• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Beer625

#3341


นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ(กพศ.)ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ซึ่งประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

 โดยมีสาระสำคัญ คือ กพศ.ได้มีมติเห็นชอบในหลักการการกำหนดพื้นที่และแนวทางการให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี และหนองคาย, ภาคกลาง-ตะวันตกได้แก่ พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี และภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการด้านสิทธิประโยชน์ กำหนดพื้นที่ และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ พิจารณากำหนดขอบเขตพื้นที่ของแต่ละระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ กิจการเป้าหมาย และสิทธิประโยชน์ แล้วนำเสนอกพศ.ต่อไป

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้จังหวัดที่อยู่ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษของทั้ง 4 ภาค ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีเขตเศรษฐกิจพิเศษ พิจารณาจัดตั้งกลไกการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ เพื่อประสานการขับเคลื่อนการพัฒนาให้เป็นไปตามนโยบายของกพศ.ต่อไป

นอกจากนี้กพศ.ยังได้พิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ 10 แห่ง ได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก สงขลา สระแก้ว ตราด หนองคาย นครพนม มุกดาหาร เชียงราย กาญจนบุรี และนราธิวาส โดยแนวทางการดำเนินงานจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาและเชื่อมโยงฐานการผลิตและบริการกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศ การจูงใจให้เกิดการลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและการบริหารจัดการแรงงานและผู้ประกอบการ โดยจะจัดตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อดำเนินการในด้านต่างๆ เช่น ด้านสิทธิประโยชน์ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น 

ที่ประชุมกพศ. ได้เห็นชอบให้เทศบาลตำบลสำนักขาม ใช้พื้นที่ประมาณ 19 ไร่ ในที่ราชพัสดุในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลาของแปลงที่จะจัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)เช่า(แปลงที่ 2) เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงโครงการนิคมอุตสาหกรรมสงขลากับด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2 พร้อมทั้งเห็นชอบให้เปิดประมูลสรรหาผู้ได้รับสิทธิพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก และมอบหมายให้กรมธนารักษ์ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
#3343



นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า บทบาทหน้าที่หลักของดีพร้อม คือ การเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพภาคการผลิตให้อุตสาหกรรมไทย โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ดีพร้อมได้เร่งดำเนินการ คือ การบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน โดยมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพสถานประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายให้ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล รวมทั้งสถานประกอบการที่มีต้นทุนด้านโลจิสติกส์ค่อนข้างสูง จะต้องลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ทั้งในด้านการจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการคลังสินค้า การจัดการการขนส่ง และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งหมด


จากแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ดีพร้อมจึงได้เดินหน้าเร่งผลักดันโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจโดยมีเป้าหมายในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดรวมถึงการเพิ่มความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันขององค์กร การพัฒนาระบบมาตรฐานด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานให้เข้าสู่ระบบมาตรฐานสากลของโลก เพื่อให้มีศักยภาพและได้ผลสัมฤทธิ์ต่อการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ รวมไปถึงการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ

ซึ่งต้นทุนโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก 1. ต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง (Inventory Holding Cost) ได้แก่ ต้นทุนการถือครองสินค้าคงคลัง (Inventory Carrying Cost) และต้นทุนการบริหารคลังสินค้า (Warehousing Cost) 2. ต้นทุนการขนส่งสินค้า (Transportation Cost) และ 3. ต้นทุนการบริหารจัดการ (Administration Cost) นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสำหรับสถานประกอบการใน 3 มิติหลัก ๆ คือ ต้นทุน เวลา และความน่าเชื่อถือ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินธุรกิจ


ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญของโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 5 กิจกรรมหลัก คือ 1. กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อการลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 2. กิจกรรมพลิกธุรกิจด้วยโลจิสติกส์กับการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ (Business Rebirth by Logistics (BRL))  3. กิจกรรมเสริมสร้างความร่วมมือด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ดำเนินการโดยการ Coaching การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง (Supply Chain Network) และสร้างความร่วมมือในโซ่อุปทานทั้งภายในและภายนอกกลุ่มอุตสาหกรรม 4. กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) สัญจรขยายผลความรู้ด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานภาคอุตสาหกรรมสู่ภูมิภาค 5. กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน โดยการอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับบุคลากร

"ดีพร้อมตั้งเป้าในการดำเนินงานในปี 2564 คือการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการลดลงคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาทซึ่งสถานประกอบการเป้าหมายในปี 2564 อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนโลจิสติกส์สูง ประกอบด้วย อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและพลาสติก ยานยนต์และชิ้นส่วน ยางพาราและผลิตภัณฑ์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และสถานประกอบการ เช่น เกษตรแปรรูป และเครื่องจักรกลรวมถึงดำเนินการพัฒนาสถานประกอบการไม่ต่ำกว่า 170 กิจการ และพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมให้มีทักษะและองค์ความรู้ด้านจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานที่นำไปใช้ได้จริงไม่ต่ำกว่า จำนวน 100 ราย" ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
#3344



เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่บ้านเลขที่ 289 หมู่ 7 ต.สำพนตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านนับสิบแห่กันทำขันธ์ห้าขอเลขเด็ดจากเต่ายักษ์ โดยชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานาว่า เป็นเต่านำโชคมาให้ โดยอาจารย์เดช แก้วจันทร์ เป็นคนนำชาวบ้าน ทำขันธ์ห้าขอเลขเด็ดจากเต่าที่เข้ามาที่บ้านเลขที่ 289 เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้  ( 26 ก.ค.)


สำหรับเต่ายักษ์ตัวนี้ ทางเจ้าของบ้านเมื่อเห็นครั้งแรก รู้สึกตกใจและนำไปใส่กะละมังไว้ จากนั้นเข้าไปนอนต่อและก็ฝันเห็นช้างเข้ามาในบ้านรุ่งเช้าจึงบอกเพื่อนบ้านว่า เมื่อคืนมีเต่าตัวใหญ่เข้ามาในบ้าน ได้จับใส่กะละมังไว้หลังบ้าน หลังจากที่ทุกคนรู้ว่ามีเต่าใหญ่เข้ามาในบ้านหลังนี้  จึงต่างแห่กันมาดู เพราะคิดว่าต้องเป็นเต่านำโชคลาภมาให้ จึงทำขันธ์ 5 มาขอขมา และขอเลขเด็ดก่อนทำพิธีหลายคนนำโทรศัพท์มือถือ มาถ่ายรูปเต่าเพื่อขอเลขเด็ดบนกระดองเต่า และใต้ท้องเต่าเพื่อเสี่ยงโชคในวันหวยออกงวดวันที่ 1 ส.ค. สำหรับเลขที่ชาวบ้านนำไปซื้อ บางคนเห็นตัวเลขบนกระดองเต่าเป็นเลข 85 นอกจากนี้ยังนำเลขที่บ้านไปซื้อ


ด้านนางขวัญจิตร์  มิลลิเชียรรัตน์ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ ( 26 ก.ค.)ได้ยินเสียงหมาเห่าอยู่หลังบ้านจึงออกมาส่องไฟดูที่ลานบ้านเห็นอะไรบางอย่างดำๆ อยู่ตรงหน้าเมื่อเพ่งตามองดูจึงรู้ว่าเป็นเต่าขนาดใหญ่ตามตัวเต็มไปด้วยต้นข้าวติดเต็มตัว จึงขึ้นมาแล้วปัดเศษต้นข้าวออกจากตามตัว แล้วนำมาใส่กะละมังขังไว้ในครัว จากนั้นก็เข้าไปนอนต่อ เพราะยังไม่สว่างและได้ฝันเห็นช้างเข้ามาในบ้าน หลังจากสว่างแล้วจึงบอกญาติและเพื่อนบ้านให้รู้ว่ามีเต่ามาอยู่ในบ้านทุกคนจึงพากันมาดู และขอเลขเด็ดจากเต่า ซึ่งเป็นความเชื่อว่าจะมีตัวเลขอยู่บนกระดอง และใต้ท้องของเต่าบางคนบอกว่าอยากจะรู้ว่าเต่าตัวนี้จะมีน้ำหนักกี่กิโลจึงเอากิโลมาชั่งดูน้ำหนักเต่ามีน้ำหนัก 6 กิโล 7 ขีด และนำไปซื้อหวย.
#3345


"อีอีซี"เปิดเวทีเสวนาระดมความคิดจากกูรูด้านเศรษฐกิจระดับตำนานชั้นแนวหน้าไทย และบิ๊กเอกชน ร่วมถอดแนวคิด "อีสเทิร์นซีบอร์ด"ต่อยอดสู่ความสำเร็จ "อีอีซี"กับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษระดับโลก หวังดันการลงทุนปีละ 6 แสนล้านบาท หนุนไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2572

เมื่อเร็วๆนี้สำนักงำนคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ "จาก ESB สู่ EEC กับ การเป็นเขตพัฒนาพิเศษ ระดับโลก" ในรูปแบบออนไลน์ (VDO conference) นำโดย ดร.เสนาะ อูนากูล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร.อาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร. ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธามูลนิธิเสนาะอูนากูล และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

โดยมีกลุ่มผู้บริหารระดับสูง จากภาคเอกชน นักธุรกิจชั้นนำใน เมืองไทย เช่น นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธาน คณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BDMS นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังการเสวนามากกว่า 70 คน

การจัดเสวนา ฯ ครั้งนี้ ฉายภาพแนวคิดของการพัฒนาโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ "อีสเทิร์นซีบอร์ด" (ESB) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525 – 2529) ซึ่งเป็นช่วงการพัฒนาประเทศที่สำคัญของไทย โดยผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในสมัยนั้น และได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยในช่วงกว่า 30 ปีก่อนเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีความต่อเนื่องมายังแผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 6 และฉบับที่ 7 ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 9.3%

ซึ่งแนวคิดจากแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 5 ดังกล่าว จะเป็นต้นแบบสำคัญเพื่อเตรียมการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ซึ่งพบผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและเกิดวิกฤตเศรษฐกิจใกล้เคียงกับในอดีต

นอกจากนี้ การพัฒนาพื้นที่ อีอีซี ในปัจจุบัน ยังได้นำแนวคิด และต่อยอดเพิ่มสิ่งที่ได้รับจากอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่สำคัญ ๆ เช่น แนวคิดให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง ด้วยการมี พ.ร.บ. และสำนักงานอีอีซี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ สนามบินอู่ตะเภา ขยายท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง รถไฟความเร็วสูง ลดการพึ่งพางบประมาณรัฐและเงินกู้ ด้วยสัญญา PPP ที่โปร่งใส รัดกุม และรัฐได้ประโยชน์สูงสุด การส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น 5G ระบบโซลาร์เซลล์ ยานยนต์ไฟฟ้า และการสร้างงานให้เยาวชนในพื้นที่
มีรายได้ดี รวมทั้ง ทำงานกับท้องถิ่น กลุ่มสตรี เยาวชน เพื่อให้โครงการอีอีซีอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน


พร้อมกันนี้ อีอีซีจะปรับแผนทำงานให้หนักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อชดเชยส่วนที่หายไปจากโควิด ทั้งนี้ จากการประมาณการ พบว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนอีกปีละ 6 แสนล้านบาท เพื่อดึงเศรษฐกิจให้ขยายตัว 4.5 – 5% ให้ไทยก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาได้ในปี 2572

สำหรับการเสวนาดังกล่าว ภาคเอกชน และนักธุรกิจชั้นนำ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นตรงกันว่า มีความจำเป็นต้องร่วมขับเคลื่อนอีอีซี ให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ และการลงทุนในอุตสาหกรรมนวัตกรรมขั้นสูง ที่ อีอีซี พร้อมดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะยาว


ทั้งนี้การสรุปข้อมูล และการถอดบทเรียนที่ได้รับจากการเสวนาฯ ในครั้งนี้ สกพอ. จะได้นำข้อมูล ชุดความรู้ที่ได้รับประกอบการจัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์เขตพัฒนาพิเศษชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกประเทศไทย (EEC Learning Center /EEC Museum) และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ซึ่งจะเป็นศูนย์การเรียนรู้สำคัญ ของการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก และพร้อมจะเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักลงทุนรุ่นใหม่ และผู้ที่สนใจได้ศึกษาถึงความเป็นมาของ อีสเทิร์นซีบอร์ด และการพัฒนาอีอีซี ที่จะเป็นต้นแบบของการพัฒนาประเทศ ต่อไป
#3346



ธอส.เผยผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 สินเชื่อคงค้างรวม1,375,663 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม ตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรับผลกระทบจาก COVID-19 จำนวน 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 ล่าสุดมีลูกค้าได้รับความช่วยเหลือผ่านทั้ง 18 มาตรการของ ธอส. ตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบันเป็นจำนวนรวมสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ว่า แม้ประเทศไทยจะยังคงอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชน แต่ ธอส. ยังคงสามารถทำหน้าที่ตามพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง



โดยณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นเกือบ 50% ของเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2564 ที่ 215,641 ล้านบาท สินเชื่อ 6 เดือนแรกที่ปล่อยไปเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางจำนวน 50,183 บัญชี ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,375,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.17% สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.46% เงินฝากรวม 1,205,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 59,268 ล้านบาท คิดเป็น 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2563 ที่มี NPL อยู่ที่ 3.75% ของสินเชื่อรวม โดยมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% เพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบจาก COVID-19 ในอนาคต โดยธนาคารยังคงมีกำไรสุทธิตามเป้าหมายตัวชี้วัดของธนาคารที่ 5,993 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ในระดับแข็งแกร่งที่ 15.63% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนด



ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง คือ มาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคาร และการจัดโปรโมชั่นของผู้ประกอบการ ช่วยให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มีบ้านเป็นของตนเองและครอบครัวได้ง่ายขึ้น โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ ธอส. ที่มีลูกค้าเลือกใช้บริการสูงสุด 3 ลำดับแรกคือ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.75% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสมสูงถึง 23,620 ล้านบาท รองลงมาคือสินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.60% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,998 ล้านบาท และโครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,215 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ผ่านโครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ผ่าน 2 มาตรการเร่งด่วนล่าสุดที่บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ ลูกค้าทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการทั้งในและนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ มาตรการที่ 15 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ และมาตรการ 16 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะ NPL หรืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ จะได้รับความช่วยเหลือโดยการพักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-31 ตุลาคม 2564 เปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ล่าสุด ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น. มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 15 จำนวนเงินต้นคงเหลือ 48,880 ล้านบาท และมาตรการที่ 16 จำนวน 2,485 ล้านบาท ทำให้นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ธอส. สามารถช่วยเหลือลูกค้าผ่าน 18 มาตรการ รวมเป็นจำนวนสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท

โดยมาตรการที่ 15 และ 16 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ส่วนลูกค้าที่ต้องการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อขอขยายระยะเวลาความช่วยเหลือตามมาตรการที่ 9,10,11 และ 11 New Entry : แบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดต้น ตัดดอก) มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน และมาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ย ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564

ทั้งนี้นอกจากความช่วยเหลือในมาตรการด้านการเงิน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือสังคมไทยสู้ภัยโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ด้วยงบประมาณสนับสนุนรวมกว่า 5,000,000 บาท ให้กับหลายหน่วยงานที่ทั้งสถานพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน เป็นต้น เพื่อนำไปดำเนินการในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็น อาทิ การจัดสร้างหอผู้ป่วยไอซียูความดันลบแบบห้องแยกที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยวิกฤตที่มีอาการรุนแรง การจัดซื้อเครื่องฮีโมเปอร์ฟิวชั่นใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 การจัดสร้างไอซียูสนาม การจัดหาเก้าอี้นั่งจุดพักคอย น้ำดื่มธนาคารกว่า 100,000 ขวด รวมถึงหน้ากากอนามัยพร้อมสายคล้อง ถุงยังชีพ และอาหารกล่อง สอดคล้องกับนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ด้วยความห่วงใยและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

 
#3347
 5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มือาชีพ


ประกาศๆ แจ้งให้ทราบ ถ้าคุณเป็นแบบนี้อยู่
ไม่มีประสบการณ์เลย
วิกฤตธุรกิจไปต่อไม่ได้
อายุเยอะแล้วกลัวเรียนไม่ทัน
อยากขายออนไลน์เป็น แต่ไม่มีคนสอน
เอาความรู้ไปต่อยอด

>>> 97 บาท <<<
ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ตอนนี้!!!
เพราะเราออกแบบคอร์สนี้
มาให้สำหรับท่านแล้ว
____________________________
5 วัน 5 วิชา
ที่สามารถพาคุณไปเจอกับโลกใบใหม่
เรียนผ่านมือถือเครื่องเดียว
วัยไหนก็เรียนได้
ปรึกษาได้ตลอด
ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันที่ 1 การปรับหน้าโปรไฟล์
วันที่ 2 การสร้างวีดีโอ / รูปให้ดูน่าสนใจ
วันที่ 3 การสร้าง Content
วันที่ 4 การสร้างเพจมืออาชีพ
วันที่ 5 สอนยิงตรงกลุ่ม ยิงถูก ปิดยอดเก่ง
พร้อมวิธีหากลุ่มเป้าหมายแบบตรงเป๊ะ
.
เรียนจบครบทั้ง 5 วัน รับวุฒิบัตรได้ด้วย
ทั้งหมดนี้
เราเก็บค่าคอร์สกับคุณเพียง 97 บาท
ย้ำ!!คุณดูไม่ผิดหรอก 97 บาท
จากราคาปกติ 7,990 บาท
.
จำนวนจำกัด
สิทธิ์ 97 เฉพาะ 100 ท่าน
.
ขอท่านที่สนใจเรียนจริงๆ
เพราะเราก็ตั้งใจสอนให้ท่านจริงๆเช่นกันสนใจติดต่อ โค้ชเอก

โทร 0846623662

line id คลิก : teerapat999
facebook คลิก https://www.facebook.com/teerapat992018
website http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1228
รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99.iconsalepage.com/
#3348
ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า ผลิตและก็จำหน่ายลูกชิ้นภายในจังหวัดพิษณุโลกมานานกว่า 50 ปี เป็นลูกชิ้นหมูและ ลูกชิ้นเนื้อวัว เป็นธุรกิจ รุ่นสู่รุ่น ที่ นาย ย้งจุ้ย แซ่โต๋ว นำสูตรจากเมืองโผวเล้ง ประเทศจีน มาทำลูกชิ้นขายที่เมืองพิษณุโลกจนเป็นที่รู้จัก ของเมืองพิษณุโลกเป็นอย่างดี โดยนำวัตถุดิบท้องถิ่น มาแปรรูปด้วยสูตรดั้งเดิม จนมาเป็นสินค้าที่ชาวพิษณุโลกยอมรับในเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มไม่เป็นแป้ง แล้วก็รสชาติที่ดี ก็เลยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทางด้านเนื้อสัมผัส และก็รสชาติที่กลมกล่อมละมุน ใช้เนื้อสัตว์ที่สดใหม่ จึงเป็นที่มาของ สด ใหม่ ดั่งเดิม เมืองพิษณุโลก



 ลูกชิ้นหมูทอด ลูกชิ้นเนื้อทอด สูตรสำหรับทอด มีส่วนผสมเนื้อหมูแท้ๆเนื้อวัวแท้ๆกว่า 95% กรอบ นุ่ม ไม่เป็นแป้ง ไร้สารเจือปน ไร้สารบอแร็กซ์ สินค้า OTOP มีมาตรฐาน อย. มผช. สด ใหม่ดั้งเดิมเมืองสองแคว เจ้าตำรับสูตรโบราณ 50 ปี สามารถทอดโดยใช้ กระทะไร้น้ำมัน ลูกชิ้นหมูปิ้ง/ลวก ลูกชิ้นเนื้อปิ้ง/ลวก สูตรสำหรับปิ้ง/ลวก ต้มใส่ในกวยเตี๋ยว มีส่วนผสมเนื้อหมูแท้ๆเนื้อวัวแท้ๆ100% นุ่ม ไม่เป็นแป้ง โปรตีนสูง ไขมันต่ำ ไม่มีสารเจือปน ไม่มีสารบอแร็กซ์ สินค้า OTOP มีมาตรฐาน อย. มผช. สด ใหม่ดั้งเดิมเมืองสองแคว ต้นตำรับสูตรโบราณ 50 ปี





น้ำจิ้มลูกชิ้นสมุนไพร สูตรมะขาม ใช้สมุนไพรและวัตถุดิบในท้องถิ่น มีรสชาติ เปรี้ยวหวาน กลมกล่อม ไม่เหมือนใคร นอกจากจะนำไปจิ้มกับเนื้อสัตว์ได้ทุกชนิด ยังสามารถนำไปทำเป็นซอสผัดไทยได้อร่อยกลมกล่อมละมุนละไม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อีกด้วย



 แฟรนไชส์ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า แฟรนไชส์ลูกชิ้นดังเมืองสองแคว ทุนน้อย ก็สามารถทำธุรกิจได้ แฟรนไชส์ลูกชิ้นขายง่าย ขายดี กำไรดี คืนทุนเร็ว โรงงานของลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า มีการผลิตโดยใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐาน ความปลอดภัย ความสะอาด และก็ ถูกหลักอนามัย โรงงานลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า ได้รับการรับรองเป็นโรงงานที่เป็นไปตามมาตรฐานจาก GMP Codex
#3349
App "มีตังค์" ทำจริงจัง ก็ได้เงินจริงนะ ไม่จกตา สร้างรายได้หลักแสน หลักล้าน อย่างง่าย ๆ 

 App "มีตังค์" คือ ธุรกิจที่ใช่ ในยุค COVID ครองเมือง
 ระบบ Content Builder System 
ที่ทำทุกอย่างผ่าน Social บนมือถือเพียงเครื่องเดียว
เปลี่ยนใจสมัครกับเราตอนนี้

 ธุรกิจ New Platform(แฟลตฟอร์มใหม่) 
ที่ลงทุนด้วยเงิน 2,699 ครั้งเดียวผ่าน App เก็บเกี่ยวได้ตลอดชีวิต
รับเฉพาะคนที่เอาจริง พร้อมทำเท่านั้น

ไม่พร้อมห้ามกดเข้านะ
[2699฿ ครั้งเดียวกับการทำธุรกิจAppมีตังค์]

สอบถามเพิ่มเติม
ไลน์ไอดี teerapat999
โทร 0846623662

ลงทะเบียนฟรีเพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้ในกลุ่มปิดเปิดเผยชัดเจน
https://www.metang-solution.com/member/register.php...

รายละเอียดเพิ่มเติม https://web.facebook.com/richbyteerapat
#3350


เฮนรี่ ชิน หัวหน้าฝ่าย Investor Thought Leadership และหัวหน้าแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี เอเชียแปซิฟิก ซีบีอาร์อี เปิดเผยผลการสำรวจตลาดพื้นที่สำนักงานในย่านเอเชียแปซิฟิกปี 2564 พบว่า บริษัทที่เป็นผู้เช่าพื้นที่สำนักงานยังคงวางแผนจะขยายพื้นที่สำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้นในระยะยาว พร้อมกับเพิ่มความยืดหยุ่นและการทำงานแบบผสมผสานในรูปแบบใหม่ (Hybrid Working)มาใช้ โดยกลุ่มผู้เช่าในทุกธุรกิจประมาณ 50% ของผู้ตอบแบบสำรวจได้ส่งสัญญาณที่จะเพิ่มพื้นที่สำนักงานในพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ในอีก 3 ปีข้างหน้าจาก 23% ในเดือนต.ค. 2563

โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทในเอเชีย อาทิ กลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยี และบริษัทด้านการลงทุนและประกันภัยบางแห่ง มีความต้องการขายพื้นที่ออฟฟิศสูง เช่นเดียวกับบริษัทข้ามชาติและการควบรวมสาขาต่างๆ ที่ต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น


ส่วนปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทต่างๆขยายพื้นที่เช่าเพิ่ม คือ ความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญทั่วทั้งภูมิภาค โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 71% เชื่อว่าสภาวะตลาดในปัจจุบันกำลังดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ตอบแบบสำรวจในจีนและแปซิฟิกมีระดับความเชื่อมั่นสูงสุด ขณะที่อินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย มีความเชื่อมั่นน้อยสุด

เนื่องจากอัตราการติดเชื้อโควิด-19ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ แต่การฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นทั่วภูมิภาคจะทำให้ความเชื่อมั่นของบริษัทต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และพร้อมจะให้พนักงานกลับมาทำงานในสำนักงานมากกว่าทำงานจากที่บ้านทำให้การทำงานแบบไฮบริดจะกลายเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ได้เริ่มกำหนดนโยบายการทำงานนอกสำนักงาน โดยขึ้นอยู่กับแนวทางปฏิบัติหรือการอนุมัติของแต่ละบริษัท ทำให้หัวหน้างานสามารถกำหนดตารางการทำงานของทีมงานและความเหมาะสมในการทำงานนอกสำนักงานได้


นางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ หัวหน้าแผนกพื้นที่สำนักงาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทย การทดลองทำงานนอกสำนักงานในช่วงล็อกดาวน์ได้ก่อให้เกิดผลที่น่าพึงพอใจ ทำให้หลายบริษัทตั้งใจที่จะอนุญาตให้พนักงานทำงานนอกสำนักงานได้ ในทางกลับกัน ก็เป็นการกระตุ้นให้มีการหันกลับมาประเมินกลยุทธ์ด้านกำลังคนใหม่ และให้ความสำคัญกับเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่สำนักงาน แต่แทนที่จะลดทอนความต้องการพื้นที่สำนักงานอันเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่าจะมีการทำงานนอกสำนักงานมากขึ้น

"เชื่อว่าผู้เช่าจะยังคงต้องการสำนักงาน โดยที่สำนักงานได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้มีการจัดพื้นที่ทำงานมีความหลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรูปแบบการทำงานของพนักงานที่แตกต่างกัน และทำให้สถานที่ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสนับสนุนการทำงานร่วมกัน การทำงานเป็นทีม การมีส่วนร่วมของพนักงาน และนวัตกรรมที่นำมาใช้"
#3351
 5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มือาชีพ


ประกาศๆ แจ้งให้ทราบ ถ้าคุณเป็นแบบนี้อยู่
ไม่มีประสบการณ์เลย
วิกฤตธุรกิจไปต่อไม่ได้
อายุเยอะแล้วกลัวเรียนไม่ทัน
อยากขายออนไลน์เป็น แต่ไม่มีคนสอน
เอาความรู้ไปต่อยอด

>>> 97 บาท <<<
ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ตอนนี้!!!
เพราะเราออกแบบคอร์สนี้
มาให้สำหรับท่านแล้ว
____________________________
5 วัน 5 วิชา
ที่สามารถพาคุณไปเจอกับโลกใบใหม่
เรียนผ่านมือถือเครื่องเดียว
วัยไหนก็เรียนได้
ปรึกษาได้ตลอด
ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันที่ 1 การปรับหน้าโปรไฟล์
วันที่ 2 การสร้างวีดีโอ / รูปให้ดูน่าสนใจ
วันที่ 3 การสร้าง Content
วันที่ 4 การสร้างเพจมืออาชีพ
วันที่ 5 สอนยิงตรงกลุ่ม ยิงถูก ปิดยอดเก่ง
พร้อมวิธีหากลุ่มเป้าหมายแบบตรงเป๊ะ
.
เรียนจบครบทั้ง 5 วัน รับวุฒิบัตรได้ด้วย
ทั้งหมดนี้
เราเก็บค่าคอร์สกับคุณเพียง 97 บาท
ย้ำ!!คุณดูไม่ผิดหรอก 97 บาท
จากราคาปกติ 7,990 บาท
.
จำนวนจำกัด
สิทธิ์ 97 เฉพาะ 100 ท่าน
.
ขอท่านที่สนใจเรียนจริงๆ
เพราะเราก็ตั้งใจสอนให้ท่านจริงๆเช่นกันสนใจติดต่อ โค้ชเอก

โทร 0846623662

line id คลิก : teerapat999
facebook คลิก https://www.facebook.com/teerapat992018
website http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1228
รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99.iconsalepage.com/
#3352


นายอนุชา เหล่าขวัญสถิตย์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในห้วงเวลาที่ประเทศเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารไทยพาณิชย์ มิได้หยุดนิ่งที่จะดำเนินธุรกิจตามแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan) ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถรักษาประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์และอำนวยความสะดวกในการให้บริการลูกค้าผ่านมาตรการการบริหารความเสี่ยงในหลายๆ ด้าน อาทิ มาตรการ Work From Home มาตรการการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด มาตรการทบทวนการเปิดสาขาให้เหลือเท่าที่จําเป็น มาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงพนักงานที่สาขา เป็นต้น โดยธนาคารไทยพาณิชย์เป็นองค์กรแรกๆ ของประเทศที่ประกาศรูปแบบการทำงานแบบ  Work from Home ทันทีที่เกิดการแพร่ะระบาดของโควิด-19 เพื่อให้พนักงานสามารถรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และเป็นวิธีที่จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างดี ขณะเดียวกันธนาคารได้วางระบบไอทีเพื่อรองรับธุรกรรมดิจิทัล และเพิ่มจำนวนบุคลากรด้านคอลเซ็นเตอร์ เพื่อรองรับเหตุขัดข้องให้แก่ลูกค้า

ผลจากการบริหารความเสี่ยงเชิงรุกในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นจนได้รับ 3 รางวัลบริหารความเสี่ยงด้านการดำเนินงานช่วงโควิดระดับเอเชีย จาก Asian Leadership Awards 2021 ที่จัดขึ้นในระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย รางวัล Best COVID-19 Solution for Workforce Management  รางวัล Best COVID-19 Remote Monitoring Solution และรางวัล Most Innovative Solution for COVID-19 สะท้อนถึงการบริหารองค์กรภายใต้สภาวะวิกฤตโควิด ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องตามแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง


ทั้งนี้ Asian Leadership Awards 2021 จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อที่เป็นเวทีเปิดเผยศักยภาพของผู้นำในภูมิภาคของเอเชียของแต่ละบริษัท และองค์กรชั้นนำที่สามารถผ่านบททดสอบเพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กร ด้วยความมุ่งมั่นในสภาวะเศรษฐกิจที่จะต้องเผชิญหน้ากับเหตุวิกฤตการณ์โควิด-19

"ธนาคารและผู้บริหารธนาคาร มีวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็นถึงสถานการณ์โควิดอย่างมีนัยยะสำคัญตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลาถึง 16 เดือนที่ธนาคารได้ปรับปรุงรูปแบบการทำงานแบบ Work From Anywhere เกือบ 80% พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพของบุคลากรซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญของธนาคารให้ปลอดภัยจากสถานการณ์วิกฤต และผลจากการวางโครงสร้างพื้นฐานใหม่ผ่าน Digital Transformation ทำให้ธนาคารสามารถเพิ่มขีดความสามารถของ digital platform ในการให้บริการลูกค้า และตอบโจทย์การสร้างประสบการณ์ลูกค้า (customer experience) อย่างเช่น SCB Easy App เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับต่อความต้องการที่มีสูงขึ้นของลูกค้าภายใต้สถานการณ์โควิด" นายอนุชา กล่าว

นอกจากนี้ธนาคารยังได้ออกนโยบายการดูแลพนักงาน เช่น SCB Telecare program รวมถึงการใช้สินเชื่อของพนักงาน ตลอดจนการให้ความรู้พนักงานและสร้างความคุ้นเคยในการทำงานออนไลน์ผ่าน MS Teams โดยยังคงประสิทธิภาพในการทำงานได้ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด พนักงานสามารถรับรู้ข่าวสารที่สำคัญต่อตัวพนักงานและครอบครัวได้ทันท่วงทีผ่านการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยจัดเครื่องมือป้องกันให้พนักงานที่ต้องพบปะลูกค้า และปรับปรุงอุปกรณ์ที่สาขาให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ การฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามอาคารสำนักงานต่างๆ อย่างเข้มข้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข  

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้บริหารจัดการความเสี่ยงตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยการดูแลลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ผ่านมาตรการความช่วยเหลือต่างๆ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นในอนาคต
#3353


ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (20 ก.ค.) เปิดตลาดปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยร่วงหนักช่วงปิดตลาดภาคเช้าลดลง 25.39 จุด อยู่ที่ 1,530.62 จุด ก่อนรีบาวด์ในช่วงบ่าย กลับมาปิดตลาดที่ 1,538.86 จุด ลดลง 17.15 จุด หรือ 1.10% มูลค่าซื้อขาย 92,956.58 ล้านบาท

นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 5,410.89 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 811.83 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,062.54 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 5,160.17 ล้านบาท

นายวัชระ แก้วสว่าง นักลงทุนรายใหญ่ ที่เน้นกลยุทธ์การลงทุนเชิงเทคนิค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงหลุดแนวรับทางเทคนิคต่อเนื่อง ตั้งแต่แนวรับ 1,585 จุด และล่าสุดแนวรับ 1,546 จุด โดยตนมองแนวรับดัชนีถัดไปที่ 1,515-1,500 จุด ตามลำดับ และในกรณีเลวร้ายที่สุดไม่ควรหลุด 1,483 จุด เพราะจะส่งผลให้ตลาดหุ้นพลิกกลับไปเป็นขาลง

ขณะที่การลงทุนส่วนตัวได้ลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยตั้งแต่ดัชนีหลุดแนวรับ 1,585 จุดไปแล้ว ส่วนโอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นอีกครั้งจะเกิดขึ้นต่อเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาหายเพิ่มขึ้นสูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน


นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนรายใหญ่แบบเน้นคุณค่า (นักลงทุนวีไอ) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงตอบรับความเสี่ยงที่สถานการณ์โควิด-19 ลุกลามและมีการติดเชื้อเพิ่ม รวมถึงความกังวลมาตรการล็อกดาวน์อาจมีความเสี่ยงต้องขยายออกไปอีก อย่างไรก็ดี เชื่อว่าท้ายที่สุดสถานการณ์จะสงบลงได้ เพราะโควิด-19 เป็นวิกฤติที่ประเทศขนาดใหญ่เผชิญเช่นกัน จึงมีการส่งต่อความช่วยเหลือมายังประเทศขนาดเล็กเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำ ขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้วิกฤติจบลง

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในระยะสั้นคาดว่านักลงทุนจะยังขายหุ้นเพราะตื่นตระหนก และมีความเสี่ยงที่ดัชนีอาจหลุดแนวรับ 1,500 จุด แต่เชื่อว่าจะสามารถปรับขึ้นได้ในระยะถัดไป

ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในระยะยาวยังสามารถลงทุนได้ เพราะบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไม่ได้เจ็บหนักจากโควิด-19 แต่สำหรับกลุ่มที่ถูกผลกระทบจากการระบาดโดยตรง เช่น กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มโรงแรม ยังไม่แนะนำลงทุน เพราะหากสถานการณ์โควิด-19 ลากยาวจะเป็นความเสี่ยงให้ถึงจุดหนึ่งหุ้นกลุ่มนี้ต้องเพิ่มทุนหรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นๆ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น


 นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หุ้นไทยปรับฐานรอบนี้ จากการแพร่ระบาด โควิด -19 สายพันธุ์เดลต้าที่รุนแรงขึ้นทั่วโลกและไทย โดยยอดผู้ติดเชื้อในไทยยังไม่เห็นจุดสูงสุด และยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ ยังต้องติดตามผลในช่วง 2 สัปดาห์ถึง1 เดือน ว่ายอดผู้ติดเชื้อในไทยจะลดลงได้หรือไม่

       ประกอบกับตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลงมาหลังจากปรับขึ้นมาต่อเนื่องก่อนหน้านี้ และค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้าทั่วโลกกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลก  ทำให้มีผลต่อราคาตลาดหุ้นในสหรัฐและยุโรป แต่อย่างไรก็ตามความรุนแรงการระบาดรอบนี้ไม่รุนแรงเท่าปีก่อน เพราะสหรัฐและยุโรป มีประชากรที่ได้รับวัคซีนไปมากกว่าครึ่งของประชากรแล้ว ทำให้อัตราการเสียชีวิตและยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ระดับต่ำ และเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดน่าจะยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป มีโอกาสเลื่ือนการลดคิวอีออกไปได้  

        ดังนั้น เรายังมองว่า ตลาดหุ้นไทยปรับฐานรอบนี้แค่ระยะสั้นและไม่น่ากลัว เท่าช่วงเดียวกันปีก่อน และเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนหากดัชนีรอบนี้ยังยืนที่ระดับ 1,530 จุด บวกลบต่อได้ โดยยังมีอัพไซด์ปลายปีนี้คาดไว้ที่1,600 จุด  กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจลงทุนขณะนี้เปลี่ยนโหมดมาเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตและปรับตัวลงกว่า คือ กลุ่มเทคโนโลยี  และกลุ่มส่งออก ที่ได้ประโยชน์จากผลประกอบการปรับตัวดีต่อเนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าและการส่งออกขยายตัวสูง 

       แต่การเข้าลงทุนหุ้นไทยยังต้องระมัดระวังรอความชัดเจนของสถานการณ์คุมการแพร่ระบาดรอบนี้ เพราะตอนนี้ยังคาดเดายากว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันจะทะลุ 20,000คนหรือไม่ยังเป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นไทย

       นายวิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์   รองผู้อำนวยการฝ่าย กลยุทธ์การลงทุน ไพรเวทเมเนจท์เม้นท์ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เราแนะนำนักลงทุนปรับลดน้ำหนักการลงทุน (Underweight)หุ้นไทย โดยคาดแนวโน้มหุ้นไทยมีแนวรับทางเทคนิคที่ 1,500จุด    หลังจากการระบาดอย่างหนักของ โควิด-19 สายพันธุ์ เดลต้า รอบล่าสุดส่งผลไปถึงการประกาศล็อดดาวน์  ทำให้เรามองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มซบเซาหนักและยาวนานกว่า โดยมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะไม่ขยายตัวเลย ซึ่งสุดท้ายจะสะท้อนในการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่แย่ลงในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้   แต่สิ้นปีนี้ยังมองแนวโน้มดัชนีที่ 1,600จุด หากสามารถคุมการแพร่ระบาดคลี่คลายได้และตลาดต่างประเทศปรับฐานระยะสั้น 

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันทำการแรกของสัปดาห์ (19 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการขยายมาตรการล็อกดาวน์และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังทรงตัวสูงที่ 1.1 หมื่นราย รวมถึงแรงขายตามข่าว (Sell on Fact) ภายหลังบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 นอกจากนี้ ยังเป็นการปรับลงล้อกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดลบจากความกังวลไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรง

อย่างไรก็ดี ระยะข้างหน้าคาดว่าดัชนีหุ้นจะเริ่มปรับลงอย่างจำกัด เพราะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักต่อดัชนีสูง ราคาหุ้นได้ปรับลงไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร และกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจ (Reopening) และประเมินแนวรับดัชนีที่ 1,530 จุด และถัดไปที่บริเวณ 1,510-1,500 จุด ตามลำดับ ดังนั้น การลงทุนจึงแนะนำสะสมหุ้นบริเวณแนวรับเพื่อรอขายในช่วงที่ดัชนีฟื้นตัว

"เราไม่คิดว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวลงต่อเนื่องแบบไม่มีแนวรับ เพราะได้แรงหนุนจากกำไรบจ.ไตรมาส 2 ที่ออกมาดี รวมถึงปัจจัยบวกจากเงินเยียวยาเศรษฐกิจของรัฐบาล และความคืบหน้าการนำเข้าวัคซีน ยกเว้นในกรณีเลวร้ายที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตต้องหยุดนิ่ง คาดว่าดัชนีจะหลุดแนวรับ 1,500 จุด และเลวร้ายสุด 1,300 จุดอาจเอาไม่อยู่"
#3354


    เงื่อนไขการ "เดินทางเข้า-ออก" ตามมาตรการ "ล็อกดาวน์" ตั้งแต่ 20 ก.ค.64 โดยจำกัด "พื้นที่สีแดงเข้ม" รวมทั้งหมด 13 จังหวัด หากใครต้องการเดินทางต้องเตรียมเอกสารดังนี้

    หลังจากที่มีคำสั่ง "ล็อกดาวน์" จากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) โดยสาระสำคัญคือ "จำกัดการเดินทาง" โดยเฉพาะ 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)

    โดยศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ได้เปิดเว็บไซต์ "หยุดเชื้อ ช่วยชาติ"ทาง covid-19.in.th ที่จะให้ประชาชนใช้ลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตเดินทาง (กรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่ง) เพื่อช่วยลดการสัมผัสของเจ้าหน้าที่หน้าด่าน ที่ต้องตรวจเอกสาร และประชาชนไม่ต้องเข้าคิวในการร้องขอออกนอกพื้นที่

    กรุงเทพธุรกิจออนไลน์สรุปเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการการจำกัดการเดินทางของ "มาตรการล็อกดาวน์" เดือนกรกฎาคม 2564 

    สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย
    รวมจังหวัดที่จำกัดการเดินทาง
    การจำกัดการเดินทางถูกบังคับใช้แก่พื้นที่สถานการณ์เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 13 จังหวัด 
    [list=1]
    • กรุงเทพฯ 
    • นครปฐม
    • นนทบุรี 
    • ปทุมธานี 
    • สมุทรปราการ 
    • สมุทรสาคร 
    • ฉะเชิงเทรา 
    • ชลบุรี 
    • พระนครศรีอยุธยา 
    • นราธิวาส 
    • ปัตตานี 
    • ยะลา 
    • สงขลา

    ต้องการเดินทางเข้า-ออก ต้องทำอย่างไร
    สำหรับการลดการเดินทางในพื้นที่ งดการเดินทางข้ามจังหวัด โดยงดเว้นเฉพาะกรณีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า มีการใช้การสนธิกำลังทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ในการจัดตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง บนเส้นทาง หลัก/รอง ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ จะต้องลดการเดินทางลง เพราะ จนท.จะมีมาตรการอย่างเข้มข้น มีการตั้งด่านจำนวนมากเกิดขึ้น 


    สิ่งที่เตรียมเพื่อใช้เดินทางเข้า-ออก
    การเดินทางเข้าออกพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ต้องมีเอกสารรับรองการเดินทาง หรือ QR Code เพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่ใน โดยเอกสารมีดังนี้ 

    1. เอกสารรับรองที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการเขต

    2. ถ้าไม่มีข้อ 1 ให้ลงทะเบียนการเดินทางข้ามพื้นที่ ผ่านทางเว็บไซต์ "หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" https://covid-19.in.th เพื่อนำ QR code แสดงแก่เจ้าหน้าที่

    3.ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ที่ด่านตรวจ

    ที่มา: ศบค. 20 ก.ค. 64 
    #3356


    ข้อมูลจากสมาคมทุเรียนไทย ระบุว่า ปัจจุบันคนจีนกินทุเรียนเฉลี่ยคนละ 2 ขีดต่อปี ไทยเฉลี่ยคนละ 3 กิโลกรัม(กก.)ต่อปี มาเลเซียคนละ 5 กก.ต่อปี ดังนั้นตลาดจีนยังขยายได้อีกมาก

    อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือการกระจายทุเรียนให้เข้าถึงผู้บริโภคยังทำน้อย  แต่ก็ใช่ว่าแผนขยายตลาดส่งออกทุเรียนจะไม่มีความหวังเลยเนื่องจากในเดือนธ.ค.2564  จะมีการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟสายสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีน) และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ด้วยทางรถไฟมาตรฐาน ขนาดทาง 1.435 เมตร รวมระยะทาง 422 กิโลเมตร เชื่อมเส้นทางระหว่างเมืองโบเต็น จีน และเมืองหลวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว ซึ่งห่างจากท่านาแล้ง สปป. ลาว ที่เป็นจุดสิ้นสุดรถไฟเชื่อมโยงกับจังหวัดหนองคาย ประมาณ 16 กิโลเมตร

     ภานุศักดิ์ สายพานิช นายสมาคมทุเรียนไทย กล่าวว่า การเปิดให้บริการรถไฟสปป.ลาว-จีนนั้นโดยรวมจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกสินค้าจากไทย-จีนอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากปัจจุบันรถไฟของไทยยังไม่มีการเชื่อมต่อรถไฟสายดังกล่าว ดังนั้นการส่งออกผ่านเส้นทางนี้ จึงต้องใช้บริการพื้นที่ของสปป.ลาวที่เวียงจันทน์ เป็นศูนย์กลาง หรือHUBซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะเร่งทำพิธีสารกับสปป.ลาวเพื่อให้สินค้าของไทยผ่านไปได้

    " ทุกประเทศที่อยู่แนวเส้นทางรถไฟเส้นนี้สนใจและอยากทำพิธีสาร โดยเฉพาะเวียดนามที่ปลูกทุเรียนเช่นกัน แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนสดไปจีน ทำให้ มีปัญหาเรื่องทุเรียนสวมสิทธิเกิดขึ้น แต่ เนื่องจากเวียดนามมีพื้นที่เชื่อมต่อกับจีน คาดว่าจะมีการเจรจาเพื่อส่งออกทุเรียนสดเช่นกันหากสำเร็จก็จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญของไทย"

    ปัจจุบันการส่งออกทุเรียนสดของไทยในตลาดจีน สามารถไปได้ทั้งทางเรือและรถบรรทุก โดยทางเรือจะออกจาท่าเรือแหลมฉบัง ไปยังท่าเรือเซี่ยงไฮ้ แล้วส่งโดยรถบรรทุกไปจีนอีกทอดนึงที่ผ่านมาการส่งออกทางเรือ มีต้นทุนการส่งออกที่ถูกกว่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 สัปดาห์ ช้ากว่าเมื่อเทียบการขนส่งด้วยรถบรรทุก ประมาณ 3 วัน และมีความเสี่ยง เรื่องการควบคุมอุณหภูมิที่ไม่สามารถตรวจเช็คได้ตลอดเส้นทาง บางตู้สินค้าถูกถอดปลั๊กไฟทำให้ทุเรียนเน่าเสียเมื่อถึงปลายทางต้องเลือกใช้บริการบริษัทเรือที่มั่นใจเท่านั้น

    ส่วนการส่งออกโดยรถบรรทุก มีค่าบริการที่สูงกว่าทางเรือแต่สามารถตรวจเช็คอุณหภูมิได้ตลอดเส้นทาง ส่วนใหญ่จะนิยมขนส่งผ่านเส้นทางR3AและR12ส่วนR9มีเส้นทางคดเคี้ยวทำให้ความนิยมมีน้อยกว่าปัจจุบันทุกเส้นทางบก ทางจีนได้เปิดด่านเพิ่มเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการขนส่งสินค้าไทย ทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้บริการขนส่งโดยรถบรรทุกมากขึ้น

    " ในอนาคต หากผู้ประกอบการของไทยต้องการขนส่งผ่านรถไฟลาว-จีน ก็ต้องระวังเรื่องการคุมอุณหภูมิ และต้องเปิดบริการยกตู้สินค้าขึ้นรถไฟอย่างครบวงจรด้วยเพื่อไม่ให้มีปัญหาคอขวดกระจุกอยู่บริเวณด่านนานเกินไปซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอีก "

    จากราคาทุเรียนที่แพงกว่าผลไม้อื่นๆ และมีตลาดส่งออกชัดเจน พบว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรไทยและประเทศเพื่อนบ้านขยายการปลูกเพิ่มขึ้น ซึ่งในอีก 3-4 ปีข้างหน้าจะรับรู้ผลผลิต แต่เบื้องต้นคาดว่าปัญหาทุเรียนล้นตลาดจะยังไม่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเทียบกับความต้องการบริโภคทุเรียนของคนจีนยังมีอีกมาก

    ฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า การขนส่งทางบก ต้องผ่านเส้นทางหลักของสปป.ลาวและประเทศเวียดนามไปสู่ประเทศจีน จึงทำให้มีความติดขัดล่าช้าตามด่านตรวจของทั้ง 2 ประเทศ ที่เพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ซึ่งผู้ส่งออกของไทยจะต้องวางแผนและบริหารจัดการเวลาในการแจ้งนำเข้าสินค้าผลไม้ที่ด่านนำเข้าของจีนให้ทันต่อเวลา เพื่อไม่ให้เกิดการตกค้างของผลไม้ที่หน้าด่าน และที่ผ่านมาจีนได้เปิดด่านอนุญาตให้นำเข้าผลไม้จากไทยได้ ที่ด่านโม่หัน ด่านโหย่วอี้กวน ด่านรถไฟผิงเสียง และล่าสุด ด่านตงซิงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ส่งออกผลไม้ไปจีนเพื่อช่วยแก้ปัญหารถติดสะสมบริเวณหน้าด่านโหย่วอี้กวน โดยเฉพาะในฤดูกาลส่งออกผลไม้

    ส่วนการขนส่งทางเรือ จากแหลมฉบังผ่านเวียดนาม ฮ่องกง ไปจีน ใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน ซึ่งเป็นการขนส่งผลไม้สดโดยการควบคุมอุณหภูมิในตู้สินค้าเย็น (Reefer)และ การขนส่งทางอากาศจีนได้มีการเช่าเหมาเครื่องบินมารับทุเรียนไทย จากการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์แบบPre-Order
    #3357
    เมื่อคุณซื้อหวย คุณก็ต้องหวังถูกรางวัลที่ 1 ไม่ก็รางวัล 2 ตัวท้าย หรือ 3 ตัวท้ายอยู่แล้ว ซึ่งตามสถิติการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลพบว่าในสลาก 1,000,000 ใบ มีสลากเพียง 14,168 ใบเท่านั้นที่ถูกรางวัล หากจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็มีเพียงแค่ 1.4168% เท่านั้น และหวยนั้นออกรางวัลโดยการสุ่มตัวเลข คุณไม่สามารถรู้ผลลัพธ์ของมันได้เลย เลขที่ออกก็มีตั้งแต่ 000 – 999 คุณก็แค่สุ่มตัวเลขให้ถูกจาก 1 ล้านรูปแบบ เพื่อให้เป็น 1 ใน 1.4168% นั้นให้ได้จาก 100% แม้จะรู้ดีว่าโอกาสถูกหวยเป็นไปได้ยากมาก แต่เงินรางวัลหลักล้านมันช่างล่อใจเหลือเกิน จึงหยุดความเสี่ยงนี้ไม่ได้ วันนี้เราจึงมีบทความเกี่ยวกับ การเสริมดวงถูกหวยกัน ด้วยวิธีง่ายๆให้ท่านได้ทดลองกันนะครับ อันดีบแรกเราจะมาดูวิธีหาเลขเด็ด กับ 3 วิธี แทงหวย ยังไงให้ถูก

    วิธีหาเลขเด็ดกับวิธีแทงหวยยังไงให้ถูก

    เพื่อให้คุณได้เป็น 1 ใน 1.4168% นั้น เราจึงจะมาแนะเทคนิคการซื้อหวยให้ถูกรางวัล ดังนี้

    1. ย้อนรอย เลข หวยออก

    กล่าวคือให้ดูสถิติการออกหวยย้อนหลังนั่นเอง เนื่องจากคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหวยจะออกอะไร ฉะนั้นก็ต้องมาศึกษาสถิติของหวยว่าเลขไหนออกบ่อยที่สุด โดยดูย้อนหลังไปเลย 20 ปี (480 งวด) และแต่ละเลขก็ควรเฉลี่ยออกเป็นจำนวนโดยประมาณ 4.8 หรือ 4 – 5 ครั้ง อย่างที่เราดูสถิติหวยมานี้ เลข 85 เป็นเลขที่ออกบ่อยที่สุด ส่วนเลข 84 ยังไม่เคยออกเลยในรอบ 20 ปี เมื่อรู้แล้วว่าเลข 85 ออกบ่อย แต่เลข 84 ยังไม่เคยออก ก็ให้ซื้อเลข 84 นั่นแหละ เพราะในการออกเลขแบบแรนดอม เลขแต่ละตัวจะมีโอกาสออกได้เท่าๆกัน ดังนั้นเลขที่ออกน้อยที่สุดจะมีโอกาสเกิดได้มากกว่าเลขที่ออกบ่อยแล้ว

    2. กระจายความเสี่ยงในการซื้อหวย

    การจะซื้อหวยให้ถูกนั้น คุณต้องรู้จักกระจายความเสี่ยง ถึงแม้ว่าเงินที่ได้มาจะน้อยแต่โอกาสในการถูกหวยมีมาก ยกตัวอย่างเช่น คุณจะซื้อเลข 9 คุณก็ต้องเลือกซื้อแบบ 19 ประตู ดังนี้ 09, 19, 90, 91, ... ,98, 89 วิธีแบบนี้จะทำให้คุณถูกหวยได้มากขึ้น และ ที่สำคัญจงจำไว้ว่าอย่าเปลี่ยนเลขบ่อย หากชอบเลขไหนก็ให้ซื้อเลขนั้นไปเรื่อยๆจนกว่าจะถูก เหมือนกับคนที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 บางคน เขาก็ซื้อเลขเดิมๆมาตลอด จนเลขเดิมที่เขาซื้อถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินไปหลายล้านบาท

    3. วางแผนการแทงหวยให้ดี

    วางแผนการซื้อหวยให้ดี แล้วจะไม่มีคำว่าขาดทุน โดยใช้กลยุทธ์แบบ Martingale หลักของกลยุทธ์นี้คือการที่ลงเงินในอัตราเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อไม่ถูกหวย ก็กลับไปเริ่มลงเงินเท่าครั้งแรก กฎตายตัวของกลยุทธ์นี้คือ ไม่ว่าคุณจะขาดทุนไปกี่บาท ครั้งต่อไปที่คุณถูกหวย คุณก็จะได้กำไรมากกว่า 1 บาทเสมอ หวยคือการเสี่ยงโชค ไม่มีเทคนิคไหนที่จะบอกได้ว่าคุณต้องถูกหวยอย่างแน่นอน ที่เราแนะนำนี้เป็นแค่ความน่าจะเป็นในการถูกหวยเท่านั้น เพื่อให้คุณมีความมั่นใจในการซื้อหวยงวดต่อไป ยังไงก็ลองนำเทคนิคที่เราแนะนำกันนี้ไปซื้อหวยดู อาจจะมีโอกาสถูกหวยขึ้นมาก็ได้

    เคล็ดลับถูกหวยง่ายๆ วิธีทำให้ถูกหวย

    วิธีการทำให้ถูกหวยนั้นคนส่วนใหญ่ก็จะมีหลายวิธีแตกต่างกันไป หลากหลายวิธีตามความเชื่อของตัวบุคคล ซึ่งแต่ละวิธีนั้นก็ไม่ได้ยากเย็นจนเกินไปวันนี้เรา จึงได้รวบรวมวิธีทำให้ถูกหวยยอดฮิตที่คนถูกหวยบ่อยๆ เขาทำกันประจำมาแชร์ให้หลายๆท่านได้ดู ได้ชมกัน ท่านที่มองแล้วอยากจะลองนำไปใช้บ้าง ก็สามารถลองนำ เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีทำให้ถูกหวย ไปใช้ได้โดยไม่ต้องเสียแรงมากมายเลย มาดูกันเลยว่ามีวิธีอะไรบ้างที่ทำให้ถูกหวยบ่อยๆ

    เก็บกวาดบ้านให้สะอาดเป็นระเบียบ

    คนโบราณมีความเชื่อว่า บ้านที่สะอาด ปลอดโปร่ง โล่ง เรียบร้อยเป็นระเบียบ จะดึงดูดโชคลาภนำเงินนำทองเข้ามาในบ้าน

    สวมใส่เสื้อผ้าสะอาด ดูดี ไม่ขาด

    ในวันหวยออก ตื่นเช้า คิดแต่เรื่องดีๆ อาบน้ำแต่งตัว เลือกเสื้อผ้าที่ดูดี สะอาด เพื่อเสริมดวงราศี

    ทางเดินในบ้าน นอกบ้าน ต้องสว่าง
    ตามความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยของคนจีน แสงสว่างในบ้านจะเป็นตัวกระตุ้นโชคลาภให้เข้ามาในบ้าน

    ล้างจานทุกครั้งหลังจากทานอาหารเสร็จ

    การถือเคล็ดล้างจานทุกครั้งเป็นการฝึกทั้งวินัยและความรับผิดชอบของตัวเองแล้วยังเป็นการส่งเสริมราศีให้บ้านอีกด้วย ไม่ควรสกปรกให้เป็นที่มาของมด หนู แมลงสาบ

    ซื้อหวยกับพ่อค้าแม่ค้าที่อารมณ์ดี ยิ้มแย้ม

    ข้อนี้สำหรับผมแล้ว น่าจะสำคัญที่สุด มีใครบ้างอยากจะซื้อของกับคนที่อารมณ์ไม่ดี พยายามเลือกแผงที่พ่อค้าแม่ค้ายิ้มแย้มละเชิญชวนให้เราแวะมาเลือกชม และซื้อมาแล้วก็เก็บหวยอย่าให้ยับ

    อย่ามโนเลขเอง

    ให้ดูแนวทางจากเซียนหรือจากนักวิเคราะห์แล้วเอามาผสมกับเลขในใจเรา อย่าง กลุ่ม(ลับ) ของเซียนหวย กลุ่มนี้ ที่วางเลขและให้แนวทางประกอบการตัดสินใจได้แม่น ก็จะช่วยให้เราสามารถเลือกเลขได้อย่างถูกต้อง

    ทำอย่างไรให้ถูกหวยทุกงวด

    ทำอย่างไรให้ถูกหวยทุกงวด "หวย" ก็คือการเสี่ยงทายชนิดหนึ่ง โดยผู้ซื้อจะต้องทำการซื้อสลากหรือตัวเลขมาชุดหนึ่งจากนั้นเจ้ามือจะสุ่มตัวเลขขึ้นมาหากตัวเลขที่สุ่มขึ้นมานั้นเลขตรงกับตัวเลขที่อยู่ในสลากของผู้ซื้อ ก็จะได้รางวัล เช่น เลขท้าย 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัว เป็นต้น

    วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับวิธีการว่าทำอย่างไรให้ถูกหวยทุกงวดแบบเซียนเขาทำกัน

    (1.) ก่อนอื่นเลยต้องยอมรับก่อนว่าไม่มีใครคนไหนในโลกใบนี้หรอกที่จะถูกหวยทุกงวด ถ้ามีใครบอกว่าทำได้ ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าโกหกแน่นอน

    (2.) ควรจะซื้อกระจายชุดให้มากที่สุด เพื่อที่จะเพิ่ม โอกาสที่จะถูกมากขึ้นนั่นเอง โดยอยุ่ที่ตัวคุณเองก่อนว่ากล้าได้กล้าเสียขนาดไหน ข้อนี้เน้นในเรื่องของการวัดใจ เพราะถ้าถูกมายังไงก็ไม่ขาดทุน

    (3.) จงเชื่อว่าคุณจะถูกหวย การเชื่ออย่างศรัทธาแม้ว่าจะมองไม่เห็นก็ตาม ให้ทำตัวเหมือนกับคุณได้ถูกหวยไปแล้ว

    (4.) มีความสุขทุกครั้งที่นึกถึงการถูกหวย แล้วตัวคุณจะดึงดูดเลขเด็ด ดึงดูดหวยที่จะถูกรางวัล ทุกๆอย่างจะมาหาท่านเอง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเลย จงทำตัวเองให้พร้อมที่จะถูกหวยทุกงวด ลงทุนอย่างมีสติ

    ก็อย่างที่บอกนะครับ ไม่มีใครคนไหนในโลกใบนี้ ที่จะถูกหวยได้ทุกงวด แต่ถ้าลองทำตามสูตร 4 ข้อนี้ น่าจะช่วยคุณได้เยอะแน่นอนครับ 
    #3358
    111-Lotto 111  ตัวแทนจำหน่าย ล็อตเตอรี่ออนไลน์ รายใหญ่ของ มังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์  ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อล็อตเตอรี่แบบใหม่  ยุค new normal




    ไม่ต้องไปหน้าแผง ไม่ต้องเสียเวลาก้มหาเลข ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะมีเลขที่อยากได้มั้ย แค่แอดไลน์ หาเรา บอกเลขที่ต้องการ เลขเด็ด เลขดัง แจ้งโอนเงิน จะได้รับ SMS ยืนยัน




    ถ้าถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินได้จริง ได้รับเงินจริงไม่เกิน 24 ชม โดยปกติใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงหลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเท่านั้น 

    ขั้นตอนการซื้อ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ กับเรานั้น ง่ายๆ มาก มี 2 แบบให้เลือกแล้วแต่สะดวก

    1. แอดไลน์ @111-lotto หรือคลิกทีนี่ เพื่อ คุยกับแอดมินโดยตรงและทำการสั่งซื้อและโอนเงินผ่านไลน์ มีเจ้าหน้าที่แนะนำทุกขั้นตอน 

    111-lotto รีบแอดไลน์เพื่อเลือกเลขรางวัลก่อนใคร

    Add Line : @111-lotto





    2. สั่งซื้อผ่านระบบ 111-lotto ล็อตเตอรี่ของของมังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์ ด้วยตัวเอง จะทำที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ Add Line : @111-lotto


     


     
    #3359

    นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจ และต่างพากันส่งกำลังใจให้เป็นจำนวนมาก สำหรับเรื่องราวของผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์ไทย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ที่ออกมาประกาศว่าตนเองนั้นติดโควิด-19 และมีอาการค่อนข้างหนัก ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

    ความคืบหน้าสุด แฟนเพจเฟซบุ๊ก ณวัฒน์ อิสรไกรศีล – Mr.Nawat Itsaragrisil ได้โพสต์อัพเดทอาการ ระบุว่า "ให้ออกซิเจนความดันสูง 24 ชั่วโมงเข้าสู่วันที่ 8 ห้ามขยับจากเตียง เชื้อเป็นเดลต้าที่แรงมากใช้ยาต้านแบบฉีดตัวใหม่ ฉีดวันละ 2 ชั่วโมงทางเส้นต่อเนื่องทุกวัน ในกรณีผู้ป่วยหนักicu และ ควบคู่กับฉีดยาหน้าท้องให้เลือดไหลเวียนเพราะร่างกายต้องนิ่ง และอีกหลายวิธีทางการแพทย์ยังอยู่ระหว่างทางการต่อสู้ครับ

    ขอบคุณทุกกำลังใจขอภัยที่ไม่ได้ติดต่อใครได้แค่มองเพดานทุกวัน ด้วยรักและเคารพมิตรภาพที่ดีของทุกคน ขอบคุณจากหัวใจครับ ณวัฒน์"

    งานนี้ชาวเน็ตที่เห็นรูปเลยไม่พลาดมาแสดงความคิดเห็นห่วงใยและขอให้ณวัฒน์หายไวๆ มากมาย
    #3360
    เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
    เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
    ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
    เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
    เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
    เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
     Made in JAPAN 
    สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
    Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
    ไลน์ไอดี: valaiporn25
    website:https://www.cleanicethailand.com
    facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
    #เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand