• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chanapot

#10171
บ้านถั่วลิสง The Peanut House  เรื่องถั่ว... เราถนัด
สืบต่อตำนานความอร่อยรวมทั้งส่งต่อภูมิปัญญาการผลิตถั่วลิสงจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก


 โรงงานถั่วลิสง "ซินกวงน่าน" เป็นโรงงานทำถั่วลิสงเพียงที่เดียวในจังหวัดน่าน ริเริ่มตั้งขึ้นเมื่อปี พุทธศักราช 2521 จนปัจจุบันได้พัฒนาตนเองสู่โรงงานแปรรูปถั่วลิสงครบวงจร ตั้งแต่คัดเลือกเมล็ดพันธ์ลงแปลงปลูกโดยเครือข่ายเกษตรกรของเรา เก็บเกี่ยวรวมทั้งส่งถั่วลิสงไปสู่กรรมวิธีการแปรรูปที่สะอาดปลอดภัยตามมาตรฐาน จนเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงในแบบต่างๆที่พร้อมส่งต่อซินกวงน่านถึงมือคุณ


ประวัติของพวกเราและก็แกลลอรี่ถั่วลิสง Our History & Peanut Gallery
ชมประวัติความเป็นมาของโรงงานถั่วลิสงเก่าแก่เพียงแห่งเดียวของจังหวัดน่าน แผนภาพกระบวนการผลิตวัตถุดิบรวมทั้งกระบวนการแปรรูปสินค้าถั่วลิสง ยิ่งไปกว่านี้ชวนทำความรู้จักกับ "ต้นถั่วลิสง" จำลองขนาด 2.5 เมตรที่ออกแบบรวมทั้งสร้างขึ้นเพื่อให้ได้มองเห็นลำต้น ดอก ใบ และเม็ดถั่วลิสงเหมือนจริงที่สุดที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย และคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากถั่วลิสง - ธัญพืชที่ให้โปรตีนทดแทนเนื้อสัตว์รวมทั้งไขมันที่ร่างกายต้องการแต่ว่าไม่สามารถสร้างเองได้





 ผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปจังหวัดน่าน Peanuts and many moreภายในร้านบ้านถั่วลิสง นอกจากจะมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากถั่วลิสงแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปของจังหวัดน่านที่มีคุณภาพจำนวนมากหลากหลายให้ได้เลือกซื้อเป็นของฝากจากจังหวัดน่านสำหรับคนที่รักแล้วก็คนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมัลเบอรี่ ลูกเดือย กาแฟ ข้าว ถั่ว งา รวมทั้งธัญพืชในแบบต่างๆ ตลอดจนสมุนไพรที่ถูกเอามาแปรรูปเป็นเครื่องแต่งหน้าแล้วก็ยาด้วยภูมิปัญญาพื้นเมืองประสมประสานกับนวัตกรรมยุคใหม่ 





 กาแฟน่านและเบเกอรี่จากถั่วลิสง Nan Coffee and Peanut Bakery
กาแฟที่เสิร์ฟในร้านบ้านถั่วลิสงเป็นกาแฟอาราบิก้าผสมโรบัสต้าในสัดส่วนที่ลงตัว หอมอร่อย คั่วเข้ม โดยเลือกใช้เมล็ดกาแฟเดอม้ง ซึ่งปลูกรวมทั้งผลิตโดยชุมชนบ้านมณีพฤกษ์ ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ซึ่งเป็นกาแฟที่ผ่านการคัดสรรสายพันธ์ที่ดีที่เหมาะกับการปลูกในความสูงจากระดับน้ำทะเล 1400-1600 เมตร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือให้พี่น้องชาวบ้านมณีพฤกษ์มีรายได้ยั่งยืน มีอาชีพที่มั่นคง แล้วก็ช่วยรักษาแล้วก็ฟื้นฟูผืนป่าน่านให้อุดมสมบูรณ์สืบไป  นอกเหนือจากนั้นยังมี "พีนัทซอฟท์เค้ก" แล้วก็ "พีนัทเบคชีสเค้ก" เบเกอรี่โฮมเมดที่มีส่วนผสมของเนยถั่วลิสงและก็นมถั่วลิสงที่แสนอร่อย หวานน้อย ครีมเบานุ่ม ไม่เลี่ยน  แล้วก็หอมกลิ่นเนยถั่วลิสง ซึ่งหาทานได้ที่บ้านถั่วลิสงเท่านั้น
 

