MCS วางเป้าดัน Backlog แตะ 2 แสนตัน,'ไนยวน ชิ'เล็งไขก็อกเปิดทางผู้บริหารจากฝั่งญี่ปุ่น

[Beer625]

MCS วางเป้าดัน Backlog แตะ 2 แสนตัน,'ไนยวน ชิ'เล็งไขก็อกเปิดทางผู้บริหารจากฝั่งญี่ปุ่น

นายไนยวน ชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็ม.ซี.เอส สตีล (MCS) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในปี 65 มีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้ 6,943.91 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,415.77 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากงานโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้เป็นผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างมากเหมือนช่วงปีก่อนหน้า สะท้อนมายังในช่วงไตรมาส 1/65 ที่ผลประกอบการเติบโตมากขึ้น
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รวมกว่า 64,000-65,000 ตันที่จะสามารทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ไม่ต่ำกว่า 150,000 ตัน โดยเป็นโครงการในประเทศไทยกว่า 38,000 ตัน และในประเทศญี่ปุ่น 4 โครงการ ไม่ต่ำกว่า 120,000 ตัน ซึ่งบริษัทเตรียมเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อทำการเจรจาโครงการขนาดใหญ่คาดว่ามีโอกาสสูงที่จะได้โครงการอาคารสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 360 เมตร
ทั้งนี้ งานที่บริษัทเข้าประมูลจะทยอยรู้ผลการเข้าประมูลงานภายในปีนี้ และคาดว่าจะสนับสนุนให้ Backlog ปลายสูงขึ้นแตะระดับ 200,000 ตัน และรองรับผลประกอบการยาวถึงปี 68

นายไนยวน ชิ กล่าวว่า แนวโน้มโครงการตึกสูงในญี่ปุ่นที่เกิดการชะลอตัวจากภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทประเมินว่าปีนี้ความต้องการใช้โครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่สำหรับประกอบอาคารสูงในประเทศญี่ปุ่นจะกลับมาขยายตัวสูงขึ้น หลังสถานการณ์โควิดมีแนวโน้มเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดี ประกอบกับ MCS ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการหลักของไทยที่ส่งออกโครงสร้างเหล็กไปประเทศญี่ปุ่นและเป็นบริษัทต่างประเทศแห่งเดียวที่ได้รับมาตรฐานการผลิตโครงสร้างขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น (S Grade) เชื่อว่าจะช่วยหนุนการผลิตที่มากขึ้นในปีนี้เพื่อการรองรับการเดินหน้าโครงการต่างๆในญี่ปุ่น บริษัทยังคาดว่าทิศทางของอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ในการเข้ารับงานโครงการต่างๆ จะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ที่บริษัทได้รับงานเข้ามามีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และมีความยากมากขึ้น ต้องมีความชำนาญมาก จึงส่งผลให้การทำงานโครงการต่างๆ ทำกำไรได้มากขึ้น นายไนยวน ชิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีผู้ถือหุ้นใหม่จากประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ประกอบการโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 10% และเตรียมที่จะส่งผู้บริหารเข้ามาร่วมบริหารงานในบริษัทเพิ่มเติมด้วย 'ผมจะลาออกจากตำแหน่ง เพราะผมไม่สามารถบริหารงานให้ P/E ยืนเหนือระดับ 5 เท่าได้ เราจึงเปิดโอกาสที่จะให้ผู้บริหารงานคนใหม่เข้ามา'นายไนยวน ชิ กล่าว