• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#11461
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208

#11463


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีความรุนแรงกว่าที่เคยประเมิน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าที่คาด ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 1% มาเป็น -0.5% 

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังเผชิญอยู่มีแนวโน้มรุนแรงและลากยาวขึ้นกว่าที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม การประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันจะแตะระดับสูงสุดในเดือนกันยายน และจะค่อยๆ ลดจำนวนลง แต่กว่าสถานการณ์จะควบคุมได้หรือจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงต่ำกว่า 1,000 คนต่อวัน คาดว่าไม่เร็วไปกว่าไตรมาสที่ 4 ในปี 2564 นี้

ดังนั้น คาดว่ารัฐบาลจะยังคงมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดไปไม่ต่ำกว่า 2 เดือน (เริ่มก.ค. 2564) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ตามมา และแม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการออกมาเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบกับกลุ่มผู้ประกอบการและลูกจ้างในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการล็อกดาวน์ แต่คงไม่สามารถชดเชยผลกระทบได้ทั้งหมด ทำให้คาดว่าอัตราการขยายตัวของ GDP ของไทยในไตรมาส 3/2564 จะหดตัวลงเมื่อเทียบกับช่วง

"จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมากกว่าที่ประเมินไว้ในเดือนก.ค. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศที่จำนวนเคสผู้ติดเชื้อรายวันอาจยังไม่ผ่านจุดสูงสุด ทำให้มาตรการล็อกดาวน์อาจใช้ระยะเวลายาวขึ้น ในขณะที่ความเสี่ยงที่เป็นประเด็นติดตามยังอยู่ที่การควบคุมการแพร่ระบาดในภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่นอกจากอาจจะมีผลกระทบต่อการส่งออกแล้ว ยังอาจทำให้สินค้าในประเทศขาดตลาดในบางช่วงจังหวะเวลา" 


อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปี 2564 ขยายตัวได้ดีกว่าที่คาด จากตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/2564 ที่ขยายตัว 5% YoY ส่งผลให้ในครึ่งปีแรกของปี 2564 เศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ 2.0% YoY อย่างไรก็ดี หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพียง 0.4% QoQ

แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมของเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแรงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งนี้ ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/2564 ขยายตัว 7.5% YoY เนื่องจากปัจจัยฐานต่ำ และการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นเป็นหลัก โดยการส่งออกสินค้าในไตรมาส 2/2564 ขยายตัวที่ 36.2% YoY ในรูปของดอลลาร์สหรัฐฯ สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการชดเชยอุปสงค์ที่ค้างจากช่วงก่อนหน้า (Pent-up demand)

ในขณะที่ การบริโภคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนในไตรมาส 2/2564 แม้ว่าจะขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้าเนื่องจากฐานที่ต่ำ แต่การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนกลับหดตัวที่ -2.5 QoQ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ


ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 1.0% มาเป็น -0.5% โดยมีรายละเอียดดังนี้

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังเผชิญอยู่มีแนวโน้มรุนแรงและลากยาวขึ้นกว่าที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม การประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันจะแตะระดับสูงสุดในเดือนกันยายน และจะค่อยๆ ลดจำนวนลง แต่กว่าสถานการณ์จะควบคุมได้หรือจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงต่ำกว่า 1,000 คนต่อวัน คาดว่าไม่เร็วไปกว่าไตรมาสที่ 4 ในปี 2564 นี้
ดังนั้น คาดว่ารัฐบาลจะยังคงมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดไปไม่ต่ำกว่า 2 เดือน (เริ่มก.ค. 2564) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ตามมา และแม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการออกมาเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบกับกลุ่มผู้ประกอบการและลูกจ้างในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการล็อกดาวน์ แต่คงไม่สามารถชดเชยผลกระทบได้ทั้งหมด ทำให้คาดว่าอัตราการขยายตัวของ GDP ของไทยในไตรมาส 3/2564 จะหดตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ร้อยละ -3.5 และ -9 ตามลำดับ นอกจากนี้ แม้ว่ารัฐบาลอาจมีการทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในบางธุรกิจ แต่หากจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่อัตราประชากรที่ได้รับวัคซีนครบโดสยังไม่สูงมากก็จะทำให้ประเด็นความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่กลับมาปกติ ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องมายังกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยอาจน้อยกว่าที่คาด เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้าส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทย ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยในปีนี้อาจลดลงอยู่ที่ราว 5 แสนคน แม้ว่าจะมีการเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยโครงการ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" และโครงการ "สมุย พลัส โมเดล"
ในขณะที่ ภาคการผลิตเผชิญความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการแพร่ระบาดในโรงงาน โดยหากการแพร่ระบาดยังคงไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลให้เกิดการปิดโรงงาน และมีผลต่อเนื่องไปยังห่วงโซ่การผลิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ นอกจากนี้ อาจทำให้สินค้าในประเทศเกิดภาวะขาดตลาดในบางช่วงจังหวะเวลาอีกด้วย อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ และอียู ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า น่าจะยังส่งผลให้การส่งออกไทยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะยังคงขยายตัวได้ในระดับสูง
#11464


สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ แม้จะล็อกดาวน์มาแล้วเกือบ 1 เดือน แต่จำนวนผู้ติดเชื้อกลับไม่ได้ลดลง แถมเดินหน้าทำนิวไฮทุกวัน

โดย ศบค. จะมีการพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 18 ส.ค. นี้ ว่ามาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการมานั้นได้ผลแค่ไหน? เพียงพอหรือยัง? หรือ ควรต้องขยายเวลาล็อกดาวน์ออกไปอีกหรือไม่? ซึ่งดูจากสถานการณ์ล่าสุดแล้วคงต้องเป็นเช่นนั้น

ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อถึงวันที่ 7 ก.ย. 2564 ว่าหากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์จำนวนผู้ติดเชื้อในช่วงปลายเดือน ส.ค. ถึงต้นเดือน ก.ย. จะพุ่งสูงถึง 6-7 หมื่นรายเลยทีเดียว น่าจะเป็นอีกสัญญาณสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าคงต้องมีการต่อเวลาล็อกดาวน์ออกไปอีก

แน่นอนว่าหากโรคระบาดยิ่งลากยาว ผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะยิ่งมากขึ้น จากปัจจุบันก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว หลายธุรกิจแทบไม่เหลือสภาพคล่อง เนื่องจากไม่มีรายได้เข้ามาเลย ส่วนหนี้ยังต้องชำระ

แม้ที่ผ่านมาจะมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน แต่ก็เป็นมาตรการระยะสั้นเท่านั้น โดยช่วงที่พักชำระดอกเบี้ยยังวิ่งไปเรื่อยๆ ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยลูกหนี้ในระยะยาว ธปท. อยู่ระหว่างการพิจารณาออกมาตรการชุดใหม่ โดยจะขอความร่วมมือสถาบันการเงินในการออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม ภายใต้แนวทาง "การปรับโครงสร้างหนี้"

ด้วยการ "แฮร์คัท" หรือ การลดยอดหนี้ลง, การลดอัตราดอกเบี้ย, ยืดเวลาชำระหนี้ โดยลดยอดเงินชำระในแต่ละงวด จนกว่ารายได้จะดีขึ้น ค่อยกลับมาชำระตามปกติ

นอกจากนี้ จะออกมาตรการเพื่อจูงใจให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการไม่ต้องจัดชั้นลูกหนี้ที่อยู่ในมาตรการช่วยเหลือเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพื่อลดภาระการตั้งสำรอง

ทั้งนี้ คงต้องรอดูความชัดเจนจาก ธปท. อีกครั้ง เพราะมาตรการต่างๆ ที่ระบุออกมานั้นยังเป็นเพียงแค่แนวคิดเบื้องต้น และถ้าหากมีมาตรการออกมาจริง คงไม่ได้เป็นการบังคัง แต่ให้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละแบงก์

ถือเป็นความปรารถนาดีของ ธปท. ที่จะเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ซึ่งได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตโควิด-19 แต่ในมุมของสถาบันการเงิน ทั้งแบงก์และนอนแบงก์ดูจะเป็นข่าวลบ เพราะจะส่งผลกระทบต่องบการเงินโดยตรง

โดยปัจจุบันแต่ละแห่งมีแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติมจากที่ ธปท. กำหนดไว้อยู่แล้ว ซึ่งจะพิจารณาการช่วยเหลือเป็นรายกรณี และถ้าหาก ธปท. ขอความร่วมมือให้ออกมาตรการเพิ่มเติม เชื่อว่าในทางปฏิบัติหลายมาตรการคงไม่สามารถนำมาใช้ได้เป็นการทั่วไป เช่น การแฮร์คัทหนี้ เพราะผลกระทบของลูกหนี้แต่ละรายไม่เหมือนกัน และยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อสถานะการเงินของแบงก์

ด้านบล.เคทีบีเอสที ระบุว่า การแฮร์คัทจะส่งผลเสียต่อทุกบรรทัดในงบการเงินของธนาคาร เนื่องจากเป็นการตัดบัญชีลูกหนี้ออกไปทั้งก้อน แม้ปกติธนาคารจะทำอยู่แล้วแต่ไม่มาก ขณะที่รอบนี้ ธปท. เพียงขอความร่วมมือ ยังไม่ได้บังคับ เชื่อว่ากลุ่มธนาคารจะเลี่ยงไปทำเรื่องการปรับโครงสร้างมากกว่า แต่ฝ่ายวิจัยมองว่าหากสรรพากรมีการลดภาษีเท่ากับมูลหนี้ที่จะแฮร์คัท น่าจะทำให้ทุกธนาคารเร่งแฮร์คัทมากขึ้น

ทั้งนี้ ประเมินว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK จะได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากประเด็นนี้มากที่สุด เพราะเมื่อพิจารณาจากโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ (Debt relief program) ของแต่ละธนาคารในงวดไตรมาส 2 ปี 2564 จะเห็นว่า SCB ได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากประเด็นนี้มากที่สุด เพราะมีสัดส่วน Debt relief สูงที่สุดในกลุ่มที่ 16% ของสินเชื่อรวม รองลงมาเป็น KBANK ที่ 14% ของสินเชื่อรวม

ส่วนบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ฝ่ายวิจัยมองว่าได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเพราะมีสัดส่วน Debt relief น้อยที่สุดในกลุ่มที่ 3% ของสินเชื่อรวม
#11465


เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลพิเศษให้แก่นักกีฬาและผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่สำนักงานใหญ่ ธอส. โดยมี นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. และคณะผู้บริหารระดับสูงของธนาคารฯ พร้อมด้วยทีมเทควันโดไทย

นำโดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย, "น้องเทนนิส" เรืออากาศตรีหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่น 49 กก.หญิง, "จูเนียร์" รามณรงค์ เสวกวิหารี จอมเตะรุ่น 58 กก.ชาย, "โค้ชเช" เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ "โค้ชชิต" นายวิชิต สิทธิกัณฑ์ ผู้ฝึกสอน ร่วมในพิธี

สำหรับพิธีมอบรางวัลพิเศษให้แก่ทีมเทควันโดไทยในครั้งนี้ คณะผู้บริหารของ ธอส. ได้มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 3 ล้านบาท ให้กับ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รวมทั้งมอบเงินรางวัลพิเศษ 5 แสนบาท ให้กับ รามณรงค์ เสวกวิหารี และ 3 มอบเงินรางวัลพิเศษ อีก 5 แสนบาท ให้กับ โค้ชเช ยอง ซอก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4 ล้านบาท

นายยุทธนา หยิมการุณ กล่าวว่า "น้องเทนนิส" สามารถคว้าเหรียญทองเหรียญประวัติศาสตร์เหรียญแรกของกีฬาเทควันโด จากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ธอส. ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬาเทควันโดฯ มาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน รวมแล้ว 16 ปี โดยให้การสนับสนุนปีละ 17 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 260 ล้านบาท รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สมาคมฯ พัฒนาวงการเทควันโดให้โดดเด่น สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ในเวทีการแข่งขันระดับโลกมากกว่า 160 รายการ รวมถึงการคว้าเหรียญทอง "โตเกียวเกมส์" มาได้สำเร็จ ทำให้คนไทยมีความสุขท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ และยืนยันว่าเราพร้อมสนับสนุนสมาคมฯ ในการพัฒนาวงการเทควันโดต่อไป

"น้องเทนนิส" กล่าวว่า ขอขอบคุณ ธอส. ที่ได้สนับสนุนสมาคมฯ และนักกีฬาเทควันโดไทย มาอย่างยาวนาน จนประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองที่รอคอยร่วมกัน เงินรางวัลที่ได้รับตั้งใจจะมอบให้กับคุณพ่อสิริชัย เอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัว โดยปีที่แล้วซื้อบ้านให้พ่อ จึงยังต้องผ่อนบ้านอยู่ ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาในอนาคต ที่สำคัญจะเก็บเป็นเงินออมไว้ด้วยเพราะเชื่อว่าหากเรามีเงินเก็บไว้ นอกจากจะเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินแล้ว เงินออมยังมีผลตอบแทนด้วย ส่วนจะเอาไปลงทุนทำอะไรในอนาคตนั้นก็ต้องปรึกษากับพ่อก่อน

"หนูตั้งใจว่าจะเก็บเป็นเงินออมทรัพย์กับ ธอส. เพราะถือว่าเป็นวิธีการเก็บเงินที่ดีที่สุด โดยหนูตั้งใจว่าอยากจะซื้อสลาก ธอส. สัก 1 ล้านบาท อีกด้วย" น้องเทนนิส กล่าว

ขณะที่ "โค้ชเช" และ "จูเนียร์" ได้ซื้อสลากออมทรัพย์กับ ธอส. คนละ 1 แสนบาท อีกด้วย

ส่วน "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวว่า เป้าหมายต่อไปคือโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเราต้องเดินหน้าเตรียมแผนงานกันทันทีเพราะเหลือเวลาไม่มาก ขณะที่ "น้องเทนนิส" ยืนยันมีความพร้อมเต็มที่ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือจะพยายามคว้าเหรียญทองมาให้ได้อีกสมัย.
#11466


การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยนับตั้งแต่ระลอกแรกในเดือน ม.ค.2563 ถึงระลอกปัจจุบัน วันที่ 15 ส.ค.2564 มีผู้ติดเชื้อในประเทศไทยรวม 907,157 คน ซึ่งรัฐบาลต้องจัดงบประมาณหลายส่วนเพื่อรับมือการระบาด โดยเฉพาะการออก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ฉบับ วงเงินรวม 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่อนุมัติสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขไปแล้วมากกว่า 1 แสนล้านบาท

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้สรุปการใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ได้จัดสรรสำหรับแผนงานด้านสาธารณสุขรวม 45,000 ล้านบาท แต่การระบาดที่มีอย่างต่อเนื่องส่งให้งบประมาณที่ตั้งไว้ไม่เพียงพอและต้องโยกงบประมาณจากแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจเข้ามารวมแล้วจัดสรรให้ด้านสาธารณสุขรวม 63,900 ล้านบาท ผ่านการอนุมัติ 51 โครงการ แบ่งเป็น 5 ด้าน คือ

1.แผนงานเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ 4 โครงการ วงเงิน 6,301 ล้านบาท เบิกจ่ายไปแล้ว 6,666 ล้านบาท หรือคิดเป็น 74.05%

2.แผนงานหรือโครงการเพื่อจัดซื้อหาอุปกรณ์การแพทย์และสาธารณสุขวัคซีนป้องกันโรคและห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ 20 โครงการ วงเงิน 15,250 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 1,606 ล้านบาท คิดเป็น 10.53%

3.แผนงานหรือโครงการเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการบำบัดรักษา ป้องกันควบคุมโรค 5 โครงการ วงเงิน 30,360 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 17,334 ล้านบาท คิดเป็น 57.10%

4.แผนงานหรือโครงการเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสถานพยาบาล 14 โครงการ วงเงิน 10,257 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 1,822 ล้านบาท คิดเป็น 17.77%

5.แผนงานหรือโครงการด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด 8 โครงการ วงเงิน 1,727 ล้านบาท เบิกจ่าย 180 ล้านบาทคิดเป็น 10.43%

ทั้งนี้ รวมแล้วโครงการตามแผนงานด้านสาธารณสุขที่อนุมัติไว้ 63,897 ล้านบาท เบิกจ่าย 25,610 ล้านบาท คิดเป็น 40.08%


"สาธารณสุข" ทยอยขอใช้งบกลาง

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ใช้งบกลาง 2564 เพื่อใช้ควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 40,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.โครงการเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาโควิด-19 ระลอก เม.ย.2563 ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย.2564 วงเงิน 12,669 ล้านบาท ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2564

2.โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นอกสถานพยาบาล 1,877 ล้านบาท ครม.อนุมัติวันที่ 10 ส.ค.2564

3.โครงการเตรียมพร้อมแก้ไขปัญหาโควิด-19 ระลอก เม.ย.25654 วงเงิน 12,567 ล้านบาท ครม.อนุมัติวันที่ 5 พ.ค.2564

4.โครงการจัดหาวัคซีน Sivovac จำนวน 500,000 โดส วงเงิน 321 ล้านบาท ครม.อนุมัติวันที่ 17 เม.ย.2564

5.โครงการจัดหาวัคซีน AstraZeneca จำนวน 35 ล้านโดส วงเงิน 6,387 ล้านบาท ครม.อนุมัติวันที่ 2 มี.ค.2564

6.โครงการเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาโควิด-19 ระยะการระบาดระลอกใหม่ วงเงิน 4,661 ล้านบาท ครม.อนุมัติวันที่ 5 ม.ค.2564

7.โครงการจัดหาวัคซีน AstraZeneca 2,379 ล้านบาท ครม.อนุมัติวันที่ 17 พ.ย.2563

งบค่าตอบแทนบุคลากร-จ้างเหมา

ทั้งนี้ หากดูรายละเอียดการประชุม ครม.ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2564 อนุมัติโครงการการเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาโควิด-19 ระลอก เม.ย.2563ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย.2564 ซึ่งเป็นการขยายโครงการต่อจากโครงการเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติไว้เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2564 เพื่อดำเนินการจ่ายค่าตอบแทน ได้แก่ ค่าตอบแทนเสี่ยงภัย ค่าล่วงเวลา (OT) ค่าตอบแทนคณะทำงาน ผู้เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษา บุคคลภายนอก ค่าใช้สอย ได้แก่ ค่าอำนวยการและสั่งการเชิงบูรณาการ และค่าจ้างเหมาบริการอื่นๆ

นอกจากนี้ กระทรงวสาธารณสุขรายงานว่าการดำเนินการดังกล่าวจะรองรับมาตรการการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อลดจำนวนการติดเชื้อโควิด-19 ลดการแพร่ระบาดในวงกว้าง และลดอัตราการเสียชีวิตของประชากรในประเทศไทย ให้ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงระบบการบริการของสถานพยาบาลและหน่วยบริการ ได้อย่างทั่วถึงสะดวกและรวดเร็ว


นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ในการบริหารจัดการเงินกู้ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงิน 500,000 ล้านบาท ของรัฐบาล ซึ่งในส่วนนี้มีคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการที่มีเลขาธิการ สศช.พิจารณาดูแลตามความเหมาะสมอยู่ 

สำหรับวงเงินงบประมาณสำหรับแผนงานด้านสาธารณสุขที่มีการตั้งวงเงินไว้ 30,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ก็สามารถที่จะบริหารจัดการโดยโยกเอางบประมาณในส่วนของเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาด และงบประมาณแผนงานการฟื้นฟูเศรษฐกิจมาใช้ได้หากมีความจำเป็นซึ่งในการกู้เงินครั้งหลังนี้วางเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นมากขึ้น 

ส่วนงบประมาณที่ไว้ใช้รับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มยืดเยื้อออกไปนอกจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ที่มีงบกลาง วงเงิน 89,000 ล้านบาท ยังมีงบกลางฯโควิด-19 ที่มีการแปรญัตติไว้ที่วงเงิน 16,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้การใช้จ่ายจะคล้ายกับงบกลาง 40,000 ล้านบาท ที่เป็นงบกลางสำหรับใช้ในสถานการณ์โควิดในปีงบประมาณ 2564 ซึ่งวงเงินนี้ส่วนใหญ่ไว้ใช้ในเรื่องของสาธารณสุข การซื้อยาเวชภัณฑ์และเครื่องมือการแพทย์ในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และส่วนนี้ถือว่ามีความจำเป็นที่รัฐบาลจะมีเงินอีกส่วนไว้ใช้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีการระบาดต่อไปอีกระยะ 

คาดต้องการงบสาธารณสุขสูง

นายเดชาภิวัฒน์ กล่าวว่า วงเงินจำนวนนี้หากเทียบกับรายจ่ายด้านสาธารณสุขที่มีจำนวนมากก็จะเห็นว่าไม่ใช่วงเงินที่มากนัก โดยเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมามีการอนุมัติงบกลาง 2564 ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นค่าใช้จ่าย ค่าจ้างล่วงเวลาสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.ก็ใช้งบประมาณมากถึง 12,600 ล้านบาท ทำให้เห็นว่าความต้องการใช้วงเงินงบประมาณด้านสาธารสุขยังคงมีมากในสถานการณ์ช่วงนี้ 
#11468
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208

#11469


ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะมีเสียวเล็กน้อย เปิดบ้านไล่ทุบ สตราส์บวร์ก 4-2 โดยก่อนเกมเปิดตัว 5 นักเตะใหม่ มี ลิโอเนล เมสซี นำทัพ

ศึกฟุต.ลีกเอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 "เปแอสเช" ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ลงสนามนัดที่สอง เปิดรับพาร์ค เด แพรงส์ รับการมาเยือนของ สตราส์บวร์ก

"เปแอสเช" ของกุนซือเมาริซิโอ โปเช็ตติโน เกมที่แล้วบุกไปเอาชนะ ทรัวส์ มาแบบหืดจับ 2-1 ส่วนเกมนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ เดินทางมาทักทายแฟน.ที่เข้ามาชมกันแบบเต็มความจุ แต่ยังไม่มีชื่อ โดย 11 คนแรก นำทัพโดย 3 ประสานแดนหน้า อย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป, เมาโร อิคาร์ดี, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ ขณะที่ เนย์มาร์ ยังคงได้พัก และเซร์คิโอ รามอส ยังต้องพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ

ปรากฎว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ออกสตาร์ทกันอย่างคึกคัก มาทำ 3 ประตู ขึ้นนำ 3-0 จาก เมาโร อิคาร์ดี น.3, คีเลียน เอ็มบัปเป น.25 และยูเลียน ดรักซ์เลอร์ น.27 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง เปแอสเช ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง แต่กลายเป็น สตราส์บวร์ก ที่มาได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 จากการยิงของ เควิน กาเมยโร ในนาทีที่ 53

น.64 สตราส์บวร์ก ก็มาได้ประตูตีตื้นมาอีกเป็น 2-3 จากจังหวะที่ ดิมิทรี ลีนาร์ด เปิดจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปให้ ลูโดวิช อาชอร์ก

น.80 สถานการณ์ของทีมเยือน สตราส์บวร์ก ย่ำแย่ลง เมื่ออเล็กซานเดอร์ ดิคู ปราการหลังตัวเก่ง โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม 

น.85 เปแอสเช อาศัยตัวผู้เล่นที่เหนือกว่า มาได้ประตูขยับห่างเป็น 4-2 จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป ลากเลื้อยมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนตบเข้ากลางให้ พาโบล ซาราเบีย ยิงจ่อๆ ระยะ 4 หลาเข้าไปไม่พลาด 

ช่วงเวลาที่เหลือ เปแอสเช สามารถรักษาสกอร์เอาไว้ได้ และไม่มีใครทำประตูกันเพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เปิดบ้านเฉือนชนะ สตราส์บวร์ก 4-2 เก็บสามคะแนน 2 เกมติดต่อกัน

รายชื่อ 11 ตัวจริงของปารีส แซงต์-แชร์กแมง
เคย์เลอร์ นาบาส (GK), อาชราฟ ฮาคิมี, ธีโล เคห์เรอร์, เพรสเนล คิมเพมเบ, อับดู ดิยัลโล, อันเดร์ เอร์เรรา, เอริค ดีนา, จอร์จินโญ ไวจ์นัลดุม, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์, คีเลียน เอ็มบัปเป, เมาโร อิคาร์ดี


ผลการแข่งขันลีกเอิง ฝรั่งเศส วันที่ 14 สิงหาคม 2564 คู่อื่นๆ 
ลีลล์ 0-4 นีซ 
#11470


กฟผ. ได้รับรางวัลองค์กรดีเด่นด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม Princess Health Award 2021 จากกระทรวงสาธารณสุข เกิดจากความร่วมมือของพันธมิตรทุกเครือข่าย ในการดำเนินภารกิจหลักของ กฟผ. ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งสร้างสุขภาวะที่ดีเพื่อความสุขที่ยั่งยืนของคนไทยอย่างยั่งยืน

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า รางวัลดังกล่าว เกิดจากความร่วมมือของทุกเครือข่าย นับตั้งแต่ หน่วยงานกำกับดูแล ชุมชน สังคม สื่อมวลชนที่ได้ติดตาม ให้ข้อเสนอแนะการดำเนินงานของ กฟผ. ตลอดจนความร่วมมือในการขับเคลื่อนการสร้างสุขภาวะที่ดีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้กับคนไทย ผ่านโครงการปลูกป่า กฟผ. โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยังยืน โครงการแว่นแก้ว รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพต่าง ๆ อาทิการจัดงานวิ่ง งานแข่งจักรยาน และการสนับสนุนกีฬาต่าง ๆ ในระดับประเทศ

โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา กฟผ. ได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน สนับสนุนการกู้วิกฤต ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่ความพยายามลดการระบาดของโรค การป้องกัน การรักษา เยียวยา โดยเริ่มจากการดูแลพนักงาน เน้นการรักษาตัวเพื่อรักษาหน้าที่เพื่อให้สามารถนำศักยภาพขององค์กรมาเร่งสนับสนุนในทุก ๆ ด้านอย่างสุดกำลัง อาทิ ผลิตเจลอนามัยน้ำใจ กฟผ. ผลิตตู้ตรวจโควิดกว่า 600 ตู้ผลิตชุดหมวกป้องกันเชื้อ PAPR กว่า 1,000 ชุด รวมทั้งจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม-ศูนย์พักคอย ระดมทุนจัดหาเตียงสนามและสิ่งของจำเป็นอีก 3,500 ชุด ร่วมสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน เป็นต้น เพื่อร่วมสร้างพลังให้ทุกภาคส่วนสามารถฝ่าฟันและผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด

"จะเห็นได้ว่า ทุกความมุ่งมั่นที่ กฟผ. ได้ดำเนินการเพื่อสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม ล้วนสำเร็จได้จากแรงกายแรงใจจากทุกภาคส่วน กฟผ. จึงขอขอบคุณและขอมอบรางวัลนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้มีส่วนร่วม ตลอดจนคนไทยทุกคนที่คอยเป็นแรงใจให้ กฟผ. ซึ่งเป็นของคนไทย ได้ทำเพื่อคนไทยทุกคน" นายบุญญนิตย์ กล่าว
#11472


สาวน้อยมหัศจรรย์ "บิลลี ไอลิช" เปิดตัวแรงสมศักดิ์ศรีซูเปอร์สตาร์แห่งยุค ส่งอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever" คว้าอันดับ 1 บนชาร์ต billboard 200 พร้อมเปิดตัวด้วยยอดขาย 238,000 อัลบั้มภายในสัปดาห์แรก มากเป็นอันดับที่ 5 ของปี 2021

"บิลลี ไอลิช" (Billie Eilish) ซูเปอร์สตาร์คนดังที่ถูกยกให้เป็นสาวน้อยมหัศจรรย์แห่งยุค กลับมาทวงคืนบัลลังก์ พาอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever"คว้าอันดับ 1 บนชาร์ต billboard 200 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

Happier Than Ever นับเป็นอัลบั้มที่ 2 ของบิลลีที่สามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต billboard 200 โดยก่อนหน้านี้อัลบั้มแรกของเธอ คือ "When We All Fall Asleep, Where Do We Go?" ก็เปิดตัวคว้าอันดับหนึ่งไปเมื่อปี 2019 พร้อมสร้างชื่อเสียงให้เธอกลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่แห่งยุค

Happier Than Ever อัลบั้มใหม่ของ บิลลี ไอลิช
Happier Than Ever อัลบั้มใหม่ของ บิลลี ไอลิช

อัลบั้ม "Happier Than Ever" เปิดตัวด้วยยอดขาย 238,000 อัลบั้มภายในสัปดาห์แรก มากเป็นอันดับที่ 5 ของปี 2021 โดยมีอัลบั้ม "SOUR" ของ "Olivia Rodrigo" ที่เปิดตัวเป็นอันดับ 1 ในชาร์ต ด้วยยอดขายเทียบเท่า 295,000 อัลบั้ม

ขณะที่ก่อนหน้าอัลบั้ม "Happier Than Ever" จะปล่อยออกมาให้ฟังกันแบบเต็ม ๆ บิลลี ได้ปล่อยเพลงใหม่ในอัลบั้มนี้ ออกมา 5 เพลงด้วยกัน ได้แก่ "my future", "Therefore I Am", "Your Power", "Lost Cause" และ "NDA" ที่ขึ้นไปอยู่ใน 40 อันดับแรกบนชาร์ต Billboard Hot 100 โดยเพลงแรกที่เข้าไปอยู่บน Billboard Hot 100 ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2563 คือเพลง "my future"

บิลลี ไอลิช ใน MV เพลง Happier Than Ever
บิลลี ไอลิช ใน MV เพลง Happier Than Ever

อัลบั้ม "Happier Than Ever" เป็นอัลบั้มที่ บิลลี ไอลิช ได้สื่อสารความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมาให้คนฟังได้สัมผัส อีกทั้งยังได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเธอในหลากหลายแง่มุม ทั้งวุฒิภาวะ มุมมองการใช้ชีวิต

นอกจากนี้ บิลลี ไอลิช ยังได้โชว์ศักยภาพในผสมผสานระหว่างดนตรีคลาสสิกเก่า ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปินที่เธอชื่นชอบ เข้ากับซาวด์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธออีกด้วย

เรียกได้ว่า Happier Than Ever เป็นอัลบั้มที่มีความล้ำแรงมาแรงชนิดที่ FC ของสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

บิลลี ไอลิช ส่งอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever" คว้าอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด 
บิลลี ไอลิช ส่งอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever" คว้าอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด


รายชื่อเพลงในอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever" ของบิลลี ไอลิช

1. Getting Older
2. I Didn't Change My Number
3. Billie Bossa Nova
4. my future
5. Oxytocin
6. GOLDWING
7. Lost Cause
8. Halley's Comet
9. Not My Responsibility
10. OverHeated
11. Everybody Dies
12. Your Power
13. NDA
14. Therefore I Am
15. Happier Than Ever
16. Male Fantasy
#11473


ถึงนาทีนี้ธุรกิจโรงแรมยังมองไม่เห็นหนทางฟื้นจากอาการโคม่า ล่าสุดแบงก์ชาติเผยผลสำรวจผู้ประกอบการโรงแรมยังอ่วมพิษโควิด-19 ทรุดลงต่อเนื่อง สภาพคล่องหดหายอยู่ได้อีกไม่เกิน 3 เดือน ขณะที่อัตราการเข้าพักดิ่งสุดเหลือแค่ 10% ร้องขอวัคซีน-พักหนี้-พยุงการจ้างงาน 

ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม (HSI) ซึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกเดือนยังไม่มีทีท่าจะผ่านพ้นวิกฤต หนำซ้ำกลับหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ แม้รัฐบาลจะพยายามกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศและเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ด้วยโครงการนำร่อง  "ภูเก็ตแซนด์บอกซ์"  เชื่อมโยงกับจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ก็ตาม

ล่าสุด ผลสำรวจฯ ในเดือนกรกฎาคม 2564 จากผู้ประกอบการที่พักแรม 304 แห่ง (เป็น ASQ 28 แห่ง Hospitel 4 แห่ง) ระหว่างวันที่ 13-26 กรกฎาคม 2564 พบว่า ผู้ประกอบการที่พักแรมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อเนื่อง โดยอัตราการเข้าพักยังอยู่ในระดับต่ำมาก เฉลี่ยอยู่ที่ 10% ซึ่งทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้เกือบ 60% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่มีสภาพคล่องลดลงจากเดือนก่อน และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน ขณะที่การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติส่งผลบวกต่ออัตราการเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก

ทั้งนี้ หากไม่รวมกลุ่มที่ปรับตัวมารับลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในไทย และ workation, staycation รวมถึงกลุ่มที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการ "แซนด์บ็อกซ์" ซึ่งส่วนมากเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคม 2564 จะอยู่ที่เพียง 6.5% เท่านั้น ส่วนคาดการณ์อัตราการเข้าพักทั้งประเทศในเดือนสิงหาคม 2564 จะปรับลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 8% โดยทุกภูมิภาคของประเทศไทยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำกว่า 10%

อัตราการเข้าพักที่ลดลงดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบทำให้ 58% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ มีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2564 และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน และมีอีก 23% ที่มีสภาพคล่องเพียงพอไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ ขณะที่ 57% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด รายได้ยังกลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

จากการสำรวจสถานะกิจการของผู้ประกอบการ 272 แห่ง (ไม่รวม ASQ และฮอสพิเทล) มีโรงแรมเพียง 40.1% ที่ยังเปิดกิจการปกติ ที่เหลือ 38.2% เปิดกิจการเพียงบางส่วน และอีกกว่า 21.7% ที่ยังปิดกิจการชั่วคราว โดยสัดส่วนของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย.เล็กน้อย 2.2%

ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่า จากโรงแรมจำนวน 272 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็น ASQ และ Hospitel) พบว่า 56% ของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวนั้น คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้งในไตรมาส 4/2565 และราว 13.6% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ในไตรมาส 1/2565 ส่วนอีก 6.8% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ในไตรมาส 2/2565 และอีก 11.9% จะกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

 ขณะที่สถานการณ์รายได้ในเดือนกรกฎาคม พบว่าโรงแรมส่วนใหญ่ยังมีรายได้อยู่ในระดับต่ำ โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 56.9% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด มีรายได้กลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ส่วนโรงแรมที่มีรายได้ที่ระดับ 11-30% มีสัดส่วน 18.3%, โรงแรมที่มีรายได้ระดับ 31-50% มีสัดส่วน 3.6%, โรงแรมที่มีรายได้ระดับ 51-70% มีสัดส่วน 7.1% และโรงแรมที่มีรายได้ระดับมากกว่า 70% มีสัดส่วน 14.2% 

สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ส่งผลบวกต่ออัตราการเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก โดยพบว่า 50% ของโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต มองว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นไปตามที่คาด ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 16% ขณะที่อีก 43% ของโรงแรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มองว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แย่กว่าที่คาด โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่อยู่ในระดับต่ำเพียง 6% เท่านั้น และพบว่าผู้ประกอบการโรงแรมกว่า 69% เห็นด้วยกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นโรงแรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมกลับมาจ้างงานเฉลี่ย 53% ของช่วงก่อนเกิดโควิด-19 (หากไม่รวมกลุ่มปิดกิจการชั่วคราวจะเฉลี่ยอยู่ที่ 59%)



 นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ระบุว่า ปัจจุบันการจ้างงานในภาคการท่องเที่ยวลดลงแล้วกว่า 50% หากดูตัวเลขในภาวะปกติจะมีโรงจดทะเบียนกับสมาคม 16,282 โรงแรม มีพนักงานในระบบมากกว่า 860,000 คน แต่หลังจากโควิด-19 คาดว่ามีพนักงานตกงานมากกว่า 460,000 คน และออกจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวไปแล้ว ที่เหลืออีกประมาณ 400,000 คน อาจได้รับเงินเดือนไม่เต็มเดือน ลดเวลาทำงาน เพราะโรงแรมไม่มีรายได้เลย

หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งระบบ สมาคมโรงแรมไทย ได้เรียกร้องต่อรัฐบาลให้เข้ามาช่วยเหลือ เช่น การจัดหาและกระจายวัคซีนให้เร็วกว่าแผน, มาตรการช่วยเหลือเงินกู้และพักชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย เพื่อพยุงไม่ให้ผู้ประกอบการขายกิจการทิ้ง, ขอลดต้นทุนค่าไฟฟ้า รวมทั้งการสนับสนุนค่าจ้างเพื่อพยุงการจ้างงานรอวันธุรกิจฟื้นคืน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ  "โครงการโกดังพักหนี้"  ที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมนั้น นายกสมาคมโรงแรมไทย สะท้อนว่า ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการน้อยกว่าเท่าที่ควร เนื่องจากแบงก์พาณิชย์มีเงื่อนไขมากมาย เช่น ให้เฉพาะลูกหนี้ชั้นดี มูลค่าหนี้ต่ำ ทำให้ยากเข้าถึงความช่วยเหลือ

ส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินำร่อง "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" นั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ช่วง 40 วันของโครงการ นับจากวันที่ 1 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 25664 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการสะสม 18,654 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 18,602 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 52 คน

ด้านยอดจองห้องพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA+ พบว่าตลอดไตรมาส 3/2564 มีจำนวน 353,529 คืน แบ่งเป็นเดือนกรกฎาคม 190,843 คืน เดือนสิงหาคม 143,566 คืน และเดือนกันยายน 19,120 คืน ส่วนยอดการจองในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 – กุมภาพันธ์ 2565 มีจำนวน 9,797 คืน

แต่อย่างไรก็ตาม ความพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มียอดผู้ติดเชื้อรายวันทะลุขึ้นหลัก 2 หมื่นคนแล้วนั้น ยังยากที่จะประสบผลสำเร็จ หลายชาติมีคำเตือนต่อพลเมืองที่จะเดินทางมายังไทย โดยล่าสุดหน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐ หรือ ซีดีซี (U.S. Centers for Disease Control and Prevention) ยกระดับให้ไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมากต่อการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังปรับคำเตือนสูงสุดขั้นที่ 4 สำหรับผู้ที่จะเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 70 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มที่ 4 เช่นเดียวกับไทย เช่น บราซิล ชิลี อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ขณะที่ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรปได้ถอดรายชื่อประเทศไทยออกจากลิสต์ประเทศที่ปลอดภัย (EU White List) จากการระบาดของโควิด-19

 นับเป็นมหาวิกฤตของธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวที่ยังคงมืดมนอนธการ ไม่ต่างไปจากอนาคตของประเทศไทยในยามนี้ 
#11474


รัสเซลล์ เฮนลีย์ นักกอล์ฟมือ 56 ของโลกชาวอเมริกัน รักษาเก้าอี้ผู้นำศึก วินด์แฮม แชมเปียนชิพ อย่างเหนียวแน่นด้วยสกอร์ 14 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ กิรเดช อภิบาลรัตน์ หนึ่งเดียวจากเมืองไทย ผ่านตัดตัวเข้าไปลุยต่อจนจบ

ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ วินด์แฮม แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 212 ล้านบาท) ณ สนาม เซดเกฟิลด์ คันทรี คลับ ระยะ 7,127 หลา พาร์ 70 สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา เข้าสู่การดวลสวิงวันที่สอง

ปรากฏว่า รัสเซลล์ เฮนลีย์ สวิงชาวอเมริกัน ยังเกาะตำแหน่งผู้นำต่อ หลังออกไปตีเพิ่มอีก 6 อันเดอร์ รวมสกอร์เป็น 14 อันเดอร์พาร์ เหนือกว่า รอรี ซับบาตินี, เว็บบ์ ซิมป์สัน, สกอตต์ เพียร์ซี อันดับ 2 ร่วมทั้ง 3 คนอยู่ 4 สโตรก

ด้านสวิงมือดังคนอื่นๆ จัสติน โรส จอมเก๋าชาวอังกฤษ เก็บได้อีก 5 อันเดอร์ สกอร์ขยับเป็น 9 อันเดอร์พาร์ ขึ้นมาที่ 5 ร่วม ตามด้วย ทอมมี ฟลีตวูด ขวัญใจชาวเมืองผู้ดี สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 23 ร่วม

ส่วนฝั่งของ "โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์ หนึ่งเดียวจากไทย รอบนี้ตี 3 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี จบวันได้มา 2 อันเดอร์ สกอร์เพิ่มเป็น 6 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 23 ร่วม ได้เชียร์กันต่อในอีกสองวันที่เหลือจากนี้
#11475
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208