• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Panitsupa

#3321


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ส.ค. 2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่น่าผิดหวังในเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,792.67 จุด ลดลง 323.73 จุด หรือ -0.92% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,402.66 จุด ลดลง 20.49 จุด หรือ -0.46% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,780.53 จุด เพิ่มขึ้น 19.24 จุด หรือ +0.13%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2 ยังคงช่วยหนุนตลาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 468.22 จุด เพิ่มขึ้น 2.84 จุด หรือ +0.61%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,746.23 จุด เพิ่มขึ้น 22.42 จุด หรือ +0.33%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,692.13 จุด เพิ่มขึ้น 137.05 จุด หรือ +0.88% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,123.86 จุด เพิ่มขึ้น 18.14 จุด หรือ +0.26%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,123.86 จุด เพิ่มขึ้น 18.14 จุด หรือ +0.26%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 70 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) โดยสัญญาน้ำมันปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 2.41 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 70.38 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,814.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 12.1 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 25.461 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 25.6 ดอลลาร์ หรือ 2.45% ปิดที่ 1,021.3 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 6.40 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 2,651.70 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังจากนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.21% แตะที่ 92.2686 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.46 เยน จากระดับ 109.11 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9063 ฟรังก์ จากระดับ 0.9041 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2551 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2537 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1838 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1863 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3887 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3915 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7382 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7393 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,792.67 จุด ลดลง 323.73 จุด, -0.92%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,402.66 จุด ลดลง 20.49 จุด, -0.46%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,780.53 จุด เพิ่มขึ้น 19.24 จุด, +0.13%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,123.86 จุด เพิ่มขึ้น 18.14 จุด, +0.26%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,746.23 จุด เพิ่มขึ้น 22.42 จุด, +0.33%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,692.13 จุด เพิ่มขึ้น 137.05 จุด, +0.88%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 54,369.77 จุด เพิ่มขึ้น 546.41 จุด, +1.02%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,159.04 จุด เพิ่มขึ้น 28.46 จุด, +0.46%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,491.33 จุด ลดลง 8.93 จุด, -0.60%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,585.21 จุด เพิ่มขึ้น 25.15 จุด, +0.38%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,182.90 จุด เพิ่มขึ้น 33.65 จุด, +1.07%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,426.55 จุด เพิ่มขึ้น 231.73 จุด, +0.88%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,477.22 จุด เพิ่มขึ้น 29.23 จุด, +0.85%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,623.89 จุด เพิ่มขึ้น 70.13 จุด, +0.40%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,280.38 จุด เพิ่มขึ้น 43.24 จุด, +1.34%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,584.08 จุด ลดลง 57.75 จุด, -0.21%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,503.20 จุด เพิ่มขึ้น 28.70 จุด, +0.38%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,778.70 จุด เพิ่มขึ้น 28.20 จุด, +0.36%
#3322


ดูสถานะของเตียงและอัปเดตสถานะของเตียงในโรงพยาบาลสนามได้ฟรีสำหรับ IQ Hospital ระบบเว็บแอปพลิเคชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ต้องบริหารจัดการเตียงสนาม เพื่อให้วางแผนการจัดการเตียงได้อย่างทันท่วงทีเมื่อมีผู้ป่วยเข้ามา เจ้าหน้าที่จะสามารถป้อนข้อมูลในระบบเพื่อบันทึกว่าคนไข้ใช้เตียงไหน และอัปเดตปรับสถานะของเตียงในระบบส่วนกลาง ซึ่งจะสามารถดูผลสรุปของข้อมูลได้แบบ Real Time โดยที่ไม่ต้องตรวจสอบข้อมูลไปมาผ่านกระดาษ 

นายพัศพงศ์ เจริญพันธ์ จากบริษัทไอโอทีแดช กล่าวว่า หากมีการนำระบบนี้ไปใช้งาน แพร่หลายในโรงพยาบาลสนามต่างๆ จะทำให้เกิดการบูรณาการข้อมูล ซึ่งจะทำให้เห็นภาพรวมของการให้บริการ

"จะเป็นประโยชน์แก่การให้บริการต่อพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่จะเห็นภาพรวมเลยว่าโรงพยาบาลไหนว่างอยู่บ้าง จะได้ไม่ต้องให้ประชาชนกางเต็นท์นอนรอ และไม่รู้ว่ามีเตียงที่ไหนว่าง"



เว็บแอปนี้เกิดจากการผนึกกำลังของทีม Startup นักพัฒนาแอปมืออาชีพ นายชานน จรัสสุทธิกุล เจ้าของแพลตฟอร์ม DeFi Forward และบริษัท ไอโอทีแดช จำกัด ด้วยเห็นปัญหาของการบริหารจัดการเตียงของบางโรงพยาบาลสนามในสถานการณ์โควิค-19 ที่อาจจะต้องใช้วิธีการจดมือ หรือวาดลงบนกระดาษ/กระดานดำ ทำให้ยากแก่การคำนวณ หรือดูผลสรุปข้อมูลการจัดการเตียงในโรงพยาบาล ซึ่งทีมได้ใช้เวลาในการพัฒนาแอปอย่างเร่งด่วน แล้วเสร็จในเวลา 3 วัน และได้นำไปใช้งานจริงแล้วในโรงพยาบาลสนามบุรีรัมย์ 

โรงพยาบาลสนามที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อขอใช้ได้ฟรีที่ chanon@forward.market และ patsapong@iotdash.io
#3323


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. แจ้งให้ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) และนายบุญ วนาสิน ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหมเพื่อนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ รวมถึงการเสียเงินมัดจำจำนวน 500-600 ล้านบาท จากการผิดเงื่อนไขของสัญญา

สืบเนื่องจากนายบุญ ในฐานะประธานกรรมการ THG ให้ข่าวผ่านสื่อเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2564 ว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหมที่เป็นหน่วยงานนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ต่อมาในวันเดียวกัน โฆษกกระทรวงกลาโหมได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวและยืนยันว่า ขณะนี้กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานในสังกัดยังไม่มีแผนหรือความตกลงร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนใดๆ ในการสั่งซื้อหรือนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์แต่อย่างใด นอกจากนี้ นายบุญ ยังกล่าวถึงการที่ต้องเสียเงินมัดจำเป็นจำนวน 500-600 ล้านบาท เนื่องจากผิดเงื่อนไขของสัญญาด้วย

ก.ล.ต. เห็นว่าเนื่องจากข้อเท็จจริงดังกล่าวมีความขัดแย้งกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิด และอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นหรือต่อการตัดสินใจลงทุนหรือต่อการเปลี่ยนแปลงในราคาหลักทรัพย์ ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ให้ THG และนายบุญ ชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายใน 7 วันนับแต่วันที่ 4 ส.ค.2564 พร้อมทั้งให้ THG เปิดเผยคำชี้แจงผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้มีหนังสือ 2 ฉบับถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ THG และนายบุญ วนาสิน ในฐานะประธานกรรมการของ THG ให้ชี้แจงกรณีดังกล่าว เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 ส.ค.2564

ด้านราคาหุ้น THG เมื่อเวลา 10.14 น. อยู่ที่ระดับ 28.50 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 7.32% มูลค่าการซื้อขาย 76.8 ล้านบาท
#3324


สรรพคุณ คามากร้าเจลลี่
เป็นของเหลว ทานง่ายเหมือนทานขนม

ดูดซึมเร็ว ออกฤทธิ์เร็วที่สุด เมื่อเทียบกับตัวอื่น

แข็งเร็ว ภายใน 15 นาที แข็งนาน

ไม่อ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธุ์

ออกฤทธิ์เร็วกว่า แรงกว่า ซิเดกร้า

Kamagra Oral Jelly คามากร้า เจลลี่ ไวอากร้า เพิ่มพลังเพศชาย ผลิตโดยบริษัทยาที่ได้มาตราฐาน ของแท้ ราคาถูก เป็นยาขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศ ช่วยรักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว นกเขาไม่ขัน ช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ดี ไม่อ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

kamagra ราคา (ขายเป็นซอง)
ส่งฟรี ส่ง kerry ด่วนพิเศษ เก็บเงินปลายทาง

7 ซอง ราคา 400 บาท (ซองละ 57 บาท)

21 ซอง ราคา 1,000 บาท (ซองละ 47 บาท)

49 ซอง ราคา 1,800 บาท (ซองละ 36 บาท)

70 ซอง ราคา 2,400 บาท (ซองละ 34 บาท)

140 ซอง ราคา 4,500 บาท (ซองละ 32 บาท)

kamagra ราคา (ขายเป็นกล่อง)
ส่งฟรี ส่ง kerry ด่วนพิเศษ เก็บเงินปลายทาง

1 กล่องมี 50 ซอง

ซื้อ 1 กล่อง (50 ซอง) ราคา 1,700 บาท (กล่องละ 1,700 บ)

ซื้อ 3 กล่อง (150 ซอง) ราคา 4,500 บาท (กล่องละ 1,500 บ)

ซื้อ 5 กล่อง (250 ซอง) ราคาส่ง 6,750 บาท (กล่องละ 1,350 บ)

ซื้อ 10 กล่อง (500 ซอง) ราคาส่ง 12,500 บาท (กล่องละ 1,250 บ)

kamagra gold (คามากร้าเม็ด)
Kamagra-Gold-100-mg-Tablet
สรรพคุณ คามากร้าโกลด์
ออกฤทธิ์นานประมาณ 4 ชั่วโมง

สามารถเสร็จกิจกรรมได้หลายรอบ อวัยวะฟื้นตัวเร็ว

ผลข้างเคียงน้อยมาก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ

ช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ดี ไม่อ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ทานยาครั้งละ 1 เม็ดประมาณ 30 – 40 นาทีก่อนการมีเพศสัมพันธ์

ห้ามทานยามากกว่าวันละครั้ง

Kamagra Gold เป็นยาขยายหลอดเลือด เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศ ช่วยรักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว นกเขาไม่ขัน ช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ดี ไม่อ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ ยา คามากร้า (Kamagra) เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction; ED) หรือ ต้องการให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานขึ้น

คามากร้า ราคา
ส่งฟรี ส่ง kerry ด่วนพิเศษ เก็บเงินปลายทาง

1 แผง 300 บาท

3 แผง 750 บาท / แผงละ 250 บาท

5 แผง 1,150 บาท / แผงละ 230 บาท

7 แผง 1,540 บาท / แผงละ 220 บาท

9 แผง 1,890 บาท / แผงละ 210 บาท

25 แผง 4,750 บาท / แผงละ 190 บาท

50 แผง 9,000 บาท / แผงละ 180 บาท

100 แผง 17,000 บาท / แผงละ 170 บาท

เจลคามากร้า ให้ผลอย่างไร
ช่วยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้น
ยืดเวลาการมีเพชสัมพันธุ์ ชะลอหลั่งไว
จะมีกิจกรรมตอนไหนก็ได้แค่มีการกระตุ้น
อาการข้างเคียง

สำหรับคนที่ร่างกายปกติ ที่เกิดจากทานยาไวอากร้า ก็มี ปวดหัว หน้าแดง ตาพร่า ใจเต้นแรง แล้วก็ตาแพ้แสงผลข้างเคียงนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละบุคคล บางคนก็ไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ

วิธีรับประทานยา kamagra gel
ทานในขณะท้องว่าง หลังจากทานแล้วโดยเฉลี่ยยาจะออกฤทธิ์ ภายใน 15 นาที

คุณสมบัติของยา คามากร้า เจลลี่
Kamagra oral jelly เป็นยาที่จะช่วยกระตุ้นการขยายหลอดเลือด ทำให้ช่วยเรื่องการแข็งตัว และมีผลช่วยในเรื่องของความอึด ส่วนตัวเวลาไม่ได้ใช้ยาจะสามารถสอดใส่ได้ไม่เกิน 5 นาที แต่ถ้าใช้ยาจะได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งผลนี้จะขึ้นอยู่กับบุคคลที่ทานยาครับ แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน

* Kamagra oral jelly แตกต่างจากตัวอื่นคือ เป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็วที่สุดในยาทั้งหมดครับ ประมาณ 15  นาที และได้ผลค่อนข้างดี ต่างชาติจะนิยมใช้ตัวนี้กันครับ

Tags :: kamagra,คามากร้า,ขายคามากร้า,kamagra ราคา,คามากร้าเจลลี่,kamagra เก็บเงินปลายทาง,คามากร้าเจล,kamagra jelly ราคา,คามากร้าเจลลี่ ราคา,kamagra ส่งด่วน,kamagra เจลลี่
 
#3325


แม้ความท้าทายในแวดวงสาธารณสุข จะเกิดขึ้นมายาวนานก่อนไวรัสโควิด-19 เห็นจากแนวโน้มด้านประชากรศาสตร์ เช่น โครงสร้างสังคมผู้สูงอายุทั่วโลก การเพิ่มขึ้นอย่างมากของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน และเบาหวาน การขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุข 

องค์กรอนามัยโลก คาดการณ์ว่า โลกจะขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุขราว 13 ล้านคนภายในปี 2035 หรือค่าเวชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ความมั่นคงด้านการเงินของระบบสาธารณสุขเป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นเดียวกัน

"นครินทร์ เทียนประทีป" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยิบอินซอย จำกัด กล่าวในประเด็นนี้ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกกลายเป็น disruption อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งผลให้ระบบบริการด้านสาธารณสุขทั่วโลกถูกทดสอบอย่างหนัก และโครงสร้างสังคมผู้สูงอายุทั่วโลกที่รวมถึงประเทศไทยที่ก้าวสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์แล้วในปี 2564 นี้ 

การเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยีเข้าสู่ยุคดิจิทัล เช่น ระบบระเบียนสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EHR) การจัดการกับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นมหาศาลด้วย "เอไอ" หรือ "แมชชีน เลิร์นนิ่ง" เพื่อส่งมอบบริการที่ดีขึ้นให้คนไข้ หรือเพื่อประโยชน์ด้านวิจัยของวงการการแพทย์ จึงมีบทบาทสำคัญ ช่วยยกระดับขีดความสามารถบริการด้านสาธารณสุข ที่ก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างมหาศาลอีกต่อไป 

เพียงใช้เทคโนโลยีทุกอย่างภายใต้การบริการ หรือ Everything-as-a-service จะทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้บริการด้านสาธารณสุขเป็นไปอย่างราบรื่น

ระบบ EHR ตัวแปรเปลี่ยนผ่าน

ระบบระเบียนสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EHR (The Electronic Health Record) หนึ่งตัวแปรสำคัญของการเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยีของวงการสาธารณสุขเข้าสู่โลกของดิจิทัล เริ่มจากเก็บข้อมูลสุขภาพผู้ป่วย ข้อมูลตรวจวินิจฉัย และผลลัพธ์อื่นผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค อุปกรณ์ในห้องตรวจวินิจฉัยโรค หรืออุปกรณ์อื่นขึ้นสู่ระบบดิจิทัล เพื่อแพทย์และพยาบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของผู้เข้ารับการรักษาแค่เพียงปลายนิ้ว

ระบบ EHR รุ่นใหม่ ไม่ใช่แค่ปรับปรุงบริการด้านคลินิค การดำเนินงาน แต่ยังรวมถึงการส่งมอบประสบการณ์การสื่อสารที่ดีขึ้นระหว่างพยาบาล ผู้ป่วยคู่กับการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยข้อมูลขั้นสูง 

ยิ่งกว่านั้น ยังมีส่วนสำคัญให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจาก การจ่ายเงินแลกบริการ (fee-for-service) เป็น ดูแลแบบเน้นคุณค่า (value-based care) เพื่อเชื่อมกระบวนการเบิกค่ารักษาพยาบาลที่สะดวกรวดเร็ว พัฒนาขีดความสามารถระบบ workflow ใช้ข้อมูลเพื่อให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มการตัดสินใจที่แม่นยำในการดูแลรักษาผู้ป่วยให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด

แพลตฟอร์ม EHR มุ่งเน้นโครงสร้างจัดการแบบยืดหยุ่น ขยายผลสู่การให้บริการการสาธารณสุขทางไกล ที่มีการผลักดันอย่างมากก่อนการระบาดของโควิด-19 ต่างเห็นตรงกันว่า เป็นแพลตฟอร์มสำคัญต่อการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยแบบยั่งยืน ทำงานผ่านแอพพลิเคชั่น ที่ประกอบด้วย รูปแบบบริการตนเองและเฝ้าติดตามสุขภาพแบบอัตโนมัติ การควบคุมเข้าถึงหรือเคลื่อนย้ายข้อมูลด้าน EHR ผ่านช่องทางหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัย พร้อมการตอบรับความต้องการของผู้ป่วยด้านความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึงบริการได้สมบูรณ์ในแพลตฟอร์มเดียว

ตอบโจทย์ข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น

เดิมการใช้คลาวด์สาธารณะน่าจะเป็นคำตอบสำหรับระบบจัดการข้อมูลด้านสาธารณสุขที่เต็มไปด้วย ด้วยปริมาณข้อมูลที่เติบโตชนิดคาดการณ์ไม่ได้ รวมถึงความซับซ้อนและหลากหลายของข้อมูล เช่น จากแผนกรังสีวิทยา แผนกโรคหัวใจ ภาพนิ่งจากศูนย์รักษาแผล (Wound Care Center) วิดีโอจากการศึกษาเรื่องการนอน การเดิน, ศัลยกรรม และอีกมากมาย แต่เรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และข้อบังคับเรื่องความเป็นส่วนตัวในแต่ละประเทศ (jurisdictions) อาจทำให้การใช้คลาวด์สาธารณะเป็นเรื่องยุ่งยาก ยิ่งกว่านั้น อาจจะยิ่งผลักดันต้นทุนการเข้าถึงข้อมูลบนคลาวด์สาธารณะสูงตามไปอีกด้วย

ดังนั้น การสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยในองค์กร (on-premises storage) ซึ่งทางเทคนิคอาจหมายถึงการจัดเก็บในดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรเอง หรือจากการใช้บริการ co-location จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่า ซึ่งการจัดหาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (storage) สามารถทำได้หลายระดับขึ้นอยู่กับความต้องการในการเข้าถึงข้อมูล หรือจากวิกฤตของความต้องการใช้งาน HPE Nimble Storage Adaptive Flash Arrays เป็นทางเลือกเริ่มต้นที่เข้มแข็ง เหมาะกับทั้งการทำงานในระดับ primary และ secondary และยิ่งร่วมกับความสามารถในการวิเคราะห์จาก HPE InfoSight แล้ว ก็จะยิ่งทำให้การคาดการณ์และป้องกันปัญหาทั้งระบบของการจัดเก็บข้อมูลเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งกว่านั้น ความสามารถอื่นเช่น intelligent deduplication ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บในระดับที่หาตัวจับยาก และช่วยให้ใช้การจัดเก็บข้อมูลได้อย่างเต็มความจุ

นอกจากนี้ ยังมีตัวแปรสำคัญอื่นที่ท้าทายต่อการลงทุน คือ ระยะเวลาที่ยาวนานของการจัดสรรงบประมาณและกระบวนการจัดซื้อ ทางออกปัญหาด้านงบประมาณ คือ การจ่ายค่าบริการตามการใช้งานจริง ซึ่งเริ่มถูกนำมาใช้มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์องค์กรในการก้าวข้ามผ่านความท้าทายเหล่านี้ หลีกเลี่ยงการลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ตั้งแต่เริ่มต้น ขณะเดียวกัน ยังได้ความคล่องตัวสร้างนวัตกรรมด้านดิจิทัล ด้วยค่าใช้จ่ายด้านไอทีที่น้อยลงเท่ากับปริมาณที่ใช้งานจริงเท่านั้น

ยิบอินซอย ยกตัวอย่างถึง ผลศึกษาฟอร์เรสเตอร์ระบุถึงการนำ HPE Green Lake บริการด้านฮาร์ดแวร์ โซลูชั่น และควบคุมค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนในรูปแบบของคลาวด์ตามการใช้งานจริง ไปปรับใช้ในองค์กรสาธารณสุข พบว่า มีผลตอบแทนการลงทุนเพิ่มขึ้น 163% ประหยัดเวลาพัฒนาบริการสาธารณสุขเพื่อส่งต่อให้ลูกค้า คิดเป็นตัวเงินได้สูงถึง 2.5 ล้านดอลลาร์ 

ทั้งนี้ HPE GreenLake เป็นวิธีการให้บริการแบบ Everything-As-a-Service ช่วยให้ธุรกิจ และองค์กรทั่วโลกนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เสริมประสิทธิภาพดำเนินงานได้รวดเร็ว ง่าย และหลากหลาย ส่งต่อประสบการณ์ทำงานแบบคลาวด์ให้เกิดขึ้นได้ในองค์กร บริการดูแลจัดการชนิดเต็มรูปแบบ คิดค่าบริการตามการใช้งานจริง

 
#3326


เกาะติดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค คุมเข้มบริหารซัพพลายเชน หวั่นโควิด ทำธุรกิจสะดุด พร้อมงัดแผนงานต่อเนื่อง รองรับวิกฤติ 'ไอ.ซี.ซี.ฯ' เครือสหพัฒน์ เผยโรคระบาดลากยาวฉุดยอดขาย ไร้วี่แววจุดต่ำสุดอยู่ตรงไหน ต้องปรับกำลังการผลิตให้สอดคล้องดีมานด์ ห่วงกลางน้ำ กระเทือนขนส่งกระจายสินค้า 'เบทาโกร' ตั้งวอร์รูม ดูแลสุขอนามัยพนักงานใกล้ชิด 'ส.ขอนแก่นฟู้ดส์' วาง 6 แผนงานต่อเนื่อง รับมือวิกฤติ 

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน)ในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รัฐต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ปัจจัยเหล่านี้กระทบต่อห่วงโซ่การผลิตสินค้าหรือซัพพลายเชนอย่างมาก แต่สิ่งที่ต่างกันคือปีนี้ผู้ติดเชื้อตัวเลขพุ่งสูงขึ้น ผลกระทบเกิดยาวนาน เทียบปีก่อนล็อกดาวน์ 3 เดือน ตัวเลขติดเชื้อน้อย ทำให้การผลิตและจำหน่ายสินค้ามีช่วงฟื้นตัวเดือนสิงหาคมและปลายปี

ทั้งนี้ ตราบที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสสูงขึ้น การบริหารจัดการซัพพลายเชนของบริษัทต้องเข้มข้นอย่างมาก เนื่องจากเครือสหพัฒน์มีบริษัทที่ทำงานภายใต้ห่วงโซ่การผลิตจำนวนมาก เฉพาะบริษัท ไอ.ซี.ซี.ฯ มี 7 กลุ่มบริษัทที่ผลิตสินค้าให้ เช่น บริษัท ธนูลักษ์, บริษัท ประชาอาภรณ์, บริษัท ไลอ้อนฯ, บริษัท ไทยวาโก้ เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าอุปโภค แบรนด์ เอสเซ้นส์ ฯ

สำหรับทั้ง 7 กลุ่มบริษัทเกี่ยวข้องพนักงานหลัก "หมื่นราย" เช่น ไทยวาโก้ พนักงานกว่า 4,000 คน, ไอ.ซี.ซี.ฯ พนักงานทุกส่วนรวมถึงหน้าร้านกว่า 5,000 คน ส่วนโรงงานอื่นมีพนักงาน 1,000 คน และ 800 คนบ้าง ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการดูแลด้านสุขอนามัยตามที่หน่วยงานสาธารณสุขให้คำแนะนำอย่างเข้มข้น

ด้านผลกระทบห่วงโซ่การผลิตเกิดขึ้แตกต่างกัน โดยปลายน้ำ หรือหน้าร้านขายสินค้า การล็อกดาวน์ทำให้ยอดขายหดตัวอย่างรุนแรง ปัจจุบันยังคาดการณ์ยากว่า "จุดต่ำสุด" อยู่ตรงไหน ทำให้บริษัทต้องปรับใช้กำลังการผลิตซึ่งเป็นต้นน้ำให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อไม่ให้กระทบปริมาณสินค้าคงเหลือหรือสต๊อกมากจนเกินไป

"หน้าร้านกระทบ เพราะยอดขายดิ่ง จะไปถึงไหนมองไม่ออกจริงๆ ไม่เห็นก้นเหว แต่หน้าที่เราต้องหาทางทำให้ธุรกิจรอด มีเงินจ่ายพนักงาน เมื่อยอดขายตก บริษัทจึงปรับตัวด้านการใช้กำลังการผลิต ผลิตสินค้าให้เหมาะสมกับการขาย เบรกต้นน้ำ ซึ่งทำมาระยะหนึ่งแล้วในการบริหารจัดการซัพพลายเชนได้ค่อนข้างทันเวลา ทำให้ปริมาณสต๊อกมีเพียงเล็กน้อย เมื่อคลายล็อกดาวน์ เปิดร้านได้เชื่อว่าจะกระจายสินค้าได้หมดใน 1-2 สัปดาห์"

ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงสุดคือการขนส่งและกระจายสินค้า เพราะหากเกิดมีผู้ติดเชื้อ อาจส่งผลกระทบสินค้าถึงมือผู้บริโภคต้องชะงักลง เหมือนกับผู้ประกอบการโลจิสติกส์บางรายเผชิญ และสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล โดยซัพพลายเชนด้านกลางน้ำของไอ.ซี.ซี.ฯ มีการใช้บริการคลังสินค้าของไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติคส์ ของเครือสหพัฒน์ ซึ่งมีพนักงานราว 200 คน และเพิ่มมาตรการดูแลด้านสุขอนามัยให้พนักงานอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกันบริษัทยังใช้การส่งสินค้าจากพันธมิตรอื่นๆด้วย

นอกจากนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านธุรกิจ บริษัทจึงทำแผนความต่อเนื่องของธุรกิจ(Business Continuity Plan:BCP)หากเกิดกรณีไม่มีผู้ติดเชื้อ พนักงานออฟฟิศต้องทำงานที่บ้าน ทีมงานสินค้า ทีมงานขาย ทีมหลังบ้าน เช่น บัญชีต่างๆ มีกระบวนการทำงานรองรับแตกต่างกันไป ส่วนคลังสินค้าหากต้องปิดให้บริการ จะต้องย้ายสินค้าออก แล้วทำการฉีดยาฆ่าเชื้อไวรัส แล้วย้ายสินค้ากลับมา หรือต้องย้ายสินค้าไปยังคลังสินค้าของโรงงานในห่วงโซ่การผลิตแต่ละแห่ง ซึ่งคลังเดิมยังไม่มีระบบ เทคโนโลยี ฟังก์ชั่นการหยิบจับสินค้าให้สอดคล้องกับอีคอมเมิร์ซ

ที่ผ่านมา บริษัทมีอุปสรรคในการส่งสินค้าถึงผู้บริโภคล่าช้าบ้าง จากเดิมส่งภายใน 1 วัน ขยายเป็น 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีเช่นบางบริษัทที่คลังหรือศูนย์กระจายสินค้ามีผู้ติดเชื้อโควิด จนเกิดวิกฤติส่งสินค้า มองว่าการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นเร็วภายใน 1-3 วันได้

"หากเกิดวิกฤติการส่งสินค้า คาดว่าใช้เวลาไม่นานก็แก้ไขได้ อาจจะ 3 วัน หรือบางกรณี 1 วัน ยุติปัญหาได้"

นายธรรมรัตน์ กล่าวอีกว่า ห่วงโซ่การผลิตส่วนปลายน้ำหรือหน้าร้านถูกปิด แต่บริษัทปรับตัวลุยทำตลาดออนไลน์ ซึ่งปีนี้คาดว่ายังสร้างยอดขายเติบโตกว่า 100% ต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในการช้อปออนไลน์ไม่หวือหวา คึกคักเหมือนโควิดระบาดครั้งแรก ประกอบกับปัจจุบันกำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายลดลงอย่างมาก

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวว่า ธุรกิจอาหารจะไปต่อได้ต้องดูแลบริหารจัดการซัพพลายเชนไม่ให้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แต่ตลอดระยะเวลา 14 เดือนที่เกิดวิกฤติโควิด-19 การระบาดเกิดขึ้น 3-4 ระลอกแล้ว ทำให้โรงงานอาหารขนาดใหญ่หลายประเภทมีผู้ติดเชื้อ เช่น โรงงานผลิตสับปะรดกะป๋อง โรงงานผลิตไก่ ฯ ซึ่งแต่ละแห่งมีพนักงานหลายพันคน บางแห่ง 5,000-6,000 คน

ทั้งนี้ ในระบบซัพพลายเชนการผลิตอาหารหมวดโปรตีน มีการใช้ระบบการส่งมอบวัตถุดิบ ส่งสินค้าให้ทันเวลา( Just-in-time) ในระบบการผลิตทั้งหมู ไก่ หลายแสนตัวต่อโรงงาน หากสะดุด จะกระทบต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างมาก โดยวิธีการป้องกันของบริษัทคือการตั้งห้องประชุมเชิงยุทธศาสตร์(War room) สำรวจสุขภาพพนักงานตลอดเวลา ทำงานร่วมกับรัฐอย่างใกล้ชิด และต้องมีแผนงานต่อเนื่องหรือBCP ไว้สำคัญมาก

"แม้ดูแลป้องกันอย่างดี สุดท้ายก็ประสบปัญหาโรงงานผลิตไก่ที่มีพนักงานเกือบหมื่นคนมีผู้ติดเชื้อ สถานการณ์เหมือนกรุงแตก เพราะเอาไม่อยู่ ใน 3 สัปดาห์ เราทำงานร่วมกับรัฐ เพื่อให้ฟื้นตัว นี่เป็นบทเรียนสำคัญ ระยะสั้นองค์ความรู้สามารถนำไปดูแลหากเกิดกรณีเดียวกันในจังหวัดอื่น"

นายจรัญพจน์ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในห่วงโซการผลิตสินค้า ต้นน้ำคือโรงงานบริษัทมีการดูแลสุขอนามัยพนักงานอย่างใกล้ชิด และตนเป็นคนรับรายงานตัวเลขระบบสุขภาพของทุกคนโดยตรงทุกวันเพื่อให้รู้ว่ามีใครป่วยหรือไม่ป่วยบ้าง

นอกจากนี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อมีการสั่งให้พนักงานพักอาศัยที่ฟาร์ม เพราะนอกจากโรคโควิด-19 ยังมีโรคระบาดของหมูเกิดขึ้นด้วย ส่วนฝ่ายอื่นๆทั้งการผลิต ฝ่ายขาย รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร ต้องมีการทำแผนงานต่อเนื่องรองรับ ซึ่งปัจจุบันทำถึง 6 แผน เช่น ฝ่ายผลิตหากบรรจุสินค้าไม่ได้ ฝ่ายขายพร้อมไปช่วย มีการหาแหล่งวัตถุดิบผลิตอาหารจากทั่วโลก ไม่แค่ไทย เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ส่วนการขายเมื่อช่องทางห้างค้าปลีกปิด ได้ปรับตัวไปรุกร้านค้าทั่วไป โดยเฉพาะร้านธงฟ้า ซึ่งมีอยู่นับแสนแห่งทั่วประเทศ
#3327


เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ที่ BBB โดยมีมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ระดับมีเสถียรภาพ (Stable) และวันที่ 3 สิงหาคม 2564 บริษัท Moody's Investors Service (Moody's) ได้ประกาศคงอันดับ Credit Rating ของบริษัทฯ เช่นกันที่ Baa3 และมีมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) เชิงลบ (Negative)

โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทั้ง  2 สถาบันมีมุมมองที่คล้ายกันว่า การเข้าลงทุนในบริษัท PT Chandra Asri Petrochemical Tbk ("CAP") ในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่ต้องการมีโครงสร้างธุรกิจที่มีความสมบูรณ์ ครอบคลุมธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี รวมถึงสร้างโอกาสการเติบโตในประเทศอินโดนีเซีย   

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการจัดหาเงินทุนสําหรับการปรับโครงสร้างทางการเงินระยะยาว (Recapitalization Plan) ที่ชัดเจน รวมถึงแผนการจัดหาเงินทุนดังกล่าว ยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัทฯ อีกด้วย

ทั้งนี้ ไทยออยล์ คาดจะดำเนินการเข้าลงทุนใน CAP แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2564 และรับรู้ผลการดำเนินการของ CAP ตามสัดส่วนการถือหุ้นได้ในไตรมาส 4 ปี 2564

สำหรับ ไทยออยล์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายนํ้ามันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นนํ้ามันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

อีกทั้ง ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บนํ้ามันดิบ นํ้ามันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์

ส่วน PT Chandra Asri Petrochemical Tbk ("CAP") เป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านปิโตรเคมีชั้นนำรายใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 29 ปี มียอดขายรวมในปี 2563 มากกว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ CAP เป็นผู้ดำเนินกิจการโรงงานแยกแนฟทา (Naphtha Cracker) เพียงแห่งเดียวของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ อาทิ โพลิเอททิลีน (PE) โพลิโพรไพลีน (PP) สไตรีนโมโนเมอร์ (SM) และบิวทาไดอีน (BD) และผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์อีกหลายชนิด

โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่ เมือง Cilegon ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมชายฝั่งที่สำคัญในจังหวัด Banten ทางด้านตะวันตกของเกาะชวา ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 ลำดับแรก ประกอบด้วย PT Barito Pacific Tbk ถือหุ้นที่สัดส่วน 41.88% บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ถือหุ้นที่สัดส่วน 30.57% และ Prajogo Pangestu ถือหุ้นที่สัดส่วน 13.33%
#3328


อัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด อีตั้น กรุ๊ป ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ รายใหญ่ ระบุว่า อีตั้น กำลังจะเสริมรถใหม่ เข้ามาทำตลาดช่วงปลายปี เอาใจกลุ่มลูกค้าที่ชอบเอสยูวี หรูหราขนาดใหญ่ "แลนด์ ครุยเซอร์" (LAND CRUISER 2022)

 แลนด์ ครุยเซอร์ เป็นรถเอสยูวี ขนาดฟูลไซส์ โดยมีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และ เครื่องยนต์ดีเซล และมีให้เลือกทั้งแบบเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง และ 3 แถว 7 ที่นั่ง


ทั้งนี้ แลนด์ ครุยเซอร์ เตรียมจะเปิดตัวในญี่ปุ่น เร็วๆ นี้ แต่อีตั้นเปิดให้ลูกค้าจองเรียบร้อยแล้ว

โดย แลนด์ ครุยเซอร์ ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ TNGA-F ออกแบบมาสำหรับรถในกลุ่ม เอสยูวี ที่ใช้โครงสร้างแบบ Body-on-frame โดยเฉพาะ โดยช่วยให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง แต่แข็งแรงมากขึ้น และน้ำหนักตัวลดลง 200 กก.

ระบบช่วงล่าง เทคโนโลยีใหม่ E-KDSS โดยทำงานแปรผันกับสภาพพื้นผิวถนนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในทางเรียบ ทางต่างระดับ พื้นผิวถนนทุรกันดาร เป็นคลื่นเป็นลอน หรือเส้นทางออฟโรด

ตัวรถ ออกแบบให้ยังคงมีกลิ่นอายของรุ่นเดิมๆ ด้วยเส้นสาย ความเป็นเหลี่ยมสัน เพื่อทำให้รถดูมีความบึกบึน กระจังหน้าออกแบบเป็นรูปตัว U ตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟท้ายดีไซน์ใหม่


 

 


นอกจากนี้การออกแบบต่างๆ ทำให้เหมาะกับการใช้งานนอกถนนมากขึ้น เช่น ตำแหน่งไฟ และรูปทรงกันชนที่ป้องกันความเสียหายระหว่างการขับขี่ในเส้นทางทุรกันดาร

ส่วนมิติตัวรถ

ความยาว 4,990 มม.
กว้าง 1,980 มม.
ฐานล้อ 2,850 มม.
ส่วนภายในห้องโดยสาร ออกแบบให้มีความหรูหรามากขึ้น และรุ่นท็อปมาพร้อมกับมูนรูฟ เบาะปรับไฟฟ้า, หน้าจอขนาดใหญ่แบบทัชสกรีน ประตูท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ ฟรี ติดตั้งกล้อง 360 องศา แผงหน้าปัดแบบแนวนอนช่วยให้จับตำแหน่งของรถได้ง่าย


สำหรับเครื่องยนต์แบ่งเป็น

เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ V6 ความจุกระบอกสูบ 5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 409 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์ดีเซล ความจุกระบอกสูบ 3 ลิตร กำลังสูงสุด 304 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร
เช็คสิทธิ 'ประกันสังคม' www.sso.go.th ม.33 ม.39 ม.40 เช็ควันรับเงินเยียวยา ที่นี่
เช็คเงิน 'เยียวยาประกันสังคม' ม.33 พื้นที่สีแดงเข้ม โอนเข้า 'พร้อมเพย์' วันแรก
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ทะลุ 2หมื่น! พบเสียชีวิต 188 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 20,200 ราย ยังไม่รวม ATK อีก 522 ราย
ระบบความปลอดภัยติดตั้งระบบ  Toyota Safety Sense 2.0 เวอร์ชั่นล่าสุด ประกอบไปด้วย

ฟังก์ชั่นตรวจจับจักรยานในเวลากลางวัน
ระบบ Parking Support Brake ซตรวจจับสิ่งกีดขวางในขณะถอยจอดด้วยความเร็วต่ำทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวรถ
ฟังก์ชั่นตรวจจับคนเดินถนนแบบ ทั้งกลางวัน-กลางคืน
Pre-Collision System หลีกเลี่ยงการปะทะทางด้านหน้า

และในรุ่น ท็อป  มาพร้อม ระบบช่วยขับ ระบบ Multi-Terrain Monitor กล้องรอบตัวรถ ที่สร้างเส้นไกด์ไลน์ เพื่อช่วยให้ผู้ขับสามารถเห็นมุมล้อขณะขับขี่ ได้ภายในห้องโดยสารโดยไม่ต้องลงมาจากรถ รวมถึงระบบ Multi-Terrain Select ผู้ขับสามารถเลือกการตอบสนองของช่วงล่างให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง
#3329


นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่มีการรวมกิจการระหว่างธนาคารธนชาตและธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) นั้น ซึ่งในส่วนของธนาคารธนชาตเดิม จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารของลูกค้าเดิมทั้งหมด และมีผลตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้การโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ใช้รับเงินเดือน ค่าจ้างประจำ เบี้ยหวัดบำนาญ และเงินอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งการโอนเงินเดือนพลทหารกองประจำการ ผ่านระบบจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำ (e-Payroll) ระบบบำเหน็จบำนาญ (e-Pension) และระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-Social Welfare) ของกรมบัญชีกลางมีความต่อเนื่อง

"ขอประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญและเงินอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกันหรือพลทหารกองประจำการ ที่เป็นลูกค้าของธนาคารธนชาตเดิม ไปติดต่อธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เพื่อขอเปลี่ยนแปลงเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารใหม่ และนำเลขที่บัญชีเงินฝากดังกล่าว ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ในสังกัดหน่วยงานของท่าน ที่ปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบ e-Payroll หรือระบบบำเหน็จบำนาญ e-Pension หรือระบบ e-Social Welfare แล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารใหม่ให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินต่อไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ"
#3330


GTH "Golden triangle health" ผนึก NRF และ ม.ขอนแก่น เซ็น MOU นำเมล็ดกัญชงลงแปลงปลูกที่แรกในประเทศไทย เพื่อพัฒนาการปลูกและการสกัดกัญชง สถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ ด้าน "จุลภาส เครือโสภณ" นำร่องพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ

นายจุลภาส (ทอม) เครือโสภณ ผู้ก่อตั้งบริษัท (Founder) บริษัท GTH "Golden triangle health" จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ร่วมกับ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ที่ให้บริษัทย่อย บริษัท ซูเปอร์ แพลนส์ จำกัด เข้าถือหุ้น GTH ในสัดส่วน 49% และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีปลูกกัญชงและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการว พัฒนาการปลูกและสกัดกัญชงสถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1.พัฒนาและวิจัยการปลูก การสกัดสารสำคัญจากพืชกัญชงรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชงเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ

2.เพื่อร่วมมือในการทดลอง วิจัย ปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชกัญชงสายพันธุ์คุณภาพที่บริษัทฯ นำเข้าเมล็ดพันธุ์ โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น จะส่งเสริมการปลูกพืชกัญชงในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่เบื้องต้น 400 ไร่ โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผลผลิตทั้งหมดที่ได้จากมหาวิทยาลัย 3.เพื่อร่วมมือในการพัฒนาสายพันธุ์กัญชงโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้ได้มาซึ่งกัญชงสายพันธุ์ไทยที่มีค่าสาร CBD สูงและค่าสาร THC ต่ำตามที่กฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนด โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผลผลิตจากสายพันธุ์กัญชงไทยที่มีการพัฒนาคุณภาพ

4.เพื่อร่วมมือในการประชาสัมพันธ์การนำผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีส่วนผสมของกัญชงหรือสารสกัดกัญชงที่มาจากการพัฒน่ร่วมกันให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ 5.เพื่อร่วมมือในการ พัฒนาและสกัดโปรตีนจากพืชกัญชงรวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้โปรตีนสูงจากโปรตีนของพืชกัญชง และ6.เพื่อร่วมมือในการพัฒนาและจัดตั้งหลักสูตรการศึกษาในเรื่องโปรตีนจากพืชสนับสนุนและจัดสรรบุคลากรที่เป็นประโยชน์ต่อหลักสูตรดังกล่าว

ด้านนางสาวณัฏฐิฏา ภูมิภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท GTH "Golden triangle health" จำกัด เปิดเผยว่าการปลูกและสกัดสารจากผลผลิตพืชกัญชงในส่วนของเมล็ดพันธุ์ที่บริษัทฯ นำเข้ามา เช่น เทอร์พีน (Terpene) น้ำมันในพืชกัญชงและสารสกัด CBD เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายไปพัฒนาและผสมในผลิตภัณฑ์ที่ผลิตคิดค้นและวิจัย พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น นอกจากนี้ยังสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายตามความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ตลอดจนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคต่อไปภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย

"ภาพรวมการเติบโตของธุรกิจกัญชงในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดี โดยคาดว่าหลังจากเริ่มปลูกและสามารถเก็บเกี่ยว เพื่อนำมาสกัดสารสำคัญต่างๆจะทำให้ตลาดสามารถขยายไปได้มากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนผู้ที่สนใจเกี่ยวกับธุรกิจกัญชงหรือสารสกัดจากกัญชง สามารถสอบถามได้ที่ บริษัท GTH ผ่านทางไลน์ @hemp_house" นางสาวณัฏฐิฏา กล่าว

อนึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยที่ศึกษาค้นคว้างานวิจัยทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มีทั้งงานวิจัยพื้นฐาน งานวิจัยประยุกต์ มีนักวิจัยและเครื่องมือการวิจัยที่มีศักยภาพที่จะดำเนินการวิจัยต่างๆ ทุกด้านและทุกสาขาวิชา ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงได้จัดตั้งสถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ ดำเนินการวิจัยและพัฒนา เกี่ยวกับพืชกัญชงและกัญชา เพื่อปลูกประเมินลักษณะประจำพันธุ์และปริมาณสารสำคัญในกัญชง THC และ CBD ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตลอดจนพัฒนาระบบการผลิตกัญชงให้เหมาะสมกับพื้นที่ภาคอีสาน นอกจากจะเป็นประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว ยังทำหน้าที่ส่งเสริมถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับกัญชง เป็นศูนย์กลางข้อมูล เพื่อเผยแพร่ความรู้ ข่าวสารให้กับวิสาหกิจชุมชน ชุมชน หน่วยงาน ภาครัฐบาล เอกชน ให้เกิดการต่อยอดสู่การอุตสาหกรรม
#3331


กระทรวงสาธารณสุข เผยการทำ Home Isolation , Community Isolation ในผู้ติดเชื้อโควิด 19 กลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ซึ่งพบร้อยละ 85 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ช่วยลดการใช้เตียงในโรงพยาบาล ช่วยผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลางและรุนแรง หรือกลุ่มสีเหลือง สีแดงได้รับการดูแลเต็มที่

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับมาตรการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค จากสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดได้รวดเร็ว ทำให้พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ความต้องการเตียงจึงมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีประมาณร้อยละ 15 ที่มีอาการปานกลางหรืออาการรุนแรง ต้องรับไว้ในโรงพยาบาลและต้องการใช้เครื่องมือแพทย์ ซึ่งส่วนมากอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง รวมถึงคนอ้วน ซึ่งส่วนใหญ่อีกร้อยละ 85 จะมีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย ไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาล ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน ทำลายเชื้อโรคได้ดี สามารถทำ Home Isolation อยู่ที่บ้านได้ และต้องทำการกันป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อสู่คนในครอบครัวรวมทั้งพี่น้องที่อยู่ด้วย แต่หากไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้ จะนำมาอยู่รวมกันเป็น Community Isolation โดยให้ชุมชนช่วยกันดูแล เพื่อจะได้มีเตียงเพียงพอสำหรับให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเหลือง สีแดงได้รับการดูแลอย่างเต็มที่

นายแพทย์ธงชัยกล่าวต่อว่า หลังทราบผลการติดเชื้อ ให้ตรวจสอบอาการตนเอง หากไม่มีไข้ หรือมีไข้ต่ำๆ ไม่มีอาการหายใจเร็ว หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ สามารถอยู่ที่บ้านได้ ให้โทรไปได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 จะได้รับการติดต่อกลับพร้อมนำชุดเซ็ตในการดูแลตัวเองที่บ้านไปให้ เช่น ปรอท ที่วัดออกซิเจน ยาฟ้าทะลายโจร หรือยาฟาวิพิราเวียร์ทานที่บ้านได้เลย และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานติดตามอาการวันละ 2 ครั้ง หากเริ่มมีอาการที่หนักขึ้น เช่น หายใจติดขัด ไอ แน่นหน้าอก ออกซิเจนต่ำ ก็จะมีรถไปรับ มารักษาที่โรงพยาบาล
#3332


ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังร่วงลงต่อเนื่อง จากแรงกดดันสถานการณ์โควิด -19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ เสียชีวิตขยับขึ้นสูง การฉีดวัคซีนยังล่าช้า การบังคับใช้มาตราการเข้มข้นยังคงมีต่อเนื่อง ทำให้หุ้นหลายกลุ่มทรุดหนัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานที่หลายตัวทำราคา NEW LOW ในรอบปี 64 และอีกหลายตัวทำราคาลงมาใกล้เคียงกับ NEW LOW ในปี 63 อีกด้วย

1.PTT (บมจ.ปตท.) มาร์เกตแคป 992,564 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาปิด 34.75 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 45.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 44.50 บาทในวันที่ 13 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 23.20 บาท แล้วไปปิดที่ 28.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 47.75 บาท ก่อนปิดที่ 46.75 บาท (8 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 34.75 บาท เหลืออัพไซด์ 41.73% จากราคาเป้าหมาย 49.25 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลา โดย 5 วัน -3.47%, 20 วัน -11.46%, 60 วัน -13.12%, 120 วัน -7.95%, และ YTD -18.24%

2.OR (บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก) มาร์เกตแคป 333,000ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาปิด 27.75 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ซึ่งในปีนี้ เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 36.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 34.00 บาทในวันที่ 15 ก.พ.64

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 27.75 บาท เหลืออัพไซด์ 3.42% จากราคาเป้าหมาย 28.70 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -2.63%, 20 วัน -9.02%, 60 วัน -9.02% ส่วนถ้าเทียบจากราคา IPO ที่ 18.00 บาท ล่าสุด 27.75 บาท บวก 9.75 บาท หรือ +54.17%

3.TOP (บมจ.ไทยออยล์) มาร์เกตแคป 89,761 ล้านบาท ล่าสุด (30 ก.ค. 64) ราคาระหว่างวันต่ำสุด 42.50 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 44.00 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 66.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 64.25 บาท ในวันที่ 8 มี.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 25.25 บาท แล้วไปปิดที่ 27.50 บาท (19 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 73.50 บาท ก่อนปิดที่ 70.00 บาท (6 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 44.00 บาท เหลืออัพไซด์ 44.32% จากราคาเป้าหมาย 63.50 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -6.88%, 20 วัน -19.27%, 60 วัน -25.74%,120 วัน -19.27%, YTD -15.38%

4.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) มาร์เกตแคป 102,972 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 39.00 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 39.50 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวัน 56.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 55.25 บาทในวันที่ 13 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 27.25 บาท แล้วไปปิดที่ 36.25 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 69.25 บาท ก่อนปิดที่ 65.00 บาท (21 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 39.50 บาท เหลืออัพไซด์ 35.44% จากราคาเป้าหมาย 53.50 บาท อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -4.24%, 20 วัน -5.95%, 60 วัน -7.60%, 120 วัน -22.55%, YTD -18.56%

5.RATCH (บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง) มาร์เกตแคป 61,625 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 42.25บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 42.50 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวัน 57.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 54.00 บาทในวันที่ 6 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 39.50 บาท แล้วไปปิดที่ 50.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 76.50 บาท ก่อนปิดที่ 74.50 บาท (21 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 42.50 บาท เหลืออัพไซด์ 11.50% จากราคาเป้าหมาย 54.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน 20 วัน -7.10%, 60 วัน -15.84%, 120 วัน -14.14%, YTD -19.81%

6.PTG (บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี) มาร์เกตแคป 26,219 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 15.50 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 15.70 บาท ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 21.90 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 20.80 บาทในวันที่ 9 มี.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 8.95 บาท แล้วไปปิดที่ 9.10 บาท 26 มี.ค.63 ส่วนสูงสุดทำได้ 19.30 บาท ก่อนปิดที่ 18.40 บาท (22 ก.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 15.70 บาท เหลืออัพไซด์ 46.50% จากราคาเป้าหมาย 23.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -5.42%, 20 วัน -15.14%, 60 วัน -21.89%, 120 วัน -8.72%,YTD -1.26%

7.ESSO (บมจ.เอสโซ่) มาร์เกตแคป 25,264 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 7.20 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆปิดที่ 7.30 บาท ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 9.40 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 9.05 บาทในวันที่ 16 ก.พ.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 3.14 บาท แล้วไปปิดที่ 3.36 บาท (19 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 9.70 บาท ก่อนปิดที่ 8.90 บาท (6 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 7.30 บาท เหลืออัพไซด์ 7.12% จากราคาเป้าหมาย 7.82 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -1.35%, 20 วัน -11.52%, 60 วัน -14.62%, 120 วัน -12.57%, YTD -1.35%

8.EGCO (บมจ.ผลิตไฟฟ้า) มาร์เกตแคป 90,025 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 171.00 บาท ซึ่งในปี 64 ต่ำสุด 168.50 บาท (24 พ.ค.) ส่วนสูงสุดปีนี้คือ 213.00 บาท (6 ม.ค.) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 161.00 บาท แล้วไปปิดที่ 210.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 350.00 บาท ก่อนปิดที่ 342.00 บาท (15 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 171.00 บาท เหลืออัพไซด์ 78.07% จากราคาเป้าหมาย 304.50 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน +0.59%, 20 วัน -2.29%, 60 วัน -3.12%, 120 วัน -4.20%, YTD -11.17%

9.TTW (บมจ.ทีทีดับบลิว) มาร์เกตแคป 46,284 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 11.60 บาท ซึ่งในปี 64 ต่ำสุดระหว่างวัน 11.40 บาท แล้วไปปิดที่11.50 บาท (6 พ.ค.64) และเคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 12.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 12.30 บาท (11 ม.ค.64) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 11.00 บาท แล้วไปปิดที่ 11.30 บาท (17 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 14.70 บาท ก่อนปิดที่ 14.30 บาท (19 ก.พ.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 11.60 บาท เหลืออัพไซด์ 20.69% จากราคาเป้าหมาย 14.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -0.85%, 20 วัน -0.85%, 60 วัน 0.00%, 120 วัน -4.92%, YTD -6.45%

10.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) มาร์เกตแคป 393,060 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 33.50 บาท ซึ่งราคาตำสุดของปีนี้ 31.00 บาท (19 เม.ย.) ห่างจากต่ำสุด 2.50 บาท ก็จะเป็น NEW LOW ในรอบปี 64 ส่วนปีนี้เคยทำราคาสูงสุด 38.00 บาท (8 ม.ค.) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 22.35 บาท แล้วไปปิดที่ 26.79 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 41.03 บาท ก่อนปิดที่ 38.81 บาท (21 พ.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 33.50 บาท เหลืออัพไซด์ 26.33% จากราคาเป้าหมาย 42.32 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -0.74%, 20 วัน -2.19%, 60 วัน -2.90%, 120 วัน 0.00%, YTD -2.19%

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานส่วนใหญ่พื้นฐานแข็งแกร่ง มีสตอรี่และเป็นที่นิยมของนักลงทุนกันมาก แต่เมื่อเผชิญโควิด-19 รอบนี้ จึงถูกถูกกดดันหนัก จึงน่าจับตาว่า จะลงไปถึงจุดต่ำสุดเท่าไร และเมื่อไรกัน?

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075283
#3333


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 ก.ค.2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นแอมะซอน.คอม หลังบริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายจะชะลอการขยายตัว นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ เป็นปัจจัยถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,935.47 จุด ลดลง 149.06 จุด หรือ -0.42%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,395.26 จุด ลดลง 23.89 จุด หรือ -0.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,672.68 จุด ลดลง 105.59 จุด หรือ -0.71%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และการที่รัฐบาลจีนคุมเข้มด้านกฎระเบียบกับภาคธุรกิจ ซึ่งได้บดบังความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 461.74 จุด ลดลง 2.10 จุด หรือ -0.45%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,612.76 จุด ลดลง 21.01 จุด หรือ -0.32%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,544.39 จุด ลดลง 96.08 จุด หรือ -0.61% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,032.30 จุด ลดลง 46.12 จุด หรือ -0.65%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลง ท่ามกลางความวิตกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกอาจกระทบการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,032.30 จุด ลดลง 46.12 จุด หรือ -0.65%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันท่ามกลางการเปิดเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 73.95 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเพิ่มขึ้น 2.6% ในรอบสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือน ก.ค.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 76.33 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเพิ่มขึ้น 3% ในรอบสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือน ก.ค.

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 18.6 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ 1,817.2 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ปรับตัวขึ้นเกือบ 0.9% ในรอบสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือน ก.ค.

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 23.5 เซนต์ หรือ 0.91% ปิดที่ 25.547 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 19.2 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,048.4 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 13.10 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 2,656.20 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ขณะที่เงินยูโรและปอนด์อ่อนค่าลง

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.33% แตะที่ 92.1701 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.75 เยน จากระดับ 109.46 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9061 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9055 ดอลลาร์ และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2478 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2439 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1857 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1890 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3891 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3967 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7335 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7400 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,935.47 จุด ลดลง 149.06 จุด, -0.42%,

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,395.26 จุด ลดลง 23.89 จุด, -0.54%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,672.68 จุด ลดลง 105.59 จุด, -0.71%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,032.30 จุด ลดลง 46.12 จุด, -0.65%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,612.76 จุด ลดลง 21.01 จุด, -0.32%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,544.39 จุด ลดลง 96.08 จุด, -0.61%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 52,586.84 จุด ลดลง 66.23 จุด, 0.13%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,070.04 จุด ลดลง -50.69 จุด, -0.83%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,494.60 จุด ลดลง 8.33 จุด, -1.21%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,270.23 จุด ลดลง 226.30 จุด, -3.48%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,166.94 จุด ลดลง 13.67 จุด, -0.43%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,961.03 จุด ลดลง 354.29 จุด, -1.35%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,397.36 จุด ลดลง 14.37 จุด, -0.42%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,247.41 จุด ลดลง 155.40 จุด, -0.89%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,202.32 จุด ลดลง 40.33 จุด, -1.24%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,283.59 จุด ร่วงลง 498.83 จุด, -1.80%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,392.60 จุด ลดลง 24.80 จุด, -0.33%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,664.20 จุด ลดลง 31.00 จุด,-0.40%
#3334


ฌอน สตริคแลนด์ นักสู้ชาวอเมริกัน ยังคงรักษาฟอร์มเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังอาศัยทักษะชั้นเชิงการต่อสู้ โดยเฉพาะพลังหมัดเอาชนะคะแนน ยูเรียห์ ฮอลล์ คู่ต่อกรชาวจาเมกาไปได้ ในการต่อสู้คู่เอกของศึก UFC FIGHT NIGHT: Hall VS Strickland เมือช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ไฮไลท์ของรายการเป็นการต่อสู้ในพิกัดรุ่นมิดเดิลเวต ระหว่าง "TARZAN" วัย 30 ปี ที่ยังไม่เคยแพ้แบบซับมิทชันให้กับผู้ใดและชนะมาแล้ว 4 ไฟต์ติดต่อกัน พบกับ "PRIMETIME" จอมโหดจากจาเมกาวัย 36 ปี เริ่มยกแรก สตริคแลนด์ ดูดีกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะจังหวะเดินออกหมัด ในขณะที่ ฮอลล์ รอกะระยะบวกหวังปิดบัญชีเร็วเช่นกัน ยก 2 TARZAN ยังคงมีอาวุธหมัดชุดไว้ทิ้งระยะไม่ให้ ฮอลล์ ที่เริ่มมีลูกเตะ ได้เข้าประชิด

ยกที่ 3 สตริคแลนด์ สบโอกาสเทคดาวน์ใส่ ฮอลล์ และเป็นฝ่ายคอนโทรลเกมได้จนจบยก ยกที่ 4 สตริคแลนด์ ได้ใจเดินรุกไล่ทันทีหวังน็อคให้ได้แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ เข้าสู่ยกสุดท้าย ฮอลล์ รู้ตัวว่าเป็นรองเป็นฝ่ายเดินเข้าใส่ แต่เหมือนยิ่งเดินยิ่งเจ็บ เมื่อ สตริคแลนด์ มีแย็ปสกัดจังหวะการเข้าทำของ PRIMETIME สวยๆหลายครั้ง ครบ 5 ยก ฌอน สตริคแลนด์ ชนะคะแนน ยูเรียห์ ฮอลล์ ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์

หลังเก็บชัยชนะ 5 ไฟต์ติดต่อกัน และยังเพิ่มสถิติเป็นชนะ 24 แพ้ 3 เจ้าของฉายา TARZAN ให้สัมภาษณ์กับ UFC ถึงฟอร์มของตัวเองว่า "ผมยังคงทำงานอย่างหนัก ทุกคนรู้ว่าไม่ใช่ไฟต์ง่าย มันก็สนุกดีนะ มันโคตรจะเหนื่อยเลยกับการต่อสู้แบบ 5 ยกและถึงตอนนี้ผมต้องมองไปที่คู่แข่งคนต่อไปแล้ว"

ในขณะที่รองคู่เอกเป็นการต่อสู้ในรุ่นสตรอว์เวตหญิงระหว่าง เชยานเน บายส์ สาวน้อยอเมริกันวัย 26 ปี เจ้าของสถิติชนะ 5 แพ้ 2 ขึ้นสังเวียนพบกับ กลอเรีย เด เปาลา คู่แข่งวัย 26 ปี จากบราซิล ที่มีสถิติชนะ 5 แพ้ 3 และไม่เคยถูกน็อคหรือแพ้ซับมิทชัน โดยการต่อสู้คู่นี้จบลงด้วยเวลาเพียงแค่นาทีแรกของยกที่ 1 เท่านั้น เมื่อ ชายาเน บายส์ ได้จังหวะวางแข้งซ้ายใส่ปลายคาง เด เปาลา ในจังหวะลุกขึ้นยืน ก่อนตามถล่มจนกรรมการสั่งยุติการต่อสู้

ผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการศึก UFC FIGHT NIGHT: Hall VS Strickland

คู่หลักในรายการ

คู่เอก - รุ่นมิดเดิลเวต
ฌอน สตริคแลนด์ ชนะคะแนน ยูเรียห์ ฮอลล์

รองคู่เอก - รุ่นสตรอว์เวตหญิง
เชยานเน บายส์ ชนะ TKO กลอเรีย เด เปาลา ยกที่ 1

รุ่นเวลเตอร์เวต
เจสัน วิตต์ ชนะคะแนน ไบรอัน บาร์เบเรนา

รุ่นเวลเตอร์เวต
จาเร็ด กูเดน ชนะ TKO นิคลาส สโตลเซ ยกที่ 1

รุ่นฟลายเวต
ซารุคห์ อดาเชฟ ชนะคะแนน ไรอัน เบอนัวต์

รุ่นเฟเธอร์เวต
เมลซิค บัคห์ดาซาร์ยาน ชนะ TKO คอลลิน แอนกลิน ยกที่ 2

รุ่นไลต์เวต
คริส กรูสซ์ตเซมัคเชอร์ ชนะคะแนน ราฟา การ์เซีย

รุ่นเฟเธอร์เวต
แดนนี ชาเวซ เสมอ ไค คามากา

รุ่นสตรอว์เวตหญิง
ยินห์ ยู เฟรย์ ชนะคะแนน แอชลีย์ โยเดอร์

รุ่นเวลเตอร์เวต
ฟิลิป โรว์ ชนะ TKO โอเรียน กอสซี ยกที่ 2
#3335


"บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุต.แห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายพัฒนาฟุตซอลและฟุต.ชายหาด ได้กล่าวถึงภาพรวม ในการจัดการแข่งขัน CONTINENTAL FUTSAL CHAMPIONSHIP THAILAND 2021 และ ผลงานของ ทีมฟุตซอล ทีมชาติไทย ในการเตรียมทีมก่อนไป ฟุตซอลโลก 2021 ว่า

"ในนาม สมาคมกีฬาฟุต.แห่งประเทศไทยฯ ผมต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ช่วยสนับสนุน ทำให้เกิดการแข่งขันในครั้งนี้ ทั้ง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ศบค. กรมควบคุมโรค ฝ่ายจัดการเเข่งขัน และ ทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมแรงร่วมใจทำงานหนักกันทุกวัน จนทัวร์นาเม้นต์นี้ประสบความสำเร็จ ซึ่ง รายการนี้มีความสำคัญต่อทีมฟุตซอล ทีมชาติไทย เป็นอย่างมาก เพราะเป็นการทดสอบเตรียมทีมในระยะแรก ก่อนไป ฟุตซอลโลก"

"รายการนี้ เรามีทีมที่ไป ฟุตซอลโลก ถึง 5 ทีม เข้ามาร่วมแข่งขัน การแข่งขันทุกแมตช์จึงเข้มข้นมาก ๆ อีกทั้งต้องลงเล่น 5 แมตช์ ใน 6 วัน ก็ถือว่าหนักมาก ในการเเข่งขันระดับนานาชาติเเบบนี้ ต้องขอชมเชยทุกทีม ที่เล่นกันเต็มที่ในทุกเเมตช์ เป้าหมายสำคัญของทีมชาติไทยครั้งนี้ ก็คือ การทดสอบระบบทีม เเละ การทำงานร่วมกันของทีมกับหัวหน้าผู้ฝึกสอน เเละ ทีมสต๊าฟฟ์ชุดใหม่ ก่อนหน้านี้ เรามีเวลาเตรียมทีมฝึกซ้อมเพียง 9 วัน เป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างสั้น ซึ่งผลงานโดยรวมออกมาได้ขนาดนี้ ค่อนข้างน่าพอใจในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่การเข้ามาชิงกับ อิหร่าน ก็ถือว่าทุก ๆ คนได้ผ่านเกมที่มีมาตรฐานสูง หลากหลายสไตล์ รวมทั้ง ผ่านสภาวะความกดดันในแต่ละแมตช์มาได้"

"สำคัญคือ เราสามารถประเมินทีมในขณะนี้ได้ ซึ่งมีทั้งข้อดีเ เละ จุดด้อย ที่ต้องปรับปรุงแก้ไขกันอีกมาก โดยเฉพาะเรื่องของเกมรับ และ สมรรถภาพของร่างกาย รวมถึง รายละเอียดต่าง ๆ ในด้านเเท็คติค ความเข้าใจในการใช้ Video Support เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาระบบทีมให้ลงตัว ก่อนการเเข่งขัน ฟุตซอลโลก โอกาสนี้ ผมขอเเสดงความชื่นชม และ ยกย่องความเป็นนักสู้ของนักฟุตซอลทีมชาติ ที่มีสปิริตทีมที่ยอดเยี่ยม เห็นได้ว่า เกือบทุกเกมที่เราโดนนำก่อน แต่สุดท้ายก็สามารถกลับมาคว้าชัยชนะได้ นั่นเป็นปัจจัยสำคัญ ที่เราได้ในเเง่ของทัศนคติการเล่น และ ความมุ่งมั่นกระหายชัยชนะ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของทีมชาติไทยชุดนี้ ในการไปสู้ศึกในเวทีโลก"

"หลังจากนี้ เราจะมีเวลาอีกประมาณเดือนเศษ จบทัวร์นาเม้นต์นี้ ก็จะปล่อยนักเตะได้กลับไปพัก ก่อนจะเรียกรวมพลอีกครั้ง ในฐานะฝ่ายพัฒนาฟุตซอลและฟุต.ชายหาด ของ สมาคมกีฬาฟุต.ฯ ก็ต้องเร่งเรื่องการบริหารจัดการ ทั้งการฝึกซ้อม และ หาเกมอุ่นเครื่องเพิ่มอีก 4-5 แมตช์ โดยเฉพาะทีมจากยุโรป หรือ แอฟริกา เรามีเเผนงานในการจัดทัวร์นาเม้นต์ เพื่อทดสอบระบบทุกอย่างของทีมในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้พร้อมมากที่สุด ก่อนจะไป เวิลด์คัพ"

https:// m.mgronline.com/sport/detail/9640000075195
#3336



นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ครึ่งแรกของปี 2564 การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยขยายตัวมากกว่า 20% และหลายสินค้าขยายตัวสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลไม้สด โดยปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) ไทยส่งออกผลไม้สดเป็นมูลค่า 2,896.87 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 42.21 % สินค้าส่งออกหลักขยายตัวอย่างโดดเด่น ได้แก่ ทุเรียน  58.24%    ลำไย 51.43%  มะม่วง   50.09%  กล้วย  18.59%  สัปปะรด  98.85%  ผลไม้จำพวกส้ม   374.75%  ลิ้นจี่  32.35%  ซึ่งตลาดส่งออกหลักยังคงเป็นตลาดจีน มีสัดส่วนกว่า  83 %ของการส่งออกผลไม้สดทั้งหมดของไทย นอกจากนี้ ยังมีตลาดอื่นๆ ที่ขยายตัวเช่นกัน อาทิ ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซีย และเกาหลีใต้ เป็นต้น

การส่งออกผลไม้สดไปยังตลาดหลักสำคัญที่สุดอย่างจีน มีมูลค่า 6 เดือนแรกอยู่ที่ 2,425.52 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 71.11% ผลไม้สำคัญที่ไทยส่งออกไปจีน ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด ซึ่งมีการส่งออกไปยังหลายมณฑล โดยมณฑลที่นำเข้าผลไม้สดจากไทยมากที่สุด คือ มณฑลกวางตุ้ง มูลค่า 867.56 ล้านดอลลาร์ รองลงมาเป็นเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มูลค่า 743.01 ล้านดอลลาร์  และมหานครฉงชิ่ง มูลค่า 485.79 ล้านดอลลาร์  นอกเหนือจาก 3 มณฑลที่กล่าวมา ยังมีมลฑลสำคัญที่นำเข้าผลไม้จากไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยูนนาน เจ้อเจียง หูหนาน มหานครเซี่ยงไฮ้ และซานตง เป็นต้น

นายภูสิต กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของการส่งออกผลไม้ไทย แม้จะยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่การส่งออกผลไม้ของไทยยังขยายตัวได้อย่างโดดเด่นไม่แพ้สินค้าส่งออกสำคัญอื่นๆ เนื่องจากนโยบายการทำงานเชิงรุกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ในฐานะเซลส์แมนของประเทศ ทำงานร่วมกับพาณิชย์จังหวัดในฐานะเซลส์ของแมนจังหวัด จับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้นำเข้าจากต่างประเทศกับผู้ประกอบการสินค้าผลไม้ไทย ทั้งรูปแบบออนไลน์และไฮบริด การจับมือกับศูนย์การค้าและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำของต่างประเทศ เพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดให้แก่ผลไม้ไทย เช่น จัดงาน Thai Fruit Golden Months เพิ่มยอดขายในประเทศจีนได้กว่า  20%  การจัดงานเปิดตัวและจำหน่ายมะม่วงมหาชนกเป็นครั้งแรกในเกาหลีใต้


ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับศูนย์การค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต AEON, Donki, Itoyokado Store และ Beisia จำนวน 150 สาขา ในเมืองรองที่มีศักยภาพ และตลาดฮ่องกง ทูตพาณิชย์ฮ่องกงได้ติดต่อกับผู้นำเข้ารายใหญ่ของฮ่องกง จัดเจรจาธุรกิจสินค้ามะม่วงน้ำดอกไม้ผ่านระบบออนไลน์ และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ให้สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์จากไร่สวนของตนมายังผู้นำเข้าผลไม้ฮ่องกงได้โดยตรง ช่วยลดต้นทุนและทำให้เกษตรกรได้เรียนรู้ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ในการส่งออก เพื่อต่อยอดการส่งออกสินค้าเกษตรอื่นๆ ต่อไปในอนาคต 


นายภูสิต กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ได้เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ VDO Conference เพื่อแก้ไขปัญหาการขนส่งผลไม้ โดยเฉพาะมังคุด โดยมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้ส่งออกผลไม้ ล้งผลไม้ ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ทูตพาณิชย์ ทูตเกษตรประจำประเทศจีน เนื่องจากขณะนี้ การส่งออกผลไม้ของไทยเผชิญปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณด่านชายแดนเข้าสู่ประเทศจีน ณ ด่านโหย่วอี้กวน ซึ่งทูตพาณิชย์ และทูตเกษตรได้เจรจากับทางการจีน ขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยแล้ว รวมทั้งขอให้จีนขยายเวลาเปิดด่านให้นานขึ้น ขณะเดียวกัน ได้มีการเจรจากับเวียดนามให้ช่วยอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางหล่างเซิน ผ่านด่านหม่องก๋าย จังหวัดกว่างนิงห์ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวของเวียดนาม เป็นเส้นทางผ่านแดนของผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยเข้าสู่จีน

โดยกระทรวงพาณิชย์ได้แนะนำให้ผู้ส่งออกกระจายไปใช้ด่านตงซิน และด่านรถไฟผิงเสียง เพื่อลดความแออัดและลดปัญหาที่ผลไม้อาจจะเน่าเสียระหว่างการขนส่ง โดยเจ้าหน้าที่ด่านตงซิง และด่านรถไฟผิงเสียง พร้อมอำนวยความสะดวกให้รถบรรทุกไทยให้สามารถขนส่งได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์และปัญหาการส่งออกอย่างใกล้ชิด

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952120
#3337



จากกรณีเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ออกข่าว จี้ 'Gojek' รีบคืนเงินให้ลูกค้า หลังประกาศยุติการให้บริการ 31 ก.ค. แต่ยังพบปัญหาคืนเงินผ่าน e-Wallet" นั้น

ล่าสุด (30 กรกฎาคม 2564) บริษัท เวล็อคซ์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการระบบแอปพลิเคชัน Gojek ได้ส่งหนังสือชี้แจงถึงสภาองค์กรของผู้บริโภค โดยระบุว่า ทางบริษัทฯ ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการ GoPay (ระบบกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ของ Gojek) ใช้หรือถอนเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และมีข้อความแจ้งเตือนส่งไปยังผู้ใช้บริการเป็นระยะ ๆ โดยระหว่างวันที่ 7 -31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ผู้ใช้บริการ GoPay จะยังคงสามารถใช้เงินในกระเป๋าสตางค์สำหรับ การทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชัน Gojek หรือถอนเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ได้  อีกทั้งบริษัทฯ จะยังเปิดช่องทางการให้บริการและสนับสนุนลูกค้าเพื่อตอบคำถามหรือช่วยเหลือลูกค้าในกรณีที่เกิดปัญหาจากการถอนเงิน

ส่วนสาเหตุที่จำกัดการคืนเงินผ่านบัญชีธนาคารเพียง 3 ธนาคาร คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ นั้น ทางบริษัทฯ ชี้แจงว่า เนื่องจากลูกค้าสามารถเติมเงินเข้ากระเป๋าเงิน GoPay ของตัวเองได้ผ่านทางแอปฯ ของ 3 ธนาคารดังกล่าวซึ่งเป็นคู่สัญญาให้บริการกับบริษัทฯ และเวล็อคซ์ ฟินเทคเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ การถอนเงินออกจากกระเป๋าเงิน GoPay จะต้องทำผ่านบัญชีธนาคารที่ลูกค้าเติมเงินเข้ามาเท่านั้น


ทั้งนี้ แม้ว่า Gojek จะยุติการให้บริการในประเทศไทยนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป แต่บริษัทฯ จะยังคงเปิดช่องทางให้สามารถถอนเงินออกได้ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยผู้บริโภคสามารถยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านแอปฯ Gojek ได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 และหลังจากระยะเวลาดังกล่าวผู้บริโภคสามารถติดต่อเพื่อทำเรื่องขอถอนเงินจากกระเป๋าสตางค์ทาง E - mail ได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565

สำหรับขั้นตอนการขอถอนเงินจากกระเป๋าเงิน GoPay ผู้บริโภคสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขอรับเงินคืน พร้อมส่งเอกสารได้ที่แบบฟอร์มในแอปฯ Gojek (เปิดเฉพาะระบบช่วยเหลือและการถอนเงิน) พร้อมแนบเอกสารดังนี

- เอกสารการทำธุรกรรม เช่น สลิปการโอนเงิน ข้อมูลบันทึกการเคลื่อนไหวของบัญชีจากธนาคาร

- สำเนาหน้าแรกสมุดบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ หรือ ธนาคารกสิกรไทย พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง (ชื่อและนามสกุลต้องตรงกับเอกสารการทำธุรกรรม ข้อ 1)

- สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง (ชื่อและนามสกุลต้องตรงกับเอกสารการทำธุรกรรม ข้อ 1)


โดยการขอเงินคืนจะมีระยะเวลาในการดำเนินการ 7 - 14 วันทำการ สำหรับผู้บริโภคที่ไม่สะดวกยื่นคำขอผ่านทางแอปฯ Gojek สามารถขอถอนเงินจากธนาคารต้นทางที่เติมเงินเข้ามาได้ และทางธนาคารจะประสานกับ Gojek เพื่อดำเนินการคืนเงินในลำดับต่อไป

อย่างไรก็ตาม สภาองค์กรของผู้บริโภค เห็นว่า เพื่อการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ขอให้ Gojek เร่งประกาศเงื่อนไขดังกล่าวให้ประชาชนผู้ใช้บริการทุกคนทราบผ่านทุกช่องทางของ Gojek  ด้วย และหากมีผู้บริโภครายใดมีปัญหาในการขอเงินคืน

สามารถร้องเรียนได้สภาองค์กรของผู้บริโภค E - mail : tcc.complaint@thaiconsumerscouncil.org, Inbox Facebook : สภาองค์กรของผู้บริโภค หรือร้องเรียน ร้องทุกข์ผ่าน google form สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ในลิงก์นี้ https://forms.gle/Uz8Wb4ZrnuVeFSeu6
#3338


โอเอช ลูเวิน ลงสนามในเกมจูปิแลร์ โปรลีก นัดที่ 2 ของฤดูกาลบุกไปเสมอกับ เซอร์เคิ่ล บรูจ 1-1 เก็บเพิ่มอีกหนึ่งแต้ม เป็นการเสมอติดต่อกัน 2 นัด ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้

มาร์ค บรีส์ เปลี่ยนผู้เล่นแค่คนเดียวจากเกมเปิดบ้านเสมอ ซูลเต้ วาเรเก็ม โดยส่ง ทูน เรแมเคอร์ส ลงเล่นแทน หลุยส์ พาทริส ในตำแหน่งกองหลัง

เริ่มเกมเจ้าบ้าน ที่ชนะ ลูเวิน มารวดในการพบกัน 2 นัดหลังสุดเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า แต่เป็น ลูเวิน ที่ออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ ซาเวียร์ แมร์ซิเอร์ จ่ายทะลุช่องให้ โธมัส อองรี หลุดเข้าในเขตโทษยิงขึ้นนำ 1-0 เป็นการยิง 2 ประตูจาก 2 นัดแรกของ อองรี ด้วย

ครึ่งหลังแม้ ลูเวิน จะเป็นฝ่ายครอง.ได้มากกว่า หาโอกาสทำประตูได้มากกว่า แต่กลับเป็น เซอร์เคิ่ล บรูจ ที่มาได้ประตูตีเสมอ จากการขึ้น.ทางขวาของ วิตินโญ่ แบ็กจอมลุยชาวบราซิล ที่เปิด.เข้ากลาง และแนวรับ ลูเวิน เคลียร์.ไม่ขาด .ไปเข้าทาง วัลโด รูบิโอ มาร์ติน ตวัดยิงเข้าไป เสมอกันที่ 1-1

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านัดนี้ยังคงไม่มีรายชื่อของ "ตอง" กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารทีมชาติไทย ทั้งตำแหน่งตัวจริง และตัวสำรองเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน แม้จะมีรายงานว่าเจ้าตัวยังพร้อมจะอยู่แย่งชิงตำแหน่งต่อไปก็ตาม

สำหรับ โอเอช ลูเวิน เก็บได้ 2 คะแนนจาก 2 นัดยังอยู่อันดับที่ 10 ของตาราง ส่วนเซอร์เคิ่ล บรูจ มี 4 คะแนนจาก 2 นัดขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง

ขณะที่นัดต่อไป ลูเวิน จะกลับมาเล่นในบ้านพบกับ สปอร์ติ้ง ชาร์เลอรัว วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2564 เวลา 21.00 น.
#3340
รับสมัครงานขายของออนไลน์..ฟรี!! ไม่มีค่าสมัคร..

ขายของออนไลน์  อาชีพเสริม  รายได้เสริม

ใช้เพียงมือถือ ก็ทำงานได้ จากทุกที่  ทุกเวลา

รับสมัครงานขายของออนไลน์(Online)...ฟรี!!ไม่มีค่าสมัคร..
คุณกำลังหา.."อาชีพเสริม รายได้พิเศษ  รายได้เสริม".. อยู่หรือ...

สมัคร :: https://forms.gle/Q2dDb74pW54aFmmD6

LINE ID :: savedee15


Tags :: ขายของออนไลน์,อาชีพเสริม,รายได้เสริม