• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - deam205

#11071
คิดจะถมที่ ปลูกบ้าน หรือ สร้างโรงงาน ยินดีให้คำปรึกษา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ทิ้งงาน 080-022-3804
#11072


"บัวผัน ทังโส" เล่าวินาทีชีวิต มือเท้าชา ก่อนวูบหมดสติ ต้องแอดมิทด่วน เหตุโหมงานหนัก พักผ่อนน้อยสะสมนาน จนเส้นเลือดในสมองตีบ อัปเดตอาการดีขึ้นมาก แต่ยังเหนื่อย วิธีรักษาคือกินยาและหมั่นออกกำลังกาย

หลังจากหมอลำซิ่งชื่อดัง "บัวผัน ทังโส" เกิดมีอาการวูบ มือเท้าชา ก่อนวูบไปเหมือนคนน็อกหมดสติ จนต้องหามส่งโรงพยาบาลเพื่อแอดมิทด่วน ล่าสุดวันนี้เจ้าตัวก็สามารถกลับมารับงานปกติได้แล้ว แต่ก็ยังมีอาการเหนื่อยหลงเหลืออยู่ เหตุเพราะเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ โดยสาวบัวผันได้เหตุการณ์ในวันนั้น บอกว่าตกใจและช็อกมาก เพราะมันเกี่ยวกับเส้นประสาท กลัวจะกลับมาทำงานไม่ได้อีก

"ตอนนี้ก็ยังเหนื่อยอยู่ค่ะ แต่อาการก็ดีขึ้น เพราะได้เปลี่ยนตัวยาแล้ว แต่ ณ ตอนนั้นตกใจค่ะ แล้วก็กลัวด้วย เพราะมันเป็นเกี่ยวกับเส้นประสาทกลัวจะกลับมาทำงานไม่ได้ แต่พอเปลี่ยนตัวยาแล้วก็ออกกำลังกาย ร่างกายก็ค่อยๆ ดีขึ้น กลัวมาก มากจริงๆ เพราะตอนนี้เราก็เป็นเสาหลักของบ้านอยู่ กลัวคนข้างหลังจะไม่มีกิน เราก็ต้องดิ้นต่อไป แต่ ณ วันนั้นเราตกใจมากจริงๆ ช็อกเลย"
เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว น็อกไปเพราะเปลี่ยนยาตัวใหม่
"พอดีช่วงโควิดที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนตัวยาที่รักษาเกี่ยวกับโรคเส้นประสาท หลังจากกินมา 20 ปี แล้วเมื่อตอนเช้าของวันอาทิตย์ ก็นั่งกินข้าวอยู่บนเก้าอี้ แล้วรู้สึกมึนเวียน หลังจากนั้นก็ล้มฟุบลงกับพื้นเลย เหมือนคนน็อกไปเลย ก็เลยต้องเข้าโรงพยาบาล

ตอนนั้นรู้สึกสมองมันชา แล้วตัวก็ชา มีคนขึ้นเหยียบปลายมือปลายเท้าประมาณ 6 คน ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่เจ็บ ไม่ปวด มันชาไปหมด พอเอาอะไรมาจิ้มๆ ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย จากนั้นก็เข้าโรงพยาบาล คุณหมอก็รักษาตามอาการ"

ผลสรุปหมอบอกเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ
"ใช่ แต่เบื้องต้นหมอรักษาโรคเส้นประสาทที่เคยเป็นก่อน วิธีการรักษาคือทานยา มีการทานยา แล้วก็เปลี่ยนตัวยาทุกอาทิตย์ รวมถึงหมั่นออกกำลังกายด้วย หมอไม่ได้มีข้อห้ามอะไร เราทำอะไรประจำ ก็ทำไปก่อน อายุไม่มีผละต่อการรักษา ขอแค่หมั่นออกกำลังกายแล้วก็ดูแลตัวเอง ไม่ต้องทุ่มเทมาก แล้วก็พักผ่อนให้มากกว่าเดิม"

บอกโรคนี้สาเหตุเกิดจากพักผ่อนน้อยสะสม
"พักผ่อนน้อย ซึ่งสะสมมานานแล้ว เราทำงานมาตั้งแต่อายุ 18 ปี จนตอนนี้ก็ 43 แล้ว กลางวัน กลางคืน ก็ไม่ได้พักผ่อน รับวันละ 3-4 งาน เงินเราก็อยากได้ แล้วก็คิดว่าเราแข็งแรง เราทำมันได้ เราไม่คิดว่าร่างกายจะมาทรุดในเร็ววัน"

