• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - deam205

#10909


สัญญาณบวกจากการ "คลายล็อกดาวน์" และเดินหน้าเปิดประเทศไทย! หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ทำให้บรรดาภาคธุรกิจตื่นตัวเร่งเตรียมความพร้อมรองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นความหวังในการกลับเข้ามาเป็นหนึ่งในฟันเฟืองฟื้นกำลังซื้อ และเศรษฐกิจ

ชัยโรจน์ ศรีเดชะรินทร์กุล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทลโฮลดิ้ง จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ได้แก่  สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ กล่าวว่า "โจทย์แรกเวลานี้...ต้องทำให้ลูกค้ากลับมาจับจ่ายได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัยจากโควิด สำคัญที่สุด และทำอย่างไรให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่กับเราได้นานขึ้น เพื่อนำสู่การใช้จ่าย"

แน่นอนว่า มาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยขั้นสูงสุดถูกนำมาใช้อย่างเข้มข้นในทุกวัน พร้อมกับการพลิกโฉม พัฒนาพื้นที่ เพิ่มแม่เหล็ก สร้างประสบการณ์ใหม่ เพื่อดึงดูดลูกค้า ไปอย่างควบคู่กัน  

ภายใต้กลยุทธ์ "Collaboration & Co-creation" ร่วมกับผู้นำธุรกิจในภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างปรากฏการณ์ให้วงการค้าปลีกและศูนย์การค้า ถูกวางเป็นกรอบแนวคิดในการมองหาสินค้าและบริการแปลกใหม่ให้ชีวิต หรือ The Icon of Innovative Lifestyle เข้ามาเป็นแม่เหล็กเสริมทัพตลอดเวลา ในการปรับพื้นที่ขาย สินค้าและบริการ ของทั้ง 3 ศูนย์การค้าใจกลางเมืองกลุ่มวันสยาม ประกอบด้วย  สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่  รองรับสถานการณ์โควิดที่เริ่มคลี่คลาย และ "โอกาส" จากการกลับมาเปิดประเทศเต็มรูปแบบในอนาคตที่จะมี "นักท่องเที่ยวต่างชาติ" เข้ามาเสริมกำลังซื้อจากผู้บริโภคในประเทศมากขึ้น 

"วันสยาม"ดึงแม่เหล็กเสริมแกร่ง! ดันสยามดิสคัฟเวอรี่ฮับแก็ดเจ็ตไลฟ์สไตล์

 

ดังนั้น "เมอร์เชนไดส์" ของสินค้าและบริการ ที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับให้มีสัดส่วนสอดรับกลุ่มลูกค้าชาวไทย แทน "ต่างชาติ" ที่ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้นั้น กำลังถูกปรับสัดส่วนใหม่! อีกครั้ง 

ประเดิมการพลิกโฉมปรับปรุงอย่างต่อเนื่องกับ "สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเที่ยม" ไฮบริดรีเทลแห่งแรกของประเทศไทย ที่ผสมผสานสินค้าบริการและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่ปรารถนาการค้นพบสไตล์ของตนเอง ขณะเดียวกันก็ต้องการร่วมมีประสบการณ์ที่แปลกใหม่กับผู้อื่นที่มีความสนใจเดียวกันในแบบไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้

โดยช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา "สยามดิสคัฟเวอรี่" ถือโอกาสปรับโฉมใหม่ของพื้นที่ดิจิทัล แล็ป  (Digital Lab) โซนที่นำเสนอสินค้าด้านไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีไอทีแก็ดเจ็ตที่แปลกล้ำนำเทรนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่สร้างรายได้ให้กับสยามดิสคัฟเวอรี่ติดอันดับ "Top5" มาโดยตลอด

"Digital Lab  จำเป็นต้องพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง! เพราะโลกเทคโนโลยีและไอทีแก็ตเจ็ตไม่เคยหยุดนิ่งต้องพร้อมรับและตอบสนองความต้องการวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ"

Digital Lab บนชั้น 2 สยามดิสคัฟเวอรี่ในการปรับโฉมใหม่บนพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. แบ่งสินค้าเป็น 8 กลุ่ม ได้แก่ CEE.Store, Gaming & Tech Toy, Camera, Experiential Lab, Mobile & Computer Accessories, Smart Living, Speaker & Audio และ Wearable Tech

ไฮไลท์สำคัญของ Digital Lab นั่นคือ โซน "Future Innovation" ที่นำเสนอในรูปแบบแปลกใหม่ โดยมี "CEE.Store" ร้านไอทีแก็ดเจ็ตไลฟ์สไตล์แนวใหม่แห่งแรกในประเทศไทย รอต้อนรับ!!! 

"วันสยาม"ดึงแม่เหล็กเสริมแกร่ง! ดันสยามดิสคัฟเวอรี่ฮับแก็ดเจ็ตไลฟ์สไตล์

 

สปอตไลท์ใหม่ CEE.Store ปักหมุดสยามดิสคัฟเวอรี่ครั้งนี้ เป็น Co-create กับผู้นำในธุรกิจไอทีแก็ดเจ็ต บริษัท โคแอน จำกัด (KOAN) ในกลุ่ม บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) ร่วมสร้างคอมมูนิตี้สำหรับผู้ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ไอทีแก็ตเจ็ตให้เกิดขึ้นจริง โดยมี "ซี-ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์"  เจ้าหญิงแห่งวงการไอที ในฐานะ Tech Promoter ของไทย มาร่วมสร้างคอมมูนิตี้นี้ในฐานะผู้รู้จริงและเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

สยามดิสคัฟเวอรี่ ตั้งเป้าหมายให้  CEE.Store และ Digital Lab โฉมใหม่นี้ เป็นเพลย์กราวน์ให้กลุ่มผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์สุดล้ำได้มีความสุขไปกับเทคโนโลยีทันสมัย และไอที แก็ดเจ็ตใหม่ ๆ ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ เติมแต่งความมีสไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว!

ชัยโรจน์ กล่าวย้ำว่า สถานการณ์โควิดที่ยังคงมีความผันผวน ผู้ประกอบการต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลารับโอกาส! ได้ในทันทีที่เปิดเมือง

หลังคลายล็อกเวลานี้ปริมาณลูกค้าหมุนเวียนกลับมาใช้บริการศูนย์การค้ากลุ่มวันสยามราว 50,000 คนในวันธรรมดา และ 1 แสนคนช่วงวันหยุด คิดเป็น 50-60% จากช่วงปกติ! 

ภารกิจเร่งด่วนจากนี้ นอกจากการปรับพื้นที่ เพิ่มแม่เหล็กใหม่ ยังจะมีการพัฒนาทักษะพนักงานให้บริการยกระดับสู่ ผู้เชี่ยวชาญ หรือ กูรู ที่พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกสินค้าต่างๆ เชื่อว่าจะตอบโจทย์ โดนใจลูกค้ายุคใหม่ นอกจากนี้มุ่งพัฒนาบริการที่แตกต่างจากคู่แข่งเป็นจุดขายดึงดูดลูกค้า เช่น การเป็นฮับของขวัญในทุกเทศกาล ทุกวาระ ไม่เฉพาะเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เท่านั้น 

ในสเต็ปแรกแผนการปรับพื้นที่ต่างๆ ทั้ง 3 ศูนย์การค้า สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ และสยามพารากอน จะแล้วเสร็จในปี 2565 ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากขึ้นต่อเนื่อง 

"วันสยาม"ดึงแม่เหล็กเสริมแกร่ง! ดันสยามดิสคัฟเวอรี่ฮับแก็ดเจ็ตไลฟ์สไตล์

** ปั้น'CEE.Store'แก็ดเจ็ตไลฟ์สไตล์เจาะซูเปอร์ยูสเซอร์ **

ซี ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์  หรือที่รู้จักกันในนาม Ceemeagain กล่าวว่า ร้าน CEE.Store หรือ Consumer Electronic Entertainment Store ซึ่งมีสโลแกนว่า "The Cee-lected Tech are here" เปรียบเสมือนสถานที่ เช็คอินแห่งใหม่ของคนที่ชอบสินค้าไอทีจะต้องแวะมาสัมผัสประสบการณ์ที่น่าสนใจ สินค้าแปลกใหม่ นำมาเสนอก่อนใคร

การเปิดร้าน CEE.Store นับเป็นปรากฏการณ์ Techno Fashion Lifestyle เพื่อนำเสนอแนวทางการใช้เทคโนโลยีทำให้ชีวิตขับเคลื่อนไปข้างหน้าในสถานการณ์ปัจจุบัน เป็น New Smart Lifestyle ที่ต้องการจุดกระแสการเลือกใช้สินค้าไอทีแก็ตเจ็ตที่ให้ความสำคัญในการ ใช้ให้คุ้ม ใช้ให้เก่ง!!

โดยมีกลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือกลุ่มTrendsetter / Gadgets-Lovers / Early Adopter ผู้นำเทรนด์ผู้หลงใหลนวัตกรรมใหม่ที่ชอบอัพเดตก่อนใครชอบมีอุปกรณ์ทันสมัยไปครอบครองก่อนใคร "กลุ่ม Smart-Living Users" คนที่ชอบใช้ชีวิตติดความทันสมัยรายล้อมไปด้วยของอัจฉริยะตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าจนไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้อำนวยให้เกิดความสะดวกสบาย และ "กลุ่มTechno Fashion" ผู้ที่ใช้ชีวิตในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดทั้งด้านแฟชั่นและฟังก์ชันเน้นความสวยงามด้านการดีไซน์ผสมผสานกับฟังก์ชันการใช้งานที่ยกระดับภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูมีรสนิยม

CEE.Store เป็นร้านไอทีแก็ดเจ็ตไลฟ์สไตล์ที่แปลกใหม่โดยมีความแตกต่างและความพิเศษ คือ 

+ การนำเสนอสินค้า Exclusive Only @ CEE.Store สินค้าบางประเภทจะทำการเปิดตัวเป็น Exclusive Product ที่วางจำหน่ายเฉพาะร้าน CEE.Store 

+ ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศมากมายในการนำเข้าสินค้าใหม่มาจำหน่ายที่ CEE.Store แห่งแรกที่เดียวในไทย

+ Fashion in Function ร้านค้า CEE.Store จะคัดสรรเฉพาะสินค้าที่น่าสนใจแปลกใหม่ทั้งในด้านแฟชั่นและฟังก์ชันมาจำหน่ายเท่านั้น

+ Chef's Table of Technology มุ่งเน้นการสร้างกลุ่มและคอมมูนิตี้คนรักแก็ดเจ็ตเพื่อให้ได้มามีโอกาสแกะกล่องของใหม่ประจำเดือนและกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมายตามเทศกาล

+ The Gadget Hub for Trendsetter รวบรวมอินฟลูเอนเซอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีไว้มากมายเพื่อมาร่วมพูดคุยทำความเข้าใจสินค้าทดสอบทดลองเพื่อให้ผู้ซื้อได้ประโยชน์สูงสุดSuper User Trial New Experience

+ ในทุก ๆ ไตรมาส CEE.Store จะมองหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อนำโชว์และให้คอมมูนิตี้คนรักไอทีแก็ดเจ็ตได้มาสัมผัสก่อนใคร

ผู้ที่ชื่นชอบสินค้าไอทีแก็ดเจ็ตที่จะได้มีคอมมูนิตี้ใหม่ และด้วยดีไซน์ของร้าน CEE.Store ในแบบแปลกใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Chef Table of Technology เปิดพื้นที่ให้กับUsersที่กำลังมองหาแก็ดเจ็ตใหม่ ๆ ได้คุยกับTech-Expert อย่างใกล้ชิดเน้นการสร้างประสบการณ์และความรู้สึกระหว่างกันเชื่อมโยงคนสองกลุ่มบนพื้นที่ร้านถ่ายทอดแง่มุมการใช้ให้ผู้ซื้อได้รู้สึกอินกับนวัตกรรมเป็นศูนย์กลางการสอนการใช้งานให้รู้สึกสนุกและตื่นเต้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ได้พบปะกับคนที่มีความชอบเหมือนกันทำให้กลุ่มคนที่สนใจในเทคโนโลยีผู้นำเทรนด์ได้มารู้จักกันและสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ แบบ "Let's unbox together at CEE.Store

"วันสยาม"ดึงแม่เหล็กเสริมแกร่ง! ดันสยามดิสคัฟเวอรี่ฮับแก็ดเจ็ตไลฟ์สไตล์

ทางด้าน ปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า "เรามีทีมบริหารมากด้วยประสบการณ์คลุกคลีอยู่ในแวดวงสินค้าแก็ดเจ็ตแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก มาเป็นระยะเวลานาน พร้อมที่จะสนับสนุนโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ ซี ฉัตรปวีณ์ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจของบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจไอทีแก็ดเจ็ต"

สำหรับสินค้าที่ "โคแอน" คัดสรรมานำเสนอในร้าน CEE.Store ล้วนเป็นสินค้าที่กำลังเป็นกระแสบนโลกไลฟ์สไตล์แก็ดเจ็ต อาทิ

Joy Resolve "นาฬิกาปลุกทำกาแฟอัตโนมัติ" ปฏิวัตินาฬิกาปลุกให้เป็นเครื่องทำกาแฟเปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้าเป็นกลิ่นกาแฟที่คุณชื่นชอบปลุกคุณขึ้นมาแทนเสียง

Time Kettle "หูฟังแปลภาษาแบบเรียลไทม์" หูฟังแปลภาษาได้ทันทีแบบเรียลไทม์  แปลได้มากกว่า 90 ภาษาทั่วโลกถูกต้องแม่นยำถึง 95%

Divoom "แสดงตัวตนผ่านกระเป๋าเป้ของคุณ" เป้ที่มาพร้อมแอพพลิเคชันมีจอด้านหน้าสื่อสารได้ผ่านกระเป๋าที่สามารถพิมพ์ข้อความหรือรูปภาพลงไปได้

Netgear "กรอบรูปดิจิทัล" กรอบรูปที่ใส่ได้มากกว่าหนึ่งภาพสามารถเปลี่ยนรูปได้ตามความต้องการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน

Fitbit Luxe Gorjana Limited Edition "ฟิตเนสแทร็กเกอร์รุ่นLimited Edition" ร่วมกับ Gorjana พร้อมยกระดับการดูแลสุขภาพของคุณให้ดีขึ้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลมาพร้อมสาย Jewelry และจะวางจำหน่ายเฉพาะร้าน CEE.Store เท่านั้น

Pivo "ตากล้องส่วนตัว" อุปกรณ์โปรดักชั่นที่ช่วยให้การสร้างสรรค์เนื้อหาของคุณมีความง่ายและสะดวกขึ้นโดยเฉพาะการถ่ายทำ
#10910
ข้อต่อท่ออ่อนสแตนเลส
ท่อรับการสั่น
ท่อรับการสะเทือน
ข้ออ่อนกันสะเทือน
#10911
คิดจะถมที่ ปลูกบ้าน หรือ สร้างโรงงาน ยินดีให้คำปรึกษา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ทิ้งงาน 080-022-3804
#10912
 สีผึ้งว่านดอกทอง ฝังดอกว่านดอกทองและตะกรุดนะเมตตามหานิยม



พุทธคุณ เน้นเรื่อง เสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ก่อนว่าคาถาก็ให้นึกขอบารมีพระพุทธเจ้า และคุณครูบาอาจารย์

คาถากำกับ

โอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ 

นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ

(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)

แล้วใช้นิ้วชี้ข้างขวาป้าย แล้วทาที่ปาก

ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632497251.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfF8zGh5



#10913


ติดปีกธุรกิจ ! "แป้งมันสำปะหลัง-เกษตรอินทรีย์" ขึ้นแท่น "ดาวรุ่ง" หลังมาร์จินสูง "จุดขาย" น้องใหม่ไอพีโอ "อุบล ไบโอ เอทานอล" จ่อเข้าระดมทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 30 ก.ย. นี้ "เดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์" นายใหญ่ โชว์พันธกิจ 5 ปี สัดส่วนกำไรแตะ 70% เอทานอลลดลงเหลือ 30%

เมื่อ "ธุรกิจเอทานอล" มีทิศทางเติบโตมั่งคงต่อเนื่อง... แต่ไม่สามารถผลักดันฐานะทางการเงินให้เติบโตอย่าง "ก้าวกระโดด" ได้ ของ บมจ. อุบล ไบโอ เอทานอล หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย โดยมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากว่า 16 ปี เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 1,370 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท ราคาหุ้นละ 2.40 บาท เข้าซื้อขายวันแรก (เทรด) 30 ก.ย. นี้ คาดได้เงินระดมทุนราว 3,288 ล้านบาท

โดยปัจจุบันบริษัทมุ่งสู่แผนการขยายการผลิตและจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรที่มี "มูลค่าสูง" (High Value Product) และอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรประเภทอื่นๆ โดยมีความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สะท้อนผ่านเป็นผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายในโลกที่สามารถผลิตแป้งมันสำปะหลัง "ออร์แกนิค" ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าออร์แกนิคสากล

"อุบล ไบโอ เอทานอล" มี 3 กลุ่มผู้ถือหุ้นร่วมกัน "กลุ่มครอบครัวโควสุรัตน์" ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 25.77% บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI) ถือหุ้น 12.36% ซึ่งมี บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP และ บมจ. น้ำตาลขอนแก่น หรือ KS ถือหุ้น 60 : 40 ใน BBGI และ บริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด (TET) ถือหุ้น 12.36% ซึ่งมี บมจ. ไทยออยล์ หรือ TOP เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TET 


จาก "จุดเริ่มต้น" ของกลุ่มนักธุรกิจในจังหวัดอุบลราชธานี ที่ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมันสำปะหลังแบบจริงจังเดิมพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีจะเพาะปลูกข้าวเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อ 10 ปีก่อน จึงเกิดโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังโรงแรก ก่อนจะมีนโยบายรัฐในเรื่อง "เชื้อเพลิงชีวภาพ" ที่มีการส่งเสริมให้ใช้เอทานอลมาทำเป็น "แก๊สโซฮอล์" และตอนนั้น จึงมีกลุ่มของ บมจ. ไทยออยล์ (TOP) และ กลุ่มของ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ติดต่อมาร่วมลงทุนในธุรกิจด้วย ซึ่งเป็นที่มีตั้งแต่วันนั้นที่บริษัทมี 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง และ ธุรกิจเอทานอล 

ปัจจุบัน UBE ประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ 1.ธุรกิจเอทานอล บริษัทถือเป็นผู้ผลิตเอทานอลรายใหญ่ของประเทศ และเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง ด้วยกำลังการผลิต 400,000 ลิตรต่อวัน หรือ 146 ล้านลิตรต่อปี สามารถผลิตเอทานอลได้ทั้งเกรดเชื้อเพลิง (Fuel Grade Alcohol) 99.8% ที่ใช้วัตถุดิบในการผลิตที่หลากหลาย ทั้งมันสด มันเส้น น้ำตาลทรายดิบและกากน้ำตาล 

UBE ปั้นธุรกิจมาร์จินสูง ขึ้นแท่น "สตาร์" รวมทั้งเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม (Industrial Grade Alcohol) 95% ซึ่งบริษัทได้รับอนุญาตชั่วคราวจากกรมสรรพสามิต ให้สามารถจำหน่ายเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับทำความสะอาดมือ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ภายใต้แบรนด์ "UBON BIO" และ "KLAR" ซึ่งมียอดขายสูงสุดบนแพลตฟอร์มออนไลน์


2.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง เกรดอาหารและเกรดอุตสาหกรรม ภายใต้แบรนด์ "อุบลซันฟลาวเวอร์" มีผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ แป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค ซึ่งบริษัทถือเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก มีปริมาณการส่งออกมากกว่า 20,000 ตันต่อปีและเป็นผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายในโลกที่สามารถผลิตแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าออร์แกนิคสากล ที่ปลอดสารเคมีตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงกระบวนการแปรรูป 

โดยปัจจุบันมีการวิจัย และพัฒนาสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ "แป้งฟลาวมันสำปะหลัง" ภายใต้แบรนด์ "Tasuko" และ "Savvy" ที่สามารถใช้ทดแทนแป้งสาลีในอุตสาหกรรมขนม และเบเกอรี่ ได้ในทุกมิติ เช่น ขนมปัง เบเกอรี่ เส้นพาสต้า เส้นราเมน ขนมขบเคี้ยว พิซซ่า แป้งชุบทอด เป็นต้น มีคุณสมบัติเด่น คือ Organic Gluten-Free Non GMO High Fiber Low GI โดยได้ร่วมมือกับสถาบันสวทช. ผลิตผลิตภัณฑ์นำร่องเป็นแป้งฟลาวผสมเสร็จ (Premix Flour) 3 สูตรได้แก่ แพนเค้ก คุกกี้ และ บราวนี่ จำหน่ายในในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และร้านขายส่วนผสมวัตถุดิบสำหรับทำเบเกอรี่ทั่วประเทศ

UBE ปั้นธุรกิจมาร์จินสูง ขึ้นแท่น "สตาร์" และ 3.ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ UBE ถือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรประเภทต่างๆ ได้แก่ การผลิตกาแฟออร์แกนิค (Organic Coffee) และข้าวออร์แกนิค (Organic Rice) ที่ได้รับมาตรฐานออร์แกนิคสากล มีการบริหารจัดการครบวงจรตั้งแต่แปลงปลูกจนถึงมือลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีในการตรวจรับรอง และผลิตปัจจัยการเกษตรครบวงจร เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภัณฑ์ และคาดว่าจะมี R&D เพื่อพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์มูลค่าสูงอื่นๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต

ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ในประเทศราว 7,000 ไร่ และมีเครือข่ายเกษตรกรที่เป็น Contract Farming 100% ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร ภาคประชาสังคม ในกระบวนการที่เรียกว่า "อุบลโมเดล" เป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเกิดความสำเร็จอย่างยั่งยืน

"เดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อุบล ไบโอ เอทานอล หรือ UBE เล่าให้ "กรุงเทพธุรกิจ BizWeek" ฟังว่า หลังบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น โดยจะนำเงินขายไอพีโอเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เพื่อรองรับ "โอกาสทางธุรกิจ" สะท้อนผ่านเงินระดมทุนนำมาขยายการเติบโตใน 2 ธุรกิจหลัก นั่นคือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง และ ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ โดยวางแผนธุรกิจตั้งเป้าหมายการเติบโตระยะสั้น-ยาว 

สำหรับ แผนการเติบโต "ระยะสั้น" บริษัทเน้นเติบโตผ่านขยายการลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง โดยเฉพาะ "แป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค" ซึ่งปัจจุบันมีการผลิต 40,000 ตันต่อปี จะเพิ่มเป็น 1 แสนตันต่อปี ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า (2564-2568) จะลดการผลิตแป้งมันสำปะหลังแบบทั่วไป (Cassava Starch) ลงจากปัจจุบันอยู่ 1.1 แสนตันต่อปี เหลือเพียง 40,000-50,000 ตันต่อปี เนื่องจากอัตรากำไรต่อหน่วยการขายจากธุรกิจผลิตแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคสูงกว่า 3 เท่า

และในปัจจุบันมีการวิจัยและพัฒนาสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ "แป้งฟลาว" ภายใต้แบรนด์ "Tasuko" และ "Savvy" โดยบริษัทขยายกำลังผลิตแป้งฟลาว 200 ตัน/วัน (เป็น 300 ตัน/วัน) เดิม 100 ตัน/วัน โดยแป้งฟลาวสามารถใช้ทดแทนแป้งสาลีในอุตสาหกรรมขนม และเบเกอรี่ ซึ่งจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายส่วนผสมวัตถุดิบสำหรับทำเบเกอรี่เปิดตัวสินค้ากลุ่มดังกล่าวไปเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ การลงทุนสร้างสายการผลิตสารให้ความหวานออร์แกนิค (Organic Sweetener) เช่น "ไซรัป" (Syrup) และ "มอลโทเดกซ์ทริน" (Maltodextrin) กำลังการผลิต 300 ตัน/วัน โดยเน้นขายไปในตลาดต่างประเทศ เนื่องจากมีความต้องการสูงมาก 

ขณะที่แผนการลงทุนระยะยาวภายใน 5 ปี (2565-2569) มุ่งเน้นการเติบโตจาก "ธุรกิจเกษตรอินทรีย์" โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ 5% จากปัจจุบัน 1% ซึ่งบริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรประเภทต่างๆ ได้แก่ การผลิตกาแฟออร์แกนิค (Organic Coffee) และข้าวออร์แกนิค (Organic Rice) ที่ได้รับมาตรฐานออร์แกนิคสากล 

โดยบริษัทมีการบริหารจัดการครบวงจรตั้งแต่แปลงปลูกจนถึงมือลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีในการตรวจรับรอง และผลิตปัจจัยการเกษตรครบวงจร เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภัณฑ์ และคาดว่าจะมี R&D เพื่อพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์มูลค่าสูงอื่นๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต ปัจจุบันมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ในประเทศราว 7,000 ไร่ และมีเครือข่ายเกษตรกรที่เป็น Contract Farming 100% 

UBE ปั้นธุรกิจมาร์จินสูง ขึ้นแท่น "สตาร์"

ส่วน "ธุรกิจเอทานอล" บริษัทมีการลงทุนขยายกำลังการผลิตเอทานอลเกรดเชื้อเพลิง 40,000 ลิตรต่อวัน ผ่านการทำ De-bottlenecking Capacity โดยมีการกระจายฐานผู้ค้าน้ำมันให้หลากหลายมากขึ้นในการจำหน่ายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิง และมีรายได้จากการจำหน่ายเอทานอลเกรดอุตสาหกรรมจากการได้รับอนุญาตเป็นการชั่วคราว จากภาครัฐให้สามารถจำหน่ายเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม เพื่อนำไปใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19

โดยในแผนธุรกิจ 5 ปีข้างหน้า บริษัทมีเป้าหมายผลักดัน "สัดส่วนกำไร" ในธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังและธุรกิจเกษตรอินทรีย์แตะ 70% ยิ่งเฉพาะในผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังที่มีมาร์จินระดับสูง และธุรกิจเอทานอล 30% 

ท้ายสุด "เดชพนต์" ทิ้งท้ายไว้ว่า เรามุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรประเภทต่างๆ ควบคู่กับการพัฒนาเครือข่ายเกษตรกรที่เข้มแข็ง ทำให้ UBE มีจุดเด่นที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมเดียวกัน
#10914


สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ทวีตแจงยืนยันเร่งดำเนินการทำเอกสารให้เสร็จสมบูรณ์ เตรียมบริจาควัคซีนโควิด-19 เพิ่มให้ไทยอีก 1 ล้านโดส

จากกรณีที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งมีโอกาสเข้าพบและประชุมหารือกับ ส.ว.แทมมี่ ดักเวิร์ธ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยในเวลาต่อมา ว่า กระบวนการที่สหรัฐอเมริกาตั้งใจจะบริจาควัคซีนโควิดเพิ่มอีกประมาณ 1 ล้านโดส เพื่อให้ครบตามจำนวนที่ประกาศว่าจะบริจาคให้ไทยรวม 2.5 ล้านโดสนั้น ยังอยู่ระหว่างรอเอกสารตอบรับจากทางการไทย

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องของไทย ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศ ต่างออกมายืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารจากทางการสหรัฐฯ ว่า จะส่งมอบวัคซีนโควิดมาให้เพิ่มอีก 1 ล้านโดส ก่อนที่จะมีความเคลื่อนไหวจากทางสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ดังกล่าวข้างต้น

ล่าสุด วันนี้ (25 ก.ย.) สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้แปลข้อความที่ นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ทวีตข้อความเป็นภาษาอังกฤษผ่านบัญชีทวิตเตอร์ว่า
"ดังที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม สหรัฐฯ จะบริจาควัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอีก 1 ล้านโดสให้กับไทย โดยสหรัฐฯ และไทยกำลังทำงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การจัดทำเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ เราตั้งตารอที่จะได้รับการจัดส่งวัคซีนล็อตที่ 2 มายังไทยโดยเร็วที่สุด เมื่อร่วมมือกัน เราจะช่วยชีวิตของผู้คนต่อไป"

ขณะที่มีรายงานข่าวว่า เมื่อเย็นวานนี้ (24 ก.ย.) ตามเวลาสหรัฐฯ นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่า "ผมได้โทรศัพท์ไปหารือกับวุฒิสมาชิก แทมมี่ ดักเวิร์ธ พรรคเดโมแครต และได้สอบถามถึงเรื่องความคืบหน้าของวัคซีน 1 ล้านโดส ซึ่ง ส.ว.แทมมี่ แจ้งว่า มีข้อมูลว่า เอกสารติดค้างอยู่ที่ไทย และขอความร่วมมือให้ผมช่วยตรวจสอบ ผมจึงได้กลับมาตรวจสอบกับทุกฝ่าย ก่อนจะกลับไปแจ้ง ส.ว.แทมมี่ ทราบ เมื่อเย็นวันที่ 24 กันยายนนี้เอง ว่า ทางการสหรัฐฯ ยังไม่ได้จัดส่งเอกสารใดๆ ให้ฝ่ายไทย และทางการไทยก็ไม่ได้รับเอกสารใดที่เกี่ยวข้องจากฝ่ายสหรัฐฯ และวันนี้มีข่าวดีคือ สถานเอกอัครราชทูตไทยได้รับแจ้งจากทางการสหรัฐฯ เพื่อนัดหารือคณะทำงานระหว่างกันอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้าแล้ว"
 
#10915


 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดกุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซูฮกลูกทีมเล่นดีทั้งเกม หลังบุกสอย เชลซี 1-0 พร้อมชี้เป็น 3 แต้มที่สำคัญมาก 

     เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวชื่นชมลูกทีมว่า ทำผลงานกันได้ดีตั้งแต่วินาทีแรกยันวินาทีสุดท้าย หลังจากที่ทัพ "เรือใบสีฟ้า" บุกไปเอาชนะ เชลซี 1-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดบิ๊กแมตช์ ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา

     เกมครึ่งแรกจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ จะมาได้ประตูชัยช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 53 จากการยิงของ กาเบรียล เชซุส โดยที่นัดนี้ เชลซี ไม่มียิงตรงกรอบแม้แต่หนเดียว



     "ตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้าย เราพยายามเล่นตามเกมของเราเอง และมันก็เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ เราเล่นกันได้ดีมากในเกมนี้ โอเค เราได้เพิ่มสามแต้ม และมันก็เป็นเรื่องดีมากสำหรับเรา การได้สามแต้มเพิ่มครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่า เราสามารถทำแบบนี้ได้อีกครั้ง"


     "ก่อนหน้านี้เราแพ้ เชลซี สามครั้งติด เพราะพวกเขายอดเยี่ยมมาก, ตัวผู้จัดการทีม (โธมัส ทูเคิ่ล) ก็ยิ่งกว่าสุดยอด นับตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิช เข้าเทคโอเวอร์สโมสร เชลซี ทำได้ยอดเยี่ยมทุกปี แต่ในสามเกมที่ว่า จริงๆ แล้วเราสามารถทำได้ดีกว่านั้นเช่นกัน นั่นแหละที่ทำให้ผมไม่สามารถบ่นอะไรได้ และผมก็ภูมิใจมากๆ ที่พาทีมเข้าถึงรอบชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก" ยอดกุนซือชาวสแปนิชวัย 50 ปี เปิดใจหลังเกม  

     ชัยชนะนัดนี้ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นมารั้งอันดับสอง ลงแข่ง 6 นัด มี 13 คะแนน เท่ากับ ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง โดยที่ "หงส์แดง" มีคิวลงเตะคู่ดึกกับ เบรนท์ฟอร์ด
#10916


เจมี วาร์ดี เหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ เลสเตอร์ ซิตี ไล่ตามตีเสมอ เบิร์นลีย์ ไปแบบหืดจับ 2-2 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน

ศึกฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2564 เกมที่น่าสนใจ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี เปิดรังคิง เพาเวอร์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์

เลสเตอร์ ของกุนซือ แบรนเดน ร็อดเจอร์ส เพิ่งส่งตัวสำรองบุกเก็บชัยเหนือมิลล์วอลล์ เมื่อกลางสัปดาห์ ในศึกคาราบาว คัพ เกมนี้นำทัพมาโดย เจมี วาร์ดี, ฮาร์วีย์ บาร์นส์, ยูริ ตีเลอมองส์

ขณะที่ เบิร์นลีย์ ของเฮดโค้ช ฌอน ไดซ์ เมื่อกลางสัปดาห์เปิดบ้านต้อน โรชเดล 4-1 ในศึกคาราบาว คัพ เกมนี้นำทัพมาโดย คริส วูด, แอชลีย์ เวสต์วูด และมาเตจ์ วีดรา

ปรากฏว่า เกมนี้ทีมเยือน เบิร์นลีย์ ได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เจมี วาร์ดี ในนาทีที่ 12 แต่เจ้าถิ่นก็ตามตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 37 จาก เจมี วาร์ดี ที่แก้ตัวได้สำเร็จ

แต่ในนาทีที่ 40 แม็กซ์เวล คอร์เน็ต มายิงให้ เบิร์นลีย์ บุกมานำอีกครั้ง 2-1 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสอร์นี้

ครึ่งหลัง เลสเตอร์ ซิตี โหมบุกอย่างหนักเพื่อหวังทวงประตูคืนให้ได้ สุดท้ายในช่วงท้ายเกมก็มาไล่ตามตีเสมอสำเร็จ 2-2 จากการยิงของ เจมี วาร์ดี

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เลสเตอร์ ซิตี เปิดบ้านไล่ตีเสมอ เบิร์นลีย์ 2-2 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม ทำให้ทีม "สุนัขจิ้งจอก" มีเพิ่มเป็น 7 แต้ม จาก 6 นัด รั้งอันดับ 12 ของตาราง ส่วนทีมเยือนมี 2 แต้ม รั้งอันดับ 19 ของตาราง

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK), ริคาร์โด เปเรยร่า, ชักลาร์ โซยุนชู, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ไรอัน เบอร์ทรานด์, วิลเฟรด เอ็นดิดี, บูบาการี ซูมาเร่, ยูริ ตีเลอมองส์, อเดโมลา ลุคแมน, ฮาร์วีย์ บาร์นส์, เจมี วาร์ดี

เบิร์นลีย์ : นิค โปป (GK) แมทธิว ลอว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี, เบน มี, ชาร์ลี เทย์เลอร์, ดไวท์ แม็คนีล, แอชลีย์ เวสต์วูด, จอช บราวน์ฮิลล์, แม็กซ์เวล คอร์เน็ต, มาเตจ์ วีดรา, คริส วูด


ผลฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ 21.00น. ตามเวลาประเทศไทย
เอฟเวอร์ตัน 2-0 นอริช ซิตี
ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-2 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เลสเตอร์ ซิตี 2-2 เบิร์นลีย์
วัตฟอร์ด 1-1 นิวคาสเซิ่ล
#10917


เกิดเหตุช็อกในวงการมอเตอร์สปอร์ตอีกครั้ง เมื่อ เบอร์ทา บีญาเลส นักบิดดาวรุ่งวัยเพียง 15 ปี ชาวสแปนิช ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันรถจักรยานยนต์ ที่ประเทศสเปน บ้านเกิดของเขา

โดยการแข่งขันรถจักรยานยนต์เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ เอฟไอเอ็ม ซูเปอร์สปอร์ต 300 เวิลด์ แชมเปียนชิพ ที่เมืองเฆเรซ ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุอันน่าเศร้าเมื่อ เบอร์ทา บีญาเลส นักบิดวัย 15 ปี เสียหลักล้มในโค้งที่ 1 ซึ่งมีนักแข่งหลายรายที่ขับตามมาเสียหลักล้มไปด้วย

และจากอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ บีญาเลส ได้รับบาดเจ็บหนักที่สุด มีอาการช้ำที่ศีรษะ และบริเวณหน้าอก ทีมปฐมพยาบาลของสนามต้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยเฮลิคอปเตอร์ แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ฝ่ายจัดการแข่งขันออกมาประกาศยกเลิกโปรแกรมการแข่งขันในรุ่นที่เหลือทั้งหมดที่มีในวันที่ 25 กันยายน รวมถึงรุ่นใหญ่ อย่าง 'เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์' ด้วย

ทั้งนี้ เบอร์ทา บีญาเลส นักบิดวัย 15 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องของ มาเวอริค บีญาเลส นักแข่งระดับโมโต จีพี ชื่อดัง ซึ่งเขาลงแข่งขันในฐานะรุกกี้ รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 300 เป็นปีแรกในฤดูกาลนี้ ภายใต้สังกัด บีญาเลส เรซซิ่ง ทีม ซึ่งเป็นทีมของญาติตัวเอง
#10918
ซ่อมหม้อต้มสแตนเลส
ทำหม้อต้มสแตนเลส
เชื่อมหม้อต้มสแตนเลส
ผลิตหม้อต้มสแตนเลส