• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chanapot

#10112


สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การสำรวจโรงงานหลายระลอกในสัปดาห์นี้ชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ดิ่งลงอย่างรวดเร็วในเดือน ก.ค. ตรงข้ามกับในเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมแถบเอเชียตะวันเฉียงเหนือและตะวันตก ที่แม้ภาคธุรกิจเติบโตชะลอลงแต่ก็ยังขยายตัว

เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีประชากร 600 ล้านคน สะดุดลงเพราะโควิดระบาด ถูกซ้ำเติมด้วยการฉีดวัคซีนช้า รัฐบาลนานาประเทศดิ้นรนหาวัคซีนและออกมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลให้โรงงานหลายแห่งร้างไร้คนงาน กระทบไปถึงเศรษฐกิจของภูมิภาค ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ฟื้นตัวเร็วแห่งหนึ่งของโลก หลังจากที่ต้านทานวิกฤติเศรษฐกิจโลกอันหลายหลายในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาได้ เนื่องจากมีการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งเป็นวงกว้าง และอยู่ติดกับจีน

นักเศรษฐศาสตร์จากเอชเอสบีซีเตือนว่า อัตราการฉีดวัคซีนต่ำในอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทย รวมถึงประสิทธิภาพที่ไม่แน่นอนของวัคซีนที่ฉีดทำให้ประเทศเหล่านี้ตกอยู่ในความเสี่ยง

"นี่หมายความว่า ประชากรในประเทศเหล่านี้อาจยังคงเสี่ยง ไม่เพียงแค่กับการระบาดปัจจุบัน แต่ยังเสี่ยงกับการกลายพันธุ์ของไวรัสที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ข้อจำกัดการเดินทางมีแนวโน้มคงอยู่ต่อไป ส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะสั้น" เอชเอสบีซีระบุ

สำหรับผู้ผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ความสามารถในการแข่งขันส่วนใหญ่มาจากต้นทุนค่าแรงถูก และเข้าถึงวัตถุดิบได้ ผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ที่มีต่ออุปทานแรงงานส่งผลให้เกิดคอขวดในการผลิตครั้งใหญ่

ในไทยผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของเอเชีย และเป็นฐานการผลิตให้กับแบรนด์ใหญ่ระดับโลก เมื่อเดือน ก.ค.โตโยต้ามอเตอร์คอร์ป ระงับการผลิตที่โรงงานสามแห่งเนื่องจากอะไหล่ขาดแคลนเพราะโควิดระบาด


บริษัทสยามอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร ผู้ส่งออกผลไม้แปรรูปของไทย ซึ่งต้องพึ่งพาแรงงานข้ามชาติสูงมาก โดยเพิ่งหาคนงานได้ 400 ตำแหน่งจาก 550 ตำแหน่งเท่านั้น เนื่องจากคนงานกลับประเทศไปแล้วยังมาไทยไม่ได้เพราะยังไม่เปิดพรมแดน

"แต่ละวันมีผลไม้ถึง 350 ตันแต่เราแปรรูปได้แค่ 250 ตัน เพราะแรงงานไม่พอ ความต้องการในตลาดส่งออกอย่างสหรัฐ ซึ่งเป็นลูกค้าหลักมีสูงมาก แต่ปัญหาตอนนี้อยู่ที่การผลิต" กัญญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานกรรมการบริษัทกล่าว

ในเวียดนาม ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานบริษัทระดับโลกหลายแห่ง อาทิ ซัมซุง ฟ็อกซ์คอนน์ และไนกี้ บริษัทที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจำเป็นต้องกักตัวคนงาน ด้วยการให้นอนค้างที่โรงงานยามค่ำคืนไม่ต้องออกไปที่อื่น

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติรัฐบาลเวียดนามเมื่อสัปดาห์ก่อน พบว่า การควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวดในหลายเมืองและหลายจังหวัดทางตอนใต้เมื่อเดือน ก.ค. ทำให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงอย่างรวดเร็ว

ในมาเลเซีย ที่ผลิตถุงมือยางป้อนตลาดโลกราว 67% การล็อกดาวน์ทำให้ต้องระงับการผลิตในเดือน มิ.ย.และ ก.ค.

สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางมาเลเซียต้องร้องขอต่อรัฐบาลให้กลับมาผลิตได้อีกโดยให้เหตุผลว่า เป็นห่วงผู้ซื้อทั่วโลก รัฐบาลจึงยอมผ่อนคลายอนุญาตให้คนงานกลับมาทำงานได้ 60% ตอนนี้สมาชิกเรียกร้องขอกลับมาปฏิบัติการเต็มรูปแบบ

ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นแล้วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายในที่อื่นๆ ด้วย เช่น อินฟินอนเทคโนโลยีส์ บริษัทผลิตชิพจากเยอรมนี คาดว่าต้องเสียหายหลายสิบล้านดอลลาร์จากการปิดโรงงานในมาเลเซีย ส่งผลต่อเนื่องไปถึงลูกค้าผลิตรถยนต์ของบริษัท

แดเนียล เบิร์นเบค ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) หอการค้าและอุตสาหกรรมมาเลเซีย-เยอรมนี กล่าวว่า ระเบียบกักตัวอันเข้มงวดของมาเลเซียยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่จำเป็นมากในบริษัทเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์เข้ามาเลเซียได้ยาก นักวิเคราะห์เตือนว่า ความเสี่ยงนี้จะสร้างความเสียหายมากยิ่งกว่าแค่การผลิต

ด้านมูดีส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส กล่าวว่า เขตเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกที่มีโครงสร้างเศรษฐกิจกระจุกตัวและสถาบันต่างๆ อ่านแอจะได้รับความเสียหายหนักสุด ได้แก่ เขตเศรษฐกิจที่มีรายได้น้อย-ปานกลาง ความเสียหายร้าวลึกมีแนวโน้มเพิ่มความเสี่ยงทางสังคม

"ในเขตเศรษฐกิจเหล่านี้บางแห่ง การมีภาระหนี้สูงทำให้รัฐบาลมีพื้นที่ทางการคลังรับมือการแพร่ระบาดได้อย่างจำกัด" มูดีส์ย้ำ

ด้านวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเมื่อวันจันทร์ (2 ส.ค.) อ้างข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ว่า ขณะที่ประชากรในเขตเศรษฐกิจพัฒนาแล้วฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเกือบ 40%เขตเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ยังฉีดได้ไม่ถึงครึ่งของตัวเลขดังกล่าว

บางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังต่ำกว่านั้นด้วยซ้ำ เช่น อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วราว 8% ในไทยราว 6%

"กลยุทธ์สกัดโควิดปี 2563 เป็นกลยุทธ์ไม่ยั่งยืนเมื่อเวลาผ่านไป เพราะทำได้แค่ซื้อเวลาเท่านั้น" จินห์ เหวียน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากธนาคารเพื่อการลงทุน Natixis ในฮ่องกงกล่าว

เมื่อต้นเดือน มิ.ย. มาเลเซียสั่งปิดโรงงานในภาคส่วนไม่จำเป็น เช่น โรงงานเสื้อผ้า หลังเกิดโควิดระบาดในสถานประกอบการหลายระลอก

ตัน เทียนโปห์ ประธานบริษัทผลิตเสื้อผ้าเอเชียแบรนด์ส จำกัด กล่าวว่า ระเบียบดังกล่าวหมายถึงเขาไม่สามารถผลิตเสื้อผ้าได้ถึงสองเดือน การส่งมอบให้ผู้ซื้อต่างชาติต้องล่าช้าถ้าเป็นเช่นนั้นลูกค้าก็อาจเปลี่ยนไปหาซัพพลายเออร์จากประเทศอื่นแทน

"ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลกระทบกับพวกเราอย่างรุนแรงมากๆ" นักธุรกิจมาเลเซียกล่าวทิ้งท้าย
#10114


รายงานข่าวจาก หัวเว่ย เผยว่า ช่วยสนับสนุนสิงคโปร์ในการสร้างศูนย์กลางด้านสตาร์ทอัพแห่งแรกของเอเชีย-แปซิฟิกมาตั้งแต่ปี 2563 และได้ขยายโครงการไปยังฮ่องกง ไทย มาเลเซีย 

โดยจากนี้จะเน้นความสำคัญไปที่การพัฒนาศูนย์กลางด้านสตาร์ทอัพเพิ่มเติมอีกสี่แห่งในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และเวียดนาม มีเป้าหมายในการรวบรวมสตาร์ทอัพกว่า 1,000 ราย โดยสตาร์ทอัพ 100 รายจากในจำนวนนี้จะได้รับการต่อยอดสู่โครงการ Spark Accelerator

สำหรับประเทศไทย ได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) สำนักงานนวัตกรรแห่งชาติ (NIA) และพันธมิตรที่มีชื่อเสียงอีกหลายราย จัดการแข่งขัน "Spark Ignite 2021 – Thailand Startup Competition" เมื่อเดือนมิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขันชิงรางวัล ครั้งนี้มีสตาร์ทอัพศักยภาพสูงกว่า 10 รายจากทั่วประเทศเข้าร่วม 


นอกจากนี้ เปิดตัวโครงการเกี่ยวกับสตาร์ทอัพอีกสามโครงการประกอบด้วยโครงการ Spark Developer Program ที่มุ่งฟูมฟักอีโคซิสเต็มนักพัฒนาในเอเชีย-แปซิฟิกผ่าน HUAWEI CLOUD, โครงการ Spark Pitstop Program ที่ออกแบบมาเพื่อดูแลและให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพในระบบ HUAWEI CLOUD ให้สามารถเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ และโครงการ Spark Innovation Program (SIP) ที่เน้นด้านการอำนวยความสะดวกด้านนวัตกรรมธุรกิจองค์กรผ่านอีโคซิสเต็มสตาร์ทอัพภายใต้โครงการ Spark

แคทเธอรีน เฉิน รองประธานอาวุโสและคณะกรรมการบริหาร หัวเว่ย กล่าวว่า เราต่างทราบดีถึงศักยภาพของสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ที่เป็นทั้งนักประดิษฐ์คิดค้น นักปฏิรูป และผู้บุกเบิกของยุคสมัย โดยธุรกิจเหล่านี้สร้างการจ้างงานคิดเป็นสัดส่วนถึงสองในสามจากทั้งโลก สร้างงานใหม่ทั้งหมดกว่าสองในสามจากทั้งโลก ทั้งยังได้สร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของโลกได้กว่า 50% 

เมื่อ 34 ปีที่แล้ว หัวเว่ยเองก็เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าการจดทะเบียนเพียง 5,000 ดอลลาร์เท่านั้น  จึงมีแนวคิดว่าจะสามารถใช้ประสบการณ์และทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อช่วยสนับสนุนสตาร์ทอัพอื่นๆ ก้าวข้ามความท้าทายได้อย่างไร 

โดยคาดว่าความช่วยเหลือนี้จะสามารถช่วยให้สตาร์ทอัพคว้าโอกาสที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุตดิจิทัล ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ และพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อโลกได้มากขึ้น

เจาง ผิงอัน (Zhang Ping'an) ประธานกลุ่มธุรกิจคลาวด์ หัวเว่ย กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจะยกระดับการสนับสนุนแก่ธุรกิจสตาร์ทอัพผ่านนโยบายใหม่ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อการทำงานผสานกันระหว่างคลาวด์กับคลาวด์ (cloud-plus-cloud collaboration) การสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง บริการคลาวด์ทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น และอีโคซิสเต็มที่มีคุณภาพสูงสำหรับธุรกิจ 

หัวเว่ยเปิดตัวโครงการ Cloud-plus-Cloud Collaboration and Joint Innovation Program เพื่อให้การสนับสนุนธุรกิจสตาร์อัพด้วยทรัพยากรมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์  โดยเงินลงทุนครึ่งหนึ่งมาจาก HUAWEI CLOUD และอีกครึ่งหนึ่งมาจาก Huawei Mobile Services (HMS)

ปี 2564 มีแผนสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพให้ถึง 200 รายในด้านอีโคซิสเต็ม HMS รวมทั้งแบ่งปันช่องทางจากเครือข่าย ของเรากับนักพัฒนาทั่วโลก ซึ่งต่างทำงานเพื่อรองรับผู้ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยกว่า 1,000 ล้านคน นอกจากนี้ เรายังจะเปิดศูนย์ HMS Developer Innovation Center เพื่อสนับสนุนนักพัฒนา HMS Cloud กว่า 100,000 รายโดยเฉพาะ
#10115












ขายที่ดิน ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เอกสารสิทธิ์ตามหน้าโฉนดครุฑแดง 
เนื้อที่ 5 ไร่ ขายไร่ละ 800,000 บาท  ขายรวม 4 ลบ.
สามารถแบ่งขายได้  ที่ดินอยู่ใกล้สถานที่สำคัยมากมาย 
แปลงนี้ข้อดี จุดน่าสนใจ บรรยากาศดี วิวดี 
ได้วิวธรรมชาติ พื้นที่สวยอากาศดีโล่งโปร่งสบาย เหมาะแก่การทำการเกษตร
เกษตรสวนผสม หรือสร้างบ้านหรือที่พักอาศัยได้ 
อยู่ใกล้โรงเรียนวืทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ใกล้สำนักงานโภชนาจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย
ใกล้ถนนสำคัญหลายสาย ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจที่ดินทำเล ไม่ไกลกรุงเทพ 
การคมนาคมสะดวกสบาย บรรยากาศธรรมชาติ เหมาะแก่การลงทุน
หรือซื้อไว้ทำที่อยู่อาศัย ทำการเกษตรก็ได้ บรรยากาศสดชื่น ดูร่มรื่น น่าอยู่ น่าอาศัย 
ทำเลดีมาก วิวสวย บรรยากาศปลอดโปร่งบริสุทธิ์ ใกล้ถนนทางหลวงชนบท
ไปเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญ อื่น ๆ ได้อีกหลายสาย ทำให้สะดวกสบายในก ารเดินทาง เข้า-ออก 
ใกล้โรงเรียน ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นสำหรับผู้มีบุตรยังอยู่ในวัยกำลังเรียน ทั้งยังอยู่ใกล้กับเมืองปทุมธานี 
ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งๆ ขึ้นในการเดินทางสัญจร 
เหมาะกับผู้ที่หาที่ดิน ทำเลสไตล์ ค่าใช้จ่ายวันโอนคนละครึ่ง

โทร 083-712-4115
Line id : 0837124115

ปักหมุด
ใกล้ ตำบล สิงหนาท อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
https://maps.app.goo.gl/TYZRf2azZMHC1Dds5

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=122524909845052&id=100062626307647
 
#10116


วันที่ 4 ส.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยรายชื่อจังหวัดที่มีคำสั่ง และประกาศให้มีการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่รวม 62 จังหวัด จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2564 เวลา 15.00 น. ประกอบด้วย

• ภาคเหนือ 17 จังหวัด

1. กำแพงเพชร

2. เชียงราย

3. เชียงใหม่


4. ตาก

5. นครสวรรค์

6. น่าน

7. พะเยา

8. พิจิตร

9. พิษณุโลก

10. เพชรบูรณ์

11. แพร่

12. แม่ฮ่องสอน

13. ลำปาง

14. ลำพูน

15. สุโขทัย

16. อุตรดิตถ์

17. อุทัยธานี

• ภาคกลาง-ตะวันออก 14 จังหวัด

1. กาญจนบุรี

2. จันทบุรี

3. ฉะเชิงเทรา

4. ชัยนาท

5. นครนายก

6. ประจวบคีรีขันธ์

7. ปราจีนบุรี

8. ระยอง

9. ราชบุรี

10. ลพบุรี

11. สระบุรี

12. สิงห์บุรี

13. สุพรรณบุรี

14. อ่างทอง

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

• ภาคใต้ 11 จังหวัด

1. กระบี่

2. ชุมพร

3. ตรัง

4. นครศรีธรรมราช

5. พังงา

6. พัทลุง

7. ยะลา

8. ระนอง

9. สงขลา

10.สตูล

11. สุราษฎร์ธานี

• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด

1. กาฬสินธุ์

2. ขอนแก่น

3. ชัยภูมิ

4. นครราชสีมา

5. นครพนม

6. บึงกาฬ

7. บุรีรัมย์

8. มหาสารคาม

9. มุกดาหาร

10. ยโสธร

11. ร้อยเอ็ด

12. เลย

13. ศรีสะเกษ

14. สกลนคร

15. สุรินทร์

16. หนองคาย

17. หนองบัวลำภู

18. อำนาจเจริญ

19. อุดรธานี

20. อุบลราชธานี
#10118
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#10119


เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 64 มาตรการการล็อกดาวน์ของ ศบค. ส่งผลให้การบริโภคไข่ไก่เพิ่มสูงขึ้นกว่าสถานการณ์ปกติ ล่าสุดกรมปศุสัตว์ได้เตรียมแผนรองรับในเรื่องนี้

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์จึงได้กำหนดมาตรการปรับสมดุล Demand – Supply โดยได้แจ้งให้เกษตรกรเจ้าของฟาร์มไก่ไข่ทั่วประเทศ สามารถยืดอายุการเลี้ยงแม่ไก่ไข่ยืนกรงออกไปตามที่แต่ละฟาร์มเห็นว่าเหมาะสม จากเดิมที่กำหนดให้ปลดแม่ไก่ยืนกรงที่อายุ 80 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ตลาด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ปริมาณไข่ไก่มีเพียงพอสอดคล้องกับความต้องการบริโภคภายในประเทศ และสามารถรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงพออยู่ได้ไม่ขาดทุน ไม่ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน


คาดว่าจะทำให้ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ในตลาดภายในประเทศเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ยวันละ 2–3 ล้านฟอง จากเดิมที่มีผลผลิตวันละ 40 ล้านฟอง จึงขอให้ประชาชนผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าปริมาณผลผลิตไข่ไก่จะมีเพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์อย่างแน่นอน
#10120


ธนาคารเกียรตินาคินภัทร โดยสายงานสินเชื่อธุรกิจ วิเคราะห์การระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 เริ่มส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างชัดเจน  โดยเฉพาะในกลุ่มกำลังซื้อที่เป็นกลุ่มตลาดโรงงาน อีกทั้งภาพรวมการเปิดโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีปริมาณลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ การปรับตัวและมองหาช่องว่างของตลาดยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในสถานการณ์การระบาดที่ยังไม่เห็นบทสรุป

การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 เริ่มมีผลกระทบชัดเจน ในพื้นที่ที่กำลังซื้อหลักเป็นพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมหรือกลุ่มโรงงานซึ่งมีโอกาสที่จะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลกระทบโดยตรงจากรายได้ที่ไม่แน่นอนและการระบาดของคลัสเตอร์ใหม่ในกลุ่มโรงงาน สะท้อนให้เห็นจากยอดการโอนกรรมสิทธิ์ของบ้านใหม่ (นิติบุคคล) ในไตรมาสแรกปีนี้ของกลุ่มสินค้าทาวน์เฮ้าส์ ที่ปรับตัวลดลงมากในจังหวัดนครปฐม (-88%)  สมุทรสาคร (-45%) และ สมุทรปราการ (-28%)  
ส่วนภาพรวมการเปิดโครงการใหม่พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลในไตรมาสแรกปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2563 โดยมีจำนวนยูนิตเปิดใหม่รวม 12,985 ยูนิต ลดลง 7,212 ยูนิต (-35%) จากการที่ผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวโดยจับกลุ่มเป้าหมายที่ยังมีกำลังซื้อและได้รับผลกระทบจากโควิด-19  ไม่มาก พบว่ากลุ่มสินค้าที่มียูนิตเปิดขายสูงสุดคือคอนโดมิเนียม โดยมียูนิตขายใหม่เข้ามาในตลาด 5,857 ยูนิต ลดลง (-15%) จากไตรมาสแรก 2563 ซึ่งกลุ่มนี้เริ่มเห็นภาพการชะลอเปิดตัวตั้งแต่ต้นปี 2563  รองลงมาคือ กลุ่มทาวน์เฮ้าส์มียูนิตเปิดขายใหม่ 4,159 ยูนิต ลดลง (-56%) จากไตรมาสแรก 2563 ส่วนบ้านเดี่ยวมียูนิตเปิดขายใหม่ 1,274 ยูนิตลดลง (-44%) จากช่วงเดียวกัน  

กลุ่มโครงการที่เปิดใหม่และขายดี เป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยในระดับราคา 3-5 ล้านบาท และกลุ่ม 5-10 ล้านบาท ซึ่งถ้าเจาะลึกลงไปในรายสินค้าจะเห็นว่ากลุ่มทาวน์เฮ้าส์เป็นสินค้าเปิดใหม่ที่ขายดีที่สุด โดยกลุ่มระดับราคาที่ขายดีเป็นช่วงระดับราคา 3-4 ล้านบาท (ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น) และระดับราคา 5-7 ล้านบาท (ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น) และที่น่าสนใจคือ บ้านแฝดในระดับราคา 5-7 ล้านบาทในพื้นที่เมืองรอบนอก ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนบ้านเดี่ยวที่ขยับราคาสูงขึ้นเป็น 8-10 ล้านบาท โดยพื้นที่ที่ทาวน์เฮ้าส์และบ้านแฝดมีการเปิดขายใหม่มากที่สุด คือโซนฝั่งบางนา-ศรีนครินทร์ รามอินทรา รังสิต-ลำลูกกา (ไม่เกินแนววงแหวนตะวันออก) ส่วนกลุ่มคอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่และขายดีมีแนวโน้มที่จะปรับราคาลดลงเป็นกลุ่มระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท
ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่แน่ชัดว่ายาวนานเพียงใด ปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าและอาจจะไม่ได้ตามเป้าหมายในปี 2564  การติดเชื้อโควิด-19 ที่กระจายเพิ่มในกลุ่มแรงงานก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรม สัดส่วนหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น กลุ่มกำลังซื้อใหม่ยังมีอัตราการว่างงานสูง กลุ่มกำลังซื้อต่างชาติที่ยังไม่กลับมาในปีนี้  หรือการอนุมัติสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยที่เข้มงวดขึ้น จะเป็นอุปสรรคที่ชะลอความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ทำให้ตลาดมีแนวโน้มหดตัวลงเป็นกลุ่มกำลังซื้อที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น และเกิดการแข่งขันแย่งตลาดที่ยังมีกำลังซื้อดังกล่าว  


ด้วยเหตุนี้ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร โดยสายงานสินเชื่อธุรกิจ เห็นว่าการปรับตัวและมองหาโอกาสจากช่องว่างของตลาดเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมในสถานการณ์ที่อุปสงค์ชะลอตัว อาทิ การเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบน้อย การกำหนดเซ็กเมนต์โดยนำเสนอสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

 การสร้างรูปแบบบริการที่รองรับสถานการณ์การใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มัล การบริหารสภาพคล่องของกระแสเงินสด การบริหารจัดการต้นทุนและความสมดุลของสต็อคบ้านที่ก่อสร้างกับอัตราการขายที่เหมาะสม การกำหนดแผนสำรองกรณีกลุ่มเซ็กเมนต์เดิมไม่สร้างยอดขาย การปรับรูปแบบสินค้าได้เร็ว การมองหาโอกาสในทำเลใหม่ๆ และกลุ่มเซ็กเมนต์ที่อุปทานในพื้นที่มีเหลือไม่มากหรือมีคู่แข่งขันน้อย

รวมทั้งการพัฒนาสินค้าใหม่ในทำเลซึ่งได้ประโยชน์จากการปรับปรุงผังเมืองกรุงเทพมหานคร จะเป็นช่องสำหรับเติมเต็มความต้องการสินค้าในบางระดับราคาที่ไม่สามารถเป็นไปได้ตามผังเมืองเดิม และเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ระหว่างสถานการณ์ที่โควิด-19 ยังไม่เห็นบทสรุป
#10121


นับเป็นการแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ด้วยสีหน้าที่ "เคร่งเครียด" อย่างมาก สำหรับแม่ทัพอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทยอย่าง ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา  ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หลังเผชิญมรสุมครั้งใหญ่ เมื่อศาลปกครองมีคำพิพากษา เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ "แอชตัน อโศก" มูลค่า 6,481 ล้านบาท ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทลูกอย่าง "บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นอาคารชุด 51 ชั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 666 ยูนิต ห้องชุดส่งมอบแล้ว 87% มูลค่ากว่า 5,639 ล้านบาท และมีจำนวนครัวเรือนอยู่อาศัย 578 ครอบครัว เป็นคนไทย 438 ราย และลูกค้าต่างชาติ 140 รายจากทั้งสิ้น 20 ประเทศ 

คำสั่งศาลปกครองกลาง ที่พิพากษาถอนใบอนุญาตก่อสร้าง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก รวมถึง "ลูกบ้าน" แสดงความกังวลใจให้ผู้บริหารรับทราบผ่านการประชุมออนไลน์เมื่อคืนนี้ โดยมีคำถามมากมายประเดประดังเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น..เราคือคนที่มาซื้อคอนโด เพื่ออยู่อาศัยนะ ไม่ได้มาเพื่อเก็งกำไรแล้วมีปัญหาก็มาโวยวาย, เค้าจะทุบหมดเลยใช่ไหม, จะครบ 3 ปีจะรีไฟแนนซ์ได้ไหม เป็นต้น ซึ่งผู้บริหารเองก็มืดแปดด้าน และเร่งหาทางออก แต่ระหว่างทางยืนยันจะอยู่เคียงข้างลูกบ้าน 

นอกจากการออกตัวอยู่เคียงข้างลูกค้าที่ซื้อโครงการ สิ่งที่บริษัทจะดำเนินการต่อจากนี้ คือเตรียมข้อมูล หลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นอุทรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ภายใน 30 วัน ซึ่งตามกระบวนการศาลคาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี เร็วสุดอาจเป็น 2 ปี 

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ถือโอกาสชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า กระบวนการพัฒนาโครงการ มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เช่น อนุมัติจาก 8 หน่วยงานราขการ ทั้งสำนักงานนโยบายและแผนพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) สำนักงานเขตวัฒนา กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมที่ดิน เป็นต้น


และได้รับใบอนุญาต 9 ฉบับ เช่น ใบอนุญาตใช้ทางของรฟม. ใบอนุญาติเชื่อมทางสาธารณะ ใบรับแจ้งการก่อสร้างตามมาตรา 39 ทวิ 3 ใบ ฯ นอกจากนี้ ยังขอความเห็นก่อนดำเนินการ 7 หน่วยงาน เช่น รฟม. กองควบคุมอาคาร สำนักการจราจร สำนักงานที่ดินฯ ผ่านความเห็นชอบจาก 5  คณะกรรมการ เช่น คณะกรรมการ รฟม. คณะกรรมการ พิจารณาแบบของสำนักงานควบคุมอาหาร ว่าแบบก่อสร้างถูกต้อง เป็นต้น

ขณะที่ทางเข้า-ออก โครงการ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ เดิมที่ดินของโครงการนั้นมีทางเข้าออกถนน แต่ภายหลังถูกเวนคืน ตามพ.ร.บ.เวนคืนที่ดิน เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะ ซึ่งส่งผลให้บริษัทและรฟม.สามารถใช้ที่ดินสำหรับเป็นทางเข้า-ออกโครงการเทียบเท่าสาธารณะได้ กรณีนี้บริษัทได้เสนอค่าตอบแทนให้แก่รฟม.มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท ด้วยการสร้างอาคารจอดรถสูง 7 ชั้น เพื่อรองรับการบริการรถไฟฟ้า 

"บริษัทฯ ดำเนินงานอย่างระมัดระวัง รอบคอบให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องของการซื้อที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการศึกษาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ทางเข้า-ออก ของ รฟม. จากโครงการอื่นๆด้วย" 

พร้อมกันนี้ บริษัทให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โครงการ แอชตัน อโศก ไม่ใช่รายแรกที่ใช้ทางเข้า-ออกของ รฟม. รวมถึงเรื่องการดำเนินงานขออนุมัติใบอนุญาตต่างๆ ทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องภายใต้กฎระเบียบและข้อบังคับของภาครัฐอย่างเคร่งครัด และได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากส่วนงานราชการที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน จึงทำให้บริษัทฯ มั่นใจอย่างยิ่งว่าในกระบวนการดำเนินโครงการแอชตัน อโศก ที่ผ่านมาทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องและสุจริต ชอบด้วยกฎหมายทุกขั้นตอน

ทว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากโครงการแอชตัน อโศก ถือเป็นหน้าเป็นตาขององค์กร 

"แอชตัน อโศก เป็นโครงการเรือธงของบริษัท กรณีที่เกิดขึ้น เหมือนเราโดนเสียบหัวใจ อยากให้เราตายเลย ลูกค้า นักลงทุน จะคิดกับเรายังไง"
#10122
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#10123
บริการให้เช่ารถไม่ใช้บัตรเครดิต
รถดี สะอาด ง่าย ถูก คุ้มค่า
 
700-1200 บาทต่อวัน

วีออส ยาริส  ซิตี้  อัลเมร่า แคมรี่  อัลติส ซีวิค กระบะมิตซูไททั้น  ตู้Volkswagen
รับรถจุดบริการ แยกแคราย ใกล้สถาบันโรคทรวงอก  
ส่งถึงที่ ค่าส่งเริ่มที่ 500 แล้วแต่ระยะทาง 
ราคาขึ้นอยู่กับรุ่นและจำนวนวันที่เช่า 
เช่าหลายวันยิ่งได้ส่วนลด 
รถเล็กทั่วไปเช่นวีออส ยาริส อัลเมร่า ซิตี้ 

Deposit เงินประกัน 5,000 ได้คืนตอนคืนรถ 4,000  เก็บตรวจสอบค่าจราจร 1,000  ครบ 30 วัน คืนหากมีใบสั่งปรับตามจริง

ประกัน ‭4000‬ บาท 
จอง/แจ้งเช่า 087-048-6085‬ 
สำเนาเอกสารที่ใช้
ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน
ใบขับขี่ สลิปอื่นๆ
โทร 087-048-6085 คนคุมรถ , 
0837124115  ,  
086-521-3573 

Line id : 0837124115
www.รถเช่าดี.com
#10124


บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รุกทำการตลาดแบบนิวนอร์มัล ส่ง E-Loyalty Gamification Program "แรลลี่พิชิตดวง" กิจกรรมสนุกสร้างความผูกพันกับแบรนด์ ไม่ว่าจะช้อปออนไลน์หรือหน้าร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รับอีแสตมป์สุดคูลออกแบบโดย Benzilla ศิลปินแนวสตรีทชื่อดัง ผ่านแอป UChoose สะสมเพื่อรับเครดิตเงินคืน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2564 หวังกระตุ้นยอดใช้จ่ายช่วงล็อคดาวน์ คาดยอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์แตะ 12,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2564

นายอธิศ รุจิรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้ให้บริการบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เปิดเผยว่า สภาวะตลาดในปัจจุบัน ได้รับผลกระทบจากการระบาดที่รุนแรงของโควิด-19 ส่งผลให้หลายธุรกิจ รวมถึงห้างสรรพสินค้าไม่สามารถเปิดให้บริการผ่านช่องทางหน้าร้านได้ ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจบัตรเครดิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน จึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรแบบ omni channel เน้นทั้งช่องทางออนไลน์และหน้าร้าน ซึ่งจะเป็นการทำการตลาดแบบนิว นอร์มัล โดยเน้นการสร้างสีสันผ่านแคมเปญการตลาดรูปแบบใหม่ ผ่านความร่วมมือพันธมิตรหลักเครือเซ็นทรัลที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพสูง ดังจะเห็นได้จากการเติบโตของยอดใช้จ่ายออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน แยกตามธุรกิจในเครือเซ็นทรัลในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ธุรกิจที่มีการเติบโตสูงที่สุด ได้แก่ ท็อปส์ (+75%), เพาเวอร์บาย (+69%), JD (+55%) และ Central Online (+34%)

ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการใช้จ่ายผ่านบัตรทั่วเครือเซ็นทรัล ทั้งช่องทางออนไลน์และหน้าร้าน บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน จึงได้ออกแคมเปญการตลาดรูปแบบใหม่ "แรลลี่พิชิตดวง" ซึ่งเป็นกิจกรรม e-Loyalty Gamification ชวนสมาชิกบัตรสะสมอีแสตมป์คอลเล็คชั่นพิเศษ ที่ออกแบบโดยศิลปินแนวสตรีทชื่อดัง "Benzilla" ปริญญา ศิริสินสุข ผ่านแอปพลิเคชั่น UChoose โดยสามารถรับอีแสตมป์ เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรไม่ว่าจะผ่านช่องทางออนไลน์ หรือหน้าร้านในเครือเซ็นทรัลที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข โดยอีแสตมป์นี้สามารถแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 300 บาท ตั้งแต่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2564 พร้อมชวนสมาชิกบัตรร่วมสนุกกับกิจกรรมผ่านเพจ Central The 1 Credit Card ใน Facebook เพื่อลุ้นรับหมวกแรลลี่ Limited Edition จาก T1 X Benzilla

"คาดว่า กิจกรรมการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียดังกล่าว จะช่วยสร้างสีสันทางการตลาด และสร้างความผูกพันกับแบรนด์บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวันได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องอยู่บ้านหรือทำงานจากที่บ้าน รวมทั้งช่วยกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ของบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวันให้เติบโตเพิ่มขึ้นอีกด้วย"

โดยสมาชิกบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน สามารถร่วมสนุกกับแคมเปญ แรลลี่พิชิตดวง ได้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2564 เพียงลงทะเบียนผ่านแอปที่หน้า UChallenge เพื่อร่วมกิจกรรม และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ช่องทางออนไลน์ หรือหน้าร้านในเครือเซ็นทรัลที่ร่วมรายการ ยอดใช้จ่าย 1,000 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิป รับแสตมป์ 1 ดวงต่อ 1 ร้านค้า (นับรวมสาขาทุกสาขา ทุกแบรนด์ และทุกช่องทางออนไลน์เป็น 1 ร้านค้า) สะสมครบ 3 ดวง รับเครดิตเงินคืน 100 บาทสะสมครบ 6 ดวง รับเครดิตเงินคืนรวม 300 บาท (เครดิตเงินคืนสูงสุด 300 บาทต่อหมายเลขบัญชีบัตรหลักตลอดรายการ)

ร้านค้าที่ร่วมรายการ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล,โรบินสัน, ท็อปส์, ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท, ร้านอาหารในเครือ CRG และร้านค้าในเครือ CMG (ทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางหน้าร้าน) ข้อมูลเพิ่มเติม www.centralthe1card.com

นายอธิศกล่าวอีกว่า นอกจากแคมเปญแรลลี่พิชิตดวง ซึ่งมุ่งสร้างความผูกพันกับแบรนด์ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นยอดใช้จ่ายในเครือเซ็นทรัลแล้ว บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ เช่น ช้อปออนไลน์ บริการส่งอาหาร เกมและความบันเทิงออนไลน์ จัดทำโปรโมชั่นต่าง ๆตลอดทั้งปี เช่น โปรโมชั่น "ยิ่งสั่ง ยิ่งคุ้ม กับ 4 แอปดัง" เพื่อช่วยกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ด้วยแคมเปญการตลาดรูปแบบใหม่ ที่ปรับให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ในปัจจุบัน จะช่วยกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ให้เติบโต +30 % เทียบกับปี 2563 โดยตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 12,000 ล้านบาท ภายในปี 2564