้วางแผนกลยุทธ์ครั้งต่อไปได้ดียิ่งขึ้น

กลยุทธ์การดำเนินงาน Influencer Marketing

        การสร้าง Influencer Marketing ต้องมีกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์ดูน่าสนใจ มีเอกลักษณ์ ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งกลยุทธ์ที่เหมาะสมมาก คือ กลยุทธ์ "SEED Strategy" ซึ่งมีสปายทางกลยุทธ์ ดังนี้

S: Sincere (อันที่จริงใจ)
       ผู้บริโภคในปัจจุบันรู้เท่าทันสื่อด้วยกันการตลาดสะพรั่งขึ้นพร้อมทั้งยังมีช่องทางการรับข่าวสารเยอะจัดมาย ดังนั้นการตลาดที่ดีต้องมีจริงๆ แล้วใจ Influencer ที่เลือกใช้ควรเป็นคนที่มีคาแรคเตอร์ของตัวเอง ดูน่าเชื่อถือ เป็นธรรมชาติ พร้อมกับเนื้อหาของการรีวิวไม่ควรพูดถึงขนาดนั้นข้อดีของสินค้าจนดูเป็นการอวยเกินไป ให้พูดถึงข้อเท็จจริงด้วย ขนาดนั้นไม่ใช่การพูดถึงข้อเสีย


E: Expertise (ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน)
        การจัดทำการตลาดที่มีข่าวครบถ้วน พิสูจน์ได้ จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์เชื่อถือได้ นำมาสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าด้วยกันบริการ ดังนั้นการเลือก Influencer ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านที่ตรงกับแบรนด์จึงเป็นเรื่องสำคัญ

E: Engagement (การเข้าถึง)
        การสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพไม่ได้วัดจากจำนวนผู้ติดตามเพียงอย่างเดียว อย่างเดียวทางแบรนด์ควรดูยอด Engagement ด้วย คือ การกดไลค์ (Like) การแชร์ (Share) การคอมเมนต์ (Comment) เอามารวมกันแล้วควรคำนวณได้เป็น 5% ของจำนวนยอดผู้ติดตามทั้งหมด

D: Different (ความแตกต่าง)
        Influencer ในปัจจุบันมีจำนวนไม่ใช่น้อย ดังนั้นนอกจากยอดผู้ติดตาม ความรู้ความเชี่ยวชาญของ Influencer แล้ว ก็ควรเลือกผู้ที่มีเอกลักษณ์ เพื่อให้โดดเด่นออกมาจากคนอื่นๆ โดยต้องไม่ลืมคำนึงถึงความเหมาะสมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย

สรุป
        การทำการ Influencer Marketing เป็นหนึ่งในการตลาดใหม่ในยุคดิจิตัลที่เพิ่มทางเลือกให้แบรนด์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงบานตะไทขึ้น ทุกแบรนด์เริ่มตระหนักถึงความสำคัญ สร้างให้การแข่งขันเพิ่มโขนักขึ้น แต่สิ่งที่ต้องระวังยิ่งนักในการกระทำ Influencer Marketing คือ การเลือก Influencer ให้เหมาะสมกับแบรนด์และสินค้าที่หากต้องการขาย อย่าคำนึงขนาดนั้นจำนวนผู้ติดตามเท่านั้น เพราะถ้าเลือกไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ก็จะเป็นการกระทำตลาดที่ปิ๋วเปล่า หรือถ้าคนที่เลือกมามีประวัติหรือพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่น่าเชื่อถือ ก็จะส่งผลดับต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้