จากนี้ต้องเลือกรับงานให้เหมาะกับสุขภาพ
"ต้องเลือกรับงาน คือทำวงน้อยลง ไม่ใหญ่เหมือนเดิม ประมาณกลางๆ"
#11073

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยืดเยื้อมาเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ปีแล้ว และดูแนวโน้มยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้เมื่อไร แต่ที่แน่ๆ ผลกระทบของการแพร่ระบาดครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน สภาพสังคม และสภาพเศรษฐกิจจากก่อนหน้าอย่างมากมาย ผู้คนส่วนใหญ่ต้องกักตัวอยู่กับบ้าน หรือที่พัก ใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่แต่ในที่พัก บ้านจึงเป็นทั้งที่อยู่อาศัย ที่เรียนออนไลน์ หรือแม้แต่ที่ทำงาน เป็นยุคที่ผู้คนส่วนใหญ่ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home)

เมื่อผู้คนส่วนใหญ่อยู่ภายในบ้าน ช่องทางหลักในการสื่อสารหรือทำกิจกรรมต่างๆ จึงต้องใช้ช่องทางออนไลน์ ด้วยอุปกรณ์การสื่อสารไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละวันผู้คนใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์หลายชั่วโมง โดยเฉพาะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียประเภทต่างๆ

โควิด-19 คนสื่อสารกว่า 6 พันล้านข้อความ

แต่การสื่อสารในโลกออนไลน์ที่มีความรวดเร็ว และมีปริมาณข้อมูลมหาศาล แน่นอนว่ามีโอกาสที่การสื่อสารจะผิดพลาด ผิดวัตถุประสงค์ ถูกตีความผิด หรือแม้แต่การสื่อสารจากฐานข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือเกิดจากความผิดพลาดของข้อมูลก็ตาม ผลกระทบจากความผิดพลาดดังกล่าว นำมาซึ่งความ
เสียหายมหาศาล โดยเฉพาะปัจจุบันมีการสร้างข่าวปลอม หรือเฟกนิวส์ (Fake News) เกิดขึ้นมากมายบนโลกออนไลน์



นายภูกิจ ดิศธรานนท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการบริหารจัดการ Real-time Online Data และวิเคราะห์ข้อมูลบนโลกออนไลน์ เล่าว่า ปัญหาเฟกนิวส์เกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งวิธีการบริหารจัดการปัญหาเฟกนิวส์นั้น เบื้องต้นผู้รับสารจะต้องนำข้อมูลมาวิเคราะห์ให้ได้ว่าข้อมูลนั้นเป็นข้อเท็จจริง (Fact) หรือความคิดเห็น (Opinion) หากเป็นข้อเท็จจริงจะต้องพิสูจน์ได้ แต่ความเห็นไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอะไรถูกหรือผิด ซึ่งสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดของการสื่อสารในภาวะโควิด-19 ที่ทุกคนต้องมี คือ สติในการสื่อสาร ทั้งรับสารและส่งสาร เพื่อที่จะสามารถคัดกรองข้อมูลได้ถูกต้อง และสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่เพียงแต่ปัญหาเฟกนิวส์เท่านั้น แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังพบว่า โลกออนไลน์มีปริมาณข้อมูลข่าวสารที่มากมายมหาศาล เพราะทุกคนถูกจำกัดการเคลื่อนไหวอื่นๆ มีเพียงโลกออนไลน์ที่ยังสามารถใช้กันได้อย่างเสรี มีการประเมินว่าในปีนี้ปริมาณข้อมูลการสื่อสารบนโลกออนไลน์จะมีมากขึ้นถึง 6,000 ล้านข้อความ จากปีที่ผ่านมามีปริมาณ 5,000 ล้านข้อความ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วง 5 ปีก่อนหน้านี้ที่มีเพียง 500 ล้านข้อความเท่านั้น หากแบรนด์สินค้าหรือบริการจะทำการสื่อสารบนโลกออนไลน์ในปัจจุบัน จำเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ต้องการ ​

สื่อสารอย่างมีสติ-สร้างสรรค์ เพิ่มพลังบวก

"ในยุคโควิดทุกคนถูกจำกัดความเคลื่อนไหว และหันมาเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ทั้งหมด ทำให้ตัวเมสเสจและแอ็กทิวิตีต่างๆ มันสูงขึ้นมาก ทุกแบรนด์หันมาโฟกัสออนไลน์แบบ 100% การติดต่อสื่อสารผ่านออนไลน์จึงควรมีสติในการใช้ เพราะสถานการณ์โควิดทุกคนมี emotional สูงมาก มีความอ่อนไหวต่อเรื่องราวบนโลกออนไลน์ จึงต้องมีสติในการใช้งาน และมีการคัดกรองข้อมูลก่อน แบรนด์จะต้องยกระดับการสื่อสาร ต้องเน้นในเรื่องดีๆ ให้คนจดจำ แบรนด์จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม แบรนด์ต้องสื่อสารกำลังใจเป็นพลังบวกมากกว่าการเติมพลังลบ แต่อาจจะสื่อสารข้อเท็จจริงบางอย่างได้"



Big Data Real-time ปกป้องแบรนด์เมื่อมีปัญหา

ด้วยปริมาณข้อมูลมหาศาล ที่เรียกว่า บิ๊กดาต้า (Big Data) และจำนวนผู้เล่นที่มากมาย แน่นอนว่า การบริหารจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งต้องมีทั้งกระบวนการจัดการและเครื่องมือที่เข้ามาช่วยในการจัดการ เพื่อตอบโจทย์และความต้องการได้ตรงตามวัตถุประสงค์

นายภูกิจอธิบายเพิ่มเติมว่า บิ๊กดาต้ามีความสำคัญต่อธุรกิจและองค์กร เพราะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกแผนก รวมถึงสามารถนำมาใช้ในการปกป้องแบรนด์เวลาเกิดปัญหาต่างๆ ในโลกออนไลน์ได้ เพราะจะทราบว่าแบรนด์มีการทำอะไรที่ผิดพลาดจากการดูในบิ๊ก ดาต้า และก็จะสื่อสารหรือเข้าไปแก้ไขในจุดนั้น หรือการนำมาใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการลูกค้า เพื่อแก้ไขปัญหาลูกค้าไม่พอใจได้เช่นกัน

"ตอนนี้ทุกๆ องค์กรพยายามเอาบิ๊กดาต้ามาใช้ โดยเฉพาะดาต้าเรียลไทม์ ใช้สร้างแคมเปญต่างๆ ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น หรือเอาไว้ป้องกันเวลาที่มีความเสียหายต่อแบรนด์บนโลกออนไลน์ สองเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นปัจจุบันและกำลังขยายมากขึ้นในอนาคต"



ประโยชน์ของการนำบิ๊กดาต้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน คือการเป็นเครื่องมือในการช่วยหาอินไซต์ของผู้บริโภค ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำสูง แม้ว่าหัวใจหลักของการสื่อสารจะเป็นเรื่องของคอนเทนต์ที่ต้องดี ​และเหมาะสมในแต่ละแพลตฟอร์มของสื่อออนไลน์ ซึ่งการเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารในสื่อออนไลน์แต่ละประเภทจะขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์สินค้าหรือบริการนั้นๆ เช่น ปัจจุบัน TikTok คือ สื่อออนไลน์ที่กำลังเติบโตและมาแรง หากกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มคนที่เน้นความสนุกสนาน ก็สามารถใช้แพลตฟอร์มนี้ในการสื่อสารได้ในรูปแบบวิดีโอที่มีความสนุกสนานได้ แต่การจะสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ดีจำเป็นจะต้องมีฐานข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งการใช้บิ๊กดาต้าจะเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะฐานข้อมูลที่ได้เรียลไทม์ ​

"ส่วนสำคัญของการสื่อสารในแต่ละแพลตฟอร์ม คือการตีโจทย์คอนเทนต์ให้แตก และใช้คาแรกเตอร์ให้ถูก ถ้ามีบิ๊กดาต้ามาเสริมจะทำให้ได้ข้อมูลถูกต้องแม่นยำขึ้น สามารถดูกรณีตัวอย่างที่ทำสำเร็จมาแล้วได้ด้วย โลกอนาคตแข่งขันกันที่ความเร็วของการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล ใครมีดาต้าที่เรียลไทม์ ใช้ได้จริง ณ​ เวลานั้น ก็จะชนะผู้แข่งในธุรกิจเดียวกัน" ​

นายภูกิจกล่าวในตอนท้ายว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 การจัดการบิ๊กดาต้า กลับกลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธุรกิจเติบโต ทุกคนต้องหันมาปรับตัว มาพัฒนาใช้ดาต้ากันมากขึ้น และยิ่งการใช้สื่อออนไลน์ขยายตัวเติบโตมากขึ้น มีการใช้อย่างเข้มข้นขึ้น ธุรกิจก็เติบโตขึ้นได้ แม้ว่าภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 จะสิ้นสุดลง การใช้สื่อออนไลน์ก็ยังคงความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แต่เทรนด์ต่อไปแบรนด์จะเลือกสื่อสารและการทำตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Customize) มากขึ้น เป็นการตลาดแบบผู้ประกอบการกับผู้บริโภคโดยตรง การใช้เครื่องมือสื่อโซเชียลออนไลน์จะเข้มข้นขึ้น ซึ่งบิ๊กดาต้าแบบเรียลไทม์ก็จะมาตอบโจทย์ในเรื่องนี้

"ทุกคนจะลงมาเล่นในสนามการแข่งขันนี้ เพื่อดึงความสนใจจากผู้บริโภค จะมีผู้เล่นในสนามนี้อย่างมหาศาล แต่ทางกลับกัน หากใครบริหารจัดการข้อมูลได้สำเร็จ จะเป็นผลบวกในวงกว้างแบบก้าวกระโดดได้เหมือนกัน จะเห็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ดังและสำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งเป็นผลจากการใช้บิ๊กดาต้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้เปรียบในการแข่งขัน"
#11074

ราคาน้ำมันขยับลงในวันพุธ (29 ก.ย.) หลังคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินคาดและดอลลาร์แข็งค่า ปัจจัยหลังนี้ฉุดทองคำปรับลด ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ท่ามกลางตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่น่าผิดหวัง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 74.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 45 เซนต์ ปิดที่ 78.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานในวันพุธ (29 ก.ย.) คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มากเกินความคาดหมาย ได้แรงหนุนจากกำลังผลิตที่ฟื้นตัว ในขณะที่แท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งสหรัฐฯ กลับมาเดินเครื่องตามปกติอีกครั้ง หลังต้องปิดปฏิบัติการบางส่วน ผลกระทบจากเฮอริเคน 2 ลูก

นอกจากนี้แล้ว ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน ซึ่งปัจจัยนี้เองฉุดราคาทองคำในวันพุธ (29 ก.ย.) ดิ่งลงต่ำสุดในรอบราวๆ 6 เดือน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 14.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,722.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันพุธ (29 ก.ย.) จากแรงฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ในขณะที่นักลงทุนผิดหวังกับข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคอเมริกา

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 90.73 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,390.72 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.83 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,359.46 จุด แนสแดค ลดลง 34.24 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,512.44 จุด

ความเคลื่อนไหวที่ผสมผสานในวันพุธ (29 ก.ย.) มีขึ้น 1 วันหลังจากตลาดดิ่งลงหนักเมื่อวันอังคาร (28 ก.ย.) จากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่น่าผิดหวัง และความเห็นต่างในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้และหลีกเลี่ยงชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาล

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณอาจตัดทอนกรอบเวลาสำหรับกระชับนโยบายทางการเงินในช่วงปลายปีนี้

(ที่มา : รอยเตอร์)
#11075
"รมว.ยธ." เผย ภาพรวมกระทรวงยุติธรรม ปี 64 น่าพอใจ มั่นใจงบปีหน้างาน "ราชทัณฑ์-รถหรูเลี่ยงภาษี-บังคับคดี" สำเร็จแน่เพราะเตรียมพร้อมไว้แล้ว

วันนี้ (29 ก.ย.) เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยธ. แถลงผลการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรม "ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน" ประจำปี 2564 โดยมี นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัด ยธ., ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยธ. พร้อม ผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม โดยมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด และมีบูธผลงานของกรมต่างๆ ที่นำมาจัดแสดง เช่น กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกระทรวงยุติธรรม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า งานแรกที่ตนได้ทำ คือ การลดผู้ต้องขังในเรือนจำ แต่ปล่อยออกมาแล้วเราต้องสร้างกลไกให้พวกเขาไม่กลับเข้าไปในเรือนจำอีก ไม่กลับไปทำผิดซ้ำ ซึ่งจากเดิมตอนที่ตนมารับตำแหน่งมีผู้ต้องขัง 381,454 คน มีพื้นที่เรือนนอน 328,733.29 ตรม. สามารถรองรับผู้ต้องขังได้เพียง 266,587 คน ซึ่งเกินความจุ 43.08 เปอร์เซ็นต์ ตนเทียบดูคนที่อยู่ในเรือนจำมีพื้นที่นอนเพียง 0.7 ตร.ม. เบียดเสียดกันมาก มีที่น้อยกว่าโลงศพเสียอีก เราจึงไปดูเรือนนอนปรับทำเตียงนอน 2 ชั้น ทำให้เพิ่มพื้นที่เป็น 1.2 ตร.ม.ต่อคน ซึ่งตามมาตรฐานสากลอยู่ที่ 2.2 ตร.ม. เราต้องค่อยๆ ปรับ อาจจะเพิ่มปีหน้าเป็น 1.4 ตร.ม.ต่อคน นอกจากนี้ การลดจำนวนผู้ต้องขัง ด้วยการพักการลงโทษและลดวันต้องโทษจำคุก และพักโทษพิเศษ ปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับการติดกำไล EM ไปแล้ว 74,082 คน โดยเรามีทั้งหมด 30,000 เครื่องหมุนเวียนในการใส่

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องขัง 35 เปอร์เซ็นต์ เมื่อถูกปล่อยภายในไม่เกิน 3 ปี จะกลับเข้าเรือนจำใหม่ เพราะไม่มีงานทำ ดังนั้น เราต้องสร้างอาชีพ มีงานให้ทำ ซึ่งในเรือนจำมีการฝึกอาชีพอย่างหลากหลาย และได้มีโครงการตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ แต่อาจจะเสร็จไม่ทันในสมัยรัฐบาลชุดนี้ โดยเรามีโครงการนำร่อง สมุทรปราการโมเดล เริ่มต้นในการส่งผู้ต้องขัง 1,000 คน ไปทำงานที่บริษัท เดลต้า อิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย ส่วนค่าจ้างใช้เกณฑ์ค่าแรงขั้นต่ำ โดยมีอีกหลายบริษัทที่สนใจ กรมราชทัณฑ์ตั้งเป้าไว้ที่ 16,000 คน ซึ่งจะลดรายจ่ายของกรมราชทัณฑ์ได้ 336 ล้านบาทต่อปี มีเม็ดเงินหมุนเวียน 1,933 ล้านบาทในระบบเศรษฐกิจ ลดการสร้างเรือนจำใหม่ได้ถึง 5 แห่ง รวมเป็นเงิน 7,500 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ ตนได้มุ่งแก้ไขกฎหมายบางฉบับที่ล้าสมัย คือ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. .... แนวคิดเกิดจากอดีตผู้ต้องขังกลับมาทำความผิดซ้ำ เช่น ข่มขืนฆ่า ข่มขืนเด็ก ฆาตรกรต่อเนื่อง ยาเสพติดรายใหญ่ เมื่อพ้นโทษ หากเราปล่อยให้เขาไปอยู่ในสังคม ไม่มีใครรู้ไม่มีใครตาม มักจะกระทำผิดซ้ำ เช่น นายสมคิด พุ่มพวง และ ไอซ์ .บเหล็ก เมื่อเกิดเหตุสังคมก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ กระทรวงยุติธรรมจึงรับเป็นเจ้าภาพร่างกฎหมาย โดยศึกษาจากประเทศต่างๆ โดยกฎหมายนี้ จะให้มีการเฝ้าระวัง ใส่กำไล EM และมีอาสาสมัครคุมประพฤติช่วยดูแล สร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้กับสังคม เป็นกฎหมายล่าสุดที่เรากำลังเสนอเข้าสภา

"ส่วนกฎหมายที่อยู่ในชั้น กมธ. คือ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาสำหรับเด็ก ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย และ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน ส่วนกฎหมายที่อยู่ในชั้นพิจารณาของวุฒิสภาและอยู่ระหว่างรอการโปรดเกล้าฯ คือ ประมวลกฎหมายยาเสพติด 2564 ที่แก้ไขกฎระเบียบเพื่อเพิ่มโทษผู้ค้ายาเสพติดไม่เพียงติดคุกแต่จะถูกไล่ยึดทรัพย์ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใด และเน้นการยึดทรัพย์ตามมูลค่าในการค้ายา ร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ. .... และสุดท้าย ที่สำเร็จไปแล้ว คือ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 (ปลดล็อกพืชกระท่อม) มีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 64"

รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในส่วนการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน เฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เยียวยาผู้เสียหายแล้ว 6,912 ราย เป็นเงิน 358,066,535.59 บาท โดยรวมตั้งแต่ตนรับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน เยียวยาแล้ว 19,020 ราย รวมเป็นเงิน 976,781,633.48 บาท ซึ่งในปีงบประมาณหน้า ตนได้พูดคุยกับส่วนราชการทั้งหมดแล้ว พวกเราจะตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างเต็มที่ โดยงานที่จะดำเนินการในปี 2565 อย่างแรกคือ คดีรถหรู ของดีเอสไอ ตนได้เร่งรัดดำเนินการอยู่ แต่แก้ปัญหาได้ไม่กี่คัน เราพบว่ามีเจ้าหน้าที่ทำแค่ 4 คน โดยยังเหลือรถหรูที่หลีกเลี่ยงภาษีตามที่กรมศุลกากรประเมินราคาแล้ว พร้อมที่จะเป็นคดี 1,428 คัน ราคาคันละ 6.8 ล้านบาท รวมมูลค่า 9,710 ล้านบาท โดยเพิ่มบุคลากร 100 คน เพื่อทำสำนวนคดีนี้ นอกจากนี้ ยังมีคดียาเสพติด .ออนไลน์ ลักลอบนำเข้าบุหรี่-เหล้าหนีภาษี ตนขอเตือนผู้ที่กระทำอยู่ถ้าไม่เลิกก็ถูกจับ และตนได้ศึกษา พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ สามารถใช้เอกชน หรือ อาสาสมัคร มาช่วยดำเนินการได้

"ในส่วนของการไกล่เกลี่ย มีทั้งกรมบังคับคดี กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เราจะทำให้สำเร็จในปีหน้า คนที่เป็นหนี้ไม่ควรหนีหนี้ เพราะเจ้าหนี้พร้อมให้ความกรุณา อย่างกองทุน กยศ. การกู้แล้วมีผู้ค้ำประกัน เราสามารถไกล่เกลี่ยให้ใช้หนี้ในแต่ละเดือนในเงินที่ไม่สูงได้ ทั้งนี้ในกระทรวงยุติธรรม ส่วนใหญ่ข้าราชการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ รู้กฎหมายมากมาย ตนมาเป็นรัฐมนตรีรู้กฎหมายไม่มาก แต่ตนเรียนทางด้านเศรษฐศาสตร์ ตนมองภาพในการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเราต้องทำตัวเป็นเหมือนเพื่อนกับพี่น้องประชาชน เข้าให้ถึงทุกแห่ง เพื่อสร้างความสุขให้กับทุกพื้นที่" นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้น นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความพึงพอใจภาพรวมการทำงานในปีที่ผ่านมา ว่า ภาพรวมถือว่าน่าพอใจ เพราะมีการทำงานบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงานทั้งในกระทรวงและนอกกระทรวง และไม่มีเรื่องร้องเรียนในการทำงานของกระทรวงยุติธรรมเลย เมื่อถามว่า งานในปีหน้าจะสำเร็จมากน้อยแค่ไหน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำเร็จแน่นอน เช่น คดีรถหรูของดีเอสไอ เพราะเราได้ศึกษาแนวทางและเพิ่มกำลังคนในการทำคดีไว้แล้ว ทุกๆ งานในปีหน้าเรามีการเตรียมพร้อมและตั้งหลักเอาไว้หมดแล้ว
 
#11076
ซ่อมหม้อต้มสแตนเลส
ทำหม้อต้มสแตนเลส
เชื่อมหม้อต้มสแตนเลส
ผลิตหม้อต้มสแตนเลส
#11077
 สีผึ้งว่านดอกทอง ฝังดอกว่านดอกทองและตะกรุดนะเมตตามหานิยม



พุทธคุณ เน้นเรื่อง เสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ก่อนว่าคาถาก็ให้นึกขอบารมีพระพุทธเจ้า และคุณครูบาอาจารย์

คาถากำกับ

โอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ 

นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ

(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)

แล้วใช้นิ้วชี้ข้างขวาป้าย แล้วทาที่ปาก

ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632497251.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfF8zGh5



#11085
คิดจะถมที่ ปลูกบ้าน หรือ สร้างโรงงาน ยินดีให้คำปรึกษา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ทิ้งงาน 080-022-3804