• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Ailie662

#11146
บริการสั่งอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม ครัวบ้านยาย ผ่าน GrabFood ได้แล้ว
- สั่งเมนูโปรดของคุณได้ง่ายๆ ผ่าน ...
http://bit.ly/3IVdkQY
#11149
เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 17.21 จุด ขานรับแบงก์ชาติจีนอัดฉีดสภาพคล่อง

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ ขานรับธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเงินเพื่อสนับสนุการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มพลังงานใหม่พุ่งขึ้นนำตลาด

ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,446.09 จุด เพิ่มขึ้น 17.21 จุด หรือ +0.50%

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงินสดสุทธิ 1 แสนล้านหยวน (1.57 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบธนาคารผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ประเภท 1 ปี ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทดังกล่าวเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 2.85% "การอัดฉีดเงินครั้งล่าสุดนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า PBOC ยังคงเต็มใจที่จะรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอและทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ เพื่อสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อ" นางเสี่ยวเจีย จื้อ นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเครดิต อะกริโคล ซีไอบี (Credit Agricole CIB) ในฮ่องกงกล่าว

ดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์, กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ และกลุ่มพลังงานใหม่ ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 3%

ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศพุ่งขึ้น 2.3% และดัชนีหุ้นกลุ่มเครื่องจักรดีดตัวขึ้น 3.1%

ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: หุ้นโซลปิดร่วง 27.94 จุด นลท.วิตกวิกฤตยูเครน
 
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลงเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐเตือนว่ารัสเซียพร้อมที่จะบุกโจมตียูเครน ขณะที่สกุลเงินวอนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,676.54 จุด ลดลง 27.94 จุด หรือ -1.03% มีปริมาณซื้อขายปานกลางที่ 575 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 9.2 ล้านล้านวอน (7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 698 ต่อ 174 ตัว
#11150
हवाई अड्डे के पास होटलห้องสุวรรณภูมิในกรุงเทพฯ ประเทศไทย
​สุวรรณภูมิสวีทตั้งอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิในกรุงเทพฯ
 เพียง 5 นาที เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่เพอร์เฟ็ค हवाई अड्डे के पास होटल
สำหรับนักเที่ยวที่รอต่อเครื่อง ที่นี่ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การเข้าพักที่สุดยอด
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบบริการเต็ม
แบบในทำเลที่ตั้งที่เป็นต่อและราคาที่มีเหตุผล 
รีสอร์ทของเรามีมากกว่าบ้านพักที่สงบเงียบ
หลังหรือก่อนเที่ยวบิน พวกเราภูมิใจที่เกินความคาดหมาย
ของแขกของเราด้วยการนำเสนอห้องพักและก็ हवाई अड्डे के पास होटल 
เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวก
ที่ดูแลอย่างพิถีพิถัน และบริการที่มีคุณภาพรวมทั้ง
ดีที่สุดจาก
บุคลากรที่สุภาพมีมารยาทของพวกเรา हवाई अड्डे के पास होटल
 พวกเราได้ดีไซน์ทุกแง่มุมโดยพิจารณาถึงความสะดวกสบายของคุณ
 เชิญชวนเข้ามาได้ทุกเวลา และรับการต้อนรับจากแผนกต้อนรับที่เปิดตลอด 
24 ชั่วโมงของเรา พวกเราได้ทำให้มั่นใจว่าห้องเช่าพร้อมเสมอที่สามารถช่วยให้คุณนอนหลับ
สบายเพื่อจัดแจงสำหรับวันหยุดที่น่าตื่นเต้นของคุณ  हवाई अड्डे के पास होटल
 
#11151
ขายส่งอุปกรณ์กีฬา แบรนด์ MIKAZAขายส่งอุปกรณ์กีฬาขอนำเสนออุปกรณ์กีฬามาตรฐานโลก แบรนด์ Mikaza
www.ขายส่งอุปกรณ์กีฬา.com
https://bit.ly/3L8fGwO
#11152
DIPEPTIDE NANO ENCAPSULATION

ใน Mana collagen มานาคอลลาเจน

นวัตกรรมใหม่ ลิขสิทธิ์หนึ่งเดียวจาก Asahi  คอลลาลาเจนไดเปปไทด์ ซึ่งผ่านนวัตกรรม Nano ให้มีอนุภาคเล็กและดูดซึมได้ดีที่สุดในโลก สามารถดูดซึมตั้งแต่ชั้นผิวหนังและดูดซึมสู่เส้นเลือดได้ทันที และนวัตกรรม Encapsulation ช่วยให้คอลลาเจนอยู่ในร่างกายได้นานขึ้นและสามารถดูดซึมได้ทั้งหมด ทำให้เห็นผลไว ผิวใส เนียน กระชับ
เป็นนวัตกรรมใหม่ Encapsulation ที่ทำให้โมเลกุลเล็กลงจากตัวเก่า มานาคอลลาเจนสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้นถึงชั้นผิวหนัง (ดีที่สุดในโลก) เห็นผลไวกว่า ใสกว่า ละลายน้ำง่าย ไม่มีกลิ่นคาว
และยังเพิ่มสาร Premium Q10 เป็นสารต้านอนูมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกันโรคภัยต่างๆอีกด้วย
มานาคอลลาเจน พรีเมี่ยมคอลลาเจน 1 กระป๋อง ปริมาณบรรจุ 110,000 มก.
มานาคอลลาเจน ปริมาณ 5,000 มก. ต่อ 1 ช้อนตวง (มีแถมให้ในกระป๋อง)

ทาน มานาคอลลาเจน วันละ 1 ช้อน สามารถทาน มานาคอลลาเจน ได้ถึง 22 วัน

สนใจ mana collagen ทัก
สมัครตัวแทนจำหน่าย ท้ก
---------------------------------------------------------
Line:@collagen
http://line.me/ti/p/@collagen
FB. https://www.facebook.com/manacollagedipeptide
www.manaok.com
www.manaextra.com
www.manathailand.page
#11153
บริษัท สบายใจการบัญชี  จำกัด
9/54  หมู่ที่ 8  ตำบลบางเลน  อำเภอบางใหญ่  จังหวัดนนทบุรี   11140
โทร & Line ID.087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

รับทำบัญชีนนทบุรี  รับทำบัญชีบางกรวย  รับทำบัญชีบางใหญ่  รับทำบัญชีบางบัวทอง  รับทำบัญชีไทรน้อย  รับทำบัญชีปากเกร็ด  รับทำบัญชีบางศรีเมือง  รับทำบัญชีพิมลราช  รับทำบัญชีบางคูรัด  รับทำบัญชีบางรักพัฒนา  รับทำบัญชีบางแม่นาง  รับทำบัญชีบางกร่าง  รับทำบัญชีไทรม้า  รับทำบัญชีตลาดขวัญ  รับทำบัญชีบางตะไนย์  รับทำบัญชีบางพลับ  รับทำบัญชีบางรักน้อย  รับทำบัญชีมหาสวัสดิ์  รับทำบัญชีศาลากลางนนทบุรี  รับทำบัญชีอ้อมเกร็ด  รับทำบัญชีแจ้งวัฒนะ  รับทำบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  รับทำบัญชีถนนชัยพฤกษ์  รับทำบัญชีถนนติวานนท์  รับทำบัญชีถนนทวีวัฒนา  รับทำบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  รับทำบัญชีท่าอิฐ  รับทำบัญชีถนนนครอินทร์  รับทำบัญชีบางม่วง  รับทำบัญชีบางกรวย-จงถนอม  รับทำบัญชีถนนบางไกรใน  รับทำบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  รับทำบัญชีบางคูเวียง  รับทำบัญชีบางศรีเมือง  รับทำบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  รับทำบัญชีไทรม้า  รับทำบัญชีถนนพิบูลสงคราม  รับทำบัญชีถนนราชพฤกษ์  รับทำบัญชีตลิ่งชัน  รับทำบัญชีถนนเรวดี  รับทำบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี  รับทำบัญชีธุรกิจนำเข้าส่งออก  รับทำบัญชีธุรกิจซื้อมาขายไป  รับทำบัญชีธุรกิจผลิต  รับทำบัญชีธุรกิจขายสินค้าออนไลน์  รับทำบัญชีขายผ่านShoppee  รับทำบัญชีขายLazada  รับทำบัญชีบริษัทจำกัด  รับทำบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด  รับทำบัญชีและยื่นภาษี  สำนักงานบัญชี  รับงานบัญชี
#11154
ญี่ปุ่น-IAEA หารือแผนปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะลงสู่ทะเล

รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าหารือกับสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เกี่ยวกับแผนการปล่อยน้ำกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ลงสู่ท้องทะเล

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะทำงาน IAEA ซึ่งมีกำหนดการเดินทางเยือนญี่ปุ่นจนถึงวันศุกร์นี้ (18 ก.พ.) จะประเมินความปลอดภัยของการปล่อยน้ำที่โรงงานไฟฟ้าฟูกุชิมะวันอังคารนี้ (15 ก.พ.) โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มเมื่อปี 2554

IAEA ระบุว่า การประเมินครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรับรองว่าแผนการปล่อยน้ำเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนหรือสิ่งแวดล้อม

รายงานระบุว่า การประชุมประกอบด้วยคณะทำงาน IAEA, เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม, กระทรวงการต่างประเทศ และบริษัทโตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ (TEPCO) ผู้ดูแลโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ขณะเดียวกัน นายกุสตาโว คารูโซ ผู้อำนวยการและผู้ประสานงานฝ่ายความมั่นคงและความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ของ IAEA กล่าวว่า คณะทำงานจะทำการประเมินอย่างเป็นกลาง เชื่อถือได้ และอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ ทั้งช่วยส่งมอบความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้แก่คนในประเทศและอื่น ๆ

ทั้งนี้ ผลการวิจัยจากคณะทำงานจะถูกรวบรวมเป็นรายงานภายในสิ้นปีนี้
#11155
https://www.katobonsai.com/
บอนไซ บอนไซประดิษฐ์ ตกแต่งบ้าน
#11156
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  รับตรวจสอบบัญชี สำนักงานสอบบัญชี
#11158
ติดต่อ :
Email : info@cctgroup.co.th
เบอร์โทรศัพท์ : 0816428557, 0812079977 (คุณสมนึก)
Website : https://www.cctgroup.co.th
#11159
PwC รุกงานธุรกิจที่ปรึกษาในตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชี้ตลาดไทยมีศักยภาพในการเติบโตสูง

สายงานธุรกิจที่ปรึกษาของ PwC ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมรุกบริการธุรกิจที่ปรึกษาแบบครบวงจรแก่ลูกค้าในภูมิภาค หลังมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของตลาดไทยที่อยู่ในระดับสูง

นาย ไซมอน เกลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PwC South East Asia Consulting เปิดเผยว่า การส่งมอบบริการที่ปรึกษาแบบครบวงจร ถือเป็นกลยุทธ์หลักที่สำคัญสำหรับงานที่ปรึกษาของ PwC ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  โดยจะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือลูกค้าให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในปีนี้

"สิ่งที่เราต้องการส่งมอบออกสู่ตลาดคือ การให้บริการธุรกิจที่ปรึกษาแบบครบวงจร ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ไปจนถึงการปฏิบัติ" นาย เกลี กล่าว

"ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานในสายงานอื่น ๆ ทั้งสายงานตรวจสอบบัญชี ภาษี และดีลส์ จะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่ธุรกิจและลูกค้าของพวกเขาต้องการได้" เขา กล่าว

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นาย เกลี ได้ย้ายจากประเทศสิงคโปร์มาประจำการ ณ ประเทศไทย เป็นระยะเวลาสามปี เพื่อขยายสายงานที่ปรึกษาของ PwC ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้เติบโต โดยนาย เกลี จะทำงานกับหัวหน้าสายงานอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อส่งมอบผลลัพธ์แบบครบวงจรให้แก่ลูกค้าที่ดำเนินกิจการในตลาดไทย

"ประเทศไทยมีศักยภาพเติบโตที่โดดเด่น" นาย เกลี กล่าว "การที่ผมตัดสินใจย้ายสำนักงานใหญ่ของเรามาที่กรุงเทพฯ เพราะเห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นและสายงานธุรกิจที่ปรึกษาในประเทศไทยเองก็เป็นที่ยอมรับใน PwC"

สำหรับการขยายธุรกิจ นาย เกลี กล่าวว่า ตนมีแผนที่จะนำนวัตกรรมและแพลตฟอร์มที่ตรงกลุ่มเป้าหมายออกสู่ตลาดมากขึ้น เพื่อช่วยเสริมงานที่ปรึกษาทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

"เราให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนสู่ดิจิทัลขององค์กรและความยั่งยืน ซึ่งปัจจัยทั้งคู่ถือเป็นส่วนหนึ่งของสมการที่ไม่แยกจากกัน นั่นหมายความว่า ที่ปรึกษาของเราทุกคนจะต้องคำนึงถึงเรื่องดังกล่าวทุกครั้งที่ทำการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า" นาย เกลี กล่าว

"เราจะต้องยกระดับทักษะทางด้านดิจิทัลให้แก่บุคลากรในสายงานที่ปรึกษาของเราทั้งหมด เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าสู่ตลาดบริการด้านเทคโนโลยีและทำงานร่วมกับพันธมิตรของเรา เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุผลลัพธ์แบบครบวงจร นี่คือความปรารถนาของผมที่จะขยายสายงานที่ปรึกษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เขา กล่าว

