• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#11476
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208

#11477


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ส.ค. 2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างก็ปิดทำนิวไฮ ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการสร้างงานในสหรัฐ โดยข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงหุ้นสายการบินและธุรกิจเรือสำราญ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,264.67 จุด เพิ่มขึ้น 162.82 จุด หรือ +0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,436.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ +0.10% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,788.09 จุด ลดลง 72.09 จุด หรือ -0.49%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยบวกขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้นขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 472.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.64 จุด หรือ +0.35%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,820.21 จุด เพิ่มขึ้น 7.03 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,770.71 จุด เพิ่มขึ้น 25.30 จุด หรือ +0.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.04 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด หรือ +0.40%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคอังกฤษที่ปรับตัวดีขึ้น และการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.04 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด หรือ +0.40%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,731.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 12.3 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 23.392 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 16.1 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 987 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 47.90 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 2,650 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งข่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.81 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 68.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 70.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.12% แตะที่ 93.0569 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.57 เยน จากระดับ 110.28 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9228 ฟรังก์ จากระดับ 0.9200 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2526 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2572 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1721 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1741 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3839 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3852 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7349 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7335 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 35,264.67 จุด เพิ่มขึ้น 162.82 จุด, +0.46%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,436.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด, +0.10%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,788.09 จุด ลดลง 72.09 จุด, -0.49%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.04 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด, +0.40%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,820.21 จุด เพิ่มขึ้น 7.03 จุด, +0.10%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,770.71 จุด เพิ่มขึ้น 25.30 จุด, +0.16%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 54,554.66 จุด เพิ่มขึ้น 151.81 จุด, +0.28%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,088.41 จุด ลดลง 39.05 จุด, -0.64%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,623.23 จุด ลดลง 9.34 จุด, -0.14%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,207.36 จุด เพิ่มขึ้น 30.18 จุด, +0.95%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,605.62 จุด เพิ่มขึ้น 322.22 จุด, +1.23%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,529.93 จุด เพิ่มขึ้น 35.30 จุด, +1.01%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,323.64 จุด ลดลง 161.51 จุด, -0.92%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,243.19 จุด ลดลง 17.23 จุด, -0.53%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,888.15 จุด เพิ่มขึ้น 68.11 จุด, +0.24%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,562.60 จุด เพิ่มขึ้น 24.20 จุด, +0.32%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,830.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.10 จุด, +0.33%

ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวานนี้ (10 ส.ค.) เนื่องในวัน Awal Muharram (Maal Hijrah)
#11478


บมจ.เอกชัยการแพทย์ หรือ EKH อวดผลงานงวดไตรมาส 2/64 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 65.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 30,090% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 0.22 ล้านบาท อานิสงส์ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น รวมทั้งวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ ดันยอดผู้ใช้บริการเข้ารับการตรวจหาเชื้อคึกคัก ขณะที่ศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจรสดใสไม่แพ้กัน ด้านบอร์ดเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 8 กันยายน 64 "นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร" เผยแนวโน้มครึ่งปีหลังยังคงขยายตัวอย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นจากการระบาดที่ยังคงรุนแรง มั่นใจหนุนรายได้โต พร้อมปรับเป้ารายได้ปี 64 โตไม่ต่ำกว่า 40%

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการ บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564) มีกำไรสุทธิ 65.98 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 30,090% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 0.22 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 248.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.37 ล้านบาท หรือ 108.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่118.89 ล้านบาท

สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ที่เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และยังมีรายได้จากการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงมีผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ธุรกิจการรักษาพยาบาลทั่วไปในโรงพยาบาล เช่น ศูนย์ฉุกเฉิน ศูนย์กุมารเวช ศูนย์สูติ-นรีเวช ยังมีผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท จำนวน 600 ล้านหุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 72 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2564

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่ามีโอกาสขยายตัวอย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นจากการระบาดที่ยังคงรุนแรง และการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คาดว่าจะผลักดันรายได้ปี 2564 เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งปรับเป้ารายได้จากเดิมโต 20% เป็นเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปีก่อนได้อย่างแน่นอน

