• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Panitsupa

#3261


นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า วันนี้ (30 ส.ค.) ได้ลงนามสัญญากับบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อจัดซื้อ ATK แบบตรวจด้วยตนเอง จำนวน 8.5 ล้านชุด ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. ) และโรงพยาบาลราชวิถี หลังจากเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 ที่คณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ตามโครงการพิเศษของ สปสช ที่ได้เห็นชอบราคาชุดตรวจ ATK ตามที่องค์การฯ เสนอ และให้โรงพยาบาลราชวิถีดำเนินการจัดซื้อจากองค์การฯ ต่อไป

ทั้งนี้ ATK ทั้งหมด บริษัทจะนำเข้ามา และจัดส่งให้หน่วยบริการจำนวนกว่า 1,000 แห่ง ตามที่ สปสช.กำหนด ภายใน 14 วันหลังจากลงนามสัญญา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่ สปสช.กำหนดสถานที่จัดส่งที่ชัดเจน

โดยก่อนนำ ATK ไปจัดส่ง ให้หน่วยบริการต่าง ๆ นั้น จะมีคณะกรรมการตรวจรับสินค้าตาม TOR โดยตรวจประเมินจากใบตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ (COA) หรือเอกสารรับรองผลิตภัณฑ์ว่ามีคุณภาพเป็นไปตาม TOR ของผู้สั่งซื้อ จากนั้นจะทำการสุ่มตัวอย่างไปทดสอบคุณภาพที่ห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานของคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยทำการตรวจวิเคราะห์ในหัวข้อ ความไวเชิงวินิจฉัย (Diagnostic sensitivity) ความจำเพาะเชิงวินิจฉัย (Diagnostic specificity) ความไม่จำเพาะต่อเชื้อ (Non-Specificity) ตามเกณฑ์การทดสอบที่อย.กำหนด เมื่อผลการทดสอบคุณภาพผ่านก็จะกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่หน่วยบริการต่อไป ขณะเดียวกันองค์การฯจะทำการสุ่มตัวอย่าง เพื่อเก็บเป็นตัวอย่างอ้างอิงในการตรวจวิเคราะห์ หลังจากการนำไปใช้งาน (Retained Sample) ควบคู่กันไปด้วย ในกรณีมีข้อร้องเรียนจากผู้บริโภค ทางบริษัทผู้จำหน่ายจะต้องสืบหาสาเหตุ และแนวทางการป้องกัน แจ้งมายังองค์การฯ เพื่อประเมินและติดตามผลการแก้ไขป้องกันปัญหาดังกล่าวต่อไป ในกรณีที่มีปัญหาคุณภาพจนต้องมีการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ (Recall) บริษัทผู้จำหน่ายต้องเรียกเก็บผลิตภัณฑ์คืน พร้อมชดใช้และแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค และทำรายงานผลการเรียกเก็บผลิตภัณฑ์คืน ส่งให้องค์การฯ ทำการประเมินประสิทธิผลของการเรียกคืนทุกครั้ง

ด้าน นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) จำกัด และ กรรมการบริหาร บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่าย ATK ของ "ออสท์แลนด์ แคปปิตอล" และเป็นผู้ชนะการเสนอราคาในโครงการพิเศษของ สปสช. กล่าวว่า บริษัท เวิลด์ เมดิคอลฯ และ ออสท์แลนด์ฯ รู้สึกยินดีมาก ที่ได้รับโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการนำชุดตรวจ ATK ของ Lepu มาให้คนไทยได้ใช้ตรวจคัดกรองโควิดผ่านโครงการดี ๆ ของภาครัฐ วันนี้เมื่อทุกอย่างเคลียร์ชัดเจน ทั้งเรื่องของคุณภาพ ของ ATK ที่ผ่านการรับรองทั้งของ อย.ประเทศไทย และยังได้รับการรับรองคุณภาพจากหลายประเทศในยุโรปแล้ว

นอกจากนั้นเพื่อเป็นการตอกย้ำและเพิ่มความมั่นใจในเรื่องคุณภาพให้แก่คนไทย บริษัทยินดีให้องค์การฯสุ่มตัวอย่างอ้างอิงตามที่องค์การฯ กำหนด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพสินค้าที่ได้รับ ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่นอกเหนือจาก TOR ที่กำหนดไว้
ด้วยกำลังการผลิตของบริษัทผู้ผลิตซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่มากระดับรัฐวิสาหกิจของประเทศจีน จึงมั่นใจได้ว่าโรงงานจะสามารถผลิต ATK พร้อมส่งมอบทั้งหมดได้ทันกับเวลาที่กำหนดไว้แน่นอน โดย ATK ทั้งหมดจะจัดส่งทางเครื่องบินเช่าเหมาลำ คาดว่าล็อตแรกจะจัดส่งมาใน วันที่ 6 กันยายน 2564 โดยภายใน 14 วัน หลังจากลงนามสัญญาจะทยอยส่งมอบและจัดส่งครบ 8.5 ล้านชุด ถึงหน่วยบริการกว่า 1,000 แห่ง ตามที่องค์การฯและ สปสช.กำหนด จัดเก็บและกระจายโดยบริษัทขนส่งที่ชำนาญในด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยเฉพาะ มีการควบคุมความเย็น เพื่อให้ ATK ของเรามีคุณภาพเต็มที่จนถึงมือประชาชน

"บริษัทมีความมั่นใจในคุณภาพ ATK ของ Lepu ว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนสามารถพิสูจน์ได้ หากยังมีการด้อยค่าผลิตภัณฑ์แบบไม่เป็นธรรมกับบริษัททำให้มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ ทางบริษัทฯจะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการขั้นต่อไปอย่างเด็ดขาด อีกทั้งทางบริษัทยังได้แจ้งไปยังโรงงานของ Lepu ผู้ผลิตที่ประเทศจีน ถ้าหากผู้ผลิตจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรต่อผู้กล่าวหาผลิตภัณฑ์ด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง สร้างความเสื่อมเสียเรื่องชื่อเสียงต่อผลิตภัณฑ์ ทางบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ ฯ ยินดีจะช่วยเหลือและส่งเอกสารข้อมูลให้ผู้ผลิตทั้งหมด เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไป" นางศิริญากล่าวในตอนท้าย
#3262


เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่อง 'สเต็มเซลล์' แต่ส่วนใหญ่มองข้ามไป เพราะมองว่าไกลตัว อาจจะไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงคิดว่าตนเองคงเข้าไม่ถึงหรือสุดท้ายคงอาจไม่เข้าใจและไม่ได้รับข้อมูลมากเพียงพอ เนื่องจากหากเราทราบประโยชน์ก็จะเห็นความสำคัญของสิ่งนี้อย่างแท้จริง

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าร่างกายของคนเรามีสเต็มเซลล์ซ่อนอยู่ในทุกอวัยวะเริ่มตั้งแต่ชีวิตก่อกำเนิดจากเซลล์แรก เป็นเซลล์ตัวอ่อนและเจริญเติบโตเป็นอวัยวะต่างๆ เป็นร่างกายที่สมบูรณ์ในที่สุด ซึ่งระหว่างที่เราเจริญเติบโตหรือมีอายุมากขึ้นก็จะมีสเต็มเซลล์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป แต่ที่สำคัญที่สุดคือสเต็มเซลล์ทำหน้าที่ฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของอวัยวะต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นในแง่ของนักกีฬายิ่งมีประโยชน์มาก สามารถยืดระยะเวลาการใช้งานร่างกาย รวมถึงทำให้ส่วนที่บาดเจ็บนั้นหายเร็วขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นจะดีแค่ไหนถ้ามีการจัดเก็บเต็มเซลล์ไว้สำหรับใช้บำบัดรักษาโรคและฟื้นฟูสภาพความเสื่อมของร่างกายสำหรับตนเองรวมถึงคนในครอบครัว เมื่อถึงเวลาจำเป็นก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทันที นอกจากนี้เรื่องค่าใช้จ่ายที่ใครๆ กังวล ทุกวันนี้มีระบบผ่อนจ่ายที่ช่วยให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

ระบบการจัดเก็บระดับสากลของ "ไครโอวิวา"
ระบบการจัดเก็บระดับสากลของ "ไครโอวิวา"

- เก็บสเต็มเซลล์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

"สเต็มเซลล์" หรือ "เซลล์ต้นกำเนิด" เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นว่า มีบทบาทในทางบำบัดรักษาโรคให้กับผู้เป็นเจ้าของและบุคคลในครอบครัว แบ่งได้เป็น สเต็มเซลล์ ที่เก็บเกี่ยวได้จากตัวอ่อน (Embryonic stem cell) และสเต็มเซลล์ชนิดโตเต็มวัย (Adult stem cell) ได้จากมนุษย์ที่เติบโตแล้ว เซลล์จากตัวอ่อนยังเป็นสิ่งต้องห้ามในทางศีลธรรม เพราะการสกัดสเต็มเซลล์ จำเป็นต้องทำลายตัวอ่อน ในขณะที่เซลล์ชนิดโตเต็มวัยที่ได้จากตัวผู้รักษาเองไม่มีการทำลายชีวิตตัวอ่อน จึงเป็นที่ยอมรับมากกว่า เช่น สเต็มเซลล์เก็บจากเลือดในสายสะดือ เนื้อเยื่อสายสะดือและเยื่อหุ้มรก

สเต็มเซลล์ จึงถูกมองว่า มีบทบาทความสำคัญยิ่งสำหรับคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ เนื้อเยื่อสายสะดือและเยื่อหุ้มรกสามารถจัดเก็บได้ตอนแม่คลอด ไม่เจ็บปวด อีกทั้งจัดเป็นเซลล์ที่มี HLA ตรงกับทารก 100% ซึ่งมีการศึกษาแล้วว่า สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือสามารถรักษาได้มากกว่า 85 โรค ทั้งแก่ลูกน้อยและพี่น้องร่วมสายโลหิตที่มีเนื้อเยื่อตรงกัน เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคีเมีย ทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งไขกระดูก มะเร็งในเด็กบางชนิด และโรคที่ไม่ใช่มะเร็งอย่าง โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคความบกพร่องทางภูมิคุ้มกันที่เป็นมาแต่กำเนิด โรคเม็ดตา.ิซึมที่เป็นมาแต่กำเนิด เป็นต้น



นอกจากนี้สเต็มเซลล์ชนิดที่เรียกว่า "มีเซนไคมอลสเต็มเซลล์" (Mesenchymal Stem Cells) หรือ "เอ็มเอสซี" (MSC's) ที่ได้จากเนื้อเยื่อสายสะดือหรือเยื่อหุ้มรกยังมีศักยภาพสูงในการแบ่งตัวและพัฒนาไปเป็นเซลล์ประเภทต่าง ๆ ได้ เช่น เซลล์ไขมัน กระดูกอ่อน กระดูก จึงมีประโยชน์ในการนำมาใช้รักษาฟื้นฟูสภาวะเสื่อมในผู้ใหญ่ โดยมีการศึกษาพบว่า สามารถใช้ฟื้นฟูโรคได้หลายชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคข้อเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคสมองพิการ โรคออสทิสติก โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือฉีกขาด โรคไตอักเสบ โรคตับอักเสบ โรคภูมิแพ้ตัวเอง (SLE) และอีกกว่า 45 รายงานการวิจัยจาก 597 การศึกษาวิจัยทั่วโลก ที่พบว่ามีการรักษาโควิด-19 ด้วยสเต็มเซลล์อีกด้วย

