• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Jenny937

#8521



นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย  (คปภ.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย เข้าสู่ระลอก 3 ที่กระจายไปทั่วเป็นวงกว้าง และเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำนักงาน คปภ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับมาตรการของรัฐบาลที่ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้เอาประกันภัย

โดยการขยายความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ขยายความคุ้มครองการรักษาพยาบาลเนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนามหรือ hospitel ให้ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย เช่นเดียวกับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลทั่วไป และขยายความคุ้มครองกรณีผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่กระทำการโดยแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรที่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย ไม่ว่าจะดําเนินการ ณ สถานที่ใดก็ตาม ให้ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลทั่วไป  


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ยังคงไม่คลี่คลายและทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไม่เพียงพอ การเพิ่มโรงพยาบาลสนามหรือ hospitel ไม่ทันกับการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยติดเชื้อ และสิ่งที่สำคัญคือบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยมีหลายรายต้องติดเชื้อ ทำให้มีจำนวนไม่เพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ รัฐบาลจึงได้มีแนวทางปรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกแนวทางการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ให้ได้รับการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation 

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพและการประกันภัย โควิด-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน พบว่า ยังไม่ครอบคลุมถึงกรณีการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation ซึ่งย่อมทำให้ผู้เอาประกันภัยซึ่งเข้ารับการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation ไม่สามารถเคลมประกันได้

ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมและให้ระบบประกันภัยเข้าไปบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐและบุคลากรทางการแพทย์ ล่าสุด  คปภ. จึงได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย

โดยได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ระบบประกันภัยควรจะเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องนี้ ตนในฐานะนายทะเบียนจึงได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 43/2564 เรื่อง การจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ "ประกันโควิด" และได้เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation

สำหรับบริษัทประกันชีวิต และคำสั่งนายทะเบียนที่ 44/2564 เรื่อง การจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation

สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าผู้เอาประกันภัยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีการดูแลรักษาแบบดังกล่าว โดยกรณีกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก ให้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากวงเงินความคุ้มครองผู้ป่วยนอกตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์ หรือกรณีตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในให้อนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอก ตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์ ส่วนกรณีกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ก็ให้อนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอกตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์

นอกจากนี้ ยังให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าชดเชยรายวันกรณี Home Isolation หรือ Community Isolation หากมีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาล เช่น อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ โดยจ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่าชดเชยรายวัน สูงสุด 14 วัน นับแต่วันที่มีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาลแต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ

อีกทั้งคำสั่งนายทะเบียนนี้ยังเปิดช่องให้บริษัทประกันภัยสามารถจ่ายเพิ่มเติมได้ตามที่เห็นสมควร นอกเหนือจากการจ่ายตามที่คำสั่งกำหนด โดยคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว มีผลใช้บังคับกับสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน ซึ่งบริษัทออกให้แก่ผู้เอาประกันภัย ทั้งก่อนและหลังวันที่มีคำสั่ง (วันที่ 29 กรกฎาคม 2564) จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564


"การออกคำสั่งนายทะเบียนทั้งสองฉบับนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สำหรับการดำเนินการต่อไปเพื่อให้ระบบประกันภัยสามารถรองรับความเสี่ยงในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้สอดคล้องกับมาตรการทางด้านสาธารณสุข สำนักงาน คปภ. จะได้เร่งส่งเสริมให้มีการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยให้ครอบคลุมถึงกรณีการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation ต่อไป ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ Add Line Official @oicconnect"
#8522



ผมร่วง ผมบาง เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลงไปตามวัย เป็นพันธุกรรมที่เกิดขึ้นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงจนทำให้สูญเสียความมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมรอบด้าน, อาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิต, การสวมหมวกและการจัดแต่งทรงผม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุให้ผมร่วงได้ทั้งสิ้น

ผมร่วง ผมบาง เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลงไปตามวัย เป็นพันธุกรรมที่เกิดขึ้นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงจนทำให้สูญเสียความมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมรอบด้าน, อาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิต, การสวมหมวกและการจัดแต่งทรงผม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุให้ผมร่วงได้ทั้งสิ้น

ผมร่วง เกิดจากอะไร

เส้นผมของคนส่วนใหญ่ ร่วงอยู่ราว 50-100 เส้นต่อวัน อันเป็นตัวเลขที่ไม่น่ากังวล เพราะเส้นผมจะเจริญเติบโตงอกขึ้นมาทดแทนผมที่หลุดร่วงไป แต่กรณีที่เรียกว่าผมร่วงเยอะมากจนเป็นปัญหา คือการหลุดร่วงจนผมบาง เส้นผมงอกชดเชยใหม่ไม่ทัน สาเหตุของอาการผมร่วงหนักๆ มีดังนี้

1. ผมร่วงจากพันธุกรรม
ลักษณะอาการผมร่วงเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม หากมีประวัติทางครอบครัวว่าปู่ย่า ตายาย หรือญาติตามลำดับขั้นที่มีอาการผมร่วง ผมบาง เป็นอาการตามวัยที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะผมบางในบริเวณเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกันในหมู่เครือญาติ สู่ลูกหลาน

2. ผมร่วงจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจากภาวะต่างๆ
ผมร่วงเยอะมาก จากภาวะที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น คลอดบุตร เครียด ฯลฯ จะส่งผลให้เกิดอาการผมร่วงเป็นกระจุก หากดูแลรักษาไม่ถูกวิธีมีโอกาสติดเชื้อที่ผิวหนังศีรษะจากเชื้อราด้วย


3. ผมร่วงจากกระบวนการรักษาทางการแพทย์
เมื่อร่างกายได้รับยา หรือรับการรักษาทางการแพทย์ ผมร่วงอาจเป็นผลข้างเคียงหนึ่งที่เกิดขึ้น มักเกิดจากขั้นตอนการรักษามะเร็ง, โรคหัวใจ, โรคไขข้ออักเสบ, โรคเกาต์ และโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

4. ผมร่วงจากการฉายรังสี
การรักษาด้วยวิธีฉายรังสี หรือที่เรียกว่าทำคีโม ทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน เส้นผมอาจไม่กลับมาหนาดกดำเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว จะค่อยๆ ขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

5. ผมร่วงจากความเครียด
ความเครียดส่งผลให้ผมร่วง ผมบาง ซึ่งเป็นลักษณะทางกายภาพที่ร่างกายแสดงออกมาให้เห็นว่าร่างกายของคุณกำลังเผชิญกับความเครียด ผมร่วงประเภทนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แก้ไขให้หายได้

