• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chanapot

#10021
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#10022


เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ยังรุนแรงต่อเนื่องขึ้นทุกวัน "อ.นิ่ม เทวจิตศิษย์ปู่" ซึ่งเป็นหมอดูชื่อดังเว็บรวยruay  สื่อเจ้าที่จิตสัมผัส เป็นต้นฉบับการไหว้เจ้าที่กลางบ้าน ที่ได้รับความไว้วางใจเป็นที่ปรึกษาให้กับนักแสดงหลายๆท่านอาทิ "แม่ก้อย ทาริกา,ไก่ วรายุฑ,หน่อง หมอเจี๊ยบ ลลนา,จอย รินลณี,อาย กมลเนตร,แจ็คกี้ ชาเคอลีน,ใบเฟิร์น อัญชสา,ติ๊นา ศุภนาฎ ,นิวเคลียร์ หรรษา" ได้ให้คำแนะนำทำพิธีไหว้เจ้าที่กลางบ้านด้วยตนเอง ผ่อนร้ายกลายเป็นเบา เสริมพลังเจ้าที่ให้มีพลัง   ใครกำลังติดขัด การเงินมีปัญหา ต่อเติมบ้าน สร้างบ้านไม่เสร็จสักที ลองทำวิธีนี้ดู

"การไหว้เจ้าที่กลางบ้าน คือการไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าของที่เจ้าของทาง เจ้าของบ้านเจ้าของเรือน ไหว้เพื่อขอขมา ขอเปิดทางทำมาหากิน เปิดทางรับทรัพย์ สามารถไหว้เองได้แต่ต้องเป็นอังคารหรือเสาร์เที่ยงตรงเพราะเป็นวันรับ วันแข็ง  ปกติใน1ปีจะห้ามไหว้เองคือเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม  เมษายนเป็นเดือนร้อน ส่วนเดือนตุลาคมเป็นเดือนที่สัมภเวสีจะมาขอส่วนบุญ จึงให้งดไหว้เอง สำหรับปีนี้ที่แนะนำให้ไหว้เดือนสิงหาคม เพราะเชื่อกันว่าเป็นเดือนประตูนรกเปิด และในเดือนนี้ตรงกับวันสารทจีน ทำให้เดือนสิงที่ควรเป็นสิงห์ กลับเป็นเดือนที่อ่อนแอแทนจึงควรเพิ่มพลังให้เจ้าที่"

"ในส่วนของดวงเมืองคงต้องดูยาวๆไปถึงเมษายนปีหน้า โรคระบาดก็เฝ้าระวังแบบ100% จนถึงตุลาคม เพราะกันยายน-ตุลาคมดวงเมืองมีความระส่ำ อุทกภัยหนัก ปลายปี ทั้งน้ำทั้งไฟ แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกเป็นเพียงการคาดการณ์ต้องเฝ้าระวัง เพราะต้องดูแลตัวเองเท่านั้นถึงจะรอด แต่ถ้าด้านจิตใจก็ให้เน้นสวดบทมหาจักรพรรดิ์ เปิดทางทั้ง3โลก ปรับภพภูมิให้กับทุกสิ่ง"

สำหรับการไหว้เจ้าที่กลางบ้าน สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่
You Toub :นิ่มจูเมเตลู ค้นหา การไหว้เจ้าที่กลางบ้านฉบับเต็ม โดย อ.นิ่ม เทวจิตศิษย์ปู่
Face book: อ.นิ่ม เทวจิตศิษย์ปู่ ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน

อ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki/บทสวดมนต์ในศาสนาพุทธ
#10023


มื่อวันจันทร์ที่ 16 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติปรับมาตรการจำหน่ายสินค้าจำเป็น/กิจการจำเป็น ในห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด โดยอนุญาตให้ธนาคารสถาบันการเงินที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ สามารถเปิดให้บริการได้ มีผลวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป โดยพิจารณาข้อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค 26 ข้อ ของสมาคมศูนย์การค้าไทย

สมาคมธนาคารไทยได้ประสานกับธนาคารสมาชิกเพื่อเตรียมพร้อมในการให้บริการของสาขา โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของลูกค้าที่มาใช้บริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ภายใต้การบริหารจัดการภายในสาขาและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จำกัดจำนวนลูกค้าและช่องให้บริการเพื่อลดความแออัด อย่างไรก็ตาม ธนาคารสมาชิกแต่ละธนาคารจะพิจารณาการเปิดสาขาตามความเหมาะสม  และความเสี่ยงของแต่ละธนาคารรวมถึงประกาศของเจ้าของพื้นที่และการประกาศของจังหวัด โดยมีแนวทางในการเปิดให้บริการ ดังนี้ 

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
1. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด จะพิจารณากลับมาเปิดให้บริการ โดยให้บริการไม่เกิน 17.00 น.

2. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนอกเขตพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการ แต่ไม่เกิน 17.00 น.


3. สาขาทั่วไปที่เป็นสาขา Stand Alone สามารถเปิดให้บริการตามปกติ 5 วัน หรือ 7 วันทำการ  ขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร แต่จะเปิดให้บริการไม่เกิน 15.30 น.

4. สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เปิดให้บริการไม่เกิน 15.00 น

ทั้งนี้ การเปิดสาขาและจำนวนวันทำการของแต่ละสาขาจะเป็นไปตามการพิจารณาของแต่ละธนาคารสมาชิก โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาที่เปิดให้บริการได้ทาง website หรือช่องทาง Call Center อย่างไรก็ตาม สมาคมธนาคารไทยขอแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking  หรือตู้ ATM และติดต่อธนาคารที่ใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ทาง Call Center  Line@ Facebook Website เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาด ทั้งนี้ ภาคธนาคารขอแจ้งงดให้บริการแลกเหรียญ และธนบัตรย่อยเพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัส
#10026
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#10028


นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า เพื่อรับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก (Megatrends) ที่ส่งผลกระทบและสร้างการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และธุรกิจ IRPC  จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ขึ้น เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนองค์กร ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับทุกชีวิตและสิ่งแวดล้อม

 วิสัยทัศน์ใหม่ของ IRPC ที่จะเริ่มใช้ในปี 2564 คือ การเป็นองค์กรที่ "สร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงาน เพื่อชีวิตที่ลงตัว (To Shape Material and Energy Solutions in Harmony with Life) ได้ถูกกำหนดขึ้นโดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจต่างๆ ของโลก อาทิ เทคโนโลยี การสื่อสาร การคมนาคม ความต้องการของลูกค้า ที่กำลังเข้าสู่การเป็นสังคมเมืองและสังคมผู้สูงอายุ ความห่วงใยสิ่งแวดล้อม รวมถึงสงครามการค้า ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจเท่านั้น หากแต่ยังเป็นโอกาสสำคัญของ IRPC ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและความแข็งแกร่งให้กับองค์กรด้วย


IRPC จะให้ความสำคัญต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการใช้วัสดุหมุนเวียนและการรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถรองรับความต้องการใช้งานทางการแพทย์ และสุขภาพ ที่สร้างประโยชน์เพื่อคนไทยโดยคนไทยเป็นรายแรกของประเทศ อาทิ การสร้างสรรค์นวัตกรรมเม็ดพลาสติก พีพี เกรด เมลต์โบลน (PP Melt blown: Polypropylene Melt blown) วัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) หรือแม้แต่กลุ่มนวัตกรรมทางการเกษตร ได้แก่ ซิงค์ออกไซด์นาโน (ZnO NANO) ที่พัฒนาต่อยอดมาจากซิงค์ออกไซด์ (ZnO) ทำให้มีขนาดเล็กระดับอนุภาคนาโน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารเข้าสู่ส่วนต่างๆ ของพืชได้ดียิ่งขึ้นเพิ่มผลิตผลทางการเกษตรและปลอดภัยต่อทั้งเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม

สำหรับการสร้างสรรค์ด้านการใช้พลังงานนั้น IRPC จะขยายผลธุรกิจในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานแห่งอนาคต ทั้งพลังงานทางเลือก และพลังงานหมุนเวียน เช่น วัสดุเคลือบแผงโซลาร์เซลล์ลดความร้อน และอุปกรณ์เก็บพลังงานสำรองให้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ตลอดจนการปรับปรุงกระบวนการผลิตโรงกลั่นน้ำมันให้ได้เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมากขึ้น 

"เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ใหม่ การดำเนินธุรกิจและสิ่งที่ IRPC จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับชีวิตและสิ่งแวดล้อม เราไม่เพียงแต่ขยายฐานจากการดำเนินธุรกิจด้านการผลิตปิโตรเคมีและการกลั่นที่เราเชี่ยวชาญมายาวนานกว่า 40 ปี และมีความมั่นคงเท่านั้น แต่เราต้องต่อยอดองค์ความรู้ที่มีและเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตร เพื่อสร้างนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์และรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ และสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนจากความสมดุลของทั้งชีวิตผู้คน และสิ่งแวดล้อม"

สำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจหลังจากนี้ IRPC จะใช้องค์ความรู้ขององค์กร ที่ประกอบด้วยนวัตกรรม ความเชี่ยวชาญของบุคลากร รวมถึงความพร้อมในการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ว่องไว ทันต่อสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
#10030
 

ข่าวใหญ่สำหรับภาคการขนส่งทำให้เกิดผลบวดต่อธุรกิจโลจิสติกส์อีกแล้ว หลังโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ามีการกระจายอย่างรวดเร็วในเอเชีย ทำให้ลายประเทศรวมทั้งไทยต้องงัดมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนมาใช้ 

รอบนี้หนึ่งในตลาดขนส่งรายใหญ่ของโลกอย่างจีนต้องเผชิญปัญหาพันธุ์เดลต้าเช่นกันทำให้ต้องปิดท่าเรือคอนเทนเนอร์หนิงโป-โจวซาน (Ningbo-Zhoushan) ชั่วคราวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นท่าเรือที่มีเรือสินค้าใช้บริการแออัดมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ขนถ่ายสินค้าจากเรือราว 1.2 ล้านล้านตันในปี 2564            

การปิดท่าเรือดังกล่าวห้ามเรือสินค้าเข้าเทียบท่าเรือหรือแล่นออกจากท่าเรือ และระงับการบริการขนถ่ายสินค้าจากเรือทั้งหมด หลังพบคนงานคนหนึ่งของบริษัทหนิงโป เม่ยตง คอนเทนเนอร์ เทอร์มินอล (1 ในเครือหนิงโป-โจวซาน) ติดโควิด-19 ทำให้ต้องกักกันเฝ้าระวังพนักงานอีก 2,000 คน            

ที่ผ่านมาโลกได้เผชิญเหตุการณ์ระบบโลจิสติกส์สดุดจากตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน   จนทำให้เกิดสินค้าตกค้างเป็นจำนวนมากในฝั่งสหรัฐและยุโรป   ทำเป็นสาเหตุทำให้ค่าเช่าตู้แพงระยับ ค่าระวางเรือพุ่งสูงขึ้น   และเมื่อเกิดสถานการณ์คล้ายๆกัน ทำให้เกิดความวิตกว่าการปิดท่าเรือดังกล่าวทำให้ซัพพรายชงักตามไปด้วย            

ตัวเลขที่ยังสะท้อนปัจจัยดังกล่าวคือดัชนีค่าระวางเรือ (BDI)  ยังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 3,566  ดอลลาร์  หลังทพึ่งทำตัวเลขทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี อยู่ที่ 2,319 จุด (24 มี.ค.64)   และในรอบ 6 เดือนแรกปี 2564 BDI ปรับเพิ่มขึ้นจากปลายก่อน 10 %

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ ไต้หวัน คาดการ Re-stock สินค้าทั่วโลกยังเร่งตัวขึ้นไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย   ซึ่งจะผลักดันค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้น หลังดัชนี BDI และ BHSI ทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปี  ซึ่งยังมีดีมาร์ทการขนส่งสินค้าทั่วโลกที่ยังเร่งตัวขึ้น ตัวเลขการส่งออกของไทยที่ยังเติบโต           

เมื่อหันมาดูหุ้นเดินเรือของไทยกลายเป็นกลุ่มที่ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอย่างคึกคักเพื่อตอบรับกับคาดการณ์ของผลดำเนินงานจะเติบโตแรง ซึ่งในไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ประกาศออกมานั้นแต่ละบริษัทเครื่องร้อนจัดทำกำไรกันเพิ่มขึ้นเป็นระดับเกินเท่าตัวทุกราย

สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการข่นส่งสินค้า และตู้ขนเทนเนอร์โดยตรง บริษัท  อาร์ ซี  แอล  จำกัด (มหาชน) หรือ  RCL ซึ่งให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเล    ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีมากกว่า 200 % 

รายงานกำไรไตรมาส 2 ที่  3,189 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 1,383 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน และในรอบ 6 เดือนแรก กำไร 6,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,600 %   มาจากปริมาณขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้น ค่าระวางเรื่อต่อตู้พิ่มกว่า 76 % ทำให้อัตราค่าเช่าเรือสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

บริษัท  ไวส์ โลจิสติกส์  จำกัด (มหาชน) หรือ WICE  ดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างประเทศทางทะเล-อากาศ  โชว์กำไรไตรมาส 2 ที่  111 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 101 % บริษัท ทรัพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างประเทศและในประเทศ อากาศ –ทะเล-บก มีกำไรในช่วงดังกล่าว 85 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 150 %

บางธุรกิจเผชิญขาดทุนสามารถพลิกกลับมามีกำไร บริษัทพรีเซียส ชิฟปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ไตรมาส 2 กำไร 826 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 1,183 ล้านบาท ท่ามกลางผลกระทบจากโควิดทำให้ ผู้บริหารอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลขนาดใหญ่มั่นใจว่าอัตราค่าระวางจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ (Petter Haugen นักวิเคราะห์ของ Kepler Cheuvreux)  

หรือ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA    ที่พลิกมีกำไร 530 ล้านบาท จากขาดทุน  240 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน  ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนธุรกิจขนส่งทางเรือ 52 % ได้รับผลดีจากอัตราค่าระวางเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่าทศวรรษ มีปัจจัยหนุนปริมาณการขนส่งแร่หล็กและธัญพืชที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความแออัดของท่าเรือ

เรียกได้ว่าปี 2564 เป็นปีทองต่อเนื่องของธุรกิจโลจิกติกส์ ระดับโลกที่ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในไทยได้รับอานิสงค์ตามไปด้วย   ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลลบต่อหลากหลายธุรกิจแต่ในขณะเดียวกันยังเอื้อให้บางธุรกิจกลับมาเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 1-3 ปีจากนี้ไป  
#10031


โอกาสรอดของผู้ป่วยมะเร็ง นักวิจัยจากจุฬาฯ พิสูจน์พบว่า "สูตรตำรับยาสมุนไพรที่มี "เห็ดกระถินพิมาน ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้" สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมชนิด Estrogen receptor positive ได้เป็นอย่างดี หวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษา และพัฒนาเป็นยาเพื่อใช้สำหรับผู้ป่วยมะเร็งต่อไป

รศ.ดร.ปฐมวดี ญาณทัศนีย์จิต ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ หัวหน้าโครงการวิจัยสารสกัดจากเห็ดกระถินพิมานที่มีสรรพคุณใช้รักษาโรคมะเร็ง เผยว่า การวิจัยนี้เป็นความร่วมมือระหว่างนักวิจัยจากจุฬาฯ กับภาคเอกชน โดยบริษัท เนเจอร์ เฮิร์บ อินเตอร์เนชั่นแนลโฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท เฮิร์บ ฟอร์ ยู จำกัด ซึ่งทั้งสองบริษัทมีสูตรตำรับยาสมุนไพรที่มีเห็ดกระถินพิมาน ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ และตัวยาอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบ ซึ่งก่อนหน้านี้ผลการวิจัยตลอด

1 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าสารสกัดจากสูตรตำรับนี้มีฤทธิ์ยับยั้งและส่งผลต่อการตายของเซลล์มะเร็งปากมดลูกชนิดที่ไม่พบการติดเชื้อ human papillomavirus (HPV) ได้ ต่อมาทีมวิจัยของจุฬาฯ ได้มีการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อจะหาฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งชนิดอื่นๆ ด้วย โดยล่าสุดทางทีมวิจัยได้ใช้สารสกัดจากสูตรตำรับนี้ในเซลล์มะเร็งเต้านมชนิด estrogen receptor positive ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งเต้านมในปัจจุบัน จากผลการวิจัยพบว่าตำรับยาสมุนไพรที่มีเห็ดกระถินพิมาน ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ และตัวยาอื่นๆ เป็นองค์ประกอบ ซึ่งเป็นสูตรตำรับที่ได้มีการจำหน่ายในปัจจุบัน สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นข่าวดีอีกหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยมะเร็งและแนวทางในการรักษาด้วยสมุนไพรไทยอีกด้วย

รศ.ดร.ปฐมวดี ญาณทัศนีย์จิต กล่าวตอนท้ายว่า ปัจจุบัน ทีมนักวิจัยกำลังศึกษาค้นคว้าในเซลล์มะเร็งชนิดอื่นเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าสูตรตำรับยาชนิดนี้สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิดในหลอดทดลอง พร้อมที่จะนำไปสู่การวิจัยในสัตว์ทดลอง และการวิจัยทางคลินิก เพื่อให้ผู้ป่วยมีความเชื่อมั่นต่อสูตรตำรับยาที่จะนำมาใช้เป็นทางเลือกในการรักษามะเร็งต่อไป
#10032


ทำเอา "ทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ" ทนายสาวสายลุยประจำตัว "แมท ภีรนีย์ คงไทย" ถึงกับออกโรงปกป้องนางเอกสาวด้วยตัวเอง จากข่าวล่าสุดที่มีภาพ แมท ร่วมโต๊ะทางข้าวกับครอบครัว "สงกรานต์ เตชะณรงค์" ที่มีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์นางเอกสาวไว้ในเพจนึงว่า..."ผู้หญิงดีๆ และเพรียบพร้อม คงไม่เหมาะกับผู้ชายแบบนี้ คงเหมาะสมกันดีกับผู้หญิงแบบนี้"

ทนายนิด้า ก็ได้สวนกลับคอมเมนต์ดังกล่าวทันทีว่า "เวลาโดนฟ้องอย่าร้องนะจ๊ะ" ชาวเน็ตท่านอื่นเข้ามาคอมเมนต์อีกว่า "อย่าเมนต์ว่าเขานะคะ เขาฟ้องนะ" และทนายนิด้า ก็เข้ามาตอบกลับคอมเมนต์อีกว่า "ว่าใครก็ไม่ควรทั้งนั้น เราเองก็ไม่ชอบ ถูกมั้ย"

จากนั้น ทนายนิด้า ก็ได้แคปคอมเมนต์ทั้งหมดไว้แล้วเอานำมาโพสต์ประกอบข้อความเตือนสติชาวเน็ตว่า...

"เนี่ยที่มาของคำว่า #อบอุ่นในโลกออนไลน์แต่เดียวดายอยู่หน้าบัลลังก์ #ท็อปคอมเมนต์ในโลกโซเชียลแต่โดดเดี่ยวตอนจ่ายตังค์

แล้วภาพมันก็จะวนลูปเดิมๆ ไปยืนร้องไห้ที่หน้าศาลบ้าง กราบบ้าง แล้วก็อ้างบ้าบ้าง ไม่รู้กฎหมายบ้าง ทำไมป้าอ่านแต่ข่าวดารา ป้าไม่หาความรู้ใส่ตัวบ้าง ต่อให้ผิดกฎหมายหรือไม่ผิด

แต่คุณป้าเป็นห่านอะไรหรือเปล่าคะ จิตใจมันอยากแต่จะไปพูดให้คนอื่นเขาต้องรู้สึกไม่ดี เหงา ขาดความอบอุ่นก็ลองโทรหากรมสุขภาพจิตนะป้านะ #องครักษ์พิทักษ์แมท #ทนายนิด้า #ทนายหญิงสายลุย"

และ ทนายนิด้า ยังแจงต่ออีกว่า...

"ผู้หญิงดีๆ และเพียบพร้อมไม่เหมาะกับผู้ชายแบบนี้ คำว่า คงเหมาะกับผู้หญิงแบบนี้ อ่านแล้วย่อมเข้าใจได้ว่าไม่ดีและไม่เพียบพร้อม เพราะถ้าดีและเพียบพร้อมจะไม่เหมาะตามที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว

ทีนี้หน้าที่ของโจทก์คือพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าเสียหายอย่างไร หมิ่นมั้ย ละเมิดมั้ย ค่าเสียหายต้องได้มั้ย ได้เท่าไหร่

หน้าที่ของจำเลยคือถ้าต่อสู้ก็พิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าไม่ได้พูดถึงโจทก์ , ข้อความไม่ได้แปลอย่างที่โจทก์แปล, ถึงแปลอย่างโจทก์แปลแต่โจทก์ไม่เสียหาย

ประมาณนี้ค่ะ"
#10034
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812