• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - fairya

#10819


Shop.com พอร์ทัลแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาได้เสนอทางเลือกในการชำระเงินด้วย Bitcoin, Ether และ Dogecoin รวมถึงเหรียญ Stablecoin หลัก ๆ หลายสกุล ซึ่งกลายเป็นเว็บไซต์ล่าสุดที่ใช้การชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล

จากการรายงานของ cointelegraph ระบุว่า Shop.com บริษัทช็อปปิ้งออนไลน์ในสหรัฐซึ่งเป็นกิจการของ Market America ประกาศความร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงิน Crypto Lottovip BitPay โดยจะช่วยให้สามารถรับชำระเงินในสกุลเงินดิจิทัลได้หลายสกุล รวมถึง Bitcoin (BTC)

อย่างไรก็ตามความร่วมมือครั้งใหม่ทำให้ผู้ใช้ Shop.com เลือกตัวเลือก BitPay ระหว่างการชำระเงินเพื่อชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิตอลคริปโตในหลายสกุลเงิน โดยปัจจุบัน BitPay มีตัวเลือกในการชำระเงินด้วยเหรียญสกุลต่าง ๆ ได้แก่ Bitcoin (BTC), Bitcoin Cash (BCH), Ether (ETH), Wrapped Bitcoin (WBTC), Dogecoin (DOGE) และ Litecoin (LTC) รวมถึงเหรียญ Stablecoin ที่ตรึงด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ

ด้าน สตีฟ แอชลีย์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Shop.com อธิบายว่าการเป็นหุ้นส่วนเป็นบทต่อไปในการทำธุรกิจ กล่าวว่าการรวม BitPay นั้นสามารถใช้ได้ในทุกประเทศที่ Market America ดำเนินการ รวมถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ฮ่องกง ไต้หวัน สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และมาเลเซีย

ทั้งนี้ BitPay ถูกใช้โดยบริษัทที่มักจะจัดการกับสกุลเงิน fiat เพื่อทำหน้าที่เป็นเกตเวย์สำหรับการชำระเงินด้วยคริปโตในธุรกิจต่างๆ เช่น Las Vegas Auto Gallery และโรงแรมหรูในอเมริกา The Kessler Collection โดยได้ลงนามในข้อตกลงกับ BitPay เพื่อรับการชำระเงินด้วย Bitcoin

อย่างไรก็ตามจากการศึกษาล่าสุดโดยผู้ให้บริการชำระเงิน Crypto เปิดเผยว่าทั้งผู้ถือ Crypto และผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของแสดงความสนใจอย่างชัดเจนในการชำระเงิน Crypto

ตามที่ Cointelegraph รายงานไปก่อนหน้านี้ว่าผู้ใช้ Crypto มากถึง 93% ระบุว่าพวกเขาจะพิจารณาซื้อ Crypto ในอนาคต ในขณะที่ 59% ของผู้บริโภคที่ไม่เคยถือ Crypto สนใจที่จะใช้เพื่อซื้อสินค้า
 
#10820
MEE SK FiR **นวัตกรรมอาหารผิว-เซลล์ ดูดซึม100%เข้าสู่เซลล์ใน5นาทีล่าสุดจากเกาหลี


อยากมีผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส่ฟังทางนี้ วิตามินบูสผิว สารสกัดเข้มข้น 18 ชนิด นวัตกรรมอาหารผิว อาหารเซลล์ ลิขสิทธิ์ระดับโลก 'หนึ่งเดียว'

ด้วยนวัตกรรม FiR FAR INFRARED...



อาหารผิวมาแรงที่สุด โมเลกุลเล็ก ดูดซึมไวเข้าสู่เซลล์ 'ภายใน 5 นาที

5 ประโยชน์ทำไม ต้องทาน ?

เสริมสร้างภูมิต้านทาน

ลดการเกิดสิวอักเสบ

ผิวเด็กกระจ่างใส

ช่วยบำรุงสายตา

ลดรอยดำ รอยแดง ริ้วรอย ฝ้า กระ

ดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

วิตามินสูงกว่า ทั่วไป 80 เท่า



โปรโมชั่นเปิดตัว   # เปิดบิล 2,699฿ เป็นตัวแทนติดบริษัท  ได้รับ 2 กล่อง



ไม่ต้องมีสต๊อกสินค้าเอง

ไม่ต้องแพ็คและส่งสินค้าเอง

ไม่มีความรู้ ก็เริ่มทำธุระกิจได้

กำไร 50-75%

มีทีมงานการตลาดสอนเทคนิคการขายฟรี

มีกลุ่มและทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาตลอด

สามารถเริ่มทำงานได้ทันที

  

เติมอาหารผิวเพียงวันละ 1-2 ม็ด (30 แคปซูล )

ปลอดภัย อย. 13-1-14959-5-1478



สนใจสั่งซื้อหรือสมัครตัวแทน

ไลน์ไอดี teerapat999

โทร 0846623662

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1230

 กดเข้าลิ้งค์นี้  ลงทะเบียนฟรี !!! เพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมการสร้างรายได้

https://www.metang-solution.com/member/register.php...







#10821
ลงทองเรียกจิต เป็นการเรียกจิตให้อีกฝ่ายคิดถึง

ด้วยการเสกแผ่นทองคำเปลวแท้  100 %  ด้วยคาถาเรียกจิต  เพื่อเรียกจิตบุคคลที่ต้องการมาไว้ในแผ่นทอง  จากนั้นนำแผ่นทองที่ผ่านการเสกแล้ว  ไปติดตรงตำแหน่งกึ่งกลางหน้าผาก  โดยใช้สีผึ้งเรียกจิตทาก่อน  แล้วท่องคาถาเรียกจิตจนบุคคลที่ต้องการ  คิดถึงเรามากๆ 

ค่าครู 99  บาท
สนใจติดต่อ
โทร 0846623662
lide id : teerapat999

ลาซาด้า  คลิก
https://pdp.lazada.co.th/products/i2641064456.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.7dfb4edfDYXNoK

#10825


ดร.ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม ซึ่งดูแลงานด้าน การประกันคุณภาพ กล่าวว่า ชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด ยี่ห้อ SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Kit ของบริษัทออสแลนด์ แคปปิตอล จำกัด และจัดจำหน่ายโดยบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จะได้เริ่มทยอยนำเข้ามาล็อตแรกโดยทางเครื่องบินต้นสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ก่อนนำชุดตรวจ ATK ไปจัดส่งให้หน่วยบริการต่าง ๆ นั้น องค์การฯจะตรวจรับสินค้าตาม TOR โดยตรวจประเมินจากใบตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ หรือเอกสารรับรองผลิตภัณฑ์ (COA) ว่ามีคุณภาพเป็นไปตาม TOR ของผู้สั่งซื้อ จากนั้นจะทำการสุ่มตัวอย่างไปทดสอบคุณภาพที่ห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานของคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี


โดยทำการตรวจวิเคราะห์ในหัวข้อ ความไวเชิงวินิจฉัย (Diagnostic sensitivity) ความจำเพาะเชิงวินิจฉัย (Diagnostic specificity) ความไม่จำเพาะต่อเชื้อ (Non-Specificity) ตามเกณฑ์การทดสอบที่อย.กำหนด เมื่อผลการทดสอบคุณภาพผ่านก็จะกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่หน่วยบริการต่อไป

ทำการสุ่มตัวอย่าง ตรวจคุณภาพ 'ATK'ล็อตแรก 
ขณะเดียวกันองค์การฯจะทำการสุ่มตัวอย่าง เพื่อเก็บเป็นตัวอย่างอ้างอิงในการตรวจวิเคราะห์หลังจากการนำไปใช้งาน (Retained Sample) ควบคู่กันไปด้วย ในกรณีที่มีข้อร้องเรียนจากผู้บริโภค ทางบริษัทผู้จำหน่ายจะต้องสืบหาสาเหตุ และแนวทางการป้องกัน แจ้งมายังองค์การฯ เพื่อประเมินและติดตามผลการแก้ไขป้องกันปัญหาดังกล่าวต่อไป

ในกรณีที่มีปัญหาคุณภาพจนต้องมีการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ (Recall) บริษัทผู้จำหน่ายต้องเรียกเก็บผลิตภัณฑ์คืน พร้อมชดใช้และแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค และทำรายงานผลการเรียกเก็บผลิตภัณฑ์คืน ส่งให้องค์การฯ ทำการประเมินประสิทธิผลของการเรียกคืนทุกครั้ง


ทั้งนี้ การขนส่งและจัดเก็บชุดตรวจทดสอบ ATK ทั้งหมดจะมีการควบคุมอุณหภูมิตามที่ผู้ผลิตระบุตลอดกระบวนการห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เตรียมความพร้อมของห้องปฏิบัติการไว้ตรวจประเมินคุณภาพชุดตรวจ ATK จากการสุ่มตรวจอย่างชุดตรวจ ATK ที่ผู้จัดจำหน่ายนำเข้ามาเพื่อส่งมอบให้องค์การฯ ที่ผ่านมาห้องปฏิบัติการนี้ได้ทำการตรวจประเมินคุณภาพชุดตรวจ ATK ที่นำไปขึ้นทะเบียนกับอย. ไปแล้วมากกว่า 50 ยี่ห้อ

ห้องปฏิบัติการนี้ได้รับรองมาตรฐานการรับรองความสามารถ ห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์ ISO 15189 และผ่านการรับรองมาตรฐานการตรวจสารพันธุกรรมที่ผ่านการทดสอบความชำนาญทางห้องปฏิบัติการเครือข่ายตรวจ SARS-CoV-2 ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

โดย เกณฑ์การทดสอบหรือวิเคราะห์ชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยชุดตรวจ ATK นั้น ใช้ข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งคณะผู้ทรงคุณวุฒิ จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ สภาเทคนิคการแพทย์ ร่วมเป็นผู้กำหนดโดยอ้างอิงมาตรฐานสากลจากหลายๆองค์กรในต่างประเทศ


สำหรับกระบวนการตรวจสอบคุณภาพชุดตรวจ ATK นั้น ทางห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยา ฯ จะนำตัวอย่างชุดตรวจATK ที่สุ่มไว้มาทำการทดสอบกับตัวอย่างจากผู้ป่วยโควิด โดยดำเนินการตามขั้นตอนการตรวจของชุดทดสอบATK ยี่ห้อนั้นๆ จากนั้นจะทำการสรุปผลการตรวจสอบคุณภาพของATK ในรุ่นผลิตนั้นให้แก่องค์การฯดำเนินการต่อไป

หากผลการตรวจสอบคุณภาพชุดตรวจ ATK ผ่าน องค์การฯจึงจะทำการกระจายให้หน่วยบริการต่อไป แต่หากผลการตรวจคุณภาพไม่ผ่าน จะทำการส่งคืนชุดตรวจ ATK ดังกล่าว และบริษัทจะรับผิดชอบเปลี่ยนชุดตรวจ ATK รุ่นผลิตใหม่มาให้ และเข้าสู่การกระบวนการทดสอบตามรายละเอียดข้างตนต่อไป
#10826


มาตรการล็อกดาวน์ที่ยาวนานทำให้เศรษฐกิจพังพินาศ ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส แบงก์ชาติตอกย้ำย่ำแย่ลงทุกภาคส่วน ทำให้รัฐบาลตัดสินใจคลายล็อกโดยอ้างตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง ยอดวัคซีนเพิ่มขึ้น แต่จริงๆ แล้วต้องดูว่ายอดคนตายจากโควิด-19 ยังสูง ขณะที่วัคซีนเข็ม2ได้ฉีดกันไม่ถึงสิบล้านคน ทำให้น่าห่วงว่าเปิดเมืองโดยที่ยังไม่พร้อมจริงจะยิ่งทำให้เกิดการระบาดหนักในระลอกถัดไปซ้ำรอยเหมือนที่เคยเป็นมาหรือไม่ 

ดูเหมือนสภาพการณ์จะกลายเป็นปัญหางูกินหาง แต่ถึงนาทีนี้แล้ว "รัฐบาลลุง" จำเป็นต้องตัดสินใจคลายล็อกดาวน์ต่อลมหายใจเศรษฐกิจที่รวยรินเต็มทีให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง เพราะอย่างที่ตัวเลขฟ้องแม้จะออกมาตรการล็อกดาวน์แน่นหนาปานใด ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งเอาๆ เพิ่งกดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันลงต่ำกว่าสองหมื่นไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง เป็นภาพสะท้อนว่าจะล็อกหรือคลายล็อกก็คงไม่แตกต่างกันกระมัง อีกทั้งยังปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปในทิศทางใดขึ้นอยู่กับ "วัคซีน"  เป็นหลัก ทั้งคุณภาพของวัคซีนและการกระจายฉีดให้ประชาชนได้ทั่วถึงจริงๆ

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การเปิดเมืองให้ประชาชนทำมาหากินย่อมดีกว่าปิดต่อเนื่องยาวนานไปโดยไม่รู้ชะตาอนาคตจะอยู่จะกินอย่างไร ดังนั้น แม้จะมีความหวาดหวั่นถึงผลที่จะตามมาโดยเฉพาะการแพร่ระบาดรอบใหม่ แต่ก็มีเสียงตอบรับด้วยความยินดียิ่ง ตลาดสดยันห้างใหญ่น้อยที่เงียบเหงาพลันคึกคักมีชีวิตชีวา ร้านรวงต่างทำความสะอาดจัดเตรียมข้าวของรอผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย สายการบินต่างๆ ที่จอดนิ่งสนิทต่างเตรียมเปิดบินในประเทศกันถ้วนหน้า

อย่างที่ พญ.อภัสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ว่าไม่มีปรับพื้นที่สียังคง 29 จังหวัดสีแดงเหมือนเดิม แต่ปรับมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด และอนุญาตให้เปิดกิจการตามความพร้อมและจำเป็น * ... เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด ...."  

เป็นที่มาของการคลายล็อกให้เดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดได้ รถโดยสารรับคนได้ไม่เกิน 75% การเดินทางไปทำงานของแรงงานให้ใช้ระบบ seal route ตามมาตรการ Bubble and Seal ขณะที่ร้านอาหารนอกอาคารไม่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งรับประทานได้ 75% และร้านที่มีเครื่องปรับอากาศให้นั่งรับประทานได้ 50% เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดบริการได้ทุกแผนก ยกเว้นกิจการที่ให้เปิดแบบมีเงื่อนไข คือ ร้านเสริมสวย ตัดผม-แต่งผม เปิดได้เฉพาะตัดผมไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ร้านนวดเปิดได้เฉพาะนวดเท้า คลินิกเสริมความงาม เปิดขายสินค้าและนัดหมายลูกค้าล่วงหน้าได้ ส่วนกิจการ/กิจกรรมที่ยังไม่เปิดบริการ ได้แก่ สถาบันกวดวิชา, โรงภาพยนตร์, สปา, สวนสนุก, สวนน้ำ, ฟิตเนส, ห้องออกกำลังกาย, สระว่ายน้ำ, ห้องจัดประชุม/จัดเลี้ยง เป็นต้น

สำหรับการใช้อาคารของสถานศึกษาหรือการเปิดเรียน ขึ้นอยู่กับความเห็นของกระทรวงศึกษาฯ และกระทรวงอุดมศึกษาฯ, การเปิดใช้สนามกีฬา สวนสาธารณะ เปิดใช้ได้ รวมทั้งสนามกีฬาในร่ม ไม่มีระบบปรับอากาศ สามารถเล่น ซ้อม แข่งขันแบบไม่มีผู้ชมได้ขณะที่เคอร์ฟิวหรือห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 21.00 น.- 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น และมาตรการการปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย (Work From Home) ยังคงใช้ต่อไปอย่างน้อย 14 วัน

 คลายล็อกรอบนี้ มีหลักการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับเปิดกิจการ/จัดกิจกรรมให้ปลอดภัยและยั่งยืนด้วยม็อตโต้สวยหรูว่า "COVID-Free Setting" หรือ มาตรการ "ปลอดโควิด" ด้วยการรักษาสุขอนามัย มีระบบระบายอากาศดี เว้นระยะห่าง บุคลากรได้รับวัคซีนต้านโควิดครบตามเกณฑ์และได้รับการตรวจหาเชื้อด้วย ATK เป็นประจำ และ "Universal Prevention" มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล หมายถึงการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาเสมือนว่าทุกคนรวมทั้งตัวเองเป็นผู้ติดเชื้อ โดยเริ่มนับหนึ่งคลายล็อกรอบใหม่ 1 กันยายน 2564 ในพื้นที่นำร่อง หรือสถานที่ที่มีความพร้อมเริ่มใช้มาตรการ 1 ตุลาคม 2564 ตามเสียงเรียกร้องของ 9 สมาคมภาคธุรกิจที่ได้ยื่นหนังสือถึง ศบค. ก่อนหน้านี้ 

ถึงแม้การเปิดเมืองจะเป็นการส่งสัญญาณว่าสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น กระทั่งตลาดหุ้นเด้งรับข่าวดีกราฟพุ่งทะลุ 1,600 จุด ไปหลายวัน ทว่า มีเสียงทักท้วงจากนักเศรษฐศาสตร์ที่ออกมาแสดงความห่วงใยเกรงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดจะหวนกลับมาหนักหน่วงอีกครั้งอย่างรอบที่สามหลังการผ่อนคลายช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อเดือนเมษายน 2564 ที่ต้องปิดล็อกลากยาวมาจนถึงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ดังที่  นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคินภัทร ทักท้วงว่า อัตราการเสียชีวิตยังขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อัตราติดเชื้อลดลงแต่ไม่รู้เป็นตัวเลขจริงหรือไม่ เพราะ positive rate ยังสูงมาก แต่ไม่ตรวจก็ไม่เจอ ห้องไอซียูยังแน่น ที่สำคัญอัตราการฉีดวัคซีนสองเข็มยังต่ำกว่า 10% แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคตเพราะวัคซีนเริ่มเข้ามาแล้วแต่ยังไม่เพียงพอ และอย่างที่เห็นในต่างประเทศฉีดแล้วก็ยังมีระบาดแบบรุนแรงจนล้นโรงพยาบาลได้ คำถามคือ ถ้าเรายังเห็นภาพไม่ชัดเจนแบบนี้ทำไมรัฐบาลถึงไม่กังวลแบบที่เคยกังวล และถ้าดูสถานการณ์ในต่างประเทศแล้วมันน่ากลัวมากจริงๆ กับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น กลยุทธ์ที่หลายประเทศใช้คือ delay and vaccinate คือปิดเมืองเพื่อลดการติดเชื้อเพื่อซื้อเวลาให้ฉีดวัคซีนได้มากที่สุด ..... ถ้าจะปลดล็อกดาวน์ก็จำเป็นต้องมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงกว่านี้ ไม่งั้นจะเหมือนปล่อยให้คนสวมเสื้อยืดเดินเข้าไปในทุ่งระเบิด อย่างน้อยควรให้ใส่เสื้อเกราะกันระเบิดสักหน่อยไหม?

ขณะเดียวกัน  นายพูน พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อในทำนองเดียวกันว่า การปลดล็อกดาวน์รอบนี้อาจทำให้ไทยมีความเสี่ยงต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในอีก 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตรายวันของไทยยังอยู่ในระดับสูง อีกทั้งการตรวจผู้ติดเชื้อก็ยังทำได้ไม่ครอบคลุมพอ ปัจจุบันอัตราการตรวจพบเชื้อ (Positive Rate) ของไทยอยู่ที่ 24% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของ WHO ที่ 5% ค่อนข้างมาก การคลายล็อกอาจเร็วไปจึงเสี่ยงกับการแพร่ระบาดอีก ภาพผู้ป่วยเสียชีวิตคาบ้านเพราะหาเตียงไม่ได้อาจวนกลับมาซ้ำ กระทบความเชื่อมั่นของประชาชนและภาวะเศรษฐกิจ หากดูตัวอย่างจากอังกฤษและอินเดีย จะเห็นว่าช่วงเวลาในการคลายล็อกดาวน์ที่เหมาะสมคือจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจากจุดพีคแล้ว 60% ซึ่งกรณีของไทย เชื่อว่าจุดพีคผ่านไปแล้วที่ 22,000 คนต่อวัน ดังนั้นจังหวะที่ควรคลายล็อกคือเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเหลือ 8,000 คนต่อวัน



ใครจะทักท้วง ตั้งข้อสังเกตด้วยความห่วงใยก็ว่าไป แต่สำหรับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีหน้าที่เรียกความเชื่อมั่นในการปลดล็อกคราวนี้ได้ออกมาอวดถึงผลงานการรักษาผู้ติดเชื้อหายแล้วนับล้าน และยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลงจริงๆ โดย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนผู้หายป่วยรายวันมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ซึ่งมีแนวโน้มลดลง และจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลลดลงชัดเจน เช่น โรงพยาบาลสนามบุษราคัม จากเคยมีผู้ป่วยมากกว่า 3,500 คน ลดเหลือ 1,500 คน ศูนย์นิมิบุตรมีผู้ป่วยรอส่งต่อเหลือไม่ถึง 70 คน ภาพรวมมีผู้ป่วยที่รักษาหายสะสมแล้ว 1,040,768 ราย จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,219,531 ราย วันนี้ มีผู้ที่หายป่วย 18,996 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 14,802 ราย (ตัวเลข ณ วันที่ 1 กันยายน 2564)

ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนของประเทศไทย ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 มีผู้ได้รับวัคซีนสะสมแล้ว 32,600,001 โดส ถือว่าฉีดได้เกินเป้าหมาย เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 23,975,098 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 8,212,750 ราย เข็มที่ 3 สำหรับบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องสัมผัสผู้ป่วย 592,153 ราย

การออกมาอวดผลงานรับวันปลดล็อกของปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีคำถามกลับมาจากชมรมแพทย์ชนบท ที่ออกมาแตะเบรกว่าอย่าเพิ่งดีใจไป โดยโพสเฟซบุ๊กว่า "อย่าเพิ่งรีบดีใจ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลด ส่วนหนึ่งเพราะการตรวจคัดกรองน้อย ข้อสังเกตประการสำคัญในการดูตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่คือ จำนวนการตรวจคัดกรองด้วย RTPCR หากตรวจน้อยก็ย่อมจะพบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่น้อย ตรงไปตรงมา ปัจจุบันการนับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่นับจาก RTPCR เท่านั้น ไม่นับรวมผลจากการตรวจ ATK ไว้ด้วย ระบบการรายงานการตรวจ ATK ของประเทศก็ยังไม่ลงตัว

"ที่น่าสนใจคือ ยอดการตรวจ RTPCR นั้น ลดลงมาเรื่อยๆ จากเดิมเฉลี่ยที่ 70,000 รายต่อวัน ช่วงสัปดาห์นี้เหลือเพียง 47,485 ราย แน่นอนว่าตรวจลดลงก็ย่อมพบผู้ติดเชื้อลดลง คาดว่าเมื่อมีการเปิดให้ประชาชนเคลื่อนย้ายเดินทางอีกครั้ง การติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นมาได้อีกระลอก จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง นี่จึงเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องดูข้อมูลประกอบเวลาเห็นตัวเลขของผู้ติดเชื้อ" ชมรมแพทย์ชนบท ชวนให้คิดพิจารณา

แต่ไม่ว่าจะยังล็อกหรือคลายล็อกผลกระทบต่อเศรษฐกิจยังคงหนักหน่วง ตามรายงานภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา โดย นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. ให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือนกรกฎาคม 2564 ว่าได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการบริโภคภาคเอกชนลดลงตามกำลังซื้อที่อ่อนแอและมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม รายได้ครัวเรือน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับลดลง มาตรการภาครัฐช่วยพยุงกำลังซื้อได้เพียงบางส่วน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนเช่นกัน สอดคล้องกับภาวะอุปสงค์และความเชื่อมั่นของธุรกิจที่อ่อนแอลง รวมทั้งผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการควบคุมการระบาดในพื้นที่ก่อสร้างที่เข้มงวดขึ้น

ด้านการส่งออกสินค้าแผ่วลงจากเดือนก่อนหน้าประมาณ 0.8% จากอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวตามการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นในบางประเทศ และการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งกระทบต่อการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงาน ส่งผลกระทบต่อการส่งออกอาหารแปรรูป โดยการส่งออกสินค้าบางหมวดยังเพิ่มขึ้น เช่น สินค้าเกษตร ข้าว ยางพารา สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และโลหะ

สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะหมวดยานยนต์ ปิโตรเลียม และวัสดุก่อสร้าง ก็แผ่วลงตามภาวะอุปสงค์ของคู่ค้า ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และเซมิคอนดักเตอร์ รวมทั้งการหยุดการผลิตชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงานยังกดดันการผลิตในหลายหมวด ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยการนำเข้ายังเพิ่มขึ้นในบางหมวดสินค้า อาทิ เชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ขณะที่บางหมวดมีการนำเข้าลดลง โดยเฉพาะรถยนต์ สอดคล้องกับกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอลง

สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่สัดส่วนยังน้อยเมื่อเทียบกับภาวะปกติ จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังมีอยู่ ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน แต่หากไม่รวมเงินโอน การใช้จ่ายภาครัฐทรงตัว โดยรายจ่ายประจำขยายตัวจากทั้งรายจ่ายค่าตอบแทนบุคลากร และรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ขณะที่รายจ่ายลงทุนหดตัว โดยเฉพาะการเบิกจ่ายของรัฐบาลกลาง จากผลของฐานสูงที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในปีก่อน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงจากผลของฐานต่ำในปีก่อนที่ทยอยหมดลง และมาตรการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปาในเดือนนี้ของภาครัฐ ส่วนตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อนตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลลดลงตามการส่งออกสินค้าที่แผ่วลงเป็นสำคัญ อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงกว่าสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่งส่วนใหญ่ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศที่ยืดเยื้อ

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในเดือนสิงหาคม 2564 กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังถูกกดดันจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงและมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้น รวมทั้งต้องติดตามผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากปัญหาซับพลายดิสรัปชัน รวมทั้งการแพร่ระบาดในโรงงาน และการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงเศรษฐกิจคู่ค้าที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น

ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. มองภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2564 ยังเป็นไปตามคาดการณ์ แม้ว่าจะเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วน ตั้งแต่ 1 กันยายน ก็ยังเป็นไปตามที่คาดว่าจะเริ่มคลี่คลายช่วงปลายไตรมาส 3/2564 แต่ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบ โดยเฉพาะเรื่องซับพลายดิสรัปชัน การแพร่ระบาดในโรงงาน และสถานการณ์แพร่ระบาดในต่างประเทศ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะพิจารณาปรับประมาณการอีกครั้งในรอบต่อไป

  "ต่อให้เปิดเมืองก็มีเรื่องความเชื่อมั่นประชาชนด้วยว่าจะมากน้อยแค่ไหน มีหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม มาตรการภาครัฐช่วงที่ผ่านมามีการอัดฉีดเรื่องการเยียวยา ขึ้นอยู่กับประชาชนที่ได้รับการช่วยเหลือจะออกมาจับจ่ายใช้สอยมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคงต้องติดตามดูในเดือนกันยายนนี้ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร"นางสาวชญาวดี กล่าว 

ตัวเลขและสัญญาณจากแบงก์ชาติยังน่ากังวล แต่สำหรับภาคเอกชนดูเหมือนจะมีความหวังขึ้นมาบ้าง โดยที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ต่างปรับเป้าจีดีพีและส่งออกปีนี้เพิ่มขึ้นรับการคลายล็อกและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว

 นายผยง ศรีวณิช  ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้นจนนำมาสู่การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงแผนการจัดหาวัคซีนที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี และเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว กกร.จึงปรับคาดการณ์การเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี 2564 เพิ่มขึ้นจากกรอบเดิม -0.5% ถึง 0% มาอยู่ในกรอบ -0.5% ถึง 1.0% การส่งออกจากเดิม 10% ถึง 12% เป็น 12%-14% ส่วนอัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเดิม 1% ถึง 1.2%

 เขายังมองว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้น่าจะดีขึ้นหากการฉีดวัคซีนได้ตามแผนที่รัฐบาลวางไว้ โดยสองปัจจัยหลักต้องเอื้ออำนวย คือ Supply chain ของภาคการผลิตใน Bubble & Seal ต้องไม่หยุดชะงัก และการควบคุมโควิด-19 ได้ดีแล้วรัฐสามารถเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ทันไฮซีซั่นส์ในช่วงปลายปีก็จะสร้างบรรยากาศให้ดียิ่งขึ้นได้ แต่หากการระบาดแย่ลงก็ย่อมนำไปสู่ภาวะเสี่ยง 

ประธาน กกร. ยังให้ความเห็นว่า หน่วยงานรัฐได้ประเมินเศรษฐกิจปี 2565 จะเติบโตได้ 3% ถึง 5% ถือว่าการเติบโตในระดับนี้ต่ำเกินไป และทำให้ระดับกิจกรรมเศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังอยู่ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 ส่งผลให้ธุรกิจจำนวนมากยังบอบช้ำ ดังนั้น เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจฟื้นตัวโดยเร็วรัฐควรวางเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ท้าทายขึ้นเป็น 6-8% ซึ่งเป็นไปได้เพราะคนไทยกว่า 50% ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว โดยรัฐต้องเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจาก 60% เป็น 70-80% ซึ่งจะทำให้มีเงินเข้ามาเพิ่มเติมอีกราว 0.7-1.5 ล้านล้านบาท เน้นสนับสนุนการจ้างงาน และใช้ในมาตรการที่มีตัวคูณ (Multiplier) กับเศรษฐกิจสูง อย่างมาตรการที่รัฐช่วยออกค่าใช้จ่าย (co-payment) หรือมาตรการค้ำประกันสินเชื่อที่สูงขึ้น ฯลฯ

"มาตรการคลายล็อกดาวน์เป็นเรื่องที่ดี และข้อเสนอของเอกชนไม่ควรจะมีมาตรการล็อกดาวน์อีกต่อไปเพราะกระทบต่อเศรษฐกิจมาก แต่ควรใช้มาตรการ Bubble & Seal ร่วมกับการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) เชิงรุก โดยรัฐควรช่วยเหลือค่าใช้จ่าย ATK และค่าระวางเรือที่สูงขึ้นเพื่อสนับสนุนการส่งออก รวมทั้งควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ" นายผยง กล่าว

เช่นเดียวกันกับ  นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่มองว่า หากวัคซีนที่จะเข้ามาได้ตามแผนที่รัฐวางไว้จะทำให้เศรษฐกิจที่เหลือปีนี้และปีหน้าเติบโตต่อเนื่องได้ และเห็นด้วยอย่างยิ่งที่รัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จากนี้ไปรัฐไม่ควรล็อกดาวน์อีกเพราะพิสูจน์ได้จากตัวเลขผู้ติดเชื้อก่อนและหลังล็อกดาวน์ไม่ได้ต่างกันมากนัก

 นายสนั่น อังอุบลกุล  ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ชี้ว่า มาตรการล็อกดาวน์ล่าสุดมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเสียหาย 3-4 แสนล้านบาท เมื่อรัฐคลายล็อกดาวน์กิจการบางอย่างจะกลับมาดำเนินได้อีกครั้ง ทำให้ความเสียหายจะลดลงเหลือ 2-3 แสนล้านบาท หากเดือนตุลาคมนี้มีการผ่อนคลายการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นจะทำให้สถานการณ์ภาพรวมดีขึ้นต่อเนื่อง

 คลายล็อกรอบนี้จะฝ่าวิกฤตทั้งการติดเชื้อรอบใหม่จะพุ่งขึ้นหรือไม่ และเศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นชีพหรือไม่ ประชาชนคนไทยจะกลับมาทำมาหากินใช้ชีวิตได้เป็นปกติได้สักกี่มากน้อยอีกไม่นานก็รู้ผล 
#10827
MEE SK FiR **นวัตกรรมอาหารผิว-เซลล์ ดูดซึม100%เข้าสู่เซลล์ใน5นาทีล่าสุดจากเกาหลี


อยากมีผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส่ฟังทางนี้ วิตามินบูสผิว สารสกัดเข้มข้น 18 ชนิด นวัตกรรมอาหารผิว อาหารเซลล์ ลิขสิทธิ์ระดับโลก 'หนึ่งเดียว'

ด้วยนวัตกรรม FiR FAR INFRARED...



อาหารผิวมาแรงที่สุด โมเลกุลเล็ก ดูดซึมไวเข้าสู่เซลล์ 'ภายใน 5 นาที

5 ประโยชน์ทำไม ต้องทาน ?

เสริมสร้างภูมิต้านทาน

ลดการเกิดสิวอักเสบ

ผิวเด็กกระจ่างใส

ช่วยบำรุงสายตา

ลดรอยดำ รอยแดง ริ้วรอย ฝ้า กระ

ดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

วิตามินสูงกว่า ทั่วไป 80 เท่า



โปรโมชั่นเปิดตัว   # เปิดบิล 2,699฿ เป็นตัวแทนติดบริษัท  ได้รับ 2 กล่อง



ไม่ต้องมีสต๊อกสินค้าเอง

ไม่ต้องแพ็คและส่งสินค้าเอง

ไม่มีความรู้ ก็เริ่มทำธุระกิจได้

กำไร 50-75%

มีทีมงานการตลาดสอนเทคนิคการขายฟรี

มีกลุ่มและทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาตลอด

สามารถเริ่มทำงานได้ทันที

  

เติมอาหารผิวเพียงวันละ 1-2 ม็ด (30 แคปซูล )

ปลอดภัย อย. 13-1-14959-5-1478



สนใจสั่งซื้อหรือสมัครตัวแทน

ไลน์ไอดี teerapat999

โทร 0846623662

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1230

 กดเข้าลิ้งค์นี้  ลงทะเบียนฟรี !!! เพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมการสร้างรายได้

https://www.metang-solution.com/member/register.php...