• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - fairya

#10848
ลงทองเรียกจิต เป็นการเรียกจิตให้อีกฝ่ายคิดถึง

ด้วยการเสกแผ่นทองคำเปลวแท้  100 %  ด้วยคาถาเรียกจิต  เพื่อเรียกจิตบุคคลที่ต้องการมาไว้ในแผ่นทอง  จากนั้นนำแผ่นทองที่ผ่านการเสกแล้ว  ไปติดตรงตำแหน่งกึ่งกลางหน้าผาก  โดยใช้สีผึ้งเรียกจิตทาก่อน  แล้วท่องคาถาเรียกจิตจนบุคคลที่ต้องการ  คิดถึงเรามากๆ 

ค่าครู 99  บาท
สนใจติดต่อ
โทร 0846623662
lide id : teerapat999

ลาซาด้า  คลิก
https://pdp.lazada.co.th/products/i2641064456.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.7dfb4edfDYXNoK

#10849


เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ที่ สภ.เมืองพิจิตร ร.ต.อ.วินัย อาสว่าง รอง สว.(ป.) กก.สืบสวน ภ.จว.พิจิตร นำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ส.ค.2564 หมายเลข 046750 จำนวน 5 ใบ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 รวมเงินรางวัล 30 ล้านบาท  เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับ ร.ต.ท.(หญิง)ศิราณี บัวพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิจิตร โดย ร.ต.อ.วินัย จะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.2564

ร.ต.อ.วินัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้ไปไหว้หลวงพ่อเพชร พระคู่บ้านคู่เมือง จ.พิจิตร พระประธานในโบสถ์วัดท่าหลวง พระอารามหลวง อ.เมืองพิจิตร โดยขอพรว่าขอให้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ตนและครอบครัวจะนำเงินไปทำบุญเพื่อสร้างหลังคาโบสถ์ที่ทางวัดท่าหลวงกำลังซ่อมแซมอยู่ 1 ล้านบาท โดยได้ซื้อเลขทะเบียนของรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ของตนเอง ทะเบียน ฮย 5750 กทม. ที่ค้างส่งมาหลายงวด โดยซื้อลอตเตอรี่หมายเลขดังกล่าวที่แผงขายลอตเตอรี่ข้างพระอุโบสถวัดท่าหลวง มา 5 ใบ และทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 เมื่อทางกองสลากประกาศผลออกมา


"สำหรับเงินจากโชคครั้งนี้ ตนจะนำไปทำบุญซ่อมแซมหลังคาโบสถ์วัดท่าหลวงตามที่ได้บนไว้ ส่วนเงินที่เหลือจะใช้หนี้ที่มี และเป็นทุนการศึกษาให้กับลูก 2 คน และเก็บไว้ใช้ในยามเกษียณอีกไม่กี่เดือนนี้" ผู้กองดวงเฮงกล่าวทิ้งท้าย
#10850
MEE SK FiR **นวัตกรรมอาหารผิว-เซลล์ ดูดซึม100%เข้าสู่เซลล์ใน5นาทีล่าสุดจากเกาหลี


อยากมีผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส่ฟังทางนี้ วิตามินบูสผิว สารสกัดเข้มข้น 18 ชนิด นวัตกรรมอาหารผิว อาหารเซลล์ ลิขสิทธิ์ระดับโลก 'หนึ่งเดียว'

ด้วยนวัตกรรม FiR FAR INFRARED...



อาหารผิวมาแรงที่สุด โมเลกุลเล็ก ดูดซึมไวเข้าสู่เซลล์ 'ภายใน 5 นาที

5 ประโยชน์ทำไม ต้องทาน ?

เสริมสร้างภูมิต้านทาน

ลดการเกิดสิวอักเสบ

ผิวเด็กกระจ่างใส

ช่วยบำรุงสายตา

ลดรอยดำ รอยแดง ริ้วรอย ฝ้า กระ

ดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

วิตามินสูงกว่า ทั่วไป 80 เท่า



โปรโมชั่นเปิดตัว   # เปิดบิล 2,699฿ เป็นตัวแทนติดบริษัท  ได้รับ 2 กล่อง



ไม่ต้องมีสต๊อกสินค้าเอง

ไม่ต้องแพ็คและส่งสินค้าเอง

ไม่มีความรู้ ก็เริ่มทำธุระกิจได้

กำไร 50-75%

มีทีมงานการตลาดสอนเทคนิคการขายฟรี

มีกลุ่มและทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาตลอด

สามารถเริ่มทำงานได้ทันที

  

เติมอาหารผิวเพียงวันละ 1-2 ม็ด (30 แคปซูล )

ปลอดภัย อย. 13-1-14959-5-1478



สนใจสั่งซื้อหรือสมัครตัวแทน

ไลน์ไอดี teerapat999

โทร 0846623662

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1230

 กดเข้าลิ้งค์นี้  ลงทะเบียนฟรี !!! เพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมการสร้างรายได้

https://www.metang-solution.com/member/register.php...







#10851


นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกรุงศรี ได้ประมาณการติดเชื้อล่าสุด (ณ วันที่ 15 ส.ค 64) จากสมมติฐานที่ผลของการล็อกดาวน์ และ วัคซีนมีประสิทธิภาพต่อการป้องกันการแพร่ระบาดที่ลดลง ผลการประมาณการพบว่าระดับสูงสุดของการติดเชื้อต่อวันในกรณีฐาน (base case) ถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงต้นเดือนก.ย.จากเดิมช่วงกลางเดือนส.ค.  โดยจะมีผู้ติดเชื้อรายวันประมาณ 26,000 ราย และจะมีการปรับตัวลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปช้ากว่าที่เคยคาดไว้ครั้งก่อนหน้า  


เนื่องจากข้อมูลทางสถิติพบว่า แม้วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ก็สามารถป้องกันอัตราการเสียชีวิตได้พอสมควร ดังนั้น ในระยะต่อไป จำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่อัตราการเสียชีวิตอาจจะลดลงได้หากมีผู้ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่งแล้ว
วิจัยกรุงศรี ยังได้ปรับแบบจำลองให้สามารถคาดการณ์ถึงจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวัน และพบว่าในกรณีฐาน เราจะคงยังเห็นจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงประมาณต้นถึงกลางเดือนก.ย. (อาจสูงถึง 250-300 คนต่อวัน) ส่งผลให้ การควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบเข้มงวดอาจจะยังคงมีต่อไปจนกว่าจะพ้นกลางเดือนต.ค.นี้ ที่อัตราการเสียชีวิตเริ่มจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกรุงศรี ขอติดตามปัจจัยเพิ่มเติมในช่วงหลังจากนี้อีกครั้ง คาดว่า มาตรการล็อกดาวน์น่าจะขยายเวลาต่ออกไปจนถึงสิ้นเดือนต.ค.นี้ ดังนั้น ยังคงประมาณการจีดีพีปีนี้ ไว้ที่ 1.2% ลดลงจากเดิมคาดไว้ที่ 2% และปี2565 จาก 4%ลดลงมาอยู่ที่  3%  ซึ่งการประมาณการครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ถูกจำกัด แม้การส่งออกจะช่วยพยุงให้เศรษฐกิจไทยได้ในระดับหนึ่ง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงเดือนส.ค. ซึ่งยอดติดเชื้อมากกว่าคาดว่าในเดือนส.ค.ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่จะอยู่ที่ 15,000 คนต่อวัน 
#10854


นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสที่ 2/2564 ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 7.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

โดยเศรษฐกิจไทยได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายตัวของการลงทุนรวม 8.1% ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการขยายตัว 27.5% สาขาอุตสาหกรรมขยายตัว  16.8% สาขาขนส่งขยายตัว 11.6% 

ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 2% โดยส่วนใหญ่เป็นการขยายตัวในภาคการส่งออก  การให้การบริการด้านอาหาร ขณะที่การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวโดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1.5 แสนคน จากประมาณการเดิม 5 แสนคน 

 "เศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่มีโมเมนตั้มของบางส่วนของการผลิตและกิจกรรมาทางเศรษฐกิจที่ลดลง ตั้งแต่การระบาดของโควิดที่รุนแรงขึ้นตั้งเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา" นายดนุชากล่าว


นอกจากนี้ สศช.ยังปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยทั้งปีในปีนี้ลงจากเดิมคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 1.5 - 2.5% เหลือ  0.7 - 1.2 % เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้ 

โดยคาดว่าเดือน ก.ย.จะเริ่มมีผู้ติดเชื้อลดลงหลังจากที่เดือน ส.ค.มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงสุด และเริ่มมีการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี รวมทั้งสามารถที่จะไม่มีการระบาดที่รุนแรงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ฐานการผลิต รวมทั้งการกระจายวัคซีนได้ 85 ล้านโดสในปี 2564

สำหรับคาดการณ์แนวโน้มทางเศรษฐกิจในปี 2564  ณ วันการแถลงในวันที่ 16 ส.ค.ที่สำคัญได้แก่ การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 1.1%  การบริโภคภาครัฐขยายตัวได้ 4.3% การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.7% การลงทุนภาครัฐลดลงเหลือ 8.7% ขณะที่การส่งออก สศช.คาดว่าจะขยายตัวได้ 16.3% 


สศช.ยังเสนอแนะประเด็นบริหารเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2564 7 ประเด็นสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาคได้แก่ 

1.การควบคุมสถานการณ์การระบาดให้อยู่ในวงจำกัด รวมทั้งการเร่งรัดจัดหาและการกระจายวัคซีนอย่างเพียงพอและทั่วถึง

2.การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน แรงงาน และภาคธุรกิจในช่วงที่การระบาดของโรคมีความรุนแรงและมีการดำเนินมาตรการควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวด  ควบคู่ไปกับการปรับมาตรการและดำเนินมาตรการเพิ่มเติมอย่างเหมาะสม เข้าถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับการระบาดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น การพิจารณามาตรการช่วยเหลือ
ภาคแรงงานผ่านมาตรการรักษาระดับการจ้างงาน ควบคู่ไปกับการพิจารณามาตรการสร้างงานใหม่
และมาตรการพัฒนาทักษะแรงงาน และมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมในลักษณะเฉพาะเจาะจงให้กับผู้ประกอบการธุรกิจในสาขาที่ได้รับผลกระทบรุนแรง

3.การดำเนินมาตรการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเมื่อสถานการณ์การระบาดผ่อนคลายลง โดยให้ความสำคัญกับมาตรการสนับสนุนการฟื้นตัวของการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวภายในประเทศ 

4.การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้า ควบคุมการแพร่ระบาดในฐานการผลิตที่สำคัญ การเร่งรัดแก้ไขปัญหาที่เป็นข้อจำกัดและอุปสรรคในการขนส่งสินค้า การแก้ไขปัญหาการขาดแรงงานต่างชาติในภาคการผลิต การขับเคลื่อนการส่งออกไปยังตลาดหลักที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน และการสร้างตลาดใหม่ให้กับสินค้าที่มีศักยภาพ การเร่งรัดการเจรจาความตกลงการค้าเสรีที่อยู่ในขั้นตอนของการเจรจาและเตรียมศึกษาเพื่อเจรจากับประเทศคู่ค้าสำคัญใหม่ ๆ

5.การรักษาแรงขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ

6.การส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน  และ 7.การรักษาบรรยากาศทางการเมืองและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
#10855


นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศรวม 7 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนหุ้นไทย 4 กองทุน กองทุน Super Savings (ชนิดเพื่อการออมพิเศษ) จำนวน 1 กองทุน และกองทุนหุ้นต่างประเทศ 2 กองทุน รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท แบ่งเป็นงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ส.ค. 2563 ถึงวันที่ 31 ก.ค. 2564 โดยกำหนดจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 19 ส.ค. 2564 มีจำนวน 5 กองทุน ได้แก่

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBSE) จ่ายปันผลในอัตรา 0.7500 บาทต่อหน่วย โดยมีการจ่ายระหว่างกาลแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2564 และวันที่ 20 พ.ค. 2564 ครั้งละ 0.2500 บาทต่อหน่วย เหลือจ่ายงวดนี้ 0.2500 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 20 รวมจ่ายปันผล 8.2100 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2554) กองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach ด้วยการคัดเลือกลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด และสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น ซึ่งจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจของหุ้นนั้นโดยลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว นอกจากนี้ กองทุนนี้จัดเป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. 2564)

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBENERGY) จ่ายปันผลในอัตรา 0.1500 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 10 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 3.5700 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งเมื่อ 28 มิถุนายน 2554) กองทุนมีนโยบายการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคของตลาดหุ้นไทยมากที่สุด กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (SCBBANKING)  จ่ายปันผลในอัตรา 0.200 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 8 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 3.9500 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งเมื่อ 28 มิ.ย.2554) กองทุนมีนโยบายการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหมวดธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของตลาดหุ้นไทยมากที่สุด

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBPIND) จ่ายปันผลในอัตรา 0.1354 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 6 รวมจ่ายปันผลแล้ว 0.9111 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2561) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดเพื่อการออม) จ่ายปันผลในอัตรา 0.1414 บาทต่อหน่วย โดยทั้งสองกองทุนมีนโยบายการลงทุนโดยเน้นการคัดสรรหลักทรัพย์รายตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานในไทยและสิงคโปร์ นอกจากนี้ การกระจายวัคซีนที่ครอบคลุมประชากรมากขึ้น จะส่งผลให้กองทุนได้รับประโยชน์ในระยะกลางถึงระยะยาว

สำหรับกองทุนหุ้นต่างประเทศอีก 2 กองทุน งวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.พ. 2564 – 31 ก.ค. 2564 โดยกำหนดจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 23 ส.ค. 2564 ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรป (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBEUEQ) จ่ายปันผลในอัตรา 0.2122 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 11 รวมจ่ายปันผลแล้ว 2.0017 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 26 ก.พ. 2557) กองทุนมีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ iShares STOXX Europe 600 (DE) โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี STOXX Europe 600 เพื่อให้ผลการดำเนินงานของกองทุนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี STOXX Europe 600 และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกล. อิควิตี้ (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBGEQ) จ่ายปันผลในอัตรา 0.3573 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 14 รวมจ่ายปันผลแล้วจำนวน 3.3618 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 14 ก.พ. 2556) กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ กองทุน Veritas Global Focus (กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลก

นายอาชวิณ กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าในช่วงแรกความกังวลต่อการระบาดของ COVID-19 รวมถึงการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าจะมีอิทธิพลต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังคงทรงตัวในระดับสูง ซึ่งทำให้เกิดการปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อป้องกันการติดเชื้อของประชากรที่เพิ่มขึ้นจนระบบสาธารณสุขไม่สามารถรองรับได้ ในขณะที่การกระจายการฉีดวัคซีนยังคงล่าช้าทำให้โอกาสการกลับมาเปิดประเทศในช่วงปลายปียังมีความท้าทายอยู่มาก โดยคงคาดการณ์ว่าการฉีดวัคซีนตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไปจะเร่งตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อภายในประเทศมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 และคาดว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกให้กับตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในเรื่องการลดวงเงินอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ สงครามทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ และเสถียรภาพของรัฐบาลจากการชุมนุมประท้วงที่เพิ่มขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

สำหรับภาพการลงทุนต่อตลาดหุ้นทั่วโลกมองว่ายังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง นำโดยประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และจีน ที่การกระจายวัคซีนมีความคืบหน้าอย่างมาก และประเมินว่าจะครอบคลุมในระดับที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมจากนโยบายภาครัฐที่นำนโยบายขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล โดยสหรัฐฯ มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่สูงกว่าช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ในส่วนยุโรปเองก็กำลังจะเริ่มงบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ระหว่าง 0.5-1.5% ต่อปีต่อเนื่องไปอีก 3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ยังต้องจับตาได้แก่ การส่งสัญญาณปรับลดมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งอาจจะลดการฉีดสภาพคล่องเข้าระบบในปี 2022 และเริ่มทำการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2023 นอกจากนี้ยังมีสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ
#10856


นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กนอ. ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 มีมติอนุมัติโครงการนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ภายใต้ชื่อนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ในรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานกับ บริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด พื้นที่โครงการอยู่ในตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา บนพื้นที่ประมาณ 1,181 ไร่ มูลค่าการลงทุนโครงการ  4,856 ล้านบาท

โดยพื้นที่โครงการอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 44 กิโลเมตร ท่าเรือแหลมฉบัง ประมาณ 60 กิโลเมตร และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ประมาณ 119 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้ระยะเวลาพัฒนาพื้นที่และระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกและเปิดให้บริการได้ภายใน 2 ปี ทั้งนี้ เมื่อเปิดดำเนินการแล้วจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 33,200 ล้านบาท เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 8,300 คน

มุ่งเน้นรองรับการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงและสมัยใหม่ ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอุปกรณ์กักเก็บพลังงานไฟฟ้าประจุสูง รวมถึงกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมตามโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ด้วย


โครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ตอบสนองต่อนโยบายการพัฒนาอีอีซีของรัฐบาล โดย กนอ. ได้รับมอบหมายให้จัดเตรียมพื้นที่รองรับนักลงทุน ซึ่ง กนอ.พิจารณาข้อเสนอของโครงการฯ แล้วเห็นว่าบริษัทฯมีความพร้อมในการพัฒนาโครงการฯ

รวมถึงโครงการฯ มีศักยภาพด้านทำเลที่ตั้ง มีเครือข่ายการคมนาคมที่มีศักยภาพเอื้อต่อการลงทุน คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี

อีกทั้ง โครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ แบ่งเป็นพื้นที่ประกอบกิจการประมาณ 70% และเป็นพื้นที่สาธารณูปโภคและพื้นที่สีเขียวรวมประมาณ 30% โดยได้นำแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ การจัดให้มีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่แนวกันชนเชิงนิเวศ (Eco-Belt) รอบพื้นที่โครงการฯ การจัดสรรพื้นที่สีเขียวภายในนิคมอุตสาหกรรม ไม่น้อยกว่า 10% และการนำน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดแล้วมาปรับปรุงคุณภาพ ก่อนนำกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ภายในโครงการ

ทั้งนี้ เมื่อเปิดดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ แล้ว คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในประเทศอีกประมาณ 33,200 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 8,300 คน ทำให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ นอกจากนี้ โครงการฯมีความเป็นไปได้ทางการตลาดสูง เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่เป้าหมายคือ พื้นที่อีอีซี ที่ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดภายใต้มาตรการส่งเสริมของอีอีซี ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และปัจจุบันมีผู้ประกอบการผลิตอุปกรณ์กักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่มีประจุสูง ยานยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์สำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ความสนใจพื้นที่โครงการแล้ว โดยคาดว่าจะขายพื้นที่และให้เช่าพื้นที่ทั้งหมดได้ภายใน 4 ปี
#10857
MEE SK FiR **นวัตกรรมอาหารผิว-เซลล์ ดูดซึม100%เข้าสู่เซลล์ใน5นาทีล่าสุดจากเกาหลี


อยากมีผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส่ฟังทางนี้ วิตามินบูสผิว สารสกัดเข้มข้น 18 ชนิด นวัตกรรมอาหารผิว อาหารเซลล์ ลิขสิทธิ์ระดับโลก 'หนึ่งเดียว'

ด้วยนวัตกรรม FiR FAR INFRARED...



อาหารผิวมาแรงที่สุด โมเลกุลเล็ก ดูดซึมไวเข้าสู่เซลล์ 'ภายใน 5 นาที

5 ประโยชน์ทำไม ต้องทาน ?

เสริมสร้างภูมิต้านทาน

ลดการเกิดสิวอักเสบ

ผิวเด็กกระจ่างใส

ช่วยบำรุงสายตา

ลดรอยดำ รอยแดง ริ้วรอย ฝ้า กระ

ดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

วิตามินสูงกว่า ทั่วไป 80 เท่า



โปรโมชั่นเปิดตัว   # เปิดบิล 2,699฿ เป็นตัวแทนติดบริษัท  ได้รับ 2 กล่อง



ไม่ต้องมีสต๊อกสินค้าเอง

ไม่ต้องแพ็คและส่งสินค้าเอง

ไม่มีความรู้ ก็เริ่มทำธุระกิจได้

กำไร 50-75%

มีทีมงานการตลาดสอนเทคนิคการขายฟรี

มีกลุ่มและทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาตลอด

สามารถเริ่มทำงานได้ทันที

  

เติมอาหารผิวเพียงวันละ 1-2 ม็ด (30 แคปซูล )

ปลอดภัย อย. 13-1-14959-5-1478



สนใจสั่งซื้อหรือสมัครตัวแทน

ไลน์ไอดี teerapat999

โทร 0846623662

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1230

 กดเข้าลิ้งค์นี้  ลงทะเบียนฟรี !!! เพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมการสร้างรายได้

https://www.metang-solution.com/member/register.php...







#10858
ลงทองเรียกจิต เป็นการเรียกจิตให้อีกฝ่ายคิดถึง

ด้วยการเสกแผ่นทองคำเปลวแท้  100 %  ด้วยคาถาเรียกจิต  เพื่อเรียกจิตบุคคลที่ต้องการมาไว้ในแผ่นทอง  จากนั้นนำแผ่นทองที่ผ่านการเสกแล้ว  ไปติดตรงตำแหน่งกึ่งกลางหน้าผาก  โดยใช้สีผึ้งเรียกจิตทาก่อน  แล้วท่องคาถาเรียกจิตจนบุคคลที่ต้องการ  คิดถึงเรามากๆ 

ค่าครู 99  บาท
สนใจติดต่อ
โทร 0846623662
lide id : teerapat999

ลาซาด้า  คลิก
https://pdp.lazada.co.th/products/i2641064456.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.7dfb4edfDYXNoK

#10859


ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ Live สดผ่าน facebook : คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Ecommerce กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดตัวโครงการ "เกษตรกร Happy" phase 2 เพื่อช่วยเกษตรกรชาวสวนลำไย เงาะ ลองกอง ในการขายผลไม้คุณภาพดี สดจากสวน ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นแผนการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงและเข้าขั้นวิกฤต จนทำให้มีการเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ทั้งในและต่างประเทศ ตลาดต่างประเทศมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากขึ้น ระบบขนส่งระหว่างประเทศเกิดความติดขัด ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน แรงงานและผู้ค้า

 รวมทั้งบริษัทขนส่งในประเทศติดโควิดเพิ่มมากขึ้น ผู้ส่งออกและล้งลดจำนวนลง ในขณะที่ผลไม้อยู่ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวพร้อม ๆ กัน ทั้งมังคุด เงาะ ลำไย และลองกอง เป็นต้น โครงการนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1) รณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยภายในประเทศ 2) เพิ่มกิจกรรมการค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อระบบการค้าที่เป็นธรรม และ 3) ยกระดับราคา เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ภายใต้แนวคิด "คนกินยิ้มได้ เกษตรกรไทยแฮปปี้" และ "คนไทยไม่ทิ้งกัน"


        และจากการดำเนินโครงการ "เกษตรกร Happy" phase 1 ในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมังคุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งได้รับความรวมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กรมประชาสัมพันธ์ ททบ.5 กองทัพบก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, บริษัท แกร็บ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท เซ็นทรัล กรุ๊ป จำกัด, เครือข่ายร้านธงฟ้า คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Ecommerce คณะกรรมการธุรกิจเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะสื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยในการสื่อสารรณรงค์จนประสบความสำเร็จ และสามารถระบายมังคุดออกจากกลไกตลาดและรักษาเสถียรภาพราคาได้ในระดับที่น่าพอใจ


"ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันดำเนินโครงการเกษตรกร Happy ซึ่งในวันนี้เป็นการดำเนินโครงการเฟส 2 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่กำลังออกตามฤดูกาล ทั้งลำไย ลองกอง และเงาะ โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการในหลายมิติ ทั้งการรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย การขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้อุดหนุนผลไม้ไทย และได้มอบ หมายปลัดเกษตรฯ ตั้งทีมกระจายผลไม้เฉพาะกิจ เพื่อประสานงานไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ

            สำหรับการแก้ไขปัญหาด้านการส่งออกลำไย ตามที่จีนมีหนังสือเพื่อให้ไทยสั่งระงับการส่งออกลำไยจาก66 ล้งที่ตรวจพบเพลี้ยแป้งปนเปื้อน นั้น กรมวิชาการเกษตรอยู่ระหว่างเจรจากับจีนโดยต่อรองให้จีนอนุโลมให้ล้งที่ตรวจพบเพลี้ยแป้งไม่มาก และไทยพร้อมจะสุ่มตรวจเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 % เป็น 5-10 %  คาดว่าจีนจะรับข้อเสนอของไทย  

            นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ ยังอยู่ระหว่างประสานกับเวียดนามเพื่อให้เปิดตลาดกับไทยด้วย  อย่างไรก็ตาม การดำเนินการจะประสบความสำเร็จได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน กระทรวงเกษตรฯ จึงพยายามเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นและง่ายที่สุด จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องหันมาบริโภคผลไม้ไทย และร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในตลาดโลกและตลาดภูมิภาค เช่น มีพื้นที่เพาะปลูกถึง 7 ล้านไร่ สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกถึง 1 แสนล้านบาทต่อปี ทั้งผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง และผลไม้แปรรูป ซึ่งในปี 2564 ได้ประมาณการว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น 23% จากปีที่ผ่านมา จาก 4.4 ล้านตัน เป็น 5.4 ล้านตัน และถึงแม้ว่าเราจะเผชิญกับสถานการณ์การโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563

 

กระทรวงเกษตรฯ ได้บริหารจัดการเชิงรุก โดยได้เร่งพัฒนาการบริหารผลไม้จัดการทั้งระบบ ตั้งแต่การผลิต การสร้างมาตรฐาน GAP/GMP การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างแบรนด์ผลไม้ การบริหารโลจิสติกส์ ตลอดจนการตลาดสมัยใหม่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ผลไม้สามารถครองแชมป์การส่งออก ด้วยอัตราการเติบโตสูงถึง 185% ทุเรียนส่งออกขยายตัว 172% และมังคุดเติบโตถึง 488% ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรโดยรวม มีมูลค่า 71,473 ล้านบาท โดยมีอัตราการขยายตัวสูงสุดถึง 59.8% นับเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี และเป็นการขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่องกัน