จากคุณประโยชน์ของสเต็มเซลล์ ที่เป็นอีกทางเลือกในการรักษาโรค ทำให้สังคมโลกตื่นตัวเรื่องการเก็บสเต็มเซลล์ไว้สำหรับอนาคตและกลายเป็นที่มาของ "ธนาคารสเต็มเซลล์" เกิดขึ้นหลายแห่งทั่วโลก และมีครอบครัวจำนวน ไม่น้อย ยอมจ่ายค่าบริการจัดเก็บรักษา เพื่อแลกกับคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของครอบครัวในอนาคต

- ธนาคารสเต็มเซลล์คืออะไร

ในปัจจุบันมีหน่วยงานทำหน้าที่เสมือน "ธนาคาร" แต่แตกต่างกันตรงที่ไม่ได้รับฝากเงิน ทว่ารับจัดเก็บเซลล์ของมนุษย์แทน หรือที่เรียกว่า "ธนาคารสเต็มเซลล์" ซึ่งให้บริการจัดเก็บรักษาสเต็มเซลล์ไว้ ใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ สร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว หรือแม้แต่การบริจาคแก่บุคคลอื่นนำไปใช้รักษาโรคที่ทางการแพทย์ยอมรับว่าสเต็มเซลล์สามารถรักษาได้ และ "ไครโอวิวา" ก็เป็นหนึ่งในธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์และผู้นำนวัตกรรมสเต็มเซลล์สำหรับใช้ในครอบครัวในประเทศไทย มาตรฐานระดับสากลที่ได้รับความไว้วางใจ

จิรัญญา ประชาเสรี  ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัดและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จิรัญญา ประชาเสรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัดและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับในประเทศไทย มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ 'ธนาคารสเต็มเซลล์" หลายแห่งเช่นกัน ทั้งที่เป็นบริษัทของเอกชนและหน่วยงานของภาครัฐ โดยในส่วนธนาคารสเต็มเซลล์ของภาครัฐนั้น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากแพทยสภา ประกาศเป็นข้อบังคับว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2545 เกี่ยวกับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต ในราชกิจจานุเบกษากำหนด เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2545 ให้ทำหน้าที่จัดหาอาสาสมัครผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตหรือสเต็มเซลล์ ที่ไม่ใช่ญาติให้แก่ผู้ป่วย โดยจัดตั้ง "ธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตแห่งชาติ" เพื่อเป็นศูนย์กลางทะเบียน ตั้งแต่ปี 2545 โดยมีคณะกรรมการพัฒนาศักยภาพงานสเต็มเซลล์ ซึ่งเป็นผู้บริหารและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก 5 สถาบันมาร่วมงาน ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และจากหน่วยงานอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นการตั้งของโรงพยาบาลเอง อาทิ ศูนย์ความเป็นเลิศทางงานวิจัยสเต็มเซลล์ของศิริราช ที่มุ่งสร้างงานวิจัยพื้นฐานพัฒนาสเต็มเซลล์ให้เป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคที่เกิดจากความเสื่อมหรือโรคที่มีความผิดปกติของอวัยวะต่าง ๆ เป็นต้น

ส่วนธนาคารสเต็มเซลล์ของเอกชน ในประเทศไทยมีอยู่หลายแห่งเช่นกัน และในจำนวนนี้ "บริษัทไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด" คือผู้นำนวัตกรรมสเต็มเซลล์สำหรับใช้ในครอบครัวในประเทศไทย มาตรฐานระดับสากล "บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด" ถือเป็นผู้นำทางด้านธนาคารสเต็มเซลล์มีความเป็นเลิศทางวิชาการ ด้วยรางวัลการันตีความสำเร็จมากมาย ด้วยการสร้างมาตรฐานที่แตกต่าง จนได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการมายาวนาน กับความสำเร็จที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว หวังเจาะตลาดกลุ่มลูกค้า "Personal Life" ทุกเพศทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์ ที่สนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพระดับสูง

ร่วมวิจัยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19
ร่วมวิจัยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19

- ความเชื่อมั่นในการเก็บสเต็มเซลล์กับไครโอวิวา

จิรัญญา ประชาเสรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัดและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่าเหตุใดไครโอวิวาฯถึงได้รับการไว้วางใจจากทุกครอบครัวมาเป็นเวลากว่า 14 ปี "ก่อนอื่นต้องขอบคุณความไว้วางใจจากลูกค้าที่มั่นใจในการบริการของเรา และทีมงานที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งจนในปัจจุบันถ้าพูดถึงไครโอวิวาฯ ในแต่ละสาขาทั่วโลกวันนี้เรามีเก็บสเต็มเซลล์ไว้มากกว่า 1,000,000 ยูนิต และอยู่ใน TOP 10 ของโลก โดยมีการพัฒนาและขยายเครือข่ายที่แข็งแกร่งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย ตะวันออกกลาง หรือ ออสเตรเลียก็ไว้ใจให้เราเก็บสเต็มเซลล์ อย่างตอนนี้ดิฉันได้รับมอบหมายให้ไปบริหารที่สาขาสิงคโปร์ ร่วมถึงโซนเอเชียตะวันตกเฉียงใต้เพิ่มอีกด้วย

ทั้งนี้ทุกบริการของไครโอวิวาฯประเทศไทยจะวางแผน 3-5 ปี เพื่อทำการศึกษาและทดลองจนมั่นใจที่จะให้บริการนั้นแก่ลูกค้า ทำให้ล่าสุดเราได้เปิดตัวนิยามใหม่ "Your Life is Your Choice" เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่สนใจในการดูแลสุขภาพ ก่อนหน้านี้เราโฟกัสกลุ่มคุณแม่และครอบครัวเป็นหลัก แต่วันนี้ต้องการให้ทุกคน ทุกเพศมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงศึกษาวิธีการใหม่ ทำให้พบนวัตกรรมที่นำ "ไขมัน" มาเป็นประโยชน์เพื่อใช้เติมเต็มในส่วนที่เราบกพร่องได้ และยังสามารถนำไปเพาะเลี้ยงให้เป็นสเต็มเซลล์ของตนเองเพื่อใช้ในศาสตร์ชะลอวัย

จัดเก็บ สเต็มเซลล์ เมื่อถึงเวลาสามารถนำมาใช้ได้ทันที
จัดเก็บ สเต็มเซลล์ เมื่อถึงเวลาสามารถนำมาใช้ได้ทันที

- สเต็มเซลล์กับไวรัสโควิด-19

"ดร.นพ. ศุภชัย เอกวัฒนกิจ" โลหิตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์และโลหิตวิทยา ผู้อำนวยการแพทย์ พร้อมด้วย "กมลรัตน์ ศรีถวิล" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้เราได้รับเชิญไปร่วมสนทนาเพื่ออัพเดตถึงบทบาทของสเต็มเซลล์ในปัจจุบัน รวมถึงความสามารถของสเต็มเซลล์กับการรักษาฟื้นฟูร่างกายจากโรคโควิด-19 ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์การระบาดของโรคดังกล่าวในขณะนี้

ด้าน กมลรัตน์ ศรีถวิล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในการเก็บสเต็มเซลล์ หากเรากลัวเจ็บ เราก็สามารถเก็บได้ตั้งแต่แรกคลอด ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ในการวางแผนให้ โดยจะเก็บจากเลือดสายสะดือ ซึ่งเป็นเซลล์ที่มี HLA ตรงกับทารก 100% และสามารถให้พี่น้องใช้ได้ นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการเก็บเนื้อเยื่อเป็นเส้นสายสะดือรวมถึงเนื้อเยื่อหุ้มรกด้วย ซึ่งนำมาใช้ในเรื่องของการฟื้นฟูได้ดี สามารถให้คุณพ่อคุณแม่ ปูย่า ตายาย ที่เป็นญาติสายตรงใช้ได้ แต่ใน14ปีที่ผ่านมามีวิวัฒนาการก้าวหน้าขึ้น โดยผู้ใหญ่ยังสามารถเก็บสเต็มเซลล์ของตัวเองได้จากไขมัน แต่สเต็มเซลล์ที่ได้จากวัยผู้ใหญ่จะมีอายุมากกว่า เมื่อเทียบกับสเต็มเซลล์ของทารก ดังนั้น ณ เวลานี้ กล่าวได้ว่า ทุกคนสามารถใช้สเต็มเซลล์ของตัวเองเพื่อใช้ในการรักษาโรคโคหรือฟื้นฟูภาวะเสื่อม ได้ ครอบครัวในส่วน ผู้ที่เก็บสเต็มเซลล์ไว้จึงโชคดีที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ยามที่ต้องการ อย่างไรก็ดีสเต็มเซลล์ที่เก็บรักษาไว้โดยวิธีการแช่แข็งในไนโตรเจนเหลว จะไม่มีการหมดอายุ

สำหรับท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน สเต็มเซลล์ได้มีบทบาทในการช่วยเสริมการรักษาโรคติดเชื้่อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน โดย ดร.นพ. ศุภชัย กล่าวว่า สเต็มเซลล์สามารถมาช่วยต่อสู้กับโควิด-19 ได้ โดยมีงานศึกษาวิจัยล่าสุดจากทีมวิจัยในประเทศจีน ซึ่งศึกษาในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงมากและรุนแรงน้อย เปรียบเทียบระหว่างการรักษามาตรฐาน และการรักษามาตรฐาน ควบคู่กับการใช้สเต็มเซลล์ ชนิดที่เรียกว่า Mesenchymal Stem Cells (MSCs) พบว่า กลุ่มคนไข้ที่ได้รับการรักษาควบคู่สเต็มเซลล์ MSCs มีผลการรักษาดีขึ้น คนไข้สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น

"ดร.นพ. ศุภชัย เอกวัฒนกิจ" โลหิตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์และโลหิตวิทยา ผู้อำนวยการแพทย์ (ขวาจากรูป) พร้อมด้วย "กมลรัตน์ ศรีถวิล" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด
"ดร.นพ. ศุภชัย เอกวัฒนกิจ" โลหิตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์และโลหิตวิทยา ผู้อำนวยการแพทย์ (ขวาจากรูป) พร้อมด้วย "กมลรัตน์ ศรีถวิล" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด

"การรักษามี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการรักษาจำเพาะที่ใช้ยาเพื่อมุ่งเป้าไปทำลายเชื้อไวรัส ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า มียาที่จำเพาะต่อไวรัสชนิดนี้ ส่วนที่สอง เป็นการรักษาแบบสนับสนุน ซึ่งเป็นการรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ที่ทำให้คนไข้ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเวลานาน เป็นส่วนที่ทำให้ปอดทำงานไม่ได้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งกลไกตรงนี้เป็นผลจากการตอบสนองของร่างกายที่มากเกินไป และสเต็มเซลล์ MSCs มีคุณสมบัติที่จะไปลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้มากเกินไป"

กมลรัตน์ กล่าวเสริมว่า นอกจากมีการใช้ MSCs มาช่วยลดความรุนแรงของระบบภูมิคุ้มกันแล้ว ยังช่วยในเรื่องการฟื้นฟูด้วย จากที่มีการศึกษาในประเทศอื่นๆ รวมถึงในจีน ทั้งนี้มี รายงานการวิจัยกว่า 45 ชิ้นระบุว่า มี 597 การทดลองทางคลินิกทั่วโลก ที่มีการรักษาโรคโควิด-19 ด้วยวิธี Cell and Gene therapy โดยกลไกในการทำงานของ MSCs ที่ช่วยในการรักษาโรคปอดอักเสบโควิด-19 ได้เช่น สามารถฟื้นฟูเนื้อเยื่อปอด ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์เยื่อบุถุงลม ยับยั้งการเกิดพังผืดที่ปอดและรักษาความผิดปกติที่ปอด

ทุกคนสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ด้วยสเต็มเซลล์ที่จะช่วยดูแลสุขภาพและช่วยชะลอวัย มาร่วมดูแลสุขภาพและอนาคตของท่านและคนที่เรารักไปด้วยกัน สอบถามข้อมลเพิ่มเติมได้ที่ 02 203 6982 , 094 449 9445 www.facebook.com/cryoviva, www.cryoviva.com
#3263
ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์  ข้าวเกษตรอินทรีย์ส่งทั่วไทย   ข้าวแฟร์เทรด  การตรวจสอบข้าวปลอดสาร    จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวปลอดสาร   คนทำนาข้าวปลอดสาร  ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 
การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( นโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( 'ข้าวออร์แกนิค' ดีต่อสุขภาพ
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม เครือข่ายข้าวออร์แกนิคสุรินทร์
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  พันธุ์ข้าวออร์แกนิค 

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  นาข้าวอินทรีย์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique การปลูกข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#3264
กระบะท้ายสแตนเลส 304
หลายๆคนสงสัยไหมครับ ว่าจะมีกระบะสแตนเลสไปเพราะอะไรกัน ในเมื่อกระบะด้านหลังที่ติดมากับตัว
รถกระบะ รถปิกอัพ ก็ใช้งานได้ดีอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นตรงไหน แถมยังสิ้นเปลืองรวมทั้งราคาแพงกว่าท้ายกระบะเหล็กที่เป็นอะไหล่รถกระบะอยู่ด้วยซํ้า ใช่แล้วครับ กระบะด้านหลังของรถกระบะ รถปิกอัพ ที่ติดมาพร้อมกับตัวรถยนต์มันก็ดีและสามารถใช้งานได้อยู่แล้ว หากมันยังใหม่ ไม่พุ ไม่พัง หรือเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ แล้วก็ที่สำคัญเลยคือมันยังไม่ขึ้นสนิม
แล้วสนิมมีเหตุมาจากอะไร ?
สนิมเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากส่วนที่ถูกกระแทก โดนขูดขีดจนถึงเป็นรอย ทำให้สีที่เคลือบชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กถลอกหรือหลุดออกมา ทำให้ขึ้นสนิม ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของธาตุเหล็กกับออกซิเจน โดยต้นเหตุหลักคือ น้ำ ความชื้น และก็ออกซิเจนในอากาศ เมื่อเหล็กได้รับความชื้น อิเล็กตรอนที่อยู่ในเหล็กจะมีการแตกตัวทำปฏิกิริยากับออกซิเจนจนทำให้มีการเกิดสนิม หากไม่ดูแล ปรับปรุงแก้ไข ก็อาจจะก่อให้สนิมขยายไปส่วนอื่นได้ ถ้าเกิดปล่อยให้สนิมขยายก็จะก่อให้ส่วนประกอบของตัวถังเสื่อม และความสามารถในการคุ้มครองป้องกัน บริเวณชิ้นส่วนที่ขึ้นสนิมแล้วหมดสภาพ ผุ กร่อน เป็นรู หรือถ้ามีการชน ความแข็งแรงของตัวถังก็จะต่ำลงด้วย ลองดูนะครับ รถกระบะ รถปิ๊กอัพ มี ส่วนของกระบะด้านหลัง อยู่สองในสามส่วน ซึ่งส่วนกระบะด้านหลังมีโอกาสที่จะถูกชน โดนขีดข่วนจนกระทั่งเป็นรอย การถูกอุบัติเหตุ หรือผลจากการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

เทียบ ความแตกต่างระหว่าง กระบะท้ายเหล็ก กับ กระบะท้ายสแตนเลส #เกรด 304










แล้วกระบะท้ายสแตนเลสเหมาะสมกับการใช้งานประเภทใดบ้าง ?
เพราะว่า คุณลักษณะโดยรวมของกระบะท้ายสแตนเลส มีความโดดเด่น ในเรื่อง ความคงทน ต่อสภาพการณ์ต่างๆทั้งยังจากน้ำ ความชื้น การทนต่อการถูกกัดกร่อนของสารเคมี ทำให้เหมาะสมกับผู้ที่อยากใช้งานกระบะท้ายสแตนเลส สำหรับการใช้งานดังต่อไปนี้
-การบรรทุกขนส่ง ผลิตภัณฑ์ พวกสารเคมี วัสดุเคมี บรรทุกพวกน้ำยาเคมีต่างๆหรือยางพารา
-การบรรทุกขนส่ง น้ำ น้ำดื่ม น้ำแข็ง หรือสินค้าที่เกี่ยวกับน้ำ
-การบรรทุกขนส่ง ปลา อาหารทะเล อาหาร หรือ สัตว์เลี้ยง
-การบรรทุกขนส่ง สินค้าอาหาร หรือเกลือทะเล
-สถานที่ใช้งานที่มีโอกาสเกิดน้ำท่วมบ่อย
-สถานที่ใช้งานที่อยู่ใกล้กับทะเลหรือจะต้องเจอลมทะเลบ่อย
-สถานที่ใช้งานที่อยู่ใกล้แม่น้ำ ลุ่มแม่น้ำ
-สถานที่ใช้งานที่มีฝนตกชุก ความชื้นสูง
-สถานที่ใช้งานที่มีโอกาส สุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายของตัวถังรถยนต์ เช่น ใช้งานข้างในโรงงาน อุตสาหกรรม หรือสถานที่ทำการก่อสร้างตึก
-คนที่ต้องการเก็บกระบะท้ายของเดิมที่ติดกับตัวรถยนต์ตั้งแต่ตอนออกรถมา นำกลับมาจัดตั้งตอนขายต่อรถ เพื่อให้ได้ราคาดีด้วยเหตุว่ากระบะด้านหลังมีสภาพสมบูรณ์ไม่ผ่านการใช้งาน
-กระบะด้านหลังของเดิมทรุดโทรม เสียหาย เปลี่ยนเป็นกระบะท้ายสแตนเลสเพื่อการใช้งานที่ยาวนาน
-อยากใช้งานกระบะท้ายแบบเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องมีปัญหากระจุกกระจิกกวนใจคราวหลัง

ทั้งนี้นั้นการเลือกใช้กระบะท้ายสแตนเลส ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ แล้วก็ความอยากของผู้ใช้งานเป็นหลัก ว่าเหมาะสมกับการใช้งานหรือความชอบของผู้ใช้งานหรือไม่ ด้วยเหตุว่าท้ายสุดแล้วก็ใช้บรรทุกของได้เหมือนๆกัน แม้กระนั้นหากมองดูที่ความคุ้มค่า การใช้งาน อายุการใช้งาน ปัญหาในอนาคตแล้ว อย่างไรกระบะท้ายสแตนเลส สามารถตอบโจทย์เรื่องพวกนี้ได้ดีมากยิ่งกว่า ถ้าหากดูเรื่องราคา ใช่ กระบะท้ายสแตนเลส มีราคาที่สูงกว่า แต่ว่าถ้าคำนวณดู จากความคุ้มค่า การใช้งาน ความคงทน และก็ราคาขายต่อในอนาคตแล้ว อะไหล่รถ กระบะท้ายสแตนเลสก็ยังมีความคุ้มค่ากว่า ท้ายกระบะเหล็ก ทั้งนี้นั้นแล้วขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้งานเป็นหลัก
#3265


นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 30 ส.ค.2564 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรืออีคอมเมิร์ซ ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้นำเสนอ  โดยแผนดังกล่าวตั้งเป้าเพิ่มการเติบโตของการค้าอีคอมเมิร์ซ จากปี 2562 ที่มีมูลค่า 4.03 ล้านล้านบาท ให้มีมูลค่า 5.35 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.32 ล้านล้านบาท ภายในปี 2565

คณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ครอบคลุมในทุกมิติที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนอีคอมเมิร์ซของประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้การดำเนินการขับเคลื่อนและพิจารณากลั่นกรองร่วมกับ 20 หน่วยงาน 8 กระทรวง รวมทั้งภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แผนฉบับนี้สามารถผลักดันการค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในทุกระดับและทุกภาคส่วน ตั้งแต่ในระดับประเทศ ซึ่งจะช่วยพัฒนาและส่งเสริมแพลตฟอร์มของไทยให้มีความเข้มแข็ง ลดความได้เปรียบของแพลตฟอร์มจากต่างประเทศ และลดความซ้ำซ้อนในการทำงานของทุกภาคส่วน ซึ่งจะนำไปสู่การมีระบบ Big Data ของประเทศที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังเพิ่มรายได้ด้วยการขยายโอกาสและเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและตลาดต่างประเทศให้กับผู้ประกอบการรวมถึงเกษตรกรไทย และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจด้วยการลดต้นทุนและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำที่สะดวกยิ่งขึ้น การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย รวมถึงการพัฒนายกระดับโครงสร้างพื้นฐานและปัจจัยสภาพแวดล้อมด้านการค้าออนไลน์ทั้งระบบ ผู้ซื้อสินค้าจะมีความสะดวกสบายในการซื้อของออนไลน์ยิ่งขึ้น ภายใต้ระบบการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็งเพื่อสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรมออนไลน์

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย อิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 1 (พ.ศ.2564-2565) ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ 1. การพัฒนาแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ (e-Marketplace) เพื่อส่งเสริมการค้าภายในประเทศและการค้าข้ามพรมแดน (Enhancement and Promotion) 2. การพัฒนาสภาพแวดล้อมและปัจจัยสนับสนุนการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในทุกด้านให้พร้อมรองรับการเติบโตของการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Ecosystem and Enabling Factors) 3.การสร้างความเชื่อมั่นในธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Trust and Sustainability) 4. การพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถใช้ประโยชน์จากธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Competency Building) พร้อมทั้งรองรับการเติบโตของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมการก้าวเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และสอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์  ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล  กล่าวว่า แผนนี้ได้จัดทำมา  4 ปี แล้วมาสำเร็จในปีนี้และได้นำเข้าครม.เพื่อให้เห็นชอบนี้ เนื่องจากเป็นนโยบายที่สอดรับกับสถานการณ์การค้าในโลกยุคใหม่และกระทรวงพาณิชย์เป็นส่วนหนึ่งจะต้องปรับตัวขณะเดียวกันก่อนแผนนี้จะได้รับการอนุมัติจากครม.นั้น ทางกระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้รับนโยบายให้ปรับกลยุทธ์ในการทำงานโดยเฉพาะการทำการค้าออนไลน์และการเจรจาข้ามประเทศด้วยระบบออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง
#3266


ความต้องการใช้พืชสมุนไพรเพื่อใช้ในการรักษาโรคมีมากขึ้น โดยเฉพาะการที่พืชสมุนไพรบางชนิดรักษาโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องการส่งเสริมการเพาะปลูกพืชสมุนไพรในเขตพัฒนาพิเศษพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

