ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำยังไงดี?

[Cindy700]

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำไงดี?



ทำยังไงดี เมื่อลูกน้อยกลัวคุณหมอฟันเด็ก - เด็กกับความกลัวเป็นเรื่องที่คู่กัน เด็กจะกลัวในเรื่องที่จำฝังใจ อาทิเช่น การกลัวการปวด กลัวคนที่ไม่รู้จัก ความกลัวเหตุการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยเผชิญมาก่อน ซึ่งความหวาดกลัวจะเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของชีวิตแค่นั้น โดย ความหวาดกลัวนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวเด็กอีกครั้งว่าเด็กนั้นก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาบิดามารดาอาจจะมีต้นสายปลายเหตุที่ทำให้เด็กกลัว ทันตแพทย์เด็กหรือกลัวการรักษาทางด้านทันตกรรมเด็ก ดังเช่นว่า ประสบการณ์การดูแลรักษาทางทันตกรรมเด็ก ในสมัยที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ โดยเฉพาะการนำเด็กเข้าการดูแลและรักษาฟันเวลาที่เด็กเจ็บอยู่ฟัน แล้วก็อาจจะก่อให้เด็กอีกทั้งเจ็บแล้วกลัวแล้วก็ฝังลึกในใจเลยนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความกลัว แล้วก็อาจจะทำให้เด็กกลัวแพทย์ที่ใส่ชุดสีขาว หรือกลัวการเข้าไปรักษาในโรงหมอหรือสถานพยาบาลทันตกรรมต่างๆรวมทั้งการฟังจากคำบอกเล่าจากญาติ ลูกพี่ลูกน้อง เพื่อนพ้อง รวมทั้งเด็กบางทีก็อาจจะรับรู้ได้จากความประพฤติบางสิ่งบางอย่าง หรือจากสีหน้าที่มีความรู้สึกกังวลที่พ่อแม่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น

การจัดเตรียมลูก ในการมาเจอแพทย์ฟันคราวแรก

ทันตกรรมเด็กกับการเตรียมตัวเด็กที่ดีนั้นมีผลอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมของเด็กและก็ความสำเร็จในการรักษา ด้วยเหตุนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงต้องควรหลบหลีกคำพูดที่น่าสยดสยองหรือแสดงความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเกี่ยวกับทันตแพทย์เด็กที่ให้บริการทัตนบาปเด็ก และไม่ควรที่จะใช้หมอฟันหรือการทำฟันเป็นสิ่งที่ใช้ในการขู่ลูก อาทิเช่น "ถ้าหากไม่ยอมแปรงฟันนะ จะจับไปให้แพทย์ถอนฟันเลย" ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกฝั่งหัวใจรวมทั้งกลัวทันตแพทย์เพิ่มมากขึ้น ดังนี้คุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่อาจช่วยสนับสนุนทัศนคติในทางบวกต่อกระบวนการทำฟันให้แก่ลูก ได้แก่ "คุณหมอจะช่วยทำให้หนูมีฟันสวยแล้วก็แข็งแรง" นอกนั้นเมื่อพบว่าลูกมีฟันผุก็ควรจะพาลูกมาทำฟันตั้งแต่ในช่วงเวลาที่ยังไม่มีอาการปวด ถ้ารอคอยให้มีลักษณะปวดก่อนเด็กจะยิ่งมีความรู้สึกกลุ้มใจสำหรับในการทำฟันมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อมาหาทันตแพทย์แล้ว ถ้าหากลูกกลัวทันตแพทย์ ไม่ให้ความร่วมมือผู้ปกครองและก็ทันตแพทย์ ควรจะทำเช่นไร

เด็กแต่ละคนที่มีความหวาดกลัวก็จะแสดงกริยาที่แตกต่างกันออกไป เด็กที่มีความกลัวและไม่ให้ความร่วมมือ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทันตแพทย์ควรต้องวิเคราะห์หาสาเหตุของความกลัวของเด็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบสำหรับการพินิจเลือกใช้กรรมวิธีการจัดแจงความประพฤติ ซึ่งบิดามารดาจะมีส่วนช่วยอย่างยิ่งในการให้ข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ หลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ ทันตแพทย์ที่จะเลือกใช้แนวทางปรับพฤติกรรมต่างๆเพื่อให้เด็กให้ลดความหวาดกลัว ความกังวล รวมทั้งยอมความร่วมมือสำหรับการทำฟันเด็ก โดยแนวทางที่ใช้มากที่สุดก็คือ การปรับพฤติกรรมโดยวิธีทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นการคุย ปลอบใจ ชมเชย สนับสนุนให้กำลังใจ การเบี่ยงเบน ความพอใจ หรือการแยกผู้ปกครอง ดังนี้ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก ระดับของความร่วมมือ และจำนวนงานหรือ ความเร่งด่วนของการดูแลและรักษาด้วย ได้แก่ ในเด็กเล็กต่ำกว่า 3 ขวบ ที่ยังสนทนาติดต่อสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง หรือเด็กที่ไม่ให้ ความร่วมมืออย่างยิ่ง ทันตแพทย์ก็บางครั้งก็อาจจะจำเป็นที่จะต้องขออนุญาตใช้ผ้าห่อตัวเด็ก (Papoose board) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็กเพื่อสามารถให้การรักษาได้ทางด้านทันตกรรมเด็กอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ หรือบางครั้งอาจจะเสนอโอกาสการรักษาทางทันตกรรมภายใต้การทานยาให้สงบหรือการดมกลิ่นยาสลบให้แก่ผู้ปกครองเป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งที่เยี่ยมที่สุดที่จะทำให้ลูกน้อยไม่กลัวหมอฟันเด็ก

สิ่งที่เยี่ยมที่สุดของการมาใช้บริการทันตกรรมเด็ก ที่จะทำให้ลูกของคุณไม่กลัวหมอฟันคือ การดูแลโพรงปากของลูกไม่ให้มีฟันผุ โดยควรพาลูกมาพบทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรือด้านในขวบปีแรก และก็ตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เมื่อลูกไม่มีฟันผุ เวลาทำฟันเด็กก็ไม่เจ็บ เมื่อไม่เจ็บก็ชอบไม่กลัวทันตแพทย์ แต่เมื่อลูกมีฟันผุแล้วคุณพ่อและก็คุณแม่ก็ควรแข็งแกร่งที่จะพาลูกมารับการรักษาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ลูกจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้านเมื่อรู้ว่าจะพามาทำฟันก็ตาม เพื่อลูกของคุณมีสุขภาพโพรงปากที่ดี ซึ่งเมื่อมีสุขภาพโพรงปากที่ก็ดีแล้วก็จะช่วยสนับสนุนให้เด็กมีพัฒนาการในด้านอื่นๆที่ดีตามไปด้วย