• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Shopd2

#3601
SSSLOTTO เว็ปแทงหวยออนไลน์ อันดับ 1 หวยรัฐบาลไทย หวยลาว หวยฮานอย หวยยี่กี หวยหุ้นทุกประเทศ ฝาก ถอน อัตโนมัติ เชื่อถือได้ 100% สมัครสมาชิกฟรี
สมัคร https://bit.ly/3lRp2jk

 
#3602


ครั้นยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นทะลุหลัก "หมื่นราย" นโยบายล็อกดาวน์ถูกใช้ในพื้นที่สีแดงเข้ม ปลายเดือนกรกฎาคมร้านอาหารในห้างเจอมาตรการห้ามซื้อกลับบ้าน และเดลิเวอรี่ เป็นครั้งแรกที่หน้าร้านถูก "ปิดประตู" ค้าขายแบบ 100% ทว่า ล่าสุด ร้านอาหารในห้างกลับมาให้บริการได้ แต่มีเงื่อนไขให้ "เดลิเวอรี่" เท่านั้น กลายเป็น "ตัวแปร" ต่อการ "ปรับตัว" และการดำเนินธุริจร้านอาหารอย่างมาก

ค่าย "สิงห์" เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จัดทัพลุยธุรกิจอาหาร มี "ฟู้ด แฟคเตอร์" เป็นหัวหอก หนึ่งในแบรนด์ของเครือที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดคือ "ซานตาเฟ่ สเต๊ก" เพราะร้านเกือบทั้งหมดมีสาขาอยู่ในห้างค้าปลีก

ปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (Food Factors) ฉายภาพว่า ธุรกิจร้านอาหารค่อนข้างได้รับผลกระทบสูงจากการ "ล็อกดาวน์" นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกแรกเมื่อปลายไตรมาส 1 ของปี 2563 ขณะที่ปัจจุบันการระบาดไวรัสเข้าสู่ระลอก 4 ประเทศไทยเผชิญสายพันธุ์เดลต้า ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภาครัฐต้องยกระดับการควบคุมโรคระบาดด้วยการล็อกดาวน์อีกครั้งในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ "ร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะบริษัทมีร้านทั้งสิ้น 125 สาขา และให้บริการในห้างค้าปลีก 124 สาขา มีร้านอยู่นอกห้างเพียง 1 สาขาเท่านั้น ทำให้ด้านสถานการณ์ยอดขายของร้านจึงหดตัวลง

ขณะที่การปรับตัวในการทำธุรกิจอาหาร บริษัทให้ความสำคัญตั้งแต่การปรับวิธีการทำงาน นำแนวคิด "Agile" มาปรับใช้ เพื่อให้กระบวนการทำงานมีความคล่องตัว ยืดหยุ่น อย่างรวดเร็ว เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ผกผันตลอดเวลา

"ทุกวันนี้สถานการณ์ต่างๆเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฟู้ด แฟคเตอร์ ในฐานะผู้ประกอบต้องปรับวิธีการทำงานให้มีความคล่องตัว ยืดหยุ่นมากขึ้น การปรับกลยุทธ์ต่างๆต้องมีความมรวดเร็ว อย่างช่วงล็อกดาวน์พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก ได้พลิกกระบวนท่าทันทีเพื่อมุ่งบริการเดลิเวอรี่ เสิร์ฟอาหารตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และจัดเมนู ทำโปรโมชั่นเฉพาะกิจให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา อย่างไรก้ตาม ความท้าทายของบริษัทฯในเวลานี้คือการประเมิณยอดขายเพื่อบริหารจัดการสั่งซื้อวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพ เพราะของสดมีอายุข้างสั้น"

อย่างไรก็ตาม หากคลายล็อกดาวน์ ร้านอาหารเปิดให้บริการได้ ธุรกิจอาหารมีการฟื้นตัวกลับมาเร็ว เช่นเดียวกับร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก เนื่องจากมีฐานลูกค้าค่อนข้างมาก แต่ภาพรวมการฟื้นตัวจะไม่เหมือนเดิม 100% เพราะมีหลายปัจจัยส่งผลต่อธุรกิจ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคหายไปค่อนข้างมาก


นอกจากนี้ ความไม่ชัดเจนของการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์การสิ้นสุดได้ของโรคระบาดได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังและไม่กล้าใช้จ่าย รวมถึงมาตรฐานการคลายล็อกดาวน์ยังไม่ชัดเจน เพราะยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ทำให้การใช้มาตรการคุมโรคระบาดเข้มงวดและอาจจะไม่สามารถกลับมาคลายล็อกได้ง่ายเหมือนที่เคยเป็นมา

นบเกล้า ตระกูลปาน กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การล็อกดาวน์หลายครั้งทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่นยโมเดลธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับบริการ "ซื้อกลับบ้าน"หรือ Takeaway และ "เดลิเวอรี่" เสิร์ฟอาหารอร่อยถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ ยังปรับกลยุทธ์การขยายสาขาโดยโฟกัส "ทำเลใหม่" นอกห้างงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นย่านชุมชน สถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม) โรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อกระจายความเสี่ยงให้ธุรกิจรวมถึงการบริการลูกค้าได้ต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังเน้นโมเดล "ร้านซานตาเฟ่ อีซี่"(Santa Fe Easy)เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างรวดเร็ว ลดการสัมผัส อีกทั้งยังตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุควิถีใหม่จากนี้ไปหรือ Next Normal

"การปรับตัวลุยบริการซานตาเฟ่ เดลิเวอรี่ ส่งผลให้มีการเติบโตสูงมาก แต่แนวโน้มจากนี้ไปเดลิเวอรี่อาจไม่หวือหวา เพราะการอยู่บ้าน ผู้บริโภคมีเวลามากขึ้น และปรับพฤติกรรมเริ่มทำอาหารทานเอง ที่สำคัญการตระหนักเรื่องความปลอดภัยของอาหาร ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การแข่งขันเดลิเวอรี่รุนแรง แบรนด์ต่างๆงัดกลยุทธ์ราคาและโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า"

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารระยะยาวหลังโควิดคลี่คลาย คาดการณ์จะใช้เวลา 2 ปี จึงจะฟื้นตัว เนื่องากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นั่งทานในร้าน(Dine in)เปลี่ยนไป และอาจต้องใช้เวลา 1 ปี พฤติกรรมดังกล่าวจะกลับมาใกล้เคียงปกติ

"พฤติกรรมผู้บริโภคบางส่วนยังคุ้นชินกับความปลอดภัย และคุ้นเคยกับการรักษาระยะห่าง มีความกังวลกับการไปในแหล่งชุมชน รวมถึงการรับประทานอาหารในร้าน"
#3603


นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวและผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (เอ็นไอเอไอดี) เปิดเผยในวันพุธ (4 ส.ค.) ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในสหรัฐอาจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจนแตะที่ 200,000 รายต่อวันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

"จำได้ไหมครับว่า เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เรามีผู้ติดเชื้อ 10,000 รายต่อวัน ผมคิดว่ามีแนวโน้มที่เราจะได้เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 100,000-200,000 ราย" นายแพทย์เฟาชีกล่าว

นายแพทย์เฟาชียังกล่าวว่า "ยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตากำลังพุ่งสูงขึ้นทั่วสหรัฐ และสถานการณ์อาจเลวร้ายเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เว้นเสียแต่ว่าชาวอเมริกันที่ยังไม่ฉีดวัคซีนซึ่งมีอยู่มากจะตัดสินใจไปฉีดวัคซีน"

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

"สถานการณ์ที่เราเห็นกันอยู่ตอนนี้เกิดขึ้นเพราะอัตราการติดเชื้อที่รวดเร็ว และยังมีคนที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนแต่ยังไม่ไปฉีดอีกประมาณ 93 ล้านคนทั่วประเทศ คนกลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มใหญ่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง"

นายแพทย์ใหญ่ยังแสดงความกังวลถึงจำนวนผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดไวรัสกลายพันธุ์ที่ต้านทานต่อวัคซีนได้มากขึ้น

"หากเราไม่หยุดยั้งการแพร่ระบาดด้วยการระดมฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ ไวรัสจะระบาดในฤดูใบไม้ร่วงต่อเนื่องไปจนถึงฤดูหนาว ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ไวรัสกลายพันธุ์ได้"

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของสหรัฐเฉลี่ยรายวันในรอบ 7 วันอยู่ที่ 84,389 ราย
#3604


กรุงเทพฯ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564 – ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส (IPG Mediabrands) ประกาศแต่งตั้ง ดร. สร เกียรติคณารัตน์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย (Initiative Thailand) อย่างเป็นทางการ เพื่อสานต่อความสำเร็จล่าสุดของ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ในฐานะมีเดีย เอเยนซี่ ด้านคุณภาพอันดับ 1 ของประเทศไทยในปี 2020 ซึ่งจัดอันดับโดย RECMA บริษัทวิจัยระดับโลกที่ประเมินผลงานเชิงคุณภาพการให้บริการของมีเดีย เอเยนซี่ในระดับโลก ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ


ดร. สร ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย เพื่อเป็นแม่แรงสำคัญในการขับเคลื่อนและขยายขีดความสามารถของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ในยุคที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลและเทคโนโลยี รวมถึงการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด - 19   ซึ่งอินิชิเอทีฟมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องการเป็นพาร์ทเนอร์ในการเติบโตทางธุรกิจให้กับลูกค้าผ่านกรอบการทำงานแบบ Cultural Velocity - การเข้าใจวัฒนธรรมการใช้ชีวิต และความเป็นตัวตนของผู้บริโภค ผ่าน ดาต้าและเครื่องมือต่างๆที่ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ช่วยให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนธุรกิจและการสื่อสารให้เข้ากับยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของวัฒนธรรมการใช้ชีวิตได้ตลอดเวลา

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 23 ปี ในแวดวงสื่อและโฆษณา รวมทั้งการให้คำปรึกษาด้านแบรนด์ ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวเรือใหญ่ของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทยนั้น ดร. สร เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ ให้กับไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย และนับตั้งแต่ ดร. สร เข้าร่วมไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2555  เขากลายเป็นนักกลยุทธ์สำคัญในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเป็นผู้นำทางความคิด ในการพัฒนาแนวคิดและกลยุทธ์ให้กับสินค้าและบริษัทชั้นนำของประเทศไทย ดร. สร จึงได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันธุรกิจของเครือข่าย ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งจนถึงปัจจุบัน

คุณเอมี่ อาร์มสตรอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด อินิชิเอทีฟ โกล. (Global CEO) กล่าวว่า "ดร. สร เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล และมีความเฉียบแหลมทางด้านธุรกิจ ทำให้เขาเหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย และฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็น ดร. สร เป็นผู้นำทัพ ขับเคลื่อนสร้างการเติบโตและนำความสำเร็จมาสู่ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทยในอนาคต" ขณะที่คุณลีห์ เทอร์รี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (IPG Mediabrands APAC) และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินิชิเอทีฟภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก (Initiative APAC) กล่าวเพิ่มเติมว่า "ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ดร. สร เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย เพราะ ดร. สร เป็นทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญและรักในงานวางแผนกลยุทธ์ และเป็นผู้นำในการสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่ง ดร. สร มีผลงานโดดเด่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาธุรกิจและวิธีแก้ปัญหาโดยสร้างวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในตลาดประเทศไทย ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็นพัฒนาการด้านความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขา จนตัวเขาได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งผู้นำสำคัญที่สุดคนหนึ่ง และจากผลงานที่ผ่านมา ดร. สร เป็นแรงผลักดันสำคัญ ผู้อยู่เบื้องหลังกลยุทธ์ที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับเอเยนซี่ ในเครือไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ผมเชื่อว่าเขาจะสานต่อแรงผลักดันที่แข็งแกร่งนี้ให้กับอินิชิเอทีฟ ประเทศไทยต่อไปได้อย่างแน่นอน"


ดร. ธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย กล่าวถึงผู้นำอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย คนใหม่ว่า จากบทบาทก่อนหน้านี้ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ ดร. สร พิสูจน์แล้วว่า เขาเป็นนักวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับบริษัทต่าง ๆ ในเครือไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานเชิงกลยุทธ์ที่สร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับลูกค้า ในขณะเดียวกัน ดร. สร ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างผลงานให้กับลูกค้าจนได้รับรางวัลทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศอย่างมากมาย ทั้งนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย เชื่อมั่นว่า ดร. สร จะเดินหน้าสร้างความสำเร็จในทศวรรษที่ 3 ให้กับอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ต่อจากคุณวรรณี รัตนพล ผู้ก่อตั้งและเป็นตำนานของอินิชิเอทีฟ และคุณมาลี กิตติพงศ์ไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย คนก่อนหน้า

ดร. สร เกียรติคณารัตน์ ยืนยันถึงการสานต่อความสำเร็จให้กับอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ในทศวรรษที่ 3 นี้ว่า "ความก้าวหน้าและวัฒนธรรมเป็นรากฐานสำคัญของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย มาโดยตลอด ผมมุ่งมั่นที่จะยกระดับจากการแก้ปัญกาเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ พร้อมพัฒนานวตกรรมการบริการที่จะช่วยให้ลูกค้าของเรานำหน้าคู่แข่งทางธุรกิจอยู่เสมอ โดยผมจะเน้นเรื่องการทำงานอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าทางธุรกิจ และเน้นการสร้างความสุขและพัฒนาศักยภาพพนักงานของเรา ให้เติบโต มีความคล่องตัวและก้าวนำสถานการณ์โลก การสร้างความสุขในการทำงานจะเป็นตัวจุดประกายสำคัญที่จะช่วยสร้างสรรค์ผลงานที่ดีในฐานะพาร์ทเนอร์ทางความคิดเชิงรุกให้กับลูกค้า ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายหลักของผม คือ การทำให้ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย เป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับคนที่รักความก้าวหน้า เป็นเอเยนซี่ที่ดีที่สุดของลูกค้าที่รักและพันธมิตรทางธุรกิจ เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้แบรนด์สร้างสิ่งใหม่ๆที่โดนใจในวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภค – we help brand takes initiative into the culture"

ด้านคุณมาลี กิตติพงศ์ไพศาล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย หนึ่งในผู้สร้างความสำเร็จให้กับอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย จะยังคงดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านธุรกิจฝ่ายบริหาร ให้กับไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ต่อไปในปี 2021

 

เกี่ยวกับ ดร. สร เกียรติคณารัตน์

ดร. สร เริ่มต้นการทำงานในปี พ.ศ. 2540 ที่ เดนท์สุ ยังก์ แอนด์ รูบิแคม (Dentsu Young & Rubicam) ในฐานะนักวางแผนกลยุทธ์ ก่อนมาร่วมงานกับ โลว์ (ลินตาส) (Lowe (Lintas) ในปี พ.ศ. 2543 เพื่อร่วมบุกเบิกการเป็นเอเยนซี่ที่ให้คำปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ แห่งแรก ๆ ของประเทศไทย ดร. สร ทำงานด้านกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจที่โลว์ เป็นระยะเวลา 10 ปี ก่อนเข้าร่วมกับยูโร อาร์เอสซีจี (ฮาวาส) (Euro RSCG (HAVAS) ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และในปี พ.ศ. 2555 ดร. สร เข้าร่วมงานกับไอพีจี มีเดียแบรนด์ส โดยดำรงตำแหน่งแรก คือ กรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรม ของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ซึ่ง ดร. สร เป็นผู้จัดตั้งแผนกกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และการสื่อสารให้กับเอเยนซี่ต่าง ๆ ในเครือไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ ของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส

ดร. สร เป็นผู้บริหารที่มีแนวคิดบวก เปิดกว้างและพร้อมที่จะรับสิ่งใหม่เสมอ (Growth Mindset) และเป็นคนที่ชอบเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) อย่างแท้จริง พิสูจน์ได้จากการที่ ดร. สร ได้สำเร็จการศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขานิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพในปี พ.ศ. 2563 โดยเชี่ยวชาญเรื่องนวัตกรรมสังคมองค์กร (Corporate Social Innovation) นอกจากบทบาทใหม่ที่ อินิชิเอทีฟ (Initiative) ประเทศไทย แล้ว ดร. สร ยังดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) และเป็นกรรมการอิสระและกรรมการที่ปรึกษาภายนอกของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง

 

เกี่ยวกับ อินิชิเอทีฟ

อินิชิเอทีฟ เป็นมีเดีย เอเยนซี่ระดับโลก ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแบรนด์ให้เติบโตผ่านวัฒนธรรม และในช่วงสามปีที่ผ่านมา เราได้รับการเสนอชื่อให้เป็น มีเดีย เอเยนซี่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จัดอันดับโดย RECMA หน่วยงานอิสระในการจัดอันดับคุณภาพมีเดีย เอเยนซี่ กุญแจสู่ความสำเร็จของเรา คือ ข้อเท็จจริงที่ว่า มีเดีย เอเยนซี่ส่วนใหญ่เน้นการสร้าง การรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) โดยอาจมีอคติกับการใช้เงินลงทุนกับสื่อ ซึ่งเราแตกต่างจากมีเดีย เอเยนซี่นั้น เพราะเราเป็นมีเดีย เอเยนซี่ ที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค (Brand Relevance) โดยมีกลยุทธ์สำคัญ คือ Cultural Velocity การใช้วัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วขับเคลื่อนแบรนด์ เราเชื่อว่าแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจะต้องให้ความสำคัญ และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยแบรนด์ต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งและแทรกซึมในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เราเรียกสิ่งนี้ว่า Cultural Velocity™ ซึ่งเป็นมาตราวัดความเร็วที่แบรนด์เคลื่อนผ่านวัฒนธรรมในสังคม และสร้างความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง ยิ่งแบรนด์ก้าวไปพร้อมกับวัฒนธรรมได้เร็วเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีความเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคได้มากขึ้นเท่านั้น และส่งผลต่อการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดด  

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ https:// ipg-connect.com/th/cultural-agency-initiative-thailand/

 

เกี่ยวกับไอพีจี มีเดียเบรนด์ส

IPG MEDIABRANDS คือ องค์กรระดับโลก ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูล ในเครือ Interpublic Group (NYSE: IPG) เราบริหารและดูแลการลงทุนทางด้านการสื่อสารการตลาดให้กับลูกค้า โดยมีมูลค่ารวมกันกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐใน 130 ประเทศทั่วโลก และเรามีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารรวมตัวกันมากกว่า 13,000 คน เรามีการให้บริการแบบครบวงจรในทุกมิติของการเป็นเอเยนซี่ระดับโลก โดยภายใต้เครือข่ายของ IPG Mediabrands นั้นรวมไปถึงบริษัทสำหรับการวางแผนสื่อและการตลาดชั้นนำอย่าง UM, Initiative และ BPN และกลุ่มบริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านข้อมูลและการวิจัยอย่าง MAGNA, Matterkind และ ดิจิทัลเอเยนซี่ อย่าง Reprise www.ipgmediabrands.com , LinkedIn, Twitter or Instagram.
#3605


นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า การจัดทำโรงพยาบาลสนามระดับสูง (สนามบินสุวรรณภูมิ) ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลักที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะนี้ ทอท.ได้เตรียมความพร้อมในส่วนของพื้นที่ไว้แล้ว โดยประสานกับกระทรวงสาธารณสุขในการจัดทำระบบไอซียู ซึ่งจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะเรียบร้อย

ทั้งนี้ ในการใช้พื้นที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลักที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราวนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่สนามบิน ทอท.จึงได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมธนารักษ์ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แล้ว โดยขณะนี้อาคาร SAT-1 ยังไม่ถือว่าเป็นพื้นที่เขตการบิน (Airside) แต่อย่างใดเนื่องจากจัดเป็นเขตก่อสร้างโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่ง ทอท.ได้แจ้งต่อ กพท.กำหนดเงื่อนไขพื้นที่ก่อสร้างอาคาร SAT-1 เป็นพื้นที่นอกเขตการบิน (Landside) และมีการกันพื้นที่ส่วนก่อสร้างออกจากพื้นที่ให้บริการเขตการบิน มีการดูแลพื้นที่ประชิดเขตการบิน ควบคุมการเข้าออกของแรงงานก่อสร้าง และตามแผนงานเมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จจึงจะขอเปลี่ยนแปลงให้พื้นที่อาคาร SAT-1 คืนสภาพเป็นพื้นที่เขตการบิน (Airside) ต่อไป

ดังนั้น ในระหว่างเปิดอาคาร SAT-1 ให้เป็นโรงพยาบาลสนามจึงไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสารและความปลอดภัยทางการบินแต่อย่างใด โดยอาคาร SAT-1 อยู่ห่างจากอาคารผู้โดยสารหลัก 500 เมตร อีกทั้งยังไม่มีการเปิดใช้ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) จึงไม่สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่ให้บริการในปัจจุบันได้ โดยการเข้าออกทั้งหมดจะใช้ถนนที่ใช้ระหว่างการก่อสร้างเท่านั้น 

นายกีรติกล่าวว่า ปัจจุบันการก่อสร้างอาคาร SAT-1 เสร็จแล้ว โดย ทอท.รับมอบงานจากผู้รับเหมาเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2564 โดยสัญญาก่อสร้างมีการรับประกันระยะเวลา 2 ปี ซึ่งการนำอาคารมาใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งไม่ใช่ประโยชน์หรือกิจกรรมสนามบินนั้น ทอท.ได้ทำหนังสือถึงผู้รับเหมาก่อสร้างรับทราบและยอมรับการนำพื้นที่ใช้เป็นโรงพยาบาลสนามแล้ว เบื้องต้นผู้รับจ้างรับทราบและไม่มีปัญหา ยืนยันการรับประกันตามสัญญา ซึ่งอยู่ระหว่างทำหนังสือรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรกลับมาเท่านั้น 

สำหรับการจดตั้งโรงพยาบาลสนามระดับสูง (สนามบินสุวรรณภูมิ) ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลักที่ 1 (SAT1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะรองรับผู้ป่วย 4,500 เตียง โดยชั้นที่ 2 ของอาคาร SAT-1 จะเป็นที่ทำการแพทย์และเตียงผู้ป่วย ICU รวม 940 เตียง ส่วนชั้นที่ 3 และ 4 เป็นเตียงผู้ป่วยอาการน้อยหรือไม่มีอาการ หรือผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีเขียว 3,560 เตียง ซึ่งเมื่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพดำเนินการจัดตั้งแล้วจะมีสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดูแลดำเนินการ โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นไป
#3606


ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่พุ่งสูงสู่หลักหมื่นคนต่อวัน ทำให้มีการขยายโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อในหลายพื้นที่ และถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นมาหลายแห่ง แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงเตียงสนามยังไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ติดเชื้อ ส่งผลให้ไม่สามารถรองรับการรักษาได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือภาคสาธารณสุข บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จึงได้ร่วมกับกองทัพอากาศ บริษัท ปัญจพลไฟเบอร์ คอนเทนเนอร์ จำกัด บริษัท สถานีการพิมพ์ จำกัด มูลนิธิ SCG บริษัท ซี.พี.ดี.  ชีทบอร์ด จำกัด สนับสนุนการจัดส่งเตียงสนามรวมจำนวน 3,000 เตียง ภายใต้แคมเปญ "ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19" ไปยังสถานพยาบาลและโรงพยาบาลสนามที่ขาดแคลนเตียงในการรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อย่างทันท่วงที

"เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ทั้งที่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยในระยะที่ต้องได้รับการรักษาจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยในการจัดส่งเตียงสนามของไปรษณีย์ไทยในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้โรงพยาบาลสนามที่จัดตั้งขึ้นใหม่มีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยที่ยังคงเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง และสามารถใช้ได้ในอนาคตในกรณีที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลายได้ในระยะต่อไป"

ในช่วงที่ทุกภาคส่วนต่างพยายามต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ไปรษณีย์ไทยเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ไม่เคยนิ่งนอนใจกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ใช้ความเชี่ยวชาญในด้านการขนส่งและการเข้าถึงทุกพื้นที่ประสานความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเพื่อเร่งส่งความช่วยเหลือสู่กลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนเตียงสนามที่ใช้ในการรองรับผู้ป่วย

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการจัดส่งเตียงสนามนั้น ไปรษณีย์ไทยได้มีการส่งมอบให้โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศแล้วมากกว่า 3,000 เตียง และจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนการขนส่งโดยไม่มีค่าใช้จ่ายไปจนกว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย เพื่อให้ภาคสาธารณสุขและคนไทยก้าวข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
#3607


เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 64 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ ประกอบกับการมีข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 27) ขอความร่วมมือให้ประชาชนชะลอหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัดโดยไม่มีเหตุจำเป็น

การรถไฟฯ จึงออกแนวทางปฏิบัติเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการยกเลิกการเดินทางตามนโยบายของภาครัฐ โดยเริ่มตั้งแต่บัดนี้ - 31 ส.ค.2564 ดังต่อไปนี้

- ให้ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสาร (รายบุคคล หมู่คณะ) ตั๋วสำหรับเช่าขบวนรถพิเศษโดยสาร และเช่ารถโดยสารไว้ล่วงหน้า หากไม่มั่นใจในการเดินทางในช่วงดังกล่าวสามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 1 วัน โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการคืนเงิน (คืนเต็มราคา) เป็นกรณีพิเศษ


- กรณีจังหวัดของสถานีต้นทางหรือปลายทางตามตั๋วของผู้โดยสาร ได้ประกาศมาตรการเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด อนุญาตให้คืนเงินค่าตั๋วก่อนขบวนรถออกไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการคืนเงิน (คืนเต็มราคา) เป็นกรณีพิเศษ

- กรณีมีการจองซื้อตั๋วทางอินเตอร์เน็ต หากผู้โดยสารไม่ประสงค์เดินทางและไม่สะดวกในการคืนเงินค่าตั๋วผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ให้อนุญาตคืนเงินค่าตั๋วก่อนขบวนรถออกไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง โดยยื่นคำร้องขอคืนเงินได้ที่สถานี

ทั้งนี้ นายนิรุฒ กล่าวว่า การรถไฟฯ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ เพิ่มความถี่ในการดูแลทำความสะอาดภายในขบวนรถโดยสารทุกขบวน และทุกสถานีอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบคัดกรองพนักงานรถไฟ ผู้ใช้บริการรถไฟ รวมทั้งผู้ประกอบการ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกคน และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนและหลังการปฏิบัติงานหรือใช้บริการอย่างเคร่งครัด
#3608












ราคาโควิด ลดกระหน่ำ ที่ดินติดทะเล  หาดส่วนตัว หาดสะพลีติดต่อหาดทุ่งวัวแล่น สวยงามเด่นในชุมพร 119 วา 6ลบ. และ 145 วา 7ลบ. ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ประจวบคีรีขันธ์ เอกสารสิทธิ์โฉนดครุฑแดง  ค่าใช้จ่ายวันโอนทั้งหมดคนละครึ่ง

วิวสวยงามเด่นตามธรรมชาติ รายล้อมทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์น่าอยู่ หาดทรายขาว น้ำใส สวยงาม  บรรยากาศดีงามธรรมชาติฟินสุดๆ  แปลงติดทะเลย่านนี้หายากมากแล้วเหลือแปลงนี้ค่ะ ด้านหน้า ติดถนนทางหลวง 3180 หลังติดทะล ท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวเจริญแล้ว ใกล้โรงเรียนชุมชนตลาด ถัดอีกนิดก็แพปลา และอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมาย แหล่งค้าSeaFood  ไฟฟ้าประถึงสะดวกปลอดภัย น้ำไฟเข้าถึง รถยนต์ไปมาได้หลายทาง สะดวกสบายหลายจุดสำคัญ ใกล้สนามบิน สร้างเขื่อนล้อมรอบเรียบร้อย แลเห็นสะดุดตาชวนหลงใหล โทร/line

โทร 083-712-4115
line id : 0837124115

ข้าวเหนียวอุบ แม่อบ
117 2 ตำบล สะพลี อำเภอปะทิว ชุมพร 86230
096 914 2592
https://maps.app.goo.gl/53AJJw33FJytK8waA
 
#3609









เช่ารถโควิดแสนถูก600บาท/วัน เช่านานยิ่งคุ้ม แสนถูก เช่าง่าย รถสะอาดปลอดภัย คุ้มค่า วีออส  ยาริส ซิตี้ อัลเมร่า แคมรี่ อัลติส ซีวิค กระบะมิตซูไททั้น ตู้Volkswagen
รับรถแคราย นนทบุรี สถาบันโรคทรวงอก  
มีบริการส่งถึงที่ ประกันรถ 5000 โทร

083-7124115  
Line id : 0837124115
www.รถเช่าดี.com

https://www.facebook.com/profile.php?id=100004405322209
#3610


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทขยายความร่วมมือใหม่ ในกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ภายใต้บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ด้วยการร่วมทุนกับบริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่น ในสัดส่วน 51:49 เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส "วันพญาไท" มูลค่า กว่า 3,600 ล้านบาท

"โตคิว แลนด์ เอเชีย เป็นพันธมิตรรายใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับเราในการพัฒนาอสังหาฯ ครบวงจร เพื่อสร้างอีโคซิสเท็มแห่งการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภค"

นายมาซาโอกิ คาเนมัตซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า การร่วมทุนพัฒนาโครงการวัน พญาไท เป็นการเข้ามาลงทุนในไทยเป็นครั้งแรกของบริษัทหลังจากพิจารณามองหาพันธมิตรที่เหมาะสมและมีชื่อเสียงในไทยมายาวนาน บริษัทหวังว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน และเป็นรากฐานสำคัญสู่โอกาสสร้างความร่วมมือในธุรกิจด้านอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจพลังงานทดแทน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถสร้างการเติบโตในอนาคตในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างประเทศไทย

โครงการวัน พญาไท เป็นโครงการมิกซ์ยูส สูง 31 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ 1-3-0 ไร่ ตั้งอยู่ติดกับโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่พาร์ค ออริจิ้น พญาไท พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด 'ONE STEP JOURNEY' เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตจากส่วนคอนโดที่พักอาศัย ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส และแอร์พอร์ต เรลลิงก์ สถานีพญาไทย 200 เมตร

และยังเป็นโครงการแรกในไทยที่จะมีแบรนด์โรงแรมระดับโลก 2 แบรนด์ภายในอาคารเดียวกัน คือ โฮเทล อินดิโก โรงแรมในแนวคิดบูทีคโฮเทล มีห้องพัก 210 ห้อง และ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส มีห้องพัก 202 ห้อง โดยทั้ง 2 แบรนด์ภายใต้เครือ IHG Hotels & Resorts จะช่วยตอบสนองความต้องการที่แตกต่างให้กับทั้งนักเดินทางที่มาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจย่านใจกลางเมือง

นอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีพื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับร้านค้าและอาคารสำนักงาน 2,200 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 26,880 ตารางเมตรโดยจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 3 ปีนี้ และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาดว่าสถานการณ์โควิด-19 น่าจะคลี่คลายแล้ว

สำหรับโตคิว แลนด์ เอเชียเป็นบริษัทพัฒนาและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาฯ จากประเทศญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์ 67 ปี ภายใต้การดำเนินธุรกิจของโตคิว ฟูโดซัง โฮลดิ้ง คอร์เปอเรชั่น บริษัทยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ซึ่งติดหนึ่งในบริษัทดัชนี นิกเคอิi 225 มีมูลค่าทรัพย์สิน ณ สิ้นปีงบการเงินล่าสุดของญี่ปุ่น (31 มี.ค.2564) ประมาณ 2,652,000 ล้านเยน หรือราว 790,000 ล้านบาท
#3611


นายประกฤต ธัญวลัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด ("บล. Zcom") เปิดเผยว่า จากการสนับสนุนทางการเงินอย่างแข็งแกร่งจากบริษัทใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นและสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรทั้งหมดที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของตลาดมาร์จิ้นในไทย บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของยอดลูกหนี้มาร์จิ้นได้อย่างต่อเนื่อง

 โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 บริษัทมียอดมูลหนี้จากการให้บริการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์มากกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 70% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญตามที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีกว่านับตั้งแต่บริษัทเริ่มเปิดให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ครั้งแรกในไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าในการปรับกลยุทธ์ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่ม และก้าวสู่อันดับหนึ่งในการเป็นผู้ให้บริการด้านบัญชีมาร์จิ้นในธุรกิจหลักทรัพย์ของประเทศไทย

บริการด้านบัญชีมาร์จิ้นหรือบัญชีเครดิตบาลานซ์ ของ บล. Zcom เปิดให้บริการแก่นักลงทุนที่ต้องการกู้ยืมเงิน เพื่อเพิ่มอำนาจซื้อหลักทรัพย์ โดยนักลงทุนจำเป็นต้องนำหลักประกันมาวางไว้กับบริษัทฯ ตามอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น (Initial Margin) ของหลักทรัพย์ที่ต้องการลงทุน ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 600 หลักทรัพย์ ในอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่ 5.95% ต่อปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ 02-088-8111
#3612


เจอตอเข้าให้แล้ว "ไวท์" และครอบครัว แถลงข่าวทั้งน้ำตา สุดแค้นใจโดนคู่กรณีลูกชายข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรม ทำร้ายร่างกาย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่มียอมความ อย่ามาอ้างว่าป่วยจิต

เป็นเรื่องเลยทีเดียว หลังจากนักแสดงวัยรุ่น "ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม" ออกมาโพสต์เดือด กรณีที่พ่อและแม่ของเจ้าตัวถูกคู่กรณีขับรถปาดหน้า และลงจากรถมาทำร้ายร่างกายกลางถนน โดยคุณพ่อโดนของแข็งตีที่หัว ส่วนคุณแม่ถูกตบหน้าจนหูอื้อ พร้อมกับโยนกระเป๋าของแม่ทิ้ง และโยนกุญแจรถทิ้ง ซึ่งหลังจากก่อเหตุคู่กรณีได้ขับรถหนีไปหน้าตาเฉย ทั้งยังออกมาโพสต์ปฏิเสธว่า ตนเองไม่ผิด ท้าให้ไปคุยกันที่ศาล พร้อมกับส่งข้อความไปข่มขู่หนุ่มไวท์ ด่าเป็นดาราอย่าโง่

ล่าสุด วันนี้ (1 ส.ค. 64) หนุ่มไวท์ และคุณพ่อสุระศักดิ์ พุ่มโพธิงาม, คุณแม่นฤมล อริยานุวัฒน์ พร้อมทนายความส่วนตัว "นายไพศาล เรืองฤทธิ์" และ "ทนายพิพัฒน์ รำจวน" ได้เปิดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน สุดงงโดนคู่กรณีทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ยอมรับกลัวจะไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกข้าราชการระดับสูง แต่ขอสู้ตายจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งระหว่างแถลงข่าว ไวท์ พ่อและแม่ ถึงกับร้องไห้ออกมา

พ่อ : "ผมก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรเขาครับ ตอนผมออกมาจากปั๊มน้ำมันก็เห็นรถเขาออกมา แต่ตอนออกมาเราก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พอออกมาตรงถนนเขาก็ขับมาจี้ตูดรถผม ผมก็ขับหนีเขา ตอนที่อยู่ในอุโมงค์เขาขับจี้รถท้ายผมแบบติดเลย จนภรรยาบอกว่าพอได้แล้วเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ก็ปล่อยให้เขาไป เขาก็ขับตบมาหารถผมเพื่อให้ผมชน ผมก็เลยเบรก"

"พอผมเบรก เขาก็ขับออกไปอีกรอบแล้วไปดักหน้ารถผม แล้วขับตบเข้ามาหารถผมอีกแล้วเบรกเพื่อให้ผมชน พอผมขับรถชนเขา ผมก็ลดกระจกเพื่อจะถามเขา แต่ไม่ทันจะได้ถามเขาเลย เขาก็ต่อยผม แล้วตรงขมับซ้ายของผมก็เหมือนโดนอะไรแข็งๆ แล้วผมก็ต่อยเขา จนเขาเลือดไหล"

"พอเห็นเขาเลือดไหลผมก็เลยถอยออกมา แล้วก็มีคนมาห้าม ผมก็เลยบอกว่าพอแล้วน้อง น้องเลือดไหลแล้ว ผมไม่ทำน้องแล้ว เขาก็เอะอะโวยวาย เอาเท้าถีบรถผม กระทืบ แล้วก็เอากระเป๋าของภรรยาผมเขวี้ยงทิ้ง แล้วปิดกุญแจแล้วตบหน้าภรรยาผม ตอนที่เขาต่อยหน้าผม ผมก็แค้นนะ แต่อย่าไปทำเขา (เสียงสั่น จนไวท์ลูกชายต้องยื่นมือมาจับขาพ่อเพื่อปลอบใจ ในขณะที่ไวท์และแม่ก็ร้องไห้ออกมาเช่นเดียวกัน) ผมก็กลัวไวท์เสียชื่อเสียงด้วย ผมก็เลยหยุดเพราะผมก็ไม่อยากทำเขาอีกแล้ว"

"ผมก็ไม่รู้ว่าเขามาทำผมทำไม ผมไม่ได้ปาดหน้าเขา ไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลย เขามาทำแบบนี้กับผมทำไม ผมอยากถามเขาว่า มาทำผมทำไม ผมไม่ได้ไปทะเลาะอะไรกับเขาเลย ไม่ได้อะไรกับเขาสักอย่างเลยครับ พอเขาตบหน้าผมเขาก็ขับรถออกไป แล้วก็ถอยหลังมาชนรถผมอย่างแรง จนรถเลื่อนไปชนลูกน้องผมจนบริเวณเอวช้ำ แล้วเขาก็หนีเลย ผมก็เลยไปแจ้งความครับ"

"ตอนเขาลงมาจากรถ เขาไม่พูดอะไรเลย เขาต่อยอย่างเดียวเลย เหมือนเขาเป็นคนบ้า ตาเขา... แฟนเขายังบอกช่วยหนูด้วยๆ แฟนเขายังร้องไห้วิ่งหนีไปท้ายรถกระบะที่เห็นในคลิปเลยครับ พอจบแฟนเขาถึงวิ่งกลับมาพอเขาขึ้นรถไป"

พอไปแจ้งความตำรวจว่าไงบ้าง?
พ่อ : "เขาไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะว่าตอนแรกผมไม่รู้ทะเบียนรถเขาเพราะตกใจเลยจำไม่ได้ แต่ผมจำได้ว่าเจอเขาที่ปั๊มน้ำมันก็เลยขับรถกลับไปที่ปั๊ม เพื่อขอดูคลิปที่ปั๊มก็เลยรู้ทะเบียนรถเขา ตอนที่อยู่ที่ปั๊มผมก็ไม่เห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ"

แม่ : "เหตุการณ์ตอนนั้นเขาขับรถมาเบรกเพื่อให้สามีชนรถเขา พอเขาชนเสร็จก็เหมือนที่สามีเล่าเลยค่ะ พอชนเสร็จเขาก็ลงมาจากรถ แล้วสามีก็ลดกระจกรถลง แล้วสามีก็ลงไปจากรถ แต่เรายังอยู่ในรถกับลูกน้อง พอลูกน้องบอกสามีเราโดนต่อย เราก็เลยลงไปจากรถเพื่อไปห้าม ก็บอกให้สามีออกมาเพราะเขาไม่ได้ใส่แมสก์ แล้วเราก็กลัวด้วย เราก็ต้องป้องกันตัวเอง เราก็ดันสามีออกมา คือขวางเลย"

"ก็ถามเขาวว่าพี่ไปทำอะไรให้น้องเหรอ ทำไมถึงมาทำอะไรแบบนี้กับพี่ ถ้าเกิดแฟนพี่ทำอะไรไปพี่ขอโทษ แต่เขาไม่ฟังเราเลย เหมือนเขาทำสามีเราไม่ได้ เขาก็ไปคว้าเอากระเป๋าเราที่อยู่ในรถไปโยนทิ้ง พอโยนทิ้งเขาก็มาตบเราเลย เราพยายามบอกว่าพอได้แล้ว เราไม่อยากจะมีเรื่องแล้ว อยู่ดีๆ มาตบเรา ก็งงมากค่ะ ตบแรงจนเราหูอื้อเลยค่ะ อารมณ์เขารุนแรงมาก ตอนนั้นไม่มีการปะทะคารมอะไรกันเลยค่ะ"

พ่อ : "ไม่มีเลยครับ ผมยังงงเลยว่าไปทำอะไรเขา ถ้าผมไปทะเลาะกับเขา ผมยังจะเป็นคนผิด แล้วผมก็ไม่ได้ไปปาดหน้ารถเขา เพราะรถเขาอยู่หลังรถผม เขาขับมาจี้ท้ายรถผมจนเกิดเรื่องครับ ไม่มีชนวนเหตุอะไรเลย ฝากผ่านสื่อด้วยนะครับว่าผมไปทำอะไรให้เขา แล้วเขามาตบหน้าเมียผมทำไม (ร้องไห้) ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายคุณออกมาพูด"

พอได้ทราบเรื่องไวท์รู้สึกยังไง?
ไวท์ : "รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากครับ แต่ที่ผมเสียใจมากก็คือคู่กรณีตบแม่ผมครับ แล้วผมเพิ่งทราบครับว่าคู่กรณีคนนี้ได้เอาค้อนตีหัวพ่อผมครับ (ร้องไห้) ผมรู้สึกว่ามันไม่สมควรครับ และผมได้ทราบมาว่า คู่กรณีของพ่อเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรมครับ ผมกลัวว่าถ้าวันนั้นพ่อและแม่ของผมเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะช่วยเหลือผม ผมไม่รู้ว่าผมต้องทำยังไงเพราะผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผมไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุตรงนั้น"

"ผมรู้สึกเสียใจมากที่คู่กรณีคนนั้นทำแบบนี้กับครอบครัวผมครับ ผมอยากให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผมด้วยครับ (เห็นไวท์บอกว่าขอให้ใครที่มีหลักฐานในวันนั้นส่งมาให้ด้วย?) ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองอยากที่จะโพสต์สิ่งที่พ่อและแม่ผมได้เจอเรื่องราวนั้นมาเพื่อออกสื่อ ในการที่ใครที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นช่วยส่งคลิปหรือส่งหลักฐานสำคัญมาให้ผม ผมก็เลยตัดสินใจโพสต์ลงไปเพราะว่าผมเสียใจและไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวแบบนี้กับครอบครัวผมครับ"

คู่กรณีอ้างว่า รู้จักไวท์ด้วย
ไวท์ : "พูดตรงๆ เลยนะครับ ผมไม่รู้ครับ และผมก็ไม่เคยเจอและไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลยครับ แล้วเขามาพูดว่าเขารู้จักเพื่อนผม อันนี้ผมรู้สึกว่า... คือเขาจะรู้จักหรือไม่รู้จัก เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับครอบครัวใครก็ได้แบบนี้ครับ"

มีคนส่งหลักฐานมาให้บ้างรึยัง?
พ่อ : "มีคนส่งมาให้แล้วครับ แต่เราขอปิดไว้ก่อนครับ"

พอไวท์เห็นภาพหลักฐานที่คนส่งมาให้ ไวท์รู้สึกยังไงบ้าง?
ไวท์ : "ผมเข้าใจครับว่า คุณพ่อผมและคู่กรณีคนนี้เขาอาจจะรู้สึกว่าบนท้องถนน อาจจะผิดทั้งคู่ในการที่ขับรถประมาทในระดับนึง แต่อย่างที่คุณพ่อผมบอกว่าไม่ได้ไปหาเรื่องเขา แล้วในเหตุการณ์ที่คุณแม่ผมโดนตบ คุณแม่ผมแค่จะเข้าไปห้ามเขา แต่ไม่ได้จะเข้าไปทำร้ายคู่กรณี ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่คุณแม่ผมจะต้องโดนตบครับ แล้วเขายังมาทำลายข้าวของในรถ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า และกุญแจรถด้วยครับ"

คู่กรณีไปคอมเมนต์ด้วยว่าเรื่องจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย มันหนังคนละม้วน เดี๋ยวไปเจอกันที่ศาล ด้านทนายยอมรับว่ารู้สึกกังวลเพราะพ่อของคู่กรณีเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม
ทนายไพศาล : "เบื้องต้นทางทีมทนายเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ผมทราบจากข่าวว่าคู่กรณีเคยมีข่าวเรื่องการทำร้ายพนักงานร้านโทรศัพท์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำผิดซ้ำซาก ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และทราบมาว่าเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทีมทนายเราก็มีความกังวลในเรื่องของการทำคดี เริ่มต้นตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน"

"แต่ยังไงก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์บนท้องถนนครับ เพราะว่าพฤติการณ์และพฤติกรรมไม่ยำเกรงกฏหมายเลย มีการจงใจขับรถหวาดเสียว ปาดหน้า แล้วถอยหลังมาให้ชน ซึ่งพยานหลักฐานทั้งหมดเราจะไปพิสูจน์กันในศาล (หลักฐานที่เรามีเรามั่นใจมั้ยว่าจะชนะคดี?) ก็ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินครับ ต้องอธิบายแบบนี้ว่า จากที่ทราบในข่าวทางคู่กรณีมีการกระทำผิดหลายครั้งแล้ว ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะมั่นใจ แต่ในทางเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และเราเชื่อว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วเขาจะต้องได้รับการลงโทษ อันนี้ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลตามพยานหลักฐาน ทางผู้เสียหายยืนยันแล้วว่าดำเนินคดีถึงที่สุดแน่นอน"

"เบื้องต้นเราได้ข้อมูลมาว่ามีการใช้ค้อนเป็นอาวุธในการทำร้ายด้วย ซึ่งสามารถเล็งเห็นได้ว่าเขาประสงค์ให้มีการบาดเจ็บสาหัส หรือประสบถึงชีวิต ซึ่งในข้อกว่าหาตรงนี้อยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวนครับ แต่ข้อกล่าวหาหลักๆ เลยคือทำร้ายร่างกายคุณแม่ และการขับรถประมาทหวาดเสียว"

ข้อกล่าวหาทั้งหมดโทษหนักแค่ไหน?
ทนายไพศาล : "ข้อกล่าวหาที่คุณทนายแจ้งไปนั้นยังเป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่หนัก แต่ข้อกล่าวหาเบื้องต้นที่มีการใช้ค้อนในการตีไปที่อวัยวะสำคัญ มันเป็นข้อหาหนักแต่ขอยังไม่บอก เดี๋ยวขอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ซึ่งพฤติการณ์พฤติกรรมไม่ยำเกรงต่อกฏหมายบ้านเมือง คือไม่สำนึก แล้วทราบจากข่าวคู่กรณีเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรมด้วย ซึ่งผู้เสียหายก็มีความกังวลในเรื่องของคดีว่าเขาจะได้รับความยุติธรรมไหม"

คู่กรณีอ้างป่วย
"แล้วที่ผมทราบจากข่าวเขาอ้างตนว่าป่วย แต่ในตอนที่เกิดเหตุมีสติพูดรู้เรื่องหมดนะ ฉะนั้นมันอ้างไม่ได้ มันฟังงไม่ขึ้นนะครับ หลังเสร็จรูปคดีทางนี้จะแถลงข่าวอีกครั้งครับ แต่คดีนี้มีโทษหนักแน่นอน เพราะอาวุธที่ใช้ตีไปที่อวัยวะสำคัญด้วย ประสงค์ต่อผลเลยนะครับ อาจจะถึงชีวิตเลย แล้วทราบจากข่าวว่าเขาเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้ว และมีการยอมรับผิดแล้ว และมีการให้ข่าวไปแล้วว่าจะไม่ทำอีก แต่ก็ยังทำอีกนะครับ พฤติกรรมทำผิดซ้ำซาก ไม่สำนึกไม่ยำเกรงกฎหมาย แล้วยังเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงด้วย เดี๋ยวต้องพิสูจน์กันในศาลครับ"

"ก็ต้องฝากสื่อให้ช่วยติดตามครับ ผมขอยกตัวอย่างไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ถ้ามีบุคคลยกตัวว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้มีอำนาจ เป็นคนรวย แล้วจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ผมถามกลับนักข่าวว่ามันทำได้หรือไม่ มันถูกต้องไหม สังคมจะอยู่ยังไง ความสงบเรียบร้อยในสังคมจะเกิดยังไง"

"อีกประเด็นนึง ถ้ามีการกล่าวอ้างว่าป่วย มีบัตรจิตเวช มีการได้รับการรักษา แล้วปล่อยปละให้ออกมาทำแบบนี้ในสังคม ไปทำคนอื่น แล้วเราจะอยู่กันยังไงครับ คนป่วยต้องได้รับการรักษานะครับ ต้องมีผู้ดูแลนะครับ ผมสมมตินะครับว่าถ้าเขาไปโดนคนอื่นทำร้ายจนถึงตาย โดนกระทืบตายข้างถนน แล้วผู้ดูแลเขาจะไม่เสียใจเหรอครับ ฉะนั้น ผมอยากให้ดูแลพาไปรักษาครับ แต่อันนี้มันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นในส่วนของรูปคดี เพราะการกระทำมีสติ พูดรู้เรื่องทุกอย่างนะครับ"

หลังจากที่ไวท์โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คู่กรณีก็ไดเรกแมสเสจมาหา
ไวท์ : "หลังจากที่ข่าวลงไป เขาได้ส่งไดเรกแมสเสจมาหาผม และได้เข้ามาโพสต์ไอจีผมต่างๆ นานา ผมก็กลัวครับ ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูงก็ยิ่งกลัวครับ เขาก็ส่งข้อความมาว่า เป็นดาราอย่าโง่ มึงคิดว่าพ่อแม่มึงถูกมากใช่ไหม ไปคุยกันในชั้นศาล เดี๋ยวคุณก็รู้ เขาก็ขู่ในทำนองนั้นครับ (ไวท์รู้สึกว่าข้อความที่เขาส่งมาส่วนตัวเป็นการข่มขู่เรา?) ใช่ครับ"

ทนายไพศาล : "ทางครอบครัวกลัวมากนะ เขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูง หนึ่งกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม สองกลัวรูปคดีไม่เป็นข้อเท็จจริง วันนี้หลังจากแถลงข่าวเสร็จทางทีมทนายจะพาผู้เสียหายไปให้การเพิ่มเติมที่ สน.ท้องที่เกิดเหตุครับ อยากให้สื่อมวลชนสร้างบรรทัดฐานให้สังคมครับ ยอมรับว่าทางทีมทนายก็กังวล มันอาจจะมีผล แต่เหนืออื่นใดคือข้อเท็จจริงครับ ความจริงก็คือความจริงครับ อยากให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยจับตาดูคดีนี้ว่าจะจบยังไง เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก มันหลายครั้งแล้ว"

ไม่ขอไกล่เกลี่ย เอาเรื่องให้ถึงที่สุด
พ่อ : "ไม่ครับ ผมจะทำให้เขารู้ว่าอย่าไปทำกับคนอื่นอีก เพราะผมเห็นเขาทำกับคนอื่นมาหลายครั้งแล้ว ผมอยากจะฝากบอกเขาว่าออกมาพูดความจริง แล้วคุณทำผมเพื่ออะไร ผมไม่ได้ไปทำอะไรคุณเลย ผมอยากจะถามเขาว่าคุณมาทำผมทำไม แค่นี้เองครับ (ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด?) ครับ"

ไวท์ : "เขาทะเลาะกับพ่อผม ผมเข้าใจ แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือเขาตบแม่ผม ผมเสียใจมากและผมจะดำเนินคดีเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดครับ (อยากบอกอะไรเขา?) อย่างที่คุณบอกกับพี่นักข่าวเมื่อวานว่า ถ้าคุณรู้ว่าสองคนนี้คือพ่อแม่ของผมแล้วคุณจะไม่ทำ มันไม่ใช่หรอกครับ ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่น คุณก็ไม่สมควรทำครับ"
 
#3613



นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการระบาดโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้ตลาดโลกมีความต้องการสินค้าอาหารที่ปลอดภัย ได้คุณภาพ และมุ่งตอบโจทย์ข้อกังวลทางด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้นายจุรินทร์นทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของอาหารไทยให้กับผู้ซื้อและผู้บริโภคทั่วโลก ในรูปแบบหนังสือรับรอง COVID-19 Prevention Best Practice สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้าอาหารซึ่งเมื่อเดือนก.ย.2563 ที่ผ่านมานายจุรินทร์เป็นประธานสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของ 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย


ล่าสุดกรมประมงได้ออกหนังสือรับรองดังกล่าวให้แก่โรงงานอาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็ง และโรงงานผลิตอาหารทะเลกระป๋อง ให้กับโรงงานผู้ส่งออกแล้ว กว่า 237 โรงงานแล้ว สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขอหนังสือรับรองดังกล่าวเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ สามารถติดต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อนส่งออกไปยังผู้นำเข้าในประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้


นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังติดตามการสร้างการตระหนักรับรู้ และตอกย้ำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าสินค้าอาหารไทยมีคุณภาพ และปลอดภัยในทุกๆ ขั้นการผลิตและการจัดส่งถือมือผู้บริโภคภายใต้แคมเปญ 'Thailand Delivers with Safety' ผ่านทูตพาณิชย์ที่เป็นเซลส์แมนประเทศ ซึ่งประจำการในประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย

สำหรับภาพรวมการส่งออกสินค้าอาหาร ไม่รวมน้ำตาล โดยในช่วงครึ่งปีแรกตั้งแต่ม.ค. – มิ.ย. 2564 มูลค่ากว่า 441,014 ล้านบาท  โดยมีสินค้าประเภทผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่เข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลสด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋อง และแปรรูป ไก่สดแช่แข็ง และแปรรูป และเครื่องดื่มทุกชนิด ที่ส่งออกมากที่สุดตามลำดับ

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952206
#3614



จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีตัวเลขผู้ป่วย New High เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ป่วยที่ต้องการเตียงพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวนมาก เพื่อเป็นการบรรเทาและแก้ไขปัญหาดังกล่าว 'บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)' จึงได้จับมือร่วมกับ 'มูลนิธิมาดามแป้ง' ดำเนินภารกิจสู้วิกฤตโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยสมทบทุนจัดตั้งศูนย์ Community Isolation จำนวน 400 เตียง และจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท ใน 4 แห่งรอบกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว หวังบรรเทาวิกฤตเตียงไม่เพียงพอ ลดวงจรการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต เริ่มเปิดบริการต้นเดือนสิงหาคมนี้ เป็นต้นไป



'มาดามแป้ง' นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวถึงการทำงานครั้งนี้ว่า "นับเป็นการบูรณาการความช่วยเหลือให้เท่าทันสถานการณ์ ในวินาทีที่สังคมต้องการความช่วยเหลือ เราพร้อมหมุนตัว 360 องศาช่วยเต็มที่ ด้วยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งเอกชน หน่วยงานท้องถิ่น วัด โรงเรียน ชุมชน อาสาสมัคร โดยในอนาคตอันใกล้นี้ เราคงมีพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมกับเราอีกหลายองค์กร แน่นอนว่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการแก้ไขวิกฤตของประเทศ"



สำหรับ Community Isolation ทั้ง 4 แห่งนั้น สามารถรองรับผู้ป่วยได้แห่งละ 100 เตียงต่อรอบการรักษา ซึ่งกระจายอยู่ทั้ง 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วิทยาลัยพาณิชยการอินทราชัย เขตวังทองหลาง โดย รพ.ลาดพร้าว, ร.ร.สุขุมนวพันธ์อุปถัมภ์ เขตบึงกุ่ม โดย รพ.พญาไท นวมินทร์, โกดังเก็บของ บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เขตราษฎร์บูรณะ โดย รพ.ประชาพัฒน์ และวัดกำแพง (บางแวก) เขตภาษีเจริญ โดย รพ.มิตรประชา (เพชรเกษม 2) โดยจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการในช่วงต้นเดือนสิงหาคม



นางนวลพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ปัญหาใหญ่หนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ คือการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมองอย่างไรก็ไม่มีทางเพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายวัน ดังนั้น นอกจากสนับสนุนการตั้งศูนย์ขึ้นแล้ว เรายังมีแผนสร้างทีมอาสากล้าใหม่มูลนิธิมาดามแป้งขึ้นมาเป็นผู้ช่วยหมอ พยาบาล ในการดูแลผู้ป่วยหน้างานอย่างเร่งด่วน ด้วยรูปแบบการอบรมระยะสั้นตามมาตรฐาน หากเราทำได้ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระงานของหมอ พยาบาลไปได้อีกมาก และยังสามารถขยายโมเดลนี้ได้ทั่วประเทศในอนาคตอีกด้วย"
#3615



ไทยประกันชีวิต ให้ความคุ้มครองผู้ป่วยโควิด-19 กรณีรักษาแบบ Home Isolation และ Community Isolation ตามเงื่อนไขสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ พร้อมมอบบริการดูแลผู้เอาประกันภัยแบบครบรอบด้าน

นายสวัสดิ์ นฤวรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Life Operation Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตดำเนินนโยบายมุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions และในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงมอบความคุ้มครองโรคโควิด-19 ตามเงื่อนไขสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ ทั้งในส่วนของค่ารักษาพยาบาลหรือค่าชดเชยรายได้ ในกรณีต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

ทั้งนี้ การให้ความคุ้มครองจะครอบคลุมการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ซึ่งในกรณีดังกล่าวสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย สำหรับโรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญา รวมถึงการดูแลรักษาแบบ Home Isolation และ Community Isolation ซึ่งความคุ้มครองเป็นไปตามคำสั่งนายทะเบียน สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

โดยการรักษาแบบ Home Isolation และ Community Isolation ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด คือ กรณีที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 และแพทย์ผู้ดูแลรักษาเห็นสมควรให้ผู้ป่วยรายนั้นแยกกักตัวในที่พักหรือชุมชนได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย รวมถึงผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล หรือกลับมาดูแลรักษาต่อ หรือกลับมาแยกกักตัวในที่พักต่อจนครบกำหนด

สำหรับความคุ้มครองนั้นจะให้ความคุ้มครองทั้งการซื้อสัญญาเพิ่มเติมที่มีความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอก และแบบผู้ป่วยใน โดยจะให้ความคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลที่จำเป็นทางการแพทย์ และไม่เกินผลประโยชน์ความคุ้มครองของกรมธรรม์

รวมถึงการให้ความคุ้มครองสำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีความคุ้มครองค่าชดเชยรายได้ จะคุ้มครองกรณีมีเอกสารแสดงว่าผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 และมีความจำเป็นต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในสถานพยาบาลตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขและความจำเป็นทางการแพทย์ แต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ โดยจะจ่ายค่าชดเชยรายได้ไม่เกิน 14 วัน

ในช่วงเวลาที่สถานการณ์การติดเชื้อเกิดขึ้นต่อเนื่อง บริษัทฯ คำนึงถึงผู้เอาประกันภัยที่ซื้อสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพทุกประเภท ที่ยังต้องมีระยะเวลารอคอยความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วย จึงได้ลดระยะเวลารอคอยความคุ้มครองจาก 30 วัน เหลือ 14 วัน ในกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 และภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดวัคซีน รวมถึงความคุ้มครองค่าชดเชยรายวันกรณีรักษาตัวในโรงพยาบาล และการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามเกณฑ์การตรวจที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความห่วงใยผู้เอาประกันภัยท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด จึงเพิ่มบริการไทยประกันชีวิต Telemedicine สำหรับผู้เอาประกันภัยที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ผู้เอาประกันภัยที่ต้องติดตามการรักษาหลังการผ่าตัด หรือหลังเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งโรคเหล่านี้ไม่สามารถรอได้มีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง จึงได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลคู่สัญญากว่า 30 แห่ง ให้บริการตรวจรักษาทางไกลผ่าน VDO Call หรือโทรศัพท์เพื่อติดตามการรักษา รวมถึงการส่งยาจากโรงพยาบาลเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ โดยให้ความคุ้มครองตามสัญญาเช่นเดียวกับการรับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองจ่าย

รวมถึงผู้เอาประกันภัยสามารถรับบริการปรึกษาแพทย์จากโรงพยาบาลสมิติเวชแบบ Online ผ่าน Video Conference พร้อมสั่งการรักษาด้วย Telemedicine ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะให้บริการสำหรับผู้เอาประกันภัยรายบุคคลที่มีประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยนอก ซึ่งเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปที่มีอาการไม่รุนแรง รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องการปรึกษาหรือติดตามผลการรักษา ทั้งนี้ บริษัทฯ จะคุ้มครองค่าใช้จ่ายการให้คำปรึกษา รวมถึงค่ายาจากการเข้ารับการรักษาตามเงื่อนไขกรมธรรม์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสถานการณ์ปัจจุบัน หมดความกังวลด้านสุขภาพ

"ไทยประกันชีวิตพร้อมดูแลทุกชีวิตในสังคม และพร้อมเคียงข้างในทุกสถานการณ์ พร้อมขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปด้วยกัน" นายสวัสดิ์กล่าว
#3616



แม้ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านกัน หรือถ้าออกไปก็ต้องใส่แมสก์ตลอด แต่สาว ๆ อย่าละเลยเรื่องการบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มกระจ่างใสเด็ดขาด สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ แนะนำ 12 มาสก์หน้าสุดฮอตฮิต ที่เชื่อว่าสาว ๆ ต้องมีติดบ้านไว้อย่างน้อยสองชิ้น ที่สุดในดวงใจชิ้นแรกต้องยกให้ Jung Saem Mool Essential Mool Cream Mask ขึ้นชื่อว่า Mool Cream แล้วการันตีได้ถึงความปังแน่นอน ไม่เพียงแค่มีครีมบำรุงผิวเท่านั้น แต่ Mool Cream ยังมีมาสก์ด้วย เป็นมาสก์ เนื้อเข้มข้นครีมมี่ ด้วยคุณค่าเซรามายด์และไฮยาลูโรนิคเอซิด ทำให้ผิวชุ่มชื่น เนียนเรียบ สุขภาพดี


ตามมาด้วย Shiseido White Lucent Overnight Cream and Mask มาสก์สูตรไวท์เทนนิ่งที่หรูหรา ช่วยเรื่องผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ผิวที่ไม่เสมอกัน ใช้แล้วผิวจะเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์, M.A.C Mineralize Reset & Revive Charcoal Mask เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีสิวเสี้ยนเยอะ ตัวนี้จะช่วยดูดสิวเสี้ยนออกไปด้วยสารสกัดจากชาร์โคล เนื้อมาสก์ไม่แห้ง ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น, Three Purifying Clay Mask  อีกตัวที่สาวผิวมันห้ามพลาด สารสกัดจากธรรมชาติ 92% และสารช่วยนำความหยาบกร้านของผิวออกไป ช่วยลดผิวมันและขจัดเซลล์ผิวส่วนเกินได้ดี


สำหรับสาวที่ผิวแห้งมาก ๆ Kiehl's Ultra Facial Overnight Hydrating Masque ตัวนี้ช่วยกู้ผิวให้กลับมาชุ่มชื่นอย่างรวดเร็ว ผิวฟูขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังใช้รู้สึกได้ทันที ส่วน Lush Mask of Magnaminty มาสก์เนื้อสีเขียวมิ้นต์ มีเท็กเจอร์เหมือนเป็นเมล็ดธัญพืช สามารถขัดผิวได้ในตัว ทำให้หน้านุ่มและผิวละเอียดเนียนมากขึ้น ไม่มีสารกันบูดและสารอันตรายต่อผิว, Etude House Soon June Sleeping Pack  ถูกใจสาว ๆ ที่อยากมาสก์หน้าแล้วนอนหลับไปเลย เพราะอีทูดี้ตัวนี้เป็นแนวสลีปปิ้ง มาสก์ นอนหลับได้เลยไม่ต้องห่วง เนื้อครีมมี่บาล์มทาเบา ๆ มีส่วนผสมของแพนเท็นโซไซต์ 5% ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น, Frudia Firming My Orchard Squeeze Mask Acai Berry จาก All Abou You มาสก์หอม ๆ ด้วยสารสกัดอาซาอิเบอร์รี่ ช่วยยกกระชับผิว คงความชุ่มชื่น ให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย


ด้าน Sephora มีมาสก์หลายตัวที่ครองใจสาว ๆ Laneige Water Sleeping Mask EX สลีปปิ้งมาสก์ที่ครองใจสาว ๆ มานาน เชื่อว่าทุกคนต้องเคยใช้แน่นอน มีส่วนผสมของไมโครไบโอม โปรไบโอติคที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ใบหน้ากระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด, Biotherm Life Plankton Mask สารสกัดจากไลฟ์แพลงก์ตอนบริสุทธิ์ เมื่อประสานการทำงานเข้ากับผิวทำให้ผิวชุ่มชื่นสุด ๆ เนื้อมาสก์เป็นเจลข้น กลิ่นหอมสดชื่นแบบธรรมชาติ อีกหนึ่ง มาสก์ยอดนิยมที่ช่วยกู้ผิวแห้งให้กลับมาฉ่ำน้ำแบบรวดเร็ว, Foreo Call It a Night เด่นที่ส่วนผสมของโสมและน้ำมันโอลีฟ เอ็กโซติค ธรรมชาติสุด ๆ แต่ตัวนี้พิเศษนิดตรงนี้ต้องใช้คู่กับอุปกรณ์ยูเอฟโออันโด่งดังของแบรนด์ แต่รับรองว่าผลลัพธ์จะทำให้พึงใจสุด ๆ สีผิวสม่ำเสมอและเรียบเนียนขึ้นแน่นอน ปิดท้ายกับ Tatcha Luminous Dewy Skin Mask ขวัญใจบิวตี้ เอดิเตอร์ทั่วโลก ถูกหยิบยกให้มาอยู่ในลิสต์มาสก์ในดวงใจเสมอ ๆ มีส่วนผสมของชาเขียวออกแนวสไตล์ญี่ปุ่น แผ่นมาสก์นุ่มอ่อนโยนต่อผิวที่สุด
#3617



นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานการเตรียมส่งออกข้าวไทยจำนวน 44,000 ตัน ไปยังอิรักเป็นครั้งแรก ในรอบ 7 ปี เรียกคืนความเชื่อมั่นข้าวไทยในตลาดอิรัก โดยรัฐบาลพร้อมผลักดันภาคเอกชน และผู้ส่งออกไทย เปิดตลาดข้าวไทยในประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติมจาก 3 ตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดพรีเมียม ตลาดทั่วไป และตลาดเฉพาะ ซึ่งการส่งออกข้าวไปอิรักครั้งนี้ ยังจะส่งผลดีแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอีกด้วย

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ข้าวขาว 100% ของไทยจำนวน 44,000 ตัน ซึ่งจะส่งออกไปในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ถือเป็นข้าวไทยล็อตแรกที่ถูกส่งออกไปยังตลาดอิรักในรอบ 7 ปี หลังจากที่อิรักได้ระงับการนำเข้าข้าวจากไทย ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ ผู้ส่งออกไทยจะสามารถส่งออกข้าวไทยไปยังอิรักได้ต่อเนื่อง รวมทั้งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ผู้ส่งออกไทยทำการตลาดสินค้าเกษตรไทยในประเทศเอเชีย ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่นๆอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์เร่งประชาสัมพันธ์ข้าวและสินค้าเกษตรไทย เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลก ทดแทนความต้องการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด-19

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952147
#3618



ที่ประชุมบอร์ดผู้สูงอายุแห่งชาติ มีมติอนุมัติมาตรการช่วยผู้สูงอายุ จ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการ คืนเบี้ยยังชีพ พร้อมพักชำระหนี้ 6 เดือน

นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30ก.ค.ที่ผ่านมาจากการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ครั้งที่ 2/2564 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และคณะผู้บริหารกระทรวง พม.

ทั้งนี้คณะกรรมการฯได้เห็นชอบแนวทางขับเคลื่อนการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจ่ายเงินสงเคราะห์ฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน - กันยายน 2563 เป็นเวลา 4 เดือน และในปีงบประมาณ 2564 เสนอให้จ่ายในอัตราการจ่ายเดิม โดยจ่ายแบบเดือนเว้นเดือน เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2563 โดยผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือฯ 100 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือฯ 50 บาทต่อเดือน ส่วนระยะยาว เห็นควรให้มีการจัดตั้งคณะทำงานฯ เพื่อพิจารณาการงบประมาณดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

นางพัชรีกล่าวว่าที่ประชุมยังได้เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้สูงอายุที่รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น โดยจ่ายเงินคืนให้กับผู้สูงอายุที่รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น และได้นำเงินมาคืนให้ทางราชการแล้ว พร้อมระงับการดำเนินคดีเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยจะเสนอ ครม. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พิจารณากระบวนการคืนเงินฯ ให้กับผู้สูงอายุ โดยจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพื่อกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนต่อไป

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2566–2580) และแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะกลาง 5 ปี (พ.ศ. 2566–2570) รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2563 และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพักชำระหนี้ของลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 3 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 31 มีนาคม 2565

https:// m.mgronline.com/politics/detail/9640000075096
#3619



กุนซือทีมขุนค้อนพร้อมยื่นข้อเสนอราว 20 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาของปราการหลังชาวฝรั่งเศส เพื่อหวังดึงเข้ามาเติมเต็มแนวรับในฤดูกาลหน้า

สำหรับ เคิร์ต ซูมา ย้ายจากแซงต์ เอเตียน มาร่วมทีมเชลซีตั้งแต่ปี 2014 แต่กลับไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างต่อเนื่อง โดยลงสนามไปเพียงแค่ 150 เกมเท่านั้น จาก 5 ฤดูกาลในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แถมยังเคยโดยปล่อยให้ สโต๊ก ซิตี้ และ เอฟเวอร์ตัน ยืมตัวไปใช้งานอีกด้วย

กระทั่งล่าสุด เดลี เมล์ รายงานว่า เดวิด มอยส์ หวังคว้าตัว ซูมา เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของทีม "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า โดยพร้อมทุ่มเงินราว 20 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาที่เหลือ

ขณะที่แนวรับวัย 26 ปี ก็ต้องการที่จะค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกต่อไปเช่นกัน และไม่ต้องการเป็นตัวแถมในข้อเสนอของเชลซี เพื่อใช้ลดค่าตัวของ ฌูลส์ กุนเด จากเซบีญาในช่วงซัมเมอร์นี้

นอกจากนี้ นายใหญ่ของทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็ยังยืนยันเสียงแข็งว่า ต้องการซื้อขาด ซูมา ด้วยเงินสดเท่านั้น โดยไม่ต้องได้มาเป็นตัวแถม ในดีลของ ดีแคลน ไรซ์ อย่างแน่นอน.

https:// www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/2153110
#3620


ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์ไทย และสมุนไพร รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลน ยาฟ้าทะลายโจร แบบชนิดแคปซูลในท้องตลาด เพราะประชาชนนิยมนำมารับประทาน เพื่อรักษาโควิด บางคนคิดว่าเป็นการป้องกัน เลยเกิดการกักตัว ทำให้สินค้าไม่มีในท้องตลาด จึงอยากชี้แจงและทำความเข้าใจว่า ความจริงแล้วสินค้าไม่ได้หมดไปจากท้องตลาด ทุกอย่างยังคงผลิตตามปกติ แต่ทั้งนี้ ประชาชนควรทำเข้าใจว่า ไม่ควรมีการกักตุน เพื่อเพิ่มทางรอดให้กับคนอื่นที่จะเป็นต้องใช้ยา และไม่ควรสนับสนุนการซื้อหายาที่มีราคาแพงไม่สมเหตุสมผลด้วย


"การใช้ฟ้าทะลายโจร ควรใช้เมื่อมีอาการเท่านั้น อีกทั้งพบว่า การจำหน่ายยาฟ้าทะลายโจรในท้องตลาด ในร้านขายยาขนาดใหญ่ไม่มีปัญหา แต่หากเป็นร้านขนาดเล็ก มีการแยกขาย เริ่มพบการบรรจุผงยาตัวอื่นลงไปในแคปซูลแทน มี ทั้ง สะเดา บอระเผ็ด และใบบัวบก ซึ่งประชาชนไม่สามารถแยกออกด้วยตาเปล่า ทำได้อย่างเดียว คือ การดึงแคปซูลออกแล้ว ชิมผงยา ที่ผ่านมาก็มีคนส่งตัวอย่างแคปซูล มาให้รพ.ตรวจสอบก็พบว่าเป็นใบบัวบก ซึ่งคนทำเช่นนี้ เท่ากับ ทำร้ายคนอื่น"ภญ.ผกากรองกล่าว


ภญ. ผกากรอง กล่าวอีกว่า ในช่วงที่มีการขาดแคลนยาฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูลนี้ ประชาชนหรือชุมนมสามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกฟ้าทะลายโจรเอง ปลูกง่ายไม่ยาก เพียงเวลา 2-3 เดือนก็สามารถเก็บใบฟ้าทะลายโจรมากต้มรับประทานได้ ใช้ดอกและใบ โดยสัดส่วนของฟ้าทะลายโจร ใช้เพียงมื้อละ 10 ใบ รับประทานแบบทานยา 4 มื้อ ในการดื่มควรนำใบมาเคี้ยวด้วย เพื่อให้รับสารสำคัญอย่างครบถ้วน ไม่จำเป็นต้องรอการใช้ยาในรูปแบบของแคปซูลเท่านั้น เพื่อให้ได้ สารแอนโดรกราโฟไลด์เพียงอย่างเดียว รสชาดที่คมของใบฟ้าทะลายโจร มีส่วนช่วยทั้งลดไข้ แก้ไอ แต่ไม่แนะนำให้รับประทานร่วมกับการทางกระชาย หรือ น้ำขิง เพราะสมุนไพร 2 ชนิดนี้มีฤทธิ์ร้อน หากทางร่วมกันทั้งหมด อาจทำให้การรักษาไม่ได้ประสิทธิผลที่เท่าที่ควร ส่วนการเก็บใบฟ้าทะลายโจร นั้นควรเก็บใบน้ำมาตากให้แห้ง แต่ต้องไม่ตากแดดโดยตรง ให้อยู่ในที่ร่ม ตากจนใบแห้งไม่มีไอระเหยของน้ำ ใช้ เวลา 3 วัน ทดสอบได้จากการบรรจุในถุงซิปล็อกยา หากไม่มีไอน้ำขึ้นมาแสดงว่าตากอย่างถูกต้องจากนั้นสามารถนำไปต้มดื่มได้ทันที การติดฟ้าทะลายโจร ควรรับประทาน แค่ 5 วัน จากนั้นหยุดพัก 1 วัน ในวันที่ 6 หากอาการไม่ดีขึ้นให้รับประทานต่อ ในวันที่ 7 พร้อมกันนี้ ยังสนับสนุนให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำฟ้าทะลายโจรไปให้ชุมชนปลูกเพื่อเป็นยาสมุนไพรคู่ครัวเรือน ใช้รับประทานเมื่อมีอาการไม่สบายเท่านั้น