6. ผมร่วงการจัดแต่งทรงผม
เมื่อต้องจัดแต่งทรงผมขณะที่ผมยังไม่แห้งสนิท ความร้อนจากไดร์ และความชื้นจากสารเคมีในทรีทเมนต์จัดแต่งทรงผมการซึมซาบเข้าสู่ผิวหนัง และรากผม ทำให้เกิดการอักเสบ เร่งให้ผมร่วงเยอะได้

วิธีแก้ผมร่วง เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

ปัจจัยที่ทำให้ผมร่วงเยอะ นอกจากพันธุกรรมแล้ว ยังรวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิต การพักผ่อนน้อย เกิดความเครียด น้ำหนักลด อายุที่มากขึ้น หรือการรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าสารอาหารมากพอ ฉะนั้น วิธีแก้ไขผมร่วงได้ดีที่สุดคือปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต กินอาการที่มีประโยชน์ และลดความเครียดในทุกๆ วัน

กรณีที่เกิดผื่นคัน และมีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะผิดปกติ ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำรักษาอย่างถูกวิธี
#8523


รวมแอปคุยกับหมอ สะดวก รวดเร็ว ปรึกษาแพทย์ได้ง่าย ผ่านแอปปรึกษาหมอออนไลน์ ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่ต้องการออกจากบ้าน แอปไหนน่าสนใจ ไปดูกัน

วิธีเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 เป็นวิธีที่ใช้กันทั่วโลก แต่เมื่อประชาชนส่วนหนึ่งมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ด้วยโรคอื่นที่อาจไม่ใช่โควิดก็กังวลใจ ไม่สะดวกออกจากบ้าน โดยเฉพาะคนสูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นการหาหมอออนไลน์ หรือการใช้แอปคุยกับคุณหมอออนไลน์ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับช่วงเวลานี้

หาหมอออนไลน์ที่ไหนได้บ้าง
แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ
แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ
แอปปรึกษาหมอและเว็บไซต์หาหมอออนไลน์ เริ่มใช้ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีทั้งแอปคุยกับหมอ ปรึกษาหมอผ่านช่องทางฟรี และเสียค่าบริการเอง เป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยที่ต้องการเข้าถึงแพทย์โดยไม่ต้องเดินทาง รูปแบบของการหาหมอออนไลน์ มีดังนี้

แอปพลิเคชัน เก็บข้อมูลผู้ป่วย ก่อนพบแพทย์
เว็บไซต์ จองเวลาพบแพทย์ และเปิดกล้องพูดคุยกับแพทย์
ไลน์ ใช้ฟีเจอร์ VDO พูดคุยกับแพทย์
ผู้ป่วยที่ใช้แอปพลิเคชันหาหมอออนไลน์ยินดีที่จะเสียค่าบริการและเสียค่ายาจากแอป หรือเว็บที่เชื่อถือได้มากกว่าฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานฟรี เพราะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า แต่หากต้องการชำระค่ายาที่ถูกลงก็มีบางแอป หรือเว็บที่ให้บริการผู้ป่วยตามสิทธิเบิกประกันต่างๆ โดยผู้ให้บริการมีทั้งรูปแบบเอกชนและโรงพยาบาล ดังนี้

1. ALive Powered by AIA

แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ ALive Powered by AIA
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน ALive Powered by AIA
ค่าใช้จ่าย : ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ฟรี 1 ครั้ง หลัง 15 นาทีแรก 500 บาท

แอปพลิเคชัน ALive Powered by AIA แอปคุยกับหมอและปรึกษาหมอออนไลน์ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการขอคำปรึกษาจากแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสุขภาพของลูกน้อย การตั้งครรภ์ การดูแลเด็กแรกเกิด ไปจนถึงสุขภาพทั่วไปของทุกคนในครอบครัว

โดยสามารถใช้บริการแอปคุยกับหมอ หรือปรึกษาหมอออนไลน์ได้แบบง่ายๆ เพียงลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัวภายในแอป เมื่อเสร็จเรียบร้อยจะมีพยาบาลติดต่อกลับมา เพื่อนัดวันและเวลา หลังจากนั้นก็สามารถพูดคุยกับแพทย์จากโรงพยาบาลสมิติเวชได้เลยทันที! ผ่าน VDO Call ฟรี 1 ครั้ง สำหรับการใช้งานครั้งแรก

นอกจากแอป ALive Powered by AIA จะเป็นแอปคุยกับหมอที่สามารถปรึกษาได้ทั้งเรื่องสุขภาพของคนในครอบครัวและโรคทั่วไปแล้ว ภายในแอปยังมี Feature อื่นๆ ที่น่าสนใจให้คุณพ่อคุณแม่ที่เตรียมตั้งครรภ์หรือกำลังมีลูกน้อย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การณ์อื่นๆ ภายในแอปได้อีกด้วย บอกเลยว่าเป็นแอปคุยกับหมอที่ จบ ครบ ในที่เดียว

ไม่เพียงเท่านี้ ทางแอปพลิเคชัน ALive Powered by AIA ยังมีสิทธิพิเศษที่คอยมอบให้กับผู้ใช้งานอยู่เรื่อยๆ อีกด้วยนะ ที่เคยแจกมาก็มีทั้ง Shopee voucher และแผนประกันคุ้มครองการเสียชีวิตกรณีเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี เมื่อดาวน์โหลดและลงทะเบียนเริ่มต้นใช้งาน

*เงื่อนไขในการรับสิทธิพิเศษหรือรับบริการเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

ดาวน์โหลดแอป ALive Powered by AIA ได้ที่ >> App store & Google play store

2. ศิริราชคอนเน็กต์ (Siriraj Connect)

แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ ศิริราชคอนเน็กต์ Siriraj Connect
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน Siriraj Connect, LINE
ค่าใช้จ่าย : เบิกสิทธิ 30 บาท, ประกันสังคม, เบิกตรงได้

ผู้ป่วยต้องดาวน์โหลดแอปคุยกับหมอ Siriraj Connect แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะโทรมานัดวันและเวลาพูดคุยกับแพทย์ผ่าน VDO Call

บริการพบแพทย์จากศิริราช จะต้องนัดหมายก่อน และใช้วิธีพูดคุยผ่าน VDO ในแอปไลน์ได้ จึงสะดวกต่อผู้ใช้งานทุกท่านที่มีแอปไลน์ นอกจากนี้ยังใช้สิทธิ 30 บาท, ประกันสังคม, เบิกจ่ายตรงกับหน่วยงานหรือบริษัทต่างๆ โดยส่งเอกสารรับรองสิทธิผ่าน Siriraj Connect เมื่อทางทีมงานศิริราชอนุมัติการส่งเอกสารรับรองสิทธิ หลังจากตรวจสอบสถานะสิทธิแล้วก็เข้าสู่กระบวนการรักษา ขั้นตอนสุดท้ายต้องชำระค่ายาภายใน 15.00 น. ของวันที่ตรวจ แล้วจะได้รับยาทางไปรษณีย์

