• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Ailie662

#11431


BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 3/22 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย' หรือ BP3/22 (AI) ซึ่งเป็นเทอมฟันด์ อายุ 6 เดือน วันที่ 11-17 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท เป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่มองหาการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เหมาะสม

รายงานข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า BBLAM เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 3/22 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ BP3/22 (AI) ระหว่างวันที่ 11-17 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ โดยเสนอขายในราคา 10 บาทต่อหน่วย และผู้ลงทุนจะต้องจองซื้อครั้งแรกขั้นต่ำ 500,000 บาท

กองทุนนี้ เป็นกองทุนที่มีกำหนดอายุโครงการ (เทอมฟันด์) ประมาณ 6 เดือน จะระดมเงินจากผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูง ซึ่งเป็นผู้ลงทุนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพย์สินที่กองทุนลงทุน และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ เพื่อแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่เหมาะสม ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ในประเทศยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ BP3/22 (AI) จะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นการลงทุนในต่างประเทศ เฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินต้นและดอกเบี้ยที่คาดว่าจะได้รับทั้งหมด (Fully Hedge)

ตราสารหนี้ต่างประเทศที่กองทุนนี้เข้าไปลงทุนได้ ประกอบด้วย ตราสารหนี้ภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงตราสารหนี้ภาคเอกชน และตราสารหนี้อื่นๆ ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยต้องรับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ณ วันที่ลงทุน อยู่ในระดับที่ลงทุนได้ หรือ Investment Grade ทั้งยังสามารถลงทุนในเงินฝากต่างประเทศได้ นอกจากนี้อาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ BP3/22 (AI) ไม่มีค่าธรรมเนียมการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งในการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนกองทุนนี้ เป็นการรับซื้อคืนโดยอัตโนมัติ 1 ครั้ง ภายในวันทำการก่อนวันครบกำหนดอายุโครงการ โดยบริษัทจัดการจะประกาศวันที่รับซื้อคืนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุนทราบ ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันถัดจากวันที่จดทะเบียนกองทุน ขณะที่การจ่ายเงินคืนเมื่อครบอายุกองทุน จะจ่าย 1 ครั้ง ภายในวันที่เลิกกองทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในทะเบียน ณ วันเลิกกองทุน ตามวิธีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้แจ้งไว้ในใบคำขอเปิดบัญชี (โอนเข้าบัญชี / เช็ค) โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถแจ้งความประสงค์ไว้ได้ว่า เมื่อกองเทอมฟันด์ครบอายุ ให้สับเปลี่ยนเข้ากองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี (B-TNTV) หรือกองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-TREASURY)

ผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน BP3/22 (AI) หรือติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ BBLAM โทร. 0 2674 6488 กด 8 หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ตัวแทนขายของกรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง และบมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
#11432
เครื่องพ่นสีประตู แบบอัตโนมัติ- การทำงานและคุณสมบัติต่างๆของเครื่อง

เครื่องพ่นสีประตู 2 บาน พร้อมหัวฉีด 2 หัวฉีด สามารถทำงานได้ไม่ขาดช่วงขาดตอน ทำงานเร็วประมาณ 2-3นาทีต่อ 1 บาน ขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ สามารถตั้งโปรแกรมได้แบบอัตโนมัติ และมีหัวฉีด 2 หัวเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ในตัวเครื่องมีระบบล้างหัวฉีดได้แบบอัตโนมัติ

สามารถทำงานได้ทั้งประตูบานเล็กและประตูบานใหญ่ เครื่องสามารถลงรายละเอียดในจุดเล็กๆได้ เครื่องจักรมีระบบระบายอากาศภายในตัว สามารถดูดกลิ่นสีออกไปสู่ข้างนอกโดยผ่านตัวกรองซึ่งอากาศที่ออกไปนั้นจะไม่เป็นพิษ มีแผ่นตัวกรองหลายชั้นเพื่อใช้สำหรับการกรองฝุ่นและอากาศ

ติดต่อ :
Email : info@cctgroup.co.th
เบอร์โทรศัพท์ : 0816428557, 0812079977 (คุณสมนึก)
Website : https://www.cctgroup.co.th
#11434
บลจ.ทิสโก้ปลื้มนักลงทุนชอบกอง 'TBRAND' พร้อมเดินหน้าช่วยสังคมผ่านโครงการ 'Fighting Cancer'

