• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Jessicas

#8986
ขายดาวน์  247,800 ( กค 2564 ) ห้อง 225
#8988


ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) คงต้องยอมรับอุตสาหกรรมที่กำลังได้ประโยชน์คือ 'อุตสาหกรรมบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ' บ่งชี้ผ่านแนวโน้มปริมาณหนี้เสีย (NPL) ปัจจุบันอุปทานส่วนเกิน (Oversupply) สถาบันการเงิน และ ผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non Bank) จะนำหนี้ด้อยคุณภาพออกมาประมูลขายจำนวนมาก และเกินกว่า 'กำลังซื้อ' ของผู้ซื้อรายใหญ่ 3 อันดับแรกรวมกัน สอดคล้องทิศทางปริมาณหนี้เสียในตลาดอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง 2 ปี (2564-2565)

'สุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT หนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่เมืองไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษ 'หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ' ว่า คาดการณ์แนวโน้มในช่วง 2 ปี (2564-2565) 'อุปทาน' (Supply) หนี้ด้อยคุณภาพจะถูกนำออกมาขายจำนวนมาก จากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้าไม่มีความสามารถผ่อนชำระคืนหนี้ได้ โดยคาดจะเห็นตัวเลข NPL ระดับสูงในปีหน้า หากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สิ้นสุดลง และไม่มีการช่วยเหลือต่อ

ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจึงเตรียมความพร้อมรองรับ 'โอกาสโต' ในแง่ของสรรพกำลังด้าน 'เงินทุน' ด้วยช่องทางการเพิ่มทุน ออกหุ้นกู้ รวมทั้งพ่วงออกวอร์แรนต์ JMT-W3 แจกผู้ถือหุ้นอีก 100 ล้านหน่วย เพื่อรองรับธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่มีโอกาสสร้างการเติบโตมหาศาลในปีนี้และปีหน้าเพื่อรอวัฏจักรเศรษฐกิจฟื้นตัวในปี 2565 เป็นต้นไป หลังสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย

สอดรับแผน 'การลงทุน' ปี 2564 ใน 'ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ' ที่ตั้งเป้าวงเงินซื้อหนี้ด้อยคุณภาพอยู่ที่ 6,000-10,000 ล้านบาท ถือเป็นเงินลงทุนที่ทำ 'สถิติสูงสุด' (All Time High) ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทซื้อหนี้ไปแล้ว 1,833 ล้านบาท ล่าสุดพอร์ตบริหารหนี้คงค้างรวม 213,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปีก่อนอยู่ที่ 207,051 ล้านบาท แต่หากย้อนดู เดิมบริษัทเคยตั้งวงเงินการซื้อหนี้ระดับ 1,000 ล้านบาท ก่อนขยับมา 3,500 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว ก็ถือว่าสูงสุดที่เคยทำได้ แต่ปีนี้ตั้งวงเงินไว้สูงกว่าเดิมมาก

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการลงทุนถือว่าจังหวะนี้บริษัทมีศักยภาพซื้อหนี้ก้อนใหญ่มาบริหารได้ เนื่องจากกระแสเงินสดในมือระดับ 'พันล้านบาท' ดังนั้น นโยบายบริษัทจึงต้องการขยายพอร์ตการลงทุนบริหารหนี้ควบคู่กัน คือ 'พอร์ตหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน' และ 'พอร์ตหนี้มีหลักประกัน' ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หนี้ไม่มีหลักประกัน 90% และ หนี้มีหลักประกัน 10% โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทขยายพอร์ตซื้อหนี้มีหลักประกันไม่ได้มาก เนื่องจากความพร้อมด้านเงินทุนมีจำกัด ทว่าปัจจุบันขีดความสามารถด้านเงินทุนพร้อมที่ขยายลงทุนไปทั้งสองส่วน

สะท้อนผ่านการเข้าลงทุนใน 'ธุรกิจใหม่' (New Business) อย่าง 'ธุรกิจประเมินราคาสินทรัพย์' ปัจจุบันอยู่ระหว่างการซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งจะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คาดกระบวนการซื้อขายแล้วเสร็จไตรมาส 3 ปี2564 โดยบริษัทดังกล่าวมีผลการดำเนินงานเป็นกำไร แต่ไม่มาก ซึ่งทำธุรกิจประเมินราคาสินทรัพย์ได้ทั้ง ธุรกิจ , เครื่องจักร , โรงงาน , อาคารต่างๆ เป็นต้น 

เขา บอกต่อว่า สำหรับเป้าหมายลงทุนในธุรกิจประเมินราคาสินทรัพย์ ส่วนหนึ่งบริษัทต้องการให้เข้ามาเป็น 'อีโคซิสเต็ม' (EcoSystem) ของบริษัทเพื่อเข้ามาเชื่อมโยงสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ เกิดเป็นธุรกิจที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของพอร์ตหนี้ที่มีหลักประกันที่ต้องพึ่งพาในส่วนของการประเมินราคาสินทรัพย์ โดยที่ผ่านมาบริษัทใช้บริการบริษัทประเมินราคาสินทรัพย์มาประเมินให้อาจจะเกิดความล่าช้าในบางครั้ง 

ดังนั้น เมื่อบริษัทมีธุรกิจประเมินราคาสินทรัพย์เป็นของตัวเองแล้ว ธุรกิจดังกล่าวก็จะเข้ามาส่งเสริมให้การทำงานมีความสะดวกและรวดเร็วในการซื้อหนี้ที่มีหลักประกันมากยิ่งขึ้น และในอนาคตพอร์ตหนี้ที่มีหลักประกันก็ขยายตัวได้เร็วขึ้นอีก

'ที่ผ่านมาเรามีความสนใจซื้อหนี้ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันนานแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่สามารถทำได้มากเนื่องจากเงินทุนไม่พร้อม เพราะพอร์ตหนี้มีหลักประกันต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงมาก แต่ตอนนี้เรามองว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่บริษัทจะสามารถขยายพอร์ตลงทุนควบคู่กันไปได้แล้ว'  

ทั้งนี้ ปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,206.83 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,047.04 ล้านบาท โดยประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่นกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถาบันการเงินและนอนแบงก์จะมีการขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมาก้อนใหญ่ในไตรมาส 4 ปี 2564 และปลายปีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของภาครัฐสิ้นสุด เชื่อว่าปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพจะออกมาในตลาดปริมาณที่มากโดยเฉพาะในปีหน้า ซึ่งตามปกติปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพก้อนใหญ่ที่ออกสู่ตลาดจะมีมากกว่างบประมาณลงทุนของบริษัทอยู่แล้ว 

'ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทกำลังเร่งรัดตัดมูลค่าเงินลงทุนในกองหนี้ทั้งหมด (Fully Amortized) ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ประกอบกับสถาบันการเงินต่างๆ มักจะเร่งปล่อยหนี้เสียออกมาประมูลในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปีจำนวนมาก'

ขณะที่ 'ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้' ปีนี้แนวโน้มทรงตัวจากปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วงสถาบันการเงินมีการพักหนี้ รวมทั้งสถาบันการเงินมีการเรียกคืนหนี้ด้อยคุณภาพระยะสั้นเพื่อนำไปปรับโครงสร้างหนี้ใหม่เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าอีกด้วย โดย ณ ปลายปี 2563 บริษัทมีมูลหนี้ที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามจากผู้ว่าจ้างจำนวน 32,682 ล้านบาท โดยผู้ว่าจ้างหลักๆ เป็นสถาบันการเงินและบริษัทเช่าซื้อ 

'ธุรกิจประกันภัย-นายหน้าประกันภัย' คาดว่าในปีนี้ผลการดำเนินงานน่าจะมีกำไร หลังบริษัทมีการปรับพอร์ตลงทุนใหม่ ทำให้ปีก่อนผลดำเนินงานขาดทุนลดลง โดยแผนธุรกิจในการรับประกันภัยมุ่งเน้นไปที่การทำ InsurTech ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับการทำประกันภัยของบริษัท ซึ่งโครงสร้างรายได้ปี 2563 จะมาจากการรับประกันภัยกลุ่มรถยนต์ 64% และประกันภัยที่ไม่ใช่กลุ่มรถยนต์ 36% จากเบี้ยรับประกันภัยจำนวน 349 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงมุ่งที่จะขยายงานไปในส่วนที่มีศักยภาพ และมุ่งที่จะนำเอาแบบประกันภัยเข้ามาใช้ในการดำเนิน Synergy ร่วมกับบริษัทในกลุ่ม    

ท้ายสุด 'สุทธิรักษ์' ทิ้งท้ายไว้ว่า ปีนี้สตอรี่การเติบโตของ JMT จะมาจากปริมาณ NPL ที่สถาบันการเงินและนอนแบงก์นำออกมาประมูลค่อนข้างสูงกว่าปกติ แม้ที่ผ่านมาจะมีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐแต่ก็ยังมีหนี้ด้อยคุณภาพออกมาเรื่อยๆ แต่มองว่าปริมาณมูลหนี้ก้อนใหญ่และมากสุดอาจจะยังได้รับการช่วยเหลืออยู่ในปัจจุบัน
#8991
ขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ขายคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ชั้น3 ขนาด 32ตาราง 1.19 ล้านบาท

ขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ขายคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ขายถูกคอนโดบางใหญ่ ชั้น3 ขนาด 32ตาราง 1.19 ล้านบาท ทำเลทอง บางใหญ่ นนทบุรี ขายถูกกู้ได้สูง


ขายถูกคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ขายถูกกู้ได้สูงคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ขายถูกคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ชั้น3 คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่  ทำเล: บางใหญ่ นนทบุรี ตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ราคา: 1.19 ล้านบาท ขนาด 32ตาราง มีตู้เสื้อ1ใบ และตู้เสื้อผ้าบิ้วอิน1ใบ ครัวบิ้วอิน ขายถูกคอนโดบางใหญ่ ติดรถไฟฟ้าสถานี ตลาดบางใหญ่ ติดตลาดบางใหญ่ สัญจรสะดวกมีป้ายรถตู้รถเมล์หลายสาย ทั้งในชุมชนหมู่บ้านและเดินทางเข้าเมือง กทม.

คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวก
-สวนสาธารณะ
-สวนหย่อม
-มีการรักษาความปลอดภัย (รปภ.)
-CCTV, Key Card และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

จุดเด่นของโครงการ คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่
* การเดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟฟ้า(BTS)บางใหญ่ และใกล้ถนนกาญจนาภิเษก และถนนรัตนาธิเบศร์
* โครงการรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ บิ๊กซี บางใหญ่ ตลาดบางใหญ่ และเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต

คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท  ขายถูกกู้ได้สูง


สนใจ
ติดต่อ ชญานิน 0886293244

รายละเอียดเพิ่มเติม


https://kaaiduan.com/คอนโดทำเลทอง/คอนโดซิตี้สเตชั่นบางให/


คำค้น
ขายถูกคอนโดบางใหญ่, ขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ , ขายคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท, ขายคอนโดทำเลทอง บางใหญ่นนทบุรี, ขายถูกกู้ได้สูงขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่

 
#8992


นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทเน้นขยายตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยยังคงมีทิศทางเติบโตได้ดี และกำลังซื้อ ที่สำคัญไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากนัก โดยเฉพาะโครงการแนวราบของจังหวัดที่เศรษฐกิจภายในแข็งแกร่ง อย่างจังหวัดขอนแก่น ทำให้บริษัท ศุภาลัยอิสาน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ศุภาลัย พัฒนาโครงการ "ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ ขอนแก่น" ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบของบ้านสวยสไตล์รีสอร์ท ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการบ้านเดี่ยว

โครงการ "ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ ขอนแก่น"เกิดจากแนวคิดพัฒนาบ้านเดี่ยวสุดหรู 2 ชั้น บรรยากาศรีสอร์ท ริมแม่น้ำชี บนเนื้อที่กว้างขวางกว่า 63 ไร่ บ้านสำหรับครอบครัว ราคาเริ่มต้น 3.06-8.59 ล้านบาท บนพื้นที่ใช้สอย150-318 ตร.ม. ที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV และเข้า-ออกโครงการด้วยระบบอัตโนมัติ Easy Pass

โดยล่าสุดจัดโปรโมชั่นร้อนรับหน้าฝน "ศุภาลัยให้เต็ม 10" จัดเต็มของแถม 10 รายการ ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า 6 รายการ ได้แก่ ตู้เย็น 2 ประตู Smart TV เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน 4 รายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ค่ามิเตอร์ไฟและค่ามิเตอร์น้ำ ไร้กังวล! ด้วยเงื่อนไขกู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ และจองภายในวันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 64 เท่านั้น
#8996
ร้านอร่อยพร้อมส่ง..ไม่รอรอบวิ่งกี่รอบก็จะส่ง
ลูกชิ้น​ไส้กรอกทอดและไก่ทอด เฟรนฟราย​ ​นักเก็ต​ ชีส.​ ปลาม้วนชีส อร่อยกับน้ำจิ้ม 2 สูตรพิเศษจากทางร้าน น้ำจิ้มมะขามเปรี้ยวหวานหอมพริกแห้ง และน้องใหม่ น้ำจิ้มซีฟู๊ด เปรี้ยวแซ่บเผ็ดหอมมะนาว
ผงเขย่ามีให้เลือกถึง​ 8 รสชาติ
ชีส
ฮอทแอนด์สไปซี่
ปาปริก้า
บาร์บีคิว
ต้มยำ
วิ๊งซ์แซ่บ
ลาบ
เกลือ
เครื่องเคียงน้ำจิ้มและซอส
น้ำจิ้มมะขาม​ เปรี้ยวหวานหอมพริกแห้ง
น้ำจิ้มซีฟู๊ด​ เปรี้ยวเผ็ดแซ่บ
ซอสมะเขือเทศ
ซอสพริก
มายองเนส
สั่งเดลิเวอร์รี่หรือสั่งล่วงหน้าได้ที่
โทร.099-497-2220
FB Inbox: https://m.me/taklamekin/
Line: @taklamekin หรือคลิ๊ก https://bit.ly/3hD2nYY
พิกัดร้าน https://g.page/taklamekin
ร่วมโครงการรับ เราชนะ ม33 คนละครึ่ง
Lineman: https://bit.ly/3fAL9ZK
Grab Food: https://bit.ly/3ffoV0e
Robinhood: https://bit.ly/3vmgsxU (ราคาหน้าร้าน)
ร้านเปิดตั้งแต่​ 17.00-01.00น.​ (ของหมดอาจปิดก่อนเวลา)​
*ทัก Line: @taklamekin ส่งฟรีเมื่อมียอดสั่ง 100 บาท.ขึ้นไป
ย่าน พระราม3 สาทร สาธุประดิษฐ์ เจริญกรุง ยานนาวา
*นอกเขตก็ส่งระแวกใกล้เคียงคิดค่าส่งเพิ่มถูกๆตามระยะทางจ้า
ลูกชิ้นไส้กรอก เบคอน เฟรนฟราย ไก่ทอด นักเก็ตชีส.ปลาชีส​ ของกินตอนดึก พระราม3 เจริญกรุง สาทร สาธุประดิษฐ์ ยานนาวา นนทรี เจริญนคร ไอคอนสยาม เซ็นทรัล โลตัส โรบินสัน เอเชียทรีค







#8997

(15 ก.ค.64) จากกรณี องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ออกแถลงการณ์วันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา เรื่องแจ้งความเอาผิด นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เป็นเหตุให้องค์การเภสัชฯได้รับความเสียหาย กรณีเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จการจัดซื้อวัคซีน "โมเดอร์นา" นั้น
 
ฝ่าย นพ.บุญ ประกาศลั่นว่า "หากองค์การเภสัชฯ ฟ้องผม จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะเอกสารต่าง ๆ ขององค์การเภสัชฯ จะได้ถูกเปิดเผย (แฉ) กลางศาล มีหมดว่าซื้อเท่าไหร่ อย่างไร"
 
แน่นอนว่า เมื่อนพ.บุญ ซึ่งมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ตกเป็นข่าวดังอีกครั้ง หลายคนจึงสนใจเรื่องประวัติของนายแพทย์คนนี้ รวมถึง "อาณาจักรธุรกิจ" ที่อยู่ในการบริหารของกลุ่มบริษัท THG ของเขาด้วย
 
กรุงเทพธุรกิจ ได้สำรวจข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและเว็บไซต์ของบริษัท พบว่า บริษัทนี้ก่อตั้งโดย นพ.บุญและกลุ่มแพทย์ เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2519 ในชื่อเดิมว่า บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด ก่อนจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนและจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด (มหาชน) ในปี 2537
ใครถือหุ้นใหญ่ THG
 
ตั้งแต่นั้นมา THG เติบโตและขยายกิจการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ระบุว่า มูลค่าบริษัท THG ณ วันที่ 13 ก.ค. 2564 อยู่ที่ 25,048 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เป็น บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) ซึ่งถืออยู่ 17.19% และอันดับ 2 คือ นางจารุวรรณ วนาสิน ซึ่งเป็นคู่สมรสของ นพ.บุญ ถืออยู่ 13.96%
 
ส่วน นพ.บุญ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ระบุว่า ถือหุ้นอยู่ในอันดับ 13
ข้อมูลจากเว็บไซต์เดียวกัน เผยว่า นพ.บุญ สำเร็จการศึกษา แพทยศาสตรบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยมหิดล และยังได้วุฒิบัตรเพื่อแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบ วิชาชีพสาขาอายุรศาสตร์ และทางเดินอาหาร จาก มหาวิทยาลัย John Hopkins ในสหรัฐด้วย
 
 
ปัจจุบัน นพ.บุญ วัย 82 ปี นั่งเก้าอี้ ประธานกรรมการบริษัท THG โดยมี นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ เป็นประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ
 
ผลประกอบการ 3 ปีหลังสุด
 
ขณะที่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีล่าสุดของ THG แยกเป็นดังนี้
 
ปี 2563
รายได้ : 7,315 ล้านบาท
กำไร : 62 ล้านบาท
 
ปี 2562
รายได้ : 8,232 ล้านบาท
กำไร : 462 ล้านบาท
 
ปี 2561 ล้านบาท
รายได้ : 7,094 ล้านบาท
กำไร : 348 ล้านบาท
 
ส่วนในไตรมาสแรกของปี 2564 บริษัทรายงานว่า มีรายได้ 1,584 ล้านบาท ขาดทุน 214 ล้านบาท
 
ธุรกิจการแพทย์ที่ THG ถือหุ้นเกิน 50%
 
นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลยังพบว่า บรรดาธุรกิจเกี่ยวกับ "บริการทางการแพทย์" ที่ THG ถือหุ้นอยู่เกิน 50% ประกอบด้วย 6 บริษัท ดังนี้
 
1. บริษัท ทันตสยาม จำกัด
ทุน 31.93 ล้านบาท จำนวน 3,174,930 หุ้น (99.42%)
2. บริษัท ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด
ทุน 100 ล้านบาท จำนวน 9,998 หุ้น (99.98%)
3. บริษัท ธนราษฎร์ทุ่งสง จำกัด -- ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน ใน จ.นครศรีธรรมราช
ทุน 600 ล้านบาท จำนวน 30,669,250 หุ้น (51.11%)
4. บริษัท โรงพยาบาล ราษฎร์ยินดี จำกัด (มหาชน) -- กิจการโรงพยาบาลเอกชน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ทุน 430 ล้านบาท จำนวน 244,734,031 หุ้น (56.91%)
5. บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด -- กิจกรรมโรงพยาบาล
ทุน 1,223 ล้านบาท จำนวน 48,926,453 หุ้น (99.99%)
6. บริษัท โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ธนบุรี จำกัด -- โรงพยาบาลเฉพาะทาง
ทุน 120 ล้านบาท จำนวน 11,999,700 หุ้น (99.99%)
 
ขณะเดียวกัน คาดว่าชื่อของ "นพ.บุญ" จะยังคงอยู่ในความสนใจของสังคมต่อไปอีก หลัง นพ.บุญ เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ในวันที่ 15 ก.ค. บริษัทจะลงนามสัญญาเพื่อนำเข้าวัคซีนต้านโควิด-19 กับ บริษัท ไบออนเทค ที่มีโรงงานผลิตวัคซีนไฟเซอร์ในเยอรมนี โดยจะมีหน่วยงานรัฐที่มีสิทธินำเข้าวัคซีนร่วมลงนามด้วย ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยชื่อหลังจากการลงนามแล้วเสร็จ
 
การลงนามสัญญาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ก.ค. ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการยืนยันจำนวนวัคซีนที่สั่งซื้อและนำเข้า หลังจากกระบวนการต่าง ๆ ดำเนินการมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว ส่วนงานด้านเอกสารสำคัญ คำสั่งซื้อ ร่างสัญญาต่าง ๆ เตรียมไว้พร้อมแล้ว
 
"เหลือเพียงแค่ทางด้านสหรัฐ เท่านั้นว่าจะอนุมัติตามที่ขอไป 20 ล้านโดส ในระยะแรกหรือไม่" นพ.บุญ กล่าวกับบีบีซีไทย เมื่อวันที่ 14 ก.ค.
#9000
จากสถานะการณ์ระเบิดแล้วก็เพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกเขตกิ่งแก้วและโรงงานผลิตน้ำหอมย่านลาดกระบังนั้น ทำให้พวกเราทุกคนจำเป็นต้องตระหนักถึงอันตรายของสะเก็ดไฟ ระบบไฟฟ้าและระบบแสงสว่างในโรงงาน โดยเฉพาะ ไฟฟ้าโรงงาน โรงงานที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายนั้น ควรมีการตรวจเช็คระบบไฟฟ้า แล้วก็แสงสว่างตามมาตรฐานความปลอดภัยโรงงานอย่างสม่ำเสมอ พื้นที่เสี่ยงควรจะใช้เครื่องมือป้องกันการเกิดระเบิด โดยทาง บริษัทเซเครทไลท์ จำกัด เป็นผู้นำเข้าและขายโคมไฟกันระเบิดที่มีมาตรฐานการันตีจากยุโรป อเมริกา รวมทั้งได้รับการยืนยันจากกรมพัฒนาธุรกิจพลังงานในประเทศไทย ได้เก็บรวบรวมข้อมูล แนวทางเลือกอุปกรณ์โคมชนิดป้องกันการระเบิด ไว้เพื่อเป็นข้อมูลเผยแพร่ ดังต่อไปนี้
1 สาเหตุที่อาจทำให้เกิดการจุดระเบิด (Ignition Source)
การออกแบบระบบป้องกันการจุดระเบิดภายในบริเวณที่มีการใช้หรือจัดเก็บสารไวไฟนั้น ผู้ออกแบบควรต้องพยายามเลี่ยงการเกิดบรรยากาศที่มีสารไวไฟปนเปื้อนมากเพียงพอให้มีการจุดติดไฟได้ แม้กระนั้น ยังมีกรรมวิธีการผลิตหรืองานทำนุบำรุงที่ไม่อาจจะเลี่ยงสภาพบรรยากาศดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงจะต้องพยายามป้องกันมิให้เกิดการจุดระเบิดในสถานที่นั้น ซึ่งที่มาของการจุดระเบิดที่สำคัญ มีดังนี้
•    เปลวไฟ
•    พื้นผิวที่มีความร้อนสูง
•    การอาร์ก และการสปาร์กของอุปกรณ์ไฟฟ้า
•    การถ่ายเทประจุของไฟฟ้าสถิตระหว่างวัตถุที่มีความต่างศักย์ไฟฟ้า
•    การเกิดฟ้าผ่า หรือการถ่ายเทประจุไฟฟ้าจาก บรรยากาศ ลงสู่พื้นดิน
•    การเกิดการเสียดสีของเครื่องจักรกล หรือการกระทบอย่างรุนแรงของโลหะ
•    การเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มสูง
•    การเกิดคลื่นอัลตร้าโซนิกที่มีพลังงานสูง
•    คลื่นพลังงานกระแทกอย่างรุนแรง
•    การแผ่คลื่นพลังงานจากปฏิกิริยาการแยกตัวของไอออน
•    การแผ่คลื่นแสงที่มีความเข้มสูง
•    ปฏิกิริยาเคมีอย่างรุนแรงและเกิดพลังงานความร้อนสูง
2 การเลือกอุปกรณ์กันระเบิด
เราจะเห็นว่า การอาร์กและการสปาร์กของอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เกิดการจุดระเบิดได้ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ป้องกันการระเบิด โดยการออกแบบมาจากพื้นฐานแนวความคิดคือ สามเหลี่ยมแห่งไฟ การเกิดเพลิงไหม้ต้องมีองค์ 3 อย่าง หรือ คือ 1. สารไวไฟหรือเชื้อเพลิงในจำนวนมากพอ 2. ออกซิเจน แล้วก็ 3. แหล่งจุดติดไฟ หรือในที่นี้ก็คือ การอาร์กและก็การสปาร์ก นั้นเอง ดังรูป





ดังนี้หากเราเลือกใช้อุปกรณ์กันการระเบิด หรือ โคมไฟที่จะไม่ทำให้เกิดการอาร์กและการสปาร์ก ก็เท่ากับเราทำลายส่วนประกอบการปะทุได้แล้ว โดยที่หากเราเน้นเฉพาะโคมฟ้ากันระเบิดแล้ว เลือกวัสดุอุปกรณ์ที่มีเครื่องหมายดังต่อไปนี้





ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ บริษัท เซเครทไลท์ฯ 081-409-0439 มีบริการตรวจสอบหน้างานฟรี "เพราะชีวิตเป็นสิ่งสำคัญและก็อุบัติเหตุสามารถป้องกันได้"