• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Prichas

#9271


อาร์ทีไอนิวส์ (23 ส.ค.) -ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ได้ทำการนัดหมายฉีดวัคซีนผ่านออนไลน์เมื่อไม่นานนี้ และในวันนี้ เปิดระบบให้ประชาชนอายุระหว่าง 20-35 ปี สามารถจองคิวนัดหมายฉีดวัคซีนฯ ได้ในการฉีดวัคซีนรอบที่ 6 ด้านทีมวิจัยฯ ได้ค้นพบสาร Catechin ซึ่งเป็นสารประกอบ Polyphenols ในชาเขียว มีสรรพคุณต้านเชื้อไวรัสโควิค-19 เสริมภูมิคุ้มกัน ลดปัญหาปอดถูกทำลายเฉียบพลัน

หลังจากวัคซีนเกาตวน (MVC) ที่ไต้หวันผลิตเองภายในประเทศเปิดให้ประชาชนได้จองฉีดวัคซีน ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ได้ทำการนัดหมายฉีดวัคซีนผ่านออนไลน์เมื่อไม่นานนี้ และในวันนี้ (23 ส.ค.) เวลา 07.30 น. ผู้นำไต้หวันเดินทางถึงอาคารกีฬา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เพื่อทำการฉีดวัคซีน

ก่อนฉีดสื่อมวลชนได้สัมภาษณ์ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินว่ารู้สึกตื่นเต้นหรือไม่? ท่านตอบว่า "ไม่ตื่นเต้น" และขณะฉีด ท่านตอบว่า "ไม่รู้สึกเจ็บอะไร" และชูนิ้วสัญลักษณ์ "โอเค" และ "เยี่ยม" หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จ พยาบาลได้มอบการ์ดบันทึกข้อมูลฉีดวัคซีนและนัดหมายการฉีดโดสถัดไป ผู้นำไต้หวันได้ยื่นการ์ดดังกล่าวให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ และให้นำแผ่นป้ายที่โรงพยาบาลเตรียมไว้ มีข้อความว่าฉีดวัคซีนแล้ว เป็นภาษาจีนและอังกฤษมาถ่ายรูปคู่สำหรับรณรงค์ประชาสัมพันธ์การฉีดวัคซีนต่อไป

ไต้หวันเพิ่มกลุ่มอายุ 20-35 ปี ฉีดวัคซีนเกาตวน หนึ่งชั่วโมงมีคนจองคิวแล้ว 82,000 คน

รายงานข่าวกล่าวว่า การนัดหมายจองคิวฉีดวัคซีนในรอบที่ 6 นี้ มีวัคซีนเกาตวนของไต้หวันที่ผ่านการตรวจสอบและปิดผนึกเรียบร้อยแล้วจำนวน 610,000 โดส สำหรับฉีดให้ประชาชนด้วย ซึ่งศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวันแถลงว่า ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม เวลา 16.00 น - 20 สิงหาคม เวลา 12.00 น. เปิดระบบให้ประชาชนอายุระหว่าง 20-35 ปี สามารถจองคิวนัดหมายฉีดวัคซีนเกาตวนได้ในการฉีดวัคซีนรอบที่ 6 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-29 สิงหาคมนี้ โดยหลังเปิดระบบเพียง 1 ชั่วโมง ก็มีประชาชนเข้ามาจองคิวนัดหมายแล้ว 82,000 คน จากจำนวนประชาชนทั้งหมดที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนและมีคุณสมบัติสอดคล้องรวม 294,798 คน คิดเป็น 27.99% โดยก่อนหน้านี้ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวันเปิดให้สิทธิ์ประชาชนอายุ 36 ปีขึ้นไป กับประชาชนอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่ป่วยเป็นโรคเสี่ยงสูง โรคเรื้อรัง หรือโรคร้ายแรง สามารถจองคิวฉีดวัคซีนเกาตวนได้ ซึ่งตอนนี้มีผู้ทำการนัดหมายจองคิวเรียบร้อยแล้วจำนวน 419,000 คน ดังนั้นเมื่อรวมกับประชาชนทั่วไปอายุระหว่าง 20-35 ปี ก็มีผู้ทำการนัดหมายจองคิวฉีดวัคซีนเกาตวนเรียบร้อยแล้วจำนวน 501,000 คน

นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้มุ่งวิจัยพัฒนายาต้านไวรัสโควิด โดยศาสตราจารย์ เจิ้งเจี้ยนถิง อาจารย์พิเศษ สาขาวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต มหาวิทยาลัยซือต้า (National Taiwan Normal University -NTNU) และเป็นหัวหน้าทีมวิจัยฯ ได้ค้นพบสาร Catechin ซึ่งเป็นสารประกอบ Polyphenols ในชาเขียว มีสรรพคุณต้านเชื้อไวรัสโควิค-19 เสริมภูมิคุ้มกัน ลดปัญหาปอดถูกทำลายเฉียบพลัน ผลงานเป็นที่ยอมรับ ได้รับการตีพิมพ์ใน "Antioxidants" วารสารระดับโลกเมื่อเดือนกรกฎาคม

ศ. เจิ้งเจี้ยนถิง ทำการวิจัยสาร Catechin ตั้งแต่เกิดการระบาดโรคซาร์ส เมื่อ ปี 2003 ผ่านมา 17 ปีพบว่า Catechin มีสรรพคุณ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านไวรัส ต้านเชื้อโรค และต้านเชื้อโควิด-19 ที่กำลังระบาดในขณะนี้ได้ด้วย ซึ่งในการทดลองพบว่า สาร Catechin ความเข้มข้น 195 ไมโครกรัม จะยับยั้งการขยายตัวหรือการแพร่กระจายของเชื้อโควิด ป้องการการแพร่ขยายหรือการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดได้

อย่างไรก็ตาม ศ.เจิ้งเจี้ยนถิงยังกล่าวด้วยว่า แม้สาร Catechin สามารถได้รับจากการดื่มชาเขียว แต่ปริมาณของสารไม่เพียงพอต่อการยับยั้งเชื้อไวรัส จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคการสกัดที่เชี่ยวชาญ และต้องขจัดสารคาเฟอีนออกไป จะไม่เหมือนกับสารคาเทชินส์ในชาเขียวที่ขายในท้องตลาด
#9274


ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปี 2564 การส่งออกถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญที่สุดที่จะช่วยเศรษฐกิจไทยปี 2564 ขยายตัวได้และไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยการส่งออกปีนี้ได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การผ่อนคลายมาตรการการล็อกดาวน์ในประเทศคู่ค้า และการเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจของหลายประเทศคู่ค้าสำคัญ

สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานข้อมูลภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2564 การส่งออกสินค้ามีมูลค่า 67,761 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 36.2% (สูงสุดรอบ 44 ไตรมาส) โดย สศช.คาดว่าการส่งออกปีนี้ มูลค่าในรูปดอลลาร์จะขยายตัวถึง 13.3% สอดคล้องการปรับเพิ่มสมมติฐานการขยายตัวของเศรษฐกิจและปริมาณ การค้าโลกและเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงการเกิดคลัสเตอร์ในโรงงานจำนวนมาก ทำให้หลายฝ่ายกังวลกระทบกับภาคการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกจึงต้องมีมาตรการรับมือส่วนนี้ 

ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2564 โดยต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการแพร่ระบาดพื้นที่ฐานการผลิตสำคัญด้วยการมีมาตรการป้องกันควบคุมในพื้นที่เฉพาะ "Bubble and seal" รวมทั้งตรวจเชิงรุกเพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ไม่ป่วยในโรงงาน เพื่อลดอัตราการแพร่เชื้อในโรงงาน รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่เป็นข้อจำกัดและอุปสรรคในการขนส่งสินค้า การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการผลิต รวมถึงการสร้างตลาดส่งออกใหม่กับคู่ค้าใหม่ด้วยเพื่อให้ไทยมีตลาดการส่งออกเพิ่มขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) สั่งการให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัด การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory Sandbox) โดยเร็ว และสถานประกอบการหรือโรงงานไม่พร้อมให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลการตรวจหาเชื้อ การจัดหาสถานที่กักตัว ยารักษาโรค ตลอดจนวัคซีนให้แรงงาน


โครงการ Factory Sandbox เป็นแนวคิดการจัดการโครงสร้างและกระบวนการในลักษณะ "เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข" ที่มุ่งดำเนินการควบคู่ระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ โดยใน Sandbox จะมุ่งเป้าที่โรงงานภาคการผลิตส่งออกขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นกลไกหลักของประเทศในปัจจุบัน มีมูลค่าการส่งออกรวมถึง 7 แสนล้านบาท และจ้างงานถึง 3 ล้านตำแหน่ง ประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ 1.ยานยนต์ 2.ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 3.อาหาร 4.อุปกรณ์การแพทย์ 

