APM มองตลาด IPO ปีเสือคึกคักจ่อคิวแล้ว 35-40 ราย Market Cap กว่า 4-5 แสนลบ.
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เปิดเผยว่า ในปี 65 ภาพรวมของบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จะยังคงเห็นความคึกคักมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่าจะมีจำนวนบริษัทที่เข้ามาเสนอขาย IPO ราว 35-40 บริษัท มูลค่าตลาดรวม (Market Cap) ราว 4-5 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 64 มีบริษัทเข้ามาระดมทุนผ่านการเสนอขาย IPO ทั้งสิ้น 37 บริษัท แบ่งเป็น เข้าจดทะเบียน SET จำนวน 19 บริษัท และ เข้าจดทะเบียนใน mai จำนวน 18 บริษัท
ในปัจจุบันมีบริษัทที่มีแผนเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้วราว 20 บริษัท และยังมีบริษัทที่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมอีกหลายแห่ง
นอกจากนั้น ในปี 65 ยังมีกลุ่มธุรกิจเป็นเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพจะเตรียมเข้ามาใช้ช่องทางตลาดทุนเป็นแหล่งระดมทุนเพิ่มเติมอีก เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมเปิดกระดานที่ 3 คือ Live Exchange เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็กเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความหลากหลายของกลุ่มธุรกิจในตลาดทุนให้มากขึ้นด้วย
นายสมภพ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ APM เองจะผลักดันธุรกิจเข้าระดมทุนในตลาดหลักหรัพย์ฯเพิ่มเติม โดยปีนี้คาดว่าจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อนำบริษัทเอกชนเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ราว 4-5 บริษัท ซึ่งบางบริษัทจะยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.ในช่วงเดือน ก.พ.65 นี้ และบางบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมงบการเงิน
นอกจากนั้น ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน APM ยังเห็นโอกาสของกระแสและการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยให้คำแนะนำกับบริษัทต่างๆ ให้ศึกษาและมองหาโอกาสต่อยอดธุรกิจจากสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะเข้ามาเสริมสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในระยะต่อไปในอนาคต ทั้งในเรื่องของคริปโทเคอเรนซี่ โทเคนเพื่อการลงทุน (Investment Token) และโทเคนเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token)
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เปิดเผยว่า ในปี 65 ภาพรวมของบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จะยังคงเห็นความคึกคักมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่าจะมีจำนวนบริษัทที่เข้ามาเสนอขาย IPO ราว 35-40 บริษัท มูลค่าตลาดรวม (Market Cap) ราว 4-5 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 64 มีบริษัทเข้ามาระดมทุนผ่านการเสนอขาย IPO ทั้งสิ้น 37 บริษัท แบ่งเป็น เข้าจดทะเบียน SET จำนวน 19 บริษัท และ เข้าจดทะเบียนใน mai จำนวน 18 บริษัท
ในปัจจุบันมีบริษัทที่มีแผนเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้วราว 20 บริษัท และยังมีบริษัทที่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมอีกหลายแห่ง
นอกจากนั้น ในปี 65 ยังมีกลุ่มธุรกิจเป็นเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพจะเตรียมเข้ามาใช้ช่องทางตลาดทุนเป็นแหล่งระดมทุนเพิ่มเติมอีก เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมเปิดกระดานที่ 3 คือ Live Exchange เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็กเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความหลากหลายของกลุ่มธุรกิจในตลาดทุนให้มากขึ้นด้วย
นายสมภพ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ APM เองจะผลักดันธุรกิจเข้าระดมทุนในตลาดหลักหรัพย์ฯเพิ่มเติม โดยปีนี้คาดว่าจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อนำบริษัทเอกชนเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ราว 4-5 บริษัท ซึ่งบางบริษัทจะยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.ในช่วงเดือน ก.พ.65 นี้ และบางบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมงบการเงิน
นอกจากนั้น ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน APM ยังเห็นโอกาสของกระแสและการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยให้คำแนะนำกับบริษัทต่างๆ ให้ศึกษาและมองหาโอกาสต่อยอดธุรกิจจากสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะเข้ามาเสริมสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในระยะต่อไปในอนาคต ทั้งในเรื่องของคริปโทเคอเรนซี่ โทเคนเพื่อการลงทุน (Investment Token) และโทเคนเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token)