บลจ.ทิสโก้ปลื้มนักลงทุนให้การตอบรับกองทุนเปิด ทิสโก้ World Brands (TBRAND) ดีต่อเนื่อง เพราะธุรกิจที่มีแบรนด์แข็งแกร่งยังคงมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ท่ามกลางการเดินหน้านโยบายการเงินเข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) และเงินเฟ้อที่พุ่งสูง พร้อมประกาศช่วยสังคมผ่านโครงการ Fighting Cancer โดยนำค่าธรรมเนียมการขายกองทุนรวมบางส่วนไปสนับสนุนงานวิจัยเกี่ยวกับนวัตกรรมการรักษามะเร็งของหน่วยงานต่างๆ

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ บลจ.ทิสโก้ เปิดเสนอขาย IPO กองทุนเปิด ทิสโก้ World Brands (TBRAND) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในบริษัทที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า (Brand) ชั้นนำในตลาดและมีคุณค่าเหนือระดับไปเมื่อวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมานั้นลูกค้าให้การตอบรับที่ดี และมียอดซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะมั่นใจว่าธุรกิจที่มีแบรนด์แข็งแกร่งยังคงมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่โดดเด่น มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง และมีผลประกอบการทั้งในแง่รายได้และกำไรเติบโตดีอย่างสม่ำเสมอแม้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) เดินหน้านโยบายการเงินเข้มงวด อีกทั้งธุรกิจที่มีแบรนด์แข็งแกร่งมักจะมีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าทำให้สามารถต่อสู้กับปัญหาอัตราเงินเฟ้อได้ ซึ่งกองทุน TBRAND เปิดให้ผู้ที่สนใจซื้อขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

สำหรับรายละเอียดกองทุน TBRAND นั้นจะเน้นลงทุนในบริษัทที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า (Brand) ชั้นนำทั่วโลก บริษัทที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีชื่อเสียง มีคุณภาพสูงและให้ความหรูหรา หรือบริษัทที่มีรายได้ส่วนใหญ่จากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดหาสินค้าและบริการ การผลิตสินค้าและบริการ หรือการจัดหาเงินทุนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้า (Brand) ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุน LO Funds - World Brands ชนิดหน่วยลงทุน Syst. NAV Hdg, (USD) N (กองทุนหลัก) บริหารและจัดการโดย Lombard Odier Funds (Europe) S.A.

นายสาห์รัชกล่าวอีกว่า ด้านจุดเด่นของกองทุน TBRAND คือการกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มการเงิน กลุ่มเทคโนโลยี เป็นต้น อีกทั้งยังผสมผสานระหว่างหุ้นคุณค่า หุ้นเติบโต และหุ้นดิจิทัลไว้ด้วยกันทั้งหุ้นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก (Global Brand) ที่มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีงบการเงินที่แข็งแกร่งและครองส่วนแบ่งการตลาดในระดับสูง เช่น Hermes, Nestle และ Ferrari เป็นต้น

นอกจากนี้ กองทุนหลักยังลงทุนในบริษัทเจ้าของแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคในระดับหนึ่ง (Upcoming Brand) โดยธุรกิจกลุ่มนี้จัดเป็นหุ้นเติบโต มีโอกาสสร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด และกำลังกินส่วนแบ่งทางการตลาดจากแบรนด์ขนาดใหญ่ เช่น PROYA ผู้นำแบรนด์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสัญชาติจีน และเพื่อให้ผลตอบแทนเติบโตไปตามเมกะเทรนด์ของโลกยังลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับดิจิทัล (Digital Brand) รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์สด้วย เช่น Adobe และ Microsoft เป็นต้น

บลจ.ทิสโก้ยังคงเดินหน้านำเสนอกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโต เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้ลูกค้าควบคู่ไปกับการดูแลสังคมผ่านโครงการ Fighting Cancer 2022 ด้วยการนำค่าธรรมเนียมจากการขายกองทุนรวมผ่านกลุ่มทิสโก้บางส่วนไปสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการรักษามะเร็งของหน่วยงานต่างๆ โดยสถาบันการแพทย์ไทยให้ก้าวหน้าขึ้น ซึ่งกองทุน TBRAND ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

ทั้งนี้ กองทุนเปิด TBRAND อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds
#11435
ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 22.96 จุด กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อพุ่ง

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในเดือนม.ค. โดยความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานยอดปล่อยกู้ของจีนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนม.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,462.95 จุด ลดลง 22.96 จุด หรือ -0.66%

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่สกุลเงินหยวนเดือนม.ค.พุ่งแตะระดับ 3.98 ล้านล้านหยวน (6.258 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.7 ล้านล้านหยวน

อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถหนุนตลาดหุ้นจีนให้ปิดในแดนบวกได้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 7.2% จากระดับ 7.0% ในเดือนธ.ค.

ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: หุ้นโซลปิดลบ 24.22 จุด วิตกเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวลงในวันนี้หลังจากบวกมา 3 วันติดกัน โดยถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ ขณะที่สกุลเงินวอนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,747.71 จุด ลดลง 24.22 จุด หรือ -0.87% โดยมีปริมาณซื้อขายปานกลางที่ 457 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 10.5 ล้านล้านวอน (8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 726 ต่อ 168 ตัว

หุ้น LG Chem ร่วงลง 4.24%, หุ้น Naver ร่วง 1.21% และหุ้น Samsung Electronics ปรับตัวลง 0.66%
#11436
BBLAM เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ BP3/22 อายุ 6 เดือน IPO 11-17 ก.พ.

บลจ.บัวหลวง (BBLAM) เปิดเผยว่า BBLAM เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 3/22 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ BP3/22 (AI) ระหว่างวันที่ 11-17 ก.พ.65 นี้ โดยเสนอขายในราคา 10 บาทต่อหน่วย และผู้ลงทุนจะต้องจองซื้อครั้งแรกขั้นต่ำ 500,000 บาท

กองทุนนี้ เป็นกองทุนที่มีกำหนดอายุโครงการ (เทอมฟันด์) ประมาณ 6 เดือน จะระดมเงินจากผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูง ซึ่งเป็นผู้ลงทุนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพย์สินที่กองทุนลงทุน และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ เพื่อแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่เหมาะสม ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ BP3/22 (AI) จะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นการลงทุนในต่างประเทศ เฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินต้นและดอกเบี้ยที่คาดว่าจะได้รับทั้งหมด (Fully Hedge)

ตราสารหนี้ต่างประเทศที่กองทุนนี้เข้าไปลงทุนได้ ประกอบด้วย ตราสารหนี้ภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงตราสารหนี้ภาคเอกชน และตราสารหนี้อื่นๆ ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยต้องรับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ณ วันที่ลงทุน อยู่ในระดับที่ลงทุนได้ หรือ Investment Grade ทั้งยังสามารถลงทุนในเงินฝากต่างประเทศได้ นอกจากนี้อาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ BP3/22 (AI) ไม่มีค่าธรรมเนียมการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งในการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนกองทุนนี้ เป็นการรับซื้อคืนโดยอัตโนมัติ 1 ครั้ง ภายในวันทำการก่อนวันครบกำหนดอายุโครงการ โดยบริษัทจัดการจะประกาศวันที่รับซื้อคืนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุนทราบ ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันถัดจากวันที่จดทะเบียนกองทุน ขณะที่การจ่ายเงินคืนเมื่อครบอายุกองทุน จะจ่าย 1 ครั้งภายในวันที่เลิกกองทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในทะเบียน ณ วันเลิกกองทุน ตามวิธีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้แจ้งไว้ในใบคำขอเปิดบัญชี (โอนเข้าบัญชี / เช็ค) โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถแจ้งความประสงค์ไว้ได้ว่า เมื่อกองเทอมฟันด์ครบอายุ ให้สับเปลี่ยนเข้ากองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี (B-TNTV) หรือกองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-TREASURY)
#11437
ขายส่งอุปกรณ์กีฬา แบรนด์ MIKAZAขายส่งอุปกรณ์กีฬาขอนำเสนออุปกรณ์กีฬามาตรฐานโลก แบรนด์ Mikaza
www.ขายส่งอุปกรณ์กีฬา.com
https://bit.ly/3L8fGwO
#11438
DIPEPTIDE NANO ENCAPSULATION

ใน Mana collagen มานาคอลลาเจน

นวัตกรรมใหม่ ลิขสิทธิ์หนึ่งเดียวจาก Asahi  คอลลาลาเจนไดเปปไทด์ ซึ่งผ่านนวัตกรรม Nano ให้มีอนุภาคเล็กและดูดซึมได้ดีที่สุดในโลก สามารถดูดซึมตั้งแต่ชั้นผิวหนังและดูดซึมสู่เส้นเลือดได้ทันที และนวัตกรรม Encapsulation ช่วยให้คอลลาเจนอยู่ในร่างกายได้นานขึ้นและสามารถดูดซึมได้ทั้งหมด ทำให้เห็นผลไว ผิวใส เนียน กระชับ
เป็นนวัตกรรมใหม่ Encapsulation ที่ทำให้โมเลกุลเล็กลงจากตัวเก่า มานาคอลลาเจนสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้นถึงชั้นผิวหนัง (ดีที่สุดในโลก) เห็นผลไวกว่า ใสกว่า ละลายน้ำง่าย ไม่มีกลิ่นคาว
และยังเพิ่มสาร Premium Q10 เป็นสารต้านอนูมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกันโรคภัยต่างๆอีกด้วย
มานาคอลลาเจน พรีเมี่ยมคอลลาเจน 1 กระป๋อง ปริมาณบรรจุ 110,000 มก.
มานาคอลลาเจน ปริมาณ 5,000 มก. ต่อ 1 ช้อนตวง (มีแถมให้ในกระป๋อง)

ทาน มานาคอลลาเจน วันละ 1 ช้อน สามารถทาน มานาคอลลาเจน ได้ถึง 22 วัน

สนใจ mana collagen ทัก
สมัครตัวแทนจำหน่าย ท้ก
---------------------------------------------------------
Line:@collagen
http://line.me/ti/p/@collagen
FB. https://www.facebook.com/manacollagedipeptide
www.manaok.com
www.manaextra.com
www.manathailand.page
#11439
บริษัท สบายใจการบัญชี  จำกัด
9/54  หมู่ที่ 8  ตำบลบางเลน  อำเภอบางใหญ่  จังหวัดนนทบุรี   11140
โทร & Line ID.087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

รับทำบัญชีนนทบุรี  รับทำบัญชีบางกรวย  รับทำบัญชีบางใหญ่  รับทำบัญชีบางบัวทอง  รับทำบัญชีไทรน้อย  รับทำบัญชีปากเกร็ด  รับทำบัญชีบางศรีเมือง  รับทำบัญชีพิมลราช  รับทำบัญชีบางคูรัด  รับทำบัญชีบางรักพัฒนา  รับทำบัญชีบางแม่นาง  รับทำบัญชีบางกร่าง  รับทำบัญชีไทรม้า  รับทำบัญชีตลาดขวัญ  รับทำบัญชีบางตะไนย์  รับทำบัญชีบางพลับ  รับทำบัญชีบางรักน้อย  รับทำบัญชีมหาสวัสดิ์  รับทำบัญชีศาลากลางนนทบุรี  รับทำบัญชีอ้อมเกร็ด  รับทำบัญชีแจ้งวัฒนะ  รับทำบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  รับทำบัญชีถนนชัยพฤกษ์  รับทำบัญชีถนนติวานนท์  รับทำบัญชีถนนทวีวัฒนา  รับทำบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  รับทำบัญชีท่าอิฐ  รับทำบัญชีถนนนครอินทร์  รับทำบัญชีบางม่วง  รับทำบัญชีบางกรวย-จงถนอม  รับทำบัญชีถนนบางไกรใน  รับทำบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  รับทำบัญชีบางคูเวียง  รับทำบัญชีบางศรีเมือง  รับทำบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  รับทำบัญชีไทรม้า  รับทำบัญชีถนนพิบูลสงคราม  รับทำบัญชีถนนราชพฤกษ์  รับทำบัญชีตลิ่งชัน  รับทำบัญชีถนนเรวดี  รับทำบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี  รับทำบัญชีธุรกิจนำเข้าส่งออก  รับทำบัญชีธุรกิจซื้อมาขายไป  รับทำบัญชีธุรกิจผลิต  รับทำบัญชีธุรกิจขายสินค้าออนไลน์  รับทำบัญชีขายผ่านShoppee  รับทำบัญชีขายLazada  รับทำบัญชีบริษัทจำกัด  รับทำบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด  รับทำบัญชีและยื่นภาษี  สำนักงานบัญชี  รับงานบัญชี
#11441
https://www.katobonsai.com/
บอนไซ บอนไซประดิษฐ์ ตกแต่งบ้าน
#11442
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  รับตรวจสอบบัญชี สำนักงานสอบบัญชี
#11444
'พรินซิเพิล' มองเทรนด์ลงทุนปี 2022 คาดครึ่งปีแรกตลาดผันผวน แนะลงทุนหุ้นสหรัฐและยุโรป เน้นหุ้นกลุ่ม Defensive และ Quality ชี้หุ้นไทย-เวียดนามยังไม่แพง

