• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Cindy700

#3361


โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ ยกครัวมาบน Truck เสิร์ฟความอร่อยระดับ 5 ดาวในรูปแบบอาหารกล่องสดใหม่ คุณภาพคับกล่องราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียง 60 บาท ให้คุณสั่งไปอิ่มอร่อยที่บ้านแบบปลอดภัย



• เกี๊ยวหมาล่า 60 บาท
• ก๋วยเตี๋ยวเส้นสด ซอสเสฉวนหมูสับ และเกี๊ยวหมาล่า 90 บาท
• บะหมี่ฮ่องกงจักรพรรดิ เสิร์ฟพร้อมหมูกรอบ หมูแดง เป็ดย่าง และเกี๊ยวหมู 120 บาท
• สปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่า เสิร์ฟพร้อมคอหมูย่าง 90 บาท
• สปาเก็ตตี้แซลมอนย่าง ซอสครีมไข่กุ้ง 120 บาท
• สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทรัฟเฟิล เสิร์ฟพร้อมเนื้อวากิว 120 บาท



แมริออท สุรวงศ์ Food Truck เสิร์ฟความอร่อยให้คุณทุกวันจันทร์ – พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 20.00 น. บริเวณหน้าโรงแรม ถนนสุรวงศ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ส.ค. 2564 มีเดลิเวอรี่ผ่าน Robinhood เพียงหาชื่อ 'แมริออท สุรวงศ์'

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 088 5666 หรือไลน์ @marriottsurawongse
#3362



วันที่ 1 ส.ค. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสโมเดลอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความมั่นใจว่า โครงการดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อ แม้ว่าจะมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในจังหวัดภูเก็ต เพิ่มขึ้น แต่พบว่า ส่วนใหญ่มาจากคนในพื้นที่ แคมป์ก่อสร้าง หรือผู้ที่เดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาตามโครงการนี้ เพราะจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น อยู่ที่ประมาณ 13,281 คน พบว่า ติดเชื้อใหม่เพียง 1 คน ส่วนผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติสะสม มีจำนวน 30 คน และตรวจพบเชื้อตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้ามา และถูกส่งเข้ารับการรักษาแล้ว อย่างไรก็ตาม จังหวัดภูเก็ตได้ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ควบคุมการเดินทาง เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 - 16 ส.ค. 2564 ยกเว้นบางกรณีที่สามารถเข้าพื้นของจังหวัดได้ เช่น รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ขนส่งยา เวชภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค แก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ขนส่งเงินของธนาคาร หรือผู้ที่มีความจำเป็น เป็นต้น ถือเป็นการปิดการเดินทางเข้า-ออกจังหวัด แต่ไม่ได้ปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แต่อย่างใด เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและคนภูเก็ตทุกคน

นายธนกร กล่าวต่อว่า ในส่วนของสมุยพลัสโมเดล กรณีที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเกาะสมุย จำนวน 54 รายนั้น เป็นคลัสเตอร์ร้านอาหาร ซึ่งทางจังหวัดก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ยืนยันว่าสมุยพลัสโมเดลยังดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากกลุ่มที่ติดเชื้อไม่ได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโครงการสมุยพลัสโมเดล และไม่ใช่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ข้ามไปจากจังหวัดภูเก็ตด้วย ขอให้มั่นใจในโครงการดังกล่าวว่าสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการสมุยพลัสโมเดล และภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่เดินทางเข้าเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่านั้น อยู่ที่ประมาณ 200 คน โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาต่างพอใจ รู้สึกผ่อนคลายกับทัศนียภาพรอบเกาะ และไม่ได้มีความกังวลใดๆ


นายธนกร กล่าวอีกว่า ท่านนายกฯ ขอให้เชื่อมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวโดยเน้นพื้นที่ปลอดภัย และเตรียมขยายพื้นที่เดินหน้าต่อในการเปิดเกาะพีพี เกาะไหง และไร่เลย์ ของจังหวัดกระบี่ และเขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ของจังหวัดพังงา ตั้งเป้าภายในเดือนสิงหาคมนี้ ในส่วนของพื้นที่ของเกาะนั้นมีความพร้อม ประชาชนตามเกาะฉีดวัคซีนแล้ว 70 - 100% และเป็นพื้นที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยระยะแรกจะให้ประชาชนคนไทยที่ฉีดวัคซีนครบโดสและมีผลการตรวจ Swab ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะมาจากกลุ่มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสโมเดลก่อน เชื่อว่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยยึดแนวทางสร้างความสมดุลระหว่างการเฝ้าระวังความปลอดภัยสุขภาพอนามัย และการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อคนไทยทุกคน ตามเจตนารมณ์ของท่านนายกฯ ดังนั้น ขอให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป.
#3363



เลขาธิการ คปภ. ออกคำสั่งนายทะเบียนด่วน ให้ผู้เอาประกันภัยที่สามารถแยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เคลมค่ารักษาพยาบาลได้ คปภ. ผนึกกำลังภาคธุรกิจประกันภัย ช่วยเหลือประชาชนสู้โควิด-19 พร้อมหนุนภาครัฐใช้มาตรการ Home Isolation แก้ปัญหาวิกฤตเตียงโรงพยาบาลไม่เพียงพอ

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย เข้าสู่ระลอก 3 ที่กระจายไปทั่วเป็นวงกว้าง และเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำนักงาน คปภ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับมาตรการของรัฐบาลที่ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้เอาประกันภัย โดยการขยายความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ขยายความคุ้มครองการรักษาพยาบาลเนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนามหรือ hospitel ให้ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย

เช่นเดียวกับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลทั่วไป และขยายความคุ้มครองกรณีผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่กระทำการโดยแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรที่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย ไม่ว่าจะดําเนินการ ณ สถานที่ใดก็ตาม ให้ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลทั่วไป



อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ยังคงไม่คลี่คลายและทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไม่เพียงพอ การเพิ่มโรงพยาบาลสนามหรือ hospitel ไม่ทันกับการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยติดเชื้อ และสิ่งที่สำคัญคือบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยมีหลายรายต้องติดเชื้อ ทำให้มีจำนวนไม่เพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ รัฐบาลจึงได้มีแนวทางปรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกแนวทางการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ให้ได้รับการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation



ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพและการประกันภัย COVID-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน พบว่า ยังไม่ครอบคลุมถึงกรณีการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation ซึ่งย่อมทำให้ผู้เอาประกันภัยซึ่งเข้ารับการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation ไม่สามารถเคลมประกันได้ ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมและให้ระบบประกันภัยเข้าไปบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐและบุคลากรทางการแพทย์ สำนักงาน คปภ. จึงได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย

โดยได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ระบบประกันภัยควรจะเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องนี้ ตนในฐานะนายทะเบียนจึงได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 43/2564 เรื่อง การจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation สำหรับบริษัทประกันชีวิต และคำสั่งนายทะเบียนที่ 44/2564 เรื่อง การจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าผู้เอาประกันภัยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีการดูแลรักษาแบบดังกล่าว โดยกรณีกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก ให้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากวงเงินความคุ้มครองผู้ป่วยนอกตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์ หรือกรณีตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในให้อนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอก ตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์



ส่วนกรณีกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ก็ให้อนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอกตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์ นอกจากนี้ ยังให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าชดเชยรายวันกรณี Home Isolation หรือ Community Isolation หากมีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาล เช่น อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ โดยจ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่าชดเชยรายวัน สูงสุด 14 วัน นับแต่วันที่มีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาลแต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ อีกทั้งคำสั่งนายทะเบียนนี้ยังเปิดช่องให้บริษัทประกันภัยสามารถจ่ายเพิ่มเติมได้ตามที่เห็นสมควร นอกเหนือจากการจ่ายตามที่คำสั่งกำหนด โดยคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว มีผลใช้บังคับกับสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน ซึ่งบริษัทออกให้แก่ผู้เอาประกันภัย ทั้งก่อนและหลังวันที่มีคำสั่ง (วันที่ 29 กรกฎาคม 2564) จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564

"การออกคำสั่งนายทะเบียนทั้งสองฉบับนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สำหรับการดำเนินการต่อไปเพื่อให้ระบบประกันภัยสามารถรองรับความเสี่ยงในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้สอดคล้องกับมาตรการทางด้านสาธารณสุข สำนักงาน คปภ. จะได้เร่งส่งเสริมให้มีการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยให้ครอบคลุมถึงกรณีการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation ต่อไป ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ Add Line Official @oicconnect" เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
#3364


นายณัฎฐา คหาปนะ รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าสำนักงานไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ค่อนข้างไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงยังคงมีความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ แต่กำลังซื้อของคนกลุ่มนี้ไม่ลดลง ทำให้บางโครงการสามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลาไม่นาน เป็นเหตุให้ผู้ประกอบการลงทุนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง


" แม้ทิศทางของตลาดบ้านจะมียอดขายดี แต่การที่มีอุปทานใหม่เข้ามาเพิ่มเกินความต้องการอาจจะทำให้ตลาดชะลอตัวได้ เนื่องจากตลาดบ้านหรูยังเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างเล็กและอุปสงค์ของตลาดกลุ่มนี้ยังคงมีเพียงจำกัด "


อุปทานบ้านในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ที่ได้รับการอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน (ทั้งโครงการ) พบว่าการอนุญาตจัดสรรที่ดินสำหรับกลุ่มบ้านที่มีระดับราคาขาย 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่ปี 2560 ถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2564 มีอยู่ในช่วงปีละตั้งแต่ 1,489 หน่วย จนถึง 2,278 หน่วย โดยจำนวนใบอนุญาตจัดสรรในปี 2561 มีจำนวนสูงสุด คือ 2,669 หน่วย ส่วนในระยะเวลา 5 เดือนของปีนี้พบว่ามีใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในกลุ่มบ้านที่มีระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ที่ 578 หน่วย


จำนวนหน่วยเหลือขายของโครงการบ้านระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ณ ครึ่งปีแรกของปี 2564 มีทั้งสิ้น 224 โครงการ มีหน่วยสะสมจำนวนทั้งสิ้น 20,018 หน่วย และขายไปได้ทั้งสิ้น 13,276 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 66 โดยอัตราการขายเพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งมีอัตราการขายอยู่ที่ร้อยละ 30 และปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการขายเพิ่มมาอยู่ที่ร้อยละ 66 ในครึ่งปีแรกของปี 2564

นายณัฎฐา ระบุ จำนวนหน่วยขายได้ใหม่ในครึ่งปีแรก 2654 พบว่ามีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ทั้งสิ้น 1,610 หน่วย ซึ่งเป็นหน่วยขายได้ที่มีจำนวนค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่เฉลี่ยประมาณ 2,500 หน่วยต่อปีเท่านั้น และคาดว่าในครึ่งปีหลังของปี 2564 นี้ จำนวนหน่วยขายได้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้นเกือบประมาณ 3,000 หน่วย

บ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 10-20 ล้านบาท มีอุปสงค์สูงสุดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7,218 หน่วย รองลงมาคือบ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 21 – 30 ล้านบาท และ 31 – 40 ล้านบาท มีอุปสงค์อยู่ที่ 2,612 หน่วย และ 1,871 หน่วยตามลำดับ ในส่วนของอัตราการขายที่สูงสุด คือ บ้านระดับราคาสูงกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากอุปทานที่มีอยู่จำกัด ทำให้อัตราการขายสูงที่สุด ซึ่งมีอัตราการขายอยู่ในอัตราร้อยละ 83 รองลงมาได้แก่ บ้านระดับราคาระหว่าง 21 – 30ล้านบาท และ ระดับราคา 51 – 60 ล้านบาท มีอัตราการขายอยู่ในอัตราร้อยละ 77 และ 74 ตามลำดับ ส่วนบ้านระดับราคา 61 – 70 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่มีอุปสงค์ต่ำที่สุดและอัตราการขายต่ำที่สุด

แนวโน้มสถานการณ์ตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ในครึ่งปีหลัง 2564 ยังมีสัญญาณที่ดีเมื่อเทียบกับตลาดอสังหาฯ ประเภทอื่น เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อบ้านในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจหดตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบจากการเข้มงวดสินเชื่อของธนาคาร เพราะเป็นกลุ่มที่มีความมั่งคั่งทางการเงินที่ยังสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ตามปกติและส่วนใหญ่จะซื้อด้วยเงินสดมากกว่าการขอสินเชื่อ แม้ในช่วงนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงก็ตาม


โดยในครึ่งปีหลังผู้ประกอบการรายใหญ่ค่อนข้างที่จะระมัดระวังการเปิดตัวโครงการใหม่และขยับขยายการพัฒนาโครงการแนวราบไปในบริเวณชานเมืองมากขึ้น เช่น โซนเหนือและตะวันตกของกรุงเทพฯ เพราะยังมีพื้นที่ให้เหลือพัฒนา อีกทั้งราคาที่ดินยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับในตัวเมือง เพราะพื้นที่ย่านชานเมืองมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากการพัฒนาถนน รถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ประเภทมิกซ์ยูส ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้มีการพัฒนาและกระจายออกไปยังพื้นที่บริเวณชานเมืองมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ซื้อสามารถเลือกทำเลที่อยู่อาศัยได้ตามความต้องการ

นอกจากรูปแบบบ้าน ทำเล คุณภาพที่มีผลต่อการตัดสินใจ สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึง คือ สภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการรวมไปถึงสภาพแวดล้อมหน้าโครงการ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อได้เห็นถึงความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ เป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยในการตัดสินใจของผู้ซื้อได้เร็วยิ่งขึ้น

"จากจำนวนผู้ประกอบที่มีการพัฒนาโครงการแนวราบและเปิดตัวโครงการมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มอุปทานของตลาดบ้านเพิ่มขึ้นและมีมากกว่าอุปสงค์ ทำให้เกิดภาวะการแข่งขันสูงเพราะตัวเลือกที่หลากหลายไม่สอดคล้องกับผู้ซื้อที่ค่อนข้างมีจำกัด อย่างไรก็ดีหากแต่สามารถพัฒนาโครงการที่มีจุดเด่น ออกแบบโครงการได้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการต่อผู้อยู่อาศัยโครงการก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน"
#3365



นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้น ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่สถานพยาบาลที่รองรับการรักษาผู้ป่วยมีไม่เพียงพอ

ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด 19  ในรูปแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolationของกระทรวงสาธารณสุข และคำสั่งนายทะเบียนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)  ตลอดจนเป็นการมอบความอุ่นใจ รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยการดูแลที่ครอบคลุม พร้อมรองรับสถานการณ์ในปัจจุบันได้อย่างเหมาะสมนั้น 

ล่าสุด  บริษัทฯ ได้ขยายความคุ้มครองการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีความคุ้มครองสุขภาพทุกแบบที่มีค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD)  ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) และชดเชยรายวัน ในกรณีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 และแพทย์ผู้ดูแลรักษาของหน่วยบริการสาธารณสุขเห็นสมควรให้สามารถแยกกักตัวในที่พัก (Home Isolation) หรือแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) ได้ ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด


ทั้งนี้บริษัทฯ จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดโควิด 19  ที่เข้าระบบการรักษาในรูปแบบ
Home Isolation หรือแบบ Community Isolation  ในกรณีที่เข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน โดยจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวนผลประโยชน์สำหรับค่าใช้จ่าย ซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามที่ระบุไว้ในตารางผลประโยชน์ของกรมธรรม์ประกันภัย 

สำหรับการจ่ายค่าชดเชยรายวันสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อโควิด 19 ผู้เอาประกันภัยต้องมีเอกสารที่แสดงว่าเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด 19 โดยแพทย์ผู้ดูแลรักษา และมีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาล แต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ  โดยบริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยรายวันไม่เกิน 14 วันนับแต่วันที่ปรากฎในหลักฐานที่แสดงถึงความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ในสถานพยาบาลแต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ

 
"เรายังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้นโยบาย "MTL Trusted Lifetime Partner" ที่พร้อมดูแลและเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต ซึ่งการขยายความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาลสำหรับลูกค้าที่ติดเชื้อโควิด 19 และได้เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่เมืองไทยประกันชีวิต ได้นำออกมาเพื่อสร้างความอุ่นใจและบรรเทาความเดือนร้อนให้กับลูกค้าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19  นี้" นายสาระ กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง 

หมายเหตุ :

เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
อ้างอิงคำนิยาม Home Isolation หรือ Community Isolation ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 43/2564 เรื่อง การจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัย ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation สำหรับบริษัทประกันชีวิต ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564
#3366



เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 ก.ค. 2564 ในการแถลงสถานการณ์โควิด 19 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรหวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนโควิด19 แล้ว 17,011,477 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 13,225,233 ราย และครบ 2 เข็ม 3,786,244 ราย   ส่วนความครอบคลุม พื้นที่กทม,และปริมณฑล 44.20 % เฉพาะกทม. 61.67 % ส่วนของผู้สูงอายุได้รับวัคซีนแล้วประมาณ 70 %  แต่ในภูมิภาคฉีดได้เพียง 12 % เพราะวัคซีนมีจำนวนจำกัด ที่ผ่านมาจึงเกลี่ยมาให้หพื้นที่ระบาดอย่างกรุงเทพฯและปริมณฑลก่อน  แต่จากนี้ต่างจังหวัดจะได้รับวัคซีนมากขึ้น โดยในเดือนส.ค.ที่จะมีวัคซีน 10 ล้านโดสก็จะกระจายไปฉีดในต่างจังหวัดมากขึ้น เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป  ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ขึ้นไป จะได้วัคซีนก่อน จากนั้นเป็นอสม. และบุคลากรอื่นๆต่อไป 

      นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า  การฉีดวัคซีนในสูตรใหม่ คือ ซิโนแวคเข็มที่ 1 และ แอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 โดยห่างกัน 3 สัปดาห์  ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับสูตรเดิมแต่ฉีดครบ 2 เข้มเร็วขึ้นจาก 12 สัปดาห์เหลือเพียง 3 สัปดาห์ ซึ่งจากที่มีการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้วนั้น ในแง่ความปลอดภัยและอาการไม่พึงประสงค์หลังการรับวัคซีนไม่ได้แตกต่างจากการฉีดแบบสูตรเดิม จึงมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ

      "ส่วนการกระจายวัคซีนเดือนส.ค. ช่สงกระจาจวัครซีนเดือนส.ค.จะกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น หลังจากที่เดือนมิ.ย.- ก.ค.กระจายในกทม.ปริมณฑลค่อนข้างมากเพื่อควบคุมการระบาดของโรค โดยมีเป้าหมายฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง รวมถึง อสม.เป็นหลัก จากนั้นส่วนหนึ่งจะใช้ควบคุมการระบาดในพื้นที่ระบาดเป็นจุดๆไป และฉีดในกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เช่น พื้นที่ท่องเที่ยง อาทิ พังงา กระบี่ เป็นต้น"นพ.โอภาสกล่าว  

  นพ.โอภาส  กล่าวอีกว่า สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ซึ่งได้รับบริจาคจากประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวน 1.5 ล้านโดสและส่งมาถึงประเทศไทยแล้วนั้น  จะฉีดใช้ให้ 4 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย 

     กลุ่มที่ 1  บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด19ทั่วประเทศ เป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิค้มกัน จำนวน 7 แสนโดส   ซึ่งได้มีการสำรวจรายชื่อจากรพ.ต่างๆส่งมา จากนั้นสธ.จะกระจายวัคซีนไปรพ.เป้าหมายต่างๆ เพื่อฉีดให้บุคลากรสาธารณสุขมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น

กลุ่มที่ 2 ฉีดในผู้สูงอายุ  ผู้ที่มี 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง  หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์สามารถรฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ด้วย เพราะฉะนั้นจะมีการฉีดให้กลับเด็กที่มีอายุ 12 ขึ้นไปและป่วยใน 7 กลุ่มโรคเรื้อรังจะได้รับวัคซีนนี้ด้วย ซึ่งจะมีการกระจายไปใน 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส จำนวน 645,000 โดส

กลุ่มที่ 3 ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย โดยเป็น ผู้ที่มี 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง  หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ และคนไทยผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักเรียน  นักศึกษา เป็นต้น จำนวน 150,000 โดส

และกลุ่มที่ 4  ทำการศึกษาวิจัย โดยการอนุมัติของคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม เพื่อนำผลการวิจัยมาใช้ในการกำหนดนโยบายต่อไป จำนวน 5,000 โดส   

 
สรุปไทม์ไลน์ 'วัคซีนโควิด-19' อย่าง 'วัคซีนไฟเซอร์' 1.5 ล้านโดส ได้ฉีดเมื่อไหร่
  "วัคซีนไฟเซอร์ที่ส่งมาเป็นวัคซีนเข้มข้น ต้องมีการผสมด้วยน้ำเกลือก่อนนำไปฉีด เป็นวัคซีนที่ใน 1 ขวดผสมแล้วฉีดได้ 6 โดส  โดยวัคซีนไฟเซอร์กำหนดให้ฉีดโดสละ 0.3 มิลลิลิตรเข้าชั้นกล้ามเนื้อ โดยฉีดห่างกัน 3 สัปดาห์ สามารถเก็บในอุณหภูมิ -90 ถึง -70 องศาเซลเซียสได้นาน 6 เดือน และเก็บในอุณหภูมิตู้เย็น 2-8 องศาเซลเซียสได้ 1 เดือน เพราะฉะนั้นต้องวางแผนอย่างดีในการบริหารจัดการการกระจายและการฉีดวัคซีน ทั้งการนัดหมายวันเวลาที่จะมาฉีด เนื่องจากเก็บรักษาในตู้เย็นธรรมดาได้แค่ 1 เดือน"นพ.โอภาสกล่าว   

       นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า ไทม์ไลน์วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส  คือ 30 ก.ค. 2564 วัคซีนล้อตบริจาคถึงประเทศไทย จัดเก็บที่คลังวัคซีนที่ -70 องศาเซลเซียส ของบริษัทซิลลิค ฟาร์มา(ประเทศไทย) จำกัด และส่งตัวอย่างตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2 ส.ค.คาดว่าจะได้รับผลตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย วันที่ 3-4 ส.ค. บริษัทจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ แพ็ควัคซีนเพื่อจัดส่ง 5-6 ส.ค.จัดส่งวัคซีนล็อตแรกเข็มกระตุ้นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และเข็ม 1 สำหรับกลุ่มเสี่ยงเป้าหมายถึงหน่วยบริการ วันที่ 7-8 ส.ค. รพ.เตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีน โดยรพ.ต้องนัดหมายคนมาฉีด ควบคุมเวลาอย่างดี เพราะเอาออกจากตู้เย็นแล้วจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะฉะนั้นความแม่นยำในการนัดหมายต้องเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นวัคซีนจะเสียหาย  วันที่ 9 ส.ค. หน่วยบริการเริ่มฉีดวัคซีน และกลางเดือนส.ค.2564 จัดส่งวัคซีนเข็ม 2 สำหรับฉีดปลายเดือนส.ค.2564  คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนส.ค. 2564
#3367
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด กนง.'คงดอกเบี้ย0.50%'ในการประชุม4ส.ค.64


"ศูนย์วิจัยกสิกรไทย"ประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ กนง. จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงอย่างมากจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งส่งผลให้การแพร่ระบาดมีแนวโน้มควบคุมได้ยากขึ้น

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขของไทยเผชิญข้อจำกัดมากขึ้น คาดว่าภาครัฐจึงจำเป็นต้องต่ออายุมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการจ้างงาน และมีผลกระทบต่อเนื่องไปยังกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ทรุดตัวไปกว่าเดิม

ดังนั้น มาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายยังคงมีความจำเป็นในการช่วยประคับประคองเศรษฐกิจควบคู่ไปกับมาตรการทางการคลังที่ออกมาเพิ่มเติม ซึ่งในการประชุมกนง.ที่จะถึงนี้ คาดว่ากนง. น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% เพื่อเก็บกระสุนไว้ใช้ในยามสถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลงไปกว่านี้ ท่ามกลางความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) ที่มีจำกัด

ในขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะยังคงมุ่งเน้นการใช้มาตรการที่ตรงจุดเพื่อช่วยลดภาระหนี้สินของภาคธุรกิจและครัวเรือน โดยล่าสุดธปท. ร่วมกับสมาคมธนาคารไทยและสมาคมธนาคารนานาชาติได้เห็นร่วมกันออกมาตรการเร่งด่วนด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ SMEs และ รายย่อย เป็นระยะเวลา 2 เดือนให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ

 อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลงกว่าที่คาด กนง. คงเผชิญแรงกดดันให้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า โดยการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งที่กนง. อาจนำมาพิจารณา

ทั้งนี้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายไตรมาส 3ปี2564 และส่งผลให้ทางการยังจำเป็นต้องต่ออายุมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดต่อไปในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความเสี่ยงเชิงลบเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งทางภาครัฐคงจำเป็นต้องออกมาตรการทางการเงินและการคลังเพิ่มเติมเพื่อเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจ

โดยธปท. น่าจะยังคงมาตรการเฉพาะจุดที่ช่วยลดภาระหนี้สิน เช่น การพักชำระหนี้ ต่อไป ขณะที่ มีความเป็นไปได้ที่กนง. อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้าหากมีความจำเป็น เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยลดภาระทางการเงินของครัวเรือนและภาคธุรกิจอย่างทั่วถึง

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อโลกขาขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถอนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่าที่คาด อาจนำมาซึ่งความท้าทายในการดำเนินนโยบายทางการเงินของธปท. โดยนโยบายการเงินของเฟดที่เปลี่ยนไปในทิศทางเข้มงวดมากขึ้นจะส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets)ซึ่งการที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าประเทศ อื่นๆ อันส่งผลให้กนง. อาจจำเป็นจะต้องพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสวนทางกับธนาคารกลางอื่นๆ จะยิ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดเงินทุนไหลออกจากตลาดเงินไทย และอาจเป็นปัจจัยกดดันค่าเงินบาทในระยะข้างหน้า 
#3368



นายธีระธัช รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วิลล่า ฟอเรสต์ กล่าวว่า ได้เปิดตัวเฟสแรก คือ "โรงเรียน ที่ซึ่งสะท้อนถึงการเรียนรู้รอบด้านควบคู่คุณธรรม" เพราะการศึกษามีความสำคัญ เป็นรากฐานของชีวิต จึงได้ร่วมกับ Wells International School, Chonburi Campus สานพลังเสริมสร้างจินตนาการการเรียนรู้วิถีใหม่ เพื่อพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้คู่คุณธรรม



ทั้งนี้มีข้อเป้าหมายร่วมกันที่จะเพื่อบ่มเพาะกล้าพันธุ์ให้เติบใหญ่อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ให้เป็นโรงเรียนวิถีใหม่ มีศูนย์การเรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติ ที่เด็กๆ จะได้มาเรียนรู้ มีที่นาให้เด็กๆ เอาเท้าสัมผัสดินสัมผัสหญ้า และมีแปลงผักให้ทดลองปลูกผักเก็บผัก และทำกิจกรรมร่วมกันที่จะสร้างสรรค์จินตนาการให้เด็กๆ เก่งและดี มีความสุข และมีความอ่อนน้อม โดยนำเอาวัฒนธรรม Globalization มาผสมผสานกับ Localizaion เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลง



ดร.เรย์ เดอ ลา เพนญ่า ครูใหญ่ โรงเรียนนานาชาติ เวลส์, แคมปัสอ่อนนุช กล่าวว่า คุณพ่อเคยมาทำงานในเมืองไทย ตั้งแต่ปี 1960 ทำทางด้านโครงการในพระราชดำริฯ ร.9 ทำให้ได้รับรู้และซึมซับในเรื่องราว 'เศรษฐกิจพอเพียง' มีความประทับใจมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เลยตัดสินใจมาอยู่เมืองไทย และประกอบอาชีพ 'ครู' ด้วยความเชื่อว่า "Changing the World, One student at a time"

"โรงเรียนนานาชาติ เวลส์ อยู่ในกรุงเทพฯ อ่อนนุช ทองหล่อ และบางนา มีประสบการณ์มา 20 ปีแล้วในการจัดการเรียนการสอนที่ทำให้นักเรียนที่จบทุกๆ ปีสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยดังๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย จึงมีความตั้งใจจะขยายสาขาอีก แล้วมาเจอที่ชลบุรี โครงการวิลล่า ฟอเรสต์ รู้สึกหลงใหลไปกับธรรมชาติต้นไม้หลากพันธุ์ และที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งและศูนย์รวมที่นำเอาหลักคิดวิถีพอเพียงมาใช้"



ดังนั้นจึงอยากจะสร้างโรงเรียนแห่งนี้ในพื้นที่ 24 ไร่ ให้เป็นแคมปัสที่สามารถจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนสามารถที่จะเรียนรู้ได้ตั้งแต่ในห้องเรียนไปจนถึงนอกห้องเรียน โดยจะสร้างพื้นการเรียนการสอนให้มีคุณภาพเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ซึ่งไม่ใช่เก่งแค่วิชาการ แต่สามารถพัฒนาต่อยอดสู่ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เพราะบรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติต้นไม้ จะทำให้โล่ง หายใจสะดวก ทำให้สนุกในการเรียนรู้ เกิดการเรียนรู้ที่ดี เกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และนี่คือหัวใจแห่งการเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ



ด้วยบรรยากาศที่สร้างกระบวนการเรียนรู้ได้ดีนั้น สามารถรองรับนักเรียนมัธยมที่จะทำ Diploma หรือ ประกาศนียบัตร ได้ตามความสนใจ สำหรับเด็กประถมจะทำให้เด็กๆ เกิดกระบวนการเรียนรู้ได้ดีขึ้น เพราะมีพื้นที่ได้ทำกิจกรรม มีแปลงผักปลูกต้นไม้ หรือจะนำสิ่งแวดล้อมธรรมชาติมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำงานศิลปะได้ด้วย

"สิ่งสำคัญที่สุดในแคมปัสแห่งนี้ สามารถรองรับกลุ่มคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ได้อย่างดี เด็กตื่นมาไปเรียนได้เลย ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องจราจร รถติด เหมือนกรุงเทพฯ ทั้งคนในครอบครัวก็จะอยู่ด้วยกันมากขึ้น พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ-แม่-ลูก เด็กๆ ไม่ต้องรอพ่อแม่นาน แล้วก็ได้ไม่นอนดึก ทำให้เกิดความสุข สุขภาพดี การเรียนรู้ยิ่งดี"

โครงการต้นแบบชีวิตวิถีใหม่แห่งนี้ ยังมีแนวคิดแห่ง 'บ-ว-ร' ในส่วนของ 'บ-บ้าน' ที่ให้มากว่าคำว่าบ้าน และ 'ว-วัด' ที่มาของการพัฒนาจิตใจของทุกชาติและศาสนา ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจ และมีให้ติดตามกันในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.085 399 4030
#3369


โฮมโปร ในฐานะผู้นำเรื่องบ้านครบวงจร TOTAL HOME SOLUTION รับมือกับภาวะวิกฤติ COVID-19 ปรับสินค้าตอบโจทย์ ในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเรื่องบ้านที่ตอบสนองเรื่องความสะอาดภายในบ้านครบวงจร ตลอด 24 ชม. เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เหมือนยกโฮมโปรมาไว้ที่บ้านคุณ

น.ส.เสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ "โฮมโปร" เผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้โดยเร็วที่สุด จึงทำให้ต้องงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และอาจไม่สะดวกในการใช้ชีวิต โฮมโปรเข้าใจถึงปัญหาของลูกค้าทุกคน เห็นความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเราได้วางแผนตั้งรับสถานการณ์ดังกล่าวเอาไว้แล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเตรียมสินค้า เพื่อให้มีเพียงพอ เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการSME และลูกค้าทั่วไป จากการที่ เกิดความกังวลเรื่องการแพร่ระบาด ส่งผลให้ คนส่วนใหญ่ไม่ออกนอกบ้าน คนทำงานก็ทำงานที่บ้านมากขึ้น เราจึงคัดสรรสินค้าที่สนองตอบไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป สามารถช้อปเรื่องบ้าน ผ่านทุกช่องทางออนไลน์ของโฮมโปร เพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าตลอด 24 ชม.



"โฮมโปร ในฐานะผู้นำเรื่องบ้านครบวงจร TOTAL HOME SOLUTION ได้เตรียมรับมือกับปัญหาวิกฤติไวรัสโควิด 19 ( COVID-19 ) จึงได้เตรียมสต็อกสินค้าไว้รองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยแบ่งกลุ่มสินค้าเป็น Stay Safe Stay Home อยู่บ้านให้ปลอดภัย กลุ่มสินค้าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID -19 ของใช้ส่วนตัวที่ทุกคนต้องมี กระดาษอเนกประสงค์ , หน้ากากอนามัยการแพทย์ , เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ , ถุงมือยาง , สบู่เหลวล้างมือ, สเปรย์ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ , ตะกร้าผ้า , ผ้าขนหนู,อุปกรณ์จำเป็น ตู้ลิ้นชัก 4 ชั้น ,โต๊ะอเนกประสงค์เหลี่ยม , เก้าอี้พลาสติก , มุ้งชุดผ้าปูที่นอนหมอนข้าง, หมอนหนุน , ราวพาดผ้าสแตนเลสและเครื่องใช้ไฟฟ้า รางปลั๊กไฟ , พัดลมตั้งโต๊ะ , ตู้เย็น 1 ประตู , กาต้มน้ำไฟฟ้า , ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว , เครื่องซักผ้าฝาบน , เครื่องปิ้งขนมปัง



ทั้งนี้โฮมโปรพร้อมมอบประสบการณ์การซื้อของที่สะดวกสบาย และไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้า ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์จากที่บ้านตลอด 24 ชม. เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เหมือนยกโฮมโปรมาไว้ที่บ้านคุณ บริการ CHAT SHOP4YOU เพียงทักมาเราช่วยช้อปแทนลูกค้า เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว ทั้งยังช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เพียง สั่ง > จ่าย > ส่ง แค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ สั่งได้ที่ช่องทาง Line @HomePro,Facebook HomePro Thailand, จ่ายง่ายสะดวกหลากหลายช่องทางการชำระเงิน ผ่านเงินโอน / โอนเงิน / พร้อมเพย์ / อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง / คิวอาร์เครดิต / บัตรเครดิต /
เดบิตกับธนาคารชั้นนำ ช้อปออนไลน์สะดวก24 ชั่วโมงที่ www.homepro.co.th หรือดาวน์โหลด Mobile Application HomePro APP แอปเดียวครบ จบทุกเรื่องบ้าน โดยลูกค้าสามารถเลือก
ดูสินค้าเรื่องบ้านมากมาย ครบทุกหมวดหมู่ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม จะเลือกรับด้วยตนเองที่สาขากับบริการ Click &Collect หรือบริการส่งถึงหน้าบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เราพร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเต็มกำลัง
#3370



"กรุงเทพธุรกิจ" มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ "ชาติชาย พยุหนาวีชัย" อดีตขุนพลมือดีที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเงินนานกว่า 30 ปี และผู้บริหารของธนาคารหลายแห่ง ที่เข้ามาเป็นกำลังหลักเดินหน้าภารกิจก้าวข้ามสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญจากนี้ ในฐานะ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการบริษัท ร่วมสานกลยุทธ์ "ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" ภายใต้แนวคิด "ORIGIN NEXT LEVEL" ที่จะมีการขยายธุรกิจทั้งเชิงกว้างและเชิงลึกด้วยทำเลใหม่ แบรนด์ใหม่ กลุ่มธุรกิจใหม่ ความร่วมมือใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายใหม่ และ สร้างสรรค์ฟังก์ชั่นใหม่ และบริการใหม่ ในบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม

ชาติชาย เล่าย้อนการมาร่วมทัพ "ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" ครั้งนี้ ได้รับการชักชวนจากผู้บริหารออริจิ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจมาร่วมทัพด้วย คือเรื่อง "ความหลงใหล"(Passion)การทำงานที่ตรงกัน และบิ๊กชาเลนจ์ในการสร้างอีโคซิสเท็มของออริจิ้น เพื่อ "ต่อยอด" ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯ อย่างครบวงจร ถือเป็นความท้าทายใหม่ในการนำประสบการณ์จากภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐมาใช้ในการทำงานร่วมกับออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้

"ไม่ใช่" เพียงแค่ด้านการเงินเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงทั้งด้านการตลาด และด้านภาพลักษณ์องค์กร ในการก้าวสู่ เน็กซ์ เลเวลในด้านต่างๆ ตามที่ประกาศแผนไว้เมื่อช่วงต้นปี อาทิ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company : AMC) ที่เขามีความคุ้นเคยอยู่แล้วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเข้ามาช่วยปรับองค์กรในภาพรวมเพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ชาติชาย กล่าวย้ำว่า กลยุทธ์สำคัญที่จะนำพา "ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" ให้ก้าวไปตามแผน "ออริจิ้น เน็กซ์ เลเวล" ได้นั้น เกิดจาก 2 ส่วนหลัก ส่วนแรก การคิดแบบ "เน็กซ์ นอร์มอล" ให้โตไปแบบ เน็กซ์ เลเวล โดยนำแนวคิดในการปรับตัวรับมือวิกฤติโควิดในช่วงท้ายของการทำงานที่ธนาคารออมสินก่อนเกษียณ มาใช้ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบงาน ขีดความสามารถในการทำงานของทีมงานใหม่เพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวันข้างหน้า

"เราเห็นเลยว่าความยืดหยุ่นเป็นเรื่องสำคัญ และทีมงานจำเป็นต้องเข้าใจเรื่อง เน็กซ์ เลเวลในทุกมิติ เพราะถ้าไม่เข้าใจ ก็จะปรับตัวไม่ทัน และก้าวไปไม่ทันโลก"

ส่วนที่สอง "ซินเนอร์จี้" ธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตดี (Sunrise Industry)ทั้งแนวกว้างและแนวลึก โดยในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ จะมีบ้านจัดสรร มีคอนโดมิเนียมครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์

สเต็ปต่อไปคือการก้าวไปสู่เซ็กเตอร์อุตสาหกรรมใหม่เพื่อขยายแลนด์สเคปธุรกิจของออริจิ้นให้กว้างขึ้นในอนาคต!!

จากเมื่อต้นปี ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้ประกาศทิศทาง เน็กซ์ เลเวล ใน 3 กลุ่มธุรกิจใหม่ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจบริหารสินทรัพย์, ธุรกิจเวลเนส และธุรกิจโลจิสติกส์ ถือเป็นธุรกิจที่มีอนาคต และที่เติบโตรวดเร็วในยุคเน็กซ์ นอร์มอล ล่าสุดขยายไปสู่ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจความงาม ข้อดีของการซินเนอร์จี้ระหว่างเซ็กเตอร์ระหว่างอุตสาหกรรมจะทำให้องค์กรแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากธุรกิจที่หลากหลาย

สำหรับ ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ซึ่งเผชิญวิกฤติโควิด-19 มาตลอดช่วงเกือบ 2 ปีนี้ มีความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก แต่ออริจิ้น มีการปรับตัวตลอดเวลา ซึ่งองค์กรค่อนข้างมีพื้นฐานชุดความคิดที่ยืดหยุ่น (Flexible Mindset) พร้อมรับการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง การทำ Property Live ขายคอนโดแบรนด์ ดิ ออริจิ้น ผ่าน Live สดบนเฟซบุ๊ก จนกวาดยอดขายกว่า 200 ล้านบาท

"พื้นฐาน ออริจิ้น เป็นองค์กรที่ไม่มีกำแพง ไม่มีเพดาน คนในองค์กรพร้อมจะคิดสิ่งใหม่ๆ ไปทั้งแนวกว้าง แนวสูง แนวลึก กันอยู่เสมอ 2 กลยุทธ์ที่ผมบอกไปข้างต้น จะเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญที่ทำให้ออริจิ้นก้าวไปแบบ เน็กซ์ เลเวล ได้ทั้งองคาพยพ"

จากประสบการณ์ของ "ชาติชาย" ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยใช้เวลา2-3ปีในการฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย หากองค์กรไหนมีการปรับตัวดีจะมีอัตราการเติบโตเหนือกว่าอุตสาหกรรม และคู่แข่ง อย่าง ออริจิ้น ในภาวะแบบนี้ยังขายได้จากการหาลูกค้าใหม่เข้ามาเสริม เช่น กลุ่มนักศึกษา คนชอบเลี้ยงสัตว์ กลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงการขยายช่องทางขายผ่านทางออนไลน์ ที่ผ่าน มียอดโอนจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ กว่า 600 ล้านบาท!!

ปัจจุบัน ออริจิ้น พยายามนำ "บิ๊กดาต้า" ของลูกค้าที่มีอยู่กว่าแสนรายนำมาใช้ประโยชน์ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้ทุกช่วงชีวิตทั้งไลฟ์สเตต(เมนต์) และไลฟสไตล์ ตั้งแต่เริ่มทำงาน เข้าสู่ช่วงวัยกลางคนและสูงวัย รวมทั้งการลงทุนร่วมสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ เข้ามาเสริมให้ออริจิ้นแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงเรื่องของ "ดิจิทัลแอสเสท" เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ซึ่งแต้มต่อที่สำคัญที่จะทำให้ ออริจิ้นจะสามารถสร้างความผูกพันกับลูกค้า 360 องศา เพื่อวิเคราะห์โอกาสการขายที่เป็นไปได้กับลูกค้าแต่ละราย เพื่อการขายเพิ่ม ขายซ้ำ และสุดท้ายลูกค้าก็มีความสุข พึงพอใจในบริการของบริษัทและกลายเป็นลูกค้าชั่วชีวิต

พร้อมกับการทะยานขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาฯ ได้ในหลากหลายมิติทั้งจากนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล ช่องทางขายสื่อสารผ่านทางออนไลน์ การร่วมมือพาร์ทเนอร์ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และก้าวเป็นเบอร์หนึ่งในอนาคต "ชาติชาย" เชื่อว่า เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินฝัน หลังจากที่ออริจิ้นสามารถผลักดันยอดขายเติบโตจนมียอดขายปีละเกือบ 30,000 ล้านบาทและมีแบ็คล็อก (Backlog)ถึง 40,000 ล้านบาททำให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง
#3371



เอสซีจี เซรามิกส์ ขึ้นแท่นบริษัทยั่งยืนที่น่าลงทุน ผลประกอบการไตรมาส 2 และครึ่งปีแรก 64 แข่งขันได้กำไรต่อเนื่อง โชว์นวัตกรรมกระเบื้องฟอกอากาศ พร้อมดันแบรนด์ SUSUNN ลุยธุรกิจพลังงานทางเลือกเต็มตัว

นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) โสสุโก้ (SOSUCO) และ คัมพานา (CAMPANA) เปิดเผยงบการเงินรวมก่อนสอบทาน ของ COTTO ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 16 จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 177 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 328 โดยในไตรมาสนี้บริษัทยังคงสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการบริหารและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้ดีอย่างต่อเนื่องจึงทำให้ผลประกอบการใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ โดยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้จากการขาย 5,613 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทสามารถทำกำไรสำหรับงวดได้ 364 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 119 ใกล้เคียงที่คาดการณ์ไว้



"แม้ว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวสูงขึ้นมากแต่ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรายังสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตให้เป็นไปตามแผนงานได้ สำหรับยอดขายไตรมาสนี้และในครึ่งปีแรกจะเห็นได้ว่าสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนมากแม้ว่าการระบาดของ COVID-19 จะมีความรุนแรงมากกว่าปีที่แล้ว แต่เนื่องจากในปีนี้ช่องทางจัดจำหน่ายที่สำคัญ โดยเฉพาะโมเดิร์นเทรดและร้านผู้แทนจำหน่ายขนาดใหญ่ ยังสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติจึงทำให้ยอดขายในตลาดระดับกลาง-ล่างยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงทั้งลาวและกัมพูชา ตลอดจนสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมาร์ ส่งผลให้ยอดขายในส่วนของตลาดต่างประเทศลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน"

นายนำพล กล่าวต่อว่า ภาวะตลาดในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ คาดว่าผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในภาพรวมยังไม่ฟื้น เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมากจากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งจากความยืดเยื้อของการระบาด และการกลายพันธุ์ของไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการใช้จ่ายในประเทศ แผนการเปิดประเทศ การปิดกิจการ และการเลิกจ้างแรงงาน ล่าสุด การแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบใหม่ที่กระจายตัวไปยังแคมป์ก่อสร้างมีผลกระทบเพิ่มเติมทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนแรงงานด้วย ส่วนแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีการชะลอโครงการใหม่และหันมาเร่งการโอนในปัจจุบันให้เร็วขึ้น ซึ่งภาครัฐอาจจะช่วยกระตุ้นได้ด้วยมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจ มาตรการฟื้นฟูการสร้างรายได้ให้ประชาชน และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันให้ครอบคลุมจำนวนมากที่สุด



อย่างไรก็ตามแม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะชะลอตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าแต่สำหรับตลาดสร้างซ่อมตกแต่งต่อเติมเห็นว่ามีแนวโน้มที่ยังไปต่อได้โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผู้คนต่างก็มีประสบการณ์ที่ต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัยเป็นระยะเวลานาน กระตุ้นให้เกิดความต้องการที่จะปรับปรุงและเตรียมความพร้อมของที่อยู่อาศัยเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงเร่งออกสินค้านวัตกรรมในกลุ่ม Health and Clean อย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าหลังจากสถานการณ์ฯ คลี่คลายลง จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องสุขภาพ

"COTTO ยังคงเป็นผู้นำเทรนด์เรื่องสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ภายในบ้านและที่พักอาศัย จากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือฝุ่น PM2.5 มีปริมาณสูงเกินค่ามาตรฐานทุกปีส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศ และเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ล่าสุด ได้ออกสินค้า "กระเบื้องฟอกอากาศ" หรือ AIR ION (แอร์ ไอออน) ที่มีคุณสมบัติช่วยลดฝุ่นละอองขนาดเล็กซึ่งเป็นภัยร้ายใกล้ตัวมากกว่าที่คาดคิด โดยเมื่อติดตั้งกระเบื้อง AIR ION 40% ของพื้นที่ บนพื้นหรือผนังของห้องจะสามารถดักจับฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 89% โดยคุณสมบัติฟอกอากาศนี้เกิดจากชั้นเคลือบของกระเบื้องที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุธรรมชาติที่มีคุณสมบัติปล่อยไอออนลบออกมากว่า 3,000 ไอออนต่อลูกบาศก์เซนติเมตร เพื่อเข้าจับฝุ่นละอองที่ลอยตัวฟุ้งอยู่ในอากาศให้ตกสู่พื้นจนเหลือเพียงอากาศที่สะอาดตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าไฟเพิ่ม"



ทั้งนี้ในส่วนของแบรนด์ "SUSUNN" ที่ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดจำหน่ายและติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนซึ่งเป็นพลังงานสะอาดหลากหลายประเภท ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มเปิดตัวแบรนด์ SUSUNN อย่างจริงจัง โดยลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในส่วนของโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารสำนักงาน บริษัทโอสถสภา จำกัด (มหาชน) เรื่องเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน หรือ Energy Saving ทั้งในด้าน Solar Business ด้าน Energy Audit และ โครงการซื้อขายไฟฟ้าและคาร์บอนเครดิต ผ่านคนกลาง บน SUSUNN Platform ล่าสุด ยังได้ร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกของ เอสซีจี เซรามิกส์ ด้วย

"แบรนด์ SUSUNN ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมของผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทดแทนอย่างแท้จริงโดยที่ผ่านมาบริษัทได้รับรางวัลการันตีทั้งจากในและต่างประเทศทั้ง Thailand Energy Award และ ASEAN Energy Award หลายปีซ้อน โดยเราได้เริ่มดำเนินธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบมาประมาณ 2 ปีแล้ว และมีลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มวัสดุวาล์วและข้อต่ออุตสาหกรรม เช่น บริษัท เอ็ม.เจ.บางกอกวาล์วและฟิตติ้ง จำกัด, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) กลุ่มผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติก เช่น บริษัท มัลติแบกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือแม้กระทั่งกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เช่น นิคมอุตสาหกรรมสงขลา ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ)"

โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมามีรายได้จากสินค้าและบริการรวมแล้วประมาณ 227 ล้านบาท ถึงแม้จะยังไม่สูงมากแต่ก็ถือว่าสอดคล้องกับเทรนด์การเติบโตของตลาดธุรกิจพลังงานสะอาดในประเทศที่มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาทและคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากนี้ไปในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า จากการวางแผนขยายกลุ่มเป้าหมายจากเดิมและบริการเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เช่น การนำเสนอนวัตกรรมด้านพลังงานแสงอาทิตย์ อาทิ แผงโซล่าร์เซลล์ แบบ BIPV (Building Integrated Photovoltaics) ที่ใช้แทนวัสดุก่อสร้าง เช่น หลังคาหรือผนัง โรงจอดรถพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Carport with EV Charger รวมถึงนำเสนอระบบการจัดการพลังงาน เช่น ระบบตรวจรับรองการจัดการพลังงาน ระบบตรวจวัดวิเคราะห์การใช้พลังงาน ตลอดจนจัดทำโครงการอนุรักษ์พลังงานให้กับสถานประกอบการของลูกค้าด้วยมาตรฐานระดับสากล และจัดทำโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายด้านพลังงานของภาครัฐในอนาคต เช่น โครงการซื้อขายไฟฟ้าและคาร์บอนเครดิตผ่านคนกลาง เป็นต้น

นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมีเรื่องที่น่ายินดีที่ บริษัทเอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ได้รับคัดเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ให้อยู่ในทำเนียบ "บริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน" หรือ ESG Emerging List ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) และเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนแบบยั่งยืนที่ทนทานต่อวิกฤตการณ์โควิด โดย COTTO เป็น 1 ใน 24 หลักทรัพย์ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าอยู่ในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2564 และติดกลุ่มหลักทรัพย์ยั่งยืนที่น่าลงทุน หรือ ESG100 ประจำปีด้วย

โดยล่าสุดจากการประเมินภาพรวมผลการดําเนินงานของ บริษัทฯ โดย สถาบันไทยพัฒน์ พบว่า บริษัทฯ ได้มีการเปิดเผยข้อมูลผลการดําเนินงานทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ผลการดำเนินงานด้านสังคมและผลการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาล โดยมีภาพรวมผลการประเมินอยู่ในระดับ GOLD ซึ่งเป็นระดับสูงสุดด้วย
#3372



"มาร์ก กูดดิ้ง" ว่าที่เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย ทวีตข้อความในค่ำวานนี้ (28 ก.ค.) @markgooding ระบุว่า  สหราชอาณาจักรประกาศบริจาควัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า 415,000 โดสแก่ประเทศไทย

"วันนี้ สหราชอาณาจักรมีวัคซีนบริจาคให้ประเทศไทย จำนวน 415,000 โดส ผลิตโดสบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในสหราชอาณาจักร และจัดส่งถึงประเทศไทยในอีก 1 - 2 สัปดาห์ข้างหน้า" ว่าที่ทูตกูดดิ้งกล่าว และระบุว่า ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 สหราชอาณาจักรได้หาทางนำทั่วโลกต่อสู้เพื่อป้องกันโรคร้าย กว่าหนึ่งปีมาแล้วที่เราได้ให้ทุนสนับสนุนพัฒนาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า - ออกซ์ฟอร์ด โดยยึดหลักต้องแจกจ่ายให้คนทั่วโลกในราคาทุน โดยไม่หาผลกำไร มีเป้าหมายเดียวคือ ขอให้กระจายวัคซีนนี้ไปทั่วโลกอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรม 

ว่าที่เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร กล่าวอีกว่า วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพสูง จนถึงวันนี้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 500 ล้านโดสใน 160 ประเทศทั่วโลก และเนื่องจากโครงการวัคซีนโควิด-19 ในสหราอาณาจักรประสบความสำเร็จอย่างมาก ขณะนี้เรามีวัคซีนเพียงพอส่งต่อให้กับประเทศอื่นๆ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร และไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ได้รับวัคซีนเหล่านี้ ในช่วงที่ไทยเผชิญกับการระบาดสาหัสเช่นนี้ ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าสหราชอาณาจักรอยู่เคียงข้างประเทศไทยเสมอ


ในเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศ มีข้อความระบุว่า ขอขอบคุณในไมตรีจิตของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ประกาศมอบวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 415,000 โดส ให้แก่ประชาชนชาวไทย เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด สะท้อนถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร
#3373




เมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) ครั้งที่ 1/2564 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ

     สาระสำคัญประกอบด้วยการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 10 แห่งได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก สงขลา สระแก้ว ตราด หนองคาย นครพนม มุกดาหาร เชียงราย กาญจนบุรี และนราธิวาส 

โดยกำหนดกรอบการพัฒนา ได้แก่ ประกอบด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ สิทธิประโยชน์โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณา เช่น ต้องเชื่อมโยงการพัฒนาตั้งแต่ 3 จังหวัดขึ้นไป พื้นที่มีศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนา และเครือข่ายกิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถเชื่อมโยงในลักษณะของห่วงโซ่มูลค่า 

เขตเศรษฐกิจพิเศษกำลังเป็นอีกเครื่องมือดึงดูดการลงทุนเพื่อเป็นกลไกพื้นเศรษฐกิจหลังโควิด ซึ่งนอกตากเขตพัฒนาพิเศษภาคตะว้ันออก(อีอีซี) แล้วจากนี้จะมีเขตศก.พิเศษกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศด้วย 
#3374



กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)เตือนสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19ที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ ขณะที่มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีคนจนเพิ่มขึ้น ผู้คนออกมาชุมนุมประท้วงเพราะปัญหาปากท้องกันมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เกิดปัญหาความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้น

ไอเอ็มเอฟ ออกรายงานเตือนเมื่อวันอังคาร(27ก.ค.)ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงดำเนินอยู่แต่ก็ยังคงมีความเหลื่อมล้ำอย่างมากระหว่างประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้า ตลาดเกิดใหม่หลายประเทศและประเทศกำลังพัฒนา เพราะการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ที่ไม่เท่าเทียมกัน และการขาดการสนับสนุนด้านงบประมาณ

รายงานเตือนของไอเอ็มเอฟฉบับล่าสุด มีขึ้นหลังจากประมาณกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เกิดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในคิวบา ที่เป็นอีกประเทศหนึ่งที่พึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ต้องเผชิญภาวะชะงักงันจากวิกฤตโรคระบาด จนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิตของประชาชน

ชาวคิวบานับหมื่นคนออกมาเดินขบวนประท้วงในหลายเมือง เพื่อแสดงความไม่พอใจการบริหารจัดการของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลนำมาใช้ได้สร้างความยากลำบากให้ชาวคิวบา ก่อให้เกิดความไม่พอใจสะสมจนนำมาสู่การชุมนุมประท้วง

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุจลาจลและปล้นสะดมร้านค้าในหลายประเทศของแอฟริกาใต้ โดยมีสาเหตุมาจากความไม่พอใจที่รัฐบาลไม่เร่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชน รวมทั้งความยากลำบากและความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นจากเศษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคโควิด-19 ระบาดจำนวน จนส่งผลให้ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 77 ราย

รายงานฉบับนี้ของไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีนเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่จะทำให้ความสามารถในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วกับกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยแตกต่างกัน

"ประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์และมีผู้ติดเชื้อโควิด-19จำนวนมากอาจจะไม่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ตามเป้าที่วางไว้ และสิ่งนี้จะทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)โลก ภายในปี 2568"กีตา โกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ ระบุ
#3375



สีสัน "โอลิมปิก2020" นอกจากเรื่องผลงานในสังเวียนการแข่งขันแล้ว ทีมหนึ่งซึ่งกำลังฟอร์มร้อนแรงและเป็นที่สนใจของแฟนกีฬาทั่วโลกคือ "ROC" ชื่อใหม่ที่ "ทีมชาติรัสเซีย" ใช้ร่วมแข่งขัน แล้วทำไมถึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้ และหากรับเหรียญทอง พวกเขาต้องร้องเพลงอะไร

ในการแข่งขัน โตเกียว โอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นซึ่งกำลังชิงเหรียญกันอย่างเข้มข้นขณะนี้ บรรดาทีมชาติตัวเต็งเจ้าเหรียญทองไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐ หรือแม้แต่เจ้าภาพญี่ปุ่นเอง ต่างแข่งกันโกยเหรียญรางวัลทิ้งห่างคูแข่งตั้งแต่วันแรก ๆ แต่ในอันดับต้น ๆ ของทำเนียบเจ้าเหรียญทองปีนี้ (ณ วันที่ 27 ก.ค.) กลับมีชื่อหนึ่งที่แฟนกีฬาไม่คุ้นเคยโผล่เข้ามาด้วย นั่นคือทีม "ROC" (อาร์โอซี)

เพื่อป้องกันความสับสน อันดับแรก ROC ไม่เกี่ยวข้องกับ ROK ชื่อย่อประเทศเกาหลีเหนือ และไม่เกี่ยวกับ "เดอะร็อค" อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังที่ปัจจุบันเป็นดาราดังระดับฮอลลีวูดไปแล้ว แต่นี่เป็นชื่อย่อของ Russian Olympic Committee หรือ "คณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย"


- ป้ายสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย หน้าสำนักงานใหญ่ในกรุงมอสโก -

ทำไมทีมรัสเซียต้องใช้ชื่อ ROC

ชื่อ ROC ถูกนำมาใช้เป็นชื่อในการแข่งขันทัวร์นาเมนท์ระดับนานาชาติ หลังจากที่องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (WADA) สั่งแบนรัสเซียในปี 2019

การตัดสินใจครั้งนั้นของ WADA เกิดขึ้นหลังจากตรวจพบว่า รัสเซียแอบกรองปัสสาวะนักกีฬาก่อนนำไปตรวจสารกระตุ้น และหลังจากนั้น รัสเซียยังมีการส่งรายงานฉบับปลอมให้ WADA ส่งผลให้ทีมชาติรัสเซียถูกลงโทษแบนถึง 4 ปี ก่อนจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (CAS) ได้สำเร็จ จนได้ลดโทษแบนครึ่งหนึ่ง เหลือ 2 ปี


รายงานของ WADA ระบุว่า เหตุการณ์การใช้สารกระตุ้นไม่ได้รู้เห็นเป็นวงกว้างเฉพาะในหมู่นักกีฬารัสเซียเท่านั้น แต่ยังอยู่ในการรับรู้ของรัฐบาลที่นำโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินด้วย

โทษแบนครั้งนี้ทำให้รัสเซียหมดสิทธิ์ส่งทัพนักกีฬาในนามทีมชาติแข่งขันหลายรายการ รวมถึง "โตเกียว 2020" "โอลิมปิกฤดูหนาว 2022" ที่กรุงปักกิ่งของจีน และ "ฟุตบอลโลก 2022" ที่กาตาร์

ใครลงแข่งในนาม ROC ได้บ้าง

ROC เปรียบเสมือนทีมชาติรัสเซีย V.2 ดังนั้น กลุ่มนักกีฬารัสเซียที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีใช้สารกระตุ้นดังกล่าว จะได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ รวมถึงทัวร์นาเมนท์อื่น ๆ ที่รัสเซียเข้าร่วมในช่วงโทษแบน 2 ปี

ทั้งนี้ คำสั่งของ CAS ยืนยันว่า ลงโทษแบนรัสเซียออกจากการแข่งขันระดับนานาชาติ ดังนั้น นักกีฬาที่ไม่มีความผิด จึงต้องใช้ธงและตราสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งรัสเซีย หรือ ROC แทน


อย่างไรก็ตาม กฎกติกาของโอลิมปิกกำหนดให้บรรดานักกีฬาจากรัสเซียลงแข่งขันในนามของ ROC เท่านั้น และให้ใช้ชื่อย่อทีมแทนชื่อเต็ม เพื่อเลี่ยงคำว่า Russian ที่อยู่ในชื่อ Russian Olympic Committee

เมื่อรับเหรียญทองต้องร้องเพลงอะไร

ขณะเดียวกัน เนื่องจากรัสเซียไม่สามารถลงแข่งขันโอลิมปิกอย่างเป็นทางการได้ เมื่อนักกีฬาทีม ROC คว้าเหรียญทอง จะไม่มีการเล่นเพลงชาติรัสเซียหรือเชิญธงชาติรัสเซียขึ้นสู่ยอดเสา


อย่างไรก็ตาม แฟนกีฬาทั่วโลกจะได้เห็น ธงที่มีสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งรัสเซีย หรือ ROC ถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาอย่างสง่างาม พร้อมกับเสียงบรรเลงเพลง "Piano Concerto No. 1 in B-Flat Minor, Op. 23" ซึ่งประพันธ์โดย "ปิออตร์ อิลิช ไชคอฟสกี" คีตกวีชาวรัสเซียแห่งยุคโรแมนติกช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19



ไชคอฟสกีถือเป็นคีตกวีชาวรัสเซียคนแรกที่ผลงานสร้างความประทับใจในระดับโลก จนได้รับการส่งเสริมในฐานะวาทยกรรับเชิญในทวีปยุโรปและอเมริกา จึงอาจเป็นเหตุผลที่รัสเซียเลือกเล่นเพลงของคีตกวีคนนี้เมื่อนักกีฬาชนะเลิศหรือขึ้นรับเหรียญทองในการแข่งขันระดับนานาชาติ เพื่อประกาศความเป็นเลิศทั้งในด้านกีฬาและดนตรีของตน

ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.ค. ทัพนักกีฬาทีม ROC คว้าเหรียญโอลิมปิกไปแล้วรวม 18 เหรียญ แบ่งเป็นทอง 7 เหรียญ เงิน 7 เหรียญ และทองแดง 4 เหรียญ อยู่ในอันดับ 4 ของทำเนียบเจ้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 รองจากเจ้าภาพญี่ปุ่น (ทอง 10 เหรียญ / รวม 18 เหรียญ) สหรัฐ (ทอง 9 เหรียญ / รวม 25 เหรียญ) และจีน (ทอง 9 เหรียญ / รวม 21 เหรียญ) ตามลำดับ
#3376



สมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี) ร่วมกับเดอะมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และเดอะอาร์แอนด์เอ ผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ (เอเอซี) ร่วมแถลงข่าวยืนยันการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ครั้งที่ 12 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2021 ที่สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ในนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากต้องยกเลิกไปในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

การแข่งขันกอล์ฟกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2009 เพื่อเป็นเวทีพัฒนานักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยแชมป์รายการนี้จะได้รับเชิญเข้าร่วมแข่งขันในระดับเมเจอร์ รายการเดอะ มาสเตอร์ส และ ดิ โอเพน ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์ลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายลุ้นตั๋วลุยศึก ดิ โอเพน โดยในปี 2020 การแข่งขันถูกยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด -19 ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันเผยกำหนดการแข่งขันในปี 2021 จะกลับมาดวลวงสวิงระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกอล์ฟรายการนี้ โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งใน 42 ประเทศสมาชิกของสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก และนครดูไบก็เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟระดับอาชีพและระดับสมัครเล่นทุกปี รวมถึงการแข่งขันรายการ ดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ของยูโรเปียนทัวร์ และรายการดีพี เวิลด์ทัวร์ แชมเปียนชิพ

ไทมูร์ ฮัสซัน อามิน ประธานสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก เฟร็ด ริดลีย์ ประธานมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และ มาร์ติน สลัมเบอร์ส ประธานบริหารของอาร์แอนด์เอ กล่าวร่วมกันถึงการจัดการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2021 ว่า "การสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เมเจอร์รายการ เดอะ มาสเตอร์ส ในปีนี้ของฮิเดกิ มัตสึยามา ซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 สมัย เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการแข่งขันรายการนี้ในฐานะที่เวทีสำหรับการพัฒนากีฬากอล์ฟและความสามารถของนักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาค เราขอขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับสมาพันธ์ฟอล์ฟเอมิเรตส์ และดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ที่ให้การสนับสนุนจัดการแข่งขันในปีนี้ และเรามุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการแข่งขันในปีนี้ได้อย่างปลอดภัยตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อมอบโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่น ที่สมควรได้รับโอกาสเหล่านี้ ขณะที่สนามดูไบครีกจะช่วยยกระดับมาตรฐานสนามที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ และเราก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นการประชันฝีมือของนักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแถวหน้าของเอเชีย-แปซิฟิกในเดือนพฤศจิกายนนี้"

สำหรับสนามดูไบ ครีก เปิดบริการในปี 1993 เป็นสนาม 18 หลุม พาร์ 71 ซึ่งเริ่มแรกออกแบบโดยคาร์ล ลิตเท่น ก่อนจะมีการออกแบบใหม่ในปี 2004 นำทีมออกแบบโดย โธมัส บียอร์น สนามแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ในปี 1999 และ 2000 และรายการ ดูไบ ครีก โอเพ่น ซึ่งเรย์ฮัน โธมัส รองแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปี 2018 โชว์ฟอร์มทำสถิติสนามในปี 2017 เมื่อเร็วๆนี้ สนามดูไบ ครีก เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ดูไบ แชมเปียนชิพ รายการในเวิลด์ อเมเจอร์ ทัวร์ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ด้าน ชีค ฟาฮิม บิน สุลต่าน อัล กอซิมี ประธานสมาพันธ์กอล์ฟเอมิเรตส์ กล่าวว่า "หลังจากได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ มาหลายปีในฐานะสมาชิกของสมาพันธ์กอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกตื่นเต้นยินดีมากที่จะได้ต้อนรับการแข่งขันอันทรงเกียรตินี้สู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นครั้งแรก การแข่งขันรายการนี้มีความหมายอย่างมากกับบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นในเอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมสนับสนุนสมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซฟิก, มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และอาร์แอนด์เอ ในความพยายามจัดการแข่งขันที่ปลอดภัยและประสบความสำเร็จร่วมกันในการสร้างเวทีเพื่อพัฒนาและส่งเสริมเกมกีฬากอล์ฟ"

คริสโตเฟอร์ เมย์ ประธานประธานกรรมการบริหารของดูไบกอล์ฟ กล่าวว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ เป็นการรวมตัวกันของเหล่านักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลก เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรผู้ก่อตั้งทัวร์นาเมนต์ เลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าการแข่งขันเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปีนี้ จะเป็นบททดสอบที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟที่เข้าร่วมชิงชัย และเรากำลังเฝ้ารอที่จะได้เป็นเวทีแห่งการประชันฝีมือของบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วโลกและมีส่วนร่วมในการพัฒนาเกมกีฬากอล์ฟ"

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ การแข่งขันรายการนี้คือบันไดก้าวแรกสู่การเป็นผู้เล่นชั้นนำของโลกของนักกอล์ฟหลายคน รวมถึง มัตสึยามา ซึ่งคว้าแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 ครั้ง และมาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์เมเจอร์หลังชนะเลิศรายการมาสเตอร์ส ในปี 2021

ทางด้าน หลิน ยู่ซิน นักกอล์ฟมือสมัครเล่นจากจีน ดีกรีแชมป์ปี 2017 และ 2019 หวังสร้างสถิติเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ 3 สมัย หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ ทำผลงานผ่านการตัดตัวในรายการเมเจอร์ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 149 ที่สนามรอยัล เซนต์ จอร์จส

นักกอล์ฟถนัดซ้ายมือสมัครเล่นอันดับ 16 ของโลก กล่าวกว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพเป็นทัวร์นาเมนต์ที่วิเศษมากที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ลงเล่นรายการเมเจอร์ทั้งในมาสเตอร์ส และดิ โอเพน ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณรายการนี้อย่างมาก"
#3377



เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ "กลุ่มป่าแก่งกระจาน" ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของประเทศไทย โดยถือเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย ต่อจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และ กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548

กลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรีมีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วยพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง และ 1 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ได้แก่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี

ในการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น ยูเนสโก พิจารณาภายใต้เกณฑ์ข้อที่ 10 คือ เป็นถิ่นอาศัยทางธรรมชาติในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงพบชนิดพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่มีคุณค่ายิ่งด้านการอนุรักษ์และวิทยาศาสตร์ โดยมีชนิดพันธุ์สำคัญที่ถูกคุกคามเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (หลักเกณฑ์การพิจารณาเป็นมรดกโลก มี 10 ข้อ ข้อที่1-6 เป็นหลักเกณฑ์แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ข้อที่ 7-10 เป็นหลักเกณฑ์แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ) โดยมีความหลากหลายของชนิดพันธุ์สัตว์ป่าที่สำรวจพบในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน มีจำนวน 459 ชนิด จำแนกตามสถานภาพตามบัญชีแดงของสหภาพสากลเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)
#3378



"ปรีชา กุลไพศาลธรรม" นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี กล่าวว่า ผลกระทบจาก 2 มาตรการ ปิดแคมป์ก่อสร้าง และ ล็อกดาวน์ ท่ามกลางการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรงในระลอก 4 นี้ น่ากังวลมากกว่าการระบาดทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังซื้อลดลงมาก โอกาสเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น

"คนซื้อไม่มีกำลังซื้อ ทำให้เกิดการปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นจึงต้องระวัง!! และหากธนาคารปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นกว่านี้ ธุรกิจจะเดินต่อไปไม่ได้แล้ว"

ปัจจุบัน ต้นทุนการลงทุนทำโครงการอสังหาฯ ในแง่ความ "คุ้มค่า" เริ่มไม่ดี ทำให้ภาพรวมของธุรกิจหดตัว เพราะไม่คุ้มกับการลงทุน จากดีมานด์ที่ลดลง การเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด หากยังดันทุรังพัฒนาโครงการต่อ ถึงแม้ว่าโครงการดีแค่ไหน ลูกค้าก็ซื้อไม่ได้อยู่ดีส่วนหนึ่งไม่มีกำลังซื้อและอีกส่วนไร้อารมณ์ซื้อ

"ตลาดคอนโดมิเนียมไม่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เพราะเจอสภาพเศรษฐกิจแบบนี้คงชะลอการเปิดตัวโครงการออกไปอีก ทุกคนต้องสำรองสภาพคล่องมากขึ้น ทำให้การเปิดตัวโครงการปีนี้ไม่น่าจะโตกว่าปีที่แล้ว และอาจติดลบ จากเดิมที่หลายคนมองว่าบ้านจะโต ปีนี้อาจไม่โต"

ปรีชา ระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์ มีผลทาง "จิตวิทยา" ทำให้ลูกค้าเกิดความกังวลมากขึ้นจากสถานการณ์แพร่ระบาด รวมถึงการใช้จ่ายทำให้การขายยากขึ้น ขณะเดียวกันจากข้อจำกัดการเว้นระยะห่างทางสังคม สำนักงานขายไม่สามารถมีพนักงานให้บริการได้เต็มที่ คาดว่ากระทบยอดขายเดือนก.ค. ที่มีการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ "ลดลง" ขณะที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยแนวทางการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาฯ หนีไม่พ้น การควบคุมต้นทุน พร้อมกับเจรจากับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องว่ามีโอกาสที่ขอผ่อนชำระค่าใช้จ่าย รวมถึงการขอวงเงินสินเชื่อพิเศษ อาทิ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan)สินเชื่อเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (OD) ตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) ที่เข้ามาช่วยเป็น​​​เงินทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ

ขณะเดียวกันต้องควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในองค์กร อาทิ สวัสดิการ เบี้ยขยัน โบนัสของพนักงานที่อาจจำเป็นต้องลดทอนลง เพราะได้รับผลกระทบมาหลายระลอก หากบริษัทไหนที่สภาวะกระท่อนกระแท่นอาจต้องลดเงินดือนพนักงานบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุนให้ดีขึ้น

"สถานการณ์ในเวลานี้ ต้องรัดเข็มขัด เพราะ ผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อและไม่เชื่อมั่น ดังนั้นจึงเลือกเก็บงบไว้ใช้หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ดังนั้นตัดงบการตลาดลดลง เพราะใช้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์สู้รอจังหวะโอกาสที่เหมาะสมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า "

นอกจากนี้ อาจชะลอการพัฒนาโครงการในพื้นที่ใหม่ หากยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายได้เพราะจะกลายเป็นไปเพิ่มสต็อกสินค้า หรือต้นทุนในการลงทุน ขณะเดียวกันต้องพยายาม "เคลียร์สต็อก" ที่มีอยู่ ด้วยการจัดโปโมชั่นลดแลกแจกแถม แม้ว่าจะกำไรลดลง แต่จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาสภาพคล่อง

แนวทางที่กล่าวว่ามา นี้เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบอสังหาฯพึ่งกระทำเพื่อประคองธุรกิจให้รอดจากวิกฤตินี้!!

ปรีชา ประเมินว่า มาตรการล็อกดาวน์ 14 วันไม่น่าจะจบ!! คงยืดเยื้อออกไปอีกแบบไม่รู้ชะตากรรม ปัญหาที่ประเทศไทยเผชิญตอนนี้ต่างประเทศเคยเผชิญมาก่อน แต่สามารถควบคุมได้ เพราะการบริหารจัดการที่ดี หากบางประเทศที่บริการจัดการไม่ดีปัญหาจบยาก ในส่วนประเทศไทยคงจบ! แต่ไม่เร็วอย่างที่ควรจะเป็น เกิดจากความบกพร่องและไม่เป็นมืออาชีพในหลายเรื่อง

"ล็อกดาวน์ 14 วันไม่จบอาจยืดเยื้อแต่คาดเดาไม่ถูกว่าจะจบเมื่อไร คงต้องใช้ความอดทนต่อไป กว่าทุกอย่างจะฟื้นตัวน่าจะกลางหรือปลายปี 2565"

ความกังวลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิคสูงสุดขณะนี้ นั่นคือการ "กลายพันธุ์" เพราะในประเทศที่มีวัคซีนพอยังมีการติดเชื้อสูง จึงไม่แน่ใจว่าหากฉีดวัคซีนได้มากแล้วปัญหาการแพร่ระบาดจะยุติ จึงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
#3379



อัพเดทข่าว "เยียวยาประกันสังคม" ล่าสุด นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวน 15,027.686 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,522.99 ล้านบาท จากเดิม 13,504.696 ล้านบาท

โดยเพิ่มจากเดิม 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด ซึ่งพื้นที่ 3 จังหวัดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา พร้อมมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเร่งประมาณการจำนวนนายจ้างและผู้ประกันนมาตรา 33 กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะขี้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ด้วย


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า กรอบวงเงิน 15,027.686 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินช่วยเหลือให้แก่นายจ้างในระบบประกันสังคมใน 9 ประเภทกิจการ ใน 13 จังหวัดกลุ่มเป้าหมาย 7,238.631 ล้านบาท

และเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทยที่เป็นลูกจ้างในกิจการของนายจ้างตามคุณสมบัติ จำนวน 7,789.055 ล้านบาท ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ยังจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้


ผู้ประกันตน ม.33 ที่ว่างงานจากโควิด จะได้เงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง
แจ้งข้อมูลสำหรับผู้ประกันตน ม.33 ที่ว่างงานจากสถานการณ์โรคโควิด–19 ขณะนี้สามารถขอรับสิทธิว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยฯ ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติต่อ พ.ศ. 2563 ได้ โดยจะได้รับเงินชดเชย 50% ของค่าจ้างรายวัน สูงสุด 90 วัน ซี่งผู้ประกันตนจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ใน 15 เดือนย้อนหลังก่อนวันที่ว่างงาน
2.ไม่ได้ทำงานเนื่องจากนายจ้างหยุดประกอบกิจการตามคำสั่งของทางราชการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผู้ประกันตนไม่ได้รับค่าจ้างระหว่างนั้น
โดยนายจ้างจะต้องแจ้งขอรับสิทธิให้แก่ผู้ประกันตนผ่านระบบ e-service และส่งเอกสาร สปส.2-01/7 พร้อมสำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน ไปที่ สนง.ประกันสังคมในพื้นที่ภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่บันทึกข้อมูลในระบบ e-service โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่ สนง.ประกันสังคม
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
#3380



นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรูปแบบ กล่าวว่า หลังจากที่ภาครัฐเปิดโครงการ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมานั้น ยังไม่สามารถตอบได้ว่าโมเดลดังกล่าวช่วยเหลือผู้ประกอบการภูเก็ตได้มากน้อยเพียงใด เพราะยังไม่มีการประเมินจากภาครัฐในส่วนของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น แทบจะไม่เกิดประโยชน์ เพราะชาวต่างชาติหวังเข้ามาท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ไม่มีเจตนาเข้ามาลงทุนแต่อย่างใด ในขณะที่ชาวต่างชาติบางส่วน ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ไว้ที่ภูเก็ตก่อนหน้านี้ ก็ไม่สามารถเข้าพักได้ทีเดียว เนื่องจากต้องไปกักตัวในโรงแรมในระบบที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้ก่อน 14 วัน จึงเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ชาวต่างชาติไม่อยากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วงนี้ ซึ่งมองว่าภาครัฐยังขาดความพร้อมและการวางแผนที่รัดกุม

ทั้งนี้การเปิด "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" มีข้อดีคือได้ทดลองเปิดดู หากผลเสียมีมากกว่า ธุรกิจทั่วไปยังไม่ได้รับผลประโยชน์ และนักท่องเที่ยวยังถูกจำกัดการทำกิจกรรมอยู่ ก็ยังรู้สึกไม่เกิดผลดีกับภาพรวมของภูเก็ต ซึ่งมองว่า ต้องหยุดเรื่องการติดเชื้อให้ลดน้อยลงที่สุดก่อน หากนำวัคซีนที่มีคุณภาพเข้ามาได้ ก็จะสามารถเปิดทุกกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้ภาครัฐต้องแก้ไขปัญหา ประเมินข้อดี ข้อเสียก่อน เพื่อให้ทุกอย่างรัดกุมมากกว่านี้

"นักท่องเที่ยวพอมาถึงประเทศไทยและได้ยินข้อมูลด้านลบ เพราะในภูเก็ตยังมีการติดเชื้ออยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับการติดเชื้อไปด้วย ทำให้บรรยากาศรู้สึกไม่ปลอดภัย และนักท่องเที่ยวเกิดความกังวล ทำให้รีบเดินทางกลับประเทศ ส่วนคนที่กำลังจะมาภูเก็ตก็รอดูท่าทีก่อน โมเดลนี้ไม่ถือว่าล้มเหลว ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อเริ่มทดลองและได้เห็นปัญหา ซึ่งก็ต้องนำปัญหานั้นมาแก้ไข แต่ไม่ทราบว่าภาครัฐมีการแก้ไขมากน้อยเพียงใด หากเปิดประเทศไม่ได้ แต่สามารถเปิดภูเก็ตได้ เพราะช่วงไฮซีซั่นก็ต้องมีชาวต่างชาติกลับมาอย่างแน่นอน ซึ่งควรแก้ปัญหาด้วยการหาวัคซีนมาฉีดให้คนในภูเก็ตให้หมด และคลายกฎให้นักท่องเที่ยว รวมไปถึงทำประชาสัมพันธ์ระดับโลกว่าภูเก็ตมีอัตราการติดเชื้อต่ำ ซึ่งภาครัฐอาจมองในมุมที่ต่างจากผู้ประกอบการเพราะประเทศไทยไม่ได้ใช้ระบบการทำการตลาดไปทั่วโลก ให้ชาวต่างชาติรับรู้ว่าภูเก็ตมีความพร้อมแล้ว แต่สิ่งที่รัฐขาดคือความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล ทำให้การประชาสัมพันธ์การเปิด 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' ไม่เป็นไปในทิศทางที่จะเป็น แต่ก็ยังมีเวลาที่จะแก้ไขได้ก่อนที่จะถึงช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลับมาภูเก็ตอย่างแน่นอน" นายอรรถนพ กล่าว

สำหรับ ผู้ประกอบการอสังหาฯในภูเก็ตมีความต่างกันพอสมควร เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกในสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตทุกคน ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการที่สร้างบ้านเพื่อขาย และลงทุน มีทั้งคนไทยและต่างชาติ ดังนั้นจึงอยากจะฝากถึงรัฐบาล ในการช่วยภาคธุรกิจอสังหาฯและท่องเที่ยว หากมีการทำประชาสัมพันธ์เมืองภูเก็ต ก็ควรที่จะดึงงบประมาณบางส่วนให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกนักท่องเที่ยวมาแล้วรู้สึกประทับใจ ระบบราชการต้องมีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล รวมไปถึงควรตัดวงจรกลุ่มที่ขูดรีดชาวต่างชาติ และคนไทยด้วยกันออกไปให้หมด และควรมีงบบำรุงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อีกทั้งเพื่อความยั่งยืนของภูเก็ตควรเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาร่วมทุนกับภาครัฐเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในภูเก็ตมากขึ้น

"การที่จะดึงให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูเก็ต ภาครัฐควรมีการแก้ไขกฎหมายต่างๆ อาทิ 1. ดึงนักลงทุนมาลงทุนอสังหาฯด้วยการแก้ไขสิทธิกฎหมายการเช่าที่ดินจากเดิม 30 ปี เป็น 90 ปี , 2. เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดได้ 100% จากเดิม 49% , 3. การลงทุนกิจการในภูเก็ตไม่ควรคิดมาตรการด้านภาษีรายได้ โดยไม่หักภาษีชาวต่างชาติ เพื่อให้นำเงินออกนอกประเทศได้ ซึ่งจะทำให้เกิดเงินสะพัด ภาคธุรกิจมีการเติบโต และ 4.หากชาวต่างชาติที่มีการลงทุนเกิน 30 ล้านบาท ควรให้วีซ่าเกิน 30 ปีไปเลย หากสามารถปลดกฎพวกนี้ได้ ราคาที่ดินภูเก็ตจะพุ่งขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัวอย่างแน่นอน และทำให้เกิดการจ้างงาน เงินสะพัด เพราะที่ยุโรป อเมริกาก็ทำกันมาก ซี่งอยากให้รัฐเข้าใจและพัฒนาอย่างจริงจัง" นายอรรถนพ กล่าว

ในส่วนของ "ซิซซา กรุ๊ป" นั้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิต-19 ได้พยายามประคับประคองธุรกิจให้อยู่ได้ ทั้งส่วนของการพัฒนาอสังหาฯเพื่อการขายและธุรกิจโรงแรม รวมไปถึงพยายามหารายได้เพิ่มขึ้น ด้วยการจัดแคมเปญต่างๆหรือมีการลดราคาสินค้า เพื่อดันยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งหาช่องทางหรือเปิดธุรกิจใหม่ๆเพื่อสร้างรายได้ เช่น การร่วมทุนกับกลุ่มพันธมิตรเปิดตัวโครงการ "Natai Medical Center & Resort" ที่จะขายแพ็กเกจให้กับนักลงทุนล่าสุดเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 3/2564 บริษัทได้นำโครงการ "วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต" มาจัดโปรโมชั่น "Pay Less Get TRIPLE" ซื้อ 1 ได้ถึง 3 ต่อ คุ้มค่าเหนือทุกเงื่อนไข กับการลงทุนแบบ Unit Ownership