Quoteเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล แสดงท่าทีพร้อมที่จะทำการเสริมทัพ โดยบอกว่าถึงแม้จะเชื่อมั่นในนักเตะเยาวชน แต่บางครั้งก็ต้องยอมควักเงินเพื่อแข้งที่พิสูจน์ฝีเท้าของตัวเองได้แล้วเจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แย้มว่าพร้อมทุ่มเงินเสริมทัพเพื่อทำให้ขุมกำลังแข็งแกร่งขึ้นในอนาคตอันใกล้ในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล มีผลงานโดยรวมที่ยังไม่คงเส้นคงวาเท่าไหร่นัก ซึ่งหลายคนมองว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักเตะของพวกเขาได้รับบาดเจ็บบ่อยเกินไปจนทำให้ คล็อปป์ มีปัญหากับการจัดทีมในระดับหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีการตั้งคำถามว่าพวกเขาจะยังมีงบสำหรับการเสริมทัพหรือไม่หลังจากช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาจ่ายเงินไปแล้วราว 74 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,108 ล้านบาท)
- เคลเลเฮอร์ ฮีโร่, คาร์วัลโญ่ ยังไม่ดี! ตัดเกรดแข้ง ลิเวอร์พูล ดวลเป้าดับ ดาร์บี้ ถ้วย คาราบาว คัพ
- ชัดเจน! คล็อปป์ตอบแล้วจะอยู่ลิเวอร์พูลต่อไหมถ้าเปลี่ยนเจ้าของ
- เป๊ป ยังยืนหนึ่งสบายๆ!อัพเดตค่าเหนื่อย19กุนซือพรีเมียร์ฯคล็อปป์ เผยว่า "จากโครงสร้างของเราน่ะมันแน่นอนว่าเรามีเงินมากพอที่จะใช้ได้ แต่เราต้องพิจารณาและพูดว่า -เราได้อะไรมาบ้าง ?- อยู่เสมอ นั่นเป็นสถานการณ์ของเราอยู่ตลอด การเสริมทัพที่ใหญ่ที่สุด 2 ครั้งของเราในอดีตคือการซื้อ อาลี่ (อลีสซง เบ็คเกอร์) กับ เฟิร์ก (เฟอร์กิล ฟาน ไดค์)<!--td border: 1px solid #cccccc;br mso-data-placement:same-cell;-->ufa911ซึ่งเราทุกคนต่างก็รู้ดีว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง นั่นคือเราได้เงินก้อนหนึ่งมาจาก บาร์เซโลน่า (จากการขาย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่) และใช้มันอย่างชาญฉลาด""สำหรับผมแล้วแนวทางการดำเนินการของเรามันทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ แต่เงินสดๆ ที่ได้มาก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดพลาดล่ะนะ มันไม่มีอะไรถูกๆ และมันก็ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการที่ค่าเงินมันเฟ้อด้วย บางครั้งคุณต้องใช้เงินเป็นธรรมดา""แน่นอนว่าเราพร้อมให้โอกาสดาวรุ่งของเราทุกคนได้ลงเล่น ซึ่งผมก็มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับผลกระทบที่พวกเขาจะทำได้ในอนาคตด้วย แต่บางครั้งคุณก็ต้องยอมทุ่มเงินเพื่อซื้อนักเตะที่พิสูจน์ฝีเท้าแล้ว ซึ่งในกรณีที่ดีที่สุดน่ะนักเตะในกลุ่มนั้นก็ยังเป็นนักเตะวัยหนุ่มเหมือนกัน ไม่ใช่คนที่แก่ระดับอายุ 35 ปีเข้าไปแล้ว!"
- เซาธ์แฮมป์ตัน (18)
เบื้องหลังเกมเจลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา เกมที่ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ โดน เซเรโซ่ โอซาก้า บุกมาถล่ม ยับเยิน 1-4 โดย ทัพ "ซากูระ" ได้ประตูจาก ทาเคชิ อินูอิ กับ ฮิโรโตะ ยามาดะ ซัลโวคนละ 2 ลูก นาที 13 ,29 ,36 ,67 ส่วน แชมป์เจลีก 4 สมัย ได้ประตูตีไข่แตก จาก มาร์ซินโญ่ น.86โดย ความพ่ายแพ้ดังกล่าวทำให้ "โลมามหากาฬ" คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ถูกหยุดสถิติไม่แพ้ในบ้าน โทโดโรกิ สเตเดี้ยม ไว้ที่ 25 เกม เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน โดยนัดสุดท้ายที่แพ้ คาบ้าน ในเกมลีก ต้องย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 2020 โดน คอนซาโดเล่ ซัปโปโร บุกมาชนะ 2-0ขณะเดียวกัน นับว่าเป็นหนที่ 2 ตั้งแต่โทรุ โอนิกิ มาคุมทัพ ที่โดนคู่แข่ง บุกมายิงถึงถิ่น 1-4 โดยทีมแรกที่เคยบุกมาถล่มคือ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เมื่อฤดูกาล 2019.jpg)
