ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.93 คาดกรอบวันนี้ 32.84-33.15

[fairya]

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.93 คาดกรอบวันนี้ 32.84-33.15 จับตาตัวเลขส่งออกไทยวันนี้-ประชุมเฟด

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.93 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับ ระดับปิดเมื่อวานที่ 32.90 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทยังคงมีทิศทางแข็งค่า เนื่องจากตลาดปิดรับความเสี่ยง เหตุเพราะกังวลในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบาย ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าเฟดคงจะออกมาส่งสัญญาณมากขึ้นว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยใน การประชุมรอบเดือน มี.ค.นี้อย่างไร

ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้ ต้องติดตามการรายงานภาวะส่งออก-นำเข้า เดือนธ.ค.64 จากกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้ง มีปัจจัยด้านการเมืองในประเทศที่ต้องติดตามในระยะนี้ด้วยเช่นกัน

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.15 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (20 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.37148% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.34284%

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.79 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 114.25 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1311 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1345 ดอลลาร์/ยูโร
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.939 บาท/ดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์ จะรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย (การส่งออก-นำเข้า) ในเดือนธ.ค.64 พร้อมสรุป
สถานการณ์การส่งออกของไทยตลอดปี 64 ที่ผ่านมา ต้องติดตามว่ามูลค่าการส่งออกของไทยในปี 64 อย่างเป็นทางการจะสามารถขยายตัว
ได้ตามที่ รมว.พาณิชย์ คาดไว้ที่ราว 15% ได้หรือไม่ พร้อมทั้งติดตามปัจจัยสำคัญต่อการส่งออกของไทยในปี 65 ด้วย
กรมสรรพากรอยู่ระหว่างจัดทำแนวทางปฏิบัติการจัดเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล สำหรับบุคคลธรรมดา ที่ต้องชำระภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดาประจำปี 2564 ให้ความชัดเจนเร็วที่สุดภายในเดือน ม.ค.นี้ หรืออย่างช้าภายในเดือน ก.พ.2565 ซึ่งต้องก่อนจะครบ
กำหนดการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดา โดยการยื่นแบบเงินได้บุคคลธรรมดาแบบกระดาษจะต้องยื่นภายในวันที่ 31 มี.ค.2565 และส่วน
การยื่นแบบออนไลน์จะต้องยื่นภายในวันที่ 8 เม.ย.นี้
แบงก์ "กรุงศรี-ทีทีบี-ทิสโก้-แลนด์แอนด์เฮ้าส์-เคเคพี" ไตรมาส 4 กำไร 1.2 หมื่นล้าน โต 68% ส่วนทั้งปี 64 ฟาด
กำไร 5.8 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 27% เหตุ สำรองลด 10% โบรก ชี้งบดีเกินคาด เชื่อปี 65 กำไรโตต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.สำรวจการบันทึกพฤติกรรมการชำระเงินประจำวัน
ของประชาชน พบว่า ทุกคนยังคงพกเงินสดติดตัว โดย 50% ยังคงใช้เฉพาะเงินสดเพื่อจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ใช้ที่ตลาด
สด ตลาดนัดร้านอาหารริมทาง และร้านรถเข็น แต่ส่วนน้อยใช้ชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เพย์เมนท์) เป็นทางเลือกหลัก จึงอาจตี
ความได้ว่าปริมาณการใช้อี-เพย์เมนท์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนั้นกระจุกตัวอยู่ในบางกลุ่มทำให้การส่งเสริมการใช้อี-เพย์เมนท์ให้แพร่หลายและ
ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จึงเป็นโจทย์สำคัญ เพื่อให้คนไทยโอนจ่ายหรือรับเงินได้สะดวกขึ้น ทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา ลดความเสี่ยงจากการ
พกเงินสดจำนวนมาก ตลอดจนช่วยลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินสดได้
ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังประชุมหารือกับผู้ว่าการการท่องเที่ยว
แห่งประเทศไทย (ททท.) และ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือว่า ที่ประชุมเสนอให้เร่งนำ
มาตรการเทสต์ แอนด์ โก กลับมาใช้ และปรับให้เหมาะสมกับการสถานการณ์แพร่ระบาด เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซี
ซั่น) หากตัดสินใจช้า จะเสียโอกาส ช่วยให้ภาคการท่องเที่ยว และบริการมีเงินหมุนเวียนในระบบรักษาการจ้างงานของแรงงานไว้ได้
คาดว่า หากมีการนำระบบเทสต์ แอนด์ โกมาใช้ นักท่องเที่ยวในปี 65 นี้ คาดว่า สูงถึง 5-6 ล้านคนแน่นอน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 286,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่ง
เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย และสูงกว่าตัวเลขที่มีการ
รายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 231,000 ราย
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (20 ม.
ค.) ขานรับกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ดี
ดอลลาร์ถูกกดดันในระหว่างวัน หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านมือสองร่วงลงอย่างหนักในเดือนธ.ค.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงในวันพฤหัสบดี (20 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซียยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้า
ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
นักลงทุนจับตาการประชุมของเฟดในวันที่ 25-26 ม.ค. หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างสนับสนุนการปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด, นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด
สาขาชิคาโก, นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก
ด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลในเดือนก.ค.
หรือเร็วกว่านั้น จากปัจจุบันที่พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์