ทั้งนี้ สายงานธุรกิจที่ปรึกษาของ PwC มุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการของลูกค้า การสร้างความไว้วางใจ และการแก้ไขปัญหา ซึ่งโฟกัสทั้งหมดที่กล่าวมา จะถูกเสริมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลังจากการย้ายมาประจำการ ณ ประเทศไทยของนาย เกลี

ทั้งนี้ นาย เกลี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหุ้นส่วนของ PwC ในปี 2542 และดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กรที่สำคัญอื่น ๆ หลายตำแหน่งทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา และเอเชีย ซึ่งรวมถึงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มธุรกิจบริการทางการเงิน ณ PwC ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงระหว่างปี 2557 ถึง 2562 ด้วย ในปัจจุบัน นาย เกลี เป็นผู้บริหารนำทีมงานธุรกิจที่ปรึกษามากกว่า 1,000 คนใน 6 ประเทศ ประกอบด้วย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย

"ผมคิดว่า ความพิเศษขององค์กรอย่าง PwC คือการผสมผสานบุคลากรท้องถิ่นที่ดีที่สุดและเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเข้าด้วยกัน" นาย เกลี กล่าว   

"ผมรู้สึกตื่นเต้นที่เรามีการผสมผสานที่ว่านี้ในไทยด้วย โดยคุณวิไลพร ทวีลาภพันทอง หัวหน้าสายงานที่ปรึกษา ประจำประเทศไทย และผมจะทำงานร่วมกันในการขยายสายงานธุรกิจที่ปรึกษาให้เติบโต" เขา กล่าว

ช่วงเวลาของความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า

นาย เกลี กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทย และยังบังคับให้ภาคธุรกิจต้องต่อสู้กับความท้าทายของการดำเนินธุรกิจในช่วงวิกฤต ตั้งแต่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงการเปลี่ยนสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความท้าทายที่ธุรกิจต้องเร่งจัดการทันที

"เรากำลังเผชิญกับปัจจัยหลายอย่างที่กลายเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เช่น การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน เราทราบว่า ปัญหาการขาดแคลนซิลิคอน ส่งผลให้การผลิตรถยนต์ในปี 2564 น้อยกว่าที่คาดที่ราวกว่า 11 ล้านคัน" นาย เกลี กล่าว

อีกหนึ่งผลกระทบจากการหยุดชะงัก คือปรากฏการณ์การลาออกจากงานอย่างยิ่งใหญ่ (The Great Resignation) หรือการที่พนักงานจำนวนมากออกจากงานด้วยความสมัครใจ ซึ่งปัญหานี้ส่งผลให้ธุรกิจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการต้องรักษาบุคลากรที่มีความสามารถสูงให้อยู่กับองค์กร นอกจากนี้ ภาวะเงินเฟ้อ ยังเป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับธุรกิจด้วย

"เราไม่ได้เห็นการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาหลายปีแล้ว ในขณะที่ก็ไม่เคยเห็นอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เป็นอยู่ตอนนี้ ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจและกระแสการค้า" นาย เกลี กล่าว

ปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

ทั้งนี้ องค์กรธุรกิจมีความจำเป็นที่จะต้องปรับตัวและนำโซลูชันแบบครบวงจรมาแก้ปัญหาความท้าทายที่กล่าวมากรณีการเปลี่ยนสู่ดิจิทัลขององค์กร นาย เกลี ยกตัวอย่างว่า ลูกค้าจำเป็นที่จะต้องมีกลยุทธ์ที่ผสมผสานทั้งวัฒนธรรมขององค์กร กำลังแรงงาน และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ซึ่งยังรวมถึงการปรับกระบวนการทำงานที่จำเป็น เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับการเปลี่ยนสู่ดิจิทัลด้วย

"มันไม่มีประโยชน์ที่จะเปลี่ยนกระบวนการสู่ดิจิทัล หากธุรกิจจะต้องออกแบบทุกอย่างใหม่หมด ดังนั้นคุณควรที่จะต้องทำสิ่งนั้นก่อนที่จะฝังกระบวนการดิจิทัลใหม่เข้าไป ซึ่งเราต้องการช่วยให้ลูกค้าได้รับผลลัพธ์ที่ใช่ และนั่นต้องอาศัยความแข็งแกร่งของเครือข่าย PwC"

"เราอยู่ที่นี่เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ โดยเราเข้าใจดีถึงความท้าทายและแรงกดดันที่ลูกค้าต้องเผชิญ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ถือเป็นสิ่งที่ธุรกิจของพวกเขาต้องการ เรามีความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาสำคัญ เพราะนั่นคือหัวใจของธุรกิจของเรา - การแก้ปัญหาสำคัญ ๆ ให้กับลูกค้าของเรา" นาย เกลี กล่าว
#11160
'IMH' ไม่หวั่น หากยกเลิก UCEP COVID ชี้รพ.เป็นสมาชิก'สปสช. - ประกันสังคม' ส่งซิกจ่อลุย M&A ตั้ง Holding ขยายธุรกิจ Digital Health Platform

บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ ('IMH') ไม่กระทบ หากยกเลิก UCEP COVID เหตุรพ. สมาชิกในระบบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ประกันสังคม อยู่แล้ว พร้อมระบุจ่อเปิดแผนหลังโควิด ลุย M&A และตั้ง Holding ขยายธุรกิจ Digital Health Platform ด้านโบรกฯมอง หุ้น Laggard - PE ต่ำกว่ากลุ่มเกิน ให้เป้าเบื้องต้น 28 บาท

ดร. สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH เปิดเผยว่า ปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อโควิด พุ่งเกือบ 2 หมื่นคน และมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มอย่างรวดเร็ว ส่วนจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลนั้น ยังคงมีมากต่อเนื่อง ตามปริมาณผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น และยังคงมีผู้ป่วยสะสมคงค้างอีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ปัจจุบัน โรงพยาบาล ประชาพัฒน์ ภายใต้บริษัทลูกของIMH ซึ่งให้บริการ ตรวจรักษาดูแลและเบิกจ่ายระบบ UCEP COVID ได้ตามปกติ เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิดแบบฉุกเฉิน ทั้งนี้มองว่าหากกรณี ปลดโรคโควิด-19 ออกจากการรักษาสิทธิฉุกเฉินวิกฤตรักษาทุกที่ (UCEP COVID) มาเป็นการรักษาและเบิกจ่ายตามสิทธิสุขภาพปกติ ทาง รพ. ประชาพัฒน์ ก็ยังคงสามารถเบิกค่ารักษาผู้ป่วยโควิด เหมือนกับค่ารักษาโรคอื่นๆ ตามสิทธิ์รัฐที่ผู้ป่วยมี เช่น สิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม ได้ เนื่องจาก รพ. ประชาพัฒน์ เป็นโรงพยาบาลในระบบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ประกันสังคม อยู่แล้ว จึงสามารถให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ค้างสะสม ได้อย่างต่อเนื่อง และยังให้การดูแลผู้ป่วยแบบ HI และ CI ได้ตามนโยบาย HI-CI-ATK first เมื่ออาการเปลี่ยนแปลง สามารถส่งต่อดูแลภายใน รพ. ได้ทันที

นอกจากนี้ แนวทางในปี2565 รพ. ประชาพัฒน์ กำลังเตรียมขอเพิ่มโควต้ารับรักษาผู้ป่วยตามสิทธิ์รัฐ ให้ได้มากขึ้นกว่าเท่าตัว เนื่องจากปีที่ผ่านมาทาง รพ. สามารถบริหารจัดการการให้บริการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนแผนธุรกิจหลังโควิด-19 ทางกลุ่ม IMH จะเร่งขยายธุรกิจโรงพยาบาล เพื่อรองรับการเติบโต ซึ่งคาดว่ารายละเอียดจะประกาศได้ใน Q1/2565 รวมทั้งการปรับโครงสร้าง IMH ให้เป็น Holding เต็มตัวในอนาคตพร้อมเตรียมจับมือ partner ทางธุรกิจเพื่อขยายฐานการแพทย์ผ่าน Digital Health Platform ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มฐานลูกค้าให้แตะระดับ 3 ล้านคนได้ ในเร็วๆนี้

ทางด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ที่ผ่านมา IMH ได้รับอานิสงส์ จากการตรวจและรักษาโควิด-19 รวมถึงผลจากการควบรวมกิจการ (M&A) แต่ปัจจุบัน หุ้น IMH เทรด PE ต่ำกว่ากลุ่มมาก จึงมองเป็น หุ้น Laggard ทั้งนี้ยังไม่รวม upside จากการขยายกิจการโรงพยาบาล และ การนำ รพ. ประชาพัฒน์ เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ส่งผลให้กำไรสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จึงแนะนำซื้อ โดยให้ราคาเหมาะสม 28 บาท