ความต้องการใช้พืชสมุนไพรเพื่อใช้ในการรักษาโรคมีมากขึ้น โดยเฉพาะการที่พืชสมุนไพรบางชนิดรักษาโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องการส่งเสริมการเพาะปลูกพืชสมุนไพรในเขตพัฒนาพิเศษพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร (ส.ป.ก.) ได้ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อพัฒนาสมุนไพรอย่างครบวงจรในอีอีซีเมื่อเร็วๆนี้

การปลูกพืชแบบเดิมสู่พืชที่มีอนาคตสูงและเริ่มพืช 2 ชนิด ได้แก่

1.กัญชงและกัญชาซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่มีศักยภาพในการรักษา มีความต้องการของตลาด ทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เป็นหลักการของแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ อีซีซี คือ การทำการเกษตรสมัยใหม่ด้วยการปรับการทำธุรกิจให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด การวางรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสม

2.ฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสมุนไพรที่ในปัจจุบันประเทศไทยใช้เป็นยารักษาโรคโควิด-19 โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้การรับรองแล้ว ว่ามีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ในปริมาณที่พอเพียงสำหรับรักษาโรค
#3267


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังโปรตุกีส ยอมหั่นค่าจ้างปีละ 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 270 ล้านบาท) เพื่อย้ายจาก ยูเวนตุส กลับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จอร์จ เมนเดน เอเยนต์ส่วนตัว เรียกร้องค่าเหนื่อยของ โรนัลโด้ 20 ล้านปอนด์ (900 ล้านบาท) ต่อปี ตกสัปดาห์ละ 385,000 ปอนด์ (17 ล้านบาท) เพื่อให้การเจรจาแบบสายฟ้าแล่บเสร็จสิ้นก่อนปิดตลาด วันที่ 31 สิงหาคม เปรียบเทียบกับค่าแรง ที่อิตาลี สัปดาห์ละ 500,000 ปอนด์ (22.5 ล้านบาท) รวมปีละ 26 ล้านปอนด์ (1,170 ล้านบาท)

ด้วยมูลค่าดังกล่าว ยังเพียงพอผลักดันให้ เจ้าของรางวัล "บัลลง ดอร์" 5 สมัย กลายเป็นผู้เล่นค่าจ้างแพงสุดของสโมสร แทน ดาบิด เด เคอา นายทวารชาวสเปน ซึ่งรับอยู่ 375,000 ปอนด์ (ประมาณ 16.9 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

แหล่งข่าววงใน เผยว่า "เขาได้รับค่าเหนื่อยน้อยกว่า ที่ยูเวนตุส เมนเดส ติดต่อสโมสรชอง พรีเมียร์ ลีก หลายแห่ง เกี่ยวกับการย้ายทีมและเงื่อนไขของ โรนัลโด้ ชั่วขณะหนึ่งเกิดความเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี จะเป็นตัวเต็ง"

ทว่า ทันทีที่ ยูไนเต็ด รับทราบว่า ปีกจอมถล่มประตูวัย 36 ปี จะแยกทาง "เบียงโคเนรี" จริงจัง ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ (900 ล้านบาท) จึงดำเนินการซื้อ-ขายอย่างรวดเร็ว

"ปิศาจแดง" ยังคงรอเปิดตัว กัปตันทีมชาติโปรตุเกส อย่างเป็นทางการ ถึงแม้ประกาศบรรลุข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว วันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ส.ค.)

คาดว่า โรนัลโด้ จะรับการตรวจร่างกาย ที่เมืองลิสบอน และลงเล่นเกมแรก พบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด วันที่ 11 กันยายน ขณะที่นักเตะสำรองอย่าง แดเนียล เจมส์ อาจถูกปล่อยยืมตัว
#3268


"ฝน ธนสุนธร" เปิดใจล้มโครงการวิวาห์เพราะโควิด แต่กลับเจอเซอร์ไพรส์ ถูกแฟนสาวหล่อคุกเข่าขอแต่งงานกลางรายการทำน้ำตาแตก พร้อมเปิดเส้นทางรัก 20 ปี 

คบหาดูใจกันมายาวนานถึง 20 ปี สำหรับลูกทุ่งดัง "ฝน ธนสุนธร" กับแฟนสาวหล่อ "เอ อุไรมนัส" ที่พ่วงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัว ล่าสุดวันนี้ (28 ส.ค.) เจ้าตัวก็เซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ถูกเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกลางรายการวู้ดดี้ โชว์ ดำเนินรายการโดย วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ซึ้งถึงขนาดทำให้ฝนถึงขั้นน้ำตาไหล พร้อมเผยเส้นทางรักที่ถูกคนดรามาว่าไม่น่าคบกันได้ เสียดายของ และอีกฝ่ายเกาะกิน

เอ : เราได้แค่มองๆ เพราะเป็นแดนเซอร์ ได้แค่มองเฉยๆ ไม่คิดว่าวันนึงจะได้มาเคียงข้าง พอเขาเปิดโอกาสก็ได้คบกัน

ฝน : ไม่เปิดเผยเพราะหนึ่งไม่มั่นใจว่าจริงไหม ใช่ไหม เพราะตอนแรกเปิดใจคบเขา เราไม่ได้จะคบเขา (หัวเราะ) เราจะให้แค่เขามาเป็นไม้กันหมาให้เราจากคนที่เข้ามา ผู้ชายหลายๆ คนที่เข้ามาเป็นสิบกว่าคน เรารู้สึกว่าคนนี้คนนั้นก็ไม่ใช่ จะทำยังไงไม่ต้องมานั่งบอกว่าไม่นะ ก็เลยมาๆ มาคบกัน อยู่ใกล้ๆ แล้วผู้ชายก็หายกระเจิงไปจริงๆ เราก็สบายใจ แต่เขายังอยู่

เอ : ถามว่ารู้ไหมว่าเป็นไม้กันหมา เพิ่งรู้นี่แหละค่ะ (หัวเราะ)

ฝน : เราบอกเขาตรงๆ เราไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายกับเรา พอเขาดูแลเรามาเรื่อยๆ ชีวิตคนเราต้องการอะไร ความรักเราต้องการแบบไหน เขาทำให้เราได้ทุกอย่าง แล้วเราต้องการสิ่งไหนอีกล่ะ เราต้องการใครเข้ามาอีกเหรอ ในเมื่อเขาดูแลเราได้ เขาก็ทำมาหากินได้ ไม่ต้องหาแฟนรวยๆ ถ้าแฟนรวยแล้วมีเล็กมีน้อย เราก็ปวดใจอีก แต่เขาไม่เคยทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ ก็ถามตัวเองว่าแล้วจะยังอยากได้อะไรอีก

ดรามาตอนเปิดตัว กับคำพูดที่ทำให้เสียใจ
เอ : คนชอบบอกว่าเสียดายของ ที่เขามาคบกับเรา เราสบายคบเกาะเขากินไม่ต้องทำงาน แต่จริงๆ ยิ่งกว่า เขาไม่ต้องจ้างคนขับรถ แม่บ้าน แม้แต่คนเปิดซาวน์ก็ไม่ต้อง แดนเซอร์ก็ไม่ต้องจ้าง

ฝน : คุ้มแสนคุ้ม (หัวเราะ)

เอ : เขาคิดว่าเพศอย่างเราทำให้พ่อแม่เสียใจ พ่อแม่รับได้เหรอ แต่สมัยนี้พ่อแม่ก็รับได้แล้ว

รับแพลนแต่งวันที่ 29 มี.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบ แต่ต้องล่มงานวิวาห์ เพราะโควิด
ฝน : ช่วงโควิดรายได้ลดลงหมด ค่าใช้จ่าย 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ค่าบ้าน ค่ารถ ส่งตลอด ภาษีจ่อตลอด แต่รายรับไม่มี เราก็ต้องดิ้นรน หาหนทาง อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด ต้องล้มเลิกการแต่งเพื่อเอาเงินมาจุนเจือให้อยู่ได้ ทุกคนเจอวิกฤตเหมือนกัน เราต้องเป็นตัวอย่างว่าเราอยู่ให้ได้ ยืนด้วยลำแข้ง เซฟประหยัดให้มากที่สุด คนเป็นดาราก็คนเหมือนกัน ชีวิตไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น เงิน 20 ล้าน ถ้าไม่ได้โดนโกงก็คงจะมี

การแต่งงานไม่ใช่บทสรุป เรารู้สึกว่าไม่ได้สำคัญมากมาย แต่สำคัญสำหรับเขา เราก็มองว่าอะไรที่ทำให้เขามีความสุขได้ เขาชอบถามตลอดว่ารักเขาไหม เราก็ไม่เคยพูด เพราะคำพูดไม่ได้คอนเฟิร์มอะไร เขาก็อยากได้ยิน เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยพูดเลย บางทีเขามานั่งร้องไห้ว่าเขาคือตัวอะไรในชีวิตพี่ฝน เราก็เลยโอเค ถ้าวันนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน เรื่องอะไร เราก็อยากจัดให้เขามีความสุข

เอ : ถามว่าอยากแต่งอยู่ไหม ยังอยากแต่งอยู่ค่ะ (เอาแหวนออกมาคุกเข่าขอแต่งงาน) อยากอยู่ดูแล เคียงข้างเสมอ รักยังไงก็รักอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่งงานกันนะ

ฝน : แต่งคะ (ใส่แหวนน้ำตาไหล) ตกใจ ไม่คิดว่าจะกล้ากลางรายการ เป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิง ก็ชื่นใจ อยากให้พ่อกับแม่ได้เห็นด้วยแต่พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว ก็ขอบคุณนะ
#3269


นางสาวรัดดาวรรณ สุวรรณขัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอริส แล็บ จำกัด เปิดเผยว่า  ตามที่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และตัวเลขผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น สร้างความลำบากในการทำมาหากินหนึ่งในนั้น มีร้านค้าที่ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ และส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนธุรกิจต้องมีการปรับตัวเข้าสู่การขายสินค้าผ่านออนไลน์ ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคยุค  new normal โดยเฉพาะการขายสินค้าในรูปแบบของ Live-Commerce ส่งผลให้มีร้านค้ามาใช้ Live Commerce Platform ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างรายได้กันจำนวนมาก 

บริษัท เอริส แล็บ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์การถ่ายทอดสด หรือ Live Streaming e-Commerce รายเดียวในประเทศไทย ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการไลฟ์สดขายของผ่านเฟซบุ๊กโดย "ไม่ถูกปิดกั้นการมองเห็น" ซึ่งเป็นบริษัทเดียวในไทย ที่จัดทำ Facebook Acceletor เพื่อช่วยเหลือ กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ผ่านการขายสิ้นค้าได้ทุกประเภทบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยอาศัยแอพพลิเคชัน "Aris live" เป็นตัวเชื่อมเปิดการมองเห็นให้กับ เพจร้าน หรือ Facebook ส่วนตัว สามารถแอดไลน์ @arislab เข้าไปแจ้งชื่อ-นามสกุล สินค้า หรือ แจ้งชื่อร้านค้า กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับสิทธิ์ใช้บริการฟรีนาน 1 เดือน



นางสาวรัดดาวรรณ กล่าวด้วยว่า บริษัท เอริส แล็บ ได้พัฒนาโซลูชั่นขายสินค้าออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม Live Commerce ที่นอกจากจะเชื่อมโยง E-commerce และ Streaming Platform เข้าไว้ด้วยกันแล้ว ยังมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยบริหารจัดการระบบหลังบ้านได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนสามารถปิดการขายด้วยระบบ Chatbot ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหา ให้กับผู้ค้าออนไลน์ได้อย่างตรงจุด ส่งผลให้ที่ผ่านมา ArisLab กลายเป็น Live Commerce Platform รายเดียวของไทย ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถสื่อสารกันได้แบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางโซเชี่ยล คอมเมิร์ซ อย่าง Facebook และยังสามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 30%

ดังนั้นการเปิด แอพพลิเคชัน Aris Live ให้ประชาชนทุกคนได้เข้าใช้บริการฟรีนาน 1 เดือน จะช่วยให้ทุกคนสามารถมีรายได้เพิ่มเติมและผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง.
#3270


วันที่ 25 สิงหาคม 2564 กระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานด้านพลังงานชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ร่วมเป็นเจ้าภาพการจัดงาน  "Future Energy Asia 2021" (FEA 2021) นิทรรศการและการประชุมด้านพลังงาน ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้แนวคิด "ASEAN Region's Energy Transition post COVID and towards net zero" โดยมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดและร่วมบรรยายพิเศษ

แผนพลังงานลดมลพิษ
นายกุลิศ บรรยายพิเศษในหัวข้อ "ประเทศไทย 4.0 กับการฟื้นตัวกิจการพลังงานและนวัตกรรมในยุคโควิด" (Thailand 4.0 & Energy Resilience and Innovation Amidst the COVID Era) ตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีทิศทางนโยบายพลังงานหรือ National Energy Plan (NEP 2022) ซึ่งได้รับอนุมัติโดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน


NEP 2022 นี้จะมุ่งเน้นขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่พลังงานสีเขียวและพลังงานสะอาด มีแผนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ในปี 2065-2070 โดยผลักดันให้ภาคพลังงานลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการลงทุนในพลังงานสะอาด เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของโรงไฟฟ้าใหม่ ไม่ต่ำกว่า 50% พร้อมๆ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้รองรับการกระจายศูนย์ของระบบ microgrid ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันจะแก้ไขข้อจำกัดกฎการซื้อขายไฟฟ้าและข้อกำหนดที่เป็นอุปสรรค

"เราจะเปลี่ยนผ่านการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในภาคขนส่งให้ใช้พลังงานไฟฟ้า ในปี 2030 จะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเป็นสัดส่วน 30% ซึ่งนโยบายนี้ไม่เพียงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแต่ยังช่วยลดปัญหา pm2.5 อย่างไรก็ตาม ต้องมีการจัดการให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างราบรื่น มีนโยบายที่ก่อให้เกิดการสมดุลระหว่างการใช้รถยนต์เชื้อเพลิงและรถยนต์ไฟฟ้าความพยายามการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ ในช่วง 2065-2070 จะสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี การสนับสนุนด้านการเงิน และความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผมเชื่อว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด"

กฟผ. ดันโปรเจคพลังงานสะอาด

ด้านนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ "การผลักดันการบูรณาการพลังงานหมุนเวียนในสัดส่วนการใช้พลังงาน" (Accelerating the Integration of Renewables into the Energy Mix) ระบุว่า ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญการบรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ พลังงานหมุนเวียนมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น โดย กฟผ. พร้อมผลักดันให้การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเป็นไปอย่างคล่องตัว ส่งเสริมการเติบโตของพลังงานสีเขียว ซึ่งได้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าไฮบริดซึ่งผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ลอยน้ำร่วมกับพลังน้ำที่เขื่อนสิรินธร ขนาด 45 เมกะวัตต์ (MW) ถือเป็นโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำแบบไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยนำระบบบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System) มาใช้ควบคุมและบริหารจัดการ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้แก่พลังงานหมุนเวียน โดยมีแผนดำเนินการใน 9 เขื่อนของ กฟผ. ทั่วประเทศ รวม 2,725 MW ภายในปี 2580 รวมถึงโครงการ Wind Hydrogen Hybrid ซึ่งเป็นระบบกับเก็บพลังงานด้วยเซลล์เชื้อเพลิงร่วมกับพลังงานลมในรูปแบบก๊าซไฮโดรเจน โดยไฟฟ้าที่ได้จะถูกนำไปใช้ที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง จ. นครราชสีมา



ระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อความมั่นคง
นายบุญญนิตย์  กล่าวเพิ่มเติมว่า การเผชิญกับความท้าทายในยุคเปลี่ยนผ่านนี้จำเป็นต้องพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศให้มีความมั่นคง ยืดหยุ่น และมีราคาที่เหมาะสม ดังนั้น กฟผ. จึงพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศให้มีความทันสมัย (Grid Modernization) รองรับพลังงานหมุนเวียน โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ เช่น สถานีส่งไฟฟ้าดิจิทัล การจัดตั้งศูนย์พยากรณ์พลังงานหมุนเวียน (RE Forecast Center) รวมถึงพัฒนาการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าในภูมิภาค เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันไทยมีการขายไฟฟ้าในรูปแบบทวิภาคีและพหุพาคี กับ สปป. ลาว และมาเลเซีย กฟผ. มุ่งหวังที่จะสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าแห่งอนาคตเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย ดังแนวคิด "EGAT for All"


สำหรับการจัดงาน  "Future Energy Asia 2021" (FEA 2021) เป็นงานนิทรรศการและการประชุมสุดที่มุ่งเน้นจุดสนใจไปที่แผนการเปลี่ยนถ่ายพลังงานของภูมิภาคในยุคหลังโควิด และการสร้างกรอบการพัฒนา หรือ Road map เพื่อมุ่งไปสู่ยุคของการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net zero  ซึ่งผู้กำหนดนโยบายระดับกระทรวง ผู้นำด้านพลังงานของโลก ผู้พัฒนาโครงการ และผู้ลงทุน จะมาร่วมปรึกษาหารือและวางแนวทางของแผนยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนาการใช้พลังงานแบบผสมผสานของภูมิภาคไปสู่เส้นทางของพลังงานที่สะอาดและยั่งยืนต่อไป 
#3271

ไบรสัน เดอชอมโบ นักกอล์ฟมือ 6 ของโลกชาวอเมริกัน รีดเร้นฟอร์มสุดยอดตีสกอร์รวมสะสมถึง 16 อันเดอร์พาร์ ก่อนทะยานขึ้นไปนั่งเก้าอี้ผู้นำศึก บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิพ เมื่อจบรอบสอง วันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 311 ล้านบาท) ณ สนาม เคฟส์ วัลเลย์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,226 หลา พาร์ 71 แมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา เข้าสู่การดวลสวิงวันที่สอง ซึ่งมีบางคนแข่งไม่จบเพราะฟ้ามืดก่อน

ปรากฏว่า ไบรสัน เดอชอมโบ ก้านเหล็กหนุ่มเจ้าบ้าน แสดงฝีมือตี 12 อันเดอร์ จากผลงาน 8 เบอร์ดีกับ 2 อีเกิล ไม่มีความผิดพลาดเลย จบวันสกอร์รวมเป็น 16 อันเดอร์พาร์ พุ่งจากอันดับ 18 ขึ้นมาเป็นผู้นำเหนือกว่าอันดับ 2 อย่าง แพทริค แคนท์เลย์ เพื่อนร่วมชาติและ จอน ราห์ม ผู้นำรอบก่อน 1 สโตรก

ด้านมือดังคนอื่นๆ เซร์คิโอ การ์เซีย จอมเก๋าจากสเปน เก็บเพิ่มอีก 5 อันเดอร์ รวมสกอร์เป็น 12 อันเดอร์พาร์ คงที่ในอันดับ 4 ตามด้วย รอรีย์ แม็คอิลรอย ผู้นำรอบที่แล้วอีกรายจากไอร์แลนด์เหนือ ตีเพิ่มได้แค่ 2 อันเดอร์ สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ หล่นมาอยู่อันดับ 8 ร่วม

ส่วน 'ดีเจ' ดัสติน จอห์นสัน มือ 2 โลกชื่อดังอีกรายของอเมริกา รอบนี้ทำได้เพียง 2 อันเดอร์ สกอร์รวมมี 7 อันเดอร์พาร์ หล่นมาอยู่อันดับ 17 ร่วม
#3272


บริษัท โตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ โค (TEPCO) ผู้บริหารโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะของญี่ปุ่น แถลงแผนขุดอุโมงค์ใต้ทะเลเพื่อระบายน้ำปนเปื้อนรังสีกว่า 1 ล้านตันที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ลงสู่มหาสมุทร

โครงการก่อสร้างอุโมงค์ใต้ทะเลความยาว 1 กิโลเมตรได้รับการเปิดเผยเมื่อวันพุธ (25 ส.ค.) หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจเมื่อเดือน เม.ย. ว่าจำเป็นจะต้องทยอยปล่อยน้ำที่กักเก็บไว้ลงสู่ทะเล โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี

คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนยันว่า แผนการปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะมีความปลอดภัย เพราะจะต้องผ่านกระบวนการกรองเพื่อกำจัดสารกัมมันตรังสีอันตรายออกเกือบหมด จากนั้นจึงนำไปเจือจางอีก ก่อนจะปล่อยออกสู่ทะเล

อย่างไรก็ตาม ประกาศจากรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อเดือน เม.ย. ยังคงสร้างความวิตกกังวลต่อประเทศเพื่อนบ้าน และจุดกระแสคัดค้านอย่างรุนแรงจากชุมชนชาวประมงในท้องถิ่น

เทปโก ระบุว่า งานก่อสร้างอุโมงค์จะเริ่มในราวๆ เดือน มี.ค. ปี 2022 หลังจากที่บริษัททำการศึกษาความเป็นไปได้ และได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

อุโมงค์ดังกล่าวจะมีความกว้างประมาณ 2.5 เมตร ทอดยาวไปทางตะวันออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิก และเชื่อมต่อกับแทงก์ที่โรงไฟฟ้าใช้เก็บกักน้ำซึ่งผ่านการบำบัดแล้ว

ปัจจุบันมีน้ำปนเปื้อนรังสีกว่า 1.27 ล้านตันถูกเก็บอยู่ในแทงก์ที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ซึ่งมีทั้งน้ำที่ใช้หล่อเย็นแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ซึ่งเกิดการหลอมละลายหลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2011 รวมไปถึงน้ำฝนและน้ำใต้ดินที่ไหลซึมเข้ามาทุกๆ วัน

โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีระบบปั๊มและกรองน้ำที่เรียกกันว่า Advanced Liquid Processing System (ALPS) ซึ่งสามารถบำบัดน้ำเสียได้วันละหลายตัน และกรองเอาสารกัมมันตรังสีส่วนใหญ่ออกไป

กระนั้นก็ตาม ชุมชนชาวประมงในท้องถิ่นยังเกรงว่าการปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้าจะทำลายความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของอาหารทะเลจากจังหวัดฟุกุชิมะ ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะกอบกู้คืนมาได้

อะกิระ โอโนะ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการปิดโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ยืนยันเมื่อวันพุธ (25) ว่า การปล่อยน้ำผ่านอุโมงค์จะช่วยป้องกันไม่ให้มวลน้ำไหลกลับเข้าสู่ชายฝั่ง

ทั้งนี้ เทปโก ระบุว่ายินดีที่จะจ่ายค่าชดเชยการเสื่อมเสียชื่อเสียงที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการปล่อยน้ำลงสู่ทะเล และพร้อมให้เจ้าหน้าที่จากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เข้าตรวจสอบความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมา IAEA ก็ออกมาประกาศรับรองการตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่นแล้ว

นายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ แห่งญี่ปุ่น ระบุว่า การปล่อยน้ำออกจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะเป็น "ภารกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้" ในกระบวนการปิดโรงไฟฟ้าซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลายาวนานหลายสิบปี

ที่มา: เอเอฟพี
#3273
ข้าวฮอร์  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคคือ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%   ข้าวออแกนิคสำหรับทารกส่งทั่วไทย
ขายข้าวหอมมะลิอินทรีย์   ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์  ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ข้าวหอมสุรินทร์ ข้าวหอมอินทรีย์ คัดพิเศษ 100%
"ข้าวฮอร์ ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์"   ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค เป็นผลิตผลจากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ด้วยการปลูกข้าวแบบปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน ณ ดินแดนสุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของประเทศไทย ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งดินและน้ำ เหมาะแก่การปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพสูง ประกอบกับกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมพันธุ์ข้าว การหว่าน การดูแลแปลงนา และการเก็บเกี่ยว โดยครอบครัวชาวนาที่มีประสบการณ์และร่ำรวยความสุขจากการทำนาอินทรีย์แบบปลอดสารพิษ เพื่อให้เมล็ดข้าว ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ที่ได้นั้น มีความหอม นุ่ม อร่อย ดีต่อสุขภาพและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบครัน การมีสุขภาพดี คือ ความสุขที่อยู่ใกล้ตัวเรา นอกจากตนเองแล้ว เราควรแบ่งปันความสุขให้กับคนที่เรารักด้วยข้าวหอมมะลิ   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ ขัดสีไม่ขาวเพื่อคงคุณค่าและใยอาหาร มีกลิ่นหอม นุ่ม ตามเอกลักษณ์ของ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%




  ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ได้รับมาตราฐานเกษตรอินทรีย์ -มีวิตามินและสารอาหารจากข้าวสูง -สะอาด..บริสุทธิ์..จากธรรมชาติ ทุกขั้นตอน"ข้าวอินทรีย์ (  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์)" ที่ผ่านกระบวนการเพาะปลูก และบำรุงรักษาทุกขั้นตอน ด้วยวิถีของเกษตรอินทรีย์ -ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนการผลิต"เมล็ดพันธุ์" คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ แต่ละชนิด ด้วยความรัก ใส่ใจ ในรายละเอียดทุกเมล็ด -ด้วยกระบวนการปักดำ..อย่างพิถีพิถันจากธรรมชาติ"พื้นที่เพาะปลูก" ในจังหวัดสุรินทร์ - ทำการเพาะปลูก และควบคุมเองทุกขั้นตอน"แหล่งน้ำ"  ข้าวหอมมะลิออแกนิคอาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติที่ตกตามฤดูกาล"ปุ๋ยที่ใช้" ไถกลบตอซังหลังเก็บเกี่ยวทุกครั้ง และปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน, -  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ,ปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน"การกำจัดศัตรูพืช" ควบคุมด้วยระบบนิเวศน์หรือใส่สารสกัดจากพืชสมุนไพรแทนการฉีดสารฆ่าแมลง

  กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ 
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์
Facebook : www.facebook.com/Rice.For.Anti.Constipation/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @ Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.ข้าวหอมสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง
6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิก

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวหอมมะลิ #ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ #ข้าวหอมมะลิปลอดสาร #ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิก #ข้าวหอมสุรินทร์ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค
 

 
 
#3274


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 53.39 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 35,352.11 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 10.14 จุดหรือ 0.23% ปิดที่ 4,486.05 จุด และดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 22.96 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 15,018.90 จุด

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ในการประชุมดังกล่าว

การประชุมปีนี้จะเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นปีที่ 2 เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ในการประชุมแจ็กสัน โฮลปีนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น "แนวโน้มเศรษฐกิจ" โดยเขามีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย

นักลงทุนคาดหวังว่า นายพาวเวลจะเปิดเผยโร้ดแมพที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีหลังจากที่เฟดได้ส่งสัญญาณในรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ว่า กรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีในปีนี้ จากปัจจุบันที่เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการคิวอีอย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน


อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า นายพาวเวลจะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เฟดพร้อมที่จะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมประจำปีของเฟดในครั้งนี้

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

"เราคาดว่านายพาวเวลรับรู้เป็นอย่างดีทั้งในเรื่องการจ้างงานที่แข็งแกร่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และความเสี่ยงช่วงขาลงที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เรายังคงคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณเตือนในเดือนก.ย. และจากนั้นในเดือนพ.ย.จึงจะประกาศการปรับลดวงเงินคิวอี" นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าว

ทางด้านนายทิม ดอย หัวหน้านักวิเคราะห์จากเอสจีเอช แมคโคร แอดไวเซอร์ส คาดการณ์เช่นกันว่า เฟดอาจจะประกาศปรับลดวงเงินคิวอี ในเดือนพ.ย. โดยกล่าวว่า "ข้อมูลที่ได้รับเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า โพลสำรวจส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าเดือนพ.ย.จะเป็นเดือนที่เฟดประกาศลดวงเงินคิวอีเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาอาจจะทำให้เฟดยังไม่ตัดสินใจประกาศเรื่องดังกล่าวในเดือนก.ย.

รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องที่จะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีในปีนี้ แต่ในรายงานไม่ได้ระบุกำหนดเวลาที่ชัดเจน

นอกจากนี้ ผู้สันทัดกรณีให้ความเห็นว่า เนื่องจากขณะนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะต่ออายุการดำรงตำแหน่งประธานเฟดของนายพาวเวลออกไปอีก 1 ปีหรือไม่ จึงทำให้คาดว่านายพาวเวลจะไม่นำตำแหน่งของเขามาเสี่ยงกับเรื่องนี้ เนื่องจากหากเขาประกาศปรับลดวงเงินคิวอีอย่างไม่ระมัดระวัง ก็อาจทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเกิดความตื่นตระหนก และทรุดตัวลงอย่างหนักได้ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2556 ในสมัยของนายเบน เบอร์นันเก้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อตัวนายพาวเวลเอง

ที่ผ่านมา การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เข้าร่วมการประชุม ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

นายพาวเวลได้กล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อปีที่แล้ว โดยได้ประกาศการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งใหญ่ในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่งเฟดจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.6% ในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 6.5% หลังจากที่ขยายตัว 6.3% ในไตรมาส 1

อย่างไรก็ดี ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.7%

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 353,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 349,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 350,000 ราย

ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 2.86 ล้านราย
#3275


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 นับตังแต่ปีที่แล้ว เศรษฐกิจประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นเดียวกับประเทศอื่นทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานทางการเงินการคลังล่าสุด บริษัท Moody's Investors Service ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) จากปัจจัยสำคัญ คือ ไทยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่และหลากหลาย ภาครัฐมีฐานการเงินที่เข็มแข็ง ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) มีความแข็งแกร่ง หนี้ระยะสั้นอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 8 สัดส่วนหนี้ภาครัฐบาลสกุลเงินต่างประเทศอยู่ในระดับต่ำมาก คือ น้อยกว่าร้อยละ 2 ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพ

ขณะเดียวกัน ตัวเลขมูลค่าการส่งออกและการลงทุนในประเทศ เป็นอีกสองตัวชี้วัดถึงโอกาสฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า การส่งออกในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค.ปี64 มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 16.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเกินดุลการค้าอยู่ 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ


 สำหรับการลงทุนในประเทศ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รายงานภาวะการลงทุนครึ่งปีแรกของปี 64 ว่า มีโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน 801 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 3.86 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 158% ประเทศที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนที่มีมูลค่าลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และจีน และเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้มาลงทุนในประเทศมากขึ้นอีก BOI ได้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน ประกอบด้วย

1) การทำวิจัยและพัฒนา (R&D) ยกเว้นภาษีฯ 300% 2) สนับสนุนกองทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากร สถาบันการศึกษา ศูนย์ฝึกอบรมเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยกเว้นภาษีฯ 100%

ADVERTISEMENT


3) ฝึกอบรมหรือฝึกการทำงาน เพื่อพัฒนาทักษะเทคโนโลยี และนวัตกรรมให้กับนักศึกษาฝึกงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยกเว้นภาษีฯ 200% 4) ค่าธรรมเนียมการใช้สิทธิเทคโนโลยีที่พัฒนาในประเทศ ยกเว้นภาษีฯ 200%

5) การฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ยกเว้นภาษีฯ 200% 6) พัฒนาผู้ผลิตวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนในประเทศ ยกเว้นภาษีฯ 200% 7) การออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ยกเว้นภาษีฯ 200% โดยจะได้รับระยะเวลายกเว้นภาษีสูงสุด 3 ปี

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ และยังได้รับการประเมินทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ หลังจากผ่านช่วงโควิด19 นี้ไป มูดี้ส์ ยังคาดว่าการลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะช่วยเพิ่มการลงทุน การจ้างงานของภาคเอกชนและอุปสงค์ภายในประเทศอีกมาก และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างแน่นอน ควบคู่กันไป

โดยรัฐบาลได้เดินหน้านโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มSME และเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ที่สำคัญ หวังว่าทุกฝ่ายจะร่วมกันแสดงความเห็นต่างทางการเมืองอยู่บนวิถีประชาธิปไตยในกรอบกฎหมาย เพื่อไม่ให้กระทบโอกาศเติบโตทางเศรษฐกิจ และบรรยากาศที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนของประเทศ
#3276
ราคา 3.9 ล้านครับ
ติดต่อ อ๊อฟ 097.965.4635

ขายบ้านเดี่ยว หลังมุม หมู่บ้านบางกอกการ์เด้นท์ ถ.กาญจนาภิเษก บางกรวย นนทบุรี


บ้านเลขที่ 9/89 ซ.วัดส้มเกลี้ยง ซ.ย่อย6 ถ.กาญจนาภิเษก ตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130

ที่ดิน 60 ตารางวา

พื้นที่บ้าน 145 ตร.ม. 

บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 นอน 3 น้ำ 1 ครัวสวยๆ

จอดรถ 2 คัน 

แถมเฟอร์นิเจอร์ให้ทั้งหมด

แอร์ 3 หลัง TV 65" และ 45" ชุดเครื่องครัวครบชุด ตู้เย็น side by side เครื่องซักผ้าฝาหน้า และอีกมากมายในบ้าน 
สามารถเข้าอยู่ได้เลย

ราคา 3.9 ล้านครับ
ติอต่อ อ๊อฟ 0979654635

--------------------------------------------------------------

The price is 3.9 million.
Contact of 097.965.4635

House for sale, behind the corner of Bangkok Garden Village. Kanchanaphisek Road, Bang Kruai, Nonthaburi

House No. 9/89 Soi Wat Som Kliang, Soi 6 Sub-district, Kanchanaphisek Road, Sala Klang Subdistrict, Bang Kruai District, Nonthaburi Province 11130

Land 60 square wa

House area 145 sq m.

2 storey detached house, 3 bedrooms, 3 bathrooms, 1 beautiful kitchen

Parking for 2 cars

Get all the furniture

3 air conditioners, TV 65" and 45", full kitchen set, side by side refrigerator, front loading washing machine. and many more in the house
can go in

The price is 3.9 million.
Contact of 0979654635

https://www.prakard.com/viewtopic.php?f=54&t=7846610


















#3277


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และนายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นสักขีพยานพิธีประกาศความตกลง ซื้อขายผลไม้ล่วงหน้า (MOP) ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ผลไม้ไทยถือเป็นสินค้าเป้าหมายสำคัญในการส่งออกเพื่อทำรายได้ให้กับประเทศ 7 เดือนแรกปีนี้ยอดการส่งออกผลไม้สดและผลไม้แปรรูปมีมูลค่าสูงถึง 131,166 ล้านบาทขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48.31 และเป้าหมายในปีนี้ทั้งปีตั้งเป้าหมายว่าจะส่งออกผลไม้เพื่อทำรายได้เข้าประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 180,000 ล้านบาท ขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 โดยงานสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกผลไม้เพื่อทำรายได้เข้าประเทศประกอบด้วย 4 งานใหญ่1.กิจกรรมจัดคู่เจรจาทางการค้าออนไลน์ OBM หรือ Online Business Matching 2.กิจกรรมการส่งเสริมการขายการบริโภคผลไม้ในห้างสรรพสินค้าและตลาดสำคัญในต่างประเทศ 3.กิจกรรมการจัด Thai Fruits Golden Months หรือเดือนทองของการบริโภคผลไม้ไทยในประเทศต่างๆ 4.กิจกรรมขายผลไม้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆโดยเฉพาะแพลตฟอร์มสำคัญในระดับโลกเช่น bigbasket.com ของอินเดีย Tmall ของจีน เป็นต้น

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าต่อว่า ตัวอย่างของความสำเร็จ เช่น การจัด Thai Fruits Golden Months ในประเทศจีนซึ่งช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาได้จัดไปแล้วใน 8 เมือง ประกอบด้วย หนานหนิง ไห่หนาน ฉงชิ่ง ชิงต่าว เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู ต้าเหลียน และฝอซาน สามารถทำได้ถึง 15,466 ล้านบาท และยังมีแผนงานที่เหลืออีก 5 เมืองคือ เซี่ยเหมิน หนานชาง คุนหมิง อู่ฮั่น และหนานหนิง ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท รวมแล้วเฉพาะการจัด Thai Fruits Golden Monthsในจีน 13 เมืองทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท



สำหรับ 1 ใน 4 งานหรือกิจกรรมคือ OBM จับคู่เจรจาทางการค้าซื้อขายผลไม้ เราดำเนินการ 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งการส่งเสริมการจับคู่ซื้อขายผลไม้ของภาคตะวันออกของประเทศไทยมีการจัดกิจกรรมจับคู่ไปแล้วเมื่อวันที่ 24-25 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ส่งออกไทยทั้งสิ้น 39 บริษัทผู้นำเข้าจากต่างประเทศ 179 บริษัทจาก 37 ประเทศ สามารถเจรจาซื้อขายได้ถือ 392 คู่ 2,276 ล้านบาท ประเทศนำเข้าสำคัญที่จับคู่นำเข้าผลไม้กับไทยประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฮังการี อินเดีย รัสเซียและสหรัฐอเมริกา เป็นต้นโดยผลไม้ Top 5 ที่ได้เจรจาจนประสบความสำเร็จประกอบด้วย ทุเรียน มะม่วง มะพร้าว สับปะรดและมังคุด

ช่วงต่อมา จับคู่เจรจาซื้อขายผลไม้ในภาคใต้กับภาคเหนือ วันที่ 22-23 กรกฎาคมมีผู้ส่งออกไทย 65 บริษัทผู้นำเข้า 72 บริษัทจาก 20 ประเทศสามารถเจรจาประสบความสำเร็จ 257 คู่ มูลค่า 1,865 ล้านบาท
ผู้นำเข้าประกอบด้วยจีน เมียนมา อินเดีย ฮ่องกงและกัมพูชา ผลไม้สำคัญประกอบด้วยมะพร้าว สับปะรด มะม่วง ลำไย



ในการเจรจาจับคู่ซื้อขายผลไม้ 2 ครั้งทั้งภาคตะวันออก ภาคใต้และภาคเหนือสามารถทำยอดได้ถึง 4,141 ล้านบาท และกิจกรรมในวันนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งจากการเจรจาทั้ง 2 ครั้งโดยมีการประกาศการจับคู่ที่กำหนดการส่งมอบที่เป็นรูปธรรมแล้วจำนวน 21 คู่ เป็นเงินซื้อขายจริงที่จะชำระ 2,394 ล้านบาทคือความตกลงซื้อขายผลไม้ส่งออก หรือ Memorandum of Purchasing : MOP เป็นผู้ส่งออกของไทย 21 บริษัทผู้นำเข้า 21 บริษัทจาก 16 ประเทศประกอบด้วยอินเดีย ลาว เมียนมา สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สเปน เกาหลี ไต้หวัน อินโดนีเซีย อาร์เจนตินา กัมพูชา ยูเออีและมาเลเซีย ผลไม้สำคัญประกอบด้วย ทุเรียน มะม่วง ลำไย มังคุดและมะพร้าว เป็นต้น

"และขอมอบนโยบายพาณิชย์จังหวัด และ ทูตพาณิชย์ ที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์วันนี้ช่วยเจรจาจับคู่เพื่อระบายผลไม้ที่ยังเหลืออยู่ในขณะนี้โดยเฉพาะลำไยภาคเหนือและลองกองที่กำลังจะออกตามมา จับคู่กันระหว่างเซลล์แมนจังหวัด และขอให้ทีมเซลล์แมนประเทศประจำสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมให้เร่งหาตลาดระบายพลไม้เพิ่มเติม และให้วางแผนล่วงหน้าเชิงรุก ให้ทีมเซลล์แมนจังหวัดกับทีมเซลล์แมนประเทศประสานงานกัน ทางไทยให้เตรียมการผลิตผลไม้คุณภาพและทีมเซลล์แมนในต่างประเทศให้นำออกไปขายให้ทั่วถึง คือนอกจากจังหวัดต่อจังหวัดแล้วยังให้เป็นภารกิจจังหวัดกับโลกต่อไปด้วย" นายจุรินทร์ กล่าว
#3278


เป็นที่รู้จักกันดีว่า "กิมจิ" นั้นเป็นเครื่องเคียงที่สำคัญของอาหารเกาหลี หรือจะนับว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเกาหลีเลยก็ว่าได้

ล่าสุดนี้ "กิมจิ" ได้กลายมาเป็นประเด็นขัดแย้งทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและเกาหลีใต้อีกครั้ง โดยสำนักข่าว CNN ได้รายงานข้อมูลว่า การต่อสู้กันด้านอาหารครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ ออกประกาศแก้ไขอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศที่เหมาะสมสำหรับอาหารเกาหลีบางประเภท

ซึ่งในประกาศนี้มีข้อกำหนดว่าจะใช้คำว่า "Xinqi" เป็นชื่อภาษาจีนอย่างเป็นทางการสำหรับกิมจิ โดยยกเลิก "Pao Cai" (ผักดองเค็ม) ซึ่งเป็นชื่อเรียกเก่าในภาษาจีนของกิมจิ

ปัญหานี้มาจากการที่ไม่มีตัวอักษรจีนที่ใช้ในการออกเสียงคำว่ากิมจิ จึงได้มีการพิจารณาตัวอักษรจีนประมาณ 4,000 ตัว ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกคำว่า Xinqi ที่อ้างว่าออกเสียงคล้ายกับคำว่ากิมจิ ซึ่ง Xinqi ประกอบด้วยอักษรจีน 2 ตัว คือ Xin หมายถึงเผ็ด และ Qi หมายถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรืออยากรู้อยากเห็น



สำหรับชื่อเรียกใหม่นี้ รัฐบาลเกาหลีใต้หวังให้เป็นการแบ่งกันอย่างชัดเจนระหว่างกิมจิของเกาหลี และผักดองของจีน (ที่ในภาษาจีนเรียกว่า pao cai) โดยประกาศฉบับนี้จะใช้สำหรับคำเรียกกิมจิในภาษาจีนของหน่วยงานของรัฐ ส่วนองค์กรเอกชนจะเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น (ไม่ได้บังคับใช้) ซึ่งประกาศฉบับนี้ได้จุดกระแสการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดทั้งในกลุ่มสื่อและชาวเน็ตทั้งสองประเทศ

แล้ว "กิมจิ" กับ "pao cai" มีความแตกต่างกันอย่างไร

"กิมจิ" เป็นคำเรียกรวมของผักหมักดองกว่า 100 ชนิดของเกาหลี โดยทั่วไปจะหมายถึงผักกาดขาวหมักกับเครื่องปรุง เช่น พริก กระเทียม ขิง และอาหารทะเลรสเค็ม ส่วนผักที่หมักจากส่วนผสมอื่นๆ เช่น กิมจิหัวไชเท้า หรือ กิมจิผักกาดขาวแบบไม่เผ็ด ก็ล้วนแต่เรียกว่าเป็นกิมจิเช่นกัน

ส่วน "pao cai" ในภาษาจีนหมายถึงผักแช่ เนื่องจากผักดองนั้นมักจะทำโดยการแช่ผักต่างๆ ตั้งแต่กะหล่ำปลีไปจนถึงแครอท ลงในน้ำเกลือ อาจจะมีหรือไม่มีเครื่องปรุงรสอื่นก็ได้ จากนั้นนำผักมาหมักในอุณหภูมิห้อง

ซึ่งกรรมวิธีที่มีความคล้ายคลึงกันนั้น ในประเทศจีนจึงมักเรียกกิมจิว่า "Hanguo Pao Cai" ซึ่งแปลว่าผักหมักของเกาหลี



เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกในการพยายามตั้งชื่อกิมจิในภาษาจีน เมื่อปี 2013 เคยมีการตั้งชื่อกิมจิขึ้นมาใหม่เพื่อตอบสนองการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์กิมจิที่ผลิตในจีนและตลาดต่างประเทศ รวมไปถึงตลาดภายในประเทศเกาหลีใต้เองด้วย

ตั้งแต่ปี 2006 เกาหลีใต้ประสบปัญหาขาดดุลการค้ากิมจิกับจีน โดยตั้งแต่ปี 2007-2011 มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์กิมจิจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบเท่า แต่หลังจากมีการประกาศชื่อใหม่ของกิมจิในภาษาจีนเมื่อปี 2013 ก็เกิดปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว ชื่อของ Xinqi ไม่เป็นที่นิยมในประเทศจีน จนมีการเรียกชื่อในแบบเดิมว่า pao cai หลังจากนั้นไม่นาน

แต่ในปีเดียวกันนั้น เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จในการได้รับการประกาศให้ "กิมจัง" ซึ่งเป็นประเพณีการทำและแบ่งปันกิมจิ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก จนทำให้กิมจิกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่น่าภาคภูมิใจของเกาหลี

ดราม่าชื่อเรียกกิมจินี้เกิดขึ้นอีกครั้ง จากความขัดแย้งทางวัฒนธรรมหลายครั้งในปีที่แล้ว เดือนพฤศจิกายน 2020 มีบทความในสื่อของจีนว่า Sichuan pao cai เป็นมาตรฐานสำหรับสากล และ pao cai นั้นมีมานานแล้วในจีน บทความดังกล่าวชาวเน็ตและสื่อของเกาหลีใต้แสดงความเห็นว่าเป็นความพยายามขโมยวัฒนธรรมเกาหลี ซึ่งจุดกระแสต่อต้านจีนอย่างรุนแรง และยังมีการแชร์ภาพคนที่ดูเหมือนเปลือยกายแช่อยู่ในสระกะหล่ำปลีที่มีของเหลวสีน้ำตาล โดยใช้ชื่อภาพว่าเป็นโรงงานกิมจิที่น่ารังเกียจของจีน นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่หนังสือเกี่ยวกับกิมจิ และเน้นว่ากิมจิกับ pao cai มีความแตกต่างกันอย่างไร



สถานการณ์ความขัดแย้งด้านวัฒนธรรมนี้ก้าวออกมาจากวงการอาหารสู่การท่องเที่ยว แผนการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวไชน่าทาวน์ ในจังหวัดคังวอนของเกาหลีใต้ ถูกยกเลิกไปจากคำเรียกร้องของชาวเน็ตจำนวนมาก และยังมีการยกเลิกการออกอากาศซีรีส์เกาหลี Joseon Exorcist หลังจากผ่านไปเพียงสองตอน โดยมีการประท้วงต่อต้านฉากที่พระเอกสวมชุดสไตล์จีน ดื่มสุรา และกินอาหารจีน

แม้แต่สมาชิกของ BTS วงเคป็อบชื่อดังระดับโลก ที่ปรากฎตัวในรายการ มีการแปลซับไตเติ้ลคำว่ากิมจิเป็น "pao cai" ซึ่งชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ โดยอ้างว่าเป็นการแปลที่ช่วยส่งเสริมภาษาจีนคำนี้ และภายหลังต้องมีการเปลี่ยนแปลงคำแปลมาเป็น Xinqi

สำหรับการประกาศเปลี่ยนคำภาษาจีนของกิมจิในครั้งนี้ มีความแตกต่างจากครั้งก่อนๆ อยู่บ้าง เช่น บางบริษัทได้เปลี่ยนคำแปลเป็น Xinqi แล้ว เช่น เครื่องมือแปลภาษาของ Naver (เสิร์ชเอนจิ้นของเกาหลีใต้) ส่วนอาหารเกาหลีใต้แบรนด์ Bibigo ก็เปลี่ยนคำแปลแล้วเช่นกัน



ส่วนใน Weibo โซเชียลมีเดียของจีน มีการแสดงความคิดเห็นหลายทาง บางคนปฏิเสธที่จะใช้คำนี้ เนื่องจากคิดว่ากิมจิก็ได้อิทธิพลจากผักดองของจีน บางคนเข้าใจความแตกต่างระหว่างกิมจิของเกาหลี กับผักดองของจีนอยู่แล้ว

ทั้งนี้ การใช้คำว่า Xinqi แทนกิมจิในประเทศจีน อาจจะไม่ได้รับการยอมรับอย่างถูกต้อง เนื่องจากกฎหมายของจีนระบุให้บริษัทต่างๆ ต้องใช้ชื่อที่ผู้บริโภคชาวจีนคุ้นเคย นั่นหมายถึงธุรกิจต่างๆ อาจจะต้องใช้คำว่า Xinqi ควบคู่ไปกับ pao cai

และจากบทความในสื่อเกาหลีใต้ ยังมีการให้ความเห็นว่า เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลเกาหลีที่คิดคำศัพท์คำว่า Xinqi ที่จะบดบังความหมายของคำว่า กิมจิ ซึ่งเป็นชื่อที่น่าภาคภูมิใจและเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก
#3279


บอร์ดรฟท.เคาะเพิ่มงบก่อสร้างรถไฟสายสีแดง ค่า VO และภาษีกว่า 4,500 ล้านบาท หลังร่อนหนังสือถามอัยการ ไจก้ามั่นใจสั่งเพิ่มงานปฎิบัติไปตามสัญญา เตรียมชงคมนาคมและครม.เห็นชอบ และ ไฟเขียวให้รฟฟท.นำเงินล่วงหน้าไปเคลียร์ภาษีย้อนหลัง ปี54-55

นายจิรุฒม์ วิศาลจิตร ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม บอร์ด รฟท.เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2564 ได้พิจารณาอนุมัติ ทบทวนปรับกรอบวงเงินลงทุน กรณีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากงานปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม (Variation order - VO) พร้อมทั้งอนุมัติจัดหาแหล่งเงินรองรับสำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ทั้งนี้ บอร์ดได้มีข้อสังเกตุในบางเรื่อง โดยให้รฟท.ทำรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมทั้งยืนยันความถูกต้องให้ครบถ้วนก่อน เสนอไปที่กระทรวงคมนาคม และเพื่อนำเสนอคณะรัฐมตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป

"เรื่องนี้บอร์ดไม่ได้อยู่หน้างาน ดังนั้นบางเรื่องต้องมีการยืนยันจากผู้บริหารโครงการ ว่าเรื่องการสั่งงาน VO ได้ดำเนินการตามกฎระเบียบและข้อกฎหมายครบถ้วนแล้วอย่างไรบาง "นายจิรุฒม์กล่าว 

รายงานข่าวจากรฟท.เปิดเผยถึงว่า โครงการก่อสร้างรถไฟสายสีแดง มีค่างาน VO จำนวน 10,345 ล้านบาท เป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 3,000 ล้านบาท  และเป็นงานก่อสร้างเพิ่มเติมจากที่ออกแบบ ประมาณ 6,220 ล้านบาท โดยในการพิจารณาตัวเลขล่าสุด ได้ปรับในส่วนของสัญญา 3 งานระบบไฟฟ้าเครื่องกลและขบวนรถ และค่าที่ปรึกษา ออกเนื่องจากสามารถดำเนินการอยู่ในวงเงินของสัญญา ทำให้มีค่างานเพิ่ม VO และค่าภาษี ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ของผู้รับเหมาที่เกิดจากการขยายสัญญา 1 สัญญา 2 วงเงินกว่า 800 ล้านบาท 

ส่วนประเด็น อำนาจสั่งการและอนุมัติในการเพิ่มงานของวิศวกรผู้มีอำนาจ หรือ The Enginee นั้น จากที่รฟท.ได้มีหนังสือสอบถาม อัยการสูงสุด ในแง่ของสัญญา ซึ่งอัยการตอบว่า ให้รฟท.ปฎิบัติตามสัญญา และความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง ซึ่งรฟท.ได้สอบถามไปยังบริษัท ผู้รับจ้างทั้ง 3 สัญญา ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันถึงความจำเป็นในการทำงานตตามสัญญา 

นอกจากนี้ ยังได้สอบถามองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือไจก้า ในฐานะผู้ให้เงินกู้แล้ว และยังได้จ้างที่ปรึกษากฎหมาย คือ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด เป็น third party วิเคราะห์สัญญา เพื่อให้ความมั่นใจในความถูกต้องอีกด้วย

@ เห็นชอบให้รฟทท.นำเงินล่วงหน้าไปเคลียร์ภาษีย้อนหลัง

นายจิรุฒม์ กล่าวว่า นอกจากนี้ บอร์ดรฟท.ยังได้อนุมัติแก้ไขสัญญาจ้างบริหารการเดินรถไฟฟ้า ระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง(แอร์พอร์ตเรลลิงก์) เลขที่ บฟ.007/2563 ลงวันที่ 15 ต.ค.2563 โดยงดการหักเงินค่าจ้างประจำงวด จากบริษัท รถไฟฟ้าร.ฟ.ท.จำกัด (รฟฟท.) ทั้งนี้ เพื่อให้ รฟฟท.นำไปชำระค่าภาษี 

รายงานข่าวแจ้งว่า รฟฟท. ของดการจ่ายเงินล่วงหน้ารายเดือน 25% งวดเดือนมิ.ย.-ก.ย. 2564 เป็นเวลา 4 เดือน เพื่อนำไปชำระค่าภาษี ซึ่งเงินล่วงหน้านี้ เป็นเงินที่รฟท.จะหักจากค่าจ้างรายเดือน ที่จ่ายให้รฟทท.ในการบริหารเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก กรมสรรพากร ได้มีหนังสือถึง กรรมการผู้จัดการ รฟฟท. เมื่อเดือนมิ.ย. 2564 เรื่องไม่อนุมัติให้ทุเลาการเสียภาษีอากร ตามที่ รฟฟท.ได้มีคำร้องไปยังกรมสรรพากร ขอทุเลาการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับเดือนตุลาคม 2554 ถึงเดือนมิถุนายน 2555 รวมเป็นเงินจำนวน24,337,780 บาท ไว้ก่อนจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ซึ่งรฟทท.ไม่ได้จัดให้มีหลักประกันการชำระภาษีอากรดังกล่าว ซึ่งกรมสรรพากรพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีเหตุอันควรผ่อนผัน ทำให้รฟฟท.จำเป็นต้องจัดหาเงินไปชำระภาษีดังกล่าว

@ ทำข้อตกลงกับบริษัทลูกทรัพย์สิน ในการทำสัญญาเช่าช่วงที่ดิน

นอกจากนี้บอร์ดรฟท.ยังเห็นชอบ ข้อตกลงหลักหรือMaster Agreemen ระหว่างรฟท. และบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ รฟท. โดยเป็นข้อตกลง คล้ายกับสัญญาระหว่างกัน แต่เนื่องจากรัฐวิสาหกิจด้วยกัน จึงต้องทำเป็นข้อตกลงระหว่างบริษัทแม่กับ บริษัทลูก โดยจะเป็นข้อตกลงหลักในการให้บริษัทลูกฯ เข้ามาบริหารทรัพย์สินของ รฟท. ขอบเขต หน้าที่ในการดำเนินการ ในที่ดิน ทรัพย์สินของรฟท. กรณีมีการเช่าช่วง การจ้างบุคคลที่ 3 อะไรที่บริษัทลูกทำได้ อะไรที่ต้องเสนอ รฟท. พิจารณา ซึ่งหลักในการจัดซื้อจัดจ้าง จะต้องเป็นไปตามระเบียบ และพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ
#3280


นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทได้บรรลุความสำเร็จในการร่วมทุนกับ บริษัท พีทีที โกล. แอลเอ็นจี จำกัด (PTTGL) บริษัทย่อยของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ซึ่งร่วมทุนระหว่าง ปตท. และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิต ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ในสัดส่วนร้อยละ 50:50

โดย PTTGL ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์แอลเอ็นจี เจวี จำกัด จำนวน 250,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในราคาจองซื้อหุ้นละ 100 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 25,000,000 บาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 50 โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจร่วมกันเพื่อจัดหาและจำหน่าย LNG รวมทั้งแสวงหาโอกาสในธุรกิจอื่น ๆ ใน LNG value chain ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพ ความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงต่อยอดการประกอบธุรกิจของ BGRIM



นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าPTTGLได้ดำเนินการธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทบี.กริม เพาเวอร์ แอลเอ็นจี เจวี ( BGP LNG JV )แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23สิงหาคม 2564 ส่งผลให้ PTTGLและ BGRIMจะมีสัดส่วนการถือหุ้นที่เท่ากันจํานวนร้อยละ 50ในBGP LNG JV

ทั้งนี้บริษัท BGP LNG JVมีวัตถุประสงค์ในการดําเนินธุรกิจจัดหาและจัดจําหน่าย LNGรวมทั้งแสวงหาโอกาสในธุรกิจอื่นๆใน LNG value chainทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งเป็นการดําเนินการตามแผนกลยุทธ์ของปตท.ในการมุ่งสู่พลังงานอนาคต (Future Energy)และเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจกับคู่ค้าที่มีศักยภาพ