3. สมิติเวช เวอร์ชัวล์ ฮอสพิทอล (Samitivej Virtual Hospital)

แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ สมิติเวช เวอร์ชัวล์ ฮอสพิทอล Samitivej Virtual Hospital
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน Samitivej Plus, LINE @samitivejchinatown
ค่าใช้จ่าย : 15 นาที 500 บาท

ช่องทางหาหมอออนไลน์ หรือแอปคุยกับหมอจากสมิติเวช เปิดให้บริการเป็นเจ้าแรกๆ และไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา เมื่อรู้สึกเจ็บป่วยต้องการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ป่วยสามารถติดต่อกับแพทย์ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Samitivej Plus ผ่านไลน์และเว็บไซต์ของสมิติเวช แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายส่วนปรึกษาแพทย์ 15 นาที 500 บาท แต่เข้าร่วมสิทธิเบิกประกันกับบริษัทประกันภัยบางแห่ง นอกจากนี้หากผู้ป่วยต้องติดตามอาการ และต้องรับบริการอื่นๆ อาทิ เจาะเลือด และจัดส่งยาที่ต้องรักษาอุณหภูมิ ทางสมิติเวชก็มีทีมบริการที่ไปให้บริการถึงบ้าน โดยให้บริการเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครก่อน ส่วนพื้นที่อื่นๆ ต้องรอติดตามต่อไป

4. รักษา (Raksa)

แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ รักษา Raksa
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน Raksa, เว็บไซต์ www.doctorraksa.com
ค่าใช้จ่าย : 15 นาที 200 บาท

แอปคุยกับหมอรักษา (Raksa) ให้บริการเหมือนแอปหาหมอออนไลน์สมิติเวชตรงที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง แต่ระบุหมอจากโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่งไม่ได้ ใช้วิธีการเลือกตามรายชื่อแพทย์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ และจัดยาโดยเภสัชกรที่เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์เช่นกัน เป็นแอปปรึกษาหมอที่เหมาะสำหรับปรึกษาโรค และอาการเจ็บป่วยทั่วไปที่ไม่ฉุกเฉิน หรือให้แพทย์ช่วยประเมินอาการเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป พื้นที่กรุงเทพมหานครรับยาได้ 1 ชั่วโมง ต่างจังหวัดจัดส่งทางไปรษณีย์รอรับยาได้ 1-2 วัน

5. ใกล้มือหมอ

แอปคุยกับหมอ ใกล้มือหมอ
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน "ใกล้มือหมอ"
ค่าใช้จ่าย : ฟรี

แอปพลิเคชันใกล้มือหมอ หรือแอปคุยกับหมอ เป็นช่องทางหาหมอออนไลน์ฟรี ที่ประเมินอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยได้แม่นยำถึง 70-80% โดยเป็นแอปคุยกับหมอที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีคำถามเกี่ยวกับอาการง่ายๆ ของตัวเอง เพื่อช่วยประเมินอาการก่อนเลือกตัดสินใจรักษาต่อไปได้ พร้อมวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น เหมือนมีหมอมาคอยซักอาการ และให้ความรู้ของโรคเพื่อให้คุณดูแลสุขภาพตัวเองได้ แต่หากพบว่าเป็นอาการที่มีความเสี่ยงก็จะมีรายชื่อของสถานพยาบาลใกล้เคียงให้คุณติดต่อเพื่อเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที

6. ดอกเตอร์มี (DoctorME)

แอปคุยกับหมอ DoctorMe
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน DoctorME
ค่าใช้จ่าย : ฟรี

แอปพลิเคชันดอกเตอร์มี (DoctorME) เป็นแอปดูแลตัวเองที่พัฒนามายาวนานที่สุด เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2554 และพัฒนามาหลายเวอร์ชัน โดยเป็นการออกแบบร่วมกันระหว่าง สสส., มูลนิธิหมอชาวบ้าน, สถาบัน ChangeFushion และบริษัทโอเพ่นดรีม เพื่อให้ผู้ป่วยใช้งานบน Smart Phone และแท็บเล็ตได้เบื้องต้น โดยให้ความรู้เกี่ยวกับโรค อาการเจ็บป่วย วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมถึงการดูแลตัวเองด้วยการใช้ยาต่างๆ ได้ที่บ้าน แม้ว่าจะมีวิธีการเช็กอาการได้เบื้องต้น แต่ยังไม่สามารถนัดพูดคุยกับแพทย์ได้โดยตรง แอปนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลโรคภัยใกล้ตัว ควรโหลดติดเครื่องไว้

โดยรวมแล้วแอปคุยกับหมอ หรือเว็บไซต์ให้บริการหาหมอออนไลน์ ช่วยให้ผู้ป่วยอุ่นใจมากขึ้น และได้รับคำตอบที่ตรงกับโรคที่แท้จริง มากกว่าการสอบถามจากผู้ที่ไม่ได้มีความรู้โดยตรง หรืออ่านข้อมูลโรคจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ รวมถึงมีข้อปฏิบัติที่ถูกต้องแนะนำให้ผู้ป่วยได้ดูแลตัวเองให้ถูกจุด ในยุคนี้การใช้บริการผ่านแอปปรึกษาหมอจึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ ที่อยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพตัวจริง

https:// www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2010997
#8524



"ตับ" เป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีหน้าที่สำคัญหลายประการ เช่น เป็นแหล่งสะสมพลังงาน สารอาหาร และวิตามินต่างๆ ควบคุมระบบเผาผลาญของร่างกาย สร้างน้ำดีเพื่อช่วยย่อยและดูดซึมอาหารประเภทไขมัน สร้างโปรตีนช่วยการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้ตับยังมีหน้าที่ขจัดยาหรือสารพิษออกจากร่างกาย และทำลายเชื้อโรคที่ผ่านมาทางกระแสเลือดอีกด้วย ซึ่งหากตับเกิดความผิดปกติเรื้อรัง เช่น การอักเสบหรือผังผืด ทำให้ตับไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ อาจตามมาด้วยการเป็นโรคตับแข็ง หรือตับวายเรื้อรัง และเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้

ในปัจจุบันมีการรักษาโรคตับแข็ง หรือตับวายเรื้อรัง โดยการปลูกถ่ายตับ ทำให้ผู้ป่วยสามารถหายขาดและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ ซึ่งบทความ "ศุกร์สุขภาพ" สัปดาห์นี้จะกล่าวถึงเฉพาะการปลูกถ่ายตับในเด็กเท่านั้น

สาเหตุที่ทำให้เด็กต้องได้รับการปลูกถ่ายตับ

สาเหตุของ โรคตับแข็ง หรือตับวายเรื้อรัง ที่ทำให้เด็กต้องได้รับการปลูกถ่ายตับมากที่สุดคือ โรคท่อน้ำดีตีบตันแต่กำเนิด โดยเด็กจะเริ่มมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ตั้งแต่อายุ 1-2 เดือน และมีอุจจาระสีซีด แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคจากการตรวจเลือด อัลตราซาวนด์และฉีดสารทึบรังสีบริเวณท่อน้ำดี

หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าโรคท่อน้ำดีตีบตันแต่กำเนิด คนไข้จะได้รับการผ่าตัดแก้ไขทางเดินน้ำดีก่อน ซึ่งควรทำในอายุไม่เกิน 2 เดือน จึงจะให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหากบางรายที่การผ่าตัดไม่ได้ผล หรือวินิจฉัยช้า จะส่งผลให้เด็กเป็นโรคตับแข็งตามมา และจะต้องปลูกถ่ายตับภายในอายุ 2-3 ปี ไม่เช่นนั้นเด็กจะเสียชีวิต ซึ่งในอดีตมีเด็กจำนวนหนึ่งต้องเสียชีวิตจากภาวะตับแข็ง เนื่องจากยังไม่มีการผ่าตัดปลูกถ่ายตับ

ภาวะหรือโรคอื่นๆ ที่พบไม่บ่อย แต่อาจเป็นสาเหตุทำให้เด็กต้องได้รับการปลูกถ่ายตับได้ เช่น ภาวะตับวายเฉียบพลัน ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เด็กจะมาด้วยอาการตัวเหลือง ซึมลง มีเลือดออกผิดปกติ หลังจากที่ให้การรักษาแล้วยังไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องได้รับปลูกถ่ายตับ เพื่อการรักษาที่หายขาด โรคตับที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม เป็นต้น


การปลูกถ่ายตับ เป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน ต้องอาศัยทีมสหสาขาวิชาในการประเมินและการดูแลรักษาผู้ป่วย และผู้บริจาค อาทิ เช่น ศัลยแพทย์ปลูกถ่ายอวัยวะ กุมารศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ อายุรแพทย์และกุมารแพทย์โรคทางเดินอาหารและตับ พยาบาลประสานงาน นักสังคมสงเคราะห์ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบัน ผลลัพธ์ของการปลูกถ่ายตับในเด็กอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว

ขั้นตอนการปลูกถ่ายตับเป็นอย่างไร

ตับบริจาคได้มาจากไหน?

การบริจาคตับ ได้มาจากผู้บริจาค 2 ประเภท ได้แก่ ผู้บริจาคอวัยวะสมองตาย คือผู้บริจาคที่มีภาวะสมองตายโดยแจ้งผ่านทางสภากาชาดไทยและมีการกระจายให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ที่ลงทะเบียนปลูกถ่ายอวัยวะไว้ตามความเหมาะสม อย่างเป็นธรรม และอีกประเภท คือ ผู้บริจาคที่มีชีวิต ซึ่งเป็นญาติทางสายเลือดกับคนไข้

ในประเทศไทยผู้บริจาคอวัยวะสมองตาย ยังมีจำนวนไม่มากนัก และขนาดของตับมักจะไม่เหมาะกับขนาดตัวของเด็ก เพราะการปลูกถ่ายตับมักจะทำในเด็กอายุประมาณ 1-2 ปี ดังนั้นการปลูกถ่ายตับเด็กในประเทศไทยส่วนมากจะใช้ตับจากผู้บริจาคที่มีชีวิต ซึ่งเป็นพ่อหรือแม่ หรือญาติทางสายเลือดที่มีกรุ๊ปเลือดเข้ากันได้กับคนไข้

ใครที่บริจาคตับได้บ้าง?

ในการรับตับจากผู้บริจาคที่มีชีวิต ความปลอดภัยของผู้บริจาคมีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง แพทย์จึงจะประเมินผู้บริจาคอย่างละเอียด โดยผู้บริจาคต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ทั้งนี้แพทย์จะประเมินความพร้อมของร่างกาย โดยการตรวจเลือด และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นจะวางแผนการผ่าตัดแบ่งตับในขนาดที่เหมาะสมกับคนไข้ และไม่เป็นอันตรายต่อตัวผู้บริจาค รวมทั้งมีจิตแพทย์ร่วมประเมินภาวะของจิตใจว่าผู้บริจาคมีความพร้อมหรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องประเมินความพร้อมของครอบครัวในการดูแลผู้ป่วยหลังจากปลูกถ่ายตับเรียบร้อยแล้ว


ระหว่างการผ่าตัด

ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเอาส่วนหนึ่งของตับจากผู้บริจาคที่มีชีวิต (หรือตับทั้งหมด ในกรณีที่ได้ตับจากผู้บริจาคสมองตาย) มาใส่ให้กับผู้ป่วย โดยการนำตับเก่าของคนไข้ออก แล้วจึงผ่าตัดตับที่ได้รับบริจาคจากผู้บริจาคเข้าไปทดแทนตับเดิม โดยเย็บต่อเส้นเลือดและท่อน้ำดีเข้าด้วยกัน

สัปดาห์หน้ายังมีเรื่องราวน่ารู้ของการดูแลผู้ป่วยที่ผ่าตัดปลูกถ่ายตับเรียบร้อยแล้ว ข้อควรระวัง และสิทธิ์การผ่าตัดรักษาด้วยการปลูกถ่ายตับในเด็ก รอติดตามกันนะคะ

@@@@@@@

แหล่งข้อมูล

ผศ.พญ.ฉัตต์มณี เลิศอุดมผลวณิช ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
#8525
น้ำมันว่านสาวหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยมให้ทุกขวด  ขวดละ 299 บาท


เป็นว่านสาวหลงที่ทรงคุณค่าในทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างสูงสุด ถือกันว่าเป็นสุดยอดของว่านทางเสน่ห์มหานิยม ที่ไม่สามารถหาว่านชนิดอื่นใดมาเทียบเคียงได้อีกแล้ว ถ้าผู้ใดมีว่านนี้ปลูกไว้ในบ้านเรือนก็จะเป็นสิริมงคลเป็นยอดเสน่ห์แก่บ้านเรือนนั้นๆ ด้วย ท่านให้เอารากของว่านนี้มาฝนหรือบดผสมกับสีผึ้ง หรือแช่น้ำมันจันทน์ หรือเพียงแต่เอารากของว่านนี้ถือติดตัวไป ผู้คนทั้งปวงก็จะพากันงวยงงหลงรักใคร่ในผู้ที่มีว่านหรือทาน้ำมันหรือสีผึ้งที่เข้าว่านจนหมดสิ้น

คาถา กำกับ

มะอะอุ พุทธะสังมิ จิเรรุนิ นะชาลิติ ปิยังมะมะ

(ท่องเจ็ดจบ แล้วอธิษฐาน)

ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว




ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://www.lazada.co.th/products/-i1867990020-s5770410635.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store&mp=3
#8527
ออสซี่ออยล์
#8529
น้ำมันว่านสาวหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยมให้ทุกขวด  ขวดละ 299 บาท


เป็นว่านสาวหลงที่ทรงคุณค่าในทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างสูงสุด ถือกันว่าเป็นสุดยอดของว่านทางเสน่ห์มหานิยม ที่ไม่สามารถหาว่านชนิดอื่นใดมาเทียบเคียงได้อีกแล้ว ถ้าผู้ใดมีว่านนี้ปลูกไว้ในบ้านเรือนก็จะเป็นสิริมงคลเป็นยอดเสน่ห์แก่บ้านเรือนนั้นๆ ด้วย ท่านให้เอารากของว่านนี้มาฝนหรือบดผสมกับสีผึ้ง หรือแช่น้ำมันจันทน์ หรือเพียงแต่เอารากของว่านนี้ถือติดตัวไป ผู้คนทั้งปวงก็จะพากันงวยงงหลงรักใคร่ในผู้ที่มีว่านหรือทาน้ำมันหรือสีผึ้งที่เข้าว่านจนหมดสิ้น

คาถา กำกับ

มะอะอุ พุทธะสังมิ จิเรรุนิ นะชาลิติ ปิยังมะมะ

(ท่องเจ็ดจบ แล้วอธิษฐาน)

ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว




ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://www.lazada.co.th/products/-i1867990020-s5770410635.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store&mp=3
#8530



ถึงเวลาวงร็อกหัวมัน POTATO ปั๊บ, โอม, หั่ง, กานต์ และ อั้ม ลุกขึ้นมาปลุกอะดรีนาลินด้วยซิงเกิลที่ 3 "อีกไม่ช้า (SOON)" หนึ่งในเพลงจากอัลบั้มชุดที่ 8 "Friends" ที่ชักชวนเพื่อนร่วมวงการดนตรีอย่าง Slot Machine มาทำเพลงร่วมกันเป็นครั้งแรก

โดย ปั๊บ เล่าว่า "อีกไม่ช้า (SOON)" เป็นมุมมองที่เล่าถึงเรื่องของพระอาทิตย์-พระจันทร์ ที่ต่างทำหน้าที่ของตัวเองแต่ก็มีช่วงเวลาที่ทั้งสองได้พบกัน (ช่วงโพล้เพล้) ผีตากผ้าอ้อม โดยมีเรื่องของแสงที่เชื่อมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด เปรียบเสมือนคนที่ต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองแต่ก็จะมีเวลาที่เราได้มาพบปะกับผู้อื่นแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ข่าวแนะนำ

ซึ่งการที่เราได้พบกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายหรือดีก็เป็นสิ่งที่น่าจดจำทั้งสิ้น ถ้าโลกนี้ยังหมุนอยู่เรายังจะได้พบกันเพื่อบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมทำเพลงกับพี่ๆ Slot Machine เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ทำงานด้วยกันไม่มีรูปแบบและขอบเขตทั้งเนื้อร้อง-ทำนอง ภาษาที่เล่าในเพลงของเราจะมีภาษาเพลงที่ต่างกันทั้งของโปเตโต้และ. แมชชีน แต่สื่อสารเป็นสิ่งเดียวกันรวมถึงภาคดนตรี


ที่สำคัญเพลง "อีกไม่ช้า" มีชื่อภาษาอังกฤษว่า SOON ซึ่งมาจาก Sun + Moon ขอขอบคุณ พี่ปู๋-ปิยวัฒน์ สำหรับเนื้อเพลงนี้ ส่วนมิวสิกวิดีโอเราใช้คำว่า Official Visualiser ร่วมงานกับ พี่ต้น-เรืองฤทธิ์ แห่ง DuckUnit เป็นผลงานสุดจินตนาการ"


ด้าน "เฟิด Slot Machine" บอกว่า "รู้สึกตื่นเต้น แล้วก็ดีใจ ทั้งในฐานะศิลปินที่เจอกันบ่อยมากๆและในฐานะแฟนเพลงที่โตมากับทุกยุคของโปเตโต้ เป็นการร่วมงานกันที่อบอุ่นเป็นกันเอง ฝากแฟนๆของพวกเรา หยินและหยาง เอ๊ย! โปเตโต้และ. แมชชีน กับเพลงอีกไม่ช้า ไว้เป็นอีก 1 พลังใจดีๆจากพวกเรา ชม Official Visualiser ได้แล้ววันนี้!
#8531



นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ครึ่งปีแรก ตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2564ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีทั้งสิ้น 3,445 ราย เพิ่มขึ้น 6.07% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทุนจดทะเบียนรวม 8,146.46 ล้านบาท 68.41% สวนใหญ่อยู่ใน จ.ชลบุรี  2,357 ราย รองลงมาเป็น จ.ระยอง และ จ .ฉะเชิงเทรา

 
ประเภทธุรกิจที่มีการจดทะเบียนสูงสุด3อันดับแรก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างอาคารทั่วไป และขนส่ง ขนถ่ายสินค้า รวมถึงผู้โดยสารมีการจัดตั้งใหม่ที่ ปัจจุบันพื้นที่ 3 จังหวัด มีนิติบุคคลคงอยู่ ณ 30 มิ.ย. 2564 รวม 75,682 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 1.99 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น จ.ชลบุรี 54,829 ราย คิดเป็น 72.45% จ.ระยอง 14,638 รายคิดเป็น 19.34%และจ.ฉะเชิงเทรา 6,215 ราย คิดเป็น 8.21%

ส่วนการลงทุนของต่างชาติในนิติบุคคลที่จัดตั้งในไทยมีมูลค่า 817,810 ล้านบาท คิดเป็น 40.95%ของทุนทั้งหมด โดยญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนมากสุด 384,682 ล้านบาทคิดเป็น 47.04% รองลงมาคือ จีน97,084 ล้านบาท คิดเป็น 11.87%และสิงคโปร์44,541ล้านบาท คิดเป็น 5.45% ส่วนใหญ่อยู่ในจ.ระยองสูงสุด 430,733ล้านบาท คิดเป็น 52.66%



สำหรับปัจจัยที่ทำให้การจัดตั้งธุรกิจใหม่ในอีอีซีเพิ่มขึ้น มาจากภาคการส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวตามทิศทางของเศรษฐกิจโลก โดยในเดือนม.ค. -7 มิ.ย.2564 มีมูลค่า 4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.59 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ประกอบกับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ลดลง คาดว่าครึ่งปีหลัง การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในพื้นที่อีอีซีจะอยู่ที่ประมาณ 2,900 – 3,000 ราย และตลอดทั้งปี อยู่ที่ 6,300 – 6,500 ราย

                
"ความชัดเจนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี จะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้มากยิ่งขึ้น เช่น การส่งมอบพื้นที่ทั้งหมดของการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงในเดือนก.ย. และแผนการขยายท่าอากาศยานอู่ตะเภาที่มีความก้าวหน้าอย่างมากและจะสร้างงานได้มากกว่า 3,000 ตำแหน่งในอนาคต "
#8532



นายธนาวุฒิ พรโรจนางกูร รองกรรมการผู้จัดการหัวหน้าสายงานบริหารการลงทุน  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล หรือ BCAP เปิดเผยถึงกรณีที่ ประเทศจีน ได้ออกมาตรการควบคุมกิจการของบริษัท Consumer Technology มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายปี 2563 ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นเทคฯจีนโดยรวม จากความกังวลเรื่องนโยบายของภาครัฐว่า จะเพ่งเล็งธุรกิจใดต่อไป

โดยผู้จัดการกองทุน ประเมินว่ารัฐบาลกลางมี 2 เป้าหมายสำคัญในการออกมาตรการควบคุมกลุ่ม Consumer Technology เรื่องแรกคือการสร้างการเติบโตที่มีคุณภาพและลดความเหลื่อมล้ำของระบบเศรษฐกิจของประเทศจีน และเรื่องที่สองคือความมั่นคงทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยมาตรการต่าง ๆ ที่ทยอยออกมาต่างมุ่งเน้นไปสู่ 4 เสาหลักแห่งความมั่นคง (four pillars of stability) กล่าวคือ 1) เสถียรภาพทางด้านการเงิน 2) การแข่งขันอย่างเสมอภาคและป้องกันการกีดกันทางการค้า 3) การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการนำข้อมูลไปใช้อย่างเป็นธรรม และ 4) การสร้างความเท่าเทียมกันทางสังคม

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา การพัฒนาของเทคโนโลยี ทำให้เกิดผู้ประกอบการรายใหญ่ขึ้น จนนำมาสู่การผูกขาดทางการค้า การนำข้อมูลของผู้บริโภคมาใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการและเอาเปรียบผู้บริโภค การให้ผลตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมแก่ลูกจ้าง ซึ่งหากปล่อยปัญหาทิ้งไว้นานอาจทำให้เกิดปัญหาความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะต่อไป ตัวอย่างเช่น บริษัท Alibaba ใช้ฐานข้อมูลที่มี และพยายามเสนอเงินกู้เกินความจำเป็นแก่ผู้บริโภค โดยไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลด้านเสถียรภาพจากภาครัฐ หรือบริษัท Meituan ที่ใช้อำนาจผูกขาดในธุรกิจจนเกิดการจ้างพนักงานในอัตราที่ไม่เป็นธรรม


กลุ่ม China Consumer Tech กำลังเข้าสู่ new growth regime ที่อาจจะถูกปรับฐานเพื่อสะท้อนการเติบโตที่ลดลง เชื่อว่าทางการจีนจะยังคงมีนโยบายในเชิงควบคุมกลุ่ม Consumer Tech ออกมาอีกเป็นระยะ ๆ แต่การพัฒนานวัตกรรมยังมีความจำอย่างยิ่งสำหรับประเทศจีน เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลกภายใต้แผนแม่บทในการพัฒนาประเทศ

ดังนั้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เราเรียกว่า China Non-consumer Tech อาทิเช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Clean Energy กลุ่ม Biotech ที่เป็นฐานการผลิตของโลก และกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อการอุตสาหกรรม จะยิ่งมีความน่าสนใจมากขึ้น จากการที่ราคาปรับลงมาจากปัจจัยแวดล้อมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง และจากนโยบายสนับสนุนต่อเนื่องจากภาครัฐจึงเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดังกล่าว


นายธนาวุฒิ กล่าวว่า  เราประเมินว่าหุ้นกลุ่ม China Consumer Tech ยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีในระยะยาว แต่จะมีการปรับฐานเพื่อสะท้อน new growth regime ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ตามมาตรการควบคุมต่างๆสำหรับ 4 เสาหลักแห่งความมั่นคงของจีนทยอยกันมีความชัดเจนขึ้น ดังนั้นเราแนะนำโยก จากกลุ่ม China Consumer Tech ไปสู่กลุ่ม Non-consumer Tech ซึ่งราคาย่อตัวลงบางส่วนจาก sentiment ลบของหุ้นกลุ่ม china consumer tech" 

สำหรับ กอง BCAP-XHEALTH และ BCAP-CLEAN เป็นตัวเลือกสองกองทุนของ BCAP ที่มีสัดส่วนการลงทุนใน China Non-consumer Technology ที่ว่านี้อย่างมีนัยยะ และมีการกระจายกลุ่มอุตสาหกรรมและภูมิภาคทั่วโลกที่สมดุลซึ่งจะช่วยบริหารความเสี่ยงของความผันผวนของราคาได้ดีขึ้นในช่วงนี้และที่สำคัญหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสุขภาพและพลังงานสะอาดไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายป้องกันการผูกขาดทั้งฝั่งสหรัฐฯและจีน
#8533



นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เล็งเห็นว่าองค์กรและธุรกิจต่างๆ ล้วนให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน 

ล่าสุดพร้อมเปิดตัว " WHA Office Solutions"  จึงพร้อมเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการเช่าพื้นที่สำนักงาน ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จึงได้พัฒนาพื้นที่สำนักงานให้เข่าบนทำเลซึ่งเหมาะแก่การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์และแนวคิดใหม่ๆ สำนักงานแต่ละแห่งตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีอันทันสมัย ตอบโจทย์นักลงทุนและตลาดสำนักงานให้เช่าได้อย่างดีเยี่ยม การขยายสู่ตลาดใหม่ครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ต่อยอดจากประสบการณ์ในการทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่สั่งสมมายาวนานกว่า 30 ปี

WHA Office Solutions เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงสตาร์ทอัพ โดยมีพื้นที่สำนักงานให้เช่ากว่า 100,000 ตร.ม. ตั้งอยู่ในทำเลชั้นนำย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ เดินทางได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบายสู่สนามบินสุวรรณภูมิ และพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ตลอดจนตั้งอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงเรียน โรงพยาบาล รวมถึงพื้นที่ธุรกิจและการลงทุนอื่นๆ เพื่อการดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น


"เมื่อผู้คนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงมากขึ้น หลายๆ องค์กรจึงจะเริ่มวางแผนการกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศร่วมกันอย่างพร้อมหน้า ภายใต้มาตรการที่คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของพนักงานทุกคน แน่นอนว่าผู้ประกอบการและบริษัทต่างๆ ต้องเริ่มมองหาสถานที่ทำงานที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์วิถีนิวนอร์มอลได้อย่างแท้จริง ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป พร้อมนำเสนอพื้นที่สำนักงาน 6 แห่ง 6 ทำเลที่โดดเด่นด้านความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และความสะดวกสบายในการเดินทาง เราตั้งเป้าหมายที่จะเติมเต็มวิสัยทัศน์การเปลี่ยนออฟฟิศเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ตอบโจทย์ให้กับเจ้าของธุรกิจ ทีมผู้บริหาร และนักลงทุนยุคใหม่ทั้งในและต่างประเทศ"
#8534



นายผยง  ศรีวณิช  ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 ธนาคารสมาชิกได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยในเดือนกรกฏาคม  2563 มีลูกค้าขอรับความช่วยเหลือสูงสุดจำนวน 6 ล้านบัญชี วงเงินความช่วยเหลือรวม 4.25 ล้านล้านบาท เป็นวงเงินสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 8 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 1.8 ล้านล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 1.6 ล้านล้านบาทซึ่งที่ผ่านมา มีลูกค้าบางส่วนได้ออกจากมาตรการเนื่องจากกลับมาชำระหนี้ได้ในช่วงที่สถานการณ์ดีขึ้น

ล่าสุด ยังมีลูกค้าอยู่ภายใต้การให้ความช่วยเหลือรวม 1.89 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือกว่า 2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ 5.6 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 8.2 แสนล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 6.2 แสนล้านบาท สำหรับมาตรการเสริมสภาพคล่อง เพื่อประคับประคองธุรกิจตามมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารสมาชิกได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อเสริมสภาพคล่องกว่า 2.16 แสนล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ประมาณ 1.38 แสนล้านบาท และวงเงินสินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจที่อนุมัติไปแล้วกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้าหมาย 1 แสนล้านบาทในเดือนตุลาคมนี้

อย่างไรก็ตาม ทุกธนาคารยังคงเดินหน้าช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยจะทยอยพิจารณาให้การช่วยเหลือผ่านวงเงินดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไป

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ได้หารือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบต่อลูกค้าทุกกลุ่ม โดยพร้อมมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม หากสถานการณ์ยืดเยื้อกว่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม   ภาคธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อต้นปี 2563 โดยในช่วงแรกออกมาตรการช่วยเหลือเป็นการทั่วไป เป็นมาตรการเร่งด่วน ทั้งการพักชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาชำระหนี้  เพื่อลดภาระทางการเงินให้กับลูกค้า เสริมสภาพคล่องด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ  (Soft Loan)  หลังจากนั้นได้ออกมาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้ตรงจุด เช่น มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ และเมื่อมีการระบาดระลอกใหม่ทำให้เศรษฐกิจต้องใช้เวลานานขึ้นในการฟื้นตัว จึงมีมาตรการฟื้นฟูธุรกิจเพิ่มเติม ประกอบด้วย สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ วงเงิน 250,000 ล้านบาท และมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ วงเงิน 100,000 ล้านบาท  พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ระยะที่ 3 และล่าสุดได้ออกมาตรการเร่งด่วนด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า SMEs และลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เป็นระยะเวลา 2 เดือน  ทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการ ในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ

" ทั้งนี้ ธนาคารสมาชิกได้บริหารจัดการธุรกิจด้วยความระมัดระวัง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ในช่วงครึ่งปี 2564 แสดงผลการดำเนินงานที่ยังเติบโตต่อเนื่อง  แต่บางส่วนเป็นการบันทึกรายได้ดอกเบี้ยค้างรับของมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งยังไม่ได้มีการชำระจริงและยังอาจกลายเป็นหนี้เสียได้  อย่างไรก็ตาม ภาพรวม  NPL ในระบบแทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลย สะท้อนถึงการให้ความช่วยเหลือได้ทันการณ์ ซึ่งนอกจากการให้สินเชื่อผ่าน Soft Loan และสินเชื่อฟื้นฟูแล้ว ธนาคารพาณิชย์ยังปล่อยสินเชื่อให้กับลูกหนี้ตามวงเงินที่มีอยู่เดิมเพิ่มขึ้น และยังคงให้ความสำคัญกับการกันสำรองอย่างเข้มงวดต่อไป เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต และต้องไม่เกิดผลกระทบกับเสถียรภาพและระบบสถาบันการเงินของประเทศ"


จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงขึ้น สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกยังได้ยกระดับแผน Business Continuity Planning หรือ BCP เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการ โดยคำนึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานเป็นสำคัญ ทั้งนี้ แผน BCP ครอบคลุมทั้งการปฎิบัติตามมาตรการของทางการ ระบบการให้บริการ การจัดสรรพนักงาน และการสำรองเงินสดให้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์  ทั้ง Mobile Application  Internet Banking และ  ตู้ ATM ซึ่งสามารถทำธุรกรรมได้หลากหลาย ทั้งฝาก-ถอนเงินสด โอนเงิน จ่ายบิล การยืนยันตัวตน รวมถึงบริการผูกบัญชีพร้อมเพย์  โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา เพื่อความสะดวก และลดความเสี่ยง

ทั้งนี้ ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิด ได้มีการปฏิบัติงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home  ขั้นสูงสุด ส่วนพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานในสาขา ซึ่งถือว่าเป็นบุคลากรด่านหน้าและเป็นกลุ่มเสี่ยง ธนาคารสมาชิกก็พยายามเร่งจัดหาวัคซีนและกระจายฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด พร้อมจัดการระบบให้บริการที่สาขาให้เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข

นอกจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าแล้ว   สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ยังสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้อ ในปี 2563 โดยบริจาคให้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และสภากาชาดไทย จำนวนเงิน 50 ล้านบาท สำหรับในปี 2564 ธนาคารสมาชิกยังคงสนับสนุนการทำงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนทุนทรัพย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ ขณะเดียวกัน ยังเป็นกำลังสำคัญร่วมกับภาคีเครือข่าย สนับสนุน  โครงการ "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย" ซึ่งเป็นการผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างภาครัฐและเครือข่ายภาคีเอกชน ในการเร่งกระจายวัคซีนให้กับประชาชน โดยสนับสนุนศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลในโครงการไทยร่วมใจฯ 25 แห่ง ศูนย์ฉีดวัคซีนสำนักงานประกันสังคมเพื่อผู้ประกันตน ม.33 อีก 69 แห่ง รวมถึงจุดบริการฉีดวัคซีนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสุด โดยธนาคารสมาชิกได้ให้การสนับสนุนทั้งด้านสถานที่ บุคลากร และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือในการดำเนินงานอีกด้วย
#8535



การสร้างแบรนด์ ให้ผู้คนรักและชื่นชอบ คือ หนึ่งในเรื่องที่นักการตลาด และเจ้าของแบรนด์ทุกคนวางเป้าหมายให้แบรนด์ตัวเองไว้ แต่ก่อนไปถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างเราและผู้บริโภค 

สิ่งสำคัญนอกเหนือจากส่งมอบสินค้าบริการ ส่งมอบประสบการณ์ดีๆ ของแบรนด์ คือ การบริหารเรื่องไม่ดีของแบรนด์ ด้วยเมื่อแบรนด์เกิดวิกฤติ ทำอย่างไรไม่ให้การพลาดเพียงครั้งเดียว ทำแบรนด์พังตลอดกาล

'สโรจ เลาหศิริ' Head of Marketing Transformation and Marketing Strategy ผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์และ Marketing Transformation บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวในประเด็นนี้ว่า ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนจัดการวิกฤติ สิ่งแรกที่แบรนด์ควรต้องมี คือ วางแผนและจำลองสถานการณ์แก้ไขเมื่อเกิดวิกฤติที่เป็นขั้นเป็นตอน เฝ้าสังเกตและจัดการเมื่อเจอวิกฤติใน 24 ชั่วโมงแรกซึ่งกำหนดความเป็นความตายของแบรนด์ไว้เลยทีเดียว สิ่งสำคัญ คือ กอบกู้ชื่อเสียงหรือความรู้สึกของคนเมื่อถูกแบรนด์ทำลายลงไป 

เปิดเฟรมเวิร์ค 4 ขั้นกู้แบรนด์ 

"บลูบิค" แนะนำแนวทางการวางแผนรับมือวิกฤติ หรือ Crisis Management Framework แบ่งเป็น 4 ขั้นตอนหลักๆ 


1. Preparation เตรียมป้องกันกระแสลบ ป้องกันเปรียบเสมือนการซื้อประกันสุขภาพของแบรนด์ที่ช่วยจำกัดความเสียหายไว้แต่เนิ่นๆ เมื่อเกิดขึ้นจริงจะสามารถจัดการได้เป็นอย่างดี 

วิธีการวางแผนป้องกัน คือ ตั้งทีมเพื่อรับมือสถานการณ์วิกฤติโดยเฉพาะ (Core Crisis Team) ลำดับวิกฤติประเภทต่างๆ ของแบรนด์หรือบริษัทเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่ เขียว เหลือง แดง รวมถึงวางการรับมือแต่ละแบบ ทำคู่มือการรับมือ ฐานข้อมูลกลาง ลำดับการค้นหาต้นเหตุ และผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วนเรื่องทั้งหมด รวมไปถึงพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อนิยามภาวะวิกฤติ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการวิกฤติ

2. Moderation เฝ้าระวังวิกฤติและเสียงบนโซเชียล เช่น ตั้งทีม Social Moderation การฝึกสอน แอดมินในช่องทางโซเชียล การวางแผนทำไกด์ไลน์ คำถาม-คำตอบลูกค้าในหลายสถานการณ์ กำหนดลักษณะใช้คำพูดตอบโต้กับลูกค้าให้เป็นรูปแบบเดียวกัน รวมถึงให้ความสำคัญการฝึกฝนฝ่ายดูแลลูกค้าเพื่อรับมือสถานการณ์ต่างๆ ใช้เครื่องมือ Social Listening Tools และวางลำดับแจ้งเตือนปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและประเมินสถานการณ์ในเวลาไม่กี่นาที

3. Crisis in Action ลงมือแก้ปัญหา ซึ่งต้องผ่านการประเมินว่า สถานการณ์รุนแรงมากแค่ไหน เช่น กระแสบนโลกออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมืออย่าง Social Listening Tools ที่ดึงข้อมูลมาวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อช่วยจัดการวิกฤติต่อไป และเมื่อวิเคราะห์ออกมาแล้ว ถัดไป คือ ดำเนินการตามความร้ายแรง หากเป็นวิกฤติเบาจบได้โดยการรับมือจากทีมดูแลลูกค้า หรือ ทีม Admin 

แต่หากเหตุการณ์ลุกลามต้องผ่านทีมรับมือสถานการณ์วิกฤติเฉพาะ (Core Crisis Team) แต่ละคนต้องทำตามลำดับที่วางแผนไว้ ทำ Holding Statement ร่างคำชี้แจง สืบสวนความจริง ชี้แจง ประสานสื่อ และเยียวยา

4. Recovery กอบกู้และเยียวยาหลังวิกฤติ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นปมที่อยู่บนโลกออนไลน์ไปตลอด หรือเราเรียกว่า Digital Footprint การกอบกู้เยียวยามี 3 ส่วน Confidence Recovery เริ่มที่การฟื้นฟู "ความเชื่อมั่น" ของลูกค้า ผ่านการออกนโยบายป้องกันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดปัญหาเดิม หรือออกนโยบายใหม่

Reputation Recovery กู้ชื่อเสียงแบรนด์กลับคืนมา ผ่านการสร้างเสียงแง่บวก หรือประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของแบรนด์โดยตรง ที่เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ ติดตามสถานการณ์ผ่าน SEO และ Sentiment 

กรณีที่วิกฤติเกี่ยวข้องกับประเด็นอ่อนไหว เช่น ศาสนา การเมือง แบรนด์อาจต้องแสดงออก และแสดงการกระทำที่เคารพต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น วางแผนการจัดการบนความเชื่อและความรู้สึกเป็นหลัก ถัดมา คือ Sale Recovery วางแผนและหาทางฟื้นฟูยอดขายควบคู่ เพื่อดึงคนกลับมาใช้และซื้อสินค้าอีกครั้ง


มีคำแนะนำ สำหรับแบรนด์เพิ่มเติม เช่น การป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติตั้งแต่แรก คือ การแก้วิกฤติที่ดีที่สุด สร้างความมั่นใจว่าแบรนด์ดูแลในทุกปัญหา ระบุช่องทางแจ้งความไม่สะดวกให้ชัด จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาใหญ่มาก

อาจต้องแก้วิกฤติที่ "อารมณ์" ด้วยเพราะกระแสเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่าข้อเท็จจริง ขณะที่ การตอบสนองครั้งแรก (First Response) สำคัญที่สุด เป็นตัวกำหนดกระแสที่มีต่อแบรนด์ว่าจะแก้ได้ หรือจะพังพินาศ

แบรนด์ควรเน้น แก้ปัญหาให้ตรงจุด ผิดตรงไหนไปแก้ตรงนั้น อย่าเบี่ยงเบนประเด็น ขณะที่ เมื่อมีปัญหาต้องสื่อสาร ไม่ควรเงียบ แต่บางกรณีการเงียบอาจดีกว่าการแก้ตัวแบบข้างๆ คูๆ และอย่าพลาดแบบเดิมซ้ำสอง เพราะสังคมจะลดความเชื่อมั่นต่อคุณ และน้ำหนักคำพูดลงไปทันที