ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

https://www.katobonsai.com/
บอนไซ บอนไซประดิษฐ์ ตกแต่งบ้าน

www.facebook.com/mediapro60
สอนทำพิมพ์ สอนหล่อเรซิ่น น้ำยาดับกลิ่นเรซิ่น

(ok)เลือก Green Curmin ขมิ้นชันรางวัลเหรียญทอง ละลายน้ำได้ 16,000เท่า ดูดซึมได้ดีกว่าสูตรเดิมถึง 4 เท่า! กรดไหลย้อน โรคกระเพาะดีขึ้นเร็ว หายไวทันใจ

​​​​​​​https://katoacademy.com/facebook-ads/
สอนเฟสบุ๊ค สอนยิงแอดเฟสบุ๊ค

ขายที่นา [ลาดหลุมแก้ว] 5ไร่ ๆละ800000 บ่อเงิน โทร 083-7124115

www.sctransformer.com
หม้อแปลง

update kaaa

update jaaa

จัดไป

หลังจากฟอร์มบู่มา 3 นัดรวดรวมทุกรายการ พลพรรค 'ยูงทอง' ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็ได้ลืมตาอ้าปากหาชัยชนะเจอแล้ว หลังรวมพลกันบุกไปยิงเชือด นอริช ซิตี หวุดหวิด 2-1 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 31 ตุลาคม 2021

พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
นอริช ซิตี 1-2 ลีดส์ ยูไนเต็ด

เกมคู่แรกวันอาทิตย์ นอริช ซิตี บ๊วยมี 2 แต้ม เปิดบ้านเจอ ลีดส์ ยูไนเต็ด อันดับ 18 มี 7 แต้ม เกมนี้ 'นกขมิ้น' มีคู่หน้าคือ ตีมู ปุกกี กับ โจชัว ซาร์เจนต์ ส่วน 'ยูงทอง' ใช้ โรดริโก้ ยืนหน้าเป้าแล้ว ดาเนียล เจมส์, แจ๊ค แฮร์ริสัน กับ ราฟินญ่า คุมแดนกลาง
เริ่มเกม 11 นาที นอริช หวิดนำ ตีมู ปุกกี ถอยมารับ.จากแถวสองแล้วตวัดยิงเร็วแต่หลุดเสาไป ขณะที่ นาที 14 เจ้าบ้านมาอีกจากฟรีคิกระยะมีลุ้น คีแรน ดาวน์ วาง.แล้วปั่นซ้ายแค่.แรงข้ามคานไป

นอริช บุกฝั่งเดียว นาที 26 คีแรน ดาวน์ ป้ายต่อให้ แมเธียส นอร์มันน์ ลองยิงไกลแต่ไม่เข้ากรอบ ต่อมา นาที 43 ลีดส์ ตอบโต้ โรดริโก้ ได้.หน้าเขตโทษแต่ยิงไปเข้าซอง ทิม ครูล ยังไม่มีใครทำอะไรได้ จบครึ่งแรกที่ 0-0

ครึ่งหลัง นาที 55 ลีดส์ สวนกลับจนได้ประตูนำ ราฟินญ่า ดูด.ทางขวาแล้วล็อก 2 จังหวะก่อนยิงเหนือชั้น 1-0 แต่ดีใจแวบเดียว นาที 57 นอริช ตีเสมอทันควัน มิโลต์ ราชิซ่า เปิดเตะมุมทางซ้ายเข้ากบาล แอนดรูว โอโมบามิเดเล่ โขกตุงตาข่าย 1-1

ลีดส์ ฮึดสู้แล้ว นาที 60 ก็ขึ้นนำอีกครั้ง ราฟินญ่า แย่ง.หน้าประตูให้ คัลวิน ฟิลลิปส์ หวดซ้ายซุกก้นตาข่าย 2-1 ส่วนท้ายเกม นาที 80 ลีดส์ อยากได้อีกลูก ราฟินญ่า สปีดขึ้นมาแล้วยิงขวาแต่เจอ ทิม ครูล เซฟ สุดท้ายไม่มีประตูแล้ว ลีดส์ ยูไนเต็ด กลับมาชนะนัดแรก หลังบู่มาตลอด 3 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นอริช ซิตี - ทิม ครูล, แกรนท์ ฮันลีย์, แอนดรูว โอโมบามิเดเล่, โอซาน คาบัค, เคนนี แม็คลีน, คีแรน ดาวน์, แมเธียส นอร์มันน์, มิโลต์ ราชิซ่า, แม็กซ์ อารอนส์, ตีมู ปุกกี, โจชัว ซาร์เจนต์
ลีดส์ ยูไนเต็ด - อิลลัน เมสลิเยร์, ปาสคัล สตรูยิช, เลียม คูเปอร์, ดิเอโก้ ยอเรนเต้, สจวร์ต ดัลลาส, เจมี แช็คเคลตัน, ดาเนียล เจมส์, คัลวิน ฟิลลิปส์, แจ๊ค แฮร์ริสัน, ราฟินญ่า, โรดริโก้

ภูเก็ต เหยื่อโควิดเสียชีวิตอีก 2 ราย ติดเชื้อใหม่ 58 ราย แซนด์บ็อกซ์สะสมทะลุ 202 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 821 ราย กักตัว 189 ราย

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2564 ศูนย์ข้อมูลภูเก็ต รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 3 เม.ย. – 1 พ.ย. ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ณ เวลา 20.00 น. วันที่ 2 พ.ย. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากในภูเก็ต 57 ราย (รายละเอียดผู้ติดเชื้ออยู่ระหว่างการตรวจสอบ) ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากต่างประเทศ 0 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากแซนด์บ็อกซ์ 1 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากโครงการรับผู้ป่วยกลับบ้าน 0 ราย



ผู้ติดเชื้อยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล 821 ราย ผู้ติดเชื้อหายกลับบ้านวันนี้ 96 ราย ผู้ติดเชื้อรักษาหายกลับบ้าน 14,681 ราย ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตรายใหม่วันนี้ 2 ราย ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตสะสม 121 ราย กักตัวที่ศูนย์ดูแลโควิด-19 ชุมชน เป็นผู้เข้าข่ายรายใหม่ตรวจเชิงรุก ATK 9 ราย ยอดคงเหลือผู้เข้าข่ายกักตัว 189 ราย

ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 15,623 ราย ผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัดสะสม 10 ราย ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศสะสม 35 ราย ผู้ติดเชื้อจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สะสม 202 ราย ผู้ติดเชื้อจากโครงการรับผู้ป่วยกลับบ้าน 42 ราย

เชียงใหม่ ยังหนัก ติดเชื้อ 322 ราย พร้อมสั่งปิดตลาดนัดในอำเภอแม่อาย 14 วัน รวมทั้ง 2 หมู่บ้าน ที่ ต.บงตัน-ดอยเต่า งดเข้าพื้นที่ฯ 2 แห่ง โดยไม่จำเป็น14 วัน


เมื่อวันที่ 2 พ.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 322 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด 316 ราย อีก 5 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่เดือนก.ค.64 จนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 13,172 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 4,427 ราย


แยกเป็นโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ 218 ราย โรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจ 105 ราย Community Isolation (CI) 2,360 ราย Home Isolation (HI) 61 ราย Hospitel 289 ราย โรงพยาบาลรัฐ 449 ราย โรงพยาบาลเอกชน 875 ราย และโรงพยาบาลต่างจังหวัด 70 ราย




สำหรับผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 3,600 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 722 ราย อาการหนัก (สีแดง) 105 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 61 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมระลอกเดือนเม.ย.ของจังหวัดเชียงใหม่ (ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 จนถึงปัจจุบัน) มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วทั้งหมด 17,341 ราย และรักษาหายแล้ว 12,597 ราย โดยเป็นผู้ป่วยที่รักษาหายวันนี้ 202 ราย



ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 1,113,008 คน คิดเป็นร้อยละ 64.36 จากประชากรทั้งหมดของจังหวัดเชียงใหม่ โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดแล้ว 209,151 คน คิดเป็นร้อยละ 63.83 กลุ่ม 7 โรคเรื้อรังฉีดแล้ว 109,847 คน คิดเป็นร้อยละ 90.68 และกลุ่มประชาชนทั่วไป ฉีดแล้ว 731,027 คน คิดเป็นร้อยละ 89.98

ล่าสุดคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีมติให้ออกคำสั่งฯ ที่ 232/ 2564 เรื่อง ปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว โดยสั่งให้ปิดตลาดนัดทุกแห่ง ในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นระยะเวลา 14 วัน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. ถึงวันที่ 12 พ.ย.64

ทั้งนี้คำสั่งยังระบุอีกว่า หากครบ 14 วันตามคำสั่งให้ปิดแล้ว ให้เจ้าของตลาดนัดที่ประสงค์จะเปิดตลาดนัดใหม่ ให้ยื่นขออนุญาตในการเปิดทำการฯ ต่อศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่อาย ก่อนเปิดทำการ 7 วัน หากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่อาย พิจารณาและตรวจสอบแล้วเห็นว่า ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเหมาะสม จึงอนุญาตให้เปิดตลาดนัดได้ และให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบลไปตรวจสอบในวันที่เปิดตลาดนัด ว่าปฏิบัติตามมาตรการโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ และรายงานให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่อายทราบภายใน 1 วันทำการถัดไป

นอกจากนี้ ยังออกคำสั่งอีก 2 ฉบับ เป็นคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 229/2564 เรื่อง ปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว โดยสั่งให้ปิดพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านบงตัน ต.บงตัน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา 14 วัน ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. ถึงวันที่ 11 พ.ย.64 และออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 230/2564 เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุมการเข้า-ออก หมู่ที่ 3 บ้านหนองปู-หล่ายแก้ว ต.บงตัน อ.ดอยเต่า เป็นพื้นที่ควบคุมการเข้า-ออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.ถึงวันที่ 11 พ.ย.64

สำหรับในพื้นที่สั่งปิดและควบคุมการเข้า-ออก สั่งให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกคนเข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หากผลตรวจ เป็นลบให้กักตนเอง (Home Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน และกลุ่มเสี่ยงต่ำให้คุมไว้สังเกตอาการ เป็นเวลา 14 วัน และปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่อย่างเคร่งครัด

พร้อมกันนี้ยังขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ฯ ทั้ง 2 แห่ง โดยไม่มีเหตุจำเป็น เป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อลดการเดินทางที่เสี่ยงต่อการสัมผัสโรค และให้นายอำเภอดอยเต่า ในฐานะ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอดอยเต่า กำกับ และควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

www.facebook.com/mediapro60
สอนทำพิมพ์ สอนหล่อเรซิ่น น้ำยาดับกลิ่นเรซิ่น

up up

กสิกรไทย ประกาศจุดยืนปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากการดำเนินงาน ภายในปี 73 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในพอร์ตโฟลิโอของธนาคาร สอดรับเป้าหมายประเทศ พร้อมอัดฉีดเงินไม่น้อยกว่า 1-2 แสนล้าน สนับสนุนการเงินและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน

ธนาคารกสิกรไทย ประกาศความมุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) ด้วยเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากการดำเนินงานของธนาคาร (ขอบเขตที่ 1 และ 2)* ภายในปี 2573พร้อมกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในพอร์ตโฟลิโอของธนาคาร สอดคล้องกับเป้าหมายประเทศ

และบุกบริการทางการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  เตรียมอัดฉีดเงินอย่างน้อย 1-2 แสนล้านบาท ปล่อยสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน สนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์  มุ่งสนับสนุนความพยายามของประชาคมโลกในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 เพื่อร่วมบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องตามความตกลงปารีส

ธนาคารกสิกรไทย ประกาศความมุ่งมั่น ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์


นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK  เปิดเผยว่า ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืนชั้นนำของประเทศอย่างต่อเนื่อง ธนาคารสนับสนุนความพยายามของประชาคมโลกในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อร่วมบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลักดันประเทศไทยและลูกค้าของธนาคารที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจทั้งภูมิภาค ก้าวสู่เศรษฐกิจการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ไปด้วยกัน

โดยคณะกรรมการธนาคารกสิกรไทยมีมติในการประกาศความมุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) ได้แก่ 
 
1. ธนาคารกสิกรไทยมุ่งมั่นที่จะดำเนินการเพื่อเพิ่มอำนาจให้ทุกชีวิตและธุรกิจของลูกค้า และพร้อมสนับสนุนลูกค้าก้าวสู่เศรษฐกิจการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ทั้งนี้ ความยั่งยืนได้ฝังแน่นในวิถีการดำเนินธุรกิจและการให้บริการลูกค้าของธนาคาร 
 
2.  ธนาคารมุ่งมั่นให้การสนับสนุนประเทศไทยและลูกค้าของธนาคารที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจทั้งภูมิภาค ในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งจะสนับสนุนความพยายามของประชาคมโลกในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน พ.ศ. 2593 (ค.ศ.2050) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายความตกลงปารีส 
 
3. ธนาคารมุ่งมั่นเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืนชั้นนำของประเทศไทย โดยสนับสนุนด้านการเงินและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 1-2 แสนล้านบาท ภายใน พ.ศ. 2573 (ค.ศ.2030) และจะเป็นผู้บุกเบิกการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 


4. ธนาคารกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากการดำเนินงานของธนาคาร (ขอบเขตที่ 1 และ 2)* ภายใน พ.ศ. 2573 (ค.ศ.2030) รวมทั้งกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในพอร์ตโฟลิโอของธนาคารให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทย และจะเร่งดำเนินการในส่วนที่เป็นไปได้ให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งธนาคารจะประเมินโอกาสทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อดำเนินงานอย่างทันท่วงทีสอดคล้องกับเทคโนโลยี กฎระเบียบต่าง ๆ รวมทั้งสภาพแวดล้อมภายนอกที่มีวิวัฒนาการตลอดเวลา

นางสาวขัตติยา กล่าวว่า  ธนาคารเชื่อมั่นในการดำเนินงานบนหลักการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญไม่ใช่เพียงมิติสิ่งแวดล้อม แต่รวมถึงมิติสังคม และธรรมาภิบาลมาอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารให้ความสำคัญในการสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงิน การให้ความรู้ทางการเงิน การเคารพสิทธิมนุษยชน การดูแลพนักงาน ชุมชน และสังคม ภายใต้การดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี

รวมทั้งการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่ผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาวต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ด้วยเชื่อว่าความยั่งยืนไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งธนาคารพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปได้ และสามารถส่งมอบโลกที่สมดุลและยั่งยืนให้แก่คนรุ่นต่อไป