• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Jessicas

#8777


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์การโฆษณากองทุนรวมและการส่งเสริมการขายหน่วยลงทุน เนื่องจากหลักเกณฑ์ปัจจุบันบางส่วนมีความซ้ำซ้อนกัน และไม่มีความยืดหยุ่น รวมทั้งยังไม่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพภาพแวดล้อมของการประกอบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนพฤติกรรมการรับข่าวสาร และการลงทุนของผู้ลงทุน

ขณะที่หลักเกณฑ์ด้านการโฆษณา ยังมีข้อกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่โฆษณากองทุนรวมต้องสื่อสารคำเตือนด้วยข้อความที่กำหนด ซึ่งบางช่องทางที่มีข้อจำกัดด้านเวลา อาจทำให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับคำเตือนที่มีคุณภาพ 

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านการโฆษณากองทุนรวมและการส่งเสริมการขายหน่วยลงทุน เพื่อให้การโฆษณากองทุนรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับแต่ละช่องทางการสื่อสาร


รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจมีความยืดหยุ่นในการส่งเสริมการขายหน่วยลงทุน โดยยังคงหลักการการให้ความคุ้มครองผู้ลงทุน ซึ่งเป็นไปตามที่ ก.ล.ต. ได้หารือในหลักการกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะนำข้อมูลที่ได้รับจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นนี้ มาประกอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ในลำดับถัดไป ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=736  ผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mailslil@ sec .or .th หรือ sireetho@sec.or.th จนถึงวันที่ 9 ก.ย.พ.ศ. 2564
#8779
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 716
#8780
น้ำมันว่านจูงนาง   ใส่ตะกรุดนะเมตตามหานิยม ให้ทุกขวด  ขวดละ 399 บาท


 หุงด้วย น้ำมันบารมีครู 108 มหามงคล (น้ำมันแช่เหล็กไหลไพลดำ น้ำมันว่านไก่แดง น้ำมันว่าน 108 น้ำมันเกราะเพชร น้ำมันจักรพรรดิ น้ำมันชาตรี มวลสารมหามงคล 108 รัตนชาติฐานรองพระธาตุพระสีวลี )  

ช่วยในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์และโชคลาภ

คาถากำกับ     ปาสุอุชา จิตตังภิกขิรินิเม    ท่อง  9 จบ

แล้วอธิษฐานใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ว่านจูงนางนักเลงชาย หญิง แต่โบราณ ชอบสาว ชอบหนุ่มใด มักจะเอาดอกเอาต้นว่านไปแช่น้ำมันจันทร์บ้างน้ำมันเสน่ห์ต่างๆหรือผสมกับสีผึ้งใช้ติดตัวทางปาก ทาหน้าทางมือ เพราะมีความเชื่อว่าว่านจูงนางนี้มีพลังเสน่ห์เมตตามหานิยมรุนแรง ต่อเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน ชักจูงได้ง่าย ทำให้อีกฝ่ายคล้อยตามง่าย เชื่อง่าย และยังกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายให้เกิดความหลงใหลได้อย่างง่ายดาย และว่านจูงนางนี้ยังสามารถช่วยให้เจรจาค้าขายกับผู้คนต่างๆอย่างได้ผลพ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจมักมีติดตัวไว้ใช้กัน

 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย

หรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
 https://www.lazada.co.th/products/-i1162308605-s2732826682.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store 
#8781
ขายดาวน์  247,800 ( กค 2564 ) ห้อง 225
#8783


ความเคลื่อนไหว "ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (9 ส.ค.) ปิดตลาดดัชนี SET INDEX อยู่ที่ 1,540.19 จุด เพิ่มขึ้น 18.47 จุด หรือ 1.21% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69,879.20 ล้านบาท ระหว่างวันเคลื่อนไหว "สูงสุด" แตะระดับ 1,543.71 จุด และต่ำสุด 1,525.29 จุด โดยเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นจาก แรงซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (Reopening Play) นำโดยขนส่ง AOT บวก 4.48% ธนาคาร KBANK 3.83% และ SCB 2.90% จากความคาดหวังของนักลงทุนภายหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศปรับลดลงเล็กน้อย

อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำลงทุนกลุ่ม Reopening ในระยะกลาง-ยาว โดยแนะนำซื้อขายทำกำไร (เทรดดิ้ง) เท่านั้น เพราะยังมีความเสี่ยงจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่ยังสูง รวมถึงยังต้องติดตามจำนวนผู้รักษาหายและจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนในระยะต่อจากนี้ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ปี 2564 คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้นผันผวน

"มุมมองตลาดสัปดาห์นี้ เราคาดดัชนีแกว่งตัวที่แนวรับ 1,500-1,520 จุด และแนวต้าน 1,550-1,567 จุด โดยการลงทุนแนะนำกลุ่มที่มีความทนทาน-ปลอดภัย (Defensive Play) ได้แก่ สื่อสาร ADVANC โรงไฟฟ้า BCPG รวมถึงหุ้นงบดี INOX และ UV"
#8785
ขายดาวน์  247,800 ( กค 2564 ) ห้อง 225
#8786
ข้าวอินทรีย์ (Organic Rice) ข้าวออร์แกนิค เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโต สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผล ข้าวorganic ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ข้าวหอมมะลิออแกนิค(Organic Rice) เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมและสารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผลปลูกข้าวออแกนิคที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
 
       ประเภทของข้าวอินทรีย์
   1. ข้าวอินทรีย์รับรองมาตรฐาน Certified Organic เป็นระบบการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีป้องกันศัตรูพืช มีการขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานอิสระ โดยมีทั้งภาครัฐ เอกชนและหน่วยงานจากต่างประเทศ มีตราสัญลักษณ์ติดที่ผลิตภัณฑ์ และจะต้องมีการตรวจเพื่อต่ออายุใบรับรองทุกปี
 
   2. ข้าวอินทรีย์ระยะปรับเปลี่ยน In-conversion เป็นข้าวที่อยู่ในช่วงระยะเวลาที่เริ่มทำเกษตรอินทรีย์ในปีแรกก่อนจะได้รับการรับรองผลผลิตว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยระยะปรับเปลี่ยนเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
 
   3. ข้าวอินทรีย์แบบยังไม่รับรอง Non Certified เป็นการปลูกข้าวอินทรีย์แบบพึ่งตนเอง ส่วนใหญ่เป็นการทำเกษตรแบบพื้นบ้านหรือปลูกในระบบผสมผสานหรือในไร่หมุนเวียน ไม่มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใดๆ เกษตรกรกลุ่มนี้อาจเป็นกลุ่มที่ทำการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือนและนำผลผลิตส่วนเกินมาจำหน่ายผ่านระบบตลาดท้องถิ่น ทั้งนี้อาจมีการรับรองกันเองในระบบกลุ่มหรือชุมชน ข้าวหอมมะลิออแกนิค ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ คือ ข้าวที่ได้จากการผลิตภายใต้ระบบการผลิตข้าวอินทรีย์ซึ่งมีการจัดการการผลิตข้าวที่เกื้อกูลต่อระบบนิเวศรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้วัตถุดิบสังเคราะห์และมีการจัดการกับผลิตภัณฑ์โดยเน้นการแปรรูปด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพการเป็นข้าวอินทรีย์และคุณภาพที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ 
ขั้นตอนการผลิตข้าวอินทรีย์  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ส่งทั่วไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
ข้าวอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน
เป็นระบบการผลิตปลูกข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย ที่ไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด เช่น ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตสารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคแมลงและสัตว์ศัตรูข้าวตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ การผลิตข้าวอินทรีย์นอกจากจะทำให้ผลผลิตข้าวมีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษแล้วยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน
ข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล
การผลิตข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล มีกระบวนการผลิตการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และห้ามใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์ในกระบวนการผลิตและแปรรูปข้าวอินทรีย์ ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการต้องผฏิบัติตามเพื่อให้ได้รับการรับรอง มีขั้นตอนการปฏิบัติเป็นลำดับขั้น ดังนี้
1.เกษตรกรจะต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการผลิตข้าวอินทรีย์ (  'ข้าวอินทรีย์' ดีต่อสุขภาพ )
2.เกษตรกรจัดทำบันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต โดยแสดงแหล่งที่มาและปริมาณการใช้
3.สมัครขอรับรองต่อกรมการข้าว เกษตรกรต้องแสดงข้อมูลต่อไปนี้
- ประวัติการใช้พื้นที่
- ประวัติการใช้สารเคมี และผลการวิเคราะห์สารพิษตกค้างในดินและน้ำ (ถ้ามี)
- แผนที่และแผนผังแปลงนาที่ขอการรับรองและพื้นที่ข้างเคียง
- แผนการผลิตในทุกขั้นตอน
- บันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต
- บันทึกกิจกรรมในแปลงนา และข้อมูลอื่นๆ

การทำนาข้าวอินทรีย์   ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์    นโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ 277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook :https://www.facebook.com/Hor.Organic
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค
2. ข้าวกล้องหอมมะลิเพื่อสุขภาพ
3.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลออแกนิค #ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4.  ข้าวสุขภาพผสมหลายสายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิก

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์
#ข้าวออแกนิคสุรินทร์
#ข้าวออแกนิกสุรินทร์
#ข้าวอินทรีย์สุรินทร์
#ข้าวคุณภาพสุรินทร์

  ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิค
#8787


"นพ.สันต์" ติงสื่อฟังไม่ได้ศัพท์ กรณีนักวิจัย "ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้" ขอถอนต้นฉบับที่กำลังรอตีพิมพ์ แม้ค่า p-value สรุปผลไม่แตกต่างจากยาหลอก แต่ไม่ได้หมายความว่า รักษาโควิดไม่ได้ เพียงแต่ต้องวิจัยซ้ำขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้น ชี้พิเศษกว่าคู่แข่ง "ฟาวิพิราเวียร์" ที่มีข้อมูลน้อยพอกัน คือ แค่ทำวิจัยเพิ่มอีกนิดเดียว ก็จะเห็นดำเห็นแดงแล้ว อีกทั้งยังหาง่าย ราคาถูก มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของชาติ

จากกรณี นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว เผยแพร่บทความว่า ทีมผู้วิจัยชาวไทย ที่สรุปผลได้ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิด-19 ลดการเกิดปอดอักเสบได้ ทำการขอถอนนิพนธ์ต้นฉบับของตนเองที่รอตีพิมพ์กลับคืนจากคลังวารสารรอตีพิมพ์ (medRxiv) เหตุผิดพลาดในการคำนวณค่านัยสำคัญของความแตกต่าง (p-value) ซึ่งหากคำนวณอย่างถูกต้องแท้จริงแล้วค่านัยสำคัญจริงๆ คือ p=0.1 แปลได้ว่า "การใช้ฟ้าทะลายโจรลดปอดบวมได้ไม่แตกต่างจากใช้ยาหลอก" ทำให้สื่อหลายแห่งตีความไปว่าฟ้าทะลายโจร ใช้รักษาโควิดไม่ได้ (อ่านบทความ : จำเป็นต้องมีการวิจัยรักษาโควิด-19 ด้วยฟ้าทะลายโจรซ้ำด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้น)

วันนี้ (8 ส.ค. 2564) นพ.สันต์ จึงชี้แจงว่า สื่อตีความผิดพลาด เนื่องจากค่า p-value ที่ได้นั้น ไม่ได้หมายความว่า ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดไม่ได้ เพียงแต่ต้องทำการวิจัยนี้ซ้ำใหม่ด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม


เมื่อวานนี้ ผมเล่าเรื่องคณะผู้วิจัยชาวไทย ที่ทำวิจัยฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้ขอถอนต้นฉบับของตัวเองกลับออกมาจากเว็บไซต์งานวิจัยรอตีพิมพ์ (medRxiv) เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในการคำนวณเชิงสถิติในประเด็นการคิดค่านัยสำคัญทางสถิติ (p-value) คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ตัดเอาบทความของผมครึ่งบรรทัดไปโพนทะนาผ่านทางหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิดไม่ได้ ผลเสียแล้วควรต้องเลิกใช้..ไปโน่นเลย ผู้คนก็พากันกระต๊าก กระต๊าก ต่อๆ กันไป ซึ่งเป็นการตัดบทความของผมเอาไปแค่บรรทัดเดียวแล้วเอาไปกระเดียดที่ได้ผลแบบอะเมซซิ่งทิงนองนอยมากส์

ตัวผมเองไม่ถือสานะครับ เพราะเรื่องก็ดี ชื่อก็ดี ภาพของผมก็ดี มักมีคนชอบเอาไปทำยำใหญ่ใส่สาระพัดเป็นประจำอยู่แล้ว เอาไปขายยาสีฟันก็ยังเคยมีเลย หิ หิ ครั้งนี้ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่กลับมองเห็นเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ผู้คนได้หันมาสนใจและพยายามทำความเข้าใจงานวิจัยทางการแพทย์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จะได้ไม่ถูกคนกระเดียดข้อมูลให้ตื่นตกใจได้ง่ายๆ

ขอย้อนไปเริ่มต้นที่สนามหลวงก่อนนะ

เมื่อมีโรคโควิด-19 มา ได้มีการทำวิจัยในห้องทดลองที่ไต้หวันและในเมืองไทย แล้วสรุปผลได้ตรงกันว่า ฟ้าทะลายโจรระงับยับยั้งเชื้อไวรัสซาร์สโควี 2 ซึ่งเป็นเชื้อต้นเหตุของโรคโควิด-19 ทั้งนอกเซลล์และในเซลล์ได้ [1, 2]

ต่อมาก็ได้มีการทดลองใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ในคนกลุ่มเล็ก (case series) จำนวน 6 คน ซึ่งสรุปผลได้ว่าฟ้าทะลายโจรในขนาดที่ใช้ (180 มก.ของแอนโดรกราฟโฟไลด์ต่อวันนาน 5 วัน) สัมพันธ์กับการที่ไวรัสลดจำนวนลงและหมดไปจากตัว (viral shedding) ได้ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงที่มีนัยสำคัญ งานวิจัยนี้ไม่ได้ตีพิมพ์ แต่นำเสนอในที่ประชุมวิชาการโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก [3]

ต่อมาพัฒนาการทางวิชาการในเรื่องนี้ ก็แยกกันทำไปสองทาง ทางหนึ่งคือ ได้มีการทำวิจัยแบบย้อนหลังตามดู (retrospective cohort study) กลุ่มคนไข้โควิด-19 ที่ได้รับการรักษาต่างกันสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งใช้ฟ้าทะลายโจร 309 คน อีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้ใช้ฟ้าทะลายโจร 526 คน แล้วพบว่า กลุ่มที่ได้ฟ้าทะลายโจรเป็นปอดบวม 3 คน (0.9%) กลุ่มที่ไม่ได้ฟ้าทะลายโจรเป็นปอดบวม 77 คน (14.64%) ซึ่งเป็นความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.001) งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในรูปของรายงานสรุป (short communication) ในวารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก [4]

อีกด้านหนึ่งก็มีการทำวิจัยการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19 ในรูปของการวิจัยแบบสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ (RCT) ซึ่งถือว่าเป็นระดับหลักฐานชั้นสูงสุดของการวิจัยทางการแพทย์ รายละเอียดของงานวิจัยมีอยู่ว่าผู้วิจัยได้ใช้ผู้ป่วย 57 คน สุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่ง 29 คน ให้กินฟ้าทะลายโจรซึ่งมีเนื้อยาแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มก.ต่อวันกินนาน 5 วัน อีกกลุ่มหนึ่ง 28 คน ให้กินยาหลอก โดยใช้การเกิดปอดอักเสบ (pneumonia) เป็นตัวชี้วัด พบว่า กลุ่มที่กินยาหลอกเกิดปอดอักเสบ 3 คน (10.7%) ขณะที่กลุ่มที่กินฟ้าทะลายโจรไม่เกิดปอดอักเสบเลย (0 คน) เป็นความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.039) ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ส่งผลไปตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ โดยเผยแพร่นิพนธ์ต้นฉบับล่วงหน้าในเว็บไซต์งานวิจัยรอการตีพิมพ์ (medRxiv)[5] แต่ต่อมาคณะผู้วิจัยพบความผิดพลาดในการคำนวณค่า p-value ว่าที่คำนวณได้ p = 0.039 นั้นผิดไป ที่ถูกต้องเป็น p = 0.1 จึงได้ขอถอนนิพนธ์ต้นฉบับกลับมาแก้ไขความผิดพลาดดังกล่าว

ผมได้เล่าเรื่องการขอถอนต้นฉบับกลับมาแก้ไขให้แฟนบล็อกฟัง และแจ้งเปลี่ยนข้อสรุปของผมเองที่เคยพูดว่าหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนให้ใช้ฟ้าทลายโจรรักษาโรคโควิด-19 มีมากพอแล้วนั้น ผมต้องขอแก้ไขคำพูดใหม่ เป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนให้ใช้ฟ้าทลายโจรรักษาโรคโควิด-19ในคนยังมีไม่มากพอ (เพราะยังขาดงานวิจัยระดับ RCT) จึงต้องทำวิจัยซ้ำโดยการขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้น

เพราะการที่กลุ่มตัวอย่างเล็กได้ค่า p มากกว่า 0.05 ก็บอกได้แค่ว่ายังบอกไม่ได้ว่าความแตกต่างในผลการรักษา (คือการเกิดปอดบวม) ในทั้งสองกลุ่มมันต่างกันจริงหรือไม่ การจะรู้ได้ก็ต้องมีกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่านี้

ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรสักแอะเดียวที่จะบ่งชี้ว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ไม่ได้ผล ฟังให้ดีนะ "ยังไม่มั่นใจว่ามันได้ผลจริงหรือเปล่า" ไม่เหมือนกับ "ใช้แล้วไม่ได้ผล"

ซึ่งยาคู่แข่งกันที่ใช้ในเมืองไทยอีกตัว คือ Favipiravir ก็มีข้อมูลน้อยประมาณเดียวกัน คือ ทุกอย่างติดอยู่ที่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ นับถึงวันนี้การใช้ Favipiravir แล้วจะทำให้ไวรัสโควิด-19 หายไปจากตัวเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ..รึก็เปล่า จะทำให้ใช้ออกซิเจนน้อยลง..รึก็เปล่า จะทำให้ต้องเข้าไอซียูน้อยลง..รึก็เปล่า และที่สำคัญจะทำให้คนป่วยตายน้อยลง..รึก็เปล่า [6]

แต่ฟ้าทะลายโจรมันมีความพิเศษกว่า Favipiravir ตรงที่แค่ทำวิจัยซ้ำขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้นอีกนิดเดียว ก็จะเห็นดำเห็นแดงแล้วว่าได้ผลหรือไม่ได้ผลต่างจากยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ เท่าที่ผู้รู้ทางสถิติคำนวณให้คร่าวๆ หากพิจารณาจากอัตราการเป็นปอดบวมของผู้ใช้และผู้ไม่ใช้ฟ้าทะลายโจรในงานวิจัย retrospective cohort ที่ได้รายงานไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แค่ขยายกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัย RCT ไปให้ได้กลุ่มละ 40 คน คือ ขยายอีกกลุ่มละ 10 คน ก็จะเห็นดำเห็นแดงกันแล้ว

อีกทั้งฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสามัญในท้องถิ่น หาง่ายกว่า ราคาถูกกว่า มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของชาติมากกว่าไปซื้อยาเขามาทั้งๆ ที่ผลการรักษาก็แปะเอี้ย ในแง่การค้าขายระดับนานาชาติ หากจะขายฟ้าทะลายโจร ก็ต้องมีงานวิจัยระดับ RCT สนับสนุน ตัวหมอสันต์จึงลุ้นตัวโก่งให้ทำงานวิจัยนี้ต่อให้เบ็ดเสร็จสะเด็ดน้ำ โดยยินดีช่วยทุกอย่างเท่าที่หมอแก่คนหนึ่งจะช่วยได้
#8788


ต้อนรับเดือนสิงหาคมนี้แบบอิ่มอร่อยเต็มที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน ขอแนะนำบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มล่าสุด อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ ที่เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ สตีเฟ่น ฮอฟเฟอร์ ขอการันตีความอร่อยเช่นเดิมที่เพิ่มเติมความอุ่นใจให้กับแขกตลอดการเข้าพัก ด้วยนำเสิร์ฟทุกมื้ออาหารแบบส่วนตัวภายในห้องพักที่จะมอบความสะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง



พร้อมต้อนรับสู่บรรยากาศพักผ่อนริมทะเลหัวหินด้วยความปลอดภัยและอุ่นใจเต็มที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน นำโดยเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ สตีเฟ่น ฮอฟเฟอร์ แนะนำบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มล่าสุด อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ (In-room Dining Delights) ที่พร้อมบริการทุกมื้ออาหารแสนอร่อย ที่ยังคงความสดใหม่และรสชาติการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถัน แต่เพิ่มเติมความอุ่นใจอีกระดับด้วยการนำเสิร์ฟแบบส่วนตัวภายในห้องพัก พร้อมยกระดับมาตรฐานบริการด้านความปลอดภัยทางสุขภาพและสุขอนามัย เซ็นทารา คอมพลีท แคร์ (Centara Complete Care) อย่างรัดกุม แต่ยังคงไว้ซึ่งความเอาใจใส่และประสบการณ์การบริการที่อบอุ่นอย่างเหนือระดับ การันตีมื้ออาหารสุดโปรดของแขกให้อิ่มอร่อยและอุ่นใจเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง พลางเพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเลหัวหินจากทุกห้องพักของโรงแรม



เริ่มต้นด้วย อาหารนานาชาติมื้อเช้า จากห้องอาหารเรลเวย์ ที่นำเสนอรายการอาหารเช้านานาชาติให้ได้เพลิดเพลินแบบรายการ อะ ลา คาร์ท เกือบ 100 รายการ ที่ขอมอบความอิ่มอร่อยอย่างเต็มที่เช่นเคยตลอดทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น ชุดอาหารเช้าและเมนูไข่คลาสสิกสไตล์ตะวันตก รายการอาหารจานเดียวยอดนิยมสำหรับชาวไทย สลัดผักและผลไม้สดเพื่อสุขภาพ ขนมปังธัญพืชและขนมอบสดใหม่ น้ำผลไม้และเครื่องดื่มหลากรายการ โดยนำเสิร์ฟและบริการถึงทุกห้องพักตลอดมื้อเช้าระหว่าง 06.30 - 10.30 น.



ต่อเนื่องที่ ห้องอาหาร โคสต์ บีชคลับและบิสโทร ที่ยังคงเปิดให้บริการสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ตั้งแต่ 11.00 - 20.00 น. สำหรับการสั่งเพื่อกินภายในห้องพัก ด้วยรายการ อะ ลา คาร์ท แปลกใหม่ในสไตล์คอสโมโพลิแทน (Cosmopolitan) ที่นำเสนออาหารจานเด่นกว่า 50 รายการที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากวัตถุดิบที่ดีที่สุด เคล้ากลิ่นอายตะวันตกแต่ผสานรสชาติแบบตะวันออกไว้อย่างลงตัว อาทิ สลัดผักหลากชนิดพร้อมเดรสซิ่งสูตรพิเศษ สเต็กเนื้อคุณภาพเยี่ยมพร้อมซอสและเครื่องเคียง เมนูปลาและอาหารทะเลสดใหม่ตามความชอบของคุณ พาสต้าและรีซอตโต้สไตล์อิตาเลี่ยนต้นตำรับ รวมถึงพิซซ่าคลาสสิคที่เต็มไปด้วยรสชาติแปลกใหม่จากซอสพิซซ่าเข้มข้นที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับแป้งพิซซ่าสูตรบางกรอบพิเศษที่มีที่โคสต์เท่านั้น



หรือหากกำลังมองหาตัวเลือกอาหารว่างมื้อดึก ห้องอาหารเรลเวย์ พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมงด้วยเมนู ออลเดย์ ดีไลท์ (All-day Delights) กับกว่า 60 รายการอาหารจานเด่นจากหลายวัฒนธรรมทั่วทุกมุมโลก อาทิ เบอร์เกอร์เนื้อวัวแองกัสและฟิชแอนด์ชิปส์สไตล์อเมริกัน สลัดนิซัวส์และอกเป็ดย่างซอสมัลเบอร์รี่สูตรต้นตำรับฝรั่งเศส พิซซ่าและพาสต้าเมนูโปรดตำรับอิตาเลียนแท้ อาหารว่างสไตล์เม็กซิกันอย่างทอสทาดาและทาโก้ ฉู่ฉี่ปลาแซลมอนและข้าวซอยไก่รสเข้มแบบไทย หรือจะเป็นเมนูยอดนิยมอย่าง ผัดไทยกุ้งสด ต้มยำกุ้ง ผัดกะเพราไข่ดาว ข้าวผัดสับปะรด ก็มีให้ได้เลือกเช่นเดียวกัน พร้อมรับประกันความอร่อยเต็มที่ในทุกจานอย่างแน่นอน



ไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารรูปแบบไหนโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน พร้อมดูแลตลอดการเข้าพักด้วย อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ บริการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ สตีเฟ่น ฮอฟเฟอร์ ขอการันตีความอร่อยเช่นเดิม และเพิ่มเติมความอุ่นใจให้กับแขกในทุกๆ วันตลอด 24 ชั่วโมง

อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ (In-room Dining Delights) ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน ให้บริการตลอดทุกวันแบบรายการ อะ ลา คาร์ท สำหรับการกินในห้องพัก ในราคาเริ่มต้น 140++ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่ 0-3251-2021 หรืออีเมลล์ chbr@chr.co.th
#8789
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 716
#8790
น้ำมันว่านจูงนาง   ใส่ตะกรุดนะเมตตามหานิยม ให้ทุกขวด  ขวดละ 399 บาท


 หุงด้วย น้ำมันบารมีครู 108 มหามงคล (น้ำมันแช่เหล็กไหลไพลดำ น้ำมันว่านไก่แดง น้ำมันว่าน 108 น้ำมันเกราะเพชร น้ำมันจักรพรรดิ น้ำมันชาตรี มวลสารมหามงคล 108 รัตนชาติฐานรองพระธาตุพระสีวลี )  

ช่วยในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์และโชคลาภ

คาถากำกับ     ปาสุอุชา จิตตังภิกขิรินิเม    ท่อง  9 จบ

แล้วอธิษฐานใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ว่านจูงนางนักเลงชาย หญิง แต่โบราณ ชอบสาว ชอบหนุ่มใด มักจะเอาดอกเอาต้นว่านไปแช่น้ำมันจันทร์บ้างน้ำมันเสน่ห์ต่างๆหรือผสมกับสีผึ้งใช้ติดตัวทางปาก ทาหน้าทางมือ เพราะมีความเชื่อว่าว่านจูงนางนี้มีพลังเสน่ห์เมตตามหานิยมรุนแรง ต่อเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน ชักจูงได้ง่าย ทำให้อีกฝ่ายคล้อยตามง่าย เชื่อง่าย และยังกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายให้เกิดความหลงใหลได้อย่างง่ายดาย และว่านจูงนางนี้ยังสามารถช่วยให้เจรจาค้าขายกับผู้คนต่างๆอย่างได้ผลพ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจมักมีติดตัวไว้ใช้กัน

 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย

หรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
 https://www.lazada.co.th/products/-i1162308605-s2732826682.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store