บลจ.พรินซิเพิล มองเทรนด์การลงทุนปี 2022 คาดครึ่งปีแรกผันผวนจากแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED และการลดขนาด Balance Sheet ในช่วงครึ่งหลังของปี แนะลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป เน้นหุ้นกลุ่ม Defensive และ Quality ที่ให้ผลตอบแทนดีในภาวะผันผวน มองตลาดหุ้นไทยและเวียดนามยังไม่แพง จะได้แรงหนุนจากอัตราเติบโตเศรษฐกิจที่เร่งตัวในปีนี้

นายศุภกร ตุลยธัญ, CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด กล่าวในงานสัมมนา Principal Investment Forum 2022: Rising Rates Rising Volatility หัวข้อ CIO's Perspective on 2022 Outlook ว่า ภาพรวมการลงทุนปี 2022 จะเผชิญกับความผันผวนในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี และคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม อย่างไรก็ตามมองว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับสูง ต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางปีนี้ ก่อนจะเริ่มลดลงในครึ่งปีหลัง และหลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในเดือนมีนาคมและมิถุนายนนี้แล้ว คาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้ FED จะเริ่มใช้มาตรการ QT (Quantitative Tightening) หรือการปรับลดขนาดงบดุล จึงไม่น่าจะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 4 ครั้งต่อปี ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนช่วงครึ่งปีหลังมีความผันผวนลดลง ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐคาดว่าจะแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ กระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นเวียดนามในปัจจุบันถือว่ายังไม่แพง โดยน่าจะได้รับปัจจัยบวกจากอัตราเติบโตของ GDP ที่เร่งตัวจากปีก่อน

จากปัจจัยดังกล่าวแนะนำให้ลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ได้แก่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป เลี่ยงการลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นขนาดเล็ก (Small Cap) เนื่องจากสถิติในอดีตพบว่าเมื่อตลาดพันธบัตรผันผวน ตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งเป็นตัวแทนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และ Russell 2000 ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่ม Small Cap มีความผันผวนค่อนข้างสูง ส่วนการลงทุนตลาดตราสารหนี้แนะนำให้ลดอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ในพอร์ตเพื่อป้องกันความเสี่ยง

ทั้งนี้จากการศึกษาข้อมูลสินทรัพย์ต่างๆ นับจากปี 1976 ในภาวะที่อัตราเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นและเศรษฐกิจเริ่มเติบโตช้าลง พบว่าดัชนี S&P 500 แม้ให้อัตราผลตอบแทนลดลงแต่ยังเป็นบวกและสูงกว่าผลตอบแทนของดัชนี Dow Jones เล็กน้อย ส่วนหุ้นประเทศอื่นๆ นอกจากสหรัฐฯ ให้อัตราผลตอบแทนติดลบ นอกจากนี้พบว่าในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในอดีต หุ้นกลุ่ม Defensive และหุ้นกลุ่ม Quality ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากลุ่มอื่น

"จากภาพรวมการลงทุนในปีนี้ เราได้คัดสรรกองทุนเปิด 9 กอง ได้แก่ 1.กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกล. แบรนด์ (PRINCIPAL GBRAND) 2. กองทุนเปิดพรินซิเพิล ยูเอส อิควิตี้ (PRICIPAL USEQ) ลงทุนหุ้นสหรัฐฯ 3.กองทุนเปิดพรินซิเพิล ยูโรเปี้ยน อิควิตี้ (PRICIPAL EUEQ) ลงทุนหุ้นยุโรป 4.กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกล. ฟิกซ์ อินคัม (PRICIPAL GFIXED) ลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก 5.กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกล. พรีเฟอร์ ซิเคียวริตี้ (PRICIPAL GPS) 6.กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกล. อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ (PRICIPAL GIF) ลงทุนในอินฟราสตรักเจอร์ 7.กองทุนเปิดพรินซิเพิล เอเชีย แปซิฟิก ไดนามิก อินคัม อิควิตี้ (PRICIPAL APDI) ลงทุนในเอเชียแปซิฟิก 8.กองทุนเปิดพรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ อิควิตี้ (PRINCIPAL EEF) มีนโยบายลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยฯ และ 9.กองทุนเปิดพรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม (PRICIPAL iPROP) เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนในภาวะที่ตลาดผันผวน" นายศุภกร กล่าว

นายชาตรี มีชัยเจริญยิ่ง หัวหน้าการลงทุนฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด กล่าวในหัวข้อ Vietnam is the new Unicorn of Asia ว่า คาดการณ์ปี 2565 GDP ของเวียดนามจะเติบโตสูงถึง 7.2% ฟื้นตัวจากปี 2564 ที่อัตราเติบโต 2.58% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ โดยปัจจุบันเวียดนามได้เร่งฉีดวัคซีนแล้วกว่า 76% ของประชากรทั้งหมด อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัว และงบประมาณพิเศษของภาครัฐคิดเป็น 4.2% ของ GDP เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงสนับสนุนธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับกระทบจากโควิด-19

ทั้งนี้ สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศเวียดนามอยู่ที่ 44% ต่ำกว่าเพดานที่กำหนดไว้ 60% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 3% โดยที่แนวโน้มอัตราอัตราดอกเบี้ยปีนี้คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เนื่องจากรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ตลาดหุ้นเวียดนามถือว่ายังไม่แพง โดยมีค่า P/E Ratio ที่ 14.8 เท่า และประเมินว่ากำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ในปีนี้จะเติบโต 25 - 30% คาดว่ากลุ่มธนาคารจะเป็น sector ที่โดดเด่นในช่วงไตรมาสแรก เพราะสะท้อนปัจจัยลบไปหมดแล้ว

สำหรับนักลงทุนที่สนใจตลาดเวียดนาม แนะนำลงทุน กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ (PRINCIPAL VNEQ) ซึ่งเป็นกองทุน Flagship ที่มีนโยบายเข้าลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นเวียดนาม ปัจจุบันมีการลงทุนในกลุ่มธนาคารสัดส่วนสูงสุด 30% มีจุดเด่นการคัดหุ้นรายตัวที่มีคุณภาพ จากความแข็งแกร่งในการทำบทวิเคราะห์และการสนับสนุนของนักวิเคราะห์ในเวียดนาม ทำให้สามารถซื้อหุ้นในต้นทุนที่ต่ำ

นายวรุณ ทรัพย์ทวีกุล ผู้จัดการกองทุน ฝ่ายการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
พรินซิเพิล จำกัด กล่าวในหัวข้อ Futuristic Investment Theme ว่า พรินซิเพิลมองว่าธีมการลงทุนแห่งอนาคตที่โดดเด่น ประกอบด้วย 5 ธีมหลัก ได้แก่ 1) Automation & Robotic เนื่องจากการการขาดแคลนของประชากรวัยแรงงานและค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการนำหุ่นยนต์มาใช้ทดแทนและจะมีบทบาทอย่างมากในการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 2) Healthcare Innovation เนื่องจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรมีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ ทำให้การใช้จ่ายด้านสุขภาพมีแนวโน้มสูงขึ้น 3) Millennial Consumer คือกลุ่มคนที่ในปี 1980-2000 จะมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจ โดยมีไลฟ์สไตล์ใช้เงินซื้อประสบการณ์ และเป็นกลุ่มสำคัญที่ขับเคลื่อนการบริโภคของโลก 4) Electric Vehicles หรือยานยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากต้นทุนการผลิต EV ที่มีแนวโน้มลดลงในระดับเดียวกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงจากสนับสนุนของภาครัฐ 5) Metaverse ประกอบด้วยอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น Hardware, Computing, Networking และ Payment Services เป็นต้น โดยมีโอกาสโตจากมูลค่าตลาด 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2563 เป็น 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2567

ทั้งนี้ กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกล. อินโนเวชั่น (PRINCIPAL GINNO) ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภท Fund of Funds ที่มีนโยบายการลงทุนในทั้ง 5 ธีมหลักดังกล่าวที่มีความน่าสนใจ เพื่อสร้างโอกาสเติบโตตาม Global Megatrends และรับประโยชน์จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยแนะนำทยอยสะสม Growth Stock หรือหุ้นเติบโตในช่วงกลางปี สำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมายระยะยาว

Mr. Adrian Tan, Executive Director, Morgan Stanley Investment Management กล่าวในหัวข้อ Global Brand - Global value through rising volatility ว่า ปรัชญาของ Morgan Stanley Investment Management ในการลงทุน Global Brand สิ่งสำคัญคือ 'ต้องไม่สูญเสียเงินต้น ระมัดระวังในสิ่งที่ลงทุน ให้น้ำหนักกับการเลือกหุ้นที่ดี โดยมอง Absolute Return หรือผลตอบแทนที่ชัดเจนและความเสี่ยงควบคู่กัน กลยุทธ์การลงทุนของ Morgan Stanly จึงเน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงหรือ Good Quality Value Company ผ่านการคัดกรองหลายขั้น เพื่อเน้นลงทุนในระยะยาว รวมถึงให้มูลค่าของหุ้นที่เข้าซื้อในราคาที่เหมาะสม โดยเลือกลงทุนในหุ้น 10 ตัว ในสัดส่วน 60% ของพอร์ต ให้ความสำคัญในการเลือกหุ้นที่มีความสามารถในการแข่งขัน คำนึงถึงหลัก ESG หรือสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล ซึ่งบริษัทที่เลือกลงทุนอาจจะไม่ได้เติบโตเร็วที่สุด แต่เน้นเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกลงทุนในกลุ่มสินค้าที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น เทคโนโลยีกลุ่มซอฟต์แวร์, กลุ่มเฮลท์แคร์, กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดพรินซิเพิล โกล. แบรนด์ ถือว่าเติบโตอย่างมีสเถียรภาพ และมี Downside หรือโอกาสปรับลดลงที่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ ให้ผลตอบแทน 11.5% สูงกว่าดัชนี MSCI World ที่มีผลตอบแทน 6.5% ขณะที่ช่วง COVID-19 ผลตอบแทนของกองทุนฯ ลดลงในอัตราต่ำกว่าดัชนี MSCI World

Ms. Juliet Cohn, European Equity Portfolio Manager, Principal Global Investors กล่าวในหัวข้อ Easing Europe, no rush amid high inflation with European Equity Fund ว่ายุโรปเป็นตลาดที่ควรเข้าไปลงทุนเนื่องจากเป็นตลาดหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังคงมีนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้มียังคงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การอัดฉีดเงิน 750,000 ล้านยูโรผ่านกองทุนฟื้นฟู (Recovery Fund) ซึ่งกว่า 37% เป็นเงินลงทุนใน Green Project ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสนับสนุนภาพลักษณ์การเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของบริษัทยุโรป

ทั้งนี้มองว่าหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ในยุโรปได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และยังได้รับปัจจัยบวกจากรัฐบาลที่สนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การบริโภค และนวัตกรรมใหม่ ทำให้หุ้นยุโรปมีโอกาสเติบโตต่อได้ ประกอบกับค่า P/E Ratio ที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปมีหุ้นเทคโนโลยีน้อยกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่มีหุ้นกลุ่มวัฏจักรที่ขึ้นลงสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างมากและยังมีโอกาสเติบโตได้อีก รวมถึงมีปัญหาเงินเฟ้อและ Supply Chain Disruption น้อยกว่าสหรัฐฯ ดังนั้นจึงแนะนำลงทุนใน 'กองทุนเปิดพรินซิเพิล ยูโรเปี้ยน อิควิตี้' (PRICIPAL EUEQ) ที่ลงทุนในหุ้นยุโรป ภายใต้กลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน (Sustainable Change) และ Valuation ของหุ้นที่เหมาะสม เน้นพิจารณาหุ้นเป็นรายตัวมากกว่าพิจารณาจากปัจจัยภาพรวม โดยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมากองทุนฯ มีอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีชี้วัตและดีกว่าดัชนี MSCI EUROPE

สำหรับนักลงทุนที่สนใจรับชมงานสัมมนา Principal Investment Forum 2022 สามารถรับชม VDO Clips ได้ที่ https://www.principal.th/th/Principal-Investment-Forum-2022-VDO สนใจติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนหรือสอบถามรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และผู้สนับสนุนการขายฯ หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด โทร. 02 686 9595 www.principal.th ท่านสามารถเปิดบัญชีและทำรายการผ่าน Principal TH Mobile App