• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Naprapats

#8101


โดย พชร ธนภัทรกุล

ชาวแต้จิ๋วเรียกวันนี้ว่า ชิก-ง้วย-ปั่ว-โจ่ย (七月半节) แปลว่าวันสารทกลางเดือนเจ็ด มีบ้างที่เรียกว่า กุยโจ่ย (鬼) คือวันงานของผี ซึ่งตามปฏิทินจันทรคติจีนแล้ว จะตรงกับวันที่ 15 เดือนเจ็ดของทุกปี

ปกติแล้ว ไม่ว่าเทศกาลไหนของจีน ก็จะมีของกินที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนั้นๆ เช่น ตรุษจีน มีขนมเข่งขนมฟู วันเช็งเม้ง ชาวแต้จิ๋วในจีนมี จี-พก-ก้วย(积朴粿) แต่ชาวแต้จิ๋วในไทย ดูเหมือนจะไม่มีของกินประจำเทศกาลนี้ เทศกาลตวนอู่หรือวันไหว้บ๊ะจ่าง ก็มีบ๊ะจ่าง เทศกาลตังโจ่ยหรือขนมอี๊ ก็จะมีขนมอี๊ (คล้ายบัวลอย)

แต่เทศกาลสารทจีน สำหรับชาวแต้จิ๋วทั้งในจีนและในไทย ดูจะไม่มีของกินประจำเทศกาล คงมีเพียงของกินที่เป็นของเซ่นเครื่องไหว้เท่านั้น ซึ่งก็เป็นอะไรที่คล้ายๆกับของเซ่นเครื่องไหว้ในเทศกาลอื่น ไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ

ชาวจีนเชื่อกันว่า ตลอดเดือนเจ็ดของทุกปีตามปฏิทินจีน ประตูเมืองผีจะเปิดตั้งแต่วันแรกไปจนถึงวันสิ้นเดือน เพื่อให้บรรดาผีทั้งหลายได้มีโอกาสออกจากเมืองนรกกลับมายังโลกมนุษย์เป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อมา "เยี่ยม" ลูกหลาน มาดูว่า ในรอบปีที่ผ่านมา พวกเขาทำดีทำชั่วอะไรไว้ และอยู่ดีมีสุขกันไหม

การไหว้ผีไม่มีญาติ (ไม่จัดโต๊ะ) ขอบคุณภาพจาก http://www.chinalanguages.org/show_cy_lei.aspx?idxiaolei=%E4%B8%83%E6%9C%88%E5%8D%81%E4%BA%94
การไหว้ผีไม่มีญาติ (ไม่จัดโต๊ะ) ขอบคุณภาพจาก http://www.chinalanguages.org/show_cy_lei.aspx?idxiaolei=%E4%B8%83%E6%9C%88%E5%8D%81%E4%BA%94

เมื่อบรรดาผีบรรพชนอุตส่าห์เดินทางจากเมืองผี มา "เยี่ยม" ทั้งที คนบนโลกก็ควรมีพิธีต้อนรับขับสู้กันหน่อย ลูกหลานชาวจีนจึงเลือกเอาวันที่ 15 ของเดือนนี้ จัดเครื่องเซ่นของไหว้ มาเซ่นไหว้บรรพชน

แต่หากไม่มีการเซ่นไหว้ และพ้นวันนี้ไปแล้ว ผีบรรพชนที่ไม่ได้รับการเซ่นไหว้ ก็จะต้องกลายเป็นผีเร่ร่อนติดอยู่บนโลกมนุษย์ กลับไปเมืองผีไม่ได้ ต้องรอไปอีกหนึ่งปี เมื่อมีการเซ่นไหว้แล้วนั่นแหละ ถึงจะได้กลับไปเมืองผีกัน

ส่วนที่เลือกเซ่นไหว้ผีบรรพชนในวันที่ 15 เดือนเจ็ด ก็เพราะเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง พืชผลบางชนิด เช่น ข้าวโพด มันเทศ งาและถั่วต่างๆ พุดซาจีน สาลี่ ลูกท้อ ลูกพลับ แม้แต่ฝ้าย ก็เริ่มสุกแก่เก็บเกี่ยวได้แล้ว เพื่อบอกกล่าวถึงผลเก็บเกี่ยวที่ได้ให้บรรพชนได้รับทราบ

ที่เล่ามานี้ เป็นเค้าลางบอกที่มาของวันสารทจีนว่า มาจากอิทธิพลคำสอนของขงจื๊อที่สอนให้ชาวจีนยึดถือความกตัญญูกตเวทิตาเป็นที่ตั้ง คือรู้คุณและแทนคุณ

ต่อมา ทั้งฝ่ายเต๋าและฝ่ายพุทธ ได้มองเห็นว่า ชาวจีนให้ความสำคัญกับวันนี้กันมาก จึงได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันสำคัญของฝ่ายตนบ้าง กล่าวคือ

ของเซ่นเต้าหู้ (จานตรงกลาง) ขอบคุณภาพจากhttp://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1
ของเซ่นเต้าหู้ (จานตรงกลาง) ขอบคุณภาพจากhttp://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1

ฝ่ายเต๋ากำหนดให้เป็นวันเกิดของเทพเจ้าผู้ดูแลเมืองผี มีชื่อยาวเหยียดว่า 中元二品七炁赦罪地官洞灵清虚大帝青灵帝君 (ขอไม่ถอดเสียงอ่าน เพราะมันยาวเยิ่นเย้อ) แต่ชาวจีนเรียกกันสั้นๆว่า "จง-หยวน-ตี้-กวน" (中元地官) จึงเรียกวันนี้ว่า จง-หยวน-เจี๋ย (中元节)

ไหนๆเป็นวันเกิดทั้งที ท่านเทพเจ้าแห่งเมืองผีเลยใจดี อภัยโทษชั่วคราวแก่ผีทั้งหลาย พร้อมเปิดประตูเมืองผี ให้บรรดาผีไม่มีญาติได้มีโอกาสไป "เที่ยว" บนโลกมนุษย์ ยาวนานถึงหนึ่งเดือนเต็ม กลายเป็นวันหยุดยาวของบรรดาผีทั้งหลาย แล้วเกิดเป็นประเพณีเซ่นไหว้ผีไม่มีญาติขึ้น แยกต่างหากจากการเซ่นไหว้ผีบรรพชน

ส่วนทางฝ่ายพุทธ (มหายาน) ก็กำหนดให้วันนี้เป็นวัน "หวี-หลัน-ผึน (盂兰盆节) หรืออุลลัมพัน (ullambana) บอกเล่าเรื่องราวที่ภิกขุมู่เหลียน (目莲) บุกเมืองผีช่วยแม่ให้พ้นจากขุมนรก มาเป็นต้นเรื่อง กลายมาเป็นงานประเพณี ที่ชื่อว่า หวี-หลัน-ผึน-หุ้ย (盂兰盆会) ที่ชาวแต้จิ๋วในไทยเรียก หู่-หลั่ง-เส่ง-หวย (盂兰盛会-เสียงแต้จิ๋ว) โดยในงานจะมีพิธี "โพว-โต่ว-ซิ-โกว" (普度施孤) หรือที่เรารู้จักกันว่า งานประเพณีทิ้งกระจาด จุดประสงค์เดิม คือการแจกทานแก่ผีไม่มีญาติ เพื่อนำพาผีเหล่านี้ให้พ้นจากห้วงทุกข์ ต่อมาก็เลยแจกทานให้ทั้งผีทั้งคน (เน้นคนจน)

จากที่เล่ามา ชาวจีนมีการเซ่นไหว้ผีสองกลุ่ม คือกลุ่มผีไม่มีญาติ กับกลุ่มผีบรรพชนของตัวเอง ซึ่งก็เซ่นไหว้ต่างกัน มาเริ่มกันที่การเซ่นไหว้ผีไม่มีญาติกันก่อน

ชาวแต้จิ๋วเลี่ยงไม่เรียกผีไม่มีญาติทั้งหลายว่า กุ้ย (鬼) ที่แปลว่า ผี โดยตรง แต่เลี่ยงไปใช้คำที่มีความหมายดีกว่า เช่น โกวเอี๊ย (孤爷) อันเป็นการเรียกยกย่องเปรียบผีไม่มีญาติเหล่านี้ เป็นเจ้าใหญ่นายโต หรือ ฮอเฮียตี๋ (好兄弟) ซึ่งเป็นการเรียกที่แสดงความสนิทชิดเชื้อความเป็นกันเอง และความนับถือพวกเขาเสมือนพี่น้องเครือญาติ ดังนั้น จึงเรียกพิธีเซ่นไหว้ผีไม่มีญาติเหล่านี้ว่า "ไป้โกวเอี๊ย" (拜孤爷) หรือ"ไป้ฮอเฮียตี๋" (拜好兄弟)

การเซ่นไหว้ผีไม่มีญาติจะทำกันหลังเที่ยงวันไปแล้ว มีบ้างที่ไหว้หลังบ่ายสามโมงหรือหลังห้าโมงเย็น ต่างกันตามประเพณีของแต่ละถิ่น ชาวแต้จิ๋วในไทยมักไหว้ผีไม่มีญาติกันหลังเที่ยงวัน

ขนมโซวเกี้ยว หรือเกี๊ยวกรอบ (คล้ายกะหรี่ปับ) ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1
ขนมโซวเกี้ยว หรือเกี๊ยวกรอบ (คล้ายกะหรี่ปับ) ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1

ข้อสำคัญในพิธีเซ่นไหว้ คือไม่จัดโต๊ะไหว้ แค่ปูเสื่อปูผ้าวางอาหาร ผลไม้และของเซ่นไหว้ไว้บริเวณริมทางหน้าประตูบ้านนอกตัวอาคารก็พอ

เวลาไหว้ให้หันหน้าออกนอกอาคาร ไม่หันหน้าเข้าหาอาคาร เพื่อไม่เป็นการเชื้อเชิญผีไม่มีญาติเหล่านี้เข้าบ้าน

กระถางธูปให้ใช้กระป๋องหรือกระบอกไม้ไผ่ ใส่ข้าวสารไว้สัก 7 ส่วนทำเป็น "กระถางลอย" คือไม่ต้องเขียนชื่อใดๆติดไว้ คงตั้งลอยไว้อย่างนั้น ตั้งเทียนจีนไว้สองข้างกระถาง พร้อมกะละมังใบใหม่ใส่น้ำครึ่งหนึ่งและผ้าใหม่หนึ่งผืนไว้ให้ "ผี" ล้างหน้าล้างตา และล้างมือก่อนรับอาหารเครื่องเซ่นไหว้

เครื่องเซ่นไหว้ให้จัดอาหารปรุงจากเนื้อเป็ด เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา และผัก รวม 5 อย่าง ทำเป็นอาหารต่างๆราว 6-10-12 ชาม บ้างก็เพิ่มชุดเนื้อสัตว์ 3 อย่างที่เรียกว่า ซาแซ (三牲) มีห่าน (หรือเป็ดไก่) 1 ตัว เนื้อหมูต้มสุก 1 ชิ้น ปลานึ่งสุก 1 ตัว เหล้า 3-5-7-9-11 จอก น้ำชา 3 จอก ข้าวสวยตามจำนวนจอกเหล้า ขนมโก๋ ขนมเปี้ย ขนมโซวเกี้ยว (คล้ายกะหรี่ปับ) ขนมอิ่วจุ๋ง (คล้ายขนมกรอบเกลียว) เส้นหมี่ ข้าวของเครื่องใช้ชุดใหม่ ของแห้ง เช่น เครื่องกระป๋อง น้ำขวด น้ำอัดลม ข้าวสาร และอื่นๆ ที่ขาดไม่ได้คือ เฮียงหู่ (香腐) หรือเต้าหู้แข็ง นัยว่าเต้าหู้นี้เป็นเสมือนพาสปอร์ตวีซ่าใช้ผ่านประตูผีกลับไปเมืองผีได้

ขนมอิ่วจุ๋ง (คล้ายขนมกรอบเกลียว) ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1
ขนมอิ่วจุ๋ง (คล้ายขนมกรอบเกลียว) ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1

สำหรับผลไม้ เลือกใช้ผลไม้ต่างๆตามฤดูกาล ยกเว้นกล้วย ลูกไหน สาลี่ ฝรั่ง มังคุด น้อยหน่า มะเขือเทศ ที่เป็นผลไม้ต้องห้าม เหตุผลน่าจะมาจากชื่อจีนของผลไม้เหล่านี้ ที่ผู้ไหว้คิดว่าไม่เป็นมงคลหรือไม่อยากให้เกิดผลตามชื่อนั้นๆ จึงงดเสียไม่นำมาไหว้ เรื่องของต้องห้ามเหล่านี้แตกต่างกันไปตามประเพณีแต่ละท้องถิ่น จึงเกิดสสภาพที่ ผลไม้อย่างเดียวกัน จีนถิ่นนี้ห้ามนาเซ่นไหว้ แต่จีนถิ่นโน้น เอามาเซ่นไหว้ได้ คือไม่มีข้อห้ามร่วมกันชัดเจน

สิ่งที่ต้องเตรียมอีกรายการคือ กระดาษไหว้ ที่คนแต้จิ๋วเรียกว่า จั๋วจี๊ /จั๊วงึ่ง (纸钱/纸银) ซึ่งเมื่อไหว้เสร็จจะเผาส่งไปให้ผีไม่มีญาติเหล่านี้นำกลับไปใช้ยังเมืองผี ที่ต้องเตรียมมีเสียงึ้ง (小银) เป็นกระดาษติดเงินเปลวใบเล็ก

โกวอี (孤衣) คือกระดาษไหว้พิมพ์ลายหรือตัดพับเป็นรูปข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า หมวก เป็นต้น

อวงแซจั้ว (往生钱) เป็นกระดาษไหว้ที่พิมพ์บทสวดให้กลับชาติไปเกิดใหม่ สี่มุมพิมพ์คำว่า แดนสุขาวดีตามความเชื่อของพุทธมหายาน

กิมงึ้งไฉ่ป้อ (金银财宝) เป็นกระดาษไหว้ที่พับเป็นเงินก้อนบ้าง ทองแท่งบ้าง

การไหว้เริ่มจากจัดวางตะเกียบให้ครบตามจำนวนจอกเหล้าและชามข้าวสวย จุดเทียนจีน รินน้ำชา รินเหล้า จุดธูปตามจำนวนของเซ่นไหว้บวกเพิ่มอีก 3 ดอก ไหว้แล้วปักธูป 3 ดอกไว้ในกระถางลอย ธูปที่เหลือปักไว้บนของเซ่นไหว้ให้ครบทุกที่ จากนั้นเผากระดาษไหว้โกวอีก่อน เสมือนหนึ่งให้ผีได้ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนมากินของเซ่น พอธูปหมดไปครึ่งดอก ให้เผากระดาษไหว้ "เสียงึ้ง" และ"กิมงึ้งไฉ่ป้อ" เรียงลำดับจากใหญ่ไปเล็ก เผาเสร็จ เอาเหล้าที่เซ่นไหว้เทใส่เถ้ากระดาษไหว้ บ้างมีการโปรยข้าวสารโปรยเกลือไปตามทางเดิน เพื่อขับไล่ความโชคร้าย แล้วไหว้ลา เสร็จพิธี

ผลไม้และขนม ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1
ผลไม้และขนม ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1

พิธีไหว้บรรพชนก็ทำคล้ายคลึงกัน ต่างกันที่ต้องจัดโต๊ะวางของเซ่นไหว้ มีป้ายชื่อบรรพชน และกระถางไหว้ประจำตระกูล (ไม่ใช่กระถางลอย) จำนวนกับข้าวจะมี 6-8-12 ชาม เวลาไหว้ต้องเริ่มก่อนเที่ยงราว 11 โมงเช้า ในระหว่างไหว้ อาจทอดเวลาออกไปได้ไม่เกินบ่ายโมง ขั้นตอนการไหว้นั้นเหมือนกัน เพียงไม่ต้องปักธูปไว้บนของเซ่นไหว้ กระดาษไหว้ใช้เหมือนกัน แต่ให้เปลี่ยนใช้ตั่วงึ้ง (กระดาษเงินใหญ่) แทนเสียงึ้ง และเพิ่มกิมจั้ว ส่วนธนบัตรกงเต๊กและของมีค่าอื่นๆจะเพิ่มด้วยหรือไม่ก็ได้ พอธูปหมดไปครึ่งดอก ให้จุดธูปไหว้รอบสองและสาม พอธูปรอบสามหมดไปหนึ่งในสามดอก ให้ยกกระดาษไหว้ขึ้นลา การเผาก็ไล่ลำดับเริ่มจากเผาโกวอี กิมจั้ว ตั่วงึ้ง และกิมงึ้งไฉ่ป้อ จากใหญ่ไปหาเล็ก เทเหล้าใส่เถ้ากระดาษไหว้ เก็บของเซ่นไหว้ เสร็จพิธีไหว้บรรพชน

วัฒนธรรมในเรื่องผีของชาวจีนมากด้วยเนื้อหา คงไม่อาจสรุปเอาง่ายๆว่าเป็นเรื่องงมงาย มีเรื่องราวเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมหยั่งรากลึกอยู่ในนั้น สอนในเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วจากทั้งฝ่ายเต๋าและฝ่ายพุทธ รวมทั้งความกตัญญูรู้คุณจากคำสอนของขงจื๊อ ซึ่งมีบทบาทอย่างสำคัญยิ่งในการจรรโลงคุณธรรมของสังคมชุมชนชาวจีน และช่วยสร้างคนดีให้กับครอบครัว สังคมชาวจีน และบ้านเมืองโดยรวม

ดังนั้น เมื่อละเนื้อหาส่วนที่งมงายเสีย ประเพณีสารทจีนจึงเป็นประเพณีที่ดีงามที่สมควรได้รับการสืบทอดต่อๆไปตราบนานเท่านาน
#8102


ศึกฟุต.ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 เกมที่น่าสนใจ บาร์เซโลน่า ยกพลไปเยือน แอธเลติก บิลเบา ที่สนามซาน มาเมส

บาร์เซโลน่า ของกุนซือโรนัลด์ คูมัน เกมที่แล้วเปิดบ้านเอาชนะ รีล โซเซียดัด 4-2 เกมนี้นำทัพมาโดย 3 แนวรุก อองตวน กรีซมันน์, เมมฟิส เดปาย และมาร์ติน เบรธเวต ส่วน แอธ.บิลเบา เกมที่แล้วเจ๊า เอลเช่ 0-0 เกมนี้นำทัพโดย อินากี วิลเลียมส์, โออิฮาน ซาสเชต์ และอีเคร์ มูเนียอิน

รูปเกมในครึ่งแรกค่อนข้างสูสี โดยเป็นเจ้าถิ่นแอธ.บิลเบา ที่ถึงแม้ชื่อชั้นเป็นรอง แต่เป็นฝ่ายที่ทำเกมบุกได้ดีกว่า มีโอกาสลุ้นประตูได้หวาดเสียวมากกว่าเล็กน้อย แต่ยังทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลา 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง แอธ.บิลเบา ยังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นฝ่ายออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 50 จากจังหวะลูกเตะมุม อีเคร์ มูเนียอิน เปิดมาให้ อินิโก มาร์ติเนซ วิ่งมาโหม่งเต็มๆหัวเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 75 บาร์เซโลน่า ที่โหมบุกอยู่นาน ก็มาตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่เซร์กี โรแบร์โต จ่ายให้ เมมฟิส เดปาย หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนซัดเต็มข้อแสกหน้านายทวารเจ้าถิ่นเข้าไป เป็นประตูแรกในเกมอย่างเป็นทางการของเจ้าตัวในสีเสื้อ "อาซูลกราน่า"

น.90+2 บาร์เซโลน่า ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อเอริค การ์เซีย ตั้งใจเสียบ อินากี วิลเลียมส์ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

จบเกมการแข่งขัน 90 นาที บาร์เซโลน่า บุกไปเสมอกับ แอธเลติก บิลเบา 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม โดย "บาร์ซ่า" ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว มี 4 คะแนน จาก 2 นัด ส่วน "บิลเบา" มี 2 แต้มจาก 2 นัด

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แอธ.บิลเบา : ฆูเลน อากีร์เรซาบาลา (GK), อินิโก เลเก้, ดานี วิเวียน, อินิโก มาร์ติเนซ, มิเกล บาเลนเซียกา, อเล็กซ์ เบเรนเกอร์, ดานี การ์เซีย, อูไน เบนเซเดอร์, อีเคร์ มูเนียอิน, อินากี วิลเลียมส์, โออิฮาน ซาสเชต์

บาร์เซโลน่า: เนโต (GK), แซร์จินโญ เดสต์, เอริค การ์เซีย, เกราร์ด ปิเก, ยอร์ดี อัลบา, เซร์คิโอ บุสเกตส์, เฟรงกี เดอ ยอง, เปดรี, อองตวน กรีซมันน์, เมมฟิส เดปาย, มาร์ติน เบรธเวต
#8104


ศึกฟุต.กัลโช เซเรีย อา อิตาลี วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 เป็นการลงสนามนัดแรกของฤดูกาล 2021/22 "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ทีมแชมป์เก่า เปิดสตาดิโอ จูเซปเป เมียซซ่า รับการมาเยือนของ เจนัว

เกมนี้ ซิโมเน อินซากี กุนซือใหญ่อินเตอร์ มิลาน จัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย เอดิน เชโก กองหน้าป้ายแดง, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, อีวาน เปริซิช, สเตฟาโน เซนซี ขณะที่ เจนัว นำทัพโดย โกรัน ปานเดฟ, ยายาห์ คาลลอน และเอร์นานี

"งูใหญ่" เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม ได้ 2 ประตู จาก มิลาน สคริเนียร์ น.6 และฮาคาน ชัลฮาโนกลู น.14 ขึ้นนำทีมเยือนไป 2-0 อย่างรวดเร็ว และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง อินเตอร์ มิลาน ยังดาหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 74 ก็มาได้ประตูขยับนำ 3-0 จากจังหวะที่ เอดิน เชโก ยิงหน้ากรอบเขตโทษไปติดเซฟของนายทวารทีมเยือน .เด้งมาเข้าทาง นิโคโล บาเรลลา ไขว้มาให้ อาร์ตูโร่ วิดัล ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ซัดเข้าไป

น.87 พลพรรค "งูใหญ่" มาได้ประตูหนีห่างไปอีกเป็น 4-0 จากจังหวะที่ อาร์ตูโร วิดัล เปิด.มาให้ เอดิน เชโก หัวหอกตัวใหม่ของทีม โขกแสกหน้านายทวารทีมเยือนเข้าไป ถือเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในสีเสื้ออินเตอร์ มิลาน อีกด้วย 

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที แชมป์เก่า อินเตอร์ มิลาน เปิดบ้านไล่ต้อน เจนัว ไปแบบไม่ยากเย็น 4-0 ประเดิมสามคะแนนซีซั่นใหม่ได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
อินเตอร์ มิลาน : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช (GK), มัตเตโอ ดาเมียน, มิลาน สคริเนียร์, สเตฟาน เดอ ฟรายจ์, อเลสซานโดร บาสโตนี, อีวาน เปริซิช, นิโคโล บาเรลลา, มาร์เซโล โบรโซวิช, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, สเตฟาโน เซนซี, เอดิน เชโก

เจนัว : ซัลวาตอเร ซิริกู (GK), ดาวิเด บิราสชี, ซินโญ่ วานฮุสเดน, โดเมนิโก คริสซิโต, อันเดรีย คัมเบียโซ, มิลาน บาเดลจ์, นิโคโล โรเวลลา, สเตฟาโน สตูราโร่, เอร์นานี, โกรัน ปานเดฟ, ยายาห์ คาลลอน
#8109
รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอลการ์ดราคาส่ง
ราคาถูก ราคาเบา ราคาโรงงาน
มีเลขที่จดแจ้ง ได้มาตรฐาน 
ราคาเริ่มต้น 15 บาท/ชิ้น
สนใจติดต่อ  https://lin.ee/nXGuYwR
โทร. 0863754112
#8110
น้ำมันว่านเศรษฐีเรียกลาภ  ขวดละ 299 บาท


หุงจากว่านด้านเมตตา โชคลาภ 4 ชนิด ว่านรวยไม่เลิก ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนใน ว่านรางเงิน

พร้อมใส่ตะกรุดหัวใจพระสีวลีให้ทุกขวด ส่งเสริม เรื่องเมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ว่านเศรษฐีเรือนใน

เป็นว่านที่มีคุณทางเมตตามหานิยม มีโชคลาภและวาสนาทรัพย์สินเงินทองมากมาย

ว่านเศรษฐีเรือนนอก 

เป็นว่านให้ผลในทางคุ้มครองป้องกันภัย มีโชคลาภและฐานะเจริญรุ่งเรือง

ว่านรวยไม่เลิก

เป็นว่านให้ผล ในเรื่องความร่ำรวยตลอดไปเหมือนชื่อต้น มีโชคลาภ

ว่านรางเงิน 

เป็นว่านะดีเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม และโชคลาภ 

คาถาบูชา

ตั้ง นะโม 3 จบ

สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ

(ท่องคาถาแล้วอธิษฐาน)

ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://www.lazada.co.th/products/-i792070635-s1584866736.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store

#8114


นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจอาหารแช่แข็งและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU  เปิดเผยว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM  ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่ม TU คาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2564 โดยมี บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ "ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์"   จะเสนอขาย IPO จำนวน 109.3 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90.0 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย TU จำนวน 19.3 ล้านหุ้น รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 21.9% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โดยจะนำเงินระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซียและปากีสถาน ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต

สำหรับเป้าหมายนำ "ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์" เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดการเติบโต 3-5  ปีข้างหน้าอย่างโดดเด่นและตลาดจะเริ่มพลิกฟื้นจากสถานการณ์โควิด  โดยจะเน้นการขยายในภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพการเติบโตได้อีกมาก ประกอบกับการมองหาการลงทุนรูปแบบ M&A ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอาหารสัตว์ ที่สร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต 

โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซียและปากีสถาน ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต 

สำหรับผลการดำเนินธุรกิจในปีนี้ นายฤทธิรงค์ มั่นใจว่า "ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์"ยังมีกำไรเติบโตได้สองหลัก แม้ในปีนี้มีแรงกดดันจากปัจจัยโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการบริโภคอาหารสัตว์ ทำให้ยอดขายอาหารสัตว์น้ำยังมีการชะลอตัวอยู่ ซึ่งกลุ่มอาหารสัตว์น้ำเป็นกลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดของ TFM ที่ 90% ประกอบกับ ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งกระทบต้นทุนการผลิตของอาหารสัตว์ แต่บริษัทยังไม่ได้ปรับขึ้นราคาสินค้าอาหารสัตว์บางรายการ เพื่อช่วยลดผลกระทบของลูกค้า


โดยปัจจัยดังกล่าวกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรในปี 2564 บ้าง แต่ภาพรวมของผลการดำเนินงานในปีนี้ ถือเป็นจุดต่ำที่สุดก่อนจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในช่วงปี 2565 เป็นต้นไป  ดังนั้นการเข้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงนี้ยังเป็นโอกาส รับการเติบโตอย่างมีศักยภาพใน 3 ปีข้างหน้า หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายลง และทำให้การบริโภคสัตว์น้ำกลับมาฟื้นตัว และราคาสัตว์น้ำจะเริ่มกลับมาดีขึ้น โดยคาดว่าจะเห็นยอดขายฟื้นตัวขึ้นสูงกว่าจากปี 2564 ที่มียอดขายทรงตัวที่ 4-5 พันล้านบาท

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมประมงที่สำคัญของโลก จากปริมาณผลผลิตสัตว์น้ำที่มีเพียงพอสำหรับส่งออกไปยังตลาดสำคัญทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เป็นต้น โดยผลผลิตสัตว์น้ำที่มีการส่งออกสูง ได้แก่ กุ้งสดแช่เย็น กุ้งสดแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์กุ้ง ส่งผลให้ประเทศไทยมีปริมาณการผลิตกุ้งเป็นอันดับ 6 ของโลกในปี 2563

ขณะที่แหล่งที่มาของผลผลิตสัตว์น้ำในประเทศมาจาก 2 แหล่งที่สำคัญ คือ การจับสัตว์น้ำจากแหล่งธรรมชาติ และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีการนำเข้าสัตว์น้ำบางประเภทเพื่อนำมาแปรรูปและส่งออก โดยข้อมูลประมาณการของกลุ่มวิจัยและวิเคราะห์สถิติการประมงฯ ประเมินผลผลิตสัตว์น้ำของประเทศไทยในปี 63 ทั้งสิ้นกว่า 3,498,137 ตัน แบ่งเป็นผลผลิตที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ 2,553,101 ตัน และมาจากการเพาะเลี้ยงประมาณ 945,036 ตัน

สำหรับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำมักจะประกอบไปด้วยหลากหลายภาคธุรกิจที่เชื่อมโยงกัน เริ่มตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำ ได้แก่ ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์น้ำ สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบให้กับธุรกิจเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ธุรกิจกลางน้ำ ได้แก่ ธุรกิจเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและธุรกิจประมง ซึ่งเป็นผู้จัดหาผลผลิตสัตว์น้ำนำส่งให้แก่ธุรกิจแปรรูปอาหารทะเล และธุรกิจปลายน้ำ เพื่อแปรรูปและเพิ่มมูลค่าอาหารทะเลสดให้อยู่ในรูปแบบที่พร้อมจำหน่ายและส่งออกไปยังตลาดหลักต่างๆ ของโลก

"ทุกธุรกิจที่กล่าวมานั้นล้วนเกี่ยวโยงกันในรูปแบบของ ซัพพายเชน ซึ่งกลุ่ม TU ให้ความสำคัญมากที่สุด เพื่อเสริมความมั่นคงให้กับ ฟู้ดซับพายเชน  แก่อุตสาหกรรมอาหารในภูมิภาคเอเชีย"

นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ 3 แนวทางเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ประกอบด้วย การรักษาและพัฒนาความเป็นผู้นำการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศ ผ่านความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงสนับสนุนการเติบโตของลูกค้าฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรายเดิมและลูกรายใหม่ โดยเข้าไปศึกษาข้อมูลช่วยแก้ไขปัญหา หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างเหมาะสม การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ ผ่านการลงทุนและจัดหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นผู้นำธุรกิจอาหารสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน และขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโต เริ่มจากประเทศอินเดีย ไปยังปากีสถาน และอินโดนีเซีย เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตอาหารสัตว์เศรษฐกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคเอเชีย

บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เศรษฐกิจและผู้นำในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ โดยมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมานานกว่า 20 ปี สั่งสมองค์ความรู้รวมถึงมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตสินค้า ปัจจุบันมีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ได้แก่ โปรฟีด (PROFEED) นานามิ (NANAMI) อีโก้ฟีด (EGOFEED) แอคควาฟีด (AQUAFEED) และดี-โกรว์ (D-GROW) เป็นต้น แบ่งเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่

– อาหารกุ้ง มีส่วนแบ่งการตลาด 17% ของปริมาณอาหารกุ้งในไทยปี 63 และมีสัดส่วนรายได้จากการขายอาหารกุ้งในไตรมาส 1/64 ที่ 43.3%

– อาหารปลา (รวมอาหารกบและอาหารปู) แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ อาหารปลาทะเล เช่น อาหารปลากะพง ปลาเก๋า, อาหารปลาน้ำจืด เช่น อาหารปลานิล ปลาดุก, อาหารสัตว์น้ำวัยอ่อน สำหรับการอนุบาลลูกปลา และอาหารกบ โดย TFM เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำในกลุ่มตลาดอาหารปลากระพง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาและอัตรากำไรค่อนข้างสูงกว่าอาหารปลาประเภทอื่นๆ ส่วนแบ่งการตลาดอาหารปลากะพง 24% ของปริมาณอาหารปลากระพงไทย ในปี 63 และมีสัดส่วนรายได้จากการขายอาหารปลา ณ ไตรมาส 1/64 ที่ 41.4%

– อาหารสัตว์บก แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อาหารสุกร และอาหารสัตว์ปีก ได้แก่ อาหารไก่ อาหารเป็ด และอาหารนกกระทา โดยบริษัทเริ่มขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์บกปลายปี 61 และปริมาณการขายอาหารสัตว์บกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นที่น่าพอใจ โดยมีสัดส่วนรายได้ ณ ไตรมาส 1/64 ที่ 10.5%

บริษัทมีกำลังการผลิตอาหารสัตว์รวมทั้งหมด 288,000 ตัน/ปี แบ่งเป็นกำลังการผลิตอาหารกุ้ง 168,000 ตัน/ปี กำลังการผลิตอาหารปลา 90,000 ตัน/ปี และกำลังการผลิตอาหารสัตว์บก 30,000 ตัน/ปี ภายใต้ระบบการผลิตที่ทันสมัยทั้งแบบอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติที่ควบคุมและสั่งงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ สามารถแสดงคุณสมบัติและคุณภาพของสินค้าแต่ละขั้นตอนการผลิตที่สำคัญทั้งหมดในโรงงานจังหวัดสมุทรสาครและสงขลา จึงทำให้สามารถติดตามข้อมูลในระหว่างกระบวนการผลิตได้ทันที

"เรามีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงมีศักยภาพเติบโตจากตลาดในประเทศ ผ่านการขยายธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ อาหารสัตว์ประเภทอื่นๆ และตลาดต่างประเทศผ่านแนวทางต่างๆ เช่น การเข้าทำสัญญาความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น การเข้าจัดตั้งฐานการผลิตในต่างประเทศกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งเน้นขยายโอกาสไปสู่ประเทศที่มีการเติบโตสูง ทั้งอินเดียและอินโดนีเซีย เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต"