• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Naprapats

#8536
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับการเบิกจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน สำหรับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน เพื่อใช้ในการดูแล แก้ปัญหา และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ประสบปัญหาทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน ทั้งด้านผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความเป็นอยู่ จังหวัดละ 20 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากจังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมมีความต้องการใช้เงินมากกว่า 20 ล้านบาท ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถส่งเรื่องเพื่อขอขยายวงเงินทดรองราชการได้ โดยส่งเรื่องผ่านมายังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) ซึ่งจะประสานมายัง ปภ. ส่วนกลาง และกรมบัญชีกลาง เพื่อขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยจะเพิ่มเป็น 50 ล้านบาท และ 100 ล้านบาทตามลำดับ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความรุนแรง

"ต้องยอมรับว่าสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ขยายเป็นวงกว้างเพิ่มขึ้น กรมบัญชีกลางเองได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยืนยันว่ากรมฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเบิกจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ปัจจุบันมีบางจังหวัดได้ขอขยายวงเงินเพิ่มบ้างแล้ว โดยวงเงินทดรองราชการยังเพียงพอในการดูแลสถานการณ์น้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนอยู่"

สำหรับวัตถุประสงค์ของวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินนั้น เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบพิบัติกรณีฉุกเฉิน บรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า โดยให้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำรงชีพ และความเป็นอยู่ของประชาชน หรือเป็นการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้คืนสู่สภาพเดิม หรือเพื่อป้องกัน ยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็นการให้ความช่วยเหลือแบบจำเป็นเร่งด่วน เช่น ให้เงินทุนประกอบอาชีพ ถุงยังชีพ อาหาร เรื่องดื่ม เป็นต้น โดยจะมีหลักเกณฑ์ของ ปภ. ในการกำหนดการใช้เงินทดรองราชการดังกล่าวอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
#8538
นายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยปริมาณความต้องการใช้เหล็กในประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 64 (ม.ค.-ส.ค.64) เพิ่มขึ้น 18% เป็นการเพิ่มขึ้นของการผลิตในประเทศ 14% และการนำเข้าเพิ่มขึ้น 23% ซึ่งเชื่อว่านโยบายภาครัฐจะช่วยให้การใช้สินค้าเหล็กจากผู้ผลิตในประเทศ โดยเฉพาะในโครงการภาครัฐปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น


โดยในปี 2564 สถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น โดยสมาคมเหล็กโลก (World steel Association) คาดการณ์ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูป (Finished steel products) ของโลกมีแนวโน้มขยายตัว 5.8% ปริมาณอยู่ที่ 1,874 ล้านตัน โดยกลุ่มสหภาพยุโรป (27 ประเทศและสหราชอาณาจักร) คาดการณ์ความต้องการใช้เหล็กสำเร็จรูปขยายตัวอยู่ที่ 10.2% กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) คาดการณ์ความต้องการใช้เหล็กสำเร็จรูปขยายตัว 3.4% และภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย คาดการณ์ความต้องการใช้เหล็กสำเร็จรูปขยายตัว 4.7% และจีน คาดการณ์ความต้องการใช้เหล็กสำเร็จรูปขยายตัว 3.0% เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากสามารถมีการผลิตวัคซีนในการป้องกันได้ เป็นผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถดำเนินการได้ดียิ่งขึ้น ภาคการผลิตของอุตสาหกรรมมีแนวโน้มและทิศทางที่ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปมีโอกาสปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้สถานการณ์ราคาสินค้าเหล็กในภูมิภาคเอเชียหลายประเภท มีแนวโน้มปรับลดลงเล็กน้อยในช่วงเดือน ก.ย.64 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า เช่น สินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นราคา 980 USD/ตัน ปรับลดลง 0.7% เหล็กลวดราคา 831 USD/ตัน ปรับลดลง 2.8% จากข้อมูลดังกล่าวคาดว่าสถาณการณ์ราคาเหล็กในตลาดโลกน่าจะเลยจุดสูงสุดมาแล้ว และน่าจะกลับสู่สถานการณ์ปกติในไม่ช้านี้ แต่คาดว่าจะไม่ต่ำลงมากเหมือนก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากประเทศจีนมีการควบคุมการผลิต และมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น

สำหรับประเทศไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 มีปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็ก 13.0 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยคาดว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้เหล็กทั้งปีราว 18.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2563 โดยผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบนเพิ่มขึ้น 19% และผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาวเพิ่มขึ้น 10% แต่ทั้งนี้ จากข้อมูลของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยจะพบว่าปริมาณนำเข้ายังคงมีอัตราการขยายตัวที่สูงกว่าการผลิตในประเทศ

โดยจากสถานการณ์ที่ความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็กในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปี 2563 และกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ การการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กภายใน และการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผลิตในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้า และหันมาใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยเร่งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้เร็วขึ้นได้ มาตรการที่สำคัญของภาครัฐที่สนับสนุนการใช้สินค้าในประเทศคือ นโยบาย Made in Thailand โดยมีข้อมูล ณ เดือน ส.ค.64 มีข้อมูลการตรวจสอบตามรายชื่อการรับงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ของกรมบัญชีกลาง พบว่ามีผู้ที่ลงทะเบียน Made in Thailand ถึง 841 กิจการที่ได้รับงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

'กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ส.อ.ท.หวังว่าภาครัฐจะพิจารณาการขยายขอบข่ายของมาตรการ ให้สามารถครอบคลุมงานโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ PPP จะสามารถทำให้มีผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตสินค้าในประเทศได้รับประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐอีกเป็นจำนวนมาก'

ADVERTISEMENT


ขณะเดียวกันสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 26 ส.ค.64 โดยมีอำนาจหน้าที่ ศึกษา เสนอแนะ แนวทางในการแก้ปัญหากำลังการผลิตส่วนเกิน และการใช้อัตรากำลังการผลิตต่ำ แนวทางปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเหล็ก แผนงาน/โครงการ พัฒนา และขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมเหล็กมีความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งได้มีการประชุมครั้งที่ 1 แล้วเมื่อวันที่ 23 ก.ย.64 มาตรการดังกล่าวจะช่วยให้อุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศฟื้นตัว และสามารถใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่ใช้กำลังการผลิตเพียง 34% เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับการใช้กำลังการผลิตเหล็กเฉลี่ยของโลกในปี 2563 ที่ 74% รวมถึงสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กในปัจจุบัน ไปสู่ยุคอุตสาหกรรมเหล็ก 4.0 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างยั่งยืน
#8542
ภายหลังจากทีมชาติเวียดนาม ยังพุ่งชนความปราชัยอย่างต่อเนื่อง หลังบุกไปโดน โอมาน ยิงดับ 3-1 ในเกมคัดเลือก ฟุต.โลก 2022 โซนเอเชีย รอบสาม เมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดย 'โค้ชปาร์ก' ปาร์ก ฮัง ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ของ 'ดาวทอง' กล่าวหลังเกมว่า 'นักเตะของผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เวียดนามผ่านเข้ารอบที่ 3 ของฟุต.โลก รอบคัดเลือก ซึ่งแฟน.ชาวเวียดนามรอคอยมานาน ผมและนักเตะยังต้องการเวลาในการปรับแก้'

ขณะเดียวกันเกมนี้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นหลายราย 'โค้ชปาร์ก' กล่าวว่า 'การเลือกผู้เล่นไม่ใช่ความเห็นส่วนตัวของผมคนเดียว แต่มาจากทีมงานผู้ฝึกสอน เราทุกคนพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในการเลือกผู้เล่น เพราะเราต้องการชัยชนะ ผู้เล่นทุกคนที่ลงสนามได้พิสูจน์ความพยายามอย่างเต็มที่'

'หลังจบเกมบรรยากาศในทีมค่อนข้างเงียบ ผมพยายามให้กำลังใจพวกเขาว่า ไม่มีใครอยากแพ้ เรามีเกมรออยู่อีกมาก เราทุกคนต้องรวมใจกันสู้ต่อไป'

นอกจากนี้ 'โค้ชปาร์ก' ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินด้วยว่า 'ผ่านไปแล้ว 4 เกม ผมมีเรื่องที่จะพูดมากมายเกี่ยวกับผู้ตัดสิน และวันนี้ผมก็จะบอกว่าผู้ตัดสินนั้นทำหน้าที่ไม่สอดคล้องกัน หากตัดสินเช่นนี้ ผู้ตัดสินควรจะตัดสินตัวเองก่อน'

ผลการแข่งขันนี้ทำให้ โอมาน เก็บไป 6 แต้ม ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 3 แต้มเท่าญี่ปุ่น แต่ประตูได้เสียดีกว่า ส่วนฝั่ง เวียดนาม แพ้ 4 นัดรวด นอนจมบ๊วยไม่มีแต้ม ซึ่งจากนี้ เวียดนาม จะไปเจอกับ ญี่ปุ่น วันที่ 11 พฤศจิกายน เพื่อควานหาชัยชนะต่อไป
#8543
ขายส่งอุปกรณ์กีฬา.com อุปกรณ์กีฬามาตรฐาน ทุกชนิด สั่งได้ในราคาถูก เข้าเว็บไซต์ที่นี่เว็บไซต์ขายส่งอุปกรณ์กีฬาดอทคอม จัดตั้งขึ้นในปี 2555  ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายขายส่งอุปกรณ์กีฬาขายส่งไม้แบดมินตัน, ขายส่งลูกฟุต., ขายส่งลูกบาสเกต. ขายส่งลูกวอลเล่.#ขายอุปกรณ์กีฬา#ร้านขายอุปกรณ์กีฬา#บริษัทอุปกรณ์กีฬา#จำหน่ายอุปกรณ์กีฬา#อุปกรณ์กีฬามาตรฐาน ทุกชนิด สั่งได้ในราคาถูกwww.ขายส่งอุปกรณ์กีฬา.comโปรโมชั่นวันนี้ !!!!!  ( สั่งสินค้าครบ 10,000 บาท จัดส่งฟรี ทั่วประเทศ)เว็บไซต์ขายส่งอุปกรณ์กีฬาดอทคอม มุ่งเป็นเว็บไซต์ชั้นนำในการผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา  ที่ครองใจทั้งลูกค้าสั่งซื้อหน้าเว็บไซต์1. เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพดีราคาถูก2. ให้บริการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว และตรงกับความต้องการของลูกค้า3. สร้างพันธมิตรในการค้า4. นำนวัตกรรมสิ่งใหม่ๆมาพัฒนาสินค้า และบริการอยู่เสมอเว็บไซต์ขายส่งอุปกรณ์กีฬาดอทคอม www.ขายส่งอุปกรณ์กีฬา.comเลขที่ 339/303  เพชรเกษม69 ซอยอิทรปัตย์9 แยก5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม 10160มือถือ: 087-035-6821,081-801-4274Line ID : nattiyaya,hearhuiสินค้าส่วนใหญ่พร้อมส่งทันที แต่อาจมีบางครั้งที่มีเจ้าใหญ่สั่งเหมา โดยที่ไม่ได้จองล่วงหน้าทำให้ของขาด จึงต้องผลิตใหม่ รอ 10 – 15 วันเรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าและสรรหานวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน
#8544
น้ำมันว่านเศรษฐีเรียกลาภ  ขวดละ 299 บาท


หุงจากว่านด้านเมตตา โชคลาภ 4 ชนิด ว่านรวยไม่เลิก ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนใน ว่านรางเงิน

พร้อมใส่ตะกรุดหัวใจพระสีวลีให้ทุกขวด ส่งเสริม เรื่องเมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ว่านเศรษฐีเรือนใน

เป็นว่านที่มีคุณทางเมตตามหานิยม มีโชคลาภและวาสนาทรัพย์สินเงินทองมากมาย

ว่านเศรษฐีเรือนนอก 

เป็นว่านให้ผลในทางคุ้มครองป้องกันภัย มีโชคลาภและฐานะเจริญรุ่งเรือง

ว่านรวยไม่เลิก

เป็นว่านให้ผล ในเรื่องความร่ำรวยตลอดไปเหมือนชื่อต้น มีโชคลาภ

ว่านรางเงิน 

เป็นว่านะดีเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม และโชคลาภ 

คาถาบูชา

ตั้ง นะโม 3 จบ

สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ

(ท่องคาถาแล้วอธิษฐาน)

ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://www.lazada.co.th/products/-i792070635-s1584866736.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store

#8545
หุ้นไทยปิดบวก 10.20 จุด รับแรงซื้อกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีกหนุน หลังรัฐบาลประกาศเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 พ.ย.นี้ และราคาน้ำมันดิบโลกทรงตัวระดับสูงเหนือ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 12 ตุลาคม 2564 เคลื่อนไหวในแดนบวก รับแรงซื้อหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีกจากปัจจัยบวกหลังรัฐบาลประกาศเตรียมเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว แต่มีเงื่อนไขการฉีดวัคซีนและจํากัดจํานวนประเทศ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบโลกยังทรงตัวระดับสูงเหนือ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,643.64 จุด เพิ่มขึ้น 10.20 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.62% ด้วยมูลค่าซื้อขาย ล้านบาท ขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,646.85 จุด และต่ำสุดอยู่ที่1,637.49 จุด


หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

AOT ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7,542.74 ล้านบาท

CPALL ปิดที่ 64.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,217.07 ล้านบาท

SVT ปิดที่ 6.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.95 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,186.93 ล้านบาท

KBANK ปิดที่ 140.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,960.70 ล้านบาท

TRUE ปิดที่ 4.30 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,721.38 ล้านบาท

 

หลักทรัพย์ที่ดันดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

AOT ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มีผลต่อดัชนี 4.3304 จุด

AWC ปิดที่ 4.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มีผลต่อดัชนี 0.5543 จุด

BDMS ปิดที่ 22.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มีผลต่อดัชนี 0.5506 จุด

EA ปิดที่ 64.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มีผลต่อดัชนี 0.4846 จุด

SCB ปิดที่ 124.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มีผลต่อดัชนี 0.4411 จุด
#8548

สื่อในอังกฤษหลายสำนักรายงานตรงกันว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จะปลดสตีฟ บรู๊ซ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมภายในสัปดาห์นี้ พร้อมทั้งจ่ายเงินค่าชดเชย 8 ล้านปอนด์ (360 ล้านบาท) เพื่อเปิดทางให้กุนซือคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยจะเริ่มงานทันทีในเกมพรีเมียร์ลีก วันที่ 16 ตุลาคม ที่จะเปิดบ้านเจอกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์


ซาอุดีอาระเบีย พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ ที่เข้ามาเทกโอเวอร์นิวคาสเซิล ไม่พอใจผลงานของบรู๊ซที่พาทีมรั้งรองบ๊วยของพรีเมียร์ลีก ยังไม่ชนะใครเลยตลอด 7 นัดที่ผ่านมา


ตัวเต็งกุนซือใหม่ คือ ลูเซียน ฟาร์ฟ อดีตกุนซือดอร์ทุมนด์, เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้, สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีมเรนเจอร์ส
#8549

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กล่าวในโอกาสนำคณะผู้บริหารบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ที่วัดโตนด ตำบลดาวเรือง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรีว่า เบื้องต้นคาดการณ์สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่น่าจะเกินความคาดหมาย โดยอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบและความเสียหาย โดยเชื่อมั่นในการทำงานของกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้เตรียมงบประมาณแก้ปัญหาน้ำไว้เป็นประจำทุกปีอยู่แล้วไม่ว่าจะน้ำท่วมหรือน้ำแล้ง แต่ยังต้องติดตามรายงานสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้รัฐมนตรี และ ส.ส.ทุกคนติดตามสถานการณ์แก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างทั่วถึงและยังให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และกระทรวงการคลัง หารือถึงมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมและหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายว่า จะมีแนวทางอย่างไร ซึ่งต้องดูให้สอดคล้องกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย



ขณะเดียวกันภาครัฐพร้อมสนับสนุนนโยบายเปิดเมืองในพื้นที่ต่างๆให้มีความเหมาะสม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละจังหวัดว่าจะเปิดเมืองในรูปแบบ หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติอย่างไร เพื่อเป็นกติกาในการดูแลนักท่องเที่ยวและคนพื้นที่ให้อยู่ร่วมกันได้สำหรับการลงพื้นที่วัดโตนด ตำบลดาวเรือง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ครั้งนี้ได้ร่วมกับ ปตท. ส่งมอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย

สำหรับ จ.สระบุรีเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากมีระดับน้ำท่วมที่ค่อนข้างสูง จากการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ มีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด 11 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี เสาให้ บ้านหมอ เฉลิมพระเกียรติ วิหารแดง ดอนพุด หนองโดน หนองแซง วังม่วง แก่งคอยและมวกเหล็กโดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมีทั้งเป็นบ้านเรือนประชาชน พื้นที่ทำกิน เช่น พื้นที่ทำการเกษตร การประมง ซึ่งได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการเร่งสำรวจความเสียหายและเข้าให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ประกอบอาชีพอย่างเร่งด่วน
#8550
กองทุนบัวหลวง ฉวยจังหวะเศรษฐกิจเวียดนามฟื้น ส่ง B-VIETNAM ลุยลงทุนหุ้นเวียดนาม ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่อง เหตุราคาหุ้นถูกที่สุดในอาเซียน พร้อม IPO 14-20 ต.ค. นี้

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) บัวหลวง จำกัดหรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า เวียดนามจะเป็นประเทศที่ถูกจัดอยู่ในลำดับต้นๆ  ของประเทศสมาชิกอาเซียนที่เศรษฐกิจมีโอกาสเติบโตสูง จากโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่ถึง  63%  อยู่ในช่วงวัยทำงาน รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (Rising Middle Income) และยังสามารถรับมือได้ดีกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19

 

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) บัวหลวง จำกัด
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) บัวหลวง จำกัด

ทั้งการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ผนวกกับการเร่งระดมฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชากร ทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตเป็นบวกได้ในปี 2563 โดย GDP เติบโต 2.91%  ต่อเนื่องมาในปี 2564 ที่หลายภาคส่วนทยอยกลับเข้าสู่การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเช่นภาวะปกติ ผู้คนเริ่มกลับมาใช้จ่าย อันเป็นสัญญาณการฟื้นตัว จึงคาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะกลับมาเติบโตได้ในอัตรา 6.5 - 7% ต่อปี ในระยะยาว


ขณะที่การลงทุน มี 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้เวียดนามโดดเด่นและมีความน่าสนใจมากที่สุดในภูมิภาคคือ โอกาสลงทุนในเศรษฐกิจที่มีการเติบโตสูง เป็นเป้าหมายของฐานการผลิตจากทั่วโลก และมูลค่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมูลค่าหุ้นเวียดนามอยู่ในระดับราคาหุ้นที่ถูกที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในปี 2565 คาดการณ์ราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นหรือ P/E หุ้นขนาดใหญ่อยู่ที่ 13.2 เท่า หุ้นขนาดกลางอยู่ที่ 9 เท่า ในขณะที่ค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นเอเชีย P/E อยู่ที่ 14 - 15 เท่า และตลาดหุ้นไทย P/E อยู่ที่ 16 เท่า

 

นอกจากนั้น แนวโน้มอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นหรือ EPS Growth Rate ของหุ้นเวียดนาม เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในเอเชียด้วยกัน ยังเป็นอัตราที่สูงกว่าเกือบทุกประเทศยกเว้นฟิลิปปินส์ โดยในปี 2565 คาดการณ์ EPS Growth Rate หุ้นขนาดใหญ่อยู่ที่ 20% หุ้นขนาดกลางอยู่ที่ 25% และ VN Index อยู่ที่ 25%

กองทุนบัวหลวงเห็นถึงโอกาสและช่วงจังหวะเวลาที่ดี สำหรับการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ จึงจัดตั้งกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนาม หรือ B-VIETNAM ซึ่งมีจุดเด่นคือ สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนาม และ/หรือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม และ/หรือหุ้นเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นประเทศอื่น รวมทั้งหน่วย CIS และ/หรือกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นเวียดนาม โดยผู้จัดการกองทุนมีความยืดหยุ่นในการบริหารกองทุน

 

ในส่วนของหุ้นเวียดนามที่ผู้จัดการกองทุนตั้งเป้าคัดเลือกลงทุนจะอยู่ภายใต้ 3 Theme เด่น ได้แก่ การเติบโตของสังคมเมือง การเติบโตของกลุ่มดิจิทัล และการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากเงินลงทุนจากต่างประเทศ โดยเน้นมองหาหุ้นขนาดกลาง ที่มีเรื่องราวการเติบโตทางเศรษฐกิจและยังมีระดับ P/E ที่น่าสนใจ เพื่อโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนให้กองทุน

 

ทั้งนี้ B-VIETNAM เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศ ซึ่งการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ สามารถลงทุนระยะยาวได้ 3 - 5 ปีขึ้นไปและไม่มีความต้องการผลตอบแทนระหว่างทาง รวมถึงยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น ความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศได้

 

 

B-VIETNAM เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ช่วงวันที่ 14 - 20 ตุลาคม 2564 ในราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท มูลค่าการซื้อขั้นต่ำ 500 บาท พิเศษในช่วง IPO ลดค่าธรรมเนียมการขายเหลือ 0.75% จากปกติ 1.50%