• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - fairya

#11147
ถาม  UCore (BLU) ช่วยเรื่องหอบหืดหายใจลำบากได้ไหม?
ตอบ หอบหืดเป็นโรคที่เกิดจาการหดตัว หรือ การตีบตันของระบบทางเดินหายใจ เยื่อบุหลอดลมอักเสบ
ทำให้ไวต่อสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายมากว่าคนปกติทั่วไป 
ดังนั้นจะเป็นกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนทั่วไป การทาน UCore (BLU) จะสามารถช่วยในเรื่องกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี

ถาม UCore (BLU) สามารถรักษาอาการภูมิแพ้ที่ตาหรือเปล่า?
ตอบ เป็นอาการหนึ่งของภูมิแพ้ ภูมิแพ้ที่ตา ถ้าทาน  UCore (BLU) จะสามารถช่วยในเรื่องกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เป็นอย่างดี

ถาม ช่วยในเรื่องลดความดัน อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนได้หรือเปล่า?
ตอบ อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน เป็นอาการที่มี สาเหตุมาจาก ความผิดปกติของอวัยวะการทรงตัวในหูชั้นใน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่
คอยรับการทรงตัวสมดุลของร่างกายใน ท่าทางต่างๆ เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้น
จึงทำให้มีอาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุน ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมหมุน
รอบตัวเองหรือตัวเองหมุน การทาน UCore (BLU) อาจจะไม่ได้ช่วยโดยตรง แต่โดยอ้อม สามารถช่วยเรื่องสมองได้

ถาม  เป็นโรค HIV ทาน UCore (BLU) ได้ไหม?
ตอบ สามารถทานได้ตามปกติ และจะยิ่งเป็นผลดีกับผู้ป่วยกลุ่ม HIV ที่มีภาวภูมิคุ้มกันบกพร่อง
เนื่องจาก UCore (BLU) จะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

รายละเอียดเพิ่มเติม Balance Ucore
 
#11152



การทำศัลยกรรมจมูกนั้น ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ในขณะนี้การทำศัลยกรรมจมูกกลายเป็นเรื่องธรรมดา ที่สตรีหลายๆคนสนใจ ด้วยเหตุว่าการมีรูปร่างของจมูกที่ได้สัดส่วนกับใบหน้า จะช่วยสนับสนุนทำให้บริเวณใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น การเสริมจมูกนอกเหนือจากการที่จะช่วยปรับให้จมูกโด่งเป็นสันได้แล้ว ยังส่งผลให้รูปร่างจมูกใหม่สวย แลดูอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย วันนี้เรามีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมจมูกแบบโอเพ่นมาฝากกัน

รูปร่างจมูก
จมูกเป็นอวัยวะส่วนสำคัญที่มีผลต่อความสวยสดงดงามของบริเวณใบหน้า จมูกที่งดงามนั้น จะต้องมีรูปทรงที่กลมกลืนกันตั้งแต่สันจมูกไปจนกระทั่งปลายจมูก การทำศัลยกรรมจมูกมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของรูปร่างจมูก ให้เกิดความสวยสดงดงามมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้จมูกได้รูปสวย ช่วยส่งเสริมทำให้ใบหน้าดูดีมากยิ่งขึ้น

คนที่เหมาะกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่น

  • ผู้ที่มีจมูกแบน จมูกไม่มีดั้ง ทำให้ใบหน้าขาดมิติ ไม่สวยงาม
  • คนที่มีปีกจมูกกว้าง มีเนื้อจมูกเยอะ ทำให้จมูกดูเด่นกว่าใบหน้า
  • ผู้ที่มีรูปร่างจมูกแตกต่างจากปกติ ตัวอย่างเช่น ปลายจมูกคด ฐานเอียง ทำให้จมูกไม่สัดส่วน
  • ผู้ที่มีปลายจมูกเชิด ทำให้จมูกดูไม่ได้สัดส่วน
  • ผู้ที่เคยผ่านการทำศัลยกรรมจมูกมาแล้ว แต่เกิดความผิดปกติกับรูปร่างของจมูก แล้วจำต้องกระทำการปรับแต่ง




วิธีทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่น โรงพยายาลเอเซีย
1. วิธีการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน วิธีการเสริมจมูกโดยซิลิโคน เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการยืนยันจากทางการแพทย์ โดยการใช้ซิลิโคนที่มีมาตรฐานสูง เป็นชิลิโคนประเภทนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง การเสริมจมูก แพทย์จำเป็นที่จะต้องกระทำการเหลาแท่งซิลิโคนสำเร็จรูป ให้มีรูปร่างเหมาะกับจมูกของคนไข้แต่ละคนได้ จะทำให้จมูกโด่งสวยได้รูปกับบริเวณใบหน้า

