• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Ailie662

#10426
รีวิว Balance Ucore ภูมิแพ้ลมพิษ โดยคุณยะ
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ยะเป็นคนหนึ่ง ที่มีปัญหาเกี่ยวกับ ลมพิษเรื้อรัง เป็นผื่นคัน ขึ้นตามบริเวณผิวหนัง ข้อพับ.. ขึ้นมาเองโดยไม่รู้สาเหตุ หลังจากที่ขึ้นมีอาการคัน เป็นมาเป็นปี เวลาที่เป็น ก็กินยาแก้แพ้ แต่อาการ ไม่หายจาก เราไปซะที 
จนมาเจออาหารเสริม Ucore ตัวนี้ยะกินทุกวัน วันละ 1 เม็ดก่อนนอน กินต่อเนื่อง ทำให้อาการที่เป็นลมพิษ ค่อยๆหายไป จนตอนนี้ไม่เป็นแล้ว 
ยะกินมา 2 กระปุกแล้ว ใครมีปัญหาแบบนี้ ลอง UCore ช่วยได้จริงๆค่ะ

จดทะเบียนในชื่อ ยูคอร์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม)
Ucore (SOFT GEL DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT)
เลขที่ อย. 13-1-07458-5-0233
ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
ราคาพิเศษเพียง 990 บาท

*รบกวนแจ้งอาการและยาที่ทานก่อนครับ
มีผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์คอยให้คำปรึกษา
แอดไลน์ สอบถามปรึกษา
Line : @balances 
รายละเอียดเพิ่มเติม Ucore
#10429
ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex ร่วงกว่า 400 จุด ขายทำกำไรหลังพุ่งแรงวานนี้

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียร่วงลงกว่า 400 จุดในวันนี้ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากดัชนีพุ่งขึ้นกว่า 1,000 จุดวานนี้

ทั้งนี้ ดัชนี S&P BSE Sensex ปิดตลาดที่ 60,176.50 ลบ 435.24 จุด หรือ 0.72%

ราคาหุ้น HDFC Bank ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของอินเดีย และ Housing Development Finance Corp (HDFC) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อด้านการเคหะของอินเดีย ต่างดิ่งลงในวันนี้ หลังพุ่งขึ้นวานนี้ขานรับข่าวการควบรวมกิจการ

หุ้น HDFC Bank ดิ่งลงเกือบ 3% ในวันนี้ ขณะที่ HDFC ร่วงลงกว่า 2% หลังจากที่หุ้นทั้งสองพุ่งขึ้นราว 10% วานนี้

นักวิเคราะห์ระบุว่า การปรับตัวลงของราคาหุ้นดังกล่าวเกิดจากการทำกำไรของนักลงทุน รวมทั้งความกังวลที่ว่า แผนการควบรวมกิจการดังกล่าวอาจไม่ผ่านการอนุมัติของธนาคารกลางอินเดีย

ทั้งนี้ HDFC Bank และ HDFC ประกาศแผนการควบรวมกิจการเมื่อวานนี้ในข้อตกลงวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.34 ล้านล้านบาท

แหล่งข่าวระบุว่า แผนการควบรวมกิจการดังกล่าวอาจไม่ผ่านการอนุมัติของธนาคารกลางอินเดีย เนื่องจากธนาคารกลางไม่ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์เข้าครอบงำธุรกิจประกัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการระหว่าง HDFC Bank และ HDFC โดยบริษัทที่เกิดขึ้นใหม่จะมีมูลค่างบดุลบัญชีสูงถึง 2.37 แสนล้านดอลลาร์ และจะรวมธุรกิจประกัน ซึ่งได้แก่ HDFC Life และ HDFC ERGO รวมทั้งสถาบันการเงินอื่นๆในเครือไว้ด้วยกัน ซึ่งจะทำให้เกิดการผูกขาดในตลาด

ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งกล่าวว่า แนวทางหนึ่งที่ HDFC Bank อาจจะใช้ในการคลายความกังวลของธนาคารกลางอินเดีย คือการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งขึ้น แต่วิธีการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่องบดุลบัญชีในระยะสั้น

"หากมีการตั้งบริษัทโฮลดิ้งก็จะทำให้สมการเปลี่ยนไป โดยต้นทุนจะเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงภาษีและค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์" บริษัทแมคควอรีระบุในรายงาน

อย่างไรก็ดี หากแผนการควบรวมกิจการระหว่าง HDFC Bank และ HDFC สามารถผ่านการอนุมัติจากธนาคารกลางอินเดีย ก็จะทำให้ทางธนาคารมีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับ State Bank of India ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ และทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง ICICI Bank และ Axis Bank
#10430
SST ออกหุ้นกู้ 300 ลบ.อายุ 2 ปี 9 เดือน ดอกเบี้ย 5.6-5.75% ขายสถาบัน-รายใหญ่

บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 1/2565 มูลค่าไม่เกิน 300 ล้านบาท อายุ 2 ปี 9 เดือน คาดว่าจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วง 5.60-5.75% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย.65 ผ่านบล.เอเซีย พลัส ซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกุ้

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ "BBB-" แนวโน้มอันดับเครดิต Negative เมื่อวันที่ 22 มี.ค.64

บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อนำไปปรับปรุงและขยายพื้นที่คลังสินค้า และนำไปซื้อหุ้นในกอง SSTRT จากผู้ถือหุ้นเดิม รวมทั้งนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

CHEWA ออกหุ้นกู้ 350 ลบ.อายุ 2 ปีดอกเบี้ย 6.9% ขายรายใหญ่-สถาบัน 19-21 เม.ย.

บมจ.ชีวาทัย (CHEWA) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 4/2564 มูลค่าไม่เกิน 350 ล้านบาท อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.90% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ๋ ในระหว่างวันที่ 19-21 เม.ย. 65 ผ่าน บล.โกลเบล็ก ซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้จัดให้มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้
#10431
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท "บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์" ที่ "A-" แนวโน้ม "Stable"

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 10 ปี ของบริษัทที่ระดับ ?A-? ด้วยเช่นกัน

โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงประสบการณ์ที่ยาวนานและความเป็นผู้นำในตลาดบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของบริษัท นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระดับการก่อหนี้และความสามารถในการสร้างรายได้ในระดับปานกลางของบริษัท รวมถึงการมีแหล่งเงินทุนที่กระจายตัวด้วย

อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ได้แก่ ความเสี่ยงในด้านการกำหนดราคาซื้อสินทรัพย์ ความเสี่ยงระดับมหภาค และความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินทรัพย์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการทางการเงินของบริษัทได้หากไม่มีการควบคุมที่ดี อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่าความเชี่ยวชาญของบริษัทในการตั้งราคาซื้อขายสินทรัพย์ ตลอดจนกลยุทธ์ในการเลือกลงทุน และการกระจายตัวของประเภทสินทรัพย์และสถานที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นปัจจัยที่ช่วยลดทอนความเสี่ยงดังกล่าวลงได้ในระดับหนึ่ง

ณ สิ้นปี 2564 กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 41.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยอยู่ที่ระดับ 2.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารทรัพย์สินรอการขาย (Non-performing Asset -- NPA) ที่ปรับตัวดีขึ้น ในปี 2564 รายได้จาก NPA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 50.9% เป็น 3.8 พันล้านบาทจากผลของการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาด การส่งเสริมการขาย การให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้ารายย่อย และการใช้ช่องทางสื่อสารแบบดิจิทัลต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน เงินสดจัดเก็บจากธุรกิจบริหารทรัพย์สินรอการขายเพิ่มขึ้น 53.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งส่งผลให้เงินสดจัดเก็บรวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 1.6 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับในด้านธุรกิจบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพนั้น บริษัทมีรายได้และเงินสดจัดเก็บที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่าธุรกิจบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพของบริษัทจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของผลกำไรในปี 2565 ในขณะที่ผลประกอบการจากการบริหารสินทรัพย์รอการขายจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งใกล้เคียงกับปี 2564

บริษัทได้ลดการลงทุนในการซื้อสินทรัพย์ลงในปี 2564 เนื่องจากอุปทานสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ลดลงอันเป็นผลจากการชะลอการขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินเนื่องจากผลของมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกลยุทธ์การเลือกลงทุนของบริษัท โดยในปี 2564 สินเชื่อด้อยคุณภาพที่สถาบันการเงินนำออกมาขายลดลงประมาณ 33.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในปี 2564 บริษัทได้ลงทุนซื้อสินเชื่อด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายรวมจำนวน 3.7 พันล้านบาทซึ่งลดลงถึง 68.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ดังนั้น จากการที่บริษัทลดการลงทุนซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพลงทำให้ความต้องการเงินกู้ยืมของบริษัทลดลงเช่นกัน จึงทำให้อัตราส่วนภาระหนี้ของบริษัทลดลงตามไปด้วย โดย ณ สิ้นปี 2564 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.94 เท่า จากระดับ 2.16 เท่า ณ สิ้นปี 2563 ถ้ารวมเงินกู้ยืมตามวงเงินหุ้นกู้ที่จะออกใหม่ด้วยแล้ว อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.30 เท่า

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งและระดับการก่อหนี้ยังอยู่ในระดับปานกลาง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับเพิ่มขึ้นได้หากผลประกอบการทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมั่นคงและอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงหากสถานะในการก่อหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการขยายธุรกิจเชิงรุกโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงเกินกว่า 2.75 เท่าอย่างต่อเนื่อง หรือผลประกอบการทางการเงินของบริษัทถดถอยลงอย่างต่อเนื่องจนทำให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำกว่า 1.5% อย่างต่อเนื่อง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM)

อันดับเครดิตองค์กร: A-

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

BAM224A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-

BAM226A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-

BAM227A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-

BAM234A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-

BAM235A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,050 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-

BAM239A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-

BAM23DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-

BAM244A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-

BAM246A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-

BAM247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-

BAM24DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-

BAM256A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 370 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-

BAM259A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-

BAM25NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,370 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-

BAM264A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-

BAM26DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-

BAM276A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A-

BAM279A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A-

BAM284A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A-

BAM286A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A-

BAM28DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A-

BAM297A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A-

BAM304A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A-

BAM30NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 580 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A-

BAM317A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A-

BAM347A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2577 A-

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 10 ปี A-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating .com
ติดต่อ santaya@trisrating. com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2565 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว 
#10432
ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 3.33 จุดรับแรงซื้อกลุ่มน้ำมัน-เปิดเมือง-ชิ้นส่วนฯ แต่วอลุ่มบาง

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,706.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.33 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขายราว 36,019 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์-วอลุ่มเบาบางรอปัจจัยใหม่หนุน ขณะที่มีปัจจัยเดิมยังกดดันทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงเงินเฟ้อพุ่งสูงกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่มีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันโลกปรับขึ้นและจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศลดลง โดยเช้านี้มีแรงซื้อจากกลุ่มน้ำมัน, กลุ่มเปิดเมือง, กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สลับแรงขายกลุ่มแบงก์ แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดแกว่งแคบ ให้แนวรับ 1,700 และ 1,697 จุด ส่วนแนวต้าน 1,710 และ 1,714 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,706.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.33 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขายราว 36,019 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งกรอบแคบในแดนบวก โดยทำระดับสูงสุด 1,708.89 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,702.63 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวไซ์เวย์ลักษณณะซึมๆ รอปัจจัยใหม่หนุน และปริมาณการซื้อขายเบาบาง ขณะที่ยังคงมีปัจจัยเดิมกดดันอยู่ทั้ง สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งใกล้วันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ แม้ว่าวันนี้จะมีปัจจัยบวกจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศลดลง แต่ยังวางใจไม่ได้ โดยจะต้องติดตามว่าหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเข้ามากลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมัมดิบปรับตัวขึ้น 4% และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับขึ้นตามตลาด Nasdaq และกลุ่มเปิดเมืองหลังรัฐเปิดประเทศมากขึ้นตั้งแต่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา สลับแรงขายกลุ่มแบงก์และกลุ่มอื่นๆ

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายกิติชาญ คาดว่าตลาดน่าจะแกว่งไซด์เวย์ โดยให้แนวรับที่ 1,700 และ 1,697 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,710 และ 1,714 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,137.46 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,727.06 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,564.32 ล้านบาท ปิดที่ 97.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

NEX มูลค่าการซื้อขาย 1,417.03 ล้านบาท ปิดที่ 20.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

BYD มูลค่าการซื้อขาย 969.36 ล้านบาท ปิดที่ 14.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
#10433
สเปนเตรียมเสนอครม.ยกเลิกสวมหน้ากากอนามัยในอาคารหลังพ้นช่วงอีสเตอร์

แคโรไลนา ดาเรียส รัฐมนตรีสาธารณสุขของสเปนได้เสนอให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคารหลังวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์

หากรัฐบาลเห็นชอบแผนดังกล่าว คาดว่าจะมีการบังคับใช้มาตรการใหม่ในวันที่ 20 เม.ย.นี้

"ดิฉันได้เสนอว่า ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (19 เม.ย.) เราจะพิจารณาและผ่านกฎหมายกฤษฎีกาซึ่งจะส่งผลให้ไม่มีการบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคารอีกต่อไป" โดยรมว.สาธารณสุขได้โพสต์ข้อความดังกล่าวทางโซเชียลมีเดียของกระทรวงฯ และเพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงอาจมีผลในวันถัดไป

นอกจากนี้ ยังระบุว่า "เนื่องจากประชาชนได้รับภูมิคุ้มกันครอบคลุมในอัตราที่สูง ทำให้เราอยู่ในสภาพที่พร้อมแล้ว"

ขณะเดียวกัน รมว.สาธารณสุขยังกล่าวด้วยว่า มาตรการสวมหน้ากากอนามัยจะยังบังคับใช้ในบางแห่ง เช่น ในระบบขนส่งมวลชน ตามโรงพยาบาล และสถานดูแลผู้สูงอายุ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สเปนได้ยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยนอกอาคารไปเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า สเปนมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 11,578,653 ราย และมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 102,747 รายนับตั้งแต่เกิดการระบาด
#10434


นายจอห์น ลี หัวหน้าคณะรัฐมนตรีฮ่องกง ยื่นลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) พร้อมประกาศลงชิงตำแหน่งผู้นำฮ่องกงในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ค. นี้

นายลี ซึ่งเป็นผู้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจัดการการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในระหว่างการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลในปี 2562 ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เขาจะลงชิงตำแหน่งผู้นำฮ่องกงทันทีที่จีนแผ่นดินใหญ่อนุมัติการลาออกของเขา

นายลีกล่าวว่า 'การได้อยู่ในคณะรัฐบาลมากว่า 40 ปีเพื่อรับใช้ประชาชนฮ่องกงนั้นถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง'

หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่หลายคนของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่กล่าวกับคณะกรรมการการเลือกตั้งของฮ่องกงในการประชุมเมื่อวานนี้ว่า นายลีเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งเพียงคนเดียวที่จีนแผ่นดินใหญ่ชื่นชอบ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียง 2 วันหลังจากนางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงคนปัจจุบันประกาศว่าจะไม่ลงชิงตำแหน่งผู้นำฮ่องกงเป็นสมัยที่ 2 โดยอ้างเหตุผลด้านครอบครัว

ทั้งนี้ นายลีรับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลฮ่องกงตั้งแต่ปี 2560 โดยรัฐบาลฮ่องกงได้ทำการปราบปรามแอปเปิล เดลี่ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่เรียกร้องประชาธิปไตย ทำให้หนังสือพิมพ์ดังกล่าวต้องปิดตัวลงในวันที่ 24 มิ.ย. 2564 และให้หลังเพียงวันเดียว นายลีก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีฮ่องกง
#10435
บริษัท สบายใจการบัญชี  จำกัด
9/54  หมู่ที่ 8  ตำบลบางเลน  อำเภอบางใหญ่  จังหวัดนนทบุรี   11140
โทร & Line ID.087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

รับทำบัญชีนนทบุรี  รับทำบัญชีบางกรวย  รับทำบัญชีบางใหญ่  รับทำบัญชีบางบัวทอง  รับทำบัญชีไทรน้อย  รับทำบัญชีปากเกร็ด  รับทำบัญชีบางศรีเมือง  รับทำบัญชีพิมลราช  รับทำบัญชีบางคูรัด  รับทำบัญชีบางรักพัฒนา  รับทำบัญชีบางแม่นาง  รับทำบัญชีบางกร่าง  รับทำบัญชีไทรม้า  รับทำบัญชีตลาดขวัญ  รับทำบัญชีบางตะไนย์  รับทำบัญชีบางพลับ  รับทำบัญชีบางรักน้อย  รับทำบัญชีมหาสวัสดิ์  รับทำบัญชีศาลากลางนนทบุรี  รับทำบัญชีอ้อมเกร็ด  รับทำบัญชีแจ้งวัฒนะ  รับทำบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  รับทำบัญชีถนนชัยพฤกษ์  รับทำบัญชีถนนติวานนท์  รับทำบัญชีถนนทวีวัฒนา  รับทำบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  รับทำบัญชีท่าอิฐ  รับทำบัญชีถนนนครอินทร์  รับทำบัญชีบางม่วง  รับทำบัญชีบางกรวย-จงถนอม  รับทำบัญชีถนนบางไกรใน  รับทำบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  รับทำบัญชีบางคูเวียง  รับทำบัญชีบางศรีเมือง  รับทำบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  รับทำบัญชีไทรม้า  รับทำบัญชีถนนพิบูลสงคราม  รับทำบัญชีถนนราชพฤกษ์  รับทำบัญชีตลิ่งชัน  รับทำบัญชีถนนเรวดี  รับทำบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  รับทำบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี  รับทำบัญชีธุรกิจนำเข้าส่งออก  รับทำบัญชีธุรกิจซื้อมาขายไป  รับทำบัญชีธุรกิจผลิต  รับทำบัญชีธุรกิจขายสินค้าออนไลน์  รับทำบัญชีขายผ่านShoppee  รับทำบัญชีขายLazada  รับทำบัญชีบริษัทจำกัด  รับทำบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด  รับทำบัญชีและยื่นภาษี  สำนักงานบัญชี  รับงานบัญชี
#10436
https://www.katobonsai.com/
บอนไซ บอนไซประดิษฐ์ ตกแต่งบ้าน
#10437
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  รับตรวจสอบบัญชี สำนักงานสอบบัญชี
#10439
'บีซีพีจี' ลุยเปิดขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โคมากาเนะในญี่ปุ่น 25 เมกะวัตต์ตามแผน

'บีซีพีจี' เปิดขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ต่อเนื่องตามแผน ล่าสุดโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โคมากาเนะ ประเทศญี่ปุ่น เปิดดำเนินการขายไฟฟ้ากำลังการผลิตตามสัญญา 25 เมกะวัตต์

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา บีซีพีจีได้เปิดดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โคมากาเนะ ตั้งอยู่ที่ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น มีกำลังการผลิตตามสัญญาขายไฟฟ้า 25 เมกะวัตต์ กับบริษัท ชูบู อิเล็คทริค เพาเวอร์ จำกัด (Chubu Electric Power Company) ภายใต้การลงทุนแบบทีเค ในสัดส่วนร้อยละ 100 โดยมีราคารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in-Tariff (FIT) ที่ 36 เยนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 20 ปี

'ปัจจุบันบีซีพีจี มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตตามสัญญารวม 89.7 เมกะวัตต์ การเปิดดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโครงการโคมากาเนะในครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่มีการเปิดดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในญี่ปุ่น รวมทั้งสิ้น 59.7 เมกะวัตต์ โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา อีกจำนวน 30 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยเปิดดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้' นายนิวัติกล่าว