สำหรับการดำเนินการจะป้องกันคลัสเตอร์โรงงานจากการติดเชื้อ รวมทั้งสร้างสมดุลระหว่างมาตรการทางด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนต่อได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนไทยและชาวต่างชาติในช่วงเวลาที่ซัพพลายเชนของประเทศคู่แข่งกำลังปิดตัวลง โดยโครงการนี้แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ 

ระยะที่ 1 ดำเนินการ 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานีและสมุทรสาคร มีสถานประกอบการเข้าร่วม 60 แห่ง มีลูกจ้าง 138,795 คน 

ระยะที่ 2 ดำเนินการ 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา และสมุทรปราการ 

ทั้งนี้ มีขั้นตอนหลัก ได้แก่ การตรวจ การรักษา การดูแลและการควบคุม เพื่อให้บริหารทรัพยากรที่มีจำกัดได้ตรงเป้าหมาย โดยโรงงานที่มีลูกจ้าง 500 คนขึ้นไป ต้องตั้งโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการไม่ต่ำกว่า 5% ของพนักงาน ดำเนินการ Bubble and Seal โดยกำหนดให้ลูกจ้างเดินทางกลับที่พักแบบไม่แวะระหว่างทาง และอยู่แต่ในเคหสถานเท่านั้น 

รวมทั้งตรวจหาเชื้อแบบ PCR 1 ครั้ง ให้ลูกจ้างทั้งหมด และตรวจแบบ Self ATK ทุก 7 วัน ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ลูกจ้างทุกคน ยกเว้นคนที่ติดเชื้อให้รักษาในส่วนค่าบริการฉีดวัคชีน สถานประกอบการต้องเป็นผู้จ่ายให้สถานพยาบาล และสถานประกอบการทำหนังสือยินยอมดำเนินการตามแนวทางกระทรวงแรงงานและจังหวัด



สำหรับแผน Bubble and Seal จะป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อในพื้นที่และไม่ให้ระบาดไปสู่ชุมชน รวมถึงป้องกันการเสียชีวิตและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคมจากการหยุดดำเนินกิจการ โดยมีหลักการสำคัญ

1.การป้องกันโรค โดยดำเนินการก่อนเกิดการระบาด และการควบคุมโรคเมื่อเกิดการระบาด 

2.การให้ทำกิจกรรม กลุ่มกิจกรรมหรือทำงานได้ รวมทั้งเดินทางเคลื่อนย้ายระหว่างที่พักและที่ทำงาน โดยการควบคุมกำกับ 

3.การบริหารจัดการทั้งด้านการแพทย์และสาธารณสุข และการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกเครื่องอุปโภคบริโภค โดยมีมาตรการป้องกันควบคุมโรค มาตรการด้านสังคม มาตรการกำกับและประเมินผล รวมทั้งมีการบูรณาการจากหลายภาคส่วน 

ในขณะที่ขั้นตอนการดำเนินงาน Bubble & Seal ดังนี้

1.ผู้ประกอบการทำความเข้าใจหลักการจัดทำมาตรการรวมทั้งสื่อสารสร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วมของพนักงานและชุมชนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

2.ผู้ประกอบการจัดทำแผนการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยยึดตามหลักการ แต่ทำแนวปฏิบัติขึ้นกับลักษณะแรงงาน ที่พัก การเดินทางและชุมชน ซึ่งสถานประกอบการออกแบบเองได้

3.ผู้ประกอบการควรกำหนดผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานและกำกับติดตามให้ชัดเจน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอและถอดบทเรียน เพื่อปรับมาตรการให้เหมาะสมในระยะยาวเหมาะสมกับสถานการณ์ 

4.กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันกำหนดกลไกการสื่อสารเพื่อให้เกิดการปฏิบัติและการกำกับติดตามการดำเนินงานต่อเนื่อง

ส่วนกลไกการดำเนินงาน Bubble & Seal ประกอบไปด้วย 1.กลไกด้านการสื่อสารทำความเข้าใจ ได้แก่ จัดทำคู่มือที่ประกอบด้วย หลักการ แนวคิด มาตรการการป้องกัน มาตรการควบคุมโรค การตรวจด้วย ATK และ การดูแลด้านสุขภาพจิต มีการจัดทำแบบตรวจสอบรายการ (Checklist) สำหรับทีมผู้ประเมินกำกับมาตรการระดับจังหวัด และจัดทำวีดีโอประชาสัมพันธ์มาตรการ Bubble & Seal ตั้งแต่ก่อนการระบาดและเมื่อเกิดระบาด

2.กลไกด้านการให้คำแนะนำและระบบพี่เลี้ยง/ที่ปรึกษา (Coaching) ได้แก่ ทีมส่วนกลางประกอบด้วย กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทีมระดับเขต

ประกอบด้วย สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ศูนย์อนามัย ศูนย์สุขภาพจิต และทีมระดับจังหวัด ประกอบด้วยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุตสาหกรรมจังหวัด สวัสดิการแรงงานจังหวัด สำนักงานประกันสังคม จังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด กระทรวงมหาดไทยหรือหน่วยงานอื่นภายใต้คำสั่งแต่งตั้งและมติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยกลไกด้านกำกับประเมินผล แบ่งเป็น3 ทีม ได้แก่ ทีมส่วนกลาง ทีมเขต และทีมบูรณาการ ระดับจังหวัด
#9275


"The Panda" ซง จิง หนาน แชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวตหญิง วีรสตรีแห่งวงการศิลปะการต่อสู้แดนมังกร ประกาศกร้าวขอป้องแชมป์ด้วยชีวิตกับผู้ท้าชิงตัวแม่จอมซับมิชชันแดนแซมบา 'มิเชลล์ นิโคลินี' ที่อาจหาญขึ้นมาชิงบัลลังก์ในศึกพลังหญิงครั้งประวัติศาสตร์ ONE: EMPOWER ซึ่งจะถ่ายทอดสดให้แฟน ๆ ทั่วโลกได้ชมกันในวันศุกร์ที่ 3 กันยายนนี้

ซง จิง หนาน ได้รับการยกย่องเชิดชูเยี่ยงวีรสตรีในฐานะผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาจีนคนแรกที่นั่งบัลลังก์แชมป์โลกของวงการต่อสู้แบบผสมผสานบนเวที ONE ทั้งยังครองตำแหน่งราชินีผู้ไร้เทียมทานที่ไม่มีคู่แข่งคนไหนสามารถโค่นบัลลังก์เธอได้จนถึงปัจุบัน

ซง มีความฝันตั้งแต่วัยเยาว์ว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพให้ได้ เธอเรียนรู้การต่อสู้โดยมีแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ ทั้งยังเป็นการป้องกันตัวจากการโดนเพื่อนกลั่นแกล้ง โดยเริ่มต้นเส้นทางนักสู้เมื่ออายุ 18 ปีด้วยการเป็นนักมวยทีมชาติจีน ต่อมา เธอหันมาเรียนกีฬาบราซิลเลียนยิวยิตสูเพิ่มเติมและหลงรักศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานเข้าเต็มเปา

จากนั้น ซง ก็หันมาเอาดีในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานอย่างจริงจัง โดยสั่งสมสถิติ ชนะ 12 แพ้ 1 จากเวทีการแข่งขันภายในประเทศจีน ก่อนตัดสินใจก้าวสู่เวทีระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ

ซง ก้าวขึ้นเวที ONE ครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2560 และแจ้งเกิดอย่างงดงามด้วยการน็อกเอาต์ 'เอพริล โอซีนิโอ' ในเวลา 3 นาทีเศษ การประเดิมศึกแรกอย่างยอดเยี่ยมส่งให้เธอคว้าฟาสแทรกต์ขึ้นชิงแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวตหญิง ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเผชิญหน้ากับ 'ทิฟฟานี เตียว' จากสิงคโปร์ โดย ซง ตอกย้ำความยอดเยี่ยมด้วยการชนะน็อกขึ้นนั่งบัลลังก์อย่างสมศักดิ์ศรีวีรสตรีแดนมังกรคนแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อ 20 ม.ค.61



ซง จิง หนาน vs ทิฟฟานี เตียว (20 ม.ค.61)

ในฐานะตัวแทนชาติจีน ซง ทำหน้าที่ป้องกันเข็มขัดแชมป์โลก ONE อย่างแข็งแกร่ง โดยสามารถป้องกันตำแหน่งได้สำเร็จใน 4 ไฟต์เป็นเวลากว่า 3 ปี โดยเธอถือเป็นความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ในชีวิต ในทุกครั้งที่ ซง ลงศึกป้องกันแชมป์ เธอมักกล่าวเสมอว่าจะป้องกันบัลลังก์นี้ให้อยู่คู่กับแผ่นดินแม่และเป็นของวัญแก่ชาวจีนทั่วประเทศ

การป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 5 ของราชินีผู้ไร้เทียมทานกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง และแน่นอนว่า ซง จะยังคงรักษาคำสัญญาที่จะปกป้องบัลลังก์นี้ให้อยู่กับชาวจีนให้ได้นานที่สุดด้วยชีวิต เหนือสิ่งอื่นใด เธอต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับครอบครัวของเธอและเพื่อนร่วมชาติในการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและสามารถฝ่าวิกฤติในปัจจุบันไปพร้อมกัน

'ฉันอยากให้คนที่ติดตามดูฉันตลอดมาเห็นว่าในสังเวียน ฉันต้องเผชิญกับความยากลำบากมากแค่ไหน และฉันสู้ต่อจนจบเกมได้อย่างไร เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาเมื่อต้องประสบปัญหาหรืออุปสรรคต่าง ๆ การเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานจึงสำคัญต่อชีวิตฉันมาก และฉันจะรักษามันไว้ด้วยชีวิต' "

แฟน ๆ สามารถรับชม ศึก ONE: EMPOWER 3 ก.ย.นี้ ได้ทาง ONE Super App, YouTube ONE Championship, AIS Play เวลา 19.30 น. และทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 21.30 น.
#9276


หลังจากหน่วยงานรัฐและเอกชนท่องเที่ยวร่วมกันผลักดันการเปิดพื้นที่นำร่องภายใต้โมเดล "7+7 Phuket Extension" หวังต่อลมหายใจผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา

กระทั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เห็นชอบโมเดลดังกล่าว ให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถท่องเที่ยวเชื่อมต่อจากโครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" สู่พื้นที่นำร่องใน 3 จังหวัดดังกล่าว ด้วยรูปแบบ 7+7 เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา

ชยพล หิรัณย์กนกกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและหน่วยงานรัฐของ "จังหวัดพังงา" มีความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยโมเดล 7+7 ภูเก็ต เอ็กซ์เทนชั่น เชื่อมต่อจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สู่พื้นที่นำร่องเขาหลักและเกาะยาว ภายใต้โครงการ "พังงา พร้อมต์" (Phang Nga Prompt) โดยนักท่องเที่ยวต้องพำนักภายใน จ.ภูเก็ต อย่างน้อย 7 คืนแรก ก่อนจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่นำร่อง จ.พังงา อีก 7 คืนหลัง จนครบ 14 คืนจึงจะสามารถไปท่องเที่ยวพื้นที่อื่นๆ ในไทยได้

โดยในวันที่ 26-27 ส.ค.นี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และความพร้อมของภูเก็ตและพังงาด้วยตัวเอง

และจากการติดตามยอดจองล่วงหน้า สมาคมฯพบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าพื้นที่นำร่องของ จ.พังงา กลุ่มแรกวันที่ 27-28 ส.ค.นี้ แต่ยังมีเพียง 7-8 คนเท่านั้น เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นโครงการฯ คาดว่าจะเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาชัดเจนขึ้นในเดือน ก.ย.นี้ที่จำนวน 5,000 คน สร้างรายได้ 400 ล้านบาท โดยจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ อีกเดือนละ 10,000 คน รวมตลอดไตรมาส 4 เป็น 30,000 คน สร้างรายได้การท่องเที่ยวให้กับพังงา 2,500 ล้านบาท

หนุนรายได้รวมการท่องเที่ยวจากทั้งตลาดไทยและต่างประเทศของ จ.พังงา ตลอดปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท คิดเป็นฟื้นตัว 10% เมื่อเทียบกับรายได้รวมการท่องเที่ยวปี 2562 ก่อนเจอวิกฤติโควิด-19 ซึ่งปิดที่ 50,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2563 รายได้รวมฯลดลงอยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 ล้านบาท

"เราตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวยุโรปมาเที่ยวพื้นที่นำร่องในพังงา ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอแลนด์ รัสเซีย และโปแลนด์ แต่ก็ขึ้นกับสถานการณ์การระบาดภายในประเทศและจังหวัดภูเก็ตด้วย"


สำหรับคู่มือมาตรฐานแนวทางปฏิบัติ (SOP) เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่นำร่องของ จ.พังงา มี 2 แบบใน 2 พื้นที่ ได้แก่ 1.ในพื้นที่เขาหลัก เริ่มตั้งแต่สามแยกทับละมุ อ.ท้ายเหมือง จนถึงสามแยกบ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า โดยจะมีการตั้งด่านเพื่อแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบถึงอาณาเขตพื้นที่ที่สามารถเดินทางได้ และจะมีการใช้แอพพลิเคชั่นหมอชนะในการติดตามตัวนักท่องเที่ยว โดยทางโรงแรมจะต้องตรวจสอบและคอยสแกนการเช็คอินนักท่องเที่ยวทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และถ้าหากนักท่องเที่ยวมีการปิดโทรศัพท์ ปิดการติดตามตัว หรือออกนอกพื้นที่ที่กำหนด ระบบจะแจ้งเตือนไปยังศูนย์คอมมานด์เซ็นเตอร์ของ จ.พังงา ทันที

และ 2.ในพื้นที่เกาะยาว และพื้นที่เขาหลักบริเวณหาดนาใต้ จะสามารถเดินทางเชื่อมโยงระหว่างกิจการที่ได้มาตรฐาน SHA Plus แล้วเท่านั้น มีการดูแลควบคุมโดย SHA Plus Manager ของโรงแรมที่นักท่องเที่ยวพำนักอยู่และมีระบบติดตามตัวเช่นเดียวกัน โดยในพื้นที่ทั้งหมดจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ควบคุม และเฝ้าระวังเหตุต่างๆ อยู่เสมอ

'เงินเยียวยาประกันสังคมมาตรา 40' เช็คด่วน www.sso.go.th โอนวันนี้รับ 5,000 บาท
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยังทรงตัว! ติดเชื้อเพิ่ม 17,165 ราย พบเสียชีวิต 226 ราย ไม่รวม ATK อีก 314 ราย
'โผทหาร' ระเบิดเวลากองทัพ  วัฏจักร "พรรคพวก-ผลประโยชน์"
ด้านการเตรียมความพร้อมเรื่อง "กระจายวัคซีน" ปัจจุบันมีจำนวนประชากรใน จ.พังงา ได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่า 50% แล้ว โดยในพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง เกาะยาว ฉีดแล้ว 70.33% ตะกั่วป่า 59.26% และท้ายเหมือง 44.43%

ขณะที่สถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน "SHA Plus" ปัจจุบันมีทั้งหมด 180 ราย แบ่งเป็นโรงแรม 75 ราย ยานพาหนะ 70 ราย บริษัทนำเที่ยว 18 ราย ร้านอาหาร 7 ราย และสปา 5 ราย โดยเมื่อเจาะเฉพาะ "โรงแรม" ที่ได้มาตรฐานดังกล่าว คาดว่าในเดือน ก.ย.นี้จะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง 25% หรือราว 20 กว่าแห่ง และเปิดให้บริการเพิ่มมากขึ้นในไตรมาส 4 นี้เป็น 50-60 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักราว 4,000-5,000 ห้อง

ส่วนตลาด "นักท่องเที่ยวไทย" หากต้องการมาเที่ยว จ.พังงา ในตอนนี้ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส มีผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR, Antigen Test หรือด้วยเครื่องตรวจ ATK และเอกสารการจองห้องพักโรงแรม แสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่ด่าน

ทั้งนี้คาดคนไทยกลับมาเที่ยวพังงามากขึ้นในไตรมาส 4 หลังมีการประเมินสถานการณ์ล่าสุดว่าแนวโน้มยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงเทพฯจะลดลงภายในปลายเดือน ก.ย.นี้ น่าจะทำให้คนไทยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น พร้อมออกท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยมีโครงการรัฐ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3" ที่ยังค้างอยู่มาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเสริมอีกแรง!
#9279
รับถมดิน ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804  หรือ www.mmee2000.com
#9280
สำนักพรเทวะ ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
สนใจติดต่อ
อ.ทองเอก พรเทวะ
โทร 0846623662
Line : teerapat999 
#9283
สำนักพรเทวะ ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
สนใจติดต่อ
อ.ทองเอก พรเทวะ
โทร 0846623662
Line : teerapat999 
#9284
รับถมดิน ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804  หรือ www.mmee2000.com