นมถั่วลิสง Peanut Milk
ไฮไลต์ที่คุณไม่ควรพลาดบ้านถั่วลิสงชวนชิม "น้ำนมถั่วลิสง" Peanut Milk ที่ทำมาจากถั่วลิสง 100% ไม่มีครีมเทียม และก็หัวนมผง และไม่ใส่สารแต่งสีแต่งกลิ่น เป็นน้ำนมจากถั่วลิสงตามธรรมชาติ ต้มสดทุกรุ่งเช้า หอม อร่อย ทานง่าย มีเสริฟทั้งเมนูร้อน เย็น ปั่น ให้ทุกคนได้ทดลองตรงนี้ที่เดียวในน่าน นมถั่วลิสงให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผู้รักสุขภาพ ผู้ที่แพ้นมจากสัตว์  


บ้านถั่วลิสงเปิดรับกรุ๊ปเยี่ยมชมศึกษางานขั้นตอนแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับกลุ่มแม่บ้าน วิสาหกิจชุมชน นักศึกษา เด็กนักเรียน หรือกลุ่มท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์เพื่อเปิดประสบการณ์เกี่ยวกับการแปรรูปถั่วลิสง (รับเป็นคณะ 20 คนขึ้นไป รวมทั้งติดต่อล่วงหน้าเท่านั้น)



 
 
#10172
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#10173



จากการเปิดจุดฉีดวัคซีนให้กับคนพิการกว่า 5,000 คน ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ระหว่างเวลา 08.00 – 16.00 น. โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.)พบว่า ต่างได้รับความชื่นชมจากคนพิการ ผู้สูงอายุ และญาติที่ไปรับวัคซีน ในการบริหารจัดการที่เป็นระบบ รวดเร็ว รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มาคอยอำนวยความสะดวกที่มีความสุภาพ

ทั้งนี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจคนพิการที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวันนี้ โดยนางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดี พก. ได้นำเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มาอำนวยความสะดวก เพื่อให้คนพิการที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้รับความดูแลอย่างทั่วถึง

การให้บริการฉีดวัคซีนดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดสรรโควตาวัคซีนโควิด-19 ให้ กรม พก. กระทรวง พม. พร้อมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่จิตอาสาในการให้บริการแก่คนพิการด้วย
 
#10175



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายแพทย์​เกียรติ​ภูมิ​ วงศ์​รจิต​ ปลัด​กระทรวง​สาธารณสุข โพสเฟสบุ๊ค เกี่ยวกับ ฉากทัศน์ covid-19ของไทย"คาดการณ์สถานการณ์การระบาด COVID-19 ของประเทศไทย ระหว่าง ส.ค. - ธ.ค. 2564 จัดทำโดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข  โดยการจำลองตัวเลข ของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า 

หากล็อกดาวน์หนึ่งเดือน (เริ่ม 19 ก.ค. 64) คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงต้นเดือน ตุลาคม และหากล็อกดาวน์สองเดือน คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงปลายเดือน พฤศจิกายน

 หากมาตรการล็อกดาวน์ได้ผลมากขึ้น เช่น จากที่ช่วยลดค่า R ได้ 20% เป็น 25% น่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรได้ประมาณสองสัปดาห์ แต่ขนาดของการระบาดโดยรวมไม่เปลี่ยนไปมากนัก

หากมาตรมาตรการล็อกดาวน์ได้ผล และร่วมกับมาตรการวัคชีนในผู้สูงอายุได้ผลดี และดำเนินการได้รวดเร็ว ในเวลาไม่เกิน 2 เดือน น่าจะช่วยคงให้ความชุกของการใช้เครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 1,500 รายต่อวัน และ อุบัติการณ์การเสียชีวิตไม่เกิน 200 รายต่อวัน ไปจนถึงเดือนธันวาคม

   ​

โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ปลัด​กระทรวง​สาธารณสุข ได้เข้าร่วม​ประชุม​ เรื่องการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม​ ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมสูงสุด ​โดยมี​ นายกรัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรีว่​าการกระทรว​งสาธารณสุข​ เป็น​ประธาน​การประชุม​ (โดยประชุมผ่านระบบ Zoom) ณ​ ห้องป​ระชุมการบูร​ ตึก​สำนักงาน​ปลัดกระทรว​งสาธารณสุข

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร    คณะเจริญ  เลขาธิการแพทยสภา อธิบายฉากทัศน์ดังกล่าวในเฟสบุ๊คว่าเห็นการจำลองตัวเลข"ฉากทัศน์ covid-19ของไทย"  ของกระทรวงสาธารณสุข แล้วน่ากลัวมาก พบว่า ถ้าไม่คุมให้ดี มีโอกาสติดวันละ 45,000 คน ตายวันละ 450 คน


ผลการล็อกดาวน์วันนี้เราลดได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะทำให้คนติดเชื้อและคนตายไม่มากเท่านั้น แต่ต้องแลกด้วย มาตรการจำนวนมาก ที่ทำให้ทุกคน กระทบชีวิตประจำวัน อาชีพการงานและการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนป่วยและเสียชีวิตมาก เกินกว่าที่โรงพยาบาลจะรับ ไหว ซึ่งวันนี้ก็เริ่มเกินแล้ว ถ้ามากกว่านี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร

ในฉากทัศน์ นี้แสดงให้เห็นว่าการล็อกดาวน์จะยืดเยื้อไปอีก 2 เดือน เพื่อลดให้คนป่วยน้อย จนเตียงพอดูแลได้ และไม่ให้มีคนตายเยอะ ในภาพความเป็นจริง จะเป็นได้หรือไม่ต้องติดตามดู และขึ้นกับ สถานการณ์ของทรัพยากรและบุคลากรทางสาธารณสุข ที่จะต้อง โหมกระหน่ำลงไปสู้กันครับ สงครามนี้ไม่มีคนชนะ มีแต่ความเสียหาย ความสูญเสีย และความตาย ท่ามกลางความอดทนและเสียสละของทุกฝ่าย แต่อย่างไร พวกเราทุกคนก็ต้องสู้ต่อครับ ไม่นานเชื้อเหล่านี้จะหมดไปโดยธรรมชาติ เราต้องอดทน ต่อสู้ ให้ถึงวันนั้น
#10176



"เดอะ ฟ็อกซ์" เลสเตอร์ ซิตี้ ลงสนามเกมอุ่นเครื่องพบ วีคอม ทีมจากลีกแชมเปียนชิพ อังกฤษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ผลการแข่งขันปรากฎว่า วีคอม ได้ประตูจาก ดารีล ฮอร์แกน ในนาทีที่ 80 เป็นประตูชัยทำให้พวกเขาเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0

เกมนี้ "เจ้ากัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร มิดฟิลด์ทีมชาติไทย ถูกส่งลงเล่นในครึ่งเวลาหลังนาทีที่ 46 อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 62

ทั้งนี้ทีมแพทย์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ จะมีการตรวจสอบอาการบาดเจ็บของ ธนวัฒน์ อย่างละเอียด ว่าเจ้าตัวจะต้องพักยาวแค่ไหน
#10177



เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่มทางเลือกลูกค้า รถอายุ 5 ปีขึ้นไป เปิดตัวอะไหล่ สตาร์พาร์ท (StarParts) รองรับทีั้งกลุ่มรถคอมแพคท์ เอสยูวี โรดสเตอร์ ช่วยลูกค้าประหยัด ดีลเลอร์มีรายได้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) เปิดตัว สตาร์พาร์ทส์  (StarParts) อะไหล่รถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ได้มาตรฐาน ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น โดยระบุว่าจะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุด 55%

ทั้งนี้ อะไหล่ "StarParts" พัฒนาและทดสอบตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ สำหรับการบำรุงรักษาในกลุ่มรถที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป

พุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหารฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกเหนือจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แล้ว การบำรุงรักษารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งานเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ StarParts ยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับตัวแทนจำหน่าย ในการรักษาลูกค้า และสร้างยอดขาย ด้านอะไหล่และบริการได้อีกด้วย



สำหรับอะไหล่ StarParts ผลิตออกมารองรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นต่างๆ ประกอบด้วย

  • A-Class (169/176)
  • GLA (156)
  • B-Class (245/246)
  • C-Class (203/204)
  • CLK-Class (209)
  • E-Class (211/212)
  • CLS-Class (218/219)
  • ML-Class (164/166)
  • SLK-Class (170/171)
โดยอะไหล่ที่ผลิตออกมาสำหรับ StarParts ประกอบด้วย

  • แบตเตอรี่สตาร์ท
  • ผ้าเบรก/ดิสก์เบรก
  • ไส้กรองอากาศสำหรับเครื่องยนต์
  • ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
  • ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ไส้กรองน้ำมันเกียร์
  • ไส้กรองสำหรับห้องโดยสาร
  • หัวเทียน
  • ใบปัดน้ำฝน
#10178
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น1


#10179



ผ่านมาแล้วกว่าครึ่งปีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายการทำงานในปี 2564 ให้แก่กรมต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์รับไปปฏิบัติ โดยมีนโยบายเร่งด่วนรวม 14 ข้อ ได้แก่ ประกันรายได้, ลดค่าครองชีพ, เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด, อาหารไทยอาหารโลก, การค้าออนไลน์, ส่งเสริมธุรกิจบริการ, พัฒนา SMEs และ Micro SMEs, เร่งรัดการส่งออก, ผลักดันการค้าชายแดน, เจรจาการค้าระหว่างประเทศ, จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา, บริการด้วยอิเล็กทรอนิกส์, ทำงานร่วมกับภาคเอกชนในนาม กรอ.พาณิชย์ และให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว

ผลการขับเคลื่อนงานที่ผ่านมา แต่ละกรมในกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งทำงานตามนโยบาย ปรากฏผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการช่วยเหลือเกษตรกร ประชาชน และภาคธุรกิจ จนเป็นกระทรวงเศรษฐกิจที่ติดอันดับต้นๆ ที่ประชาชนพอใจในผลการทำงาน

ล่าสุด "กรมพัฒนาธุรกิจการค้า" ได้สรุปผลการทำงานครึ่งปี และแผนการทำงานในช่วงครึ่งปีหลัง ปรากฏผลการทำงานตามนโยบายที่ประสบความสำเร็จหลายด้าน โดยเฉพาะการผลักดันเกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย หรือที่เรียกกันว่า "คนตัวเล็ก" ให้มีโอกาสทางการตลาด ให้มีโอกาสในการทำมาค้าขาย ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ

ใช้ออนไลน์ช่วยเกษตรกรทำตลาด

ในการขับเคลื่อนการทำงานภายใต้นโยบาย "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้แปลงนโยบายลงสู่การปฏิบัติด้วยการร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานพันธมิตร 24 หน่วยงาน ทำแพลตฟอร์มกลาง "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" ในรูป B2B (Business-to-Business) ต่อยอดจากแพลตฟอร์มที่มีอยู่ ได้แก่ "Thaitrade.com ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ" และแพลตฟอร์ม "Phenixbox.com ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มศูนย์ค้าส่งครบวงจรภายในประเทศ

ผลการดำเนินงานในส่วนของตลาดต่างประเทศ ได้คัดเลือกและพัฒนาสหกรณ์ที่มีความพร้อมในการจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม และมีกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ จำนวน 9 สหกรณ์ ให้มีร้านค้าออนไลน์บน Thaitrade.com รวมสินค้าทั้งสิ้น 45 รายการ เช่น ข้าว นม และโคเนื้อ โดยแพลตฟอร์ม Thaitrade.com ได้สร้างหน้าเฉพาะสำหรับสินค้าจากสหกรณ์ภายใต้ชื่อ "Thai Agricultural Trade Center" (https://www.thaitrade.com/online-exhibition/thai_agricultural) และกำหนดจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างสหกรณ์กับผู้ค้าต่างประเทศ ในวันที่ 29-30 ก.ค. 2564 นี้

สำหรับตลาดในประเทศ ได้ร่วมกับแพลตฟอร์ม Phenixbox.com จัดทำ Profile สินค้าเกษตร เพื่อเชื่อมโยงไปยัง Phenixbox.com จำนวน 28 สหกรณ์ รวมสินค้าทั้งสิ้น 37 รายการ เช่น ข้าวสาร นมโค ผลไม้ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ โดยแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ได้สร้างหน้าเฉพาะสำหรับสินค้าจากสหกรณ์ภายใต้ชื่อ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" (https://www.phenixbox.com/Thai_agricultural) โดยจะมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ระหว่างกลุ่มสหกรณ์กับบริษัทในเครือ TCC Group ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ ของบริษัทแอสเสท เวิร์ด คอร์ป จำกัด (มหาชน) ในเดือน ส.ค. 2564

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ได้กำชับให้เพิ่มความเข้มข้น และเพิ่มจำนวนเกษตรกร และรายการสินค้าให้มีโอกาสเข้าไปจำหน่ายในแพลตฟอร์มทั้ง 2 แพลตฟอร์มให้มีจำนวนมากขึ้นต่อไป

สอนคนตัวเล็กค้าขายออนไลน์

การเพิ่มโอกาสในการค้าขายออนไลน์ เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่นายจุรินทร์สั่งการให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อน และให้ความช่วยเหลือคนตัวเล็ก โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย ให้มีโอกาสในการค้าขายออนไลน์ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เข้าไปช่วยเหลือตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น ด้วยการให้ความรู้ สอนเทคนิคการตลาดออนไลน์ ด้วยการจัดทีมผู้เชี่ยวชาญลงไปสอนถึงที่ แต่ด้วยข้อจำกัดของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องปรับแผนเป็นการฝึกสอน อบรมผ่านช่องทางออนไลน์แทน

ที่ผ่านมาได้สอนความรู้การทำการค้าและเทคนิคการตลาดออนไลน์ไปแล้ว 2,175 ราย, สร้าง Smart Trader Online ด้วยการบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เป็นนักการค้าออนไลน์ และจับคู่เชื่อมโยงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Trader Online กับสินค้าและบริการที่มีศักยภาพ เข้าสู่ช่องทางการตลาดบนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมแล้ว 406 ราย

ส่วนแผนระยะถัดไป ช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2564 มีเป้าหมายที่จะพัฒนาสินค้าชุมชน กลุ่มเกษตรกร สู่ช่องทางการตลาด (Offline 2 Online) โดยจะคัดเลือกสินค้าชุมชน ของดีของเด่นประจำจังหวัด จากผู้ประกอบการฐานรากที่มีศักยภาพทั้ง 18 กลุ่มจังหวัด ครอบคลุม 77 จังหวัด เพื่อเข้าสู่กระบวนการให้ความรู้และผลักดันสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ จำนวนเป้าหมาย 1,260 ราย และจะสร้างโอกาสทางการตลาดออนไลน์แก่ผู้ประกอบการฐานราก ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบออฟไลน์ ภายใต้งานมหกรรม Thailand e-Commerce Expo ที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. 2564

นอกจากนี้ ได้เข้าไปช่วยพัฒนาศักยภาพทางการตลาดให้แก่ภาคการผลิตฐานราก ทั้ง SMEs และ Micro SMEs โดยอบรมให้ความรู้หาตลาดและเปิดโอกาส เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในตลาดที่กว้างขึ้น ส่งเสริมศักยภาพการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน ส่งเสริมศักยภาพนักการตลาด OTOP มืออาชีพ เพื่อเป็นตัวแทนหรือผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดเชื่อมโยงการตลาดผลิตภัณฑ์ OTOP เข้าสู่ช่องทางการตลาด 332 ราย สร้างโอกาสทางการค้าและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชน (MOC Biz Club) เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศมาเชื่อมโยงต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาสการค้า ปัจจุบันมีสมาชิก 12,721 ราย ทั้งนี้ ยังมีกำหนดจัดงาน MOC Biz Club Fair 2021 ที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล จำนวน 4 ครั้ง ระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค. 2564 เพื่อการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า การเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ และการให้คำปรึกษาทางธุรกิจด้วย



พัฒนาโชวห่วยเพิ่มรายได้ฐานราก

สำหรับธุรกิจบริการ ที่เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและเพิ่มรายได้เข้าประเทศ นายจุรินทร์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งพัฒนาศักยภาพทางการตลาดให้กับภาคบริการ ทั้งผู้ค้าปลีก ค้าส่ง สมาร์ทโชวห่วย กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มบริการสุขภาพ และกลุ่มร้านอาหาร โดยให้เข้าไปช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มช่องทางการตลาดให้ภาคบริการ

ผลการดำเนินงานตามนโยบาย ได้ช่วยพัฒนาร้านค้าปลีกสู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย ด้วยการสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ พัฒนาภาพลักษณ์ ส่งเสริมการนำเทคโนโลยี POS ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทั่วประเทศ มีเป้าหมายในการพัฒนา 3,500 รายทั่วประเทศ และผลักดันให้สมาร์ทโชวห่วยนำระบบ POS มาใช้ในการบริหารจัดการร้าน 500 ราย

นอกจากนี้ ยังได้ใช้ร้านค้าปลีกค้าส่ง ร้านโชวห่วยในเครือข่ายที่ผ่านการอบรมพัฒนาแล้ว มาช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ในการจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดผ่านร้านโชวห่วยจำนวน 2,040 ราย ซึ่งสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนลงลึกถึงระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้านได้เป็นอย่างมาก

สร้างเครือข่าย-เพิ่มมาตรฐานธุรกิจบริการ

ส่วนธุรกิจบริการที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ สำนักงานบัญชี ได้พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ การตลาด เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงการเชื่อมโยงเครือข่าย Startup กับ SMEs ด้วยนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ นำไปสู่การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงแหล่งตลาด และการบริหารจัดการระบบคลังสินค้าและขนส่งแบบครบวงจร 2,453 ราย

ขณะเดียวกัน ได้สร้างความเข้มแข็งและการเติบโตให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ไทย สร้างธุรกิจแฟรนไชส์รายใหม่ (B2B Franchise) รุ่นที่ 24 จำนวน 158 ราย รวม 98 กิจการ และเสริมสร้างมาตรฐานคุณภาพด้านบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ไทย 235 ราย

พร้อมกันนี้ ได้ให้ความรู้ด้านบริหารจัดการธุรกิจผ่าน e-Learning จำนวน 7 หลักสูตร 30 วิชา ได้แก่ หลักสูตรการเริ่มต้นธุรกิจ หลักสูตรการเงินและการบัญชี หลักสูตรวิชาบัญชี หลักสูตรพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น หลักสูตรพัฒนากลยุทธ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หลักสูตรการประกอบธุรกิจใน AEC หลักสูตรการพัฒนาระบบบริหารจัดการธุรกิจโลจิสติกส์ ผ่านเว็บไซต์ http://dbdacademy.dbd.go.th มีผู้สมัครเข้ามาเรียนแล้ว 28,658 ราย

สำหรับแผนงานช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2564 จะเน้นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ธุรกิจบริการที่ผ่านการคัดเลือก ช่วยสร้างแรงจูงใจ และผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจปรับตัวกับวิถีการค้ายุคใหม่ โดยเฉพาะการขายและการตลาดออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.ของดีทั่วไทย.com ในเดือน ส.ค. 2564, ส่งเสริมร้านอาหารไทยในประเทศให้ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป้าหมาย 300 ราย ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในประเทศได้รับตราสัญลักษณ์ 940 ราย และจัดประกวดธุรกิจแฟรนไชส์ไทย (Thailand Franchise Award 2021 : TFA 2021) ในเดือน ส.ค. 2564

พลิกโฉมหน้างานบริการด้วยดิจิทัล

ทางด้านการปรับปรุงพัฒนาการให้บริการภาคธุรกิจและประชาชน นายจุรินทร์ได้กำชับให้มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วในการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตอบสนองนโยบายกระทรวงพาณิชย์ดิจิทัล และนโยบาย E-Government ของรัฐบาล โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ยกระดับการเริ่มต้นธุรกิจของประเทศ โดยดำเนินการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

เริ่มจากการจองชื่อนิติบุคคลด้วยระบบ AI ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจสอบและผลอนุมัติการจองชื่อ โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2564 และส่งเสริมการใช้ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) เพิ่มช่องทางการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) และปรับปรุงแบบฟอร์มการกรอกให้ง่ายขึ้น เปิดให้บริการ 27 เม.ย. 2563 และยังได้ลดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบ e-Registration จากเดิมลดให้ร้อยละ 30 เป็นลดให้ร้อยละ 50 เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2564

นอกจากนี้ ได้เพิ่มช่องทางให้ผู้แทนสามารถกรอกและยื่นคำขอจดทะเบียนแทนผู้ประกอบการได้ เปิดให้บริการ 8 มี.ค. 2564 และพัฒนาระบบการให้บริการออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Foreign Certificate) โดยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร 2 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุนต่างชาติ ให้สามารถยื่นขอรับบัตรส่งเสริมลงทุนจาก BOI และหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้ ณ จุดเดียว (Single Unit) ที่ BOI ทำให้ลดระยะเวลาจากเดิมตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 30 วัน เหลือเพียงภายใน 5 วัน และลดต้นทุนการดำเนินการของผู้ประกอบธุรกิจชาวต่างชาติโดยเปิดให้บริการเดือน ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา

ไม่เพียงแค่นั้น ยังได้เปิดให้บริการระบบออกเลขประจำตัวนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขอมีเลขประจำตัวนิติบุคคล แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล และแจ้งยกเลิกการประกอบธุรกิจให้แก่นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย และเป็นธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งคนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจได้โดยไม่ต้องขออนุญาต โดยสามารถดำเนินการได้ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564

ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามนโยบายเร่งด่วน ที่นายจุรินทร์ได้กำหนดเป็นแผนการทำงานสำหรับปี 2564 ซึ่งสามารถช่วยให้ "คนตัวเล็ก" ได้มีโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้น มีโอกาสในการทำมาค้าขายเพิ่มขึ้น มีโอกาสในการเพิ่มรายได้ในกระเป๋าเพิ่มขึ้น และมีโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของการทำรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ยืนยันว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังคงเพิ่มความเข้มข้นและช่วยผลักดันให้คนตัวเล็กมีโอกาสเพิ่มขึ้นต่อไป
#10181
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#10182



เสียวหมี่ (Xiaomi) เปิดตัว 5 ผลิตภัณฑ์ AIoT ใหม่ ขยายอาณาจักรสมาร์ทลิฟวิ่งด้วยสินค้ากลุ่มความบันเทิงในบ้าน อุปกรณ์ทำอาหาร และสกู๊ตเตอร์สำหรับเดินทางในชีวิตประจำวัน วางเป้าหมายยกระดับการใช้ชีวิตอัจฉริยะสำหรับผู้บริโภคในทุกด้าน สินค้าเด่นคือ Mi Smart Air Fryer หม้อทอดไร้น้ำมันอัจฉริยะขนาด 3.5 ลิตร สั่งการด้วยเสียง

การเปิดตัวรอบนี้ถือเป็นก้าวล่าสุดของเสียวหมี่ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 แม้จะระบุว่าเป็น "บริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก" แต่หลักการของบริษัทคือไม่ลดละที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพในราคาที่เป็นจริง ทำให้สินค้าที่แหวกแนวหลายตัวของบริษัทได้รับความสนใจในวงกว้าง

ผลคือในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 เสียวหมี่กลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 2 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม AIoT (AI+IoT) สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสถิติล่าสุดย้ำว่าเสียวหมี่มีสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 324.8 ล้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสียวหมี่วางจำหน่ายมากกว่า 100 ตลาดทั่วโลก

หม้อทอดสั่งด้วยเสียง

หม้อทอดไร้น้ำมันอัจฉริยะ Mi Smart Air Fryer ขนาด 3.5 ลิตร เป็นหม้อทอดที่เสียวหมี่เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตของทุกคนที่ง่วนอยู่กับการจัดการชีวิต ไม่พลาดกับการมีสุขภาพที่ดี เนื่องจากการเข้าครัวจะเป็นเรื่องง่าย เพราะหม้อทอดนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น Mi Home ได้ ผู้ใช้งานจึงควบคุมได้จากทุกที่ ซึ่งสามารถเซ็ตความร้อนได้ตั้งแต่ 40°C จนถึง 200°C ทำให้อาหารสุกพร้อมทานอย่างพอดี นอกจากนี้ในตัวแอปยังมีสูตรอาหารไอเดียใหม่ๆ กว่า 100 รายการที่ใช้กับ Mi Smart Air Fryer ขนาด 3.5 ลิตรนี้ได้ ทำให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายดายและไม่จำเจ

สามารถใช้ Voice Command จาก Google Assistant หรือ Alexa จาก Amazon ที่จะช่วยเปิด ปิด หรือแจ้งว่าเหลือเวลาที่ตั้งไว้อีกกี่นาที 

สามารถใช้ Voice Command จาก Google Assistant หรือ Alexa จาก Amazon ที่จะช่วยเปิด ปิด หรือแจ้งว่าเหลือเวลาที่ตั้งไว้อีกกี่นาที

ผู้ใช้งาน Mi Smart Air Fryer ขนาด 3.5 ลิตร สามารถตั้งเวลาในการทำอาหารได้ล่วงหน้าถึง 24 ชั่วโมง นับว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ทำอาหารในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการหมักโยเกิร์ต การเอาน้ำออกจากอาหารสัตว์ และหากว่ามือไม่ว่าง ผู้ใช้งานก็ยังสามารถใช้ Voice Command จาก Google Assistant หรือ Alexa จาก Amazon ที่จะช่วยเปิด ปิด หรือแจ้งว่าเหลือเวลาที่ตั้งไว้อีกกี่นาที นอกจากนี้หน้าจอ OLED สุดคมชัดยังทำให้คุณชำเลืองมองเวลาและอุณหภูมิได้อย่างง่ายดาย ราคา 99 ยูโร (ราว 3,800 บาท)

เสียวหมี่ยังแจ้งเกิดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ใช้ชีวิตนอกบ้านได้สนุกยิ่งขึ้น นั่นคือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Mi Electric Scooter 3 นวัตกรรมใหม่จากเสียวหมี่ที่มีจุดขายว่าสามารถยกระดับการใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกบ้านได้

Mi Electric Scooter 3 ยานพาหนะที่มีฟีเจอร์และระบบความปลอดภัย
เสียวหมี่มองว่าตัวเองเป็นผู้นำในธุรกิจสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เพราะมียอดขายกว่า 4,000,000 คันทั่วโลกแล้ว รอบนี้เป็นคิวของ Mi Electric Scooter 3 ยานพาหนะที่มีฟีเจอร์และระบบความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาแล้ว โดยมีสองสีให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น Onyx Black หรือ Gravity Grey นอกจากนี้ ยังมีน้ำหนักที่เบาและอัปเกรดดีไซน์มาให้พับได้ถึงสามขั้น

Mi Electric Scooter 3 ราคาเท่าจอมอนิเตอร์

Mi Electric Scooter 3 สามารถทำความเร็วได้ถึง 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์สูงสุด 600W และไม่ว่าจะเจอเนินหรือหลุม Mi Electric Scooter 3 ก็สามารถเคลื่อนผ่านไปได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ๆ ซึ่งรวมไปถึงระบบเบรค E-ABS regenerative anti-lock และดิสก์เบรคคู่ล้อหลัง ราคาเริ่ม 449 ยูโร (ประมาณ 17,000 บาท)

สำหรับสินค้ากลุ่มการเชื่อมต่อ เสียวหมี่เปิดตัว Mi Router AX9000 ในฐานะเราเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อบ้านในอนาคต สำหรับเป็นดิจิทัลฮับกระจายความบันเทิง

Mi Router AX9000

ความพิเศษของ Mi Router AX9000 คือการเป็นเราเตอร์รุ่นแรกของเสียวหมี่ที่รองรับ Tri-Band WI-FI 6 มาพร้อมกับขุมพลังชิปเซ็ตของ Qualcomm® Hexa-core processor เราเตอร์ระดับแฟลกชิปตัวนี้รองรับคลื่นความถี่ 4GHZ 1 ช่องและ 5GHZ ได้พร้อมกันถึง 2 ช่อง จึงสามารถยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมได้อย่างไม่มีสะดุด แม้จะเชื่อมต่อกับหลายอุปกรณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน

Mi Router AX9000 ทำความเร็วสูงสุด 8,354 Mbps ครองใจเหล่าเกมเมอร์ยุคใหม่ตลอดจนบ้านที่ต้องการเราเตอร์ระดับไฮเอนด์ ที่รองรับ high-bandwidth ไม่ว่าจะเล่นเกม ดาวน์โหลดไฟล์ หรือสตรีมหนังระดับ 4K มาพร้อมกับเสาสัญญาณ AIoT ที่ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อและจัดการเน็ตเวิร์คของอุปกรณ์ได้ ราคา 299 ยูโร (ราว 11,639 บาท)


นอกจากนี้ยังมี Mi 2K Gaming Monitor ขนาด 27 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ 2560 x 1440 QHD และมีอัตรารีเฟรชเรทสูง 165Hz ราคาเริ่ม 449 ยูโร (ประมาณ 17,000 บาท)

รวมถึงหูฟัง Redmi Buds 3 Pro หูฟังใหม่ล่าสุดที่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid ANC รวมถึงการรับเสียงจากภายนอกภายใต้ รองรับ Bluetooth 5.2 ซึ่งสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกันได้ถึง 2 เครื่องแบบไม่ต้องกลัวหลุด รับสายโทรเข้าได้ขณะที่กำลังดูวิดีโอจากแลปท็อปอยู่ สามารถใช้งานลำพังได้นานถึง 6 ชั่วโมง หรือทั้งหมด 28 ชั่วโมงเมื่อนำไปชาร์จเข้ากับตัวเคส และเพียงชาร์จแค่ 10 นาที หูฟังจะสามารถใช้ฟังเพลงได้นาน 3 ชั่วโมง ราคาเริ่ม 69.9 ยูโร (ราว 2,720 บาท).
#10183


นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2564 โดยมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 11,250,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 45,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท

จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 113,538,062 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่เป็นจำนวน 124,788,062 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 499,152,248 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท


นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 45,000,000 หุ้นเพื่อเสนอขายในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกันให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 72/2558 เรื่อง การอนุญาตให้บริษัทจดทะเบียนเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.30 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 148,500,000 บาท ได้แก่

- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 15,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ บริษัท ไท่เว่ ไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 18,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ นางละออ ตั้งคารวคุณ

- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 6,000,000 หุ้น มูลค่ที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ นายวิชัย ด่านรัตน

- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 6,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ นางนธีรา บริรักษ์คูเจริญ

โดยวัตถุประสงค์ของการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน และเพื่อรองรับกับความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และรองรับการขยายกิจการในอนาคต โดยบริษัทมีแผนที่จะใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ในการขยายธุรกิจหลักของบริษัทและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นตามแผนการลงทุนของบริษัท และเพื่อเสริมสภาพคล่องและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อย ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในไตรมาส 4 ของปี 2564 เป็นต้นไป

ในการนี้ ที่ประชุมมีมติอนุมัติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 13 ก.ย.2564 เวลา 10.00 - 12.00 น. ประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยถ่ายทอดสด ณ ห้องประชุม สำนักงานใหญ่ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 56/9-10 ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 12/ ณนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 16 ส.ค.2564 (Record Date)
#10184
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812