2. วิธีการเสริมจมูกด้วยการตกแต่งปลายเนื้อเยื้อสังเคราะห์ คือการใช้เทคนิคพิเศษ โดยการนำเนื้อเยื้อสังเคราะห์มาตกแต่งรอบๆปลายจมูก เพื่อทำให้ปลายจมูกมีรูปร่างเป็นทรงหยดน้ำสวยงาม

3. การเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อน เป็นการเสริมจมูกโดยการใช้กระดูกอ่อนบริเวณหลังใบหูของตัวคนไข้เอง เพื่อนำมาตกแต่งบริเวณปลายจมูก เพื่อทำให้จมูกเปลี่ยนเป็นทรงหยดน้ำ ทำให้ปลายจมูกดูสวยเป็นธรรมชาติ ช่วยปกป้องไม่ให้ซิลิโคนทะลุปลายจมูก อีกทั้งยังให้สัมผัสราวกับจมูกจริง

4. วิธีการเสริมจมูกด้วยการใช้การตัดต่อกระดูกอ่อน เป็นการผ่าตัดตกแต่งกระดูกด้านในจมูกของตัวคนไข้ เพื่อทำให้ปลายจมูกดูยาวมากเพิ่มขึ้น ร่วมกับการผ่าตัดตกแต่งปลายจมูกให้เรียวเล็กลง ต้องอาศัยความชำนาญของหมออย่างยิ่ง ทำให้จมูกแปลงเป็นทรงหยดน้ำตามที่ต้องการได้

การเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับแก้รูปร่างของจมูกให้มีสัดส่วนที่สวยงาม โดยการเน้นความสมดุลของจมูก ตั้งแต่บริเวณโคนจมูกไปจนกระทั่งปลายจมูก หลังการผ่าตัดจะทำให้จมูกมีความงดงาม ได้สัดส่วนกับบริเวณใบหน้า ทำให้บริเวณใบหน้าดูมีมิติมากเพิ่มขึ้น





เสริมจมูก open ให้โด่งสวย ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วน
การทำศัลยกรรมจมูก Open ถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมลำดับแรกๆที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะทุกคนก็อยากมีจมูกสวยได้สัดส่วนเหมาะสมกับบริเวณใบหน้า คนไทยโดยส่วนใหญ่มักจะมีจมูกแบน จมูกไม่มีดั้ง การเสริมจมูกจึงเป็นกรรมวิธีการผ่าตัด ที่ช่วยปรับปรุงรูปร่างจมูก ให้มีสัดส่วนที่ดีเลิศขึ้น วันนี้พวกเราลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมเสริมจมูกโอเพ่นกันดีกว่า

การวางแผนผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่น
การผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นโดยส่วนมากจะเป็นการเสริมด้วยแท่งซิลิโคน โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดขนาดเล็กข้างในของจมูกให้เกิดช่องว่าง แผลผ่าตัดจะถูกซ่อนเอาไว้ด้านในจมูก ก่อนการผ่าตัดแพทย์ต้องออกแบบแท่งซิลิโคนให้มีทรงที่เหมาะกับรูปหน้าและโครงจมูกคนไข้แต่ละคน แล้วต่อจากนั้นจึงฉีดยาชาบริเวณรอบๆจมูก ในบางคราวอาจมีการใช้ยานอนหลับร่วมด้วย เพื่อลดความรู้สึกวิตกกังวลให้กับคนไข้ แต่โดยปกติจะฉีดแค่เพียงยาชาเพียงแค่นั้น หลังการผ่าตัดสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ แล้วแพทย์จะนัดเพื่อติดตามอาการภายใน 7 วัน

หลังการผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่น
การผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่นเป็นการผ่าตัดภายในจมูก ทำให้ไม่เห็นรอยแผลผ่าตัด คนทั่วไปจึงไม่สามารถสังเกตเห็นความแตกต่างจากปกติ แต่ว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการบวมเล็กน้อย แต่ส่วนมากแล้วแพทย์จะใช้การปิดพลาสเตอร์บริเวณสันจมูกหรือใช้เฝือกดามสันจมูกด้วย ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของหมอแต่ละคน

ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดเกิดได้น้อยมาก ถ้ามีการดูแลความสะอาดแผลผ่าตัดอย่างถูกวิธี แต่อาการแทรกซ้อนบางสิ่งก็อาจเกิดขึ้นได้

  • จมูกเอียง หลังการเสริมจมูกอาจจะเป็นผลให้จมูกเอียง ถ้าตรวจพบในระยะต้นราวๆ 1 – 2 อาทิตย์ แพทย์สามารถปรับปรุงแก้ไขจัดทรงจมูกให้เข้าที่ได้ ด้วยเหตุนี้ควรต้องระวังไม่ให้จมูกถูกกระแทก เพราะไม่สามารถจัดให้เข้าที่ได้ง่าย จะต้องปรับแต่งด้วยการผ่าตัดใหม่เท่านั้น
  • จมูกอักเสบ เป็นภาวะแทรกซ้อนอีกอาการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ มีต้นเหตุมาจากการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดและผิวหนังบริเวณรอบๆอาทิเช่น การเกิดสิวบริเวณจมูก ในบางครั้งบางคราวเกิดจากการเสริมจมูกโด่งมากเกินไป ทำให้ปลายจมูกเกิดอาการอักเสบได้ง่าย
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่น

  • ให้ประคบเย็นบริเวณรอบๆจมูก เพื่อบรรเทาอาการปวดบวม
  • นอนยกศีรษะสูงกว่าลำตัว โดยประมาณ 7 วันหลังการผ่าตัด
  • ทานยาตามที่แพทย์สั่ง พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่นำไปสู่การกระทบกระเทือนต่อจมูก อาทิเช่น การบริหารร่างกาย เป็นระยะเวลา 1 เดือน
  • งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลา 1 เดือน
การปรับแก้รูปร่างจมูกให้โด่งงามได้รูปกับบริเวณใบหน้า ด้วยกระบวนการทำศัลยกรรมเสริมจมูกแบบโอเพ่นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาจมูกแบน จมูกไม่มีดั้ง รวมถึงคนที่มีจมูกไม่ได้สัดส่วนกับใบหน้า หลังการผ่าตัดจะทำโด่งขึ้นรูปร่างจมูกโดยรวมดียิ่งขึ้น ช่วยทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น
 
#11158
'ธนพิริยะ' ค้าปลีกไทยแนวหน้า เปิดกลยุทธ์ปี 65 พร้อมลุยเปิด 6 สาขาใหม่ หนุนสิ้นปีมี 44 สาขา

บมจ. ธนพิริยะ หรือ TNP ต้นแบบค้าปลีกท้องถิ่นของคนไทยที่ประสบความสำเร็จเติบโตกว่าเป้ามาอย่างต่อเนื่อง เปิดประตูร้านค้าปลีกเผยแผนกลยุทธ์ ปี 65 ที่เตรียมเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 6 สาขา จากปัจจุบัน 38 สาขา รองรับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวกว่าปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน คาดแนวโน้มไตรมาส 1 ทิศทางบวกตามแผน

ภญ.อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงการดำเนินงานในปี 2565 ที่ เดินหน้าปักหมุดขยายสาขาเพิ่มเติมภายในปีนี้อีก 6 สาขา ซึ่งจะได้เห็นในไตรมาส 2 จำนวน 2 สาขา และจะทยอยเปิดสาขาอื่นๆ ในไตรมาสละ 2 สาขา จากปัจจุบันสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 38 สาขา ครอบคลุม 3 จังหวัดโซนภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย จ.เชียงราย 30 สาขา จ.เชียงใหม่ 3 สาขา และ จ.พะเยา 5 สาขา เพื่อขยายร้านค้าไปในแหล่งชุมชนให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าได้อย่างใกล้บ้านมากขึ้น อีกทั้งยังอยู่ในช่วงของการศึกษามองหาพื้นที่จ.อื่นเพิ่มเติม เพื่อขยายอาณาจักรค้าปลีกของธนพิริยะให้ครอบคลุมพื้นที่และการบริการให้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังเตรียมเดินหน้าขยายช่องทางใหม่ๆ ทั้งการขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ รุกตลาดอีคอมเมิร์ช ที่คาดว่าจะเปิดใช้ในช่วงปลายไตรมาส 2 รวมถึงการเดลิเวอรี่ ที่จะสร้างความเข้าถึงและตอบโจทย์ลูกค้าที่มากขึ้น และมองหาโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ที่ล่าสุดได้จับมือกับ แฟลช เอ็กซ์เพรส เปิดจุด Drop Off รองรับความต้องการ และพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้ามีเซอร์วิสที่เยอะขึ้น รวมถึงเป็นการเพิ่มกลุ่มลูกค้ารายใหม่อีกด้วย

ด้านแนวโน้มไตรมาส 1 ยังอยู่ในทิศทางบวกตามที่ตั้งไว้ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผู้คนกลับมาท่องเที่ยวกันอย่างคึกคักมากขึ้น แม้จะยังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่บ้าง แต่ก็มีมาตรการต่างๆมารองรับ ทั้งการฉีดวัคซีน และการตรวจ ATK ในการเข้าแหล่งพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆก็ทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจ เศรษฐกิจเดินหน้าได้อย่างชัดเจนกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนจากมาตรการภาครัฐที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามาซื้อสินค้าในราคาต่อบิลที่สูงขึ้นอีกด้วย โดยน่าจะดีขึ้นแบบเท่าตัวในช่วงครึ่งปีหลัง

'ปีนี้เรามองกลยุทธ์ในหลายส่วนที่เราจะนำพา 'ธนพิริยะ' เดินหน้าไปในสเต็ปที่เติบโตขึ้น เล็งเปิดสาขาเพิ่มเติม 6 สาขา ให้รวมเป็น 44 สาขา ภายในปี 65 นี้ พร้อมลุยแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า และการเดลิเวอรี่ ที่น่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆนี้ พร้อมศึกษาและมองหาโอกาสใหม่ๆในการพัฒนาค้าปลีกไทยด้วยระดับมาตรฐานสากลอยู่เสมอ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างที่สุด และแม้ในปีที่ผ่านมาจะอยู่ในช่วงวิกฤติของไวรัส แต่เราก็ยังสามารถทำผลงานได้ดีเกินเป้า และคาดว่าปีนี้ ที่ทุกอย่างเริ่มกลับมาเดินหน้าเกือบ 100% อีกครั้ง เราก็หวังว่าน่าจะสร้างผลงานดีๆให้ได้เห็นอีกปีนึงเช่นกัน' ภญ. อมร กล่าว

โดยผลประกอบการปี 2564 มีรายได้จากการขายจำนวน 2,622.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 426.41 ล้านบาท คิดเป็น 19.42% จากเดิมที่ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 15% และมีกำไรสุทธิจำนวน 192.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 58.23 ล้านบาท คิดเป็น 43.50% โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 7.28 อีกทั้งมีมติอนุมัติการจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 0.05 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น 11 มีนาคม 2565 นี้ และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 โดยบริษัทฯ จะจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันอังคารที่ 22 เมษายน 2565 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ณ ห้องเฮอริเทจ .รูม 1 โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย จ.เชียงราย
#11159
ศบค.ปรับโซนพื้นที่-ผ่อนคลายเข้าไทย/คปภ.แถลงคุ้มครองสิทธิลูกค้าอาคเนย์ฯ-ไทยประกันภัย

จากมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ได้มีมติปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ โดยพื้นที่ควบคุมจาก 44 จังหวัด เป็น 20 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง จาก 25 จังหวัด เป็น 47 จังหวัด พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว จาก 8 จังหวัด เป็น 10 จังหวัด ซึ่งทุกพื้นที่ยังคงปิดสถานบริการและสถานบันเทิง แต่หากปรับเป็นร้านอาหารก็สามารถดำเนินการได้ รวมถึงแนวปฏิบัติมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยโดยยกเลิกตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าไทย พร้อมทั้งมีมติขยายเวลาระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นคราว ครั้งที่ 17 เพื่อใช้ประโยชน์ในการควบคุมโรคอย่างเต็มที่ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกลางสงกรานต์ โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28,379 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 22,331 ราย และมีผู้เสียชีวิต 92 ราย ซึ่งต้องรอฟังการแถลงข่าวจากผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขถึงมาตรการเฝ้าระวังต่อสถานการณ์ที่มีความน่าเป็นห่วง

ติดตามความคืบหน้าการสมัครรับเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยาวันที่สอง ซึ่งมีบรรยากาศที่คึกคักหลังห่างหายจากการเลือกตั้งมาเกือบ 10 ปี โดยเมื่อวานนี้มีผู้มายื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ทั้งในนามพรรคการเมืองและผู้สมัครอิสระแล้ว 20 ราย ส่วนนายกเมืองพัทยามีผู้มายื่นใบสมัครแล้ว 4 ราย โดยผู้ที่ยื่นใบสมัครและได้รับหมายเลขเลือกตั้งแล้วได้เริ่มลงพื้นที่หาเสียงจากประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทันที ก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค.65
ภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวปราศรัยแสดงความยินดีกับข้าราชการพลเรือนดีเด่น พร้อมทั้งให้โอวาทผ่านบันทึกวีดิทัศน์ เนื่องในวันข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2565
ส่วนช่วงบ่ายเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบประชุมทางไกลจากตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

นอกจากนี้ยังต้องจับตาดูว่านายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่พบปะกับประชาชนโดยไม่มีการแจ้งวาระงานล่วงหน้าอีกหรือไม่ หลังจากเร็วๆ นี้ได้ลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนมาแล้ว 2 ครั้ง

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน อยู่ระหว่างร่วมการประชุม World Government Summit ครั้งที่ 8 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานงานทำบุญวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์เนื่องในโอกาสครบรอบ 130 ปี
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แถลงรายละเอียดการดำเนินการด้านการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัย กรณีบมจ.อาคเนย์ประกันภัย และ บมจ.ไทยประกันภัย (MTI)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จัดงาน ก.ล.ต.ชวนคุย "มาตรการป้องปรามและการบังคับใช้กฎหมายในตลาดทุน" โดยนายเอนก อยู่ยืน ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม Opportunity Day ผลการดำเนินงานงบปี 2564 ได้แก่ บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) (SIS) , บมจ.เน็คซ์ แคปปิตอล (NCAP) , บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) , บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) , บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) , บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) และ บมจ.ทีเอ็มที สตีล (TMT)
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดตัวกิจกรรมการประกวดธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ครั้งที่ 3 (Thailand Franchise Award 2022 : TFA 2022)
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สสปน.หรือ ทีเส็บ จัดงาน MICE Techno Mart 2022
#11160
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 1.5 พันล้านบาท "บล. เคจีไอ (ประเทศไทย)" ที่ "A" แนวโน้ม "Stable"

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1.5 พันล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 1 ปี 6 เดือนของบริษัทที่ระดับ ?A? ด้วยเช่นกัน

อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจหลักทรัพย์และผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์ การกระจายของแหล่งรายได้และผลกำไรที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้น 1 ขั้นจากอันดับเครดิตเฉพาะ (Stand-alone Credit Profile -- SACP) ของบริษัทที่ระดับ ?a-? ซึ่งสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทในเครือเชิงกลยุทธ์ (Strategic Affiliate) ของ KGI Securities Co., Ltd. ในไต้หวัน (หรือ KGI Taiwan รวมทั้งบริษัทในเครือรายอื่น ๆ ในกลุ่มเคจีไออีกด้วยโดย KGI Taiwan ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ ?BBB+/Stable? จาก S&P Global Ratings)

การยกระดับเพิ่มขึ้นจากสถานะทางกลุ่มได้รับการสนับสนุนจากการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานและการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอให้แก่กลุ่มของบริษัท ซึ่งเป็นเหตุจูงใจที่จะทำให้กลุ่มเคจีไอจะยังคงสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทพร้อมทั้งให้การสนับสนุนแก่บริษัทต่อไปในอนาคตอันใกล้

KGI Asia (Holdings) Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทลูก 100% ของ KGI Taiwan เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บล. เคจีไอ ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 34.975% บริษัทยังได้รับการสนับสนุนทางธุรกิจและความรู้ความเชี่ยวชาญของ KGI Taiwan ซึ่งทำให้บริษัทกลายมาเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดตราสารอนุพันธ์ในประเทศไทย อย่างไรก็ดี แม้ว่าทริสเรทติ้งจะมองเห็นความสัมพันธ์ในระดับหนึ่งในด้านกลยุทธ์และความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างบริษัท กับ KGI Taiwan และบริษัทในเครือ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานการสนับสนุนทางด้านการเงินที่ชัดเจนจากกลุ่ม

สถานะทางธุรกิจในธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทยังคงแข็งแกร่งจากการเป็นเป็นผู้นำทางการตลาดของไทยในการออกผลิตภัณฑ์ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ในปี 2564 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่ง 50.26% ส่วนแบ่งรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ของบริษัทยังคงเข้มแข็งเช่นกันด้วยส่วนแบ่งรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ 3.1% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 หรืออันดับที่ 13 จาก 38 โบรกเกอร์ในอุตสาหกรรม บริษัทมีส่วนแบ่งรายได้ค่านายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 9.2% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 จาก 6.0% ในปี 2563 จากฐานลูกค้าที่ขยายตัว

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะทางธุรกิจในธุรกิจหลักทรัพย์ที่แข็งแกร่งต่อไปได้ในระยะปานกลางจากสถานะความเป็นผู้นำทางการตลาดของไทยในการออกผลิตภัณฑ์ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ที่เข้มแข็งและความพยายามในการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทริสเรทติ้งยังคาดอีกว่าฐานรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการของบริษัทจะยังคงสนับสนุนสถานะทางธุรกิจของบริษัทต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า สำหรับปี 2564 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 72% มาอยู่ที่ประมาณ 1.6 พันล้านบาทจากปี 2563 ส่วนหนึ่งจากผลการดำเนินงานที่แข็งแรงจากบริษัทย่อยคือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการคิดเป็น 30% ของรายได้รวมสำหรับปี 2564

ฐานทุนของบริษัทซึ่งวัดจากอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยง (Risk-adjusted Capital Ratio -- RAC) นั้นมีแนวโน้มลดลงจากการเติบโตของลูกหนี้ในธุรกิจค้าหลักทรัพย์และเงินลงทุน ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงที่ 10.8% อีกทั้งบริษัทยังคงมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (Net Capital Ratio -- NCR) ที่ยังคงแข็งแกร่งที่ระดับ 59.59% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 โดยสูงกว่าอัตราขั้นต่ำของทางการที่ระดับ 7% ค่อนข้างมาก

ทริสเรทติ้งคาดว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะยังคงเข้มแข็งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยในปี 2564 บริษัทมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ที่ปรับความเสี่ยงเฉลี่ยที่ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 4.4% ในปี 2564 จาก 1.8% ในปี 2563 จากการมีกำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินที่แข็งแกร่งและจากรายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในมุมมองของทริสเรทติ้ง การบริหารความเสี่ยงของ บล. เคจีไอ ยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยบริษัทยังคงได้รับการสนับสนุนและแนวทางการบริหารความเสี่ยงจากกลุ่มเคจีไอทั้งในด้านความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์ ระบบการซื้อขายอัตโนมัติ กลยุทธ์การซื้อขาย และการบริหารความเสี่ยงซึ่งปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน ในปี 2563 ผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดในระดับสูงส่งผลให้เกิดผลขาดทุนจากธุรกิจใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารได้ปรับปรุงลักษณะของผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความเสี่ยงดังกล่าวและบริษัทได้ควบคุมปริมาณธุรกรรมการบริหารเงินลงทุน (Proprietary Trading) เพื่อลดความเสี่ยงของบริษัทต่อการเปลี่ยนแปลงในราคาหลักทรัพย์อีกด้วย

ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทมีแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่เพียงพอเนื่องจากบริษัทมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันหลายแห่งเพื่อช่วยส่งเสริมความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัท

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงเพิ่มความหลากหลายของแหล่งที่มาของรายได้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจที่สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมและการรักษาความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดีได้ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะรักษาฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่งจากการมีระดับกำไรที่มีเสถียรภาพและการจ่ายเงินปันผลในระดับที่เหมาะสมในขณะที่บริษัทจะยังคงมีวินัยในการบริหารความเสี่ยงที่เข้มแข็งด้วย

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทมีจำกัด อย่างไรก็ตาม การปรับลดอันดับเครดิตก็อาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทมีฐานทุนซึ่งวัดจากอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะเวลาที่ต่อเนื่องซึ่งเกิดจากการขาดทุนที่ทำให้ส่วนทุนลดลงหรือจากการขยายตัวของงบดุลอย่างรวดเร็วจากการขยายธุรกิจเชิงรุก

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่มีต่อสถานะเครดิตของกลุ่มเคจีไอหรือมุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับสถานะของบริษัทที่มีต่อกลุ่มเคจีไอที่เปลี่ยนไปก็อาจมีผลกระทบต่ออันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทได้

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564

- Securities Company Rating Methodology, 9 เมษายน 2563

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน (KGI)

อันดับเครดิตองค์กร: A

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 1 ปี 6 เดือน A

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating .com
ติดต่อ santaya@trisrating .com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2565 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว