• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Naprapats

#8268
รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอลการ์ดราคาส่ง
ราคาถูก ราคาเบา ราคาโรงงาน
มีเลขที่จดแจ้ง ได้มาตรฐาน 
ราคาเริ่มต้น 15 บาท/ชิ้น
สนใจติดต่อ  https://lin.ee/nXGuYwR
โทร. 0863754112
#8271
น้ำมันว่านเศรษฐีเรียกลาภ  ขวดละ 299 บาท


หุงจากว่านด้านเมตตา โชคลาภ 4 ชนิด ว่านรวยไม่เลิก ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนใน ว่านรางเงิน

พร้อมใส่ตะกรุดหัวใจพระสีวลีให้ทุกขวด ส่งเสริม เรื่องเมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ว่านเศรษฐีเรือนใน

เป็นว่านที่มีคุณทางเมตตามหานิยม มีโชคลาภและวาสนาทรัพย์สินเงินทองมากมาย

ว่านเศรษฐีเรือนนอก 

เป็นว่านให้ผลในทางคุ้มครองป้องกันภัย มีโชคลาภและฐานะเจริญรุ่งเรือง

ว่านรวยไม่เลิก

เป็นว่านให้ผล ในเรื่องความร่ำรวยตลอดไปเหมือนชื่อต้น มีโชคลาภ

ว่านรางเงิน 

เป็นว่านะดีเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม และโชคลาภ 

คาถาบูชา

ตั้ง นะโม 3 จบ

สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ

(ท่องคาถาแล้วอธิษฐาน)

ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://www.lazada.co.th/products/-i792070635-s1584866736.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store

#8274


เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม จีนและลาวได้ร่วมกันปล่อยขบวนรถบรรทุกสินค้าทางถนน เชื่อมระหว่างนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน กับนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว

โดยรถคอนเทนเนอร์ขนาด 18 ล้อ บรรทุกเครื่องจักร อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ มูลค่ารวม 3 ล้านหยวน ได้ออกเดินทางจากนครคุนหมิง ข้ามด่านชายแดนจีนที่เมืองบ่อหาน เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เข้ามายังดินแดนลาวที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา จากนั้นเดินทางต่อลงมาตามถนนหมายเลข 13 จนถึงนครหลวงเวียงจันทน์

ในเวลาเดียวกัน รถคอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้า ซึ่งถูกระบุเพียงว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของลาว ได้เดินทางออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ ข้ามชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน ต่อขึ้นไปถึงนครคุนหมิง ซึ่งถูกใช้เป็นจุดกระจายสินค้าที่บรรทุกจากลาวไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน

ขบวนรถบรรทุกสินค้าข้ามประเทศครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บข้อมูลการจราจร ต้นทุน ค่าใช้จ่าย รวมถึงอุปสรรคและข้อบกพร่องที่อาจพบ ในการเดินทางระหว่างนครคุนหมิงกับนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับเตรียมเปิดเส้นขนส่งสินค้าทางถนนจีน-ลาว ซึ่งจะใช้คู่ขนานกับเส้นทางรถไฟลาว-จีน (เวียงจันทน์-คุนหมิง) ที่กำหนดเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 2 ธันวาคมที่จะถึงนี้

ที่ผ่านมา ในช่วงที่โควิด-19 ยังไม่ระบาด มีข้อตกลงให้รถจีนและลาววิ่งข้ามไป-มาระหว่างกันได้ เพราะเป็น 2 ประเทศที่มีชายแดนติดกัน อย่างไรก็ตาม รถจากจีนสามารถเดินทางไปยังทุกแขวงของลาว แต่รถจากลาว ไม่สามารถเดินทางไปได้ทุกมณฑลของจีน เพราะแต่ละพื้นที่มีกฏระเบียบที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ หากเป็นรถสัญชาติลาว ส่วนมากมักวิ่งขึ้นไปไม่ถึงนครคุนหมิง ต้องเปลี่ยนไปใช้หัวรถจีน หรือเปลี่ยนไปใช้รถบรรทุกสัญชาติจีนเสียก่อน
#8278


น้อยคนนักจะรู้ว่า "ครีมกันแดด" นั้นมีส่วนผสมที่สามารถทำร้ายสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งหลายคนมองข้ามจุดนี้ไป เพื่อรักษาผิวกายให้สวยงามแต่หลงลืมเรื่องการรักษาธรรมชาติรอบๆ ตัว กระทั่งในปัจจุบันเริ่มมีกระแสการใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีประกาศการงดใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมทำร้ายปะการัง จึงทำให้หลายคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ เกิดความตระหนัก และเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และแบรนด์ "KAANI" ครีมกันแดดฝีมือคนไทย ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สามรถตอบโจทย์ทั้งเรื่องกันแสงแดด ดูแลผิว และรักษ์สิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กันได้

นางสาวชนิภา สารสิน (ซ้าย) นายพชร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (กลาง) นางสาวดิษย์ลดา ดิษยนันท์ (ขวา) สามเพื่อนซี้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ ผู้ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์ "KAANI" 
นางสาวชนิภา สารสิน (ซ้าย) นายพชร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (กลาง) นางสาวดิษย์ลดา ดิษยนันท์ (ขวา) สามเพื่อนซี้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ ผู้ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์ "KAANI"

นางสาวชนิภา สารสิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ "KAANI" (คานิ) เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ครีมกันแดดรักษ์โลก เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันกับ นายพชร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ นางสาวดิษย์ลดา ดิษยนันท์ ที่ได้มารู้จักและได้เป็นเพื่อนกันเนื่องจากชื่นชอบกิจกรรมดำน้ำเหมือนกัน และด้วยการเห็นความงดงามของโลกใต้ท้องทะเลที่สวยแปลกตาต่างจากโลกบนดิน ทำให้เราทั้งสามคนได้ตระหนักว่าธรรมชาติโลกใต้ท้องทะเลนั้น ก็มีชีวิตและเปราะบางเหมือนกับธรรมชาติบนพื้นดิน และในการดำน้ำและการเที่ยวทะเลในทุกๆ ครั้ง ก็ต้องมีการใช้ครีมกันแดดซึ่งส่วนใหญ่มีสวนผสมของสารที่ทำร้ายปะการัง และก่อมลพิษทางอ้อม จึงได้มีการเปลี่ยนมาใช้ครีมกันแดดสูตร Reef-safe ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่เมื่อนำมาใช้ที่ประเทศไทยกลับไม่ตอบโจทย์ในการใช้ เพราะอากาศร้อนจึงทำให้ครีมเหนียวเหนอะหนะ และด้วยเหตุนี้ครีมกันแดดรักษ์โลกฝีมือคนไทยจึงได้เกิดขึ้นในชื่อแบรนด์ "KAANI"

นางสาวชนิภา สารสิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ "KAANI" 
นางสาวชนิภา สารสิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ "KAANI"

ในช่วงแรกในการทำการตลาดนั้น ทางแบรนด์ KAANI ได้ผลิตครีมกันแดดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักดำน้ำ และกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทะเลที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม ในรุ่น "AcTive" โดยได้ได้มีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ร้านผลิตภัณฑ์รักสิ่งแวดล้อม และในโรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวชายทะเล ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเนื้อครีมของ KAANI นั้น ไม่เหนียวเหนอะหนะและกันแดดได้ดีทำให้ลูกค้าชื่นชอบ อีกทั้งยังมีประกาศจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศห้ามนำครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ จึงทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ในการเป็นครีมกันแดดรักษ์โลกที่เกิดขึ้นจากฝีมือคนไทย



และแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทำให้การท่องเที่ยวทางทะเลในหลายๆ แห่งต้องหยุดชะงัก แต่ครีมกันแดดของทางแบรนด์ก็ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากมีส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม ทำให้ไม่เกิดเป็นสารตกค้างในร่างกาย และด้วยเนื้อครีมที่สัมผัสแล้วสบายผิว จึงทำให้แบรนด์ KAANI สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่ม "แม่และเด็ก" ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายแรกเริ่ม แต่แบรนด์สามารถตอบโจทย์ในเรื่องความอ่อนโยนของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กได้ ซึ่งทำให้คุณแม่หลายๆ คนไว้วางใจแบรนด์ในการเป็นครีมกันแดดสำหรับลูกๆ



และด้วยการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ทางแบรนด์จึงต่อยอดด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์รุ่น "Everyday" ซึ่งทางแบรนด์ได้เน้นการตลาดในเรื่องการให้ความสำคัญในการใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว เนื่องจากในแสงแดดมีรังสีอยู่มากมาย และบางชนิดก็สามารถสร้างผลกระทบในระยะยาวให้กับผิวหนังได้ และได้ผลพลอยได้คือการได้รักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ทำให้เรื่องการดูแลผิวกายและการดูแลธรรมชาติกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว และสามารถทำได้ในทุกๆ วัน ด้วยแนวคิดนี้จึงทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น



"หลายคนคิดว่าถ้าใช้ผลิตภัณฑ์หรือครีมกันแดดแบบรักษ์โลก จะต้องแลกกับอะไรบางอย่าง เช่น ความเหนียวเหนอะหนะไม่สบายผิว หรือกันแดดได้ไม่ดี เพราะขาดส่วนประกอบบางชนิด เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่กลัวผิวคล้ำ แต่ KAANI ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ ไม่ต้องแลกกับอะไร"  .... นางสาวชนิภา หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์กล่าวเสริม



นอกจากจุดเด่นในเรื่องการเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของครีมกันแดด KAANI ที่ทำให้ลูกค้ายอมรับนั้น ก็คือส่วนผสมที่ทางแบรนด์ใช้เวลากว่า 1 ปี ในการพัฒนาส่วนผสมต่างๆ ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและวิถีชีวิตของคนไทย ด้วยสูตร Reef-safe ครีมกันแดดที่ไม่ใส่สารเคมี ในแบบ Physical sunscreen ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นกระจกสะท้อนหรือหักเหรังสี UV ออกไปจากผิว ทำให้เนื้อครีมสัมผัสไม่เหนียวเหนอะหนะสบายผิว ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้และไม่มีสารตกค้าง ทำให้ลูกค้าที่ใช้สามารถลืมภาพครีมกันแดดที่เหนียวเหนอะหนะไปได้ และยอมรับในการใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกได้อย่างสบายใจ



อีกหนึ่งจุดเด่นของแบรนด์ก็คือ การนำมาตรฐานของ "สาธารณรัฐปาเลา" หนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิคที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล ที่ได้มีการออกกฎหมายแบนสารเคมีในครีมกันแดดมากกว่า 10 ชนิด ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงที่สุดในโลกมาเป็นมาตรฐานของแบรนด์ จึงทำให้ครีมกันแดด KAANI ไม่ได้ตอบโจทย์แค่เฉพาะในตลาดประเทศไทย แต่ยังตอบโจทย์และสามารถนำไปใช้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลกได้อีกด้วย เนื่องจากในปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลก ต่างให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะวิกฤตสภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ครีมกันแดดจากฝีมือคนไทย "KAANI" จึงเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งการดูแลผิวและดูแลสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กันได้เป็นอย่างดี
#8280


นายณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ SO กล่าวว่าได้ผนึกกำลังกลุ่มจิตอาสา ร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คนไทยก้าวผ่านวิกฤตระบาดโควิด-19 สนับสนุนรถตู้แต่งพิเศษ พร้อมพนักงานขับรถ เพื่อให้บริการรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีเขียว จากบ้านพักอาศัยไปยังศูนย์พักคอย หรือโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา

"รถตู้จัดทำขึ้นพิเศษโดยการติดตั้งลิฟท์ยกแบบไฮโดรลิค เหมาะสำหรับการขนย้ายผู้ป่วยที่นั่งรถเข็นวีลแชร์ (Wheel Chair) สามารถยกขึ้นและลงได้สะดวก รองรับน้ำหนักได้ถึง 350 กิโลกรัม"

ปัจจุบันมีรถตู้ SO ให้บริการจำนวนทั้งสิ้น 4 คัน แบ่งเป็นรถตู้แบบธรรมดาจำนวน 2 คัน และแบบติดลิฟท์ไฮโดรลิคจำนวน 2 คัน โดยร่วมมือกับกลุ่มจิตอาสา ทั้งกลุ่มจิตอาสาเส้นด้าย คุณได๋ - ไดอาน่า จงจินตนาการ สำหรับศูนย์พักคอยต่างๆ และวัดป่าเจริญธรรม อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ตลอดจนให้บริการกับลูกค้าของ SO

ส่วนพนักงานจิตอาสา SO ที่ให้บริการนั้นได้ผ่านการฝึกอบรมขั้นพื้นฐานในการปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตลอดจนมีความเข้าใจและมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน ทั้งสวมใส่ชุดป้องกัน PPE และอุปกรณ์ป้องกัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน