• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - fairya

#3281


อังเดร เดอ กราสส์ กลายเป็นลมกรดจากแคนาดาคนแรกในรอบ 93 ปี ที่ผงาดคว้าเหรียญทองวิ่ง 200 เมตร ในโอลิมปิกเกมส์ มาครองได้สำเร็จ หลังเอาชนะ 3 นักวิ่งอเมริกัน ในรอบชิงชนะเลิศ

การแข่งขันกรีฑาในโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ชิงเหรียญทองของ วิ่ง 200 เมตร ชาย

ปรากฎว่า อังเดร เดอ กราสส์ สุดยอดลมกรดชาวแคนาดา วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ด้วยเวลา 19.62 วินาที ผงาดคว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ

ขณะที่เหรียญเงิน ได้แก่ เคนเนธ เบดนาเร็ก จากสหรัฐอเมริกา ที่ทำได้ 19.68 วินาที และเหรียญทองแดง ตกเป็นของ โนอาห์ ไลลส์ อีกหนึ่งนักวิ่งอเมริกา ที่ทำได้ 19.74 วินาที ส่วน อีร์ริยอน ไนท์ตัน นักวิ่งดาวรุ่งวัย 17 ปีชาวอเมริกัน เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4 ทำเวลาไป 19.93 วินาที

การคว้าเหรียญทองในครั้งนี้ของลมกรดวัย 26 ปี ถือเป็นเหรียญที่ 2 ของตัวเองในโอลิมปิกครั้งนี้ หลังจากก่อนหน้านี้เขาได้เหรียญทองแดงในวิ่ง 100 เมตรมาแล้ว

นอกจากนี้ อังเดร เดอ กราสส์ ยังกลายเป็นนักวิ่งจากแคนาดา คนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ที่คว้าเหรียญทองวิ่ง 200 เมตรไปครอง ต่อจาก โรเบิร์ต เคอร์ ที่เคยทำเอาไว้เมื่อปี 1908 และเพอร์ซี วิลเลียมส์ ที่ทำได้ในปี 1928 ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นลมกรดแคนาดาคนแรกในรอบ 93 ปี ที่ได้ทองในการวิ่ง 200 เมตรอีกด้วย
#3282
บริษัท วีไซนแลบ จำกัด ผู้ออกแบบ ผลิต ติดตั้ง ป้ายอักษร กล่องไฟ LED 

บริการงานป้ายโฆษณา ป้ายไฟโลหะ ทุกประเภท พร้อมตกแต่งอาคาร 

 ป้ายไฟ, อักษรโลหะ, ป้ายโลหะ, ป้ายกล่องไฟ, นีออนเฟล็ก, นีออนดัด, ป้ายอาคาร, ป้ายร้านอาหาร, ป้ายบริษัท, ป้ายโรงงาน, ป้ายโครงการ, ป้ายทาวเวอร์, รับทำกล่องไฟ, รับทำป้ายไฟ, ป้ายไฟตามแบบ, ป้าย, LED, ตกแต่งอาคาร, ป้ายหน้าตึก, ป้ายยอดตึก

ติดต่อ 
Tel :: 095-401-4848 
Line: @wesignlab 
web :: wesignlab.co.th
FB:wesignlab


Tags :: ป้ายไฟ , อักษรโลหะ , ตกแต่งอาคาร  ,  ป้ายกล่องไฟ














#3283


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ทำการศึกษาแนวโน้มตลาดของสินค้าต่าง ๆ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้นำมาแจ้งทิศทางและช่วยแนะนำให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยได้มีการปรับตัว และเพิ่มโอกาสในการทำตลาด โดยได้ทำการศึกษาแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งพบว่าแนวคิดแฟชั่นหมุนเวียน (Circular Fashion) กำลังเป็นที่นิยมที่นำมาใช้ในการวางแผนและออกแบบการผลิตเพื่อลดการเกิดของเสียและมลพิษ การผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุที่ปลอดภัยและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การเพิ่มระยะเวลาใช้งานเสื้อผ้า รวมทั้งการนำเสื้อผ้าเก่ามาผลิตเป็นเสื้อผ้าใหม่ เกิดการหมุนเวียนเป็นวงจรต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรได้อย่างสูงสุด

ทั้งนี้ นอกจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้ว สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เพราะการที่ร้านค้าต้องปิดตัวลง ผู้คนต้องทำงานที่บ้าน และลดการใช้ชีวิตทางสังคม ทำให้ยอดการจำหน่ายเสื้อผ้าลดลง ซึ่งผลการสำรวจข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคทั่วโลกในปี 2563 ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคมีรายได้ลดลง และอุตสาหกรรมแฟชั่นถูกคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากผู้บริโภคกว่า 51% จะลดการใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้ารองเท้าลงและมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าในการใช้จ่ายมากขึ้น และต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้ ได้มีผลการสำรวจว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Millennial คือผู้ที่อายุระหว่าง 24-37 ปี  และ Gen Z คือ ผู้ที่อายุระหว่าง 13-23 ปี  ใส่ใจเป็นพิเศษต่อสินค้ารักษ์โลก และกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอุตสาหกรรมที่มีต่อสิงแวดล้อม รวมทั้งมีความตระหนักถึงการลดการใช้พลาสติกและคาดหวังให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ สนับสนุนแนวคิดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้เห็นว่าแฟชั่นหมุนเวียน เป็นแนวคิดที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในสถานการณ์ปัจจุบันไปพร้อม ๆ กับช่วยลดขยะและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเห็นได้จากในวงการแฟชั่นเริ่มเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจบ้างแล้ว เช่น ธุรกิจให้เช่าเสื้อผ้า ธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสอง รวมไปถึงการผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิล หรือวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ก็ควรที่จะศึกษาและวางแผนการทำตลาดภายใต้แนวคิดนี้เพิ่มขึ้น


อย่างไรก็ตาม สนค.เห็นว่า ในส่วนของผู้บริโภค หากตระหนักถึงการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาจทำได้โดยเลือกสินค้าที่มีคุณภาพหรือเลือกใช้เสื้อผ้าจากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนทิ้งเสื้อผ้า พยายามซ่อมแซมเสื้อผ้าเพื่อใช้งานให้นานขึ้น บริจาคเสื้อผ้า และแยกขยะเสื้อผ้า สิ่งทอ เมื่อต้องการทิ้ง เพราะเสื้อผ้าสิ่งทอเหล่านี้ สามารถนำไปรีไซเคิลให้กลายเป็นเสื้อผ้าใหม่หรือสินค้าประเภทอื่นได้

ปัจจุบันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมตามการเติบโตของธุรกิจแฟชั่น โดยเฉพาะกระแส Fast Fashion ซึ่งเป็นเทรนด์เสื้อผ้าที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและผู้ประกอบการต้องผลิตสินค้าออกมาให้ทันความต้องการ เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความทันสมัยและซื้อบ่อยขึ้น อาจกลับทำให้สินค้าคุณภาพด้อยลง ใช้งานได้ไม่นาน และใช้ซ้ำได้น้อยครั้ง เสื้อผ้าปริมาณมหาศาลจึงต้องกลายเป็นขยะในที่สุด โดยแต่ละปีจะพบว่ามีเสื้อผ้าและสิ่งทอกว่า 85% ถูกทิ้ง และมีเพียง 15%  ที่ได้รับการรีไซเคิลหรือนำไปบริจาค
#3284


"เฟิร์ส-ปิยังกูร เสาหิน" และ "พี-พีรวิชญ์ พลอยนำพล" สองนักแสดงสุดฮอต แท็คทีม "ชีวิน-ธนะมินทร์ วงษ์สกุลพัชร์" ผู้กำกับฯ จากซีรีย์ดัง Y-Destiny พร้อมใจกันมาเปิดเผยความจริงที่โหดร้ายของ "ช้างไทย" มากกว่า 2,800 เชือก ที่ถูกใช้ในกิจกรรมเพื่อความบันเทิง กับเบื้องหน้ากิจกรรมโชว์ความฉลาด แสนรู้ เชื่อฟังคำสั่ง เรียกความสุข เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มจากนักท่องเที่ยว แต่เบื้องหลังคือการบังคับ กักขัง ทั้งถูกขอสับล่ามโซ่ ใช้งานหนัก และการทำร้ายอย่างทารุณ

โดยวันนี้ "เฟิร์ส-พี-ชีวิน" ขอเดินหน้าเต็มกำลัง ร่วมกับ WORLD ANIMAL PROTECTION และ BAD EXAMPLE เป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์เชิญชวนคนไทยให้เลิกสนับสนุนกิจกรรมทำร้ายช้าง ผ่านยีนส์คอลเลกชั่นพิเศษ The Entertainer's Pain Collection เผยรอย ripped หรือรอยขาดแต่ละรอยที่ดีไซน์มาจากรอยแผลที่ช้างไทยถูกทำร้ายในกิจกรรมเพื่อความบันเทิง กับแคมเปญ Elephants Not Entertainers เพื่อรณรงค์ไม่ให้ช้างถูกนำไปใช้ประโยชน์ในกิจกรรมเพื่อความบันเทิงที่โหดร้าย พร้อมปกป้องสิทธิให้ช้าง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และได้ใช้ชีวิตตามวิถีธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น

ซึ่ง "พี-พีรวิชญ์" เผยความรู้สึกว่า "ผมเห็นว่าการทารุณช้าง หรือว่าการทรมานช้าง ไม่ว่าจะเป็นการตี การล่ามโซ่ การทารุณ และ ฝึกหนัก ไหนจะต้องพรากช้างจากครอบครัว เพื่อมาแสวงหาผลประโยชน์ มันไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะเบื้องหน้าที่เราเห็นช้างเชื่อฟังคำสั่ง ฉลาด แสนรู้ น่ารัก แสดงกิจกรรมต่างๆ เพื่อความบันเทิงให้คนดูได้หัวเราะ มีความสุข แต่เบื้องหลังเค้าต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด แคมเปญ Elephants Not Entertainers จะทำให้ทุกคนรับรู้ว่าการทรมานช้างในทุกรูปแบบมันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย แคมเปญนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดที่ช้าง เค้าไม่สามารถบอกเราได้ แต่เราสามารถบอกให้ทุกคนรู้ได้ว่าช้างเจ็บปวดแค่ไหนผ่านกางเกงยีนส์ตัวนี้และแคมเปญนี้ครับ"

ด้าน "เฟิร์ส-ปิยังกูร" เผยว่า "The Entertainer's Pain Collection นี้เป็นการคอลแลปส์กันระหว่าง World Animal Protection และ Bad Example ดีไซน์กางเกงส์ยีนส์ให้มีรอย ripped หรือรอยขาด โดยแต่ละรอยที่ปรากฏในกางเกงยีนส์ตัวนั้นดีไซน์มาจากรอยแผลที่หู ขา หรือที่เท้าของช้างไทยถูกทำร้ายในกิจกรรมเพื่อความบันเทิง สะท้อนความรู้สึกถึงอารมณ์ความเจ็บปวดของช้าง บอกเล่าเรื่องราวความรุนแรงของช้าง ที่สะเทือนใจมากๆ เมื่อผมได้สวมใส่กางเกงยีนส์คอลเลกชั่นนี้ทำให้ผมรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ช้างได้รับ เพราะฉะนั้นผมจึงอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับช้างไทยผ่านแคมเปญนี้ครับ"

และ "ชีวิน-ธนะมินทร์" สะท้อนมุมมองที่มีต่อแคมเปญนี้ว่า"รอยขาดของกางเกงยีนส์คอลเลกชั่นพิเศษ The Entertainer's Pain Collection จะทำให้ทุกคนเห็นว่ากางเกงตัวนี้เป็นรอยขาดที่สวยงาม แต่จริงๆ มันมีสตอรี่ซ่อนอยู่ เพราะรอยขาดนั้นมันคือบาดแผลของช้างที่มาจากกิจกรรมเพื่อความบันเทิง ดังนั้นสำหรับใครก็ตามที่ยังให้การสนับสนุนกิจกรรมความบันเทิงที่เกี่ยวกับช้างอยู่ ได้โปรดหยุดเถอะครับ ผมอยากขอเป็นหนึ่งเสียงในการเรียกร้องให้คืนช้างกลับคืนสู่ธรรมชาติ เพราะช้างเค้าก็มีจิตใจเหมือนที่เรามี และมาช่วยกันสนับสนุนแคมเปญนี้ ด้วยการร่วมกันแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญนี้ ไปให้ทุกๆ คนได้เห็นกันเยอะๆ ด้วยนะครับ"

เรียกว่าเป็นแคมเปญดีๆ ที่ทั้งนักแสดงและผู้กำกับ "เฟิร์ส-พี-ชีวิน" จากซีรีย์ดัง Y-Destiny พร้อมใจกันมาเชิญชวนคนไทยให้เลิกสนับสนุนกิจกรรมทำร้ายช้าง มาร่วมสนับสนุน The Entertainer's Pain Collection ยีนส์คอลเลกชั่นพิเศษนี้ ได้ที่ Bad Example Shop หรือ Facebook: Badexamplebkk และร่วมกันหยุดยั้ง และสนับสนุนกิจกรรมเพื่อความบันเทิงต่างๆ ที่ทำร้ายช้าง และหยิบยื่นคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมให้ช้างด้วยการช่วยกันแชร์ข้อมูลนี้ให้กระจายไปในวงกว้าง พร้อมใส่ #ElephantsNotEntertainers #TheEntertainersPainCollection #WorldAnimalProtection #Badexample
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการดูได้ที่ https://bit.ly/3x02HFG
#3285


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ทำการศึกษาแนวโน้มตลาดของสินค้าต่าง ๆ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้นำมาแจ้งทิศทางและช่วยแนะนำให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยได้มีการปรับตัว และเพิ่มโอกาสในการทำตลาด โดยได้ทำการศึกษาแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งพบว่าแนวคิดแฟชั่นหมุนเวียน (Circular Fashion) กำลังเป็นที่นิยมที่นำมาใช้ในการวางแผนและออกแบบการผลิตเพื่อลดการเกิดของเสียและมลพิษ การผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุที่ปลอดภัยและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การเพิ่มระยะเวลาใช้งานเสื้อผ้า รวมทั้งการนำเสื้อผ้าเก่ามาผลิตเป็นเสื้อผ้าใหม่ เกิดการหมุนเวียนเป็นวงจรต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรได้อย่างสูงสุด

ทั้งนี้ นอกจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้ว สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เพราะการที่ร้านค้าต้องปิดตัวลง ผู้คนต้องทำงานที่บ้าน และลดการใช้ชีวิตทางสังคม ทำให้ยอดการจำหน่ายเสื้อผ้าลดลง ซึ่งผลการสำรวจข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคทั่วโลกในปี 2563 ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคมีรายได้ลดลง และอุตสาหกรรมแฟชั่นถูกคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากผู้บริโภคกว่า 51% จะลดการใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้ารองเท้าลงและมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าในการใช้จ่ายมากขึ้น และต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้ ได้มีผลการสำรวจว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Millennial (ผู้ที่อายุระหว่าง 24-37 ปี) และ Gen Z (ผู้ที่อายุระหว่าง 13-23 ปี) ใส่ใจเป็นพิเศษต่อสินค้ารักษ์โลก และกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอุตสาหกรรมที่มีต่อสิงแวดล้อม รวมทั้งมีความตระหนักถึงการลดการใช้พลาสติกและคาดหวังให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ สนับสนุนแนวคิดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

นายภูสิตกล่าวว่า จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้เห็นว่าแฟชั่นหมุนเวียน เป็นแนวคิดที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในสถานการณ์ปัจจุบันไปพร้อม ๆ กับช่วยลดขยะและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเห็นได้จากในวงการแฟชั่นเริ่มเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจบ้างแล้ว เช่น ธุรกิจให้เช่าเสื้อผ้า ธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสอง รวมไปถึงการผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิล หรือวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ก็ควรที่จะศึกษาและวางแผนการทำตลาดภายใต้แนวคิดนี้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม สนค.เห็นว่า ในส่วนของผู้บริโภค หากตระหนักถึงการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาจทำได้โดยเลือกสินค้าที่มีคุณภาพหรือเลือกใช้เสื้อผ้าจากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนทิ้งเสื้อผ้า พยายามซ่อมแซมเสื้อผ้าเพื่อใช้งานให้นานขึ้น บริจาคเสื้อผ้า และแยกขยะเสื้อผ้า สิ่งทอ เมื่อต้องการทิ้ง เพราะเสื้อผ้าสิ่งทอเหล่านี้ สามารถนำไปรีไซเคิลให้กลายเป็นเสื้อผ้าใหม่หรือสินค้าประเภทอื่นได้

ปัจจุบัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมตามการเติบโตของธุรกิจแฟชั่น โดยเฉพาะกระแส Fast Fashion ซึ่งเป็นเทรนด์เสื้อผ้าที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและผู้ประกอบการต้องผลิตสินค้าออกมาให้ทันความต้องการ เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความทันสมัยและซื้อบ่อยขึ้น อาจกลับทำให้สินค้าคุณภาพด้อยลง ใช้งานได้ไม่นาน และใช้ซ้ำได้น้อยครั้ง เสื้อผ้าปริมาณมหาศาลจึงต้องกลายเป็นขยะในที่สุด โดยแต่ละปีจะพบว่ามีเสื้อผ้าและสิ่งทอกว่า 85% ถูกทิ้ง และมีเพียง 15% ที่ได้รับการรีไซเคิลหรือนำไปบริจาค
#3286


นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.2564 นี้เป็นต้นไป ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นวงเงินที่กำหนดตามกฎหมาย จากปัจจุบันวงเงินคุ้มครองเงินฝากอยู่ที่ 5 ล้านบาทจนถึงวันที่ 10 ส.ค.

ทั้งนี้ วงเงินคุ้มครองที่ 1 ล้านบาท มีผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน 82.07 ล้านราย คิดเป็น 98.03% ของผู้ฝากทั้งระบบ ซึ่งถือเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

สำหรับข้อมูลเงินฝาก ณ วันที่ 31 พ.ค.2564 ผู้ฝากในระบบสถาบันการเงินภายใต้ความคุ้มครองของสถาบันมีจำนวนทั้งหมด 83.72 ล้านราย เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปีก่อน พบว่าจำนวนผู้ฝากเพิ่มขึ้น 1,337,334 ราย หรือเพิ่มขึ้น 1.62% โดยจำนวนผู้ฝากที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผู้ฝากรายย่อยซึ่งมีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท คิดเป็น 97% ของจำนวนผู้ฝากที่เพิ่มขึ้น และเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวนทั้งสิ้น 15.28 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 347,940 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.33% จากสิ้นปีก่อน

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) หรือ DPA มีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่ฝากเงินเป็นสกุลเงินบาทกับสถาบันการเงินของไทยภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ไทย 18 แห่ง สาขาธนาคารต่างประเทศ 12 แห่ง บริษัทเงินทุน 2 แห่ง และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 35 แห่ง

ซึ่งจะคุ้มครองทันทีในลักษณะ 1 รายชื่อผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงิน โดยคุ้มครองบัญชีเงินฝาก 5 ประเภท ได้แก่ 1.เงินฝากกระแสรายวัน 2.เงินฝากออมทรัพย์ 3.เงินฝากประจำ 4.บัตรเงินฝาก และ 5.ใบรับฝากเงิน โดยบัญชีเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองต้องเป็นสกุลเงินบาทเท่านั้น ทั้งนี้ หากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากจะได้รับเงินฝากคืนภายใน 30 วัน ตามวงเงินที่กฎหมายกำหนด

ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากได้ที่ www.dpa.or.th, ศูนย์บริการข้อมูลคุ้มครองเงินฝาก โทร 1158 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจสถาบันคุ้มครองเงินฝาก DPA
#3287


นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากสายการบินทั้ง 7 สาย ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ นกแอร์ ไทยสมายล์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอความอนุเคราะห์เเละติดตามรัฐบาลในการอนุมัติเงินกู้เพื่อรักษาสภาพการจ้างงานพนักงานกว่า 2 หมื่นคน ซึ่งหลังจากนั้นสายการบินบางส่วน ได้ทยอยประกาศหยุดกิจการชั่วคราว พร้อมงด หรือเลื่อนจ่ายเงินเดือนพนักงานออกไป เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนในการดำเนินงานไว้ได้เเล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวและทำให้มีผู้สอบถามมายังสมาคมฯจำนวนมาก กรณีสายการบินทยอยได้รับสินเชื่อเงินกู้ช่วยเหลือตามนโยบายกระทรวงการคลัง เพื่อรักษาสภาพการจ้างงานพนักงาน เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

ทั้งนี้ สมาคมฯขอเรียนชี้เเจงว่าตลอดสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา สายการบินได้พยายามปรับตัวอย่างดีที่สุด รวมทั้งทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการได้รับความช่วยเหลืออย่างดี จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมเเบงก์) ในการออกมาตรการผ่อนปรนการชำระหนี้หรือปล่อยกู้ให้กับสายการบินต่างๆ เพื่อประคองธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม สำหรับการยื่นขออนุมัติเงินกู้โดยตรงต่อรัฐบาล ถือเป็นมาตรการสำคัญที่สมาคมฯ ดำเนินการโดยมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเพื่อรักษาการจ้างงานพนักงานสายการบิน ในสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต่อเนื่องยาวนาน เกินกว่าที่จะควบคุมเเละคาดการณ์ได้

โดยถึงวันนี้ สมาคมฯยืนยันว่า "ยังคงไม่ได้รับการอนุมัติเงินกู้เพื่อรักษาสภาพการจ้างงานจากรัฐบาลเเต่อย่างใด" ซึ่งทราบว่าผ่านความเห็นชอบในหลักการจากสำนักงานประกันสังคม กระทรวงเเรงงานเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว แต่ติดอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาค้ำประกันสินเชื่อจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้สอดคล้องกับธุรกิจสายการบิน ซึ่งต้องขอความอนุเคราะห์จากรัฐบาลช่วยเหลือในการพิจารณาเร่งรัดแก้ไขข้อกำหนดโดยเร็วที่สุดต่อไป

"สมาคมฯหวังว่าพวกเราจะได้รับการอนุมัติเงินกู้ในเร็ววันนี้ พร้อมผ่านพ้นสถานการณ์อันยากลำบากกลับมาให้บริการอีกครั้งไปด้วยกัน" นายพุฒิพงศ์กล่าว
#3288


นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด -19 ที่รุนแรงขึ้นในช่วงนี้ ในช่วงนี้ต้องอาศัยความระมัดระวังในการออก "หุ้นกู้" เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะขายไม่หมด และนักลงทุนจะระมัดระวังในการลงทุนหุ้นกู้ในสถานการณ์เช่นนี้ 

ขณะที่ ผู้ออกหุ้นกู้ที่ขอยืดอายุหุ้นกู้ไปแล้ว ถ้าต้องการออกหุ้นกู้ใหม่ ก็อาจจะเหนื่อยขึ้น เพราะว่าปัจจุบันตอนนี้สัดส่วน80% เป็นกลุ่มหุ้นกู้ไฮยิลด์ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันกันหมด และผู้ที่ขอยืดหุ้นกู้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มไฮยิลด์ ถ้าจะออกเพิ่มต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำทีประกันเพิ่มมากขึ้น เพราะเชื่อว่านักลงทุน มีความระมักระวังการลงทุนอยู่แล้ว คงไม่ได้ดูแค่ผลตอบแทนการลงทุนอย่างเดียว

"คาดคงจะไม่เห็นหุ้นกู้ไฮยิลด์ชำระหนี้หุ้นกู้ไม่ได้ตามกำหนด หรือดีฟอลเพราะผู้ออกหุุ้นกู้ไฮยิลด์เดิมนั้นมีการยืดหนี้ไปแล้ว และคาดว่าคงจะไม่มีรายใหญ่ออกหุ้นกู้ดังกล่าว เพราะนักลงทุนอาจไม่สนใจซื้อในสถานการณ์ขณะนี้"

สำหรับในปีนี้ผู้ออกหุ้นกู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด เรายังพบว่า ยังคงเป็นรายเดิมๆ ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่ปีก่อน ทำให้มีหุ้นกู้บางส่วนที่ขอยืดอายุชำระหนี้หุ้นกู้ออกไป และยังขอต่ออายุยืดหนี้ออกไปอีกเพราะการระบาดโควิด-19ลากยาวกว่าที่คาดในปีนี้ โดยผู้ออกหุ้นกู้ได้ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้แล้วซึ่งผู้ถือหุ้นกู้ ก็เข้าใจสสถานการณ์เช่นนี้ดีว่าเป็นเหตุสุดวิสัย และยังคงยืดอายุชำระหนี้ให้ ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง

ขณะที่สถานการณ์การออกหุ้นกู้ในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 6.04 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 52%เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน  โดยนหุ้นกู้ครบกำหนดในปีนี้ โดยเดือนส.ค.ถึงสิ้นปีนี้ จะมีหุ้นกู้ครบกำหนดราว 3.3 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้สัดส่วนถึง 92% เป็นหุ้นกู้ระดับอินเวสต์เมนต์ เกรดเชื่อว่าจะไม่มีประเด็นการโรลโอเวอร์ ขณะที่ในหุ้นกู้ไฮยิลด์ ราว 2.5 หมื่นล้านบาท ที่ออกมาตั้งแต่ช่วงต้นปีมานี้ สัดส่วนกว่า 80% เป็นการออกที่มีหลักทรัพย์หรือมีผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็นส่วนที่เข้ามาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

นางอาริยา กล่าวว่า คาดการประชุมกนง. ในวันนี้ น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่0.5% เนื่องจาก เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าลงจากการระบาดของโควิด-19 และ ธปท. ได้ทำการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจ เอสเอ็มอีและหนี้ครัวเรือน ความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจึงลดลง
#3289


ห้างเซ็นทรัล และโรบินสัน ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จัดโครงการ "Women Cancer" ชวนทำดี ช่วยผู้ป่วยมะเร็งสตรี โดยทุกการชอปในช่วงแคมเปญ "Central/Robinson Shop Shop, Central Luv Mom และ Robinson Hug Mom" วันที่ 4-19 ส.ค. 64 ห้างฯ จะนำรายได้ 1% จากยอดขายหลังหักค่าใช้จ่าย สมทบทุนจัดซื้อเครื่องอัลตร้าซาวด์เคลื่อนที่ มอบให้กับ มูลนิธิถันยรักษ์ฯ เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมให้กับโรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร

***



ขอเสียงปรบมือดังๆ ให้กับ บมจ.ไพโอเนียร์ มอเตอร์ (PIMO-ไพ่โม่) ที่ได้รับมอบเกียรติบัตรและโล่ประกาศเกียรติคุณสถานประกอบการสร้างเสริมสุขภาพระดับก้าวหน้า จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการขยายฐานการสร้างเสริมสุขภาพในสถานประกอบการ

***



ธารินทร์ จงประเจิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บจก.วันม๊อบบี้ หรือ 1Moby ร่วมเป็นกำลังเสริมให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ด้วยการเพิ่มจำนวนเครดิตการส่งข้อความ SMS กับ 8 แพกเกจ "จ่ายเท่าเดิม รับ SMS มากขึ้น 50%" ตั้งแต่วันนี้-31 ส.ค. 64 สอบถามโทร. 0-2798-6000 หรือ FB : ThaiBulkSMS
#3290


หนึ่งในเทรดใหญ่ของโลกที่เห็นได้ชัดเจนคือ "พลังงานสะอาด" จนทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวของต่างหันมาลงทุนเปิดตัวธุรกิจให้สอดคล้อง   จนทำให้ธุรกิจเดิมจาก พลังงานฟอสซิล อย่าง "ถ่านหิน" หรือ  "น้ำมัน"  อาจจะกลายเป็นของล้าหลังในอีก 10 ปีข้างหน้า  

ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องไร้เสน่ห์การลงทุนแต่ทำไหมยังเห็นตัวเลขราคาน้ำมันหรือถ่านหินกลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  เฉพาะราคาน้ำมันหลังจุดต่ำสุดปี 2563 สามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 70 ดอลลาร์บาร์เรล อานิสงค์การลดมาตรการล็อกดาวน์ ในต่างประเทศ ทำให้เกิดความต้องการที่ถูกอั้นเอาไว้ดึงราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจหุ้นน้ำมัน และ ปิโตรเคมี


อีกด้านราคาถ่านหินที่ถือว่าหลายประเทศไม่สนับสนุนให้เกิดธุรกิจดังกล่าว มีการกีดกันด้วยซ้ำจาก ภาษีคาร์บอนเครดิต ไม่ปล่อยสินเชื่อลงทุน ไม่เปิดสัมปทานเหมืองถ่านหินใหม่ๆ  เพื่อหันไปใช้พลังงานสะอาดแทนแต่กลับทำให้ราคาถ่านหินครึ่งปีแรก2564  ทะลุหลักร้อย ที่ 152.37 ดอลลาร์ต่อตัน ( 30 ก.ค.64)

เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปลายปี 2563 ราคาถ่านหินอยู่ที่ระดับ 70 ดอลลาร์ต่อตัน ส่งผลทำให้ 6 เดือนแรก ราคาขยับขึ้นมาถึง 117 %  วึ่งระหว่างทางราคายังขึ้นไปทำสูงสุดที่ 146 ดอลลาร์ต่อตัน สูงสุดในรอบ 12 ปี ท่ามกลางความต้องการใช้ที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มคลี่คลาย

โดยยังมีความต้องการจากผู้บริโภครายใหญ่จีน อินเดีย เวียดนาม ไต้หวัน เกาหลี เข้ามาเพิ่มเติมยิ่งจีนที่ใช้มาตรการเข้มในธุรกินี้จนห้ามนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลียเลยออกผลไปที่จีนต้องนำเข้าจากแหล่งอื่นทดทแน เช่น อินโดนีเซีย

ดังนั้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาถ่านหินโดยตรงจึงปรับตัวขึ้นเนื่องต่อเนื่อง รายเล็กใตลาด บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA  ราคาหุ้นขยับจากระดับ 5 บาท (พ.ค. 64) จนไปยืนที่ 15-16 บาท (มิ.ย.64 ) จนเกือบไปแตะที่ 20 บาท ซึ่งวานนี้ (3 ส.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ 18.60 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คิงส์ฟอร์ด ให้ราคาเป้าหมายที่  24.50 บาท ในฐานผู้ที่มีแหล่งผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียที่ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินในตลาด Seaborne ที่ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลความต้องการใช้ที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์ โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มคลี่คลาย

ถัดมาหุ้น บริษัท บ้านปู จำกัด  (มหาชน) หรือ BANPU เป็นรายใหญ่ในตลาด ที่กำลังเข้าสู่พลังงานสะอาดมากขึ้นผ่านการลงทุนของบนิษัทลูก บริษัท บ้านปูเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP   ทำให้มีการเปิดแผนการเพิ่มทุนเป็นเท่าตัวจนราคาหุ้นสะดุดลงหลังขึ้นมาถึง 16 บาท กลางมิ.ย. ที่ผ่านมา

ด้วยแผนเพิ่มทุนออกมากว่า 30000 ล้านบาท ก่อนจะมีการปรับตัวเลขใหม่เป็นเพิ่มทุน 2.96 หมื่นล้านบาท  (ลดลงจากแผนเดิม 7%) ด้วยการออกหหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม 1,692 ล้านหุ้น สัดส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ1 หุ้นใหม่  และใบสำคัญแสดงสิทธิหรือวอร์แรนต์ ( BANPU-W4 แจกฟรีราคาใช้สิทธิ 5 บาท และ BANPU-W5 แจกฟรี ที่ราคาใช้สิทธิ 7.50 บาท )  พร้อมยกเลิกแผนออก BANPU-W6   ซึ่งจะมีการประชุมขออนุมัติผู้ถือหุ้น 9 ส.ค. นี้

ส่งผลทำให้ราคาหุ้นกลับมารีบาวด์ภายใต้การแผนเพิ่มทุนมุ่งเน้นไปที่การเข้าซื้อกิจการและขยายธุรกิจพลังงานสะอาด   ขณะที่ธุรกิจหลัก บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดไตรมาส 2 ปี 2564 กำไร 1.4 พันล้านบาท  (จากขาดทุนสุทธิ 2.5 พันล้านบาท ใน 2Q63, -10% QoQ) จากราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นถึง 98% ( YoY )และ 21% ( QoQ)  มีราคาขายถ่านหินเฉลี่ย (ASP) จะเพิ่มขึ้น 18% (QoQ) เป็น 78 ดอลลาร์ต่อตัน  
#3291
โทร. 092.545.7896 คุณ วราธ์
081.655.0565 คุณ ผึ้ง

ขาย บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บางบัวทอง นนทบุรี ใกล้ เซ็นทรัล เวสต์เกต


พื้นที่บ้าน 67.1ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 168 ตารางเมตร

บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  3ห้องนอน  2ห้องน้ำ 1 ห้องครัว

ที่ตั้งบ้านเลขที 99/36 หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี    

ไม่มี แอร์  จอดรถได้= 1คัน

สถานที่ใกล้เคียง 
ห้างสรรพสินค้าเซ้นทรัล สาขาเวสต์เกต , ไทยวัสดุ ,โลตัส, ดูโฮมบางบัวทอง,เซเว่นอีเลฟเว่น
ร้านสะดวกซื้อ, ร้านเสริมสวย,ตลาดสมบัติบุรี ,ร้านอาหารอิตาลี,ร้านอาหารเครื่องดื่ม Safe Zone bar 
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล,  โรงเรียน ดรุณวิทย์ศึกษา , โรงเรียนประสานสามัคคีวิทยา
โรงเรียนสหศึกษาบางบัวทอง,โรงเรียนบำรุงวิทย์ศึกษา ,สถานีรถไฟฟ้าคลองบางไผ่ ,สถานีรถไฟใต้ดินตลาดบางใหญ่
สถานีรถไฟใต้ดินสามแยกบางใหญ่,สถานีรถไฟใต้ดินบางพลู

ราคาบ้าน  ราคา 5,500,000 บ. 
โทร. 0925457896 คุณ วราธ์
0816550565 คุณ ผึ้ง

https://www.prakard.com/viewtopic.php?f=54&t=7832211




























#3292


 วันนี้ (3 ส.ค.2564) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี ร่วมกับ และ หัวเว่ย อาเซียน อะคาเดมี (Huawei ASEAN Academy) และม.บูรพา จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (work shop) รูปแบบออนไลน์ หัวข้อ"Technology Seeker vs Competence Development Workshop" โดยมี ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ อีอีซี และ นายอาเบล เติ้ง (Mr. Abel Deng) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเปิดการสัมมนาฯ พร้อมคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในเทคโนโลยีดิจิทัล 5G มาให้ความรู้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวนมาก อาทิ ผู้บริหารระดับสูงและผู้ประกอบการในพื้นที่อีอีซี กลุ่มเอสเอ็มอี และกลุ่มสตาร์ทอัพ ที่มีความสนใจต่อการนำนวัตกรรมดิจิทัล 5G เข้ามาผนวกกับการพัฒนาบุคลากร


การจัดสัมมนาฯครั้งนี้ จัดขึ้นตามแนวทาง อีอีซี โมเดล สร้างคนตรงความการ มีงานทำ รายได้สูง พร้อมขับเคลื่อนหลักสูตรนวัตกรรมที่มีต่อภาคอุตสาหกรรมในอีอีซี อีกทั้งมุ่งให้เกิดการเรียนรู้เทคโนโลยี 5G ระดับโลกของ หัวเว่ย ที่ได้พัฒนาระบบดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อรวบรวมองค์ความรู้และข้อมูล สำหรับสร้างหลักสูตรการฝึกอบรม ให้กับ นักศึกษาคนรุ่นใหม่ ผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี ICT ในพื้นที่อีอีซี  โดยในการสัมมนาฯ จะมีผู้เชี่ยวชาญจาก หัวเว่ย ร่วมถ่ายทอดความรู้ที่น่าสนใจ เช่น เทคโนโลยี 5G, ระบบการจัดเก็บข้อมูล Cloud, Big Data, และ IoT รวมทั้งการยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัลเชื่อมโยงในภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ จะได้รวบรวมข้อเสนอแนะ และความต้องการในมิติต่างๆ จากผู้เข้าสัมมนาภาคอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญ ที่ Huawei ASEAN Academy จะได้นำไปปรับการจัดทำหลักสูตร เพื่อเตรียมความพร้อม และพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี สู่อุตสาหกรรม 4.0 ในอนาคต


ดร.คณิศ แสงสุพรรณ กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง อีอีซี หัวเว่ย และม.บูรพา ครั้งนี้ ว่า ในวันนี้ ถือเป็นก้าวแรกเพื่อร่วมกันขับเคลื่อน โครงการ "Huawei ASEAN Academy (Thailand) EEC Branch" ที่จะสร้างโอกาสการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล ที่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์การสร้างงานให้ตรงความต้องการภาคอุตสาหกรรม แต่จะขยายผลไปสู่การสร้างความสำเร็จ

เพื่อนำเทคโนโลยี 5G มาเสริมศักยภาพอุตสาหกรรม 4.0 เพิ่มผู้ใช้ 5G ในภาคการผลิต โดย "อีอีซี" ได้ตั้งเป้าหมายให้เกิดการใช้สูงถึง 8,000 โรงงานในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างยั่งยืน

 
#3293


ดิ เอเชียน แบงเกอร์ (The Asian Banker) ยกย่อง "บัณฑูร ล่ำซำ" เป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดช่วงการดำรงตำแหน่ง สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤติ มุ่งดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง เป็นองค์กรที่ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ริเริ่มขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นหนึ่งในธนาคารแห่งความยั่งยืนระดับโลก จนประสบความสำเร็จตลอด 40 ปีที่ได้บริหารธนาคารกสิกรไทย

ดิ เอเชียน แบงเกอร์ วารสารเศรษฐกิจการเงินชั้นนำของเอเชีย ได้ประกาศเกียรติคุณมอบรางวัล The Asian Banker Leadership Achievement Awards 2021 for Lifetime Achievement in Leadership in the Financial Services Industry ให้แก่นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะผู้นำที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดช่วงดำรงตำแหน่งในธนาคาร นับเป็นผู้บริหารสถาบันการเงินไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลเกียรติยศนี้

ทั้งนี้ รางวัลนี้นับได้ว่าเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดรางวัลหนึ่ง เนื่องจากเป็นการให้การยอมรับต่อบุคคลที่ได้ก้าวล้ำหน้าไปในแวดวงของตนเอง และดำรงความมีชื่อเสียง ความสามารถและความสำเร็จอย่างโดดเด่นตลอดมา เป็นการสร้างเกณฑ์มาตรฐานสำหรับวัดถึงผลสำเร็จในอุตสาหกรรมนี้ ผู้ที่เคยได้รับรางวัลดังกล่าวในอดีตต่างเป็นผู้ที่ได้มีส่วนสำคัญในการก่อร่างสร้างองค์กรที่เข้มแข็ง และในบางกรณีก็เป็นบุคคลที่ได้สร้างอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นในประเทศของตน

วารสาร The Asian Banker มอบรางวัลนี้ให้แก่บุคคลที่ไม่เพียงแต่ปฏิรูปองค์กรที่ตนเองทำงานอยู่เท่านั้น แต่ยังได้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้แก่อุตสาหกรรมการให้บริการทางการเงินในประเทศและภูมิภาคด้วย ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านผลงานและภาวะผู้นำ อีกทั้งบุคคลที่ได้รับรางวัลนี้ยังมีคุณลักษณะที่ประกอบด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ความซื่อสัตย์สุจริต ความสำเร็จที่น่าประทับใจและเชาว์ปัญญาที่เฉียบแหลม ซึ่งกำลังถูกมองข้ามไปในวงการธุรกิจปัจจุบัน ผลงานความสำเร็จได้รับการยอมรับทั้งจากพันธมิตรและคู่แข่งในตลาด

ในช่วงที่ผ่านมา บุคคลที่เคยได้รับรางวัลนี้ล้วนเป็นผู้นำในแวดวงการเงินของแต่ละประเทศในเอเชีย อาทิ ดร.โจว เสี่ยวชวน อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศจีน (Dr. Zhou Xiaochuan, former Governor of People's Bank of China), ดร.เซติ อัคตาร์ อาซิซ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศมาเลเซีย (Dr. Zeti Akhtar Aziz, former Governor of Bank Negara Malaysia), มร.อแมนโด้ เอ็ม. เตตังโก้ จูเนียร์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศฟิลิปปินส์ (Mr. Amando M. Tetangco Jr, former Governor of Bangko Sentral ng. Pilipinas), มร.หลิว หมิงคัง อดีตประธานคณะกรรมการกำกับธนาคารแห่งประเทศจีน (Mr. Liu Mingkang, former Chairman of China Banking Regulatory Commission)

ทั้งนี้ คณะกรรมการผู้พิจารณารางวัลมีความเห็นว่า วิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำเชิงยุทธศาสตร์ของนายบัณฑูร ตลอด 40 ปีที่ได้บริหารงานในธนาคารกสิกรไทย ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของไทย ได้ปรับเปลี่ยนให้ธนาคารกสิกรไทยกลายเป็นองค์กรตัวอย่าง ซึ่งได้รับการยกย่องและยอมรับอย่างกว้างขวาง ตลอดช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดในธนาคาร และยังสามารถขับเคลื่อนองค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤติและความท้าทายนานัปการ ทำให้ธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง ทั้งยังเป็นองค์กรที่ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ริเริ่มขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นหนึ่งในธนาคารแห่งความยั่งยืนระดับโลก

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075745
#3294


โรงพยาบาลบุษราคัม Big Cleaning ทำความสะอาดจุดแรกรับผู้ป่วย พร้อมปรับระบบจัดทางด่วนสำหรับกลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง พิการ ให้เข้ารับการประเมินก่อน และจัดโซนผู้ป่วยเพื่อง่ายต่อการดูแล

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม ให้สัมภาษณ์ว่า โรงพยาบาลบุษราคัม ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ข้อมูลถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ให้การดูแลผู้ป่วยแล้วจำนวน 13,275 ราย โดยในเช้าวันนี้ได้จัด Big cleaning ทำความสะอาดครั้งใหญ่ในบริเวณจุดแรกรับผู้ป่วย ทั้ง 2 จุด พร้อมปรับระบบประเมินผู้ป่วยแรกรับ โดยเพิ่มทางด่วน Fast Track สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ เป็นต้น ให้ได้รับการประเมินอาการก่อน และจัดโซนผู้ป่วยให้ง่ายต่อการดูแลรักษา เนื่องจากระยะหลังพบผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเปราะบางเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เตรียมนำเก้าอี้รถเข็นเข้าไปยังหอผู้ป่วยจำนวน 231 ตัว และเก้าอี้นั่งสำหรับขับถ่ายข้างเตียงผู้ป่วย จำนวน 62 ตัว เก้าอี้อาบน้ำ จำนวน 5 ตัว เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ป่วย และกำลังจัดหาเตียงลมสำหรับผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยวิกฤติเพิ่มเติม ต้องขอขอบคุณทหารจิตอาสาที่ให้ความร่วมมือ สนับสนุนในการเข้าไปอำนวยความสะดวกเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและเปลี่ยนเตียงที่ชำรุด รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยที่ไม่มีอาการเป็นจิตอาสา วัดความดันโลหิต วัดค่าออกซิเจนในเลือด ประสานงานเจ้าหน้าที่กับผู้ป่วย ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับสถานการณ์เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลบุษราคัมวันนี้ มีผู้ป่วยที่นอนรักษาอยู่ 3,233 ราย เป็นกลุ่มสีเหลืองอ่อน 2,771 ราย สีเหลือง 287 ราย สีแดง 175 ราย โดยมีมาตรฐานการรักษาตามแนวทางของกรมการแพทย์ ซึ่งผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย ที่รักษาหายแล้วครบ 7 - 10 วัน สามารถให้กลับไปกักตัวที่บ้านต่อได้เพื่อที่จะมีเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยรายอื่นๆ ต่อไป
#3295



จากข้อมูลของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พบว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีความสนใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในจังหวัดปริมณฑล อาทิ สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร และนครปฐม มากขึ้น ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีก่อนหน้าที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สะท้อนให้เห็นว่าเทรนด์ การทำงานที่บ้าน (Work From Home) เป็นอีกปัจจัยหนึ่งทำให้ผู้บริโภคหันมามองหาที่อยู่อาศัยแถบชานเมืองและปริมณฑลมากขึ้น เนื่องจากมีความคุ้มค่ามากกว่าเมื่อเปรียบเทียบราคาและขนาดพื้นที่ที่ได้รับ ส่งผลให้ความสนใจซื้อในจังหวัดปริมณฑลเพิ่มขึ้นในหลายทำเล อาทิ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 55% จากไตรมาสก่อน ในส่วนอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพิ่มขึ้น 15% อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เพิ่มขึ้น 14% และอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพิ่มขึ้น 13% เป็นต้น

ขณะเดียวกันที่อยู่อาศัยระดับราคา 1-3 ล้านบาทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นสวนทางคนสนใจซื้อลดลง แม้ว่าจะมีมาตรการช่วยลดค่าโอน-ค่าจดจำนองสำหรับบ้าน-คอนโดฯ ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านของภาครัฐ ออกมา ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯหันมาแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคา 1-3 ล้านบาทมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ทำให้ผู้บริโภคมี 'ตัวเลือก'ที่น่าสนใจและหลากหลายมากขึ้น


โดยล่าสุดพบว่าจำนวนที่อยู่อาศัยในไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นทุกระดับราคา โดยเฉพาะระดับราคา 1-3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 10% จากไตรมาสก่อน ตามมาด้วยระดับราคา 3-5 ล้านบาท, ระดับราคา10-15 ล้านบาท และระดับราคามากกว่า 15 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเท่ากันที่7% หากพิจารณาจากความสนใจของผู้บริโภคแล้ว แม้ที่อยู่อาศัยระดับราคา 1-3 ล้านบาทจะได้รับความสนใจมากที่สุดในรอบไตรมาสด้วยสัดส่วนถึง 24% แต่ความสนใจซื้อในระดับราคานี้ลดลงถึง 6% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปยังคงมาแรง ได้รับความสนใจเพิ่มมากถึง 9% ในรอบไตรมาส ตามมาด้วยระดับราคา 5-10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% และระดับราคา 3-5 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคระดับกลาง-ล่าง ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยแต่"ไม่มี"กำลังซื้อเพียงพอ
#3296



ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (27, 29-30 ก.ค.) มีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 2.37 แสนล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า (19-23 ก.ค.) ที่มีมูลค่าการซื้อขายกว่า 3.62 แสนล้านบาท เนื่องจากเปิดทำการเพียงแค่ 3 วัน

โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ปิดการซื้อขายปลายสัปดาห์ที่ 1,521.92 จุด ปรับตัวลดลง 1.50% จากระดับปิดของสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 1,545.10 จุด

นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพียงกลุ่มเดียว 2,841.74 ล้านบาท ส่วนที่เหลือพร้อมใจซื้อ โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,389.84 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 635.29 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 816.60 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากพิจารณาการซื้อขายของบัญชี "เอ็นวีดีอาร์" (NVDR) ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนชาวต่างประเทศในการซื้อหุ้นไทย ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 ก.ค. พบว่า

10 อันดับหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสูงสุด ได้แก่

KBANK มูลค่าซื้อสุทธิ 543.11 ล้านบาท

TRUE มูลค่าซื้อสุทธิ 341.02 ล้านบาท

ADVANC มูลค่าซื้อสุทธิ 336.23 ล้านบาท

CBG มูลค่าซื้อสุทธิ 321.78 ล้านบาท

CPALL มูลค่าซื้อสุทธิ 251.39 ล้านบาท     

RCL มูลค่าซื้อสุทธิ 214.30 ล้านบาท           

IVL มูลค่าซื้อสุทธิ 206.84 ล้านบาท           

SCC มูลค่าซื้อสุทธิ 203.47 ล้านบาท

PTT มูลค่าซื้อสุทธิ 172.50 ล้านบาท

AOT มูลค่าซื้อสุทธิ 165.76 ล้านบาท

และ 10 อันดับหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติขายสูงสุด ได้แก่

TOP มูลค่าขายสุทธิ 539.02 ล้านบาท   

PTTEP มูลค่าขายสุทธิ 316.17 ล้านบาท   

PTTGC มูลค่าขายสุทธิ 196.51 ล้านบาท   

KGI มูลค่าขายสุทธิ 73.65 ล้านบาท   

GULF มูลค่าขายสุทธิ 66.75 ล้านบาท   

BJC มูลค่าขายสุทธิ 56.52 ล้านบาท   

AS มูลค่าขายสุทธิ 54.45 ล้านบาท   

ASP มูลค่าขายสุทธิ 53.17 ล้านบาท   

IRPC มูลค่าขายสุทธิ 50.01 ล้านบาท   

WICE มูลค่าขายสุทธิ 48.84 ล้านบาท   

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952178
#3297


(1 สิงหาคม 2564) หนุ่มสุรินทร์โพสต์รูปพี่ชายโชว์สลากดวงเฮงถูกรางวัลที่ 1 รับเงิน 6 ล้าน สุดดีใจน้ำตาไหลบอกปลดหนี้ให้พ่อแม่ได้แล้ว

ภายหลังกองสลากประกาศผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ส.ค.64 รางวัลที่ 1 ได้แก่หมายเลข 910261 และรางวัลเลขท้าย 2 คือ 69

ปรากฎว่าสมาชิกเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า Pakorn Peera ได้โพสต์รูปภาพชายหนุ่มถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ เป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท พร้อมกับแท็กเฟซบุ๊กชื่อ ต้อม วุฒิพงศ์ ระบุว่า


ปลดหนี้ให้พ่อแม่ได้แล้ว รางวัลที่6ล้านบาท

พี่ชายผมถูก #น้ำตาไหล 

สุรินทร์ #ศรขรภูมิ #รัตนะ

นอกจากนี้ยังโพสต์ภาพพี่ชายเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย

เพื่อนๆร่วมยินดี 'เจ้หมู'ดวงเฮงรับ 6 ล้าน ถูกแซวขำๆ 'จำข่อยได้บ่'



สาวใหญ่อุดรธานีดวงเฮงถูกรางวัลที่ 1 รับ 6 ล้าน เพื่อนๆ ญาติๆ ร่วมยินดีล้นหลาม แซวกันสุดขำ "จำข่อยได้บ่"

ภายหลังกองสลากประกาศผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ส.ค.64 รางวัลที่ 1 ได้แก่หมายเลข 910261 และรางวัลเลขท้าย 2 คือ 69

ปรากฎว่าสมาชิกเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า Ripper Ripper ได้โพสต์ภาพหญิงสาวถือโชว์ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 6 ล้าน พร้อมระบุข้อความว่า

saveสร้างคอม ญาติพี่น้องข่อยถึกรางวัลที่1...ดีใจนำครับเจ้หมู!!จำข่อยได้บ่นิ..555(1ในล้าน)

ภายหลังโพสต์ดังกล่าวได้มีผู้เข้ามาแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก.... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/113900/
#3298



"สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า บรรลุข้อตกลง 30 ล้านปอนด์จ่อคว้า ลีออน เบลี่ย์ ตัวเดินเกมริมเส้นทีมชาติจาไมก้า คาดเพื่อมาแทน แจ๊ค เกรียลิช ที่กำลังจะย้ายไป "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ขั้นตอนจากนี้เหลือแค่ เบลีย์ เจรจาเงื่อนไขสัญญาส่วนตัวกับค่าเหนื่อยก็พร้อมเดินทางมาตรวจร่างกายกับถิ่น มิดแลนด์ หลังจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ยอมรับข้อเสนอที่จะขายเรียบร้อยแล้ว

เบลีย์ ได้รับความสนใจจากหลายทีมบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แต่สุดท้ายเป็น วิลล่า ที่กำลังจะได้ตัว โดยที่ผ่านมาปีกวัย 23 ปีซัดไป 28 ประตูจาก 119 นัดในการเล่น บุนเดสลีกา เยอรมัน ให้กับ เลเวอร์คูเซ่น

เบลีย์ จะกลายเป็นนักเตะรายที่ 3 ของ วิลล่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ต่อจาก เอมิเลียโน บูเอ็นเดีย ปีกวัย 24 ปีชาวอาร์เจนไตน์ ที่ย้ายจาก นอริช ซิตี้ ด้วยค่าตัว 38 ล้านปอนด์ กับ แอชลีย์ ยัง ตัวริมเส้นสารพัดประโยชน์วัย 36 ปีที่คืนถิ่นเก่า หลังหมดสัญญากับ อินเตอร์ มิลาน

หากได้ตัว เบลีย์ ถือว่า วิลล่า เสริมทัพได้เข้าตาดีทีเดียว โดยจะเข้ามาปั้นเกมแทน เกรียลิช กัปตันทีมที่เมื่อไม่กี่วันมานี้ทีมเพิ่งได้ข้อเสนอก้อนโตจาก แมนฯซิตี้ เป็นค่าตัว 100 ล้านปอนด์
#3299



ไทยประกันชีวิตจัดกิจกรรม "ไทยประกันชีวิต LIFE FIT 4 YOU ซีรีส์ 3 Sweat is Fat Crying" รูปแบบ Virtual Activities พร้อมโปรโมชั่นเพียบเอาใจสายสุขภาพ และสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE/ไทยประกันชีวิต LIFE FIT นอกจากนี้ยังได้ร่วมทำบุญโดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการสมัครสมทบโครงการหนึ่งคนให้ หลายคนรับ เพื่อชีวิตใหม่หัวใจเด็ก

นางดวงเดือน คงคาสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตดำเนินธุรกิจมุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions ผ่านการส่งมอบสุขภาพดี ชีวิตที่มั่งคั่งมั่นคง และชีวิตที่ดีมีความสุขให้กับลูกค้า พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ บนแนวคิดการส่งเสริมสุขภาพดีครบวงจร หรือ Eco-Health System

ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพดีอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ที่ต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทฯ จึงร่วมมือกับบริษัท ไทยดอทรัน จำกัด จัดกิจกรรม "ไทยประกันชีวิต LIFE FIT 4 YOU : สุขภาพดี ฟิตรอบด้าน" ในรูปแบบกิจกรรมเสมือนจริง หรือ Virtual Activities 4 ซีรีส์ ตลอดทั้งปี 2564 ซึ่งปัจจุบันเป็นซีรีส์ที่ 3 "Sweat Is Fat Crying" ในภารกิจท้าทายความสามารถ (Challenge) สะสมเวลาจากการออกกำลังกายรูปแบบใดก็ได้ อาทิ การเวทเทรนนิ่ง โยคะ การเดิน การวิ่งบนลู่ ฯลฯ ให้ครบ 300 นาที หรือเท่ากับ 5 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง คลายความเครียด และมีภูมิต้านทานที่ดี เหมาะกับภาวะปัจจุบันที่ต้องเสริมสร้างสุขภาพทั้งกายและใจให้แข็งแรง

นอกจากนี้ ไทยประกันชีวิตยังได้ร่วมกับ Jason แบรนด์ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออกกำลังกายชั้นนำ จัดโปรโมชั่นพิเศษ 4 แพ็กเกจสำหรับผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย แพ็กเกจที่ 1 เป็นแพ็กเกจพื้นฐาน โดยผู้สมัครจะได้รับเสื้อที่ระลึก Sweat Today Stronger Tomorrow จำนวน 1 ตัว E-BIB (หมายเลขแข่งขันออนไลน์) และ E-Certificate (ผลการออกกำลังกายออนไลน์) และโค้ด/คูปองส่วนลด 15% สำหรับซื้อผลิตภัณฑ์ Jason ผ่านช่องทางไลน์ JasonMyFitness

แพ็กเกจที่ 2 ผู้สมัครจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามแพ็กเกจพื้นฐาน พร้อมผลิตภัณฑ์ออกกำลังกาย Jason X-BURNER เป็นชุดเบิร์นกระชับสัดส่วนร่างกาย ประกอบด้วยอุปกรณ์จำนวน 3 ชิ้น

แพ็กเกจที่ 3 ผู้สมัครได้รับสิทธิประโยชน์ตามแพ็กเกจพื้นฐาน พร้อมผลิตภัณฑ์ออกกำลังกาย Jason X-RELEASE ชุดยืดกล้ามเนื้อคลายปวดเมื่อย และแพ็กเกจที่ 4 ผู้สมัครจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามแพ็กเกจพื้นฐานแล้ว ยังได้รับผลิตภัณฑ์ออกกำลังกายชุด Jason X-BURNER และ Jason X-RELEASE ครบชุด

และทุกการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับสิทธิ์จับรางวัลเพื่อลุ้นรับผลิตภัณฑ์ X - Tra Lite ชุดซัพพอร์ตข้อเท้า และ X- Release 4 Runner อุปกรณ์สำหรับยืดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยแจกรางวัลทุกสิ้นเดือนตลอดระยะเวลากิจกรรมในซีรีส์ 3

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมอบสิทธิพิเศษที่มากกว่าให้กับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE และสมาชิกโครงการไทยประกันชีวิต ไลฟ์ฟิต สำหรับการสมัครแพ็กเกจที่ 1 เท่านั้น โดยสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE 100 คนแรกที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมในแพ็กเกจที่ 1 จะได้รับส่วนลด 50% และสมาชิกไทยประกันชีวิต ไลฟ์ฟิต 50 คนแรกที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมในแพ็กเกจที่ 1 จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต

นางดวงเดือนกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมไทยประกันชีวิต LIFE FIT 4 YOU ยังมีส่วนร่วมในการทำบุญ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากค่าสมัครจะมอบให้กับมูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ ในโครงการ "หนึ่งคนให้ หลายคนรับ เพื่อชีวิตใหม่หัวใจเด็ก" สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายผ่าตัดผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อีกด้วย

โดยผู้ที่สนใจกิจกรรมซีรีส์ 3 นี้ สามารถเลือกสมัครแพ็กเกจที่ต้องการผ่านทางเว็บไซต์ https:// race.thai.run/sweat ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 โดยเริ่มนับเวลาสะสมพร้อมส่งผลการออกกำลังกายผ่านระบบออนไลน์ที่เชื่อมกับระบบกับนาฬิกา หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ได้ที่ https:// vr.thai.run/sweat จนถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2564 รวมถึงสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมในแต่ละซีรีส์ผ่านทางเว็บไซต์ race.thai.run
#3300



รายงานวิจัยล่าสุดโดยองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ร่วมกับเทสโก้ พบอาหารถูกทิ้งเป็นขยะอาหาร (Food Waste) กว่า 2.5 พันล้านตันต่อปี และประมาณ 40% ของอาหารที่ผลิตขึ้นทั่วโลก ไม่มีโอกาสไปถึง 'โต๊ะอาหาร' ด้วยซ้ำ

ขยะอาหาร หรือ Food Waste ถูกทิ้งเพิ่มขึ้นทุกปี กลายเป็นสาเหตุซ้ำเติมปัญหาภาวะโลกร้อน เนื่องจากขยะจากอาหารสามารถปล่อยก๊าซมีเทน (Methane) ที่มีความรุนแรงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 20 เท่า

รายงานชื่อ 'Driven to Waste: The Global Impact of Food Loss and Waste on Farms' พบ 40% ของอาหารจบลงที่ 'ถังขยะ' มากกว่าโต๊ะอาหาร เป็นตัวเลขที่สูงขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ไว้อยู่ที่ 33% #โดยปัญหาขยะอาหารไม่ได้มาจากอาหารเหลือจากครัวเรือนเท่านั้น แต่รายงานชี้ให้เห็นว่า ขยะอาหารมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่กระบวนการผลิต ทั้งในฟาร์ม ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาด มาจนถึงร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงแรม ซึ่งรวมแล้วสร้างปริมาณขยะอาหารมากกว่า 1.2 ล้านตันในทุกปี

การผลิตอาหารทุกชนิดใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติมหาศาล ทั้งที่ดิน น้ำ และพลังงาน เมื่อคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทั้งโลกแล้ว อาหารที่ถูกทิ้งทั้งหมด (ตั้งแต่ต้นทางการผลิตในฟาร์ม ไปจนถึงปลายทางการขนส่ง-จัดจำหน่าย) ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 8% ของจำนวนก๊าซทั้งหมดในชั้นบรรยากาศ อย่างไรก็ตาม รายงาน Driven to Waste ชี้ให้เห็นว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจสูงขึ้นเป็น 10% เนื่องจากปริมาณขยะอาหารที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี

อาหารเหลือทิ้งเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมอาหารเพื่อใช้ในงานเลี้ยงต่าง ๆ ที่มากเกินไป หรือไม่ได้คํานึงถึงพฤติกรรมผู้บริโภค การทิ้งอาหารที่จําหน่ายไม่หมดของธุรกิจการค้าในแต่ละวัน อาหารเน่าเสียหรือสูญหายระหว่างขนส่ง หรือแม้แต่ 'วัฒนธรรมการกินให้เหลือไว้ในจาน' เพื่อเป็นการแสดงออกมารยาททางสังคมในบางประเทศ

รายงานยังพบอีกว่า อาหารเน่าเสีย หรือถูกคัดทิ้งของทุกประเทศรวมกันมีปริมาณ 'มากพอ' เลี้ยงปากท้องประชากรทั่วโลกได้อีกจำนวนมาก โดยสำหรับประเทศไทยนั้น กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานว่า ไทยมีขยะอาหารคิดเป็น 64% ของปริมาณทั้งหมด แต่ยังขาดระบบการคัดแยกขยะทำให้ขยะอาหาร โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังถูกกำจัดโดยวิธีการฝังกลบซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และลดต้นทุนต่อธุรกิจ แต่ก็ทำให้เกิดความสูญเสียทรัพยากรที่ยังมีค่าโดยเปล่าประโยชน์

การสูญเสียอาหาร ถือเป็นความเสียหายทั้งต่อระบบเศรษฐกิจ และ 'ความเจ็บปวด' ของประชากรโลกที่ยังคงอดอยาก และต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อมีอาหารลงท้อง โชคดีว่าปัจจุบัน คนในสังคมเริ่มตื่นตัวมากขึ้น และปรับพฤติกรรมการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible consumption) หรือลด-เลิกการทิ้งขว้างอาหาร (No food waste) โดยร้านอาหารในหลายประเทศเริ่มคิด "ค่าปรับ" ลูกค้าที่ทานอาหารเหลือ หรือภาครัฐเริ่มมีการบังคับใช้กฎหมาย "ภาษีอาหารที่ทิ้งขว้าง" สำหรับบริษัทผลิตอาหาร หรือซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อควบคุมการทิ้งผัก-ผลไม้ที่ยังไม่หมดอายุ หรือการบริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมด ให้กับองค์กรการกุศล หรือมูลนิธิ เพื่อถูกต่อส่งให้เป็น "มื้ออาหารล้ำค่า" ให้กับผู้ยากไร้

ข้อมูลอ้างอิง WWFThailand,https:// updates.panda.org/driven-to-waste-report