• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - iammu

#41


เพราะว่าการขับถ่ายคือเรื่องสำคัญของทุกวันในชีวิต การเลือกสุขภัณฑ์ให้เหมาะสำหรับห้องน้ำที่บ้านของคุณจึงเป็นเรื่องที่ควรจะใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเพื่อให้ทุกการขับถ่ายของท่านเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและความสุข ในวันนี้เราจึงมีคำปรึกษาดี ๆ ในการเลือกซื้อโถส้วมมาฝากกัน 
    
การเลือกโถส้วมให้เหมาะสำหรับบ้านและการใช้งาน

แบบนั่งยอง 
เป็นรูปแบบที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันก็ไม่ค่อยนิยมใช้ตามบ้านกันแล้วเนื่องมาจากการนั่งยองเป็นเวลานานในขณะที่กำลังทำธุระส่วนตัวก็ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและปวดเมื่อยขึ้นมาได้ และค่อนข้างลำบากสำหรับผู้ที่ไม่สามารถนั่งยองได้ตามปกติ เช่นคนที่มีรูปร่างอ้วน ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก ผู้ที่เป็นข้อเข่าเสื่อม รวมไปถึงคนพิการ และยังมีกลิ่นเหม็นได้ง่ายอีกด้วย แต่ข้อดีก็คือสามารถดูแลรักษาได้ง่าย ทนทาน มีราคาไม่แพงจึงนิยมใช้กันตามห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งก็มีทั้งระบบราดน้ำและระบบกดน้ำแบบฟลัชวาล์ว

แบบนั่งราบ 
เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันในปัจจุบันหรือที่เราเรียกกันว่าชักโครกนั่นเอง ซึ่งก็จะถูกออกแบบให้มีความสวยงามหรูหรา มีการใช้งานที่สบายรวมไปถึงท่านั่งในระหว่างการขับถ่ายที่คล้ายกับการนั่งเก้าอี้ตามปกติ จึงทำให้ไม่รู้สึกเมื่อยเมื่อต้องนั่งทำธุระส่วนตัวเป็นเวลานาน ซึ่งก็จะมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบชิ้นเดียวที่มีการออกแบบให้ตัวโถและถังพักน้ำเป็นชิ้นเดียวกันตลอดทั้งอัน ใช้ระบบการชำระล้างที่เรียกว่า Siphon vortex ซึ่งจะไม่ค่อยมีเสียงดังแต่ก็มีราคาที่ค่อนข้างแพง และแบบแยกตัวโถออกจากตัวถังพักน้ำเป็นคนละชิ้น ซึ่งก็มีทั้งระบบการชำระล้างแบบ wash down ซึ่งมีราคาไม่แพงและนิยมใช้กันตามทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านจัดสรร และระบบน้ำหมุนวนแบบ Siphon jet ซึ่งเป็นระบบที่ค่อนข้างใช้น้ำในปริมาณมากและทำงานเสียงดังกว่าแบบ Siphon vortex

แบบเคลื่อนย้ายได้
เป็นส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นแบบชักโครกที่ออกแบบมาให้สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ โดยมักจะนำมาใช้กับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการภายในบ้านที่ไม่สามารถไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำได้ด้วยตนเอง  โดยทั่วไปแล้วก็จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกที่มีความเหนียวและแข็งแรง น้ำหนักเบา และมีราคาที่ไม่แพงมากนัก 

ฉะนั้นนอกจากการเลือกโถส้วมให้เหมาะสมและตอบสนองสำหรับการใช้งานของทุก ๆ คนในบ้านแล้ว ก็ควรที่จะคำนึงถึงการออกแบบที่มีความสวยงาม ระบบน้ำที่ใช้ในการชำระล้าง ความสะดวกในการการดูแลรักษาความสะอาด และความสะดวกในการใช้งานด้วย ซึ่งถ้าเป็นในบ้านเรือนตามปกติในปัจจุบันนี้ก็แนะนำให้เป็นแบบนั่งราบหรือแบบชักโครกจะเป็นการดีที่สุด เพื่อสุขอนามัยที่ดีและยังช่วยทำให้ห้องน้ำของคุณดูงดงามน่าใช้อีกด้วย 

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/BAT11
#42


การนอนหลับที่ดีก็ขึ้นอยู่กับการเลือกที่ที่นอนให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน การที่เราสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ก็จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและมีพลังสำหรับการทำสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันได้ดียิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นในวันนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อที่นอนมาฝากกัน

เลือกจากวัสดุ
สำหรับที่นอนที่วางจำหน่ายกันอยู่ในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบ ซึ่งก็สามารถแบ่งออกได้ตามวัสดุที่ใช้ ดังนี้
· ยางพารา หรือที่เรียกกันว่าที่นอน ยางพารา นั่นเอง โดยเป็นการใช้วัสดุจากยางพาราที่มีความยืดหยุ่น มีแรงต้านสูง ไม่ยุบตัว สามารถปรับตามสรีระได้ดี จึงขึ้นชื่อในเรื่องของการนอนหลับสบายไม่ปวดหลัง แต่มีน้ำหนักค่อนข้างมากและมีราคาสูงกว่าที่นอนแบบอื่น ๆ
· นุ่น  มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ระบายอากาศได้ดีและทำให้รู้สึกเย็น มีราคาประหยัด แต่สามารถเสียรูปทรงได้ง่ายและมีอายุการใช้งานที่ไม่ยาวนานนัก และเมื่อเกิดการยุบตัวก็จะทำให้นอนปวดหลังได้
· ใยมะพร้าว จุดดีก็คือสามารถระบายอากาศได้ดี มีราคาถูก สามารถคงสภาพได้ดีพอสมควร แต่ก็ค่อนข้างจะแข็ง มีน้ำหนักมาก และมีความยืดหยุ่นน้อย เมื่อใช้ไปนาน ๆ ใยมะพร้าวก็อาจเกิดการเสื่อมสภาพและเกิดเป็นขุยหรือฝุ่นที่อาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้
· ฟองน้ำ เป็นการนำเอาฟองน้ำมาบีบอัดแล้วขึ้นรูปซึ่งเป็นส่วนใหญ่ก็มักจะนำไปผสมกับวัสดุประเภทอื่นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทานให้สามารถรองรับน้ำหนักในการนอนได้ดียิ่งขึ้น มีความนุ่มและมีน้ำหนักเบาแต่มีอายุการใช้งานที่สั้น ระบายอากาศไม่ดี เกิดการยุบตัวได้ง่าย
· สปริง เป็นการนำเอาสปริงมาใช้เพื่อช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักให้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นและสามารถคืนตัวได้ดี โดยจะมีความหนามากกว่าปกติทั้งนี้เพราะต้องมีการใส่สปริงเอาไว้ด้านใน นิยมนำมาใช้ร่วมกับที่นอนจากวัสดุต่าง ๆ

เลือกจากขนาด
· ขนาด 3 ฟุต (Single Size) มีขนาดกว้าง 3 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต หรือกว้าง 91 เซนติเมตร ยาว 192 เซนติเมตร เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดพื้นที่จำกัดและใช้นอนคนเดียว
· ขนาด 3.5 ฟุต (Twin Size) มีขนาดกว้างขึ้นมาเป็น 3.5 ฟุต หรือ 106 ซม. ยาว 6.5 ฟุต เหมาะสำหรับการนอนคนเดียวหรือใช้ในห้องนอนเด็ก รวมไปถึงห้องที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก และยังนิยมนำไปใช้ในโรงแรมที่เป็นเตียงแบบ Twin bed อีกด้วย
· ขนาด 5 ฟุต  (Queen Size) มีขนาดกว้างขึ้นมาเป็น 5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต สามารถใช้นอนได้ 2 คน หรือนอนคนเดียวแต่ต้องการพื้นที่ในการนอนมากขึ้น หรือเป็นห้องที่ต้องนอนด้วยกันสองคนแต่มีพื้นที่จำกัด ก็สามารถช่วยประหยัดพื้นที่ในการวางเตียงได้
· ขนาด 6 ฟุต ( King Size) ที่นอน 6 ฟุตถือได้ว่าเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุด โดยมีขนาดกว้าง 6 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต สามารถนอนได้ 2 คน เหมาะสำหรับห้องนอนที่มีขนาดใหญ่

การเลือกที่นอนจึงควรดูในเรื่องของพื้นที่ของห้องนอนว่าสมควรจะใช้เตียงขนาดไหน ที่สำคัญก็คือควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อการนอนหลับอย่างสบายตลอดทั้งคืน และตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นผ่อนคลาย ไม่รู้สึกปวดหลัง

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/BED03
 
 
#43


ในยุคที่หลายคนต้องอยู่กับบ้านกันมากขึ้น แน่นอนว่าการทานข้าวที่บ้านก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ขาดไปไม่ได้สำหรับทุกคนในครอบครัว ซึ่งนอกจากจะต้องมีอุปกรณ์สำหรับทำครัวอย่างครบครันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือหม้อหุงข้าว ยิ่งถ้าหากได้ข้าวสารคุณภาพดีก็จะยิ่งทำให้ข้าวที่หุงออกมานั้นหอมอร่อยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็จะมาเลือกหม้อหุงข้าวให้กับห้องครัวของคุณ 

ประเภทของหม้อหุงข้าว ของคู่ครัวที่ขาดไม่ได้
หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
หม้อหุงข้าวไฟฟ้าแบ่งออกเป็นแบบฝาปิดธรรมดาซึ่งมีราคาไม่แพงและมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยจะประกอบไปด้วยฝาหม้อ หม้อชั้นใน และหม้อชั้นนอก อาจมีหรือไม่มีระบบอุ่นอัตโนมัติก็ได้ ส่วนหม้อหุงข้าวไฟฟ้าอีกแบบก็คือแบบฝาล็อค ซึ่งจะมีราคาสูงขึ้นมาจากแบบธรรมดา โดยจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยฝาหม้อก็จะถูกออกแบบให้อยู่ติดกับตัวมอบชั้นนอกโดยใช้บานพับ มีฉนวนกันความร้อนและฝาที่ปิดสนิทจึงสามารถเก็บความร้อนได้นานยิ่งขึ้น  

หม้อหุงข้าวดิจิตอล 
เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันเนื่องจากนอกจากจะใช้หุงข้าวแล้วก็ยังสามารถประกอบอาหารได้หลากหลายมากกว่า เหตุเพราะมีระบบควบคุมอุณหภูมิและการทำงานต่าง ๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ จึงสามารถประกอบอาหารอื่น ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นการนึ่ง การทำข้าวต้ม การทำเค้ก โดยมีโปรแกรมในการเลือกเมนูต่าง ๆ และตั้งค่าสำหรับการใช้งาน สามารถควบคุมเวลาและอุณหภูมิได้ ยิ่งไปกว่านี้ก็ยังสามารถหุงข้าวออกมาได้สวยและรวดเร็ว มีการติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อหุงข้าวหรือโรงอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีการออกแบบที่สวยงามล้ำสมัยเหมาะกับครัวยุคใหม่อีกด้วย 

ในการเลือกซื้อเลือกหาหม้อหุงข้าวนอกจากจะดูที่รูปแบบการทำงานแล้ว สิ่งที่จะต้องนึกถึงด้วยก็คือจำนวนสมาชิกในบ้านว่ามีมากน้อยแค่ไหน จะได้เลือกขนาดได้อย่างพอเหมาะเพียงพอสำหรับความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้ก็ควรจะดูไปถึงกำลังไฟฟ้าที่ใช้เพราะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องมีการใช้งานอยู่ทุกวันและอาจจะต้องเสียบปลั๊กค้างเอาไว้เพื่อทำการอุ่นอยู่ตลอดเวลา และถ้าหากเลือกเป็นหม้อหุงข้าวดิจิตอลก็ควรที่จะดูในเรื่องของฟังก์ชันหรือเมนูต่าง ๆ ที่ให้มาว่าตอบสนองความต้องการในการประกอบอาหารของเราเองหรือไม่ อย่างเช่น สามารถหุงโจ๊กหรือข้าวต้มได้ สามารถทำขนมเค้กได้ ใช้นึ่งข้าวเหนียวได้ หรือมีเมนูหุงข้าวด่วน เป็นต้น

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0810
#44

อีกหนึ่งวิธีในการจัดเก็บข้าวของภายในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามก็คือการเลือกใช้ตู้เก็บของ  เพราะนอกจากจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามกับบ้านแล้วก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ในการเก็บสิ่งของต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อทำให้บ้านดูสวยงามน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งในครั้งนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ ของการเลือกใช้ตู้เก็บของมาฝากกัน เพื่อช่วยให้ท่านได้นำไปพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ตู้ชนิดไหนกันดี

ห้องรับแขก/ห้องนั่งเล่น
ก่อนที่จะเข้ามาในบ้านก็ควรมีการใช้ตู้เก็บรองเท้าตั้งเอาไว้ใกล้กับประตูเข้าบ้านเพื่อเก็บรองเท้าให้เรียบร้อย ส่วนภายในก็อาจจะมีตู้เก็บรองเท้าอีกอันเอาไว้เก็บพวกรองเท้าสลิปเปอร์สำหรับใส่ในบ้าน ปกติแล้วห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นก็มักจะมีการติดตั้งชั้นวางทีวีที่มีตู้สำหรับเก็บของในตัวและมีชั้นวางของแบบติดผนัง นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้ตู้เตี้ยแบบมีลิ้นชักในการจัดเก็บของจุกจิกให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนของตกแต่งหรือสิ่งที่ต้องการตั้งโชว์ก็สามารถเลือกใช้ตู้โชว์มาตั้งไว้ก็ได้ รวมถึงเลือกใช้ตู้วางของที่มีลักษณะเป็นชั้นวางแบบเปิดโล่ง ซึ่งนอกจากจะตั้งโชว์ของตกแต่งได้แล้วก็ยังสามารถช่วยจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับห้องได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

ห้องครัว
ในห้องครัวส่วนใหญ่ก็มักจะใช้เก็บพวกอุปกรณ์การทำครัวต่าง ๆ โดยจะแบ่งเป็นของที่ไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้และของที่นำมาใช้เป็นประจำ เพราะฉะนั้นของที่ใช้เป็นประจำก็ควรที่จะวางอยู่ในตำแหน่งที่หยิบมาใช้งานได้ง่าย ซึ่งก็อาจจะใช้ได้ทั้งราวแขวน ชั้นวางของ รวมไปถึงตู้วางของแบบที่ไม่ต้องมีบานปิด ส่วนของที่นาน ๆ ทีจะหยิบเอามาใช้งานกันสักครั้ง ก็ควรหาตู้ที่มีบานปิดมิดชิดเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก 

ห้องน้ำ 
ส่วนใหญ่แล้วลักษณะของตู้ที่นำมาใช้เก็บของในห้องน้ำก็จะเป็นพวกตู้ใต้บานซิงค์ล้างหน้า ตู้ข้างเคาน์เตอร์ ตู้แบบแขวนติดผนัง ซึ่งส่วนมากก็มักจะใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อความชื้นเช่นพลาสติก  PVC  รวมถึงอาจจะเป็นไม้จริงอย่างเช่นไม้ยางพาราที่มีการปิดผิวหน้ากันน้ำ และมีขาตั้งเป็นเหล็ก โดยหน้าห้องน้ำก็อาจจะมีการนำเอาตู้เก็บรองเท้ามาตั้งเอาไว้เพื่อใส่รองเท้าสำหรับเปลี่ยนเวลาที่เข้าไปใช้ห้องน้ำด้วย 

ห้องนอน
สำหรับห้องนอนก็มักจะมีตู้เสื้อผ้าเอาไว้จัดเก็บเสื้อผ้า แต่ต้องบอกว่าห้องนอนนั้นเป็นห้องที่มีข้าวของกระจุกกระจิกอยู่เยอะมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนั้นการเลือกใช้ตู้วางของ หรือตู้เก็บของก็เป็นตัวช่วยจัดระเบียบภายในห้องนอนได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็อาจจะเลือกใช้เป็นชั้นวางของแบบติดผนัง ตู้วางของแบบประตูบานเลื่อนเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ หรืออาจจะเลือกเตียงที่มีช่องเก็บของอยู่ด้านใต้และมีชั้นวางของอยู่ที่หัวเตียง รวมไปถึงโต๊ะข้างเตียงหรือตู้ข้างเตียง เป็นต้น

วัตถุประสงค์หลักของตู้เก็บของ  ก็คือการกำหนดระเบียบข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกรูปแบบที่มีความสวยงามทันสมัยเข้ากับการตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดีและตอบโจทย์การใช้งานได้ตามความต้องการ ก็จะทำให้บ้านของคุณนั้นทั้งดูเป็นระเบียบและดูสวยงามได้มากยิ่งขึ้น

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR0902
#45


การจัดระเบียบให้กับบ้านนอกจากจะเลือกใช้ตู้เก็บของแล้ว ก็ยังมีชั้นวางของซึ่งนิยมใช้กันเพื่อเก็บของใช้รวมไปถึงเอาไว้วางของแต่งบ้านต่าง ๆ ในแนวตั้งเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ และเป็นการใช้พื้นที่ในแนวตั้งของบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใครกำลังต้องการชั้นวางของมาใช้ในบ้าน ครั้งนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ ของทั้งชั้นวางของเหล็กและชั้นวางของไม้มาฝากกัน 


ใช้พื้นที่ในแนวตั้งให้เป็นประโยชน์ด้วยชั้นวางของ 
ชั้นวางของเหล็ก
 
ในปัจจุบันการแต่งบ้านในสไตล์ลอฟท์รวมไปถึงสไตล์โมเดิร์นก็นิยมที่จะเลือกใช้ชั้นวางของเหล็กกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็มีทั้งชั้นวางของเหล็กที่เป็นเหล็กทั้งอันมาประกอบกัน และแบบที่เป็นโครงเหล็กและใช้ไม้เป็นชั้นสำหรับวางของ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นชั้นลอยไม่มีบานปิด โดยมีให้เลือกทั้งแบบตั้งพื้นธรรมดาและแบบแขวนติดผนัง จุดแข็งของชั้นวางของเหล็กก็คือมีความแข็งแรงทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก มีอายุการใช้งานที่นานกว่าชั้นวางของที่ทำนจากไม้เพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังสามารถใช้วางของได้อย่างหลากหลายมากกว่า เช่นสามารถใช้วางจานชามในห้องครัวที่เปียกน้ำได้ นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ที่มีความเรียบง่ายทันสมัยจึงสามารถเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านได้ทุกแบบ  

ชั้นวางของไม้
ชั้นวางของไม้นั้นก็มีให้เลือกหลากหลายแบบหลากหลายราคา แล้วแต่วัสดุของไม้ที่นำมาใช้ อย่างเช่น ชั้นวางของที่ใช้ไม้จริงก็จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง มีน้ำหนักมาก แต่ก็มีความทนทานสามารถใช้วางของเปียกได้ ซึ่งก็มีทั้งแบบไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน แต่ถ้าหากใช้เป็นพวกไม้อัดที่มีการเคลือบปิดผิว ก็จะมีราคาถูกกว่า มีน้ำหนักเบา ส่วนมากก็มักจะเป็นชั้นที่สามารถถอดประกอบได้ แต่ก็ไม่ค่อยมีความทนทานมากนัก โดยทั่วไปแล้วชั้นวางของไม้ก็มักจะมาในรูปแบบ ชั้นวางติดผนัง ชั้นวางตั้งพื้น และชั้นวางแบบ Built in ที่มีความสวยงามและประหยัดพื้นที่  มีดีไซน์และขนาดให้เลือกหลากหลาย ซึ่งชั้นวางของไม้ก็อาจจะมีการทำบานปิดทึบ หรือใช้กระจกปิดเอาไว้สำหรับตั้งโชว์ของแต่งบ้านหรือของสะสมต่าง ๆ คล้ายกับตู้โชว์ก็ได้ รวมไปถึงใช้ร่วมกับโครงเหล็กทำให้มีความสวยงามและแข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้น 

อย่างนั้นในการเลือกชั้นสำหรับวางของต่าง ๆ ภายในบ้าน นอกจากจะดูในเรื่องของวัสดุที่ใช้ การออกแบบที่มีความสวยงามเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านแล้ว ความแข็งแรงทนทานและความสามารถในการวางข้าวของต่าง ๆ ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรพิจารณาควบคู่กันไปด้วย ก็จะช่วยทำให้บ้านของคุณ ๆมีทั้งความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีความสวยงามไปได้พร้อม ๆ กัน

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR0906
#46


สนามหญ้าคือพื้นที่สีเขียวภายนอกบ้านที่ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายสบายตา เป็นพื้นที่เพื่อทำกิจกรรม พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ และเพิ่มความงดงามให้กับบริเวณบ้าน สำหรับบ้านไหนที่มีสนามหญ้า ในคราวนี้เรามีวิธีเลือกซื้อเครื่องตัดหญ้าที่เหมาะสมสำหรับบ้านคุณมาฝากกัน 

วิธีเลือกเครื่องตัดหญ้า ผู้ช่วยจัดการสนามหญ้าที่ควรมีติดบ้านเอาไว้ 

เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า
โดยมากแล้วก็จะเป็นเครื่องที่มีด้ามจับยาวเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถยืนตัดหญ้าบนสนามได้อย่างสะดวกไม่ต้องก้มให้เมื่อย มีน้ำหนักเบา สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะกับการใช้งานบนพื้นสนามหญ้าที่มีความเรียบและไม่กว้างจนเกินไป ซึ่งเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าก็จะมีสายไฟสำหรับเสียบปลั๊กใช้งานได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน และมีราคาไม่แพง รวมถึงมีเสียงเบาไม่รบกวนเพื่อนบ้าน แต่ข้อด้อยก็จะเป็นในเรื่องของการที่เราจะต้องมีการลากสายไฟเพื่อเสียบปลั๊ก จึงอาจทำให้เกะกะและรู้สึกไม่สะดวกเมื่อต้องใช้งานอยู่บ้าง หรือสายไฟอาจยาวไม่พอถ้าหากต้องตัดหญ้าที่อยู่ในบริเวณห่างจากจุดที่เสียบปลั๊ก และจะต้องมีการพักมอเตอร์เป็นระยะเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ก็ยังไม่เหมาะสำหรับการตัดหญ้าที่ขึ้นสูงและมีความยาวมากจนเกินไปเพราะมีกำลังของมอเตอร์ไม่เพียงพอนั่นเอง

เครื่องตัดหญ้าไร้สาย
ถือว่าเป็นการปรับปรุงจุดด้อยของเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าที่ต้องมีการดึงสายไฟมาเสียบเพื่อใช้งาน ซึ่งเครื่องตัดหญ้าไร้สายก็จะเป็นการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟได้ จึงทำให้สามารถเคลื่อนย้ายไปตัดหญ้าบริเวณต่าง ๆ ได้อย่างสบาย มีน้ำหนักเบา จับถนัดมือจึงสามารถใช้ตัดหญ้าทั้งบนพื้นสนามและตัดแต่งต้นไม้ในแนวตั้งได้อย่างสะดวก สุภาพสตรีก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก  มีเสียงเบาไม่รบกวนในขณะตัดหญ้า ใช้งานสะดวก แต่ข้อเสียก็ยังคงเป็นในเรื่องของกำลังตัดที่ไม่มาก จึงไม่เหมาะสำหรับการตัดหญ้าที่ขึ้นสูงหรือมีลำต้นหนาจนเกินไป 

เครื่องตัดหญ้าแบบใช้น้ำมัน 
มีให้เลือกทั้งแบบสะพายบ่าและเป็นแบบรถเข็น เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของสายไฟแบตเตอรี่ มีความแข็งแรงทนทานให้กำลังการตัดที่ดี จึงสามารถใช้ตัดหญ้าสนามได้ทุกลักษณะแม้ในบริเวณที่มีหญ้าขึ้นสูงหรือหญ้าเปียก สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน แต่จุดด้อยก็คือจะมีเสียงดังในการทำงาน มีราคาแพงรวมไปถึงมีน้ำหนักมาก นอกจากนี้การสตาร์ทเครื่องยนต์ก็อาจจะค่อนข้างยุ่งยากสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้งานอีกด้วย 

ด้วยเหตุนั้นการตกลงใจซื้อเครื่องตัดหญ้ามาใช้งานที่บ้านก็ลองพิจารณาดูจากความกว้างของพื้นที่และชนิดของหญ้าส่วนใหญ่ที่ต้องการตัด จะได้เลือกซื้อเลือกหามาใช้งานกันได้อย่างพอเหมาะ
เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT0709
#47


ในการสร้างบ้านรวมไปถึงการรีโนเวทบ้าน สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญก็คือการเลือกกระเบื้อง ให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในบริเวณต่าง ๆ ของบ้าน ในวันนี้เราจึงมีวิธีการเลือกกระเบื้องปูพื้นสำหรับประกอบการตัดสินใจเพื่อทำให้บ้านของคุณดูสวยงามด้วยการเลือกใช้กระเบื้องให้เหมาะสมมาฝากกัน
    
วิธีการคัดเลือกกระเบื้องปูพื้นควรพิจารณาจากอะไรบ้าง 

ขนาดของพื้นที่
อันดับแรกก็ลองคำนวณพื้นที่ของห้องหรือบริเวณนั้น ๆ ดูก่อน ว่ามีขนาดกว้างมากน้อยเพียงใด จะได้เลือกขนาดกระเบื้อง ให้เหมาะสมกับพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เช่นในบริเวณห้องรับแขกก็อาจจะเลือกเป็นขนาด 12 x 12 นิ้ว ขนาด 40 x 40 ซม. หรือในห้องโถงที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างก็อาจจะเลือกใช้เป็นขนาด 60 x 60 ซม. ในห้องน้ำที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนักก็แนะนำให้ใช้ขนาดเล็กลงมาอยู่ที่ 8 x 8 นิ้ว เป็นต้น 

พื้นที่การใช้งาน 
กระเบื้องปูพื้นก็มีอยู่หลากหลายประเภทด้วยกันซึ่งก็เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป เช่นว่า ในห้องน้ำก็ควรที่จะใช้กระเบื้องแผ่นขนาดเล็กและมีพื้นผิวด้านหน้าที่ค่อนข้างหยาบเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ของผิวสัมผัสในการระบายน้ำและช่วยลดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม อย่างเช่น เซรามิค แกรนิตโต้ หรือโมเสค ในห้องครัวซึ่งมักจะเลอะคราบอาหารและคราบไขมันก็อาจจะเลือกเป็นหินอ่อนที่มีความทนทานและมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดได้ง่ายและไม่สะสมคราบสกปรก ส่วนในห้องทำงานที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ก็อาจใช้เป็นแบบยางที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันไฟฟ้าได้ 

สีสันและลวดลาย
การเลือกสีสันและลวดลายของกระเบื้องก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ส่งเสริมความสวยงามให้กับบ้านของคุณ เช่นเลือกใช้โทนสีอ่อนสบายตาหรือลายไม้ภายในห้องนอนเพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายเหมาะสำหรับการพักผ่อน รวมถึงช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนั้นดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ใช้โทนสีเข้มหรือมีลวดลายกราฟฟิกในบริเวณที่สามารถเกิดคราบสกปรกได้ง่ายเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด เช่นว่าในห้องครัว ห้องซักล้าง หรือห้องน้ำ รวมไปถึงการเลือกแบบที่มีลวดลายแบบสวยงามเพื่อเพิ่มจุดเด่นให้กับพื้นที่บริเวณนั้น ๆ เป็นพิเศษ เช่นในห้องโถงรับแขก เป็นต้น 

ราคา
ราคา กระเบื้องปูพื้น ก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายราคา ซึ่งโดยมากก็มักจะคิดเป็นราคาต่อตารางเมตร ฉะนั้นก็ต้องดูงบที่มีว่าในแต่ละห้องจะใช้แบบไหน ซึ่งถ้าหากมีงบประมาณไม่มากก็อาจเลือกเป็นแบบเซรามิคที่มีราคาไม่แพงและมีความสวยงามรวมไปถึงมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย หรือถ้าต้องการให้บ้านดูหรูหรามากขึ้นก็อาจจะเลือกเป็นหินอ่อนหรือแกรนิตโต้ที่มีราคาแพงขึ้นมาก็ได้   

โดยรวมแล้วการเลือกกระเบื้องปูพื้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเราเป็นหลักว่าอยากได้เป็นแบบไหน แต่ก็ควรที่จะพิจารณาดูด้วยว่าได้เลือกใช้อย่างเหมาะสมแล้วหรือไม่ จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลาเพื่อรื้อเปลี่ยนใหม่กันอีกรอบ
แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FLO0203
#48


ระบบประปาภายในบ้านนอกจากจะต้องมีการเดินท่อต่าง ๆ ให้ถูกต้องและเพียงพอกับความต้องการแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือระบบที่ใช้ส่งน้ำไปยังจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน ทั้งนี้เพราะถ้าหากกำลังของน้ำแรงไม่พอก็จะทำให้น้ำไหลช้าหรืออาจจะไม่ไหลในบางจุด การติดตั้งปั๊มน้ำจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี ในวันนี้เราก็จะพามาดูประโยชน์และความคุ้มค่าของปั๊มน้ำอัตโนมัติแต่ละแบบกัน
   
ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ตัวช่วยที่ทำให้น้ำภายในบ้านไหลแรงทุกจุด ไอเทมที่ควรติดตั้งเอาไว้สำหรับบ้านคุณ ๆ

แบบถังความดัน
หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าแบบถังกลม ซึ่งก็จะมีลักษณะตามชื่อเลยก็คือจะเป็นถังทรงกระบอก ด้านบนก็จะเป็นตัวปั๊มส่วนทางด้านล่างก็จะเป็นถังความดันสำหรับเก็บน้ำเพื่อรอส่งจ่ายไปยังจุดต่าง ๆ ในบ้าน ซึ่งเมื่อมีการเปิดใช้งานก็จะทำการดันเอาน้ำที่อยู่ในถังออกมา และเมื่อความดันในถังลดลงจนถึงระดับ ตัวปั๊มก็จะเริ่มทำงานเพื่อให้น้ำกลับมาอยู่ในระดับที่พอเหมาะอีกครั้ง จุดแข็งของปั๊มชนิดถังความดันก็คือมี ราคา ปั๊มน้ำ ที่ไม่แพงมากนัก การทำงานไม่ซับซ้อนจึงดูแลรักษาได้ง่าย อะไหล่ค่อนข้างหาง่าย แต่จุดอ่อนก็คือตัวเครื่องจะมีขนาดใหญ่เนื่องจากต้องมีถังแรงดันติดตั้งมาด้วย ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการจัดวางตัวปั๊มค่อนข้างมาก และเมื่อใช้น้ำไปได้สักพักความแรงก็จะเบาลงเนื่องจากแรงดันในถังน้ำที่ลดลง และจะกลับมาแรงขึ้นเมื่อตัวปั๊มกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ได้น้ำที่ไหลแรงไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ก็ยังค่อนข้างมีเสียงดังเมื่อใช้งาน

แบบแรงดันคงที่
หรือที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่าแบบถังเหลี่ยม โดยเป็นการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาข้อด้อยต่าง ๆ ที่มีอยู่ในแบบถังความดัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการไหลของน้ำที่ไม่คงที่ หรือการสิ้นเปลืองพื้นที่ในการติดตั้งค่อนข้างมาก เนื่องมาจากปั๊มน้ำอัตโนมัติแบบแรงดันคงที่นี้ก็จะไม่มีการใช้ถังเก็บแรงดันแต่จะใช้เป็นถังแรงดันขนาดเล็กซึ่งใช้แรงดันจากก๊าซไนโตรเจนจึงทำให้มีตัวเครื่องขนาดเล็กกว่า ใช้พื้นที่ติดตั้งไม่มาก ตัวเครื่องจะมีการทำงานทุกครั้งเมื่อเปิดน้ำใช้งานและจะหยุดเมื่อไม่มีการใช้น้ำ ให้การไหลของน้ำที่คงที่ มีน้ำหนักเบาและการทำงานที่ค่อนข้างเงียบ แต่ข้อเสียก็จะเป็นในเรื่องของ ราคา ปั๊มน้ำ ที่สูงกว่า รวมถึงค่อนข้างเปลืองไฟมากกว่าแบบถังความดันเพราะว่าจะทำงานทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งานนั่นเอง ซึ่งปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดนี้ก็มีให้เลือกในท้องตลาดอยู่มากมายหลายแบรนด์ด้วยกัน ซึ่งโดยมากก็นิยมใช้เป็น ปั๊มน้ำ mitsubishi และปั๊มน้ำ Hitachi เป็นต้น

ด้วยเหตุนั้นในการตกลงใจเลือกซื้อปั๊มน้ำก็ควรที่จะพิจารณาดูในเรื่องของกำลังมอเตอร์ว่าแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานในบ้านหรือไม่ มีพื้นที่ในการติดตั้งมากน้อยเพียงใด ปริมาณในการจ่ายน้ำเป็นอย่างไร รวมไปถึงเลือกซื้อยี่ห้อที่ไว้ใจได้  อะไหล่หาง่าย และมีบริการหลังการขายที่ดี เพราะว่าถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีการใช้งานทุกวัน ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องมั่นใจได้ว่าสามารถซ่อมแซมได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เดือดร้อนจากการไม่มีน้ำใช้นั่นเอง 
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU06
#49


สำหรับระบบประปาภายในบ้าน นอกเหนือไปจากจะต้องมีการติดตั้งปั๊มน้ำเพื่อให้แรงดันของน้ำมีความสม่ำเสมอทำให้น้ำไหลแรงได้ในทุกจุดทั่วบ้านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันก็คือระบบกรองน้ำ ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำที่ใช้อุปโภคและบริโภค หากท่านไหนกำลังหาเครื่องกรองน้ำเอามาไว้ใช้งานกัน คราวนี้ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำใช้ และเครื่องกรองน้ำดื่ม มาฝากกัน

เครื่องกรองน้ำใช้
ใช้สำหรับปรับปรุงคุณภาพน้ำใช้ให้ดีขึ้นสำหรับการอุปโภคโดยทั่วไป หรืออาจจะใช้กรองน้ำก่อนในเบื้องต้นเพื่อผ่านไปยังเครื่องกรองที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยส่วนมากแล้วก็มักจะใช้ในกรณีที่แหล่งน้ำมาจากธรรมชาติหรือเป็นน้ำบาดาล น้ำกร่อย น้ำเค็ม ซึ่งที่ได้รับความนิยมก็จะใช้วัสดุเป็นถังกรองน้ำไฟเบอร์ เพราะว่ามีราคาถูกและมีน้ำหนักเบา อายุการใช้งานยาวนาน ราวๆ 10-15 ปี ส่วนอีกชนิดหนึ่งก็จะเป็นถังสแตนเลสที่มีอายุการใช้งานนานกว่าแต่ค่อนข้างมีน้ำหนักมากและดูแลรักษาได้ลำบาก ฉะนั้นตามบ้านเรือนโดยทั่วไปก็มักจะเลือกใช้เป็นถังไฟเบอร์มากกว่าถังสแตนเลส 

เครื่องกรองน้ำดื่ม
มีหลักการทำงานคล้ายกับเครื่องกรองน้ำใช้แต่จะมีประสิทธิภาพในการกรองที่สูงกว่า เนื่องจากเป็นน้ำที่จะต้องนำไปรับประทานจึงต้องมีการกำจัดสิ่งปนเปื้อนรวมไปถึงเชื้อโรคต่าง ๆ ในระบบกรองน้ำด้วย โดยสามารถติดตั้งเอาไว้ได้หลายจุดในบริเวณบ้านที่ต้องการใช้น้ำสำหรับบริโภค โดยทั่วไปแล้วก็จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิดคือ 
· แบบ UF (Ultra Filtration System) เป็นเครื่องกรองแบบ 3 ขั้นตอน โดยเป็นการใช้ไส้กรองที่มีการกรองละเอียดมากสามารถกรองเชื้อจุลินทรีย์ไวรัสและแบคทีเรียได้ทุกชนิด รวมถึงโลหะหนักและคลอรีน สามารถทำงานโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า  
· แบบ UV (Ultra Violet Filtration System) เป็นระบบการฆ่าเชื้อด้วยหลอด UV ฉะนั้นจึงต้องมีการติดตั้งมาพร้อมกับระบบกรองน้ำเพราะแสง UV ทำได้เพียงแค่ฆ่าเชื้อไม่สามารถกรองสิ่งสกปรกที่มีอยู่ในน้ำได้ 
· แบบ RO (Reverse Osmosis System) เป็นการกรองโดยใช้แรงดันน้ำผ่านไส้กรองเมมเบรนที่มีความละเอียดสูง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครื่องกรองแบบ 5 ขั้นตอน จึงสามารถกำจัดสิ่งสกปรก เชื้อโรค และโลหะหนักได้อย่างสะอาดหมดจด ทำให้ได้น้ำที่มีความสะอาดมากกว่าการกรองแบบอื่น เรียกได้ว่าเป็นระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุด แต่เนื่องจากต้องอาศัยแรงดันจึงต้องมีการทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าซึ่งจะทำให้ค่อนข้างมีราคาแพงมากกว่าเครื่องกรองน้ำระบบอื่นนั่นเอง 
    
ในการติดตั้งเครื่องกรองน้ำก็ควรที่จะพิจารณาดูก่อนว่าแหล่งน้ำที่มายังระบบประปาของบ้านนั้นเป็นแบบไหน เพราะถ้าเป็นแหล่งน้ำที่จำเป็นต้องมีการกรอง ก็ควรที่จะติดตั้งเครื่องกรองน้ำใช้เสียก่อน ส่วนในบ้านก็ลองพิจารณาดูว่าจำเป็นที่จะต้องติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มหรือเปล่า และควรติดตั้งทั้งหมดกี่จุด จะได้วางแผนในการติดตั้งได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอสำหรับความต้องการใช้งาน 

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/KIT09
 
#50


ประตูคือจุดแรกที่จะพาคุณเข้ามาในบ้าน และห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งในบ้านก็จะมีแยกห้องต่าง ๆ ออกไปอีกหลากหลายห้อง ด้วยเหตุนั้นการเลือกประตูบ้านที่มีความสวยงาม แข็งแรง ปลอดภัย จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสนใจไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ วันนี้เราก็มีรูปแบบของการติดตั้งประตูบ้านแบบต่าง ๆ มาฝากกัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าควรจะออกแบบประตูบ้านในแต่ละจุดให้เป็นรูปแบบไหนถึงจะถูกใจและเหมาะสมมากที่สุด 
   

รูปแบบของการติดตั้งประตูแบบต่าง ๆ 
· แบบบานเปิด มีลักษณะการใช้งานเป็นบานเปิด โดยจะใช้การเปิดเข้าหรือเปิดออกทางฝั่งเดียวเท่านั้น ซึ่งแบบบานเปิดนี้ก็เป็นรูปแบบที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อยที่สุด สามารถติดตั้งได้สะดวก จึงนิยมนำมาใช้ทั่วไปในเกือบทุกตำแหน่งของบ้าน แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของพื้นที่การใช้งาน ด้วยเหตุว่าในการติดตั้งจะต้องมีการเว้นพื้นที่เอาไว้ให้มีช่องสำหรับการเปิดบานประตู จึงอาจไม่เหมาะกับห้องหรือบริเวณที่มีพื้นที่ไม่มากนัก
· แบบบานเลื่อน มีลักษณะการเปิดด้วยการเลื่อนไปทางด้านข้าง หรือที่เรียกว่าประตูบานเลื่อนนั่นเอง โดยจะติดตั้งรางสำหรับเอาไว้เลื่อนอยู่ที่ด้านบนหรือด้านล่าง นอกจากนี้ก็ยังใช้เป็นแบบรางแขวนได้ ส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้ก็จะเป็นอลูมิเนียมและกระจก ข้อดีก็คือไม่เปลืองพื้นที่ในการติดตั้งจึงนิยมใช้ตามคอนโดฯหรือห้องที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่ก็จะมีราคาในการติดตั้งที่แพงขึ้นมา
· แบบบานสวิง มีลักษณะคล้ายกับบานเปิดแต่จะสามารถผลักเข้าออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง จึงเหมาะสำหรับบริเวณที่มีการเข้าออกบ่อย ๆ อย่างเช่นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น 
· แบบบานเฟี้ยม มีลักษณะเป็นบานประตูขนาดเล็กมาต่อกันเป็นบานพับ ใช้การเปิดแบบพับบานทบไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งคล้ายกับการใช้ฉากกั้นห้อง นิยมติดตั้งเพื่อทำการขยายและเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างห้องโดยเมื่อเปิดออกมาก็จะทำให้พื้นที่ของทั้ง 2 ห้องเชื่อมต่อกันทำให้กว้างมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 

นอกจากจะดูในเรื่องของรูปแบบการติดตั้งแล้ว การเลือกประตูบ้านก็ควรเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสำหรับตำแหน่งต่าง ๆ เช่นถ้าเป็นบริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านกับภายนอก ต้องเจอแดด เจอลม เจอฝน ความชื้นอยู่เป็นประจำ ก็ควรเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานต่อภาวะแวดล้อมได้ดี อย่างเช่นไฟเบอร์กลาส ไม้จริง และ WPC เป็นต้น หรือถ้าหากอยู่ภายในร่มที่ไม่โดนแดดก็อาจจะเลือกใช้วัสดุเป็น UPVC ก็ได้ ส่วนภายในบ้านก็สามารถเลือกประตูแบบสวย ๆ ได้ตามต้องการ แต่ประตูห้องน้ำควรเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานเช่น UPVC เหตุเพราะต้องเจอกับความชื้นอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/DOW03
#51
Biohyalux ไฮยาเซรั่มนวัตกรรม HHAF ในรูปแบบซอฟต์ แอมพูล ที่สุดของการดูแลผิวจากศูนย์ Biotech ระดับโลก ช่วยฟื้นบำรุงยิ่งกว่าด้วยไฮยา 4 โมเลกุล มอบผิวอิ่มน้ำ สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

Biohyalux (ไบโอยาลักซ์) สกินแคร์เพื่อการดูแลอย่างล้ำลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านไฮยารูลอน จุดบรรจบที่สามารถนำสุนทรียะแห่งความงามมาผนวกเข้ากับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว จากจุดเริ่มต้นของศูนย์กลางด้านวิจัยและพัฒนา ตลอดจนผลิต "กรดไฮยารูลอน" ส่วนผสมสำคัญในสกินแคร์ให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก นำมาสู่การพลิกผันบทบาทใหม่ ในฐานะสกินแคร์ผู้เชี่ยวชาญด้านไฮยารูลอนที่มีนวัตกรรมการฟื้นบำรุงที่เหนือกว่า ด้วย Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) กรดไฮยารูลอน 4 โมเลกุล เอกสิทธ์เฉพาะของทางแบรนด์ บรรจุลงในซอฟต์แอมพูลหลอดเล็กกระทัดรัด ใช้งานง่าย ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพียงแค่บิด บีบ และทา! ก็ช่วยบำรุงล้ำลึกถึงเซลล์ผิวชั้นใน ให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ตอบสนองทุกการดูแลผิวที่แตกต่าง การันตีความปังด้วยยอดขายมากกว่า 200 ล้านแอมพูล และเดินหน้ากวาดรางวัล Beauty Awards ที่สุดของสกินแคร์มาแล้วทั่วโลก

จุดเริ่มต้นจากศูนย์วิจัยระดับเวิล์ดคลาสสู่แบรนด์สกินแคร์จากงานวิจัย
Bloomage Biotech R&D Center ศูนย์วิจัยไบโอเทคระดับเวิล์ดคลาส แหล่งผลิต HA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และส่งออกให้กับแบรนด์สกินแคร์ชั้นนำทั่วโลก ซึ่งได้รับรางวัลกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อม ISO 14001: 2015 โรงงานมาตรฐานระดับสากล ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี และมีฝ่ายวิจัยและพัฒนากว่า 300 ทีม อัดแน่นไปด้วยข้อมูลและผลการวิจัยที่ทันสมัย ก่อนจะพลิกผันมาสู่การพัฒนาสกินแคร์ยี่ห้อ Biohyalux ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) เอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีการผลิต และบรรจุซอฟต์ แอมพูลประสิทธิภาพสูงด้วย BFS (Blow-fill-seal) เทคโนโลยีการผลิตแบบปลอดเชื้อขั้นสุด เพื่อคงความสดใหม่ของเนื้อผลิตภัณฑ์ มอบการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพ


การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ จุดหมายใหม่ของการฟื้นบำรุงผิว
คุณสมบัติอันน่าทึ่งของ HA ที่ทำให้หลาย ๆ ท่าน เลือกใช้เพื่อแก้ไขปัญหาผิว ด้วยสรรพคุณที่สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าต่อ 1 หน่วยโมเลกุล แต่ Biohyalux ค้นพบที่สุดของนวัตกรรมการดูแลผิวจาก HHAF (Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation) ช่วยฟื้นบำรุงยิ่งกว่า HA ทั่วๆ ไป โดยการพัฒนาให้ HA แทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังในระดับที่แตกต่างกัน ยิ่งโมเลกุลใหญ่ยิ่งป้องกันผิวได้ดี ยิ่งโมเลกุลเล็กยิ่งซึมซาบได้อย่างล้ำลึก ซึ่งประกอบด้วย โมเลกุล HA ขนาดใหญ่ - เกราะป้องกันผิวชั้นนอก ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากมลภาวะ โมเลกุล HA ขนาดกลาง - ให้ความชุ่มชื้นแก่เซลล์ใต้ผิวหนัง เพื่อความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย โมเลกุล HA ขนาดเล็ก - ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ประสานชั้นผิวเข้าด้วยกัน ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการทำงานของเซลล์ โมเลกุล HA ขนาดเล็กพิเศษ - บำรุงอย่างล้ำลึก ป้องกันการอักเสบ เสริมเกราะป้องกันผิว ปรับสมดุลผิว ให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี และป้องการผิวที่เกิดจากผลกระทบจากรังสียูวี

ยิ่งไปกว่านั้นยังอัดแน่นด้วยส่วนผสมที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว เพื่อการดูแลผิวที่แตกต่าง และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด อาทิเช่น "กลาบิดิน" ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี ให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ "กาบาแคร์" ช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวกระชับเต่งตึง "เอ็กโทอิน" ช่วยปกป้องรังสียูวีเอ ลดการสูญเสียน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย และ "ไนอาซินาไมด์" ลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็นจากสิว ลดอาการแดง/ระคายเคืองบนผิว กระตุ้นการผลิตเซราไมด์ และยังไร้น้ำหอม และสารสังเคราะห์กลิ่น ไม่ทดลองกับสัตว์

 
ผลิตภัณฑ์ขายดี เพื่อการบำรุงทุกสภาพผิว 
⭐️⭐️HA Hydro Intense Serum มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน เหมาะกับทุกสภาพผิว⭐️⭐️
 
 
เซรั่มเนื้อเข้มข้นในรูปแบบซอฟต์ แอมพูล เป็นผลิตภัณฑ์ยอดฮิตตลอดกาลของ Biohyalux เหมาะกับทุกสภาพผิว มีส่วนผสมของ Patented mini HA "ไฮยาลูรอนโมเลกุลเล็ก" มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน ซ่อมแซมและฟื้นบำรุงถึงเซลล์ผิว ช่วยตรงเข้าบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ตลอดจนเสริมเกราะป้องกันผิว ปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีอย่าง "ครีเอทิน" ช่วยฟื้นบำรุงเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก เพิ่มความยืดหยุ่นผิว เผยผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก 
✔️ ขนาด 1.5 มล..จำนวน 30 แอมพูล ราคา 1,990 บาท



⭐️⭐️HA Lifting & Firming Serum ให้ผิวกระชับอิ่มน้ำตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว⭐️⭐️

 
มอบความยืดหยุ่นให้ผิวกว่า 70% ด้วยสารสกัดจากสารแบคทีเรียหมักบ่ม Bifida Ferment และ Natto ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองถึงระดับเซลล์ พร้อม Hyacross ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นได้ยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง ให้ผิวเนียนเด้ง กระชับตลอดวัน *ผิวกระชับเพิ่มขึ้น 60% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มิลลิลิตร จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,290 บาท



⭐️⭐️HA Brightening & Boosting Serum คืนความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง และผิวอิ่มน้ำ เหมาะสำหรับผิวหมองคล้ำ⭐️⭐️

 
เผยผิวคุณให้เปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง ด้วยการฟื้นบำรุงจาก Glabridin ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว ให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ป้องกันการระคายเคือง มอบผิวที่เนียนนุ่ม อิ่มน้ำ ด้วยสารสกัดจากพืช Anastatica *ผิวสว่างขึ้นกว่า50% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มิลลิลิตร จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Soothing Recovery Serum ปกป้องและดูแลผิวบอบบางเป็นพิเศษ เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย⭐️⭐️

 
อัดแน่นอรรถประโยชน์ที่ช่วยลดรอยแดง ลดการอักเสบด้วยสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ เติมน้ำให้ผิวด้วยเซราไมด์ พร้อม Ectoin ช่วยปกป้องรังสียูวีเอ ลดการสูญเสียน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย *อาการระคายเคืองลดลง 75% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Purifying Serum เติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิว เหมาะสำหรับผิวมัน⭐️⭐️

 
ช่วยผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยน ดูแลให้รูขุมขนสะอาดด้วยพลังจาก 3D Salicylic acid พร้อมควบคุมความมัน และเพิ่มความกระจ่างใน เติมน้ำให้ผิวอิ่มเด้ง และลดการอักเสบ บวมแดงด้วย Niacinamide acid (Vitamin B3) *อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม ผิวกระจ่างใสและผุดผ่องยิ่งขึ้น
✔️ ขนาด 1.5 มิลลิลิตร จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Ultimate Hydration Mask มาส์กบำรุงผิว เติมความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว⭐️⭐️

 
แผ่นมาส์กจากส่วนผสมฟื้นบำรุงผิวจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว แผ่นบางแต่มอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพลังการเติมน้ำให้ผิวจาก HHAF มอบการบำรุงล้ำลึกทุกชั้นผิว พร้อมพลังการบำรุงให้ผิวกระจ่างใส ปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ และเติมน้ำให้ผิวด้วย Niacinamide acid และสารสกัดจากDendrobium Nobile 
✔️ ขนาด 28 มก. จำนวน 7 แผ่น ราคา 950 บาท



สัมผัสการฟื้นบำรุงผิวขั้นสุดจากศูนย์วิจัยไบโอเทคระดับโลก พร้อมนวัตกรรม HHAF ในรูปแบบซอฟต์แอมพูล เพื่อการดูแลอย่างตรงจุดได้แล้ววันนี้ ที่ Shopee Official Store: https://shopee.co.th/biohyaluxthailand
และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ได้ 
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/Biohyalux-Thailand-103453905329768/
อินสตาแกรม : https://www.instagram.com/biohyaluxthailand/


Biohyalux ไบโอยาลักซ์ Biohyalux ไฮยาเซรั่ม เติมน้ำให้ผิวด้วย Biohyalux เซรั่มจากกรดไฮยารูลอน เซรั่ม Biohyalux เซรั่มไบโอยาลักซ์
#52

สภาพภูมิอากาศอันแสนอบอ้าวของประเทศไทย ทำให้หลากหลายบ้านต้องติดตั้งแอร์เพื่อเพิ่มความเย็นให้ร่างกาย แต่ท่านเคยเจอปัญหาเปิดแล้วไม่เย็นกันบ้างหรือไม่? โดยจริงเป็นเพราะอะไร สามารถสังเกตอาการได้เพื่อลดความผิดพลาดดังกล่าวได้ยังไง เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่ยุ่งยาก ขอนำเสนอข้อมูลมาช่วยไขข้อสงสัยให้การใช้งานของคุณ ๆเย็นฉ่ำโดนใจ สภาพอากาศร้อนแค่ไหนก็หมดห่วง
เหตุไฉนแอร์ที่ใช้งานอยู่ถึงไม่เย็น?
แท้จริงแล้วต้นสายปลายเหตุที่เครื่องปรับอากาศที่ใช้งานอยู่ไม่เย็นขึ้นมาดื้อ ๆ มีหลายปัจจัยด้วยกัน อาจมาจากผู้ใช้เปลี่ยนโหมดใช้งานผิดเพี้ยนไป กลายเป็นเปิดแบบใช้พัดลมบ้าง หรืออื่น ๆ ซึ่งปกติแล้วก็แค่เปิด - ปิด และเพิ่ม - ลดอุณหภูมิเท่านั้น แนะนำว่าให้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับระบบการทำงานให้ชัวร์ 
ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อาทิ เครื่องมีรอยรั่ว คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ หรือน้ำยาหมด เป็นต้น และหากระดับความเย็นลดลงจากปัจจัยเหล่านี้ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยแก้ไข เนื่องด้วยด้วยราคาแอร์แต่ละเครื่องค่อนข้างสูง จึงไม่ควรเสี่ยงแก้ไขเอง
พาไปสังเกตสาเหตุที่เครื่องปรับอากาศไม่เย็น
1. ให้ตรวจสอบโหมดหรือฟังก์ชันใช้งาน
อย่างที่บอกว่าการเปลี่ยนโหมดของผู้ใช้งานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เครื่องไม่เย็น จึงควรสังเกตโหมด หรือฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่ ดูว่าตอนนี้เครื่องอยู่ในโหมดปกติหรือไม่ โดยสังเกตที่รูปไอคอน กรณีไม่เย็นจะอยู่ในรูปไอคอนพัดลม ก็ให้เปลี่ยนกลับให้อยู่ในโหมดเย็น โดยจะเป็นรูปไอคอนเหมือนหิมะ มีแฉก ๆ รับรองว่ากลับมาเย็นฉ่ำเหมือนเดิม
2. ให้ตรวจสอบที่คอมเพรสเซอร์
ด้วยกลไกของเครื่องปรับอากาศในบางรุ่นป้องกันเวลาไฟตก เมื่อไฟตกขึ้นมาเครื่องจะยังสามารถทำงานได้ปกติ แต่ก็มีบ้างที่ความเย็นลดลง และเมื่อยกเบรกเกอร์ขึ้นความเย็นก็จะกลับมา นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุอื่น ๆ อย่างเช่น เครื่องมีเสียงดังแปลก ๆ หรือตัวเครื่องคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดีกว่า 
3. ให้ตรวจสอบที่ฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรอง
สุดท้ายให้ลองไปตรวจสอบฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรองดู เปิดหน้ากากของเครื่องออก ดูว่ามีสิ่งสกปรก ฝุ่น เส้นผม เส้นขนเกาะตามแผงหรือไม่ หากพบว่ามีเป็นจำนวนมาก หรืออุดตันการไหลเวียนให้ถอดออกแล้วทำความสะอาดใส่กลับเข้าไปใหม่ ทำให้อากาศไหลเวียนดีขึ้นได้ อุณหภูมิก็จะกลับมาเย็นฉ่ำเหมือนเดิม ซึ่งผู้ใช้งานควรตรวจสอบเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อทราบว่าต้นเหตุที่แอร์ไม่เย็นเป็นเพราะอะไรแบบนี้แล้ว ต่อไปเมื่อเกิดปัญหาขึ้นรับรองว่าผู้ใช้งานทุก ๆ คนจะสามารถตั้งรับ และตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมแก้ไขได้หากไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ ต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทันที ทั้งนี้ บ้านเราก็มีขายอยู่หลายแบรนด์ ราคาแอร์ก็มีตั้งแต่หลักหมื่นต้น ๆ ไปจนถึงหลายหมื่นเลยทีเดียว อย่าลืมเลือกที่ตอบโจทย์กันนะ
เข้าดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP01
#53

ผู้ที่อยากใช้งานเก้าอี้สนามวางไว้นอกบ้าน ไม่ว่าประเภทหวาย พลาสติก ไม้ หรือสเตนเลส คำถามที่มักเกิดข้อสงสัยคือ จะเลือกเช่นไรให้เกิดความคุ้มค่า ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเสียเงินเสียทองในการซื้อใหม่บ่อยให้เปลือง เพื่อตอบโจทย์กับคำถามดังกล่าวอย่างชัดเจน ตรงประเด็น นำไปใช้งานต่อได้เลย จะขอแนะนำเทคนิคต่าง ๆ ในการเลือกซื้อเลือกหามาฝาก
เคล็ดลับการเลือกเก้าอี้สนามใช้งาน ไปเที่ยวไปอย่างสุขใจ
1. เก้าอี้บางรุ่นสามารถปรับเอนได้
ต้องเข้าใจไว้เลยว่าเก้าอี้ที่วางนอกบ้าน หรือใช้ในสนามหน้าบ้าน ทั้งเก้าอี้พลาสติก หรือหวายบางรุ่น บางยี่ห้อสามารถปรับเอนได้ ซึ่งหากใครรู้สึกว่าอยากนั่งเอนหลังสบาย ๆ หรือจะนอนพักชิลล์ ๆ ก็สามารถเลือกเปรียบเทียบดู อย่างน้อยควรปรับ 3 ระดับ เพื่อท่วงท่าที่เหมาะสม
2. สามารถรับน้ำหนักได้ดี
เรื่องน้ำหนักเวลานั่งอย่างสบายใจก็จำเป็นต้องรับน้ำหนักคนนั่งได้ ไม่ว่าจะหนักมากแค่ไหนก็ตาม ต้องเน้นที่โครงสร้างมีความแข็งแรง ดูเรื่องการดีไซน์ตามจุดเชื่อมต่าง ๆ ซึ่งหากใครสนใจเก้าอี้พลาสติกภายนอกเหมือนดูแข็งแรง แต่กระนั้นเก้าอี้หวายก็มีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้มากไม่แพ้กัน แนะนำว่าใช้เสร็จแล้วให้เก็บเข้าบ้านจะดีที่สุดป้องกันเก้าอี้ผุพัง หรืออายุการใช้งานน้อยลง
3. มีหลากหลายขนาดให้เลือก
จำเป็นต้องดูขนาดผู้นั่งด้วย บางบ้านอาจอยากนั่งด้วยกัน 2 คน 3 คน ก็ควรเลือกซื้อแบบตัวยาวไปเลย หรืออยากนั่งจับวงคุยรอบโต๊ะแบบสบาย ๆ ก็เลือก 1 ตัว เป็นต้น ยิ่งมีให้เลือกมากก็ยิ่งเป็นตัวเลือกให้ได้ตัดสินใจ
4. รองรับการทำความสะอาดได้ไม่ยาก
ต้องดูเรื่องการทำความสะอาดด้วย เนื่องมาจากถือเป็นอีกปัจจัยในการใช้งาน เผื่อว่าท่านไหนเอาไว้นอกบ้านเลยก็ควรเลือกแบบที่ทนแดดทนลม ทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย เช่น เก้าอี้พลาสติกที่สามารถใช้น้ำล้างทำความสะอาดได้เลย หรือเก้าอี้หวายจริง ๆ ก็สามารถใช้น้ำทำความสะอาดได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องนำผ้าชุบแล้วบิดหมาด ๆ มาเช็ด แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำทันที
5. ราคาต้องมีเหตุผล
สุดท้ายคงหนีไม่พ้นเรื่องราคาที่ควรต้องมีอย่างสมเหตุสมผล อย่างถ้าเป็นแบบพลาสติก มีน้ำหนักเบา ดีไซน์ไม่ยากมาก ก็อาจมีราคาที่ย่อมเยาว์กว่าเก้าอี้หวายที่ต้องใช้ฝีมือการผลิต เป็นต้น ต้องเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ แหล่งดูความเหมาะสมคุ้มค่า
เมื่อรู้ดังนี้แล้วก็หวังว่าใครที่อยากมีเก้าอี้สนามใช้งานสบายใจจะสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ได้อย่างราบรื่น เหมาะสมตรงความต้องการใช้งานยาว ๆ อย่างแท้จริง ทั้งนี้ท่านไหนไม่อยากเดินทางไปเลือกซื้อด้วยตนเอง สามารถเลือกผ่านออนไลน์แล้วกดสั่งได้เลย มีทั้งขนาด ชื่อรุ่น ราคา วัสดุที่ใช้ทำ ฯลฯ บอกพร้อม ไม่นานเก้าอี้มาส่งถึงหน้าบ้านเลยล่ะ
สามารถดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT060503
 
 
#54


คงเป็นเรื่องปกติของคนมีเอกสารเยอะ หรือสำนักงานที่ต้องเก็บเอกสารหลายอย่างต้องมีตู้เอกสารไว้ใช้งาน แต่ถึงอย่างไรก็คงมีความสงสัยกันพอควรว่าแท้จริงอุปกรณ์ชนิดนี้มีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร? บทความนี้จึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จักพร้อมกัน เพื่อการเลือกใช้งานที่เหมาะสมคุ้มค่า ตอบโจทย์ต่อตนเอง
ประเภทและข้อดี - ข้อเสียของตู้เอกสาร 
ตู้เก็บเอกสารมีให้เลือกเป็นแบบแนวตั้ง และแนวนอน ขนาด การดีไซน์เป็นไปตามรูปแบบทั่วไปหรือจะให้ดีไซน์เฉพาะตัวก็ไม่มีปัญหา สามารถเก็บได้ทั้งจดหมาย เอกสาร A4 หรืออื่น ๆ มีด้วยกัน 4 ประเภท ดังนี้
1. ตู้เก็บเอกสารแบบลูกรอก
หลายคนอาจเพิ่งเคยได้ยินได้ฟังกับชื่อประเภทของตู้ช่วยเก็บเอกสารนี้ มีลักษณะเป็นการใช้ระบบกลไกอย่างลูกรอกในการช่วยเก็บ ประหยัดพื้นที่ใช้สอย เก็บเอกสารได้เยอะ กรณีต้องการหยิบมาใช้งานก็หมุนลูกรอกให้เลื่อนลงมาหรือแยกออกจนเกิดช่องว่าง เป็นต้น แต่หากลูกรอกชำรุด เสียหาย ก็ต้องเสียเงินเปลี่ยนที่มีราคาสูง และใช้เวลาซ่อมนาน 
2. ตู้เก็บแบบชั้นวางอิสระ
เป็นอีกประเภทที่หลายแห่งเลือกใช้ ลักษณะของชั้นวางแต่ตู้มีประตูกระจกปิดได้ มีชั้นวางเรียงต่อหรือซ้อนกันขึ้นไป ไม่มีอะไรมาบัง สามารถเปิดประตูชั้นแล้วหยิบเอกสารออกมาได้เลย ราคาประหยัด และสามารถขยายเพิ่มได้ แต่กระนั้นไม่แนะนำให้เก็บเอกสารสำคัญ เนื่องด้วยสามารถมองเห็นรายละเอียดได้หมด แถมใครเกิดซุ่มซ่ามชนกระจกแตกบาดเจ็บอีก
3. ตู้เอกสารเหล็ก
เป็นแบบตู้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากกับตู้เอกสารเหล็ก มีให้เลือกทั้งแบบแนวตั้งขนาดสูงใหญ่ มีประตูปิดมิชิด และแบบแนวนอนเป็นประตูเลื่อนเปิด - ปิด มีความทนทาน แข็งแรง เสียหายได้ยากที่สุด แต่หลาย ๆ คนอาจเกิดปัญหาตู้ขึ้นสนิมได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้ไปนาน ๆ ผ่านการตากแดด ตากลม หรือฝนสาดเข้ามาบ่อย ทั้งยังมีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบาก
4. ตู้ช่วยเก็บเอกสารแบบไม้
ปิดท้ายกันที่ตู้เก็บเอกสารแบบไม้ที่มีดีไซน์ให้เลือกทันสมัย เนื้อไม้มีหลายประเภท ไม่ว่าจะไม้เนื้อแข็ง หรือไม้เนื้ออ่อน มีความสวยงามโดยเฉพาะลายไม้ที่คาดไม่ถึง เหมาะสำหรับคนไม่ได้เก็บเอกสารเยอะ เน้นสวยงาม ซึ่งราคาก็จะสูง และมีอายุการใช้งานน้อยกว่าแบบเหล็กเพราะว่าเมื่อถูกความชื้นเนื้อไม้เสี่ยงบวม เผลอ ๆ ถูกปลวกขึ้น

หลังจากนี้เชื่อเลยว่าทุก ๆ คนที่ต้องการเก็บเอกสารจะสามารถเลือกซื้อเลือกหาตู้เอกสารได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งานอย่างที่สุด ซึ่งปัจจุบันงานเอกสารยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อการเก็บที่ราบรื่น ไม่มีปัญหาเอกสารหาย หาไม่เจอตามมาภายหลังหาซื้อให้ไวเลยดีสุด
สามารถชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/FUR1003
#55


หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเก็บของต่าง ๆ ภายในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วต้องการลังหรือกล่องพลาสติก แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อเลือกหาจากที่ไหน ก็อยากแนะนำให้เลือกแหล่งขายชั้นนำที่เปิดให้บริการ เช่น โฮมโปร หรืออื่น ๆ แต่ถ้าท่านใดยังไม่แน่ใจเราก็มี 5 เหตุผลที่ควรเลือกซื้อกล่องเก็บของมาบอกต่อ การันตีว่าหลังจากศึกษาจบต้องรีบไปหาซื้อทันทีแบบไม่มีลังเล
5 เหตุผลที่เราควรเลือกกล่องเก็บของกับแหล่งขายชั้นนำ
1. มีของให้เลือกหลายแบบ
แน่นอนว่าแหล่งขายชั้นนำย่อมมีสินค้า อย่างลังพลาสติกมาวางขายให้เราได้เลือกซื้อเลือกหาหลาย ไม่ว่าจะสัดส่วน การออกแบบ สีสัน ฯลฯ ซึ่งมักสอดคล้องกับลักษณะการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ดังเช่น อยากเก็บเสื้อผ้าก็มีเป็นตระกร้าลัง หรืออยากเก็บของจุกจิกก็มีกล่องอเนกประสงค์ให้ อยากได้ที่หิ้วด้วย อยากได้สีมองเห็นของ สีทึบใด ๆ ก็มี เรียกได้ว่าไปซื้อแบบไม่เสียเปล่าแน่นอน
2. มีพนักงานคอยให้บริการ
การบริการถือเป็นสิ่งสำคัญที่แหล่งขายชั้นนำอยากมอบให้กับลูกค้า ซึ่งหากเลือกซื้อสินค้า อย่างลังเก็บของแล้วเกิดมีความสงสัยเรื่องต่าง ๆ อาทิเช่น ขนาด ความหนาบาง หรือใครเดินหาไม่เจอพนักงานก็จะช่วยบอก ช่วยบริการให้ หรือเราลังเลไม่รู้ว่าเลือกชนิดไหน พนักงานก็จะแนะนำชิ้นที่เหมาะสมที่สุด
3. คุณภาพสินค้าได้มาตรฐาน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสินค้าที่ได้จากแหล่งขายชั้นนำย่อมมีมาตรฐาน ไม่มีชำรุด ไม่เสียหายได้ง่าย ๆ เพราะว่าทุกชิ้นได้เข้าเกณฑ์การตรวจสอบทุกด้านมาเรียบร้อยพร้อมวางจำหน่ายให้ซื้อใช้งาน หรือหากมีปัญหาจริง ๆ สามารถเคลมสินค้าเป็นชิ้นใหม่ได้ แต่ทั้งนี้ ต้องอยู่ในระยะเวลาหลังซื้อและเงื่อนไข
4. สนนราคาเหมาะสม
ราคาของสินค้า อย่างลังเก็บของเป็นไปอย่างเหมาะสม ตามราคากลางทั่วไป ไม่แพงมากเกิน ไม่ถูกโอเวอร์ เนื่องมาจากบางครั้งหลายร้านตั้งราคาไว้สูงมากแต่คุณภาพสินค้าเทียบเท่ากับอีกสินค้าที่ราคาถูกกว่า หรือบางร้านตั้งราคาต่ำมาก คุณภาพก็มักจะต่ำตามไปด้วย ด้วยเหตุว่าเกี่ยวข้องกับวัสดุที่ใช้ทำ เป็นต้น 
5. มีบริการทางออนไลน์
สุดท้ายปัจจุบันแหล่งขายชั้นนำมักมีช่องทางออนไลน์ให้เป็นอีกทางเลือกในการซื้อสินค้า อย่างกล่องอเนกประสงค์ หรือกล่องลังต่าง ๆ โดยที่ระบุราคา รายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วน สามารถเปรียบเทียบตามความเหมาะสมได้ เมื่อพอใจก็กดสั่ง จ่ายเงิน แล้วรอรับสินค้าหน้าบ้านเลย ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปด้วยตนเอง
เมื่อเห็นความน่าสนใจของการเลือกซื้อเลือกหากล่องเก็บของกับแหล่งขายชั้นนำแบบนี้แล้ว คงรีบอยากไปซื้อกันแน่ใช่ไหมล่ะ เอาเป็นว่าท่านใดตัดสินใจได้แล้วก็อย่ารอช้ารีบเดินทางไปซื้อ หรือจะสั่งผ่านออนไลน์ก็เข้าไปที่เว็บไซต์หลักของแหล่งขายชั้นนำนั้น ๆ ได้ทันที
สามารถชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP1206
#56


เมื่อใช้งานทีวีไปสักระยะ ต้องมีสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไปจนถึงรอยข่วนเกิดขึ้นที่หน้าจอ พาให้รำคาญตาเวลาดูเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นก็สามารถทำความสะอาดด้วยวิธีไม่ยาก ราวกับว่าเพิ่งซื้อTVใหม่มาไม่กี่วันก่อนหน้า แล้วจะมีวิธีทำความสะอาดยังไง? บอกเลยเทคนิคที่จะเสนอแนะต่อไปนี้ไม่ยุ่งยาก แม้มีเวลาน้อยก็จัดการให้โทรทัศน์เครื่องโปรดดูใหม่ได้จริง
3 วิธีหลักทำความสะอาด TV ที่ใครก็ทำได้ง่าย ๆ
1. เลือกใช้น้ำส้มสายชู + น้ำ
วิธีแรกที่จะช่วยทำความสะอาดได้เป็นอย่างดีก็คือการใช้น้ำส้มสายชูนำไปผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 โดยทั่วไปน้ำส้มสายชูจะมีฤทธิ์เป็นสารซักฟอกทางธรรมชาติ แถมราคาถูก เริ่มต้นให้ปิดทีวีก่อน จากนั้นใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์มาชุบส่วนผสมแล้วบิดให้แห้งหมาด ๆ เช็ดจนทั่วไปในทิศทางเดียวกัน ลงน้ำหนักโดยเฉพาะบริเวณคราบที่สกปรกมาก
ทั้งนี้เนื่องด้วยราคา ทีวีตั้งแต่หลักพันปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหลายหมื่น แนะนำว่าไม่ควรใช้สารเคมี เช่น แอมโมเนีย เอทิลคลอไรด์ เอทิลแอลกอฮอล์ หรือแอสซิโทน เพราะจะทำลายหน้าจอ อีกสิ่งสำคัญไม่ควรฉีดหรือเทส่วนผสมน้ำส้มสายชูลงไปบนหน้าจอโดยตรง จะทำให้จอเสียหาย และถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะ แนะนำให้หาซื้อที่ร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
2. ใช้แค่ผ้าไมโครไฟเบอร์
ต่อมาเลือกใช้แค่ผ้าไมโครไฟเบอร์เท่านั้น เริ่มต้นเหมือนกันคือปิด TV ก่อน เพื่อให้พิกเซลหยุดทำงาน และยังมองเห็นฝุ่น สิ่งสกปรกมากขึ้น ต่อไปก็เอาผ้าไมโครไฟเบอร์ที่มีลักษณะคล้ายผ้าเช็ดแว่นมาเช็ดอย่างหมดจด แต่ต้องเป็นผ้าแห้งเท่านั้นเพื่อไม่ทำให้มีขุยผ้าติดจอ ทั้งนี้ไม่ควรใช้กระดาษทิชชู เศษผ้าเก่า หรือกระดาษอเนกประสงค์ใด ๆ มาเช็ด เพราะสิ่งเหล่านี้มีผิวสัมผัสหยาบ ทำให้เกิดทั้งรอยและขุยขึ้นได้ ที่สำคัญไม่ควรเช็ดถูหน้าจอด้วยความรุนแรง ถ้าสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ออกให้กลับไปใช้วิธีแรก
3. กำจัดรอยขีดข่วนต่าง ๆ บนจอ
การกำจัดรอยขีดข่วนนั้นก็สามารถทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังเช่น ใช้สำลีชุบวาสลีนแล้วป้ายบริเวณที่รอย หรือใช้น้ำมันเคลือบเงา แลคเกอร์ฉีดตรงรอย รอให้แห้ง สุดท้ายเลือกใช้อุปกรณ์กำจัดรอยขีดข่วนบนหน้าจอโดยเฉพาะที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขาย - ซ่อม TV บางแหล่ง 
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทีวี ราคามีหลากหลาย ตามฟังก์ชัน ตามแบรนด์ รุ่น ขนาดหน้าจอ ดังนั้นเมื่อซื้อมาใช้งานแล้วควรดูแลรักษาทำความสะอาดสม่ำเสมอ ด้วยการใช้วิธีที่เหมาะสม เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้คงอยู่ เหมือนเพิ่งซื้อมาใหม่เมื่อวาน หวังว่าวิธีทำความสะอาดทีวีทั้ง 3 นี้จะช่วยหลายคนได้ เลือกไปปรับใช้กันดู เห็นผลลัพธ์น่าประทับใจแน่นอน
สามารถชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TVA07
 
 
#57


ตัวปัญหาดาดฟ้ารั่วคงต้องเลือกซื้อเลือกหาวัสดุกันซึมมาใช้งาน ซึ่งหากลองค้นหาข้อมูลจะพบว่ามีให้เลือกมากมาย อาทิเช่น โพลียูริเทน และหนึ่งในนั้นคืออะคริลิค ที่ได้รับรับรองว่าดีจริง แต่ถึงอย่างไรอย่าเพิ่ง่รีบมั่นใจเชื่อโดยทันที จึงขอรวบรวมข้อมูลมาให้ศึกษาอย่างเต็มที่ ไขข้อสงสัยต้องการมีระบบกันซึมดาดฟ้าเต็มประสิทธิภาพ ควรเลือกใช้จริงหรือ?
อะคริลิคช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับดาดฟ้าได้ดี
คงต้องบอกเลยว่าสิ่งนี้เป็นน้ำยากันซึมที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ปกป้องการแตกร้าวของตัวดาดฟ้าได้ดี แต่ต้องมีการใช้งานร่วมกับเส้นใยอย่าง Fiberglass ที่ถูกถักทอเป็นเส้นใยแก้วเชื่อมไขว้กันแน่นหนา และ Polyester Mat ที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาทางเคมี ช่วยให้ทนความร้อนและมีความเหนียวคงทน เมื่อนำเส้นใยทั้ง 2 ชนิดที่อยู่ในน้ำยากันซึมแล้วใช้ทาเคลือบดาดฟ้า ก็จะได้รับการปกป้องอย่างดี ไม่มีเกิดรอยแตกให้เห็น
อย่างไรแล้วให้โพลียูรีเทรนช่วยอีกแรงได้นะ
อย่างที่บอกให้ทราบว่ามีให้เลือกเป็นตัวนี้ด้วย ดังนั้นอาจเลือกเพิ่มประสิทธิภาพอีกแรงได้ โดยโพลียูรีเทรน หรือกันซึมพียู สามารถใช้เคลือบคอนกรีตโดยเฉพาะดาดฟ้าได้ดีเยี่ยม ไม่ทำให้ผิวคอนกรีตถูกน้ำไหลรั่วซึม พร้อมมีความยืดหยุ่นอยู่ที่ 300 - 500% ยอมรับว่าความยืดหยุ่นเยอะมาก เจอแดดแรงมากแค่ไหน หรือโครงสร้างอาคารจะสั่นสะเทือนยังไง ก็ไม่เป็นผล เนื่องด้วยสิ่งนี้จะช่วยยึดการขยายตัว ปกปิดรอยร้าวได้ดีเหมือนใหม่ ที่สำคัญไม่ว่าจะเจอน้ำท่วมขังสูงมากเท่าใดก็สบาย ๆ หรือขังนาน 10 วันก็ไม่หวั่น เนื่องมาจากจะช่วยรองรับน้ำฝน พร้อมป้องกันผิวดาดฟ้าปราศจากน้ำไหลรั่วซึม
แนะนำวิธีการทากันซึมให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด
- เริ่มต้นสำรวจบริเวณดาดฟ้าที่เกิดปัญหารั่วซึม เป็นแอ่ง หรือมีรอยแตกร้าวตรงไหนบ้าง
- ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงมาล้างทำความสะอาดดาดฟ้า
- อุดโป๊วบริเวณที่มีปัญหาแตกร้าว ซึ่งให้ขยายร่องรอยร้าวให้กว้าง 2 - 3 มิลลิเมตร 
- ทำการทาสีรองพื้นโดยเลือกสีรองพื้นปูนเก่าเอามาทาผิวดาดฟ้าให้ชุ่ม 1 ครั้ง แล้วทิ้งให้แห้ง 2 - 3 ชั่วโมง
- ในขั้นสุดท้ายให้ทาน้ำยากันซึมของพวกเราลงไปได้เลย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกท่านสามารถเลือกสั่งซื้ออะคริลิคได้ผ่านออนไลน์แล้ว ซึ่งหากมองมุมบวกนี่เป็นเรื่องที่ดีเหตุเพราะสะดวกสบาย ไม่ต้องออกไปไหน รอของส่งถึงหน้าบ้าน ฯลฯ กระนั้นก็ควรเลือกร้านมีมาตรฐาน คุณภาพดี น่าเชื่อถือที่สุด ระบุรายละเอียดต่าง ๆ ได้ครบถ้วน สามารถเปรียบเทียบตกลงใจซื้ออย่างเหมาะสม การันตีได้ดาดฟ้าเหมือนใหม่ ไม่มีรั่วซึมให้กวนใจอีกต่อไป
เข้าดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0305
 
 
#58


ในช่วงที่หลาย ๆ คนต้องทำงานที่บ้าน หรือ Work from home แบบนี้ต้องมีบ้างที่รู้สึกว่าโต๊ะทำงานดูรก ไม่เรียบร้อย รวมไปถึงโต๊ะต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ในบ้านไม่ว่าจะเป็นโต๊ะวางคอม ใช้อ่านหนังสือ ฯลฯ เพื่อให้การใช้งานได้อย่างสะดวก ลองจัดวางสิ่งของตามทริคต่อไปนี้ดูไหม รับประกันว่าหาของได้ไม่หลงลืม จัดเก็บเป็นระเบียบ ใครเข้ามาเห็นก็ต้องชื่นชม
สัดส่วนของโต๊ะใช้ทำงานที่ควรรู้
ก่อนที่จะไปศึกษาถึงเคล็ดลับการจัดวางสิ่งของบนโต๊ะที่ไว้ทำงาน หรือโต๊ะคอม โต๊ะอ่านหนังสือ ขออธิบายถึงสัดส่วนที่ควรเป็นก่อน ซึ่งความลึกและความกว้างควรพิจารณาจากพื้นที่ทำงานใกล้ตัวอย่างเหมาะสม สามารถวาดมือบนโต๊ะได้โดยที่ศอกชิดลำตัวลักษณะครึ่งวงกลม ศอกถึงข้อนิ้วหยิบของได้ควรยาวออกไป 35 - 45 เซ็นติเมตร สามารถเปลี่ยนเหยียดแขนได้ ความยาวโต๊ะควร 160 เซ็นติเมตร (ครึ่งวงกลม) ทั้งนี้ สามารถออกแบบโต๊ะที่อยู่ในรูป L ได้ ช่วยให้หมุนเก้าอี้ง่าย หยิบของได้สะดวก
หาของไม่เจอ หลงลืมไม่รู้อยู่ตรงไหน ลองจัดโต๊ะทำงานตามนี้ช่วยได้
1. ของมีน้ำหนักแล้วไม่ได้หยิบใช้บ่อย
สำหรับสิ่งของที่มีน้ำหนักแล้วไม่ได้หยิบออกมาเพื่อใช้งานบ่อย ๆ ด้วยเอาไปวางไกลตัวผู้ใช้งาน อย่างขอบโต๊ะทางด้านขวาหรือซ้ายไม่ต้องลุกหยิบบ่อย ๆ  แต่ถ้าอยากใช้ก็เลื่อนเก้าอี้ไปใกล้ ๆ ได้ อย่าวางลึกเข้าไปเนื่องด้วยการเอื้อมทำให้ไหล่ใช้งานหนัก เสี่ยงเกิดแรงกดหมอนรองกระดูกสันหลัง อาทิ โต๊ะคอมพิวเตอร์ที่อาจมีหนังสือหลาย ๆ เล่มไม่ได้ใช้บ่อย
2. ใช้งานบ่อยควรวางไว้ใกล้ตัว
เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เพื่อน ๆคงรู้กันในระดับหนึ่ง เมื่อของที่เราใช้งานบ่อย ๆ ก็ควรวางให้อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด อาทิเช่น โต๊ะคอมพิวเตอร์ใช้แป้นพิมพ์ ใช้เมาส์ประจำ ก็ควรวางไว้กลางโต๊ะ ใกล้ขอบโต๊ะ หรือโต๊ะอ่านหนังสือที่มีหนังสือเล่มโปรดก็ควรวางใกล้ ๆ ด้านซ้ายหรือขวา เป็นต้น
3. น้ำหนักเบาใช้งานบ่อยแต่ยังไม่มาก
แอบสงสัยกันใช่ไหมว่าสิ่งของน้ำหนักเบาใช้งานไม่ได้บ่อยมากคืออะไร อย่างเช่น ปากกา กรรไกร สก็อตเทป ฯลฯ แนะนำว่าให้วางในพื้นที่ครึ่งวงกลม กล่าวคือสามารถเอื้อมหยิบได้โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อหมอนรองกระดูก
4. วางให้เหมาะกับลำดับการใช้งาน
ปิดท้ายคือการวางให้เหมาะกับลำดับการใช้งานอย่าง โต๊ะคอมถ้าต้องมีการอ่านแล้วพิมพ์งานไปด้วยให้วางแผ่นงานทางด้านซ้าย แล้วใช้เครื่องคอมพ์ หรือโน้ตบุ๊กกลางโต๊ะ ช่วยให้การทำงานสะดวก ง่ายดายมากยิ่งขึ้น 
ต่อจากนี้ไปโต๊ะทำงาน รวมถึงโต๊ะวางคอมพ์ วางหนังสือของคุณจะจัดวางสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเอื้อมจับ หยิบใช้สิ่งของได้ง่ายดาย ท่านใดยังไม่ได้จัดลักษณะที่แนะนำรีบไปปรับเปลี่ยนกันเลย ไม่หวงสูตร
ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR1005
 
#59

หลาย ๆ คนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรซื้อเครื่องอบผ้ามาใช้งาน หรือจะเอาผ้าไปตากกับแสงแดด ไม่ต้องสิ้นเปลืองไฟ สิ้นเปลืองเงิน เอาเป็นว่าใครที่กำลังสับสนเช่นนี้ อยากให้ลองมาศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับข้อดี - ข้อเสีย ของการใช้เครื่องอบ VS ตากกับแสงแดดที่เราจะพูดถึงนี้ดู ยืนยันว่าการตัดสินใจจะง่ายขึ้น
จุดเด่น - ข้อด้อยของเครื่องอบผ้า VS ตากกับแสงแดด 
1. การตากกับแสงแดด
จุดแข็ง
ขอเริ่มต้นกันที่การตากกับแสงแดด แน่นอนว่าหากเราตากกับแสงแดดที่จัดก็จะทำให้เสื้อผ้าแห้งไวมาก แถมยังได้กลิ่นหอมธรรมชาติของแดดเพิ่มเติม ช่วยให้แขนได้ออกกำลังกาย รวมถึงประหยัดพลังงาน ไม่สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า 
จุดด้อย
แต่เสื้อผ้าที่มีสีสันมาก ๆ เมื่อถูกแสงพระอาทิตย์จัดก็จะทำให้เนื้อสีซีดลง ผ้ากรอบ รีดยาก ก็เพราะว่าสีและเนื้อผ้าด้านนอกถูกทำลาย ที่สำคัญฝนตกก็ต้องีรบวิ่งมาเก็บ แถมยังเจอกับฝุ่น ควัน แฝงในเส้นใยผ้า ใครอยู่คอนโดฯพื้นที่น้อยก็คงทำให้การอยู่อาศัยแคบลงไปอีก 
2. การใช้เครื่องอบผ้า
จุดแข็ง
เมื่อใช้เครื่องประเภทนี้ก็หมดกังวลกับสภาพอากาศที่ 1 วันเปลี่ยนแปลงบ่อย เช้าแดดออก บ่ายฝนตก สามารถวางแผนการซักได้ ไม่ต้องรอแสงแดด นอกจากนี้ยังเหมาะกับบ้านไม่มีพื้นที่ตาก รวมถึงช่วยให้เสื้อผ้าไม่กักเก็บฝุ่น ควัน มลพิษทางอากาศ บ้านไหนมีคนที่เป็นภูมิแพ้ เด็กเล็กตอบโจทย์มาก ลดเสี่ยงผ้าเกิดเชื้อรา หรือสะสมเชื้อแบคทีเรีย ไม่ต้องเปลืองแรงแขน ได้เสื้อผ้าที่นุ่มกว่าตากแสงแดด แถมปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบรนด์ หลายรุ่น ฟีเจอร์ครบครัน อย่างเช่น เครื่องอบผ้า Electrolux ไม่ต้องรอนานใช้เวลา 1 - 2 ชั่วโมง ก็พร้อมใส่ทันที 
จุดด้อย
อย่างไรก็ตามการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ต้องเปลืองค่าไฟฟ้าอยู่บ้าง และเครื่องอบผ้า ราคาค่อนข้างสูง (แต่ถ้าเทียบกับความคุ้มค่าก็ได้อยู่เหมือนกันนะ)
สำหรับเครื่องอบผ้ายุคใหม่มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเป่าร้อน และระบบควบแน่น หลายรุ่นก็มีฟีเจอร์พิเศษ อย่างเช่น เครื่องอบผ้า Electrolux ที่สามารถตั้งเวลาล่วงหน้าได้, ระบบตรวจวัดความชื้นผ้า, ระบบการหมุนสลับไปมาช่วยถนอมเนื้อผ้า, ไม่ทำให้เสียทรง, ลดรอยยับ, มีสัญญาณเตือนทำความสะอาดตัวกรอง ฯลฯ สามารถใช้งานในพื้นที่แคบอย่าง คอนโดมีเนียม ทาวน์เฮาส์ ได้ดี
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่าทั้งการตากกับแสงแดด และใช้เครื่องช่วยอบผ้ามีความแตกต่างกันอยู่ ท่านสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการและความเหมาะสมจากปัจจัยต่าง ๆ โดยใครที่สนอกสนใจเลือกใช้เครื่องช่วยอบผ้า อยากทราบว่าเครื่องอบผ้า ราคาเป็นอย่างไร จริง ๆ แล้วราคาจะแตกต่างกันไปตามฟีเจอร์ ขนาดถัง ความจุรอบผ้า ฯลฯ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
รับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1302
 
#60

มีบ่อยครั้งเวลาใช้งานเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะชนิดฝาหน้ามักมองข้ามการล้างทำความสะอาด ทั้งที่จริงแล้วจัดเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพื่อช่วยให้เครื่องคงทน ไม่ต้องซื้อเปลี่ยนบ่อย คำถามคือจะล้างเช่นไร? นี่คงเป็นเรื่องที่หลายท่านต้องการคำตอบ จึงขอรวบรวมรายละเอียดการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้ามาให้อย่างครบถ้วน
เผยวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า เรื่องง่าย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
ในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าชนิดฝาหน้าจะแบ่งการล้างออกเป็น 2 กรณี คือล้างส่วนที่เป็นขอบยาง และล้างส่วนถังซักผ้า โดยสามารถทำได้ทุกแบรนด์ ทุกรุ่น ไม่ว่าจะ เครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux หรือเครื่องซักผ้าฝาหน้า lg มีวิธีการล้าง ดังนี้
1. วิธีล้างส่วนที่เป็นขอบยาง
-    สำหรับการชำระล้างส่วนที่เป็นขอบยางให้เริ่มต้นเปิดฝาเครื่องออกมากว้าง ๆ ต่อไปง้างขอบยางรอบ ๆ ออกมา (ซึ่งต้องบอกว่าขอบยางนี้จะยึดกับเครื่อง ไม่สามารถถอดออกมาได้ แต่สามารถง้างกว้าง ๆ ได้) ทั้งนี้ ควรเก็บขยะที่กรอกเอาไว้ในช่องมุมซ้ายของเครื่องออกเดือนละ 1 ครั้งด้วย ไม่ทำให้มีเศษผ้าหรือก้อนผงซักฟอก ก้อนน้ำยาซักผ้าหลงเหลือตกค้าง
-    เก็บสิ่งสกปรกออก ไม่ให้หลงเหลือใด ๆ ซึ่งสิ่งที่อยากแนะนำ คือบรรดาของมีคมเป็นอันตรายต่อขอบยางเวลาซักหมุน จึงควรเช็คตามเสื้อผ้าให้ดี ไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอมนี้ติดอยู่ อาทิ ตะปู กิ๊บติดผม คลิปหนีบกระดาษ เหรียญ ฯลฯ
-    ล้างทำความสะอาดอย่างหมดจด ด้วยการเช็ดที่ขอบยาง อาจเป็นเส้นผม หรือขนสัตว์ที่เลี้ยง เก็บอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง
-    ไม่ควรลืมจัดการเชื้อราที่เห็นเป็นจุดดำ ๆ ด้วยการฉีดพ่นขอบยางด้วยน้ำอุ่นที่ผสมน้ำยากำจัดเชื้อโรคโดนเฉพาะ หรือน้ำยาล้างจาน แล้วเช็ดทำความสะอาด
2. วิธีล้างถัง
ไม่ว่าจะเครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux หรือเครื่องซักผ้าฝาหน้า lg สามารถล้างได้โดยการโรยเบคกิ้งโซดา 1/3 ถ้วยตวงลงด้านในของถัง หรือใช้น้ำยาฟอกขาว 2 ถ้วยตวงเทใส่ในช่องจ่ายน้ำยา แล้วเปิดเครื่อง wash และ rinse cycle จนจบ ไม่ต้องใส่อะไรอีกแต่ให้เปิด rinse ทิ้งไว้ ที่สำคัญคือการลางถาดใส่น้ำยา ให้ดึงออกมาแล้วนำไปแช่น้ำอุ่น ต่อจากนั้นใช้น้ำยาทำความสะอาดฉีดพ่น เช็ดให้สะอาดแล้วสอดกลับที่เดิม และอย่าลืมเช็ดเครื่องซักผ้าด้านนอก ขจัดฝุ่นผ้า ขี้ผง หรือขน / เส้นผมที่เกาะด้วย
จะเห็นได้ว่าวิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้ามีด้วยกันหลากหลาย และต้องเอาใจใส่ล้างให้ครอบคลุมทั้งตัวขอบยางและตัวถังเครื่อง ซึ่งหลังจากนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะทำได้อย่างดีเยี่ยม หมั่นทำเสมอๆ ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาด ยืดอายุการใช้งานไปในตัว
ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP130301