"ที่ผ่านมา บริษัทฯ เดินหน้ารุกขยายเปิดบริการตรวจเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้น ประกอบกับการให้บริการทางการแพทย์ในด้านต่างๆ ยังสามารถเติบโตในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และมีผู้ป่วย OPD และผู้ป่วย IPD เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด-19 หรือ Hospitel เพิ่ม จึงเป็นสัญญาณบวกต่อภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังของ EKH ที่จะเติบโตอย่างโดดเด่น" นายแพทย์อำนาจ กล่าวในที่สุด
#11479


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 106.66 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 35,101.85 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 4.17 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 4,432.35 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 24.41 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 14,860.18 จุด

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อวันศุกร์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ดีเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ท่ามกลางการทรุดตัวของราคาน้ำมัน หลังจากที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน ขณะที่ภาวะโลกร้อนกำลังใกล้เข้าสู่ระดับวิกฤต

ทั้งนี้ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นเรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน รวมทั้งพลังงานอื่นๆที่ปล่อยมลพิษในระดับสูงโดยทันที หลังจากที่รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ระบุว่า ระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศในขณะนี้สูงพอที่จะส่งผลเสียต่อสภาพภูมิอากาศไปอีกหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีข้างหน้า

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธ และเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพฤหัสบดี

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีซีพีไอพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี

นักลงทุนกังวลว่า หากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค. หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ส่งสัญญาณในการกล่าวถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะปรับลดวงเงินคิวอีภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

ทั้งนี้ นายแคลริดากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดภายในปลายปีหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

"ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปลายปีหน้า และการกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติในปี 2566 จะสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยแบบยืดหยุ่นของเฟด" นายแคลริดากล่าว

"หากการคาดการณ์ของผมเป็นจริง ก็คาดว่าเฟดจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้" เขากล่าว

คำกล่าวของนายแคลริดาสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด โดยนายวอลเลอร์ระบุว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีภายในเดือนต.ค.
#11481
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208

#11482


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (8 สิงหาคม 2564) ธอส. ได้จัดงาน "8/8 GHBank NPA Double Sale" ประมูลบ้านมือสองออนไลน์ (Stay Home Online Auction) ผ่าน Application : GH Bank Smart NPA เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยคัดทรัพย์เด่นทั่วประเทศมาเปิดประมูลระหว่างเวลา 10.00-10.30 น. ปรากฏว่าสามารถขายได้ถึง 43 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 47 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 รายการ และทรัพย์ในส่วนภูมิภาค 35 รายการ

โดยทรัพย์ที่มีราคาประมูลต่ำสุดที่มีผู้ประมูลซื้อได้ในครั้งนี้ คือ ทรัพย์ประเภทห้องชุด ชั้น 5 ขนาดเนื้อที่ 22.75 ตารางเมตร ในโครงการพรอนันต์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ปิดประมูลขายได้ในราคาเพียง 65,000 บาทเท่านั้น ส่วนทรัพย์ที่ประมูลขายได้ในราคาสูงที่สุด คือ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 52 ตารางวา ในโครงการ Glory House อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปิดประมูลในราคา 2,920,000 บาท

ส่วนทรัพย์รายการเด่นที่ขายได้ในครั้งนี้ เช่น คอนโดมิเนียม ขนาด 29.95 ตารางเมตร ชั้นที่ 3 ในโครงการอัสสกาญจน์เพลส รามคำแหง-วงแหวน ซอยรามคำแหง 147/2 กรุงเทพฯ และทรัพย์ประเภทบ้านแฝด 1 ชั้น ขนาด 35.40 ตารางวา ในหมู่บ้านเทพบุรี (รัษฎานุสรณ์) อำเภอเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ปิดประมูลในราคาตั้งต้นที่ 2,680,000 บาท  

ทั้งนี้ สำหรับลูกค้า 8 ลำดับแรกของรายการทรัพย์ใน กทม. และปริมณฑล รวมถึง 8 ลำดับแรกของลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ในภูมิภาคที่เสนอราคา และชนะประมูล หากทำสัญญาจะซื้อจะขายภายในวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ได้รับฟรี!! สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว มูลค่า 5,000 บาท ซึ่งสามารถลุ้นรับรางวัลมูลค่าสูงสุดถึง 1 ล้านบาททุกเดือน รวมถึงหากโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% จากราคาที่ปิดประมูลและเลือกใช้โปรโมชั่นผ่อนดาวน์ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 4 ปี หรือ 48 เดือนได้อีกด้วย 

สำหรับการประมูลครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 9/9 หรือวันที่ 9 กันยายน 2564 สอบถามรายละเอียดและดูข้อมูลทรัพย์ NPA ของธนาคารได้ที่ www.ghbhomecenter.com กรณีทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โทร 0-2202-1016, 0-202-1582 ส่วนทรัพย์ในภูมิภาค โทร 0-202-1170 หรือ 0-202-2036 และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
#11483


รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยและอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าทะลุระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ในช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ จากดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีแนวโน้มอาจติดลบในปีนี้ โดยในไตรมาสแรกปี 2564 ดุลบัญชีเงินสะพัดขาดดุลแล้ว 2.6 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าในไตรมาสสองและสามจะยังคงขาดดุลต่อเนื่อง ดุลการค้าเกินดุลลดลง คาดว่าปีนี้ดุลบัญชีเงินทุนมีเงินไหลออกสุทธิไม่ต่ำกว่า 3-4 พันล้านดอลลาร์ โดยมีทั้งการไหลออกของเงินลงทุนโดยตรงและการลงทุนในหลักทรัพย์ในตลาดการเงิน ปีที่แล้วเงินทุนไหลออกสุทธิประมาณ 3.59 พันล้านดอลลาร์ อัตราการค้าปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากราคานำเข้าสินค้าเพิ่มสูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาส่งออก

ทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทั้งตัวเลขการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน ตัวเลขตำแหน่งงานเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นถึง 943,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานลดลงต่อเนื่อง การกระเตื้องขึ้นของดัชนีภาคการผลิตและการบริการ ดัชนีค้าปลีกและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอาจทยอยลดวงเงินในการทำ QE ลงในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า           

แม้นการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นภาพสะท้อนของภาวะเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอลงอย่างมาก แต่ผลของการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม จะช่วยกระตุ้นภาคส่งออก การจ้างงานและรายได้จากการท่องเที่ยวหากสามารถเปิดประเทศได้ ผลกระทบในทางลบที่มีต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจและแรงกดดันเงินเฟ้อจะไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีกำลังการผลิตส่วนเกินอยู่จำนวนมาก และอัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมยังต่ำอยู่เฉลี่ยอยู่ที่ 66-67% ไม่ว่าพิจารณาปัจจัยทางด้านอุปสงค์หรืออุปทานไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นมาก

ขณะที่การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในสหรัฐ ยุโรป หรือญี่ปุ่น จะทำให้ธนาคารกลางของประเทศเหล่านี้จะใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำพิเศษไปอีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การเร่งตัวของเงินเฟ้อและเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินบรรเทาลง อัตราดอกเบี้ยจะต่ำไปอีกนาน จึงขอให้ "คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน" ของธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาอย่างจริงจังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เหลือ 0% หรืออย่างน้อยต้องลดลงให้เหลือ 0.10% ในการประชุมครั้งต่อไปเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจที่จะทรุดตัวลงในปลายไตรมาสสามต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2565 หากตัดสินใจช้าจะไม่สามารถประคับประคองเศรษฐกิจได้ทันการณ์ และดูเหมือนว่าประเทศคงจำเป็นต้องมีการล็อกดาวน์อยู่เป็นระยะๆ และคาดว่ามาตรการคลังมีข้อจำกัดจากเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่น่าจะทะลุเพดาน 60% อย่างแน่นอน

ส่วนการปรับลดความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.นี้นั้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจและระบบสถาบันการเงินมีเสถียรภาพและมีความมั่นคงมากขึ้น รวมทั้งลดภาระต่อเงินสาธารณะในกรณีเกิดปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินขึ้นในอนาคตหรือธนาคารถูกเพิกถอนใบอนุญาต อัตราขยายตัวของการฝากเงินของประชาชนและกิจการต่างๆ ก็ปรับตัวลงอย่างมากในช่วงวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโควิด-19 คนฝากเงินในระบบสถาบันการเงินที่มีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาทในแต่ละธนาคารมีอยู่ประมาณ 2% ของทั้งระบบ 97-98% ของผู้ฝากเงินมีเงินฝากต่ำกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเงินฝาก e-money มากขึ้นตามลำดับ จึงควรขยายวงเงินฝากให้ครอบคลุมเงินฝาก e-money และควรขยายวงเงินคุ้มครองเงินฝากจาก 1 ล้านเป็น 2-3 ล้านบาทเมื่อบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองวงเงิน 1 ล้านไปเป็นระยะ 1-2 ปีแล้ว เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางการเงินอาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม


นอกจากนี้ เขา มองว่า การขยายเวลาและขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ไม่ได้ผลในการลดการติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตมากนัก ควรเปลี่ยนวิธีการให้ดำเนินชีวิตได้ตามปรกติมากที่สุดและเดินหน้าเปิดประเทศหลังจากระบบสาธารณสุขสามารถรองรับผู้ป่วยหนักได้เต็มที่แล้ว จุดประสงค์ของการล็อกดาวน์ คือ ป้องกันไม่ให้ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ไม่ให้จำนวนผู้ป่วยล้นเกินไป เพราะล็อกดาวน์ไม่ได้ทำให้โรคหายไป เราจะต้องอยู่กับโควิด-19 ไปอีกนาน ฉะนั้นเราต้องมีวิธีการจัดการใหม่ คือ อยู่กับมันเหมือนเราอยู่กับโรคไข้หวัดใหญ่ หรือ โรคเอดส์ โดยเน้นให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขเคร่งครัด ฉีดวัคซีนในอัตราเร่งเดือนละ 10 ล้านโดสเป็นอย่างต่ำ หรือ วันละสามแสนสามหมื่นสี่พันโดสเป็นอย่างน้อย เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ 50 ล้านคน (70% ของประชากร) ได้ฉีดเข็มแรกภายในเดือนตุลาคมก็จะบรรลุผลและเดินหน้าเปิดประเทศได้ รวมทั้งต้องเน้นฉีดกลุ่มคนทำงานที่ต้องสัมผัสกับผู้คนมากๆ ก่อนเพื่อลดการแพร่ระบาด เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ตำรวจ รปภ กลุ่มวินมอเตอร์ไซด์ กลุ่มคนขับรถเมล์ คนขับแท็กซี่ พนักงานบริการต่างๆ เป็นต้น การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันมีต้นทุนที่ถูกกว่าการปล่อยให้คนติดเชื้อแล้วค่อยรักษามาก หากปล่อยให้คนติดเชื้อและอยู่ในระหว่างการรักษาเกิน 400,000 คนในแต่ละช่วงเวลา ต้นทุนทางเศรษฐกิจจะสูงมากและอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มเฉลี่ยเกิน 200 คนต่อวันได้

การควบคุมการระบาดในระยะนี้ต้องเน้นไปที่มิติความสัมพันธ์ของคนมากกว่าคุมพื้นที่ เช่น คนงานติดเชื้อที่โรงงาน ไม่ใช่เน้นไปคุมพื้นที่โดยรอบโรงงานหรือปิดโรงงาน ต้องเอา "คนติดเชื้อ" ออกมา แล้วให้โรงงานเปิดการทำงานได้ตามปรกติ แล้วเน้นไปควบคุมว่าคนงานติดเชื้อนั้นไปมีปฏิสัมพันธ์กับใครบ้างมากกว่า การดำเนินการแบบนี้จึงไม่ทำให้เศรษฐกิจเสียหายไปมากกว่านี้ สิงคโปร์ ไต้หวัน ก็ทำแบบนี้ นอกจากนี้ยังต้องจัดสรรงบประมาณให้ระบบสาธารณสุขมีความเพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยหนัก
#11484
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208

#11485


สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก เปิดเผยในวันนี้ ว่า พบผู้ที่เกี่ยวข้องกับมหกรรมกีฬาระดับโลกติดโควิด-19 เพิ่มอีก 26 รายในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของมหกรรมโอลิมปิก ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 430 ราย นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.

นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ไม่พบนักกีฬาติดเชื้อโควิด-19 โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26 รายนั้น ประกอบด้วยผู้รับเหมา 16 ราย สื่อมวลชน 5 ราย อาสาสมัคร 3 ราย เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการแข่งขัน 1 ราย และพนักงานคณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก 1 ราย โดยทั้งหมดไม่ได้พักอยู่ในหมู่บ้านักกีฬา และ 19 คนในจำนวนนี้เป็นพลเมืองญี่ปุ่น
#11486


สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ ว่าในพื้นที่ออสติน เมืองที่มีประชากรเกือบ 2.4 ล้านคน เหลือเตียงไอซียูเพียงแค่ 6 เตียงและเหลือเครื่องช่วยหายใจ 313 เครื่อง

"สถานการณ์วิกฤต" เดสมาร์ วอลค์ส ผู้อำนวยการด้านการแพทย์แห่งสำนักงานสาธารณสุขออสเตินระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์(7ส.ค.) ขณะที่มีการแจ้งเตือนสถานการณ์เลวร้ายผ่านข้อความมือถือ อีเมล์และโทรศัพท์สายตรงถึงประชาชนของเมือง

"โรงพยาบาลของเราอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างรุนแรง และเราแทบทำอะไรไม่ได้เลย ในการบรรเทาภาระของพวกเขาที่ต้องรับมือกับเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด" วอลค์สกล่าว

คำเตือนนี้มีขึ้นเพียง 2 วันหลังจากสำนักงานสาธารณสุขของเมืองยกระดับความเสี่ยงสู่ขั้นสูงสุดระดับ 5 สืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก รวมถึงเร่งเร้าประชาชนให้เข้าฉีดวัคซีน หยุดอยู่บ้านและสวมหน้ากากแม้ว่าพวกเขาจะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม

ความเคลื่อนไหวยกระดับความเสี่ยงนี้มีขึ้นหลังจากค่าเฉลี่ย 7 วันของผู้เข้ารักษาตัวรายใหม่ในโรงพยาบาลต่างๆในเมืองออสติน เพิ่มขึ้นมากกว่า 600% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ส่วนคนไข้ในห้องไอซียูเพิ่มขึ้นถึง 570%

สำนักงานสาธารณสุขของเมืองออสติน ระบุด้วยว่าคนไข้โควิด-19 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 102 รายจนถึงวันเสาร์(7ส.ค.) จากระดับเพียงแค่ 8 รายในวันที่ 4 กรกฎาคม และคาดหมายว่าจำนวนผูู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ เนื่องจากเคสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ออสตินเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า

"เตียงคนไข้ที่เหลืออยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆและการดูแลผู้ป่วยวิกฤต ในระบบโรงพยาบาลของเรา อยู่ในขั้นจำกัดสุดๆ" นายแพทย์วอลค์ส กล่าว พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันสกัดหายนะครั้งนี้

นอกจากเมืองออสตินแล้ว พบเห็นเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วประเทศเช่นกัน ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯพุ่งขึ้นเหนือ 100,000 คนต่อวัน หวนคืนสู่ระดับเดียวกับเมื่อ 6 เดือนก่อน ครั้งที่ประเทศแห่งนี้เผชิญการแพร่ระบาดรุนแรงในช่วงฤดูหนาว

เคสผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์จนถึงวันศุกร์(6ส.ค.) เพิ่มขึ้นเหนือ 750,000 ราย สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮ็อปกินส์ ทั้งนี้เคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานเกิดขึ้นแม้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯเริ่มดีดตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากชะลอตัวมาหลายเดือน

รายงานของบลูมเบิร์กระบุต่อว่าค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวัน เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวในเดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงต่ำกว่าระดับที่พบเเห็นในช่วงฤดูหนาวปีก่อนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามพวกผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่าอัตราการติดเชื้อใหม่ที่พุ่งสูง อาจกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสที่อันตรายร้ายแรงกว่าเดิม

บลูมเบิร์กรายงานว่าทั่วทั้งรัฐเทกซัส ซึ่งมีประชากรราว 29 ล้านคน เหลือเตียงไอซียูแค่ 439 เตียงและเครื่องช่วยหายใจ 6,991 เครื่อง
ในพื้นที่ฮิวสตัน ซึ่งมีประชากร 6.7 ล้านคน เหลือเตียงไอซียูแค่ 41 เตียง ส่วนพื้นที่ดัลลัส ซึ่งมีประชากรมากกว่า 8 ล้านคน เหลือเตียงไอซียู 110 เตียง

จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในเทกซัส มีมากถึง 23,096 คนในวันศุกร์(6ส.ค.) สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และแม้ตัวเลขลดลงเหลือ 11,072 รายในวันเสาร์(7ส.ค.) แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะมีการตรวจเชื้อน้อยลงในช่วงสุดสัปดาห์

(ที่มา:บลูมเบิร์ก)
#11487


Google ประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่คนไทยสนใจค้นหาบน Google Search ในเทศกาลวันแม่ที่กำลังจะถึงในเดือนสิงหาคม 2564  ซึ่งปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่คนไทยยังต้องฉลองเทศกาลต่างๆ แบบเว้นระยะห่าง   แต่สิ่งที่ผู้คนนิยมมากขึ้นคือความสนใจในการค้นหาไอเดีย ของขวัญ และสิ่งต่างๆ ทางออนไลน์  โดย Google ได้รวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลผ่าน Google Trends ซึ่งสะท้อนสิ่งที่คนไทยกำลังมองหาและต้องการในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบธุรกิจเพื่อช่วยให้คนไทยฉลองเทศกาลวันแม่ได้ดีที่สุด 

โดยคำค้นหาที่ได้รับความสนใจในช่วงเทศกาลวันแม่แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าเพื่อแม่ และกลุ่มสินค้าเพื่อลูก  

และเนื่องด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปกติในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้การค้นหาประเภทร้านอาหารและการท่องเที่ยวน้อยลง โดยลูกๆ ต่างมองหากิจกรรมทดแทนและข้อเสนอพิเศษต่างๆ สำหรับของขวัญในวันแม่ โดยการค้นหาเหล่านี้มักเริ่มขึ้น 2 สัปดาห์ก่อนถึงเทศกาลวันแม่

สำหรับคำค้นหาที่คนไทยให้ความสนใจ "กลุ่มสินค้าเพื่อแม่" คือ
• วิธีทำการ์ด วันแม่ เพิ่มขึ้น 200%
• ดอกไม้ พวงมาลัยมะลิ เพิ่มขึ้น 90%
• โปร วันแม่ เพิ่มขึ้น 35%

โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสำหรับกลุ่มสินค้าเพื่อแม่นี้เป็นตัวเลขในช่วงเดือนสิงหาคม 2563 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อนหน้า

นอกเหนือจากลูกๆ จะหากิจกรรมพิเศษเพื่อแม่แล้ว กลุ่มคุณแม่ก็ยังมองหา "กลุ่มสินค้าเพื่อลูก" สำหรับทำกิจกรรมร่วมกับลูกเช่นกัน สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อเด็ก เป็น กลุ่มที่มีการค้นหาเพิ่มสูงขึ้นมาก

• แบบฝึกหัด อนุบาล 2 เพิ่มขึ้น 250%
• รถไฟฟ้าเด็ก เพิ่มขึ้น 140%
• ยาสำหรับลูก เพิ่มขึ้น 100%

โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสำหรับกลุ่มสินค้าเพื่อลูก เป็นตัวเลขระหว่างช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน 2654 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว  นอกจากนี้ สามารถค้นหาบทความข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภค กลยุทธ์ และเครื่องมือสำหรับนักการตลาดเพิ่มเติมได้ที่ https:// www.thinkwithgoogle.com/th
#11488


จากกรณีที่ประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีน "ไฟเซอร์" จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส โดยได้จัดส่งถึงประเทศไทย พร้อมกับให้ดำเนินการจัดสรรให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศนั้น  

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นรับมอบ "วัคซีนไฟเซอร์" ล็อตแรก 9,840 โดส โดยกองโรคติดต่อทั่วไปจัดส่งวัคซีนโควิด 19 ไฟเซอร์ รอบต้นเดือนสิงหาคม 2564 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อลดการป่วยรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต และปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ



โดยมอบหมายให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาเร่งรัดการให้วัคซีนกับกลุ่มเป้าหมาย ภายในอาทิตย์ นี้ เบื้องต้นมีบุคลากรด่านหน้าแจ้งความประสงค์ ฉีด 17,000 คน แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1


บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 จากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ รวมทั้งนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงาน เช่น แผนกผู้ป่วยนอก แผนกผู้ป่วยใน คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน หรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 อื่นๆ ตามการพิจารณาของสถานพยาบาล/หน่วยงานต้นสังกัด 


โดยมีหลักการให้วัคซีน ดังนี้

1.1 บุคลากรที่ได้รับวัคซีน Sinovac หรือ Sinopharm ครบ 2 เข็ม อย่างน้อย 1 เดือนพิจารณาให้วัคซีน Pfizer กระตุ้น 1 เข็ม 
1.2 บุคลากรที่ได้รับวัคซีนใดๆ มาแล้วเพียง 1 เข็ม พิจารณาให้วัคซีน Pfizer เป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างระหว่างโดส ตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก
1.3 บุคลากรที่เคยติดเชื้อโควิด 19 และไม่เคยได้รับวัคซีน พิจารณาให้วัคซีน Pfizer 1 เข็ม โดยมีระยะห่างจากวันที่พบการติดเชื้ออย่างน้อย 1 เดือน
ประเภทที่ 2

บุคลากรที่ไม่เคยได้วัคซีนใดๆ มาก่อน พิจารณาให้วัคซีน Pfizer 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ทั้งนี้เนื่องจากวัคซีนจะเก็บอยู่ในอุณหภูมิ  2 -  8 องศาเซลเซียส ได้เพียง 1 เดือน ดังนั้น กองโรคติดต่อทั่วไป  จะส่งวัคซีน Pfizer สำหรับผู้รับวัคซีนเข็ม 2 ในกลุ่มเป้าหมายประเภท 2 ประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2564  และหากจังหวัดได้ตรวจสอบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณสมบัติตามกลุ่มเป้าหมายประเภทที่ 1  และ 2 เพิ่มเติมสามารถแจ้งขอรับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมได้ที่กรมควบคุมโรค


ต่อมา วานนี้ (7 ส.ค.) องค์กรแพทย์ รพ.ขอนแก่น ได้ออกแถลงการณ์เรื่องการขอวัคซีน "ไฟเซอร์" ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าโรงพยาบาลขอนแก่น ความว่า ตามที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส และจะมีการจัดสรรให้กับบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ

โรงพยาบาลขอนแก่นนับเป็นโรงพยาบาลหลักในการดูแลผู้ป่วยโควิดทุกความรุนแรงของจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่ผู้ป่วยคลัสเตอร์ฟันน้ำนม คลัสเตอร์แรงงาน คลัสเตอร์เรือนจำและทัณฑสถาน ไปจนถึงผู้ป่วยหนักอาการวิกฤตสำหรับโควต้าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์มีบุคลากรทางการแพทย์ลงชื่อรับวัคซีนไฟเซอร์เป็นจํานวน 1,400 คน แต่โรงพยาบาลขอนแก่นกลับได้รับการจัดสรรวัคซีนเป็นจำนวนเพียง 700 โดสเท่านั้น ทั้งที่เป็นการขอตรงตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกประการองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นจึงขอเรียกร้องให้มีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้เพียงพอต่อจำนวนบุคลากรด้านหน้าของโรงพยาบาลขอนแก่นเพื่อเป็นการปกป้องชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ทุ่มเทรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอด
#11489
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208