• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Shopd2

#3581


การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ความคาดหวังของการฟื้นตัวเศรษฐกิจต้องชะลอตัวออกไป แล้วอะไรเป็นตัวบ่งชี้ว่าการชะลอตัว ก่อนการกลับมาของการเกิดระบาดของโควิด-19 นักเศรษฐศาสตร์กล่าวถึง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบ K-shaped Economy ต่อมาก็กล่าวถึง Post-Pandemic Economic Boom หรือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบเฟี่องฟู ซึ่งหากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ จะทำให้เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นอีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจของนักลงทุนทั้งในชาติและต่างชาติ 

อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน จากการสถานการณ์ต่างๆ ทั้งด้านการเริ่มของการแพร่ระบาดของระลอกใหม่ของไวรัสที่กลายพันธุ์ทั่วโลก และร่วมถึงด้านการบริหารจัดการรับมือการแพร่ระบาดของรัฐบาล ซึ่งสามารถทำให้เราตั้งคำถามได้ว่า เศรษฐกิจของประเทศเรานั้น จะเป็นอย่างไรหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย จะเป็นกรณีของ Economic DOOM before Economic BOOM หรือ เศรษฐกิจของประเทศอาจจะทรุดร่วงก่อนที่เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง หากภาครัฐไม่มีแผนรองรับวิกฤติต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ เช่น วิกฤติปัญหาการว่างงาน ปัญหาการว่างงานสะท้อนให้เห็นทั้งปัญหาของโครงสร้างแรงงานและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม 

ก่อนที่จะกล่าวถึงปัญหาวิกฤติที่มีแน้วโนมที่จะขึ้นในหลายด้านหลังสถานการณ์คลี่คลาย ประเด็นที่สำคัญคือภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของรัฐบาลที่ไม่ใช่เพียงการรับมือสถานการณ์โควิด-19 แต่เรื่องวิกฤติการสื่อสารชี้แจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆจากภาครัฐ ซึ่งสิ่งเหล่าจะทำให้สถานการณ์ยิ่งดูลบกว่าสิ่งที่เป็น ดูเหมือนว่าสนามนี้ภาครัฐเข้าขั้นวิกฤติจึงทำให้เกิดผลกระทบต่อไปอีกหลายด้าน 

สนามต่อมาคือนโยบายแนวทางการรับสถานการณ์โควิด-19 หากพิจารณานโยบายเบื้องต้นนโยบายหรือมาตรการต่างๆก็คล้ายกับมาตรการของประเทศอื่นๆแต่วิกฤติที่มีแนวโม้มที่จะเกิดขึ้นคือนโยบายที่จะรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจคือ วิกฤติปัญหาการว่างงาน ปัญหาการว่างงานนั้นจะส่งผลกระทบต่อการรับมือการแก้ปัญหาหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การเกิดการว่างงานนั้นมาจากหลายอุตสหกรรม อุตสหกรรมแรกคืออุตสหกรรมการท่องเที่ยว ประเด็นคืออุตสหกรรมกรรมท่องเที่ยวจะใช้ระยะเวลานานเท่าไรกว่าจะกลับมาอยู่ในระดับเดิมที่สามารถรองรับแรงงานได้ เพราะการไม่สามารถกลับรองรับแรงงานเดิมกลับสู่อุตสหกรรมได้ก็จะส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายในประเทศ และยังส่งผลกระทบต่อภาคอุตสหกรรมอื่นและภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ และยังรวมถึงการว่างงานจาก

อุตสหกรรมอื่น ถ้าหากสถานการณ์ดีขึ้นหลายภาคอุตสหกรรมก็สามารถกลับมารองรับแรงงานได้ แต่อีกประเด็นที่ต้องทอดบทเรียนการเรียนรู้การคือโครงสร้างแรงงานของประเทศ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างแรงงานของประเทศที่ยังไม่สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนโครงสารทางเศรษฐกิจและความสามารถในการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งในภาคผลิตเดียวกัน(Intra-sectoral mobility) และ ระหว่างภาคผลิตเดียวกัน (Inter-sectoral mobility) ปัญหาความสามารถการเคลื่อนย้ายแรงงานถือได้ว่ามีความสำคัญต่อการขับเคลือนเศรษฐกิจโดยเฉพาะการเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ แต่ที่สำคัญมากกว่าคือแรงงานที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเพื่อสอดคล้องกับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เช่น นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี

นอกเหนือจากการสื่อสารให้ชัดเจนต่อนโยบายต่างๆมาตรการต่างๆเพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจที่ภาครัฐต้องเร่งดำเนินการ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือนโยบายที่ชัดเจนและเร่งด่วที่จะรองรับการว่างงานที่เกิดขึ้นจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-19 และการสร้างศักยภาพการเคลื่อนย้ายแรงงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการประเทศให้กลับคืนมา ภาครัฐจะมีนโยบายร่วมมืออย่างไรกับภาคเอกชนเพื่อสร้างโอกาสแก่แรงงานทั้งในและนอกระบบเพื่อสอดคล้องและรองรับต่อการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการประเทศให้กลับคืนมา
#3582


ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 4 ของโลกจากสเปน ถอนตัวจากรายการอุ่นเครื่อง ยูเอส โอเพน สองทัวร์นาเมนต์ติด ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเจ้าตัวอาจฟิตไม่ทันสำหรับลุย แกรนด์ สแลม รายการสุดท้ายของปีที่สหรัฐอเมริกา

หวดวัย 35 ปี มีโปรแกรมลงแข่งขันรายการ โรเจอร์ส คัพ ที่แคนาดา กับ ซินซินเนติ มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นรายการระดับมาสเตอร์สทั้งคู่ แต่เจ้าตัวก็ยกเลิกโปรแกรมหวดทั้งหมด ด้วยปัญหาอาการเจ็บขาซ้ายที่เกิดเมื่อเดือนมิถุนายน

โรเจอร์ส คัพ กับ ซินซินเนติ มาสเตอร์ส เป็นสองรายการที่นักหวดทั่วโลกลงสนามลับฝีมือ เพื่อเตรียมพร้อมในการลุย แกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพน ที่จะมีขึ้นวันที่ 30 สิงหาคมนี้ แต่ "เอล มาทาดอร์" ตัดสินใจไม่แข่งเคาะสนิมทั้งสองรายการ

สำหรับ นาดาล การถอนตัวนี้ทำให้แฟนๆ กังวลว่าเจ้าตัวอาจจะฟิตไม่ทันเพื่อลงแข่ง แกรนด์ สแลม ส่งท้ายปีที่นิวยอร์ค เพื่อโอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 5 และแซงสถิติแชมป์ แกรนด์ สแลม จาก โนวัค ยอโควิช กับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่ทำไว้ 20 สมัยเท่ากัน
#3583


นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า สาเหตุที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้จนหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์นั้น มีสาเหตุมาจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาด อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 5.4% ถือว่าเป็นการปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อีกทั้งตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงก็ออกมาดีเกินคาดเช่นกัน ตัวเลขการจ้างงานที่ดีนี้จึงอาจเป็นตัวเร่งให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เริ่มลดนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ได้ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ทำให้ดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขณะที่ทองคำปรับลดลงตั้งแต่คืนวันศุกร์ต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้

นอกจากนี้การปรับลดลงของทองคำในรอบนี้ยังเป็นการปรับลดลงทางเทคนิค เพราะทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปถึง 1,758 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันศุกร์ ก่อนเช้าวันจันทร์จะปรับลดลงไปหลุดอีกหนึ่งแนวรับสำคัญคือ 1,751 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเมื่อเดือน มิ.ย. ส่งผลให้นักลงทุนจากตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สตลาด COMEX เทขายทองคำออกมาเพื่อปิดสถานะซื้อ ทำให้ภาพรวมทองคำระยะสั้นเป็นขาลง

อย่างไรก็ดีในส่วนของคำแนะนำนักลงทุนนั้นสำหรับคนที่ต้องการขายเพื่อลดความเสี่ยง มองว่าสามารถขายได้ที่แนวต้าน 1,751-1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 27,700 บาท ซึ่งจุดนี้ถือเป็นแนวต้านระยะสั้นที่สำคัญ เพราะหากทองคำไม่ผ่านแนวต้านนี้อาจจะมีการพักตัวสั้นๆ แต่หากสามารถผ่านได้จะทำให้ทองคำดีดตัวขึ้นต่อโดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,760-1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์

หากจะให้ทองคำมีสัญญาณกลับไปเป็นบวกอีกครั้งจะต้องสามารถยืนเหนือ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,300 บาทให้ได้ ส่วนผู้ที่รอซื้อนั้นแนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัวที่แนวรับ 1,717-1,708 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 27,000 บาท หากไม่หลุดแนวรับนี้อาจจะมีโอกาสรีบาวด์ แต่ถ้าหลุดไม่ต้องรีบร้อนในการเข้าซื้อ

โดยรอบริเวณแนวรับถัดไปและเป็นแนวรับสำคัญสำคัญบริเวณ 1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 26,500 บาท ซึ่งจุดนี้ถือเป็นแนวรับสำคัญเพราะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ที่เคยปรับลดลงไปเมื่อเดือน มี.ค. หากทองคำหลุดแนวรับนี้ภาพรวมจะกลายเป็นขาลงอย่างชัดเจน
#3584


วันที่ 11 ส.ค. 2564 รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "วิกฤตโควิด เรียนออนไลน์ หรือ หยุดเรียน 1 ปี ?"

โดย รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวว่า ระบบการศึกษาของไทยเป็นระบบ.สูง สอบได้สอบตก แล้วเด็กแต่ละคนมีความถนัดต่างกัน แต่ถูกจับเข้าระบบคล้ายกับอุตสาหกรรมการศึกษา ทำให้เด็กมีความตึงเครียดสูง ปกติเวลาไปโรงเรียน เด็กก็จะคลายเครียดด้วยการเล่นในเวลาพักเบรก แต่ตอนนี้ต้องอยู่หน้าจอตลอดเวลา

แล้วตอนนี้น่าเห็นใจพ่อแม่มาก ภาระทุกอย่างอยู่ที่บ้าน ตนพูดตั้งแต่ปีที่แล้ว สถานการณ์โควิดควรพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ใช่เอาวิชาทั้งหมดมาทำเป็นเรียนออนไลน์ เด็กวันนึงอยู่หน้าจอหลายชั่วโมง ไม่สามารถออกนอกบ้านได้ ไม่สามารถเจอเพื่อนฝูงได้ แถมเรื่องไหนที่ไม่เข้าใจ พ่อแม่ก็ต้องช่วยลูก มันจึงไม่ใช่ตึงเครียดแค่เด็ก แต่เครียดทั้งบ้าน

รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวอีกว่า สิ่งที่กระทรวงศึกษาฯ ควรทำ คือต้องปลดล็อก ถ้ายังมีทัศนคติให้เอาเนื้อหาวิชาที่เรียนอยู่ตอนไม่มีโควิด เอาทั้งหมดมาแปรรูปไว้ในออนไลน์ ให้เด็กเรียนแต่เช้าจนบ่ายสาม แล้วให้การบ้าน ถ้ายังทำลักษณะนี้ อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่มานั่งเรียนแบบนี้ก็เครียด

ยิ่งเด็กเล็กปฐมวัย ผิดหลักพัฒนาการอีก เพราะเด็กเล็กสมาธิสั้น เรียนคุณครูทุกท่าน เด็กเล็กสมาธิสั้นทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะเด็กไทย การเรียนของเด็กอนุบาล ควรเรียนรู้ผ่านการเล่น การนั่งหน้าจอผิดหลักการแน่นอน

ตนเสนอให้สำรวจพ่อแม่ ซึ่งควรทำตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่ามีกี่ครอบครัวที่พร้อมเป็นโฮมสคูลได้ กี่ครอบครัวไม่มีอินเตอร์เน็ต กี่ครอบครัวที่พ่อแม่ไม่มีเวลา จากนั้นจัดให้มีอาสามัครการศึกษาขึ้นมา ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แล้วโรงเรียนคอยให้คำแนะนำพ่อแม่ว่าต้องเรียนอะไรบ้าง โดยให้แต่ละครอบครัวไปใช้เวลาว่างของตัวเอง ไม่ใช่ต้องเข้าเรียนเลิกเรียนตามเวลา

สอง ยกเลิกระบบแพ้คัดออก ยกเลิกการตัดเกรดออกทั้งหมด โดยเฉพาะในเด็กอนุบาลและประถมทั้งหมด โดยเด็กอนุบาลให้ดูที่พัฒนาการของเขาเอา

ระดับ ป.1-6 กระทรวงต้องใจกล้าประกาศเป็นหลักสูตรสมรรถนะ ยกเลิกรายวิชาที่มันมีกี่สาระการเรียนรู้เต็มไปหมด และหลักสูตรตามชั่วโมง ยกเลิกให้หมด และยกเลิกการตัดเกรดไปด้วย โดยให้ครูมาเป็นช่วง ๆ แล้วมีจังหวะให้พักได้ เช่นชั่วโมงเช้าเรียนรู้อะไร ช่วงบ่ายให้เวลาเด็กไปเรียนรู้ ทดลอง โดยใช้ข้าวของในบ้านเลยก็ได้

ระดับมัธยม วิชาไหนไม่มีความจำเป็น ยกเลิกได้ก็ดี ในวัยนี้เขาสามารถเรียนออนไลน์ได้ แต่มันไม่ใช่การเรียนเต็มเหนี่ยว ควรปล่อยครึ่งวันให้โล่ง ให้เขาไปทบทวนบทเรียน

อีกอันที่ตนเสนอไปที่รัฐมนตรีแล้วด้วย คือควรแปรรูปกิจกรรมโฮมรูมเป็น 3 คำถาม คือ ถามลูกว่าเรียนมาทั้งวันรู้สึกอย่างไรบ้าง ได้เรียนอะไร แล้วสิ่งที่เรียนมาจะเอาไปปรับใช้ทำอะไรได้บ้าง

รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวต่ออีกว่า โรงเรียนต้องเป็นศูนย์กลางโฮมสคูล คอยสนับสนุนพ่อแม่ คนที่พร้อมก็ช่วยอัปสกิลให้ ส่วนคนที่ไม่พร้อมก็มีอาสามัครลงพื้นที่

รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวอีกว่า เรื่องข้อเสนอหยุดเรียน 1 ปี ถ้ากระทรวงทำเท่ากับยกธงขาวยอมแพ้ ทำไมถึงไม่ทำตามที่ตนเสนอ ทำไมโรงเรียนจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้แห่งโลกออนไลน์ไม่ได้ โดยที่ไม่ต้องเข้าแถวเวลาพร้อมกัน ให้เป็นเรื่องของแต่ละบ้านแต่ละท้องถิ่น

การเรียนรู้หยุดไม่ได้ แต่อย่าทำผิดหลักธรรมชาติ หลักจิตวิทยาพัฒนาการ และต้องต้องไม่ผิดหลักสังคม พ่อแม่มีภาระมากมาย อะไรที่ติดขัดเพราะกฎหมายก็ล้างมันซะ นี่มันเป็นสงครามโรค เลิกยึดติดกรอบเดิม ๆ
#3585


สหราชอาณาจักรไม่พบเคสใหม่ของภาวะลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงหลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามหลังประเทศแห่งนี้ตัดสินใจงดฉีดให้กับคนอายุต่ำกว่า 40 ปี จากการเปิดเผยของบรรดานักวิทยาศาสตร์แห่งราชอาณาจักรในวันพุธ(11ส.ค.)

ภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ ถูกระบุว่าเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นน้อยมากๆของวัคซีนโควิด-19 ชนิดไวรัสเวคเตอร์ ที่ผลิตโดยแอสตร้าเซนเนก้าและจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แต่ด้วยที่พบผลข้างเคียงลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นในหมู่คนหนุ่มสาว ส่งผลให้หลายประเทศออกข้อกำหนดจำกัดอายุผู้ฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า

ผลการศึกษาพบว่าราว 85% ของคนที่เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าในสหราชอาณาจักร เป็นบุคคลที่อายุต่ำกว่า 60 ปี แม้ส่วนใหญ่แล้ววัคซีนยี่ห้อนี้จะฉีดให้คนชราก็ตาม

ในผลการศึกษาพบว่าในบุคคลที่อายุต่ำกว่า 50 ปี อัตราอุบัติการณ์ของภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ 1 ต่อ 50,000 คน เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ และพวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่าผลการศึกษาล่าสุดเป็นการเสริมความเข้าใจก่อนหน้านี้ว่าผลประโยชน์ของวัคซีนนั้นมีมากกว่าความเสี่ยง

ซู ปาวอร์ด นักโลหิตวิทยาที่ปรึกษาของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ผู้นำการวิจัย ระบุว่าเหตุการณ์นี้มักส่งผลกระทบกับคนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง และมีความอันตรายอย่างยิ่งหากว่ามันก่อเลือดออกในสมอง

อย่างไรก็ตามเธอเน้นว่าเคสผลข้างเคียงอาการดังกล่าวที่พุ่งสูงในระยะแรก เวลานี้ได้ลดน้อยลงไปแล้ว ผลจากการตัดสินใจของสหราชอาณาจักรที่มอบวัคซีนทางเลือกให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีแทน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม

"เราไม่เห็นเคสใหม่ของภาวะลิ่มเลือดอุดตันในช่วง 4 สัปดาห์หลังสุด และมันคือความโล่งใจอย่างมหาศาล" เธอบอกกับผู้สื่อข่าว

โดยรวมแล้วอาการนี้มีอัตราการเสียชีวิตราว 23% แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น 73% หากเกิดในสมอง หรือที่เรียกว่า ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำสมอง (cerebral venous sinus thrombosis - CVST) แต่วิธีการรักษาต่างๆนานา อย่างเช่นถ่ายพลาสมาเลือด ช่วยเพิ่มอัตรารอดชีวิตสำหรับเคสรุนแรงต่างๆเป็น 90%

พวกนักวิจัยแสดงความหวังว่าผลการศึกษาจะเป็นเครื่องดลใจสำหรับยุทธศาสตร์การฉีดวัคซีน และเน้นย้ำความสำคัญของการเข้าฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ผลการวิจัยดังกล่าวเผยแพร่อยู่ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์

(ที่มา:รอยเตอร์)
#3586


MTC สัญญาณดี ประกาศปรับเพิ่มเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้โต 30-35% จากเดิม 20-25% ผลจากความต้องการสินเชื่อคึกคัก จำนวนเปิดสาขาทำได้ตามเป้า รวมทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ฐานลูกค้าใหม่เติบโตได้เป็นอย่างดี ขณะที่เปิดผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 64 กำไรแตะ 2,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.59% จากงวดเดียวกันปีก่อน ฟากบิ๊กบอส "ชูชาติ เพ็ชรอำไพ " ระบุครึ่งปีหลังแนวโน้มดีต่อเนื่อง เข้าสู่ช่วงฤดูกาลเพาะปลูกมีความต้องการสินเชื่อมากกว่าระดับปกติ เดินหน้าขยายสาขาตามเป้าหมายสิ้นปีครบ 5,500 สาขา พร้อมคุม NPLไม่เกิน 2% ดันผลงานปีนี้เติบโตเข้าเป้า มั่นใจฝ่าวิกฤตโควิด-19ได้อย่างแน่นอน

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้รวม 7,753 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.12% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 7,105 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.59% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,504 ล้านบาท

ขณะที่ไตรมาส 2/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 3,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 9.07% มีรายได้รวมเท่ากับ 3,572 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 0.24% มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,267 ล้านบาท จากปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดสินเชื่อเติบโตมากขึ้น ในช่วงครึ่งปีแรกมียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 79,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,656 ล้านบาท หรือ 26.37% จากงวดเดียวกันปีก่อน

ขณะเดียวกัน บริษัทมีการเปิดสาขาใหม่ช่วยขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยครึ่งปีแรกมีสาขาใหม่เพิ่มขึ้น จำนวน 400 สาขา ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีสาขารวม 5,284 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ

"ภาพรวมครึ่งปีแรกความต้องการสินเชื่อเติบโตได้ดี ทำให้บริษัทฯ ปรับเป้าหมายการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อปีนี้เป็น 30-35% จากเดิมที่อยู่ที่ 20-25% เนื่องจากปัจจุบันความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่สู้ดี ทำให้ลูกค้ามีความจำเป็นต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน จำนวนสาขาเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้วางงบลงทุนสำหรับการขยายสาขาไว้ที่ 300 ล้านบาท รองรับแผนเปิดเพิ่มอีก 600 สาขา ซึ่งคาดว่าจะครบ 5,500 สาขาภายในสิ้นปีนี้"

ประธานกรรมการบริหาร กล่าวอีกว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากความต้องการสินเชื่อของลูกค้ายังคงอยู่ในระดับสูง หลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลหน้าฝนจึงทำให้ลูกค้าในกลุ่มเกษตรกรมีความต้องการเงินทุนไปใช้ในการเพาะปลูกมีจำนวนมากกว่าช่วงปกติ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่กดดันให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น เพราะภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและได้รับผลกระทบกันเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตาม จากดีมานด์ที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้บริษัทฯ ต้องคัดกรองคุณภาพสินเชื่อของลูกค้าด้วยความระมัดระวัง โดยตั้งเป้าหมายการคุมระดับเอ็นพีแอลไม่เกิน 2% และบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถผ่านสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในรอบนี้ไปได้ ด้วยกลยุทธ์การบริหารงาน โดยเน้นการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
#3587


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานวันนี้ (10 ส.ค.) มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจหลายวาระ โดยเฉพาะ เงินเยียวยาประกันสังคม กลุ่ม ม.39 และ 40

โดยคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานจะเสนอกรอบและรายละเอียดการเยียวยากลุ่มแรงงานมาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 29 จังหวัด ที่อยู่ในกลุ่มจังหวัดสีแดงเข้มที่ประกาศให้ล็อกดาวน์ รวมทั้งกลุ่มอาชีพอิสระให้ได้รับเงินเยียวยาความเดือดร้อน (คนละ 5,000 บาท) 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับ กรุงเทพธุรกิจ ว่ากระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ให้รายละเอียดแรงงาน และนายจ้างที่อยู่ในกลุ่มประกันสังคมมาตรา 39 และ 40 ใน 29 จังหวัดทั้งที่เป็นผู้ประกันตนเดิม และที่ลงทะเบียนใหม่ตามมติ ครม.ให้กับ สศช.เรียบร้อยแล้วเพื่อให้ได้กรอบและจำนวนที่แน่นอนเสนอให้ ครม.อนุมัติหลังจากก่อนหน้านี้อนุมัติในหลักการแล้ว 

ทั้งนี้แรงงานในกลุ่มนี้ทั้ง 29 จังหวัดที่เข้าเงื่อนไข รวมทั้งอาชีพอิสระจะได้เงินเยียวยาเป็นจำนวน 5,000 บาท โดยในส่วนของ 13 จังหวัดแรกที่มีการประกาศล็อกดาวน์มีผู้ประกันตนในมาตรา 39 ประมาณ 1 ล้านราย ส่วนในมาตรา 40 เดิมมีผู้ประกันตนประมาณ 1 ล้านราย และมีการลงทะเบียนเพิ่มเติมมา 3.1 ล้านราย รวมเป็น 4.1 ล้านราย 


ส่วนใน 16 จังหวัดที่มีการประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติมยังไม่ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนเพิ่มเติม แต่จากฐานข้อมูลประกันสังคมที่มีอยู่มีผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ 40 รวมกันประมาณ 1 ล้านราย แบ่งเป็นมาตรา 39 ประมาณ 4 - 5 แสนราย และมาตรา 40 ประมาณ 4 -5 แสนรายเช่นกันโดยอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท

สำหรับวาระ ครม.ที่น่าสนใจในวันนี้ได้แก่ วาระเพื่อพิจารณา กระทรวงการต่างประเทศเสนอการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์

กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอข้อตกลงยอมรับร่วมรายสาขาสำหรับวัสดุอาคารและสิ่งก่อสร้างอาเซียนกระทรวงคมนาคมเสนอขออนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงทพ (ขสมก.)

กระทรวงมหาดไทยขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ ปี 2564

ส่วนวาระเพื่อทราบ กระทรวงพัฒนาสังคมเสนอขออนุมัติคุณสมบัติของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ....

กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ละวิธีการในการยื่นอุธรณ์และวิธีพิจารณาในการวินิจฉัยอุธรณ์เกี่ยวกับผังเมืองรวม และผังเมืองเฉพาะพ.ศ...

กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำต้องเป็นไปตามมาตราฐาน พ.ศ...

คณะกรรมการทุนหมุนเวียนรายงานสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2562

คกก.ติดตามนโยบายสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3/2564 และผลการประชุมรัฐมนตรีอาเชียนด้านพลังานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้า
#3588


นายสลิล จารุจินดา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกำกับดูแล บริษัท ไทยคม จํากัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.64 บริษัทได้รับหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งว่า กสทช . ได้มีมติอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม จำนวน 10 ข่ายงานดาวเทียม ซึ่งรวมถึงวงโคจรที่ดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 ใช้อยู่จนถึงวันที่ 10 ก.ย.64 (วันสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน)

โดยบริษัทใคร่ขอเรียนว่า ตามข้อเท็จจริงแล้ว ดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 ไม่ใช่ดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารฯ (สัญญาสัมปทาน) เพราะ เป็นการดำเนินการภายใต้ระบบใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ดังนั้น สิทธิการใช้วงโคจรดังกล่าวจึงมิได้เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาสัมปทาน

บริษัทจึงได้มีหนังสือขอให้ กสทช. พิจารณาทบทวนมติดังกล่าวเพื่อให้สิทธิในการใช้วงโคจรเป็นไปตามอายุใบอนุญาตการให้บริการโทรคมนาคมที่อนุญาตโดย กสทช. หรือตามอายุของดาวเทียม แต่ กสทช. ก็มีหนังสือถึงบริษัทฯ แจ้งว่า กสทช. พิจารณาแล้วยืนยันตามมติเดิม หากบริษัทฯ ไม่เห็นด้วยสามารถใช้สิทธิโต้แย้งโดยฟ้องที่ศาลปกครองได้


ดังนั้น บริษัทจึงได้ดำเนินการยื่นคำฟ้องขอเพิกถอนมติดังกล่าวต่อศาลปกครองกลาง และยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของ กสทช.และกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว และเมื่อวันที่ 9 ส.ค.64 ศาลปกครองกลางไต่สวนคำร้องแล้ว โดยเรียก บริษัทฯ และ กสทช. เข้ามาไต่สวนและ ได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับของมติของ กสทช. ดังกล่าว โดยให้ บริษัทฯ มีสิทธิในการใช้วงโคจรและข่ายงานดาวเทียมที่เกี่ยวข้องต่อไป จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น


ดังนั้น บริษัทจึงยังคงมีสิทธิใช้วงโคจรดาวเทียมและให้บริการดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 และข่ายงานดาวเทียมที่เกี่ยวข้อง ได้ตามปกติต่อไป จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
#3589


นายพีรภูมิ ปราบอริพ่าย ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สิริน สเปซ จำกัด ผู้ให้บริการให้คำปรึกษา ด้าน People Transformation และบริการฝึกอบรมเทรนนิ่งให้กับองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน กล่าวว่า ได้จับมือกับ Happily.ai ผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับเอชอาร์ นำระบบ เอไอ มาช่วยสร้างประสบการณ์การทํางานของพนักงาน ให้มีประสิทธิภาพและพิเศษกว่าที่ผ่านมา 

อีกทั้งยังช่วยให้องค์กรเข้าใจและเข้าถึงพนักงานได้ดียิ่งขึ้นผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบ People analytics ซึ่งเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาบุคลากรในระยะยาวในยุคเน็กซ์ นอร์มอล


ขณะที่ ปัจจุบันงานด้านทรัพยากรบุคคล หรือเอชอาร์ นับเป็นงานส่วนแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้บริหารด้านเอชอาร์หลายองค์กร เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่องค์กรแบบดิจิทัล เอชอาร์ ซึ่งการนำดิจิทัล แพลตฟอร์ม มาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับการทำงานของเอชอาร์จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อธุรกิจ และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อพนักงานได้อย่างมากและนำองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ

"ในฐานะที่ปรึกษาองค์กรชั้นนำระดับโลก และโครงการต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากว่า 20 ปี มั่นใจว่า ดิจิทัลแพลตฟอร์มนี้ จะช่วยตอบ Pain Point ของหลายองค์กร ในการยกระดับความสัมพันธ์ของพนักงานและองค์กรได้ดีและมีประสิทธิภาพ เพราะความสุขของพนักงาน เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรในยุคนี้ ซึ่งการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ของ Happily.ai จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยกระตุ้นให้พนักงานเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ การพัฒนาและการมีส่วนร่วมในการทํางาน โดยยังคงสามารถทำงานสอดประสานร่วมกันได้อย่างมีความสุขภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป"

นอกจากนี้ บริษัท สิริน สเปซ ยังมีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อตอบรับกับการเติบโตของบริษัทในปลายปีนี้ กับดิจิทัลแพลตฟอร์มที่บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อที่จะช่วยเป็น "ลมใต้ปีก" ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศ
#3590


จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักและต่อเนื่องในปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านอาหารธุรกิจอื่นๆ ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่นเดียวกับร้าน "โคเอ็น ซูซิ บาร์" ที่ไม่รอดจากวิกฤตในครั้งนี้ ทำให้ทางร้านต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจเพื่อให้อยู่รอดและรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว
จุดเริ่มต้น "โคเอ็น ซูซิ บาร์"


นายธีรพัฒน์ เลิศสิริประภา ซีอีโอ โคเอ็น กรุ๊ป และเจ้าของร้าน โคเอ็น ซูซิ บาร์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นธุรกิจนั้นเริ่มต้นจากร้าน ซูซิ บาร์ ขนาดเล็ก โดยมีสาขาแรกที่โครงการ I'm Park จุฬาฯ ในปัจจุบันมีทั้งหมด 12 สาขา และ 5 Cloud Kitchen ซึ่งปีนี้ได้ดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 โดยตนมีแนวคิดที่อยากจะรวบรวมของดี ราคาไม่แพง พร้อมคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมจากหลากหลายสถานที่ในการปรุง ซึ่งจะเน้นคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงและจับต้องได้ ทั้งนี้ยังมีบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยม ในราคาที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้อย่างสบายใจ (Affordable Luxury Sushi Bar) โดยทางร้านจะมีเมนูคอนเซ็ปทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.Sushi 2.Shabu + Sushi และ 3.Yakiniku + Sushi



เมนูไฮไลท์

สำหรับเมนูไฮไลท์ของทางร้านนั้นจะเป็น Salmon Sashimi นอร์วีเจียนแซลมอน จากประเทศนอร์เวย์ (Norwegian Salmon) ซึ่งแซลมอนดังกล่าวนั้นจะมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างแน่น มีสีส้มนวล ก้างน้อย ไขมันพอเหมาะ และคนในประเทศไทยนิยมบริโภคจำนวนมาก



นอกจากนี้ยังมี Zuwai Kani Miso ซุไว คานิ มิโซะ มันปูย่างบนเตาถ่าน ซึ่งทางร้านได้มีการส่งเชฟไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้ได้เรียนรู้และรับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาเพื่อปรับปรุงสูตรของทางร้าน สำหรับวิธีการกินซุ ไว คานิ มิโซะ มันปูย่างบนเตาถ่าน นั้นทางร้านแนะนำให้ย่างจนเริ่มมีกลิ่นหอม แต่อย่าให้เกรียมมากจนเกินไป 



ไปต่อกับ Salmon Volcano Roll แซลมอนภูเขาไฟสุดยอดเมนู Signature ประจำร้าน Kouen Sushi Bar ที่มีมายาวนานกว่า 4 ปี และมียอดขายมากกว่า 1 ล้านคำ สำหรับเมนูดังกล่าวมีวิธีทำโดยการนำชิ้นปลาแซลมอนมาห่อเข้ากับข้าวญี่ปุ่นแล้วราดซอสสไปซี่สูตรเฉพาะของทางร้าน ก่อนจะนำมาเบิร์นไฟจนสุกพอประมาณ เพิ่มความอร่อยด้วยซอสเทริและกากเทมปุระ Botan Foie Gras Truffle กุ้งโบตันหวาน ที่ด้านบนเป็นฟัวกราส์และด้านในเป็นไส้เห็ดทรัฟเฟิลแท้



ความเปลี่ยนแปลงในช่วงโควิด-19 เริ่มต้นขึ้น

ในช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 นั้น ทางร้านมีพนักงานกว่า 500 คน จนกระทั่งในช่วงที่เกิดวิกฤตดังกล่าวทำให้ทางร้านจำเป็นต้องลดพนักงานลงเหลือเพียง 200 คน โดยทางร้านได้รับผลกระทบแบบจริงจังและเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2563 ซึ่งจากข่าวที่ห้ามคนกินปลาดิบ เนื่องจากกินแล้วนั้นจะทำให้ติดเชื้อโควิด -19 ได้ ทำให้ทางร้านได้รับผลกระทบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้ทางร้านจึงคิดค้นหาวิธีและทางออกต่อเนื่อง หลังจากปัญหาการเลิกกินปลาดิบนั้นก็ยังมีปัญหาเรื่องการกินอาหารภายในร้านค้าตามมามีมาตรการให้กินในร้านได้เริ่มต้นตั้งแต่ 100% เป็น 50% และ 25% ล่าสุดเปลี่ยนเป็นสั่งกลับบ้าน หรือ Delivery ได้เพียงอย่างเดียว ทางร้านจึงจำเป็นต้องปิด Cloud Kitchen ตั้งแต่วิกฤตในรอบแรก



ศึกษาหากลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้ไปต่อให้ได้ ทางร้านวางหมากหาจุดส่งอาหาร โดย Cloud Kitchen มากขึ้น ซึ่งวิธีดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนในการทำถือว่าน้อยกว่าเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าค่อนข้างมาก โดยตัดในเรื่องการตกแต่งหน้าร้านและการจัดการร้านต่างๆ ทางร้านจึงเน้นกลยุทธ์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และปิดสาขาในห้างฯ หรือใช้พื้นที่ร้านในห้างฯ ให้เล็กลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม ลูกค้ายังคงโหยหาบรรยากาศการกินอาหารนอกบ้าน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2565 ที่จะสามารถนั่งกินอาหารภายในร้านได้ตามปกติหรืออาจจะเลวร้ายไปจนถึงปี 2566 ก็เป็นได้



กระทบต่อเนื่องตลอด 2 ปี ขาดทุนกว่า 8 หลัก

แน่นอนว่าผลกระทบที่ตามมาก็หนีไม่พ้นเรื่องยอดขายและรายได้ สำหรับทางร้านนั้นได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องตลอดเกือบ 2 ปี โดยเฉพาะมาตรการการสั่งเปิดปิด 4 รอบนั้นทำให้ 3 เดือนที่ผ่านมาทางร้านขาดทุนไปกว่า 8 หลัก โดยเฉพาะรอบล่าสุด ทางร้านเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำการโปรโมชั่นในช่วงต้นเดือน แต่มีคำสั่งตอนดึก ณ ตอนนั้นในช่วงเวลา ตี 1 เมื่อทางร้านรับทราบในตอนเช้าจึงต้องหาวิธีกระจายอาหารที่เตรียมไว้ให้ได้มากที่สุด ทางร้านจึงจัดโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 1 แถม 1 ซึ่งถามว่าจัดโปรโมชั่นแบบนี้ขาดทุนหรือไม่ คำตอบคือ ขาดทุนแน่นอน แต่อย่างน้อยทางร้านก็ถือว่าเป็นการตอบแทนลูกค้ารวมถึงระบายสต็อคไปในตัว



หนทางต่อสู้เพื่อให้อยู่รอด

ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ทางร้านมีการขยายไลน์ธุรกิจและการแบ่งปันอาหาร โดยมีทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่

1.การเปิดแบรนด์ลูก เพื่อลดราคาอาหารให้สามารถจับต้องได้ โดยเปิดเป็นร้าน Ono Sushi by Kouen Group Delivery มีอาหารน้องใหม่กว่า 100 เมนู มีราคาเริ่มต้นเมนูละ 10 บาท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดในช่วงนี้ที่ต้องการกินอาหารที่อร่อย มีคุณภาพและมีให้เลือกหลากหลายในราคาที่เอื้อมถึงและสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี เมื่องสั่งเดลิเวอรี่กับทาง Line Man และชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซีสามารถใช้คะแนนสะสม KTC FOREVER 399 คะแนนเพื่อแลกค่าจัดส่ง 50 บาท โดยมีลิงค์ดังนี้ https://www.facebook.com/kouensushibar/posts/2886227904965046

2. หา Cloud Kitchen สำหรับผู้ที่มีบ้านอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ต้องการเพิ่มรายได้จากธุรกิจอาหาร สามารถติดต่อทาง Kouen Group เพื่อเปลี่ยนบ้านให้เป็น Cloud Kitchen ได้ โดยสามารถเข้าถึงได้ที่ลิงค์ดังนี้ https://www.facebook.com/kouensushibar/photos/a.1508325216088662/2891905037730666

3. การแบ่งปันอาหารจาก Kouen Group กว่า 6,000 กล่อง ไปยังชุมชนต่างๆ เพื่อช่วยเหลือคนไทยให้ผ่านวิกฤตอันโหดร้ายนี้ไปพร้อมกัน



หลักการการฝ่าวิกฤต : ปัญหาไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเจอ

"เราต้องมีการเตรียมพร้อมที่จะต้องรับมือตลอดเวลา มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ปรับตามสถานการณ์ปัจจุบัน จับมือกับพันธมิตรอย่างบัตรเครดิต ทำรายการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย อย่างบัตรเครดิตเคทีซีที่เรามี Target กลุ่มเดียวกัน จัดโปรโมชั่นต่อเนื่องกันมานานเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยม Burn Point การใช้คะแนน KTC FOREVER แลกสิทธิพิเศษต่างๆ มากกว่าการใช้เงินสดและในการแลกคะแนนสะสมนั้นก็ไม่ได้เอาไปใช้ในการสะสมแลกไมล์เที่ยวบินเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เป็นการใช้ในหมวดของการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต และหมวดอาหารเป็นหลัก การทำโปรโมชั่นร่วมกันก็เป็นการกระตุ้นให้คนต้องการใช้มากขึ้นและคาดหวังกับภาครัฐให้รับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการด้วยครับ" 
#3591


นายวิศิษฐ์  ศรีสุวรรณ์  อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายการเข้าพบของ นายวิฑูรย์ เเนวพานิช ที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์บริการเดินรถแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าได้หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหารถแท็กซี่ของสหกรณ์                 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19  เบื้องต้นต้องการให้ช่วยประสานหาพื้นที่จอดรถแท็กซี่ที่ต้องหยุดวิ่งบริการเนื่องจากประชาชนงดเดินทางทำให้จำนวนผู้ใช้บริการแท็กซี่ลดลง  ซึ่งสหกรณ์ได้นำรถแท็กซี่บางส่วนไปจอดไว้ที่หน้ากระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงขอความร่วมมือสหกรณ์แท็กซี่นำรถออกจากบริเวณด้านหน้าของหน่วยงานดังกล่าว และประสานกับกรมธนารักษ์ และหน่วยงานต่าง  ๆ               จัดหาพื้นที่ว่างเพื่อรองรับรถแท็กซี่ไปจอดไว้ในช่วงสถานการณ์โควิด  ขณะนี้ ได้พื้นที่จอดภายในโรงงานยาสูบ จอดได้ 150 คัน บริษัท แคทเทเลคอม จังหวัดนนทบุรี จอดได้ 120 คัน


ที่ซอยเสรีไทย 66 พื้นที่ 10 ไร่และที่ในเขตหนองจอก                     สามารถจอดได้ประมาณที่ละ 1,000 คัน และพื้นที่ของหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กรมชลประทาน ปากเกร็ด 300 คัน  พื้นที่ของสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ เขตดุสิต ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 1 และ 2                            และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดปทุมธานี รวม 500 คัน และอยู่ระหว่างการขอความอนุเคราะห์ใช้พื้นที่กับการรถไฟแห่งประเทศไทยเพิ่มเติม เพื่อให้สหกรณ์แท็กซี่ใช้พื้นที่ในการจอดรถแท็กซี่ที่ไม่สามารถประกอบการได้  เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของสหกรณ์ในการเช่าพื้นที่จอดรถ

            "นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห่วงใยในความเดือดร้อนของพี่น้องสมาชิกสหกรณ์แท็กซี่  จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ทำโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพสหกรณ์นอกภาคการเกษตร                 โดยจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ให้กู้ยืมไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ช่วงสถานการณ์โควิด"


 รวมทั้งประสานกับกระทรวงแรงงาน เพื่อให้คนขับรถบริการที่อยู่ในระบบสหกรณ์ ทั้งรถแท็กซี่ สามล้อเล็ก รถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เข้าสู่มาตรา 40 ของกฎหมายแรงงาน ให้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 5,000 บาท                           อย่างไรก็ตาม กรมฯอยากขอความร่วมมือจากหน่วยงานและประชาชนทั่วไปที่มีความประสงค์จะจัดจ้างรถโดยสารขนของในช่วงนี้ ขอให้ใช้บริการผ่านทางสหกรณ์บริการเดินรถ เพื่อช่วยเหลือผู้ขับรถแท็กซี่ให้มีรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว และสามารถผ่านวิกฤติโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน"

ปัจจุบันสหกรณ์แท็กซี่มีจำนวน 59 แห่ง มีสมาชิก 50,974 คน มีจำนวนรถแท็กซี่ 19,555 คัน ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีหนังสือหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเยียวยาช่วยเหลือสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งผลกระทบด้านภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบการ ค่าใช้จ่าย              ในการตรวจสภาพรถ ค่าเชื้อเพลิง และค่าเบี้ยประกันภัยภาคสมัครใจ ผลกระทบด้านการชำระหนี้สถาบันการเงิน

 

  รวมทั้งขอเข้าร่วมโครงการเยียวยาจากภาครัฐตามมาตรการต่าง ๆ แล้ว ซึ่งขณะนี้คาดว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความช่วยเหลือของ             แต่ละหน่วยงาน  
#3592


รอยเตอร์ - กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 9,690 คนในวันอาทิตย์ (8) นับเป็นยอดติดเชื้อรายวันที่สูงเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่พบในวันเสาร์ (7) ที่ 7,334 คน

กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่พบในนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางการระบาด และ จ.บิ่งเซวือง กับ จ.ด่งนาย ที่อยู่ติดกัน

เวียดนามประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ประเทศเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วและติดง่ายขึ้น

ประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 210,405 คน ตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,397 คน ตามข้อมูลของกระทรวง

เวียดนาม ประเทศที่มีประชากร 98 ล้านคน จนถึงขณะนี้ ได้แจกจ่ายวัคซีนไปแล้วเกือบ 8.9 ล้านโดส แต่มีประชาชนไม่ถึง 900,000 คน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม.
#3593
บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่พุทธมณฑลสาย1  ขายคาซ่าแกรนด์สาย1 แปลงมุมหน้าสวนหน้าสโมสร 2 หลังติดกัน ในหมู่บ้านดีบรรยากาศแบบตะวันตก  ขายบ้านเดี่ยวหรูพุทธมณฑลสาย1  Build-in ทั้งหลัง บ้านเดี่ยว2หลัง เนื้อที่156 ตรว


ขายบ้านเดี่ยวหรูคาซ่าแกรนด์สาย1 บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่
ขายคาซ่าแกรนด์สาย1แปลงมุมทั้งสองหลัง หลังบ้านติดกัน รวม 7 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ จอดรถในร่มรวม 5 คัน ลงเสาเข็มเพิ่มเติม ตกแต่ง Build-in ทั้งหลัง พร้อมห้องเก็บเสียง 1 ห้อง พื้นที่ใช้สอยรวม 560 ตรม ที่ดินรวม 156 ตรว ราคาสองหลังคู่ 34.5 ล้าน


บ้านเดี่ยวสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณูปโภคระดับรีสอร์ทหรู
CASA GRAND Phetkasem Sai1 ขายบ้านเดี่ยวหรูพุทธมณฑลสาย1
สิ่งอำนวยความสะดวก ฟิตเนสคลับเฮาส์ สระว่ายนํ้า 
สิ่งอำนวยความสะดวก ฟิตเนสคลับเฮาส์ สระว่ายนํ้า
– สวนสาธารณะส่วนรวม พร้อมลู่วิ่ง
– คลับเฮาส์,
– สระว่ายน้ำ (พร้อมะสระเด็ก),
– ฟิตเนส,
– ระบบ รปภ24ชม
-ระบบCCTV,


สถานที่ใกล้เคียง
-ใกล้เดอะมอลล์บางแค
-ใกล้โลตัสบางแค
-รพ.พญาไท3
-รพ.เกษมราษฎร์ บางแค
-มหาวิทยาลัยสยาม
-รร.อนุบาลแด่นหล้า


ทำเลที่ตั้ง
คาซ่าแกรนด์เพชรเกษมสาย1 CASA GRAND Phetkasem Sai1
ทำเล บางแค, ตลิ่งชัน, ทวีวัฒนา, ภาษีเจริญ
ขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน)
ที่ตั้ง ถนนพุทธมณฑลสาย 1 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

ขายบ้านเดี่ยวสองหลังคู่ 34.5 ล้าน สนใจ คุณไป๊ป์ 0867779444

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://asungha987.com/?p=3062

คำค้น
บ้านเดี่ยวคาซ่าแกรนด์สาย1, ขายบ้านเดี่ยวหรูคาซ่าแกรนด์สาย1, ขายบ้านหรูพุทธมณฑลสาย1สาธารณูปโภคระดับรีสอร์ทหรู, ขายบ้านเดี่ยวหรูพุทธมณฑลสาย1
 
#3594


วันนี้ (8ส.ค.) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประชาชน แรงงานและผู้ประกอบการดังนั้น จึงมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการ "ล็อกดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา เพิ่มเติม ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา ครอบคลุม 9 ประเภทกิจการ คือ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และสาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร นั้น

นายสุชาติ กล่าวว่า ภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน 10 จังหวัด 9 กิจการ เป็นที่น่าพอใจ จากรายงานของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พบว่า โอนเงินแล้ว 2,434,182 ราย เป็นเงิน 6,085,0000,000 บาท ซึ่งไม่มีอะไรติดขัด มีเพียงผู้ประกันตนประมาณ 200,000 ราย ที่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการให้ผู้พร้อมเพย์กับบัตรประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ เพื่อที่จะเริ่มดำเนินการโอนเงินในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ โดยผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th/eform_news/ และในส่วนของ 3 จังหวัดเพิ่มเติม ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา จะโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคมนี้

"ผมได้รายงานภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน 10 จังหวัด ให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว และท่านพอใจในภาพรวมที่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพในครอบครัวให้ก้าวข้ามสถานการณ์โควิด-19 ไปให้ได้ ตามนโยบายของรัฐบาลโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"นายสุชาติ กล่าว 
#3595


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุนวันที่ 6 ส.ค.2564 พบว่า สถาบันในประเทศ (กองทุน) มียอดขายสุทธิ 135.90  ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 363.93ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,078.31 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ (รายย่อย) ซื้อสุทธิ 2,578.14 ล้านบาท

ทั้งนี้ ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายสะสมในช่วง 1 -ุ 6 ส.ค.  กองทุน ซื้อสุทธิ 3,899.62 ล้านบาท โบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 12.84 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 8,148.43 ล้านบาท และรายย่อย ซื้อสุทธิ 4,235.97ล้านบาท

โดยส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายสะสมในช่วง 1 ม.ค. - 20 ก.ค. กองทุน ขายสุทธิ 40,447.97 ล้านบาท โบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 9,473.75ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 101,430.69 ล้านบาท และรายย่อย ซื้อสุทธิ 132,404.92 ล้านบาท
#3597


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเร่งขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจรให้แก่สหกรณ์การเกษตร  เกษตรกรและผู้ที่สนใจทั่วไปได้นำไปปลูกเพื่อป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับกระทรวงสาธารณสุขนำไปผลิตเป็นยาสมุนไพรเป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยกรมวิชาการเกษตรสนับสนุนต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรซึ่งเป็นผลงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ของกรมวิชาการเกษตรจำนวน 2 สายพันธุ์ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์สูง


คือ สายพันธุ์พิจิตร 4-4 ซึ่งมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์มากถึง 12.20  กรัมต่อน้ำหนักแห้ง 100 กรัม  และสายพันธุ์พิษณุโลก 5-4  มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์มากถึง  8.89 กรัมต่อน้ำหนักแห้ง 100 กรัม  ให้กับสหกรณ์ที่สนใจร่วมโครงการส่งเสริมปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจรรวมทั้งเกษตรกร  ซึ่งมั่นใจว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจะเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น


นายพิเชษฐ์  วิริยะพาหะ  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้เตรียมต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรไว้ 2 สายพันธุ์ซึ่งให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงกว่าพันธุ์การค้าทั้ง 2 สายพันธุ์  คือพันธุ์พิจิตร 4-4 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 3,880 กิโลกรัมต่อไร่ และพิษณุโลก 5-4 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 4,187 กิโลกรัมต่อไร่  จำนวน 800,000 ต้น

โดยจะมอบให้จังหวัดอุทัยธานีนำไปปลูกนำร่องเป็นจังหวัดแรก จำนวน 24,000 ต้น    และเปิดให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจลงทะเบียนจองต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรได้ฟรีโดยจำกัดคนละ 5 ต้น ผ่านเว็บไซต์กรมวิชาการเกษตร   ตั้งแต่วันที่ 7 – 31 สิงหาคมนี้   และจะเริ่มแจกต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายให้ผู้ที่สั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2564 เป็นต้นไป
"นอกจากกรมวิชาการเกษตรจะแจกต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ที่สนใจแล้ว  ยังได้จัดทำคู่มือการปลูกฟ้าทะลายโจรให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัย  เพื่อเป็นแนวทางให้เกษตรกรและผู้สนใจได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมในพื้นที่ของตนเอง  โดยในคู่มือจะประกอบไปด้วย   สารสำคัญในฟ้าทะลายโจร  การปลูกและการดูแลรักษา  การจัดการศัตรูพืช  การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว  โดยสามารถดาวน์โหลดคู่มือดังกล่าวได้ผ่านทางเว็บไซต์ กรมวิชาการเกษตร
#3598


ราคาน้ำมันขยับขึ้นราว 1% ในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนฉุดให้ราคาทองคำปรับลด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ ปิดที่ 69.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เครื่องบินรบของอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีในสิ่งที่พวกเขาระบุว่าเป็นฐานยิงจรวดในเลบานอนในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ตอบโต้เหตุยิงจรวด 2 ลูกจากดินแดนเลบานอนเข้าใส่อิสราเอล ในสถานการณ์ความเป็นปรปักษ์ข้ามพรมแดนที่ลุกลามบานปลาย ท่ามกลางความตึงเครียดกับอิหร่าน

ความตึงเครียดดังกล่างก่อความกังวลเกี่ยวกับอุปทานทางพลังงาน ส่งผลให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.)

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ปิดบวก เอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากข้อมูลผู้เข้ารับสวัสดิการคนว่างงานที่ดีขึ้น ก่อนสหรัฐฯเผยแพร่รายงานการจ้างงานรายเดือนในวันศุกร์(6ส.ค.)

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 271.58 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,064.25 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 26.44 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,429.10 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 114.58 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,895.12 จุด

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 385,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานรายเดือนในวันศุกร์(6ส.ค.) ซึ่งพวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีการจ้างงานเพิ่มเติมถึง 925,000 ตำแหน่ง และอัตราคนว่างงานน่าจะลดลงสู่ระดับ 5.6%

ส่วนราคาทองคำปิดลบในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,808.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)
#3599


เมื่อเร็วๆนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เผยแพร่ ดัชนีราคาผู้บริโภคหรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.ค.2564 ซึ่งพบว่า ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า เพราะมีมาตรการ ลดภาระค่าครองชีพของรัฐบาล และการลดลงของราคาอาหารสดบางประเภทยังคงเป็นปัจจัยสไคัญที่ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัว

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าเงินเฟ้อก็คือค่าดัชนีชี้วัดว่า ค่าของเงินในกระเป๋าเรา มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าค่าเงินเฟ้อเป็นบวกมากๆ ก็แสดงว่าเงินในกระเป๋า เรามีค่าน้อยลงมาก อำนาจจับจ่ายก็น้อยไปด้วย แต่ดัชนีเงินเฟ้อยังมีประโยชน์ในด้านการชี้วัดอุณภูมิทางเศรษฐกิจโดยรวม เพราะยิ่งค่าเงินเฟ้อ สูงก็แสดงว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีมากนั่นหมายความว่ารายได้อีกฝากนึงของกระเป๋าเงินก็เข้ามาได้มากและแน่นอนก็จ่ายมากตามไปด้วย ดังนั้น การดูแลเงินเฟ้อไม่ให้สูงไป หรือต่ำไป จนเป็นเงินฝืด คือ ค่าเงินเฟ้อติดลบเกิน 6 เดือนนั้น เป็นสิ่งจำเป็น 


เดือนก.ค. ที่ผ่านมา ค่าเงินเฟ้อ ขยายตัว ที่ 0.45% นั่นหมายความว่า ราคาการใช้จ่ายของประชาชนทั่วไป เพิ่มขึ้นไม่ถึง1%  จะเรียกว่าพอรับได้ก็ใช่ เพราะที่ค่าเงินเฟ้อไม่สูงเพราะรัฐบาลช่วยบรรเท่าค่าใช้จ่ายให้ผ่านมาตรการต่างๆ แต่อีกด้านของค่าดัชนีกำลังบอกว่า คนไทยในยุคโควิด พิษร้ายทำลายทั้งสุขภาพ เศรฐษกิจและชีวิตคนไทยนี้ มีกำลังซื้อที่อ่อนแอมาก 



กระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินค่าใช้จ่ายครัวเรือนเดือนก.ค. 2564 ไว้ว่า มีรายจ่ายรายเดือนที่ 16,783 บาท  แบ่งเป็น 

-ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าซื้อยานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง  ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ 3,946 บาท 


-ค่าเช่าบ้าน ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม เครื่องใช้ในบ้าน 3,654 บาท 

-ซื้อเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ 1,548 บาท 

-อาหารบริโภคในบ้าน Delivery1,478 บาท 

-ค่าอาหารบริโภคนอกบ้าน (ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง KFC Pizza)1,140

-ค่าแพทย์ ค่ายา และบริการส่วนบุุคคล 960

-ค่าผักและผลไม้ 892

-ค่าหนังสือ ค่าสันทนาการ ค่าเล่าเรียน และการกุศลต่างๆ 757

-ซื้อข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง 677

-เครื่องปรุงอาหาร 393

-เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์376

-ค่าเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มและร้องเท้า374

-ซื้อไข่และผลิตภัณฑ์นม 354

-ค่าบุหรี่ ค่าเหล้า ค่าเบียร์234

ค่าใช้จ่ายครัวเรือนไทย เงินหมดไปกับอะไรมากที่สุด
ก่อนซื้อทำอย่างไร เมื่อ 'ฟ้าทะลายโจร' ขาดตลาด ราคาพุ่ง เจอของปลอม
ศึกล่าลายเซ็น 'เมสซี' ส่อง 6 ทีมเต็ง พร้อมเปย์ค่าเหนื่อย
จากสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่ได้แจกแจงมาเป็นค่าเฉลี่ยของแต่ละครัวเรือนแล้วจะพบว่า ส่วนของค่าเดินทางและการติดต่อสื่อสาร ในประเทศนี้กินเงินคนไทยไปไม่น้อย ข้อมูลนี้อาจต้องสะท้อนไปถึงรัฐบาลให้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างจริงจัง  ส่วนค่าใช้จ่ายสำคัญรองลงมาคือ ค่าที่อยู่อาศัย และพลังงาน พบว่า กินสัดส่วนไปไม่น้อยกว่าค่าใช้จ่ายส่วนแรก 

วิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์  เปิดมุมมองเงินเฟ้อปีนี้ว่า  แผนการจัดหาและการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความชัดเจน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง น่าจะสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำหนดไว้คือที่ 1.0 – 3.0% 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2564 จะอยู่ระหว่าง0.7 – 1.7 %(ค่ากลางอยู่ที่ 1.2%) ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง
#3600


"BLACKPINK" เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตระดับโลก กลับมายึดพื้นที่ความโด่งดังของพวกเธออีกครั้ง ปล่อยผลงานเพลงใหม่ "THE ALBUM - JP Ver." สุดปังในภาษาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก

กลับมาประกาศศักดาพร้อมยึดพื้นที่ความโด่งดังอีกครั้ง สำหรับ "BLACKPINK" 4 สาว เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตระดับโลก ล่าสุดพวกเธอปล่อย "THE ALBUM - JP Ver." สุดปังในภาษาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก


งานเพลงชุดนี้เพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ ไปในวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา อัลบั้มชุดนี้มีทั้งหมด 8 แทร็กด้วยกันประกอบด้วย 4 แทร็กในเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น และมี 4 แทร็กที่เป็นเวอร์ชั่นต้นฉบับ

นอกจากนี้พวกเธอยังรวมเอาเพลงฮิตที่ได้ ซุปตาร์สาว "Selena Gomez" มาร่วมเสิร์ฟรสชาติหอมหวานในเพลง "Ice Cream" ที่กวาดยอดวิวกว่า 600 ล้านวิว สูงเป็นประวัติกาล ไว้ในอัลบั้มนี้อีกด้วย

ไม่เพียงเท่านี้พวกเธอทั้ง 4 คน ยังออก Physical มาถึง 8 แบบให้ FC ได้สะสม เรียกว่าเอาใจชาว "BLINK" กันสุด ๆ ไปเลย

สำหรับ "BLACKPINK" (แบล็กพิงก์) เป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปแห่งยุคจากเกาหลีที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก

BLACKPINK เป็นวงในสังกัดค่าย YG Entertainment ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 4 คนคือ Jisoo (จีซู), Jennie (เจนนี), Rosé (โรเซ) และ Lisa (ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล-ไทย)

BLACKPINK เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปี 2016 ในงานโชว์เคสพร้อมกับซิงเกิ้ลอัลบั้มที่มีชื่อว่า "Square One"


หลังจากวางจำหน่ายไป ซิงเกิ้ล "Whistle" กลายเป็นเพลงแรกของวงที่ขึ้นอันดับ 1 บน Gaon Digital Chart เช่นเดียวกันกับซิงเกิ้ล "Boombayah" กลายเป็นเพลงแรกที่ติดอันดับ 1 บน Billboard World Digital Songs chart อีกทั้งวงยังได้รับรางวัล Golden Disc Awards และ Seoul Music Awards สาขาศิลปินหน้าใหม่แห่งปี หลังจากนั้น BLACKPINK ก็เดินหน้าโกยชื่อเสียงความสำเร็จ โดยมีผลงานเพลงฮิตมากมาย อาทิ Playing with Fire, Stay, As If It's Your Last, Ddu-Du Ddu-Du, Kill This Love และ Ice Cream เป็นต้น

BLACKPINK เป็นเกิร์ลกรุ๊ปจากเอเชียที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในระดับโลก เป็นศิลปินหญิงที่มียอดคน ติดตามใน YouTube มากที่สุด และมียอดผู้ติดตามสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก จัสติน บีเบอร์


รายชื่อเพลงใน "THE ALBUM - JP Ver." (Track listing)
1.How You Like That -JP Ver.
2.Ice Cream (Feat. Selena Gomez)
3.Pretty Savage -JP Ver.-
4.. You Wanna (Feat. Cardi B)
5.Lovesick Girls -JP Ver.-
6.Crazy Over You
7.Love To Hate Me
8.You Never Know -JP Ver.