• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chanapot

#9991
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#9993


 จากข้อมูลวิจัยบริษัทไนท์แฟรงค์ประเทศไทย เผยว่า ตลาดคอนโดช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ยังคงหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลัง 2563  ผลกระทบของโควิด-19 ยังคงแผ่ขยายอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งแรกของปี 2564  ตลอดจนการติดเชื้อที่แพร่ระบาดจากคลื่นลูกใหม่ของโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้กำลังซื้อคอนโดมิเนียมจากผู้ซื้อชาวไทยยังคงลดลงและกำลังซื้อจากชาวต่างชาติยังคงไม่กลับมา 
ผู้พัฒนาอสังหาฯรายใหญ่ต้องเลื่อนหรือชะลอการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เป็นไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ขณะที่หันมาเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเพื่อรองรับกลุ่มผู้ซื้อที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริงมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย


• อุปทานสะสมของคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 652,081 หน่วย  ช่วงครึ่งปีแรก 2564  โดยมี 6,293 หน่วย ที่มาจาก 20 โครงการที่เปิดตัวในครึ่งปีแรก 2564  โดยอุปทานใหม่ในครึ่งปีแรก 2564 ลดลง 38.7% เมื่อเทียบกับอุปทานใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563

• จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในเขตชานเมืองกรุงเทพฯ คิดเป็น 66% ของอุปทานใหม่ทั้งหมดที่เปิดตัวในครึ่งแรกของปี 2564 ขณะที่พื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) คิดเป็น 29% และพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจคิดเป็น 5%

• จากจำนวน 6,293 หน่วยของอุปทานใหม่ มีเพียง 2,333 หน่วยที่ขายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ คิดเป็นอัตราการขายที่ 37.1% ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการขายที่เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 • ราคาเสนอขายคอนโดมิเนียมย่านศูนย์กลางธุรกิจอยู่ที่ 240,609 บาทต่อตร.ม. ลดลง 4.3% จากครึ่งปีหลัง 2563 คอนโดมิเนียมย่านรอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) อยู่ที่ 116,225 บาทต่อตร.ม. ลดลง 5.9 % จากครึ่งปีหลัง 2563  และคอนโดมิเนียมย่านชานเมืองกรุงเทพฯ อยู่ที่ 64,390 บาทต่อตร.ม. ลดลง 6.6% จากครึ่งปีหลัง 2563 


ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้หันไปเน้นการพัฒนาตลาดแนวราบสำหรับบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ แม้ว่าตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯจะมีผลประกอบการที่ลดลงอย่างรวดเร็ว แนวโน้มการทำงานจากที่บ้าน (work from home) ได้รับแรงผลักดันจากความจำเป็นที่เกิดขึ้น  โควิด-19 ได้เปลี่ยนความคาดหวังของผู้ซื้อมาเป็นความต้องการบ้านขนาดใหญ่หรือมีจำนวนห้องเพิ่มเพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำงาน ซึ่งยังช่วยผลักดันให้เกิดความความต้องการบ้านในพื้นที่ชานเมืองของกรุงเทพฯ ซึ่งมีราคาถูกกว่า


• ตลาดบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปถือเป็นตลาดบ้านระดับลักชัวรี ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างเล็กและมีความต้องการจำกัด

• ใบอนุญาตจัดสรรที่ดินสำหรับบ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีทั้งสิ้น 578 หน่วย

• มีโครงการบ้านจัดสรรพร้อมขายจำนวน 224 โครงการ โครงการเหล่านี้มีหน่วยทั้งหมดรวมกัน 20,018 หน่วย โดยขายได้แล้วที่ประมาณ 13,276 หน่วย จาก 20,018 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ 66%

 • หากจำแนกตามระดับราคา พบว่าบ้านที่มีความต้องการสูงที่สุดมีราคาขายระหว่าง 10 ถึง 20 ล้านบาท โดยมียอดขายสะสม 7,218 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ 61% ส่วนบ้านราคาขายระหว่าง 21 ถึง 30 ล้านบาท และ 31 ถึง 40 ล้านบาท มีความต้องการอยู่ที่ 2,612 หน่วย และ 1,871 หน่วย ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราการขายที่ 77% และ 73% ตามลำดับ 

• หน่วยขายได้ใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2564 มีจำนวน 1,610 หน่วย แสดงให้เห็นว่ามีจำนวนหน่วยขายใหม่ที่ขายได้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ที่มีจำนวนหน่วยใหม่ที่ขายได้เฉลี่ยเพียง 2,500 หน่วยต่อปีเท่านั้น
#9996


THE ONE life bangna บ้านโครงการใหม่ เปิดให้ชมบ้านแบบ New Normal ครั้งแรก!! ผ่านรูปแบบของ Video call "คุณแชทมา เราพาชม" เพื่อความปลอดภัย ลดการเดินทาง เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าเหมือนมาชมบ้านด้วยตัวเอง

บริษัท นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เจ้าตลาดอสังหาริมทรัพย์คุณภาพย่านบางนา ผู้พัฒนาโครงการ THE ONE life bangna บ้านโครงการใหม่หน้าโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 บางนา กม.8 เปิดให้ชมบ้านแบบ New Normal ครั้งแรก!! กับโครงการที่ออกแบบบนท่วงทำนองของความสุขท่ามกลางธรรมชาติอย่างลงตัว ทุกพื้นที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ รองรับทุก Generation ในครอบครัว ออกแบบสวนส่วนกลางและคลับเฮ้าส์ให้คุณได้ฟิตแอนด์เฟิร์มทุกวัน

ทั้งนี้อุ่นใจไร้กังวลกับระบบรักษาความปลอดภัย Triple security,Double Gate เข้า-ออก ด้วยระบบ Easy Pass,CCTV รอบโครงการ,Home Security ทั้ง Magnetic Sensor และ Motion Sensor

THE ONE life bangna พร้อมพาชมบ้านทั้ง 2 แบบบ้าน 2 สไตล์เลือกได้ตามใจคุณ แบบบ้าน Vanda บนที่ดิน 50.9 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาพิเศษเพียง 8.04 ล้านบาท (จากราคาปกติ 8.84 ล้านบาท) และแบบบ้าน Ivy บนที่ดิน 36.80 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาพิเศษเพียง 5.9 ล้านบาท (จากราคาปกติ 6.82 ล้านบาท) พิเศษ!! จองบ้านผ่านการรับชมแบบ New Normal รับเพิ่ม!! ฟรีแอร์และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน เพิ่มเป็นเพื่อนกับ THE ONE life bangna เพื่อรับชมโครงการแบบ New Normal ได้ที่ @theonelifebangna หรือคลิก https://lin.ee/iUtWb95 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https:// www.theonebangna.com/theonelife.php หรือนัดหมายเข้าชมโครงการโทร 02-740-9999
#9997


ในที่สุด รัฐบาลก็ได้ทำคลอดมาตรการทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน เพื่อคุมค่าใช้จ่ายการติดตามทวงถามหนี้ (collection fee) เสียที แต่งานนี้ส่อวุ่นเพราะธุรกิจติดตามหนี้ - จำนำทะเบียนรถ ครวญรายได้หายกำไรหด ยิ่งหากแบงค์หันมาติดตามหนี้เอง เมินจ้างเอาต์ซอร์ซหลายบริษัทจ่อเลิกจ้าง - ปิดกิจการ รวมทั้ง อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นการทดแทน"

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นประชาชนถูกเอารัดเปรียบจากการติดตามทวงหนี้โหด โดยเฉพาะลูกหนี้ผู้ประสบวิกฤตทางการเงินค้างชำระค่างวดทราบกันดี โดนเรียกเก็บค่าทวงหนี้สูงเกินความเป็นจริง บางรายค่าทวงถามราคาสูงว่าค่างวดที่ต้องจ่ายจริงเสียด้วยซ้ำ แถมร้องเรียนผ่านช่องทางของรัฐก็ไม่เป็นผล ยังไงก็ต้องหาเงินมาชำระหนี้ก่อน หรือหากไม่มีไม่หนี้ไม่จ่ายก็เตรียมโดนยึดขายทอดตลาด

 นายอนุชา บูรพชัยศรี เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนเรื่องการเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรม ปีละหลายพันเรื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหนี้สินที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนรายย่อยโดยตรงซึ่งความเดือดร้อนที่พบสามารถแบ่งได้ 3 ส่วน ดังนี้

 1) การเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้ในอัตราสูงมากและแพงเกินสมควร โดยเฉพาะค่าทวงถามหนี้ภาคสนามสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อ ลูกหนี้จำนวนไม่น้อยถูกเรียกเก็บ 2 - 4 หมื่นบาทต่อครั้ง

2) การเก็บค่าทวงถามหนี้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ผู้ให้บริการจะเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้กี่งวดก็ได้ ทำให้ลูกหนี้บางรายถูกเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้เป็นสิบๆ งวด

3) ความเดือดร้อนที่พบส่วนใหญ่จะตกอยู่กับประชาชนที่จ่ายค่างวดไม่สูงนัก กลายเป็นว่าค่าทวงถามหนี้อาจจะใกล้เคียงหรือบางครั้งสูงกว่าค่างวดที่ไปทวงเสียอีก 

ทั้งนี้ ภายใต้คณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ ที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานได้เร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เร่งเครื่องกำหนดมาตรการทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน ดำเนินงานร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย

ล่าสุด วันที่ 14 ส.ค. 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม - ค่าใช้จ่ายในการทวงถามหนี้ใหม่ มีผลบังคับหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน เป็นต้นไป โดยจะเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้รายย่อยกว่า 12.24 ล้านบัญชี โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้ ดังนี้

1) อัตราค่าทวงถามหนี้กรณีทั่วไปรวมจำนำทะเบียน ให้คิดค่าทวงถามหนี้ไม่เกิน 50 บาทต่อรอบการทวงถามหนี้ ในกรณีลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระ 1 งวด และให้คิดไม่เกิน 100 บาทต่อรอบการทวงถามหนี้ ในกรณีลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 1 งวด

2) อัตราค่าทวงถามหนี้ภาคสนามจะเก็บเพิ่มเติมสำหรับกรณีสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ สำหรับค่าใช้ลงพื้นที่ติดตามทวงถามหนี้ตามที่เกิดขึ้นจริง ไม่เกิน 400 บาทต่อรอบการทวงถามหนี้ และจะเก็บได้ต่อเมื่อลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 1 งวด

3) การยุติการเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้ เพื่อแก้ปัญหาการเก็บค่าทวงถามหนี้หลายสิบงวดแบบไม่มีข้อจำกัด คณะกรรมการฯจึงกำหนดให้การเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้จะยุติเมื่อผู้ให้บริการได้รับชำระหนี้ครบตามจำนวน หรือ มีหนังสือบอกเลิกสัญญา แล้วแต่เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อน

4) การกำหนดค่างวดที่ต่ำกว่า 1,000 บาท ไม่ให้มีการเก็บค่าทวงถามหนี้ เพื่อคุ้มครองประชาชนรายย่อยที่จ่ายค่างวดจำนวนน้อย ๆ ไม่ให้ต้องจ่ายค่าทวงถามหนี้แพงเกินไปเช่น สมมติมีค่างวดรถมอเตอร์ไซค์ 750 บาท ถ้าลูกหนี้ค้างชำระค่างวด 1 งวด ไม่ให้มีการเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้ แต่ถ้าเกิดค้างชำระอีกเป็น 2 งวดค่างวดค้างชำระสะสมจะเท่ากับ 1,500 บาท กรณีเช่นนี้สามารถเก็บค่าทวงถามหนี้ได้ 50 บาท

 ทั้งนี้ อัตราค่าทวงถามหนี้ที่ชัดเจนจะช่วยให้ลูกหนี้ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเหมือนสภาวะสุญญากาศที่เจ้าหนี้สามารถเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้กี่บาทก็ได้ และกี่ครั้งก็ได้ แต่ในอนาคตจากนี้ไป การทวงถามหนี้จะมีกติกาที่ชัดเจนขึ้น เช่น ในกรณีสินเชื่อทั่วไป ถ้ามีการผิดนัดชำระหนี้ 4 งวด จะเก็บค่าทวงถามในแต่ละงวดเพียง 50, 100, 100, 100 บาทรวมเป็น 350 บาท ในขณะที่ถ้าเป็นกรณีสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่มีค่าทวงถามหนี้ภาคสนามจะอนุญาตให้เก็บค่าทวงถามหนี้ภาคสนามได้ไม่เกินงวดละ 400 บาท โดยเริ่มเก็บได้ในงวดที่ 2 และต้องหยุดเมื่อมีการบอกเลิกสัญญา 

อย่างไรก็ตาม สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ไทย ระบุว่ารัฐการกำหนดอัตราค่าทวงถามหนี้ต่ำมากเกินไป ทั้งๆ ที่ผ่านมามีการหารือแนวทางร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ประกาศดังกล่าวสะท้อนว่ารัฐเพิกเฉยข้อเสนอและรายละเอียดต้นทุนของภาคธุรกิจทวงถามหนี้

ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทย และสมาคมเช่าซื้อ ได้สำรวจต้นทุนการทวงหนี้ของสินเชื่อเช่าซื้อและจำนำทะเบียนของสมาชิก เสนอให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ ธปท. ไปแล้ว โดยค้างชำระงวดที่ 1 เก็บที่ 80 - 100 บาท งวดที่ 2 - 4 งวดละ 100 บาท และค่าลงพื้นที่ 400 บาท เป็นต้น

ประกาศดังกล่าวส่งผลต่อธุรกิจติดตามทวงนี้อย่างหนัก ต้องทำความใจก่อนว่าธนาคารและบริษัทเช่าซื้อส่วนใหญ่ใช้ช่องทางว่าจ้าง  บริษัท ติดตามทวงถามหนี้ หรือ โอเอ (Outsource Agent : OA)  ทำหน้าที่ติดตามหนี้แทน โดยบริษัทโอเอมีระบบในการบริหารจัดการในรูปบริษัท มีการลงทุนพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ ห้องเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบการบันทึกเสียง เพื่อรองรับการทำงานเป็นมืออาชีพ ซึ่งการกำหนดอัตราค่าทวงถามต่ำมาก อาจทำให้ผู้ประกอบการแบกรับภาระไม่ไหว

รวมทั้ง ธนาคารและบริษัทเช่าซื้ออาจดึงงานติดตามทวงหนี้กลับไปทำเอง เพื่อลดต้นทุนให้บริษัทอยู่ได้ ดังนั้น ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัทโอเอซึ่งมีจำนวนพนักงานทั่วประเทศประมาณ 20,000 คน ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดต้นทุนอาจต้องลดพนักงานประมาณ 5,000 - 6,000 คน กล่าวคือ 1 ใน 3 ของพนักงานโอเอจะต้องตกงาน

 นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ (VTLA) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เงินติดล้อ ยอมรับว่าประกาศกำหนดอัตราการค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้ฉบับดังกล่าว มีผลกระทบต่อรายได้ที่เคยได้รับจากการติดตามทวงถามหนี้ (collection fee) สัดส่วนประมาณ 2% ของรายได้ค่าธรรมเนียมทั้งหมด โดยบริษัทต้องเปลี่ยนนโยบายการติดตามทวงถามหนี้ที่ปัจจุบันมีการจ้างบริษัทโอเอมาเป็นดำเนินการเอง

แน่นอนว่าต้องมีการปรับวิธีการติดตามทวงหนี้ใหม่ให้สอดคล้องกับต้นทุน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีผลิตภัณฑ์ไม่หลากหลายจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก จนอาจจะส่งผลให้ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป

ขณะที่  นายเตชินท์ ดุลยฤทธิรงค์  ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายพัฒนาการตลาดและบริหารความสัมพันธ์สินเชื่อยานยนต์ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ให้สัมภาษณ์ในทิศทางเดียวกัน ระบุความว่า

"สุดท้ายหากแบงก์และผู้ประกอบการทำแล้วไม่คุ้ม อาจจะต้องเด้งผ่านต้นทุนไปยังดอกเบี้ยรถใหม่ที่ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ 1.99% ทำให้ต้นทุนไหลเพิ่มไปสู่คนที่จ่ายได้ เพื่อชดเชยให้กับคนที่จ่ายไม่ได้ เพราะเกณฑ์ใช้ไม้บรรทัดเดียวกับทุกคน"

 ดังนั้น บทสรุปยังคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด 
#9999
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#10002


ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวัน เรามีทริคในการขี่มอเตอร์ไซค์ในช่วงหน้าฝนจาก BMW Motorrad Experience Program มาฝาก

1. ลดความเร็ว เมื่อถนนลื่นอย่าประมาท อย่าลืมว่าไม่ว่ายางจะดีแค่ไหนการลื่นไถลก็เกิดขึ้นได้เสมอ

2. เพิ่มระยะห่าง ช่วงฝนตกวิสัยทัศน์มักจะไม่ดี ห่างกันไว้ปลอดภัยกว่า

3. เผื่อระยะเบรก เมื่อมีทั้งน้ำทั้งโคลนบนท้องถนน ระยะการเบรกจะยาวขึ้นกว่าปกติ



4. งดแซง การเร่งความเร็วอาจทำให้รถเสียการควบคุมได้ง่าย เลี่ยงการแซงไว้ดีที่สุด

5. ใช้เบรกหน้าและเบรคหลังพร้อมกัน ช่วยกระจายแรงเบรกทำให้รถไม่เสียหลัก

6. เปิดไฟต่ำ เพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นเราได้ง่ายขึ้น ควรเปิดไฟต่ำไว้เพื่อความปลอดภัย

7. ไม่ไหวอย่าฝืน หากฝนตกหนักจอดพักดีกว่า เพราะการควบคุมรถทำได้ยาก



ไม่ว่าจะขี่ทางใกล้หรือทางไกล ต้องปลอดภัยเสมอ สำหรับคนที่สนใจฝึกสกิลการขี่มอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ เพิ่มทักษะการควบคุมรถในสถานการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ปกติไปจนถึงสถานการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน รวมถึงออฟโรด สามารถอัปเดทการจัดกิจกรรม On-Road Training และ Off-Road Training ได้ทาง LINE @bmwmotorradowners ( https://lin.ee/9xpben5 )



คอร์สเทรนนิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ BMW Motorrad Experience Program ซึ่งมีกิจกรรมขี่มอเตอร์ไซค์หลากหลายประเภท ทั้งการอบรมการขับขี่ Rider Training และการออกเดินทางกันเป็นกลุ่มทั้งระยะไกลระยะใกล้ เช่น Tour Experience และ Morning Ride



และไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราดให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 อย่างโปรแกรมทริป BMW Motorrad Tour Experience ทางบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราดจัดเต็มทั้งรถเซอร์วิสและมาร์แชล ที่ได้รับการรับรองจาก BMW Motorrad International Tour Guide Academy ส่วนการเทรนนิ่ง ก็จัดโดยผู้ฝึกสอนที่ได้รับการรับรองจากสถาบัน BMW Motorrad International Instructor Academy (IIA)



ยิ่งกว่านั้น ทางบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราดยังอุดหนุดค่าใช้จ่ายบางส่วนให้ผู้เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูสำหรับการเข้าร่วม BMW Motorrad Experience Program ด้วย ตัวอย่างเช่น กิจกรรมเทรนนิ่งที่ให้ส่วนลดมากถึง 50% ในการเข้าร่วมกิจกรรมและค่าเช่ารถราคาพิเศษ

ยังมีคลิป Tips and Tricks เทคนิคการขี่มอเตอร์ไซค์ดี ๆ ให้ดูอีกมากมาย ติดตามได้ที่ Youtube Playlist : Tips and Tricks



และสำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงความเคลื่อนไหวของโปรแกรม BMW Motorrad Experience Program สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ BMW Motorrad Thailand , Facebook : BMW Motorrad Thailand และ Youtube : BMW Motorrad Thailand

#BMW #BMWMotorrad #BMWMotorradTH #BMWMotorradExperienceProgram #BMWMotorradOwners #MakeLifeARideTH
#10003


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มบีทีเอส และกลุ่มเจมาร์ท วันนี้ (27 ส.ค.) บวกขึ้นเกือบยกแผง ภายหลังบริษัทในเครือบีทีเอส ได้แก่ บมจ.วีจีไอ (VGI) และ บมจ.ยู ซิตี้ (U) ประกาศเข้าลงทุนใน บมจ.เจ มาร์ท (JMART) และบริษัทในเครือ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ด้วยมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1.75 หมื่นล้านบาท


โดยพบว่าราคากลุ่มบีทีเอส ได้แก่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บวก 0.54% หรือ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 9.30 บาทต่อหุ้น ส่วนบริษัทลูก VGI บวก 0.80% หรือ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 6.30 บาทต่อหุ้น และ U บวก 4.72% หรือ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 1.11 บาทต่อหุ้น

ส่วนกลุ่มเจมาร์ท ได้แก่ JMART บวก 4.29% หรือ 1.50 บาท มาอยู่ที่ 36.50 บาทต่อหุ้น บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) บวก 1.18% หรือ 0.50 บาท มาอยู่ที่ 43.00 บาทต่อหุ้น และ SINGER ลบ 1.24% หรือ 0.50 บาท มาอยู่ที่ 39.75 บาทต่อหุ้น

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนของกลุ่มบีทีเอสในกลุ่มเจมาร์ท มองเป็นปัจจัยบวกต่อทั้ง 2 บริษัท โดยเฉพาะ VGI กับ JMART ที่คาดว่าจะเห็นการผนึกกำลังร่วมมือกัน (Synergy) อีกมาก โดยคาดว่า JMART จะได้ประโยชน์จากธุรกิจสื่อโฆษณาผ่านการใช้สื่อร่วมกันกับ VGI

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

ส่วน VGI ที่ก่อนหน้านี้ประกาศลงทุนใน บริษัท แฟนส์ลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (Fanslink) ผู้นำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (แก็ดเจ็ต) ของจีน คาดว่าจะได้ประโยชน์จากร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือและสินค้าที่เกี่ยวข้องของ JMART ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ อีกทั้งปัจจุบัน VGI มีอัตราหนี้สินต่อทุนที่ต่ำ (D/E) ที่ 0.1-0.2 เท่า จึงไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน


สำหรับกลยุทธ์การลงทุนจากทั้ง 2 กลุ่ม เลือก VGI และ JMT เป็นหุ้นเด่น โดย VGI ราคาเหมาะสม 6.50 บาทต่อหุ้น แต่มีโอกาสปรับเพิ่มราคาเหมาะสมจากการเข้าลงทุนในกลุ่มเจมาร์ท

ส่วน JMT ราคาเหมาะสม 51.00 บาทต่อหุ้น ได้ปัจจัยหนุนการเพิ่มทุนของบริษัทที่ราคาไม่แตกต่างจากราคากระดานมาก โดยบริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน 70% ไปซื้อหนี้เสียมาบริหาร รองรับการเติบโตในอนาคต และอีก 30% จะนำไปใช้คืนหนี้ อีกทั้งบริษัทมีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมเพิ่มทุนอีกด้วย


นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า VGI และ U เข้าถือหุ้นใน JMART และ SINGER ทางกลุ่มบีทีเอสเข้าลงทุนในกลุ่มเจมาร์ทผ่านทางดีลสำคัญ 3 ดีล ได้แก่ 1. VGI เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน JMART 15% มูลค่า 6,257 ล้านบาท 2. U เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน JMART 9.9% มูลค่า 4,171 ล้านบาท และ 3. U เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน SINGER 24.9% มูลค่า 7,155 ล้านบาท ประเมิน Synergy ที่เกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเพิ่มทุนแบบวงจำกัด (PP) ของ JMART และ SINGER ที่ 30.337 และ 36.3005 บาท ต่ำกว่าราคาปิดในกระดานที่ 13% และ 9% ตามลำดับ อาจกดดันต่อราคาหุ้นในระยะสั้นบ้าง สำหรับเงินทุนเราคาดส่วนใหญ่จะใช้การกู้ยืม เนื่องจาก VGI และ U มีหนี้สินต่อทุนต่ำที่เพียง 0.23 และ 0.49 เท่า ขณะที่มีส่วนผู้ถือหุ้นสูงถึง 15,904 และ 39,302 ล้านบาท
#10004


รอยเตอร์ - เวียดนามจะส่งทหารไปประจำการที่จ.บิ่งเซวือง (Binh Duong) ที่เป็นศูนย์กลางการผลิตหลักของประเทศ เพื่อช่วยควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในพื้นที่อีก 50,000 คน ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า รัฐบาลระบุวันนี้ (26)

จ.บิ่งเซวือง อยู่ติดกับนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัส และจนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 81,000 คน โดย 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อตรวจพบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม

จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายสิบบริษัท ที่รวมทั้งบริษัท Kumho Tire ของเกาหลีใต้ และ Tetra Pak บริษัทบรรจุภัณฑ์อาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก

จ.บิ่งเซวือง ยังเป็นที่ตั้งของซัพพลายเออร์หลายรายของบริษัท Samsung Electronics และบริษัท Pegatron ที่เป็นซัพพลายเออร์หลักของบริษัท Apple และเป็นหนึ่งในผู้รับการลงทุนจากต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ถัดจากนครโฮจิมินห์ และกรุงฮานอย

เจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดกำลังเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ที่อาจมีผู้ป่วยติดเชื้อเกินกว่า 150,000 คน รัฐบาลระบุในคำแถลงบนเว็บไซต์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่อ้างถึงในแผนรับมือฉุกเฉิน ไม่ใช่การคาดการณ์

คำแถลงของรัฐบาลยังระบุว่าจะส่งทหาร 2,000 นาย ไปยังจ.บิ่งเซวือง เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับโควิด-19 พร้อมด้วยหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 50 จุด และรถพยาบาล 15 คัน

เวียดนามได้ส่งทหารไปประจำตามถนนสายต่างๆ ของนครโฮจิมินห์ เพื่อช่วยบังคับใช้มาตรการควบคุมการเคลื่อนไหวที่เข้มงวดที่สุด ที่ไม่ให้ประชาชนออกจากบ้าน แม้กระทั่งการหาซื้ออาหาร โดยทหารจะเป็นผู้ออกแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง สำหรับผู้อยู่อาศัยทั่วไปที่ต้องการเดินทางในกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์ยังคงสามารถทำได้

หลังประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดได้เป็นส่วนใหญ่ในช่วงปีที่ผ่านมา เวลานี้เวียดนามกำลังต่อสู้กับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ปัจจุบันประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 381,000 คน โดยผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่ตรวจพบในนครโฮจิมินห์ และจังหวัดโดยรอบ ตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.

ทั้งนี้ เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดในเอเชีย โดยมีเพียง 2% จากประชากรทั